“ที่นายพูดหมายความว่ายังไงนายมีข่าวสารภายในอะไรมาอีกแล้วใช่หรือเปล่า?” หลินหว่านหรูอดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก แน่นอนว่าระยะนี้เธอได้ยินข่าววงในจากเย่เทียนหยู่มามากมาย ไม่รู้ว่าเขาไปได้มาจากไหนถึงได้แม่นขนาดนี้“แน่นอนครับ!”“อันที่จริง ครั้งนี้ที่ผมพบว่าหลี่ว์ซิงเหอกับซูเหวินฮุยเป็นคนทำเรื่องชั่วลับหลังเร็วขนาดนี้ อีกทั้งยังพบตัวพยานได้อย่างว่องไว คงต้องขอบคุณความช่วยเลหือจากคนคนหนึ่งจริงๆ”“ใครเหรอ?”“ซูเหวินฮวา!”“ซูเหวินฮวาคือใคร?”“รอเดี๋ยวนะ นายหมายถึงนายน้อยคนรองตระกูลซูคนที่ชอบเที่ยวดื่มเมามั่วราคะไม่เอางานเอาการคนนั้นน่ะเหรอ?” หลินหว่านหรูตกตะลึงไปเล็กน้อย“อ่า ชื่อเสียงซูเหวินฮวาแย่ขนาดนั้นเลยเหรอ?”“นายคิดว่ายังไงล่ะ”หลินหว่านหรูมองบนใส่เย่เทียนหยู่ก่อนจะเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย “นายรู้จักซูเหวินฮวาแล้วเขาก็ยังยอมช่วยนายจริงๆ เหรอ?”“อืม!”“เขาค้นพบเรื่องนี้ตอนที่ตรวจสอบซูเหวินฮุย เขาก็เลยมาบอกผมน่ะ”“ที่แท้ก็เป็นแบบนี้เองสินะ ฉันรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงช่วยคุณ ก็เพื่อทำให้ซูเหวินฮุยตกที่นั่งลำบากสินะ แต่ว่าเขากล้าหาญมาก เขาไม่กลัวว่าซูเหวินฮุยจะลงโทษเขาถ้าเขารู้เหรอ?”“เข
“อยู่ในห้องประชุมกันหมดแล้วค่ะ”หลิวเหวินตอบทันทีที่ได้ยินเธอเคารพเย่เทียนหยู่มากกว่าหลินหว่านหรูเสียอีกในตอนนี้ เพราะเธอสนิทกับหลินหว่านหรูมาก แต่สำหรับเย่เทียนหยู่ วันนี้เธอถูกวิธีดำเนินเรื่องของเขาทำเอาตะลึงพึงเพิด“โอเค!”เย่เทียนหยู่หยิบโทรศัพท์ออกมาก่อนจะโทรออก แล้วพูดเสียงเรียบว่า “พวกคุณพาตัวเข้ามาได้ อย่าลืมที่ผมบอกไว้”สำหรับสถานการณ์นี้ เขาเดาได้อยู่ก่อนแล้ว จึงได้เตรียมการมาก่อนเล็กน้อยเมื่อเห็นเย่เทียนหยู่วางสาย หลินหว่านหรูก็ถามขึ้น “นายโทรหาใคร จะให้พาใครเข้ามาเหรอ?”“เพื่อนคนหนึ่งน่ะครับ พาคนที่เมื่อกี้ปลุกปั่นทำร้ายคุณพวกนั้นเข้ามา”“อะไรนะ!”“ทำไมนายถึงแตะต้องพวกเขา!”หลินหว่านหรูเริ่มวิตกกังวลทันทีและพูดว่า “เรื่องนี้จบลงแล้ว ดังนั้นไม่จำเป็นต้องสนใจพวกเขา”“ไม่ พวกเขาทำให้คุณโกรธและพวกเขาต้องชดใช้”“เรื่องนั้น ไม่จำเป็นต้องทำแบบนี้ ฉันรู้สึกดีขึ้นมากแล้วล่ะ เรื่องพวกนั้นมันผ่านไปแล้ว ถ้านายจับพวกเขามา อีกพักพวกเขาออกไปแล้วไม่รู้จะโวยวายใหญ่โตขนาดไหน”หลินหว่านหรูกังวลมาก ในที่สุดเรื่องราวต่าง ๆ ก็สงบลง แต่ตาหมอนี่กำลังจะก่อปัญหาใหม่“ไม่ คุณปล่อยวางไ
เย่เทียนหยู่ที่ได้ฟังแบบนั้นไม่ได้รู้สึกโกรธเคือง หรือกระทั่งหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ อย่าพูดจาแข็งกระด้างแบบนั้นสิ ก็แค่เงินไม่ใช่เหรอ เรื่องง่าย ๆ น่ะ”“ต้องอย่างนั้นสิ!”“ถ้าพวกคุณพูดแบบนี้แต่แรก เราจะทะเลาะกันมานานขนาดนี้ไปทำไม ถ้ายังเถียงกันต่อไป อีกพักเอาไปโพสต์บนโซเชียล เกรงว่าคำด่าที่พวกคุณเพิ่งพิสูจน์ความจริงกันไปคงเปล่าประโยชน์”ใบหน้าของชายคนนั้นเผยความยินดี และเอ่ยวาจาข่มขู่อย่างไม่สะทกสะท้านนักข่าวคนที่เป็นเพื่อนเขานี่พึ่งพาได้จริง ๆ แค่กุศโลบายเดียวก็จัดการอีกฝ่ายได้เย่เทียนหยู่ยังคงไร้ซึ่งความไม่พอใจ เขายิ้มเล็กน้อยพร้อมพูดว่า “ใช่แล้วล่ะ ที่พี่ชายคนนี้พูดมันก็ถูก ผมน่ะเห็นด้วยสุด ๆ”แต่ในตอนนี้เอง มือถือของเขาก็ดังขึ้น เพราะคนที่เขาพามาได้มาถึงหน้าห้องประชุมแล้วเขาสั่งให้นำตัวเข้ามาทันที ในขณะเดียวกันก็ปิดกั้นไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าใกล้หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็พูดพร้อมรอยยิ้มว่า “พวกคุณรอก่อนนะ ผมมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย อีกพักผมจะมาจัดการเงินชดเชยของพวกคุณ”ทันทีที่เขาพูดจบ ชายหลายคนในชุดเสื้อเชิ้ตและกางเกงขายาวสีดำก็ปรากฏตัวที่ประตู และพวกเขายังพาคนเข้ามายั
ในขณะที่ถาม เขายังคงเล่นกับกริชเปื้อนเลือดในมือของเขาไปด้วยคำที่เขาพูดทำเอาชายตรงหน้าและคนอื่น ๆ ต่างก็ตกตะลึง ร่างกายของพวกเขาสั่นเล็กน้อย หลังจากอ้าปากพงาบๆ กลับไม่มีคำพูดหลุดออกมาเลยสักคำเมื่อเห็นว่าหลายคนเงียบกริบ เย่เทียนหยูก็ขมวดคิ้วในเวลานี้ บรรยากาศทั่วทั้งห้องดูเหมือนจะเย็นลงเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าพวกเขารู้สึกถึงความเย็นยะเยือกที่แผ่ออกมาจากร่างกายของเย่เทียนหยูอย่างชัดเจนพวกเขาทนไม่ไหวอีกต่อไป ขาของพวกเขาอ่อนแรงต่างก็คุกเข่าลงแต่แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ยิ้มอีกครั้งและพูดอย่างเร่งรีบ: “ไอ้หยา พวกคุณทำอะไรกันอยู่ ผมอยากจะชดเชยให้พวกคุณนะ พวกคุณจะคุกเข่ากันทำไม”“ต...ต้องคุกเข่า!”“เรา เราจะฟังที่คุณพูดทุกอย่างครับ” ผู้คนต่างพากันพูด“อย่าสิครับ พวกคุณต่างหากที่เป็นผู้เสียหาย เป็นเราเองที่ควรชดเชยคุณ เพียงแต่ว่า ไม่รู้ตกลงพวกคุณอยากได้เงินเท่าไร” เย่เทียนหยู่พูดอย่างจริงจัง“ไม่ต้องหรอก ไม่ต้องจ่ายเราสักบาทเลย ถึงยังไงหน้าเราก็รักษาหายแล้ว ไม่ต้องให้เราจ่ายค่ารักษาพยาบาลก็ดีมากแล้วล่ะ”“ไม่ได้นะครับ ถึงยังไงเราก็ทำให้คุณได้รับบาดเจ็บ เอาแบบนี้ดีไหม ถึงคนในครอบครัวของพวก
หลิวเหวินตกตะลึง นี่มันคือการดำเนินการแบบไหนกันทั้งที่เมื่อครู่เธอพยายามบอกเป็นนัยให้คนพวกนี้ตกใจกลัว แต่คนพวกนี้เป็นมืออาชีพมาก พูดอะไรไปก็ไม่ฟัง ไม่รู้เลยว่าหัวหน้าทีมเย่ใช้มาตราการอะไรเพื่อทำให้แน่ใจ หลิวเหวินจึงได้ตั้งใจสอบถามพวกเขาว่าพวกเขายินยอมด้วยตนเองหรือไม่ หรือได้รับการข่มขู่อะไรมาบ้างหรือเปล่าแล้วพวกเขาจะกล้าพูดได้ยังไงกันว่าพวกเขาถูกข่มขู่ แต่ละคนต่างบอกว่าพวกเขาไม่ได้ถูกข่มขู่ เพียงแต่จู่ ๆ พวกเขาก็คิดได้ และรู้สึกว่าตนจะทำแบบนี้ไม่ได้นั่นเป็นการแบล็กเมล์ และจะต้องติดคุกหลิวเหวินยิ้มแห้ง ดูเหมือนว่าหัวหน้าทีมเย่จะมีวิธีแก้ปัญหาจริงๆ สินะหลินหว่านหรูเดินตรงไปที่ห้องประชุม และในไม่ช้าก็เห็นคราบเลือดที่ทุกคนกำลังทำความสะอาดอยู่ ใบหน้าของเธอเปลี่ยนไปทันที และเธอก็รีบถาม “เย่เทียนหยู่ นี่นายทำอะไรลงไป!”เธอกลัวมาก เธอชอบที่เย่เทียนหยู่ช่วยเธอ และมีความสุขมากที่เขามีความสามารถ แต่แน่นอนว่า เธอไม่ต้องการให้เย่เทียนหยู่ก่อเหตุฆาตกรรมและทำร้ายผู้อื่น เพราะนั่นอาจจะทำให้เขาต้องไปนอนคุกเย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ และพูดว่า “ไม่ต้องกังวลหรอกครับ ดูสิ นี่แค่ถุงเลือดน่ะ เอา
ไม่ว่าจะมีปัญหากับผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางหรือเจ้าหน้าที่บริการลูกค้าที่รับผิดชอบในการตอบรับล้วนเป็นปัญหาภายในการจะถอดเธอออกเพื่อให้เธอได้ทำในสิ่งที่ตัวเองถนัดเธอจะต้องไม่มีข้อกังขาแน่ หรืออาจจะยินดีมากด้วยซ้ำถ้าหากว่าได้ผลประโยชน์อะไรเพิ่มอีกสักหน่อยและเธอก็เตรียมจะย้ายหลิวเหวินเข้าไปแทน เพราะหากผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เย่เทียนหยู่กล่าวถึงปรากฏขึ้น อุตสาหกรรมเครื่องสำอางของบริษัทคงได้ถึงคราวเติบโตอย่างแท้จริงภายในห้องมีการรวมตัวผู้บริหารจากทุกฝ่ายอีกครั้ง พวกเขาต้องการบุคคลที่น่าเชื่อถือและมีความสามารถมารับผิดชอบทันทีที่หลิวเหวินถูกย้าย ฝ่ายขายจะมีตำแหน่งผู้อำนวยการว่างเพื่อเป็นผู้นำฝ่ายขาย ซึ่งจะทำให้เย่เทียนหยู่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งไปยังตำแหน่งผู้อำนวยการถ้าเป็นเมื่อก่อน เกรงว่าการทำแบบนี้คงเป็นเรื่องยากแต่มาวันนี้ ไม่มีการจำกัดอำนาจจากหลี่ว์ซิงเหออีกแล้ว รวมกับผลงานที่โดดเด่นของเย่เทียนหยู่ในวันนี้แล้วเธอก็ถือโอกาสให้เขาได้เลื่อนตำแหน่งแม้อาจจะมีอุปสรรคเล็กน้อย มันก็จะไม่ส่งผลกระทบที่สำคัญที่สุดคือในช่วงไม่กี่วันมานี้ เธอขอให้หลิวเหวินคอยติดตามพิเศษ เพราะหลิวสุ่ยบริหารจัดก
“ได้ เยี่ยมมาก!” หลังจากได้รับการตอบกลับ เย่เทียนหยู่ก็อารมณ์ดีเป็นพิเศษ“แต่คุณยังไม่ได้บอกผมเลยนะ ว่าบริษัทเติบโตมหาศาลหมายความว่ายังไง”“ฮึ เรื่องนั้นน่ะเหรอ คำนวณตามมูลค่าตลาดของบริษัทก็แล้วกัน อย่างน้อย ควรจะเพิ่มขึ้นสองเท่า”“และ จะต้องภายในหนึ่งปีนี้เท่านั้น!”หลินหว่านหรูพูดอย่างเย็นชา ถ้านายกล้าคิดเรื่องไร้สาระพวกนั้น แถมยังกล้าพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องพวกนั้นอีก ถ้าอย่างนั้นฉันจะสั่งงานที่ไม่มีวันทำสำเร็จให้นายก็แล้วกันในความเห็นของเธอ แม้เย่เทียนหยู่จะสามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวใหม่ออกมาได้ แต่หากผลิตภัณฑ์นั้นไม่ใช่สินค้าตัวท็อปของตลาด ก็เป็นไปไม่ได้เลยที่มูลค่าตลาดของบริษัทจะเพิ่มเป็นสองเท่าไม่ต้องพูดถึงหนึ่งปีเลย จะกี่ปีก็เป็นไปไม่ได้มูลค่าตลาดปัจจุบันของบริษัทอยู่ที่หนึ่งหมื่นล้าน กว่าจะถึงสองหมื่นล้านคงต้องใช้เวลาอีกหลายปี นอกเสียจากจะปรับเป็นบริษัทแบบมหาชนเดิมทีเธอคิดว่าเย่เทียนหยู่จะลำบากใจ และขอลดข้อเรียกร้องของลงจากนั้นก็ยอมจำนน ยอมถ่อมตนเสียหน่อยแต่คิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น เขาก็พูดทันที: “ได้ ไม่มีปัญหา!”“ไม่มีปัญหา?”หลินหว่านหรู
“แกไอ้บ้า พูดเรื่องอะไรไร้สาระ!”“ฉันไม่ได้ร้องนะ”คำพูดเหล่านี้ทำให้เธอละอายใจจริงๆ“ตอนนั้นคุณหมดสติ คุณจะรู้ได้ยังไงล่ะครับ”“นายยังจะพูดอีก!”หลินหว่านหรูดุเขาด้วยความเขินอาย“โอเคๆ ผมไม่พูดแล้ว!”“แต่ครั้งนี้ผมทำงานหนักและช่วยคุณไว้ตั้งเยอะนะ คุณให้รางวัลกับกำลังใจเล็กๆ ผมหน่อยไม่ได้เหรอ?” เย่เทียนหยู่ถามอย่างคาดหวัง“นายต้องการอะไรล่ะ? ก็จะเลื่อนตำแหน่งให้นายอยู่ไม่ใช่เหรอ?” หลินหว่านหรูพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“นั่นไม่นับ คุณน่าจะรู้ว่าผมไม่ได้สนใจการเลื่อนตำแหน่ง สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดก็คือคุณ”คำพูดเหล่านี้ทำให้ใจของหลินหว่านหรูสั่นไหว และเธอก็อดไม่ได้ที่จะถาม: “แล้วคุณต้องการกำลังใจอะไรล่ะ? แต่ฉันขอบอกนายนะว่าห้ามคิดมาก”“ไม่มากครับ ผมขอแค่กอดเดียวได้หรือเปล่า?”“กอดเหรอ?”หลินหว่านหรูจ้องมองเย่เทียนหยู่ รู้อยู่ว่าเขาคิดจะเอาเปรียบเธอ“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิ ผมแค่อยากได้รับความรักกับกำลังใจบ้าง”“คุณไม่รู้หรอกว่าในช่วงนี้ผมต้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขนาดไหน ทุกคนเข้าผมผิดขนาดไหน และผมรู้สึกไม่สบายใจยังไงบ้าง”เย่เทียนหยู่ดูน่าสงสารนอกจากนี้เขายังพบว่าท่าทางขี้อา
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว