“แกไอ้บ้า พูดเรื่องอะไรไร้สาระ!”“ฉันไม่ได้ร้องนะ”คำพูดเหล่านี้ทำให้เธอละอายใจจริงๆ“ตอนนั้นคุณหมดสติ คุณจะรู้ได้ยังไงล่ะครับ”“นายยังจะพูดอีก!”หลินหว่านหรูดุเขาด้วยความเขินอาย“โอเคๆ ผมไม่พูดแล้ว!”“แต่ครั้งนี้ผมทำงานหนักและช่วยคุณไว้ตั้งเยอะนะ คุณให้รางวัลกับกำลังใจเล็กๆ ผมหน่อยไม่ได้เหรอ?” เย่เทียนหยู่ถามอย่างคาดหวัง“นายต้องการอะไรล่ะ? ก็จะเลื่อนตำแหน่งให้นายอยู่ไม่ใช่เหรอ?” หลินหว่านหรูพูดด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด“นั่นไม่นับ คุณน่าจะรู้ว่าผมไม่ได้สนใจการเลื่อนตำแหน่ง สิ่งที่ผมต้องการมากที่สุดก็คือคุณ”คำพูดเหล่านี้ทำให้ใจของหลินหว่านหรูสั่นไหว และเธอก็อดไม่ได้ที่จะถาม: “แล้วคุณต้องการกำลังใจอะไรล่ะ? แต่ฉันขอบอกนายนะว่าห้ามคิดมาก”“ไม่มากครับ ผมขอแค่กอดเดียวได้หรือเปล่า?”“กอดเหรอ?”หลินหว่านหรูจ้องมองเย่เทียนหยู่ รู้อยู่ว่าเขาคิดจะเอาเปรียบเธอ“อย่าเพิ่งอารมณ์เสียสิ ผมแค่อยากได้รับความรักกับกำลังใจบ้าง”“คุณไม่รู้หรอกว่าในช่วงนี้ผมต้องรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจขนาดไหน ทุกคนเข้าผมผิดขนาดไหน และผมรู้สึกไม่สบายใจยังไงบ้าง”เย่เทียนหยู่ดูน่าสงสารนอกจากนี้เขายังพบว่าท่าทางขี้อา
หลินหว่านหรูปรับอารมณ์ของเธออย่างรวดเร็วก่อนที่จะเดินออกไป และได้พบกับหลิวเหวินที่เพิ่งจัดการเรื่องค่าชดเชยให้กับคนพวกนั้นเธอประหลาดใจ จัดการเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?“ประธานหลิน ทำไมคุณถึงหน้าแดงขนาดนี้” หลิวเหวินก็แปลกใจเล็กน้อยเช่นกันเมื่อถามคำถามนี้ หลินหว่านหรูก็ยิ่งหน้าแดงราวกับว่าความลับของเธอถูกเปิดเผย เธอพยายามสงบสติอารมณ์ ก่อนจะส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ไม่มีอะไร!”จากนั้นเธอก็เปลี่ยนเรื่องทันที: “ค่าชดเชยของคนเหล่านั้นจัดการเสร็จเร็วขนาดนี้เลยเหรอ?”“พวกเขาให้ความร่วมมือดีมาก กระตือรือร้นที่จะเซ็นชื่อสุด ๆ พอเซ็นชื่อแล้วพวกเขาก็มีความสุขมากเลยค่ะ” หลิวเหวินยิ้มอย่างขมขื่น“หัวหน้าทีมเย่ทำอะไรกับพวกเขากันแน่?”หลิวเหวินยังกังวลเล็กน้อยว่าคนเหล่านี้จะมีปัญหาในภายหลังหรือไม่“เชือดไก่ให้ลิงดู!”“คนชักจูงพวกนั้นเหรอคะ?” เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลิวเหวินก็คาดเดาความเป็นไปได้บางอย่างคลุมเครือ“อือ!”“พวกเขาเป็นยังไงบ้าง?”“ไม่เป็นไร ไม่ต้องสนใจพวกเขา ฉันจะคุยอะไรบางอย่างกับคุณ” หลินหว่านหรูพูด“ว่าไง?”“ครั้งนี้เรื่องใหญ่เกิดขึ้นกับ เครื่องสำอางแบรนด์ปัวเรต์แม้ว่าเฉินเว่ยจะไม่
“ไม่ใช่สักหน่อย พี่เย่ยืนอยู่ตรงนั้นเด่นอย่างกับแกนโลกเลยล่ะ!”“แค่แกนโลกเองเหรอ ทำไมไม่ใช่ใจกลางจักรวาล”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าและโต้กลับ: “อีกอย่างนะ งานวันนี้ประธานหลินจัดการทุกอย่างออกมาได้ยอดเยี่ยม ประธานหลินของพวกคุณต่างหากหล่อสุด ๆ !”“ประธานหลินเป็นคนที่ยอดเยี่ยมเสมอ วางแผนมองการไกลเอาชนะศัตรู”“แต่ว่า ก็อาศัยพี่เย่ที่ดำเนินการได้ดีด้วยนะคะ คุณอาจไม่รู้ว่าในเวลานั้นเราทุกคนต่างกินคิดกันว่าบริษัทถึงคราวจบสูญแล้ว”หลิวสุ่ยอดไม่ได้ที่จะพูดอย่างตื่นเต้น: “แต่ด้วยการปรากฏตัวของพี่เย่ ทุกอย่างก็พลิกผันไปหมด ตอนนี้ไม่เพียงแต่วิกฤตจะได้รับการแก้ไขแล้ว แต่ยังรู้สึกเหมือนบริษัทได้ก้าวไปสู่ระดับที่สูงขึ้น”“เลิกรู้สึกซะ แค่ทำงานหนักให้บรรลุผลก็พอแล้ว”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า ก่อนจะไล่พวกเขาออกไป แล้วกลับไปที่สำนักงานหลังจากนั่งสักพัก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นเขาคิดว่าเป็นหลิวสุ่ย เขาจึงมองดูโทรศัพท์แล้วพูดว่า “เข้ามา”แน่นอนว่าที่ประตูไม่ใช่หลิวสุ่ยแต่เป็นจางเหยียน เมื่อเธอเข้ามา เธอเห็นเย่เทียนหยู่กำลังดูโทรศัพท์มือถือของเขา เธอปิดประตูเบา ๆ แม้จะตั้งใจล็อคไว้แล้วจึงเดินไปเย่เทียน
จางเหยียนต้องล่าถอยกลับไปด้วยความสิ้นหวังเมื่อกี้มันก็เป็นเช่นนั้น แต่หัวหน้าทีมเย่ก็ยังคงไม่แยแสเธอเข้าใจว่าหัวหน้าทีมเย่ไม่ชอบเธอ และเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยเธอหลังจากขับรถจางเหยียนออกไป โทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่ก็ดังขึ้น เป็นสายจากซูเหวินฮวา“พี่เย่ ตามข่าวจากคนที่ฉันจัดให้ ซูเหวินฮุยโกรธมาก ดูเหมือนว่าเขายังต้องการใช้เหยื่อเหล่านี้โจมตีหลินซื่อกรุ๊ปและพี่สะใภ้ของเขา”“โอ้?”“เขาเตรียมตัวจะทำอะไร?” เย่เทียนหยู่ไม่ได้ตื่นตระหนกหรือโกรธ เขาแค่ถามอย่างใจเย็น“ที่ผมได้ยินมา คือควรส่งเสริมให้คนบางคนเรียกร้องค่าตอบแทนก้อนโต และในขณะเดียวกันก็พยายามทุกวิถีทางที่จะทำลายชื่อเสียงของ เครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป” ซูเหวินฮวาตอบ“อย่างนั้นเหรอ?”“ดูท่าเขาคงไม่อยากเป็นนายน้อยคนโตตระกูลซูต่อไปอีกแม้แต่นาทีเดียวแล้วสินะ”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา แน่นอนว่าเขาไม่กลัวคำยุยงและการใส่ร้ายของซูเหวินฮุย แต่นั่นจะทำให้หลินหว่านหรูเดือดร้อนและเขาก็เกียจคร้านเกินกว่าจะจัดการเรื่องนี้“พี่เย่ ฉันจะหาทางทำลายแผนของเขาได้ยังไง““ไม่ต้องหรอก ก็แค่ตัวตลกตัวเดียว ในเมื่อเขาไม่อยากเป็นนายน้อยตร
“ไม่มีทาง!”“ทำไมเธอไม่รู้ว่าเธอมีเสน่ห์แค่ไหน มีผู้ชายหลายคนในบริษัทที่สนใจเธอนะ แต่พวกเขากลัวถูกเธอปฏิเสธ”“ซือซือ ขอร้องล่ะได้โปรดช่วยฉันด้วยนะ”“ได้ ฉันจะพยายามนะ”แม้ว่าจางเหยียนจะไม่ใจดีกับเธอมากนัก แต่หลิวซือซือก็ตัดสินใจที่จะช่วยสอบถาม เพราะเธอไม่รู้ว่าจางเหยียนทำเรื่องอะไรไปบ้าง และต้องทนลำบากมามากแค่ไหนหลิวซือซือเคาะประตูก่อนจะเข้าไปด้านในเมื่อเห็นเป็นหลิวซือซือ ท่าทีของเย่เทียนหยู่ก็ดีขึ้นมาก เพราะเธอสวยมาก ผู้หญิงแบบเธอมองแล้วให้ความรู้สึกสบายเป็นพิเศษ“ซือซือ มีอะไรหรือเปล่า?”“ค่ะ แต่ถ้าฉันถามไปแล้ว หัวหน้าทีมเย่อย่าตำหนิฉันะคะ” หลิวซือซือกลัวเย่เทียนหยู่จะไม่พอใจ“คุณคงไม่ได้มาขอร้องแทนจางเหยียนใช่ไหม?”“ใช่ค่ะ ฉันอยากรู้ว่าจางเหยียนทำอะไรผิดพลาด แต่ถ้ามันมากเกินไป เธอก็ควรจะรับผิดชอบตามสมควร”“เอาล่ะ ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น ก็ให้เธอไปหาประธานหลิน บอกว่าผมเป็นคนให้เธอไปหา แล้วให้เธออธิบายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลี่ว์ซิงเหอให้ประธานหลินฟังซะ”แค่คนตัวเล็กๆ เย่เทียนหยู่ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เมื่อครู่เขาแค่หงุดหงิดก็เท่านั้น“ได้ค่ะ ขอบคุณพี่เย่!”ใบหน้าของหลิว
“อ่า……”หลิวซือซือกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้งและรีบพูดทันทีว่า “เปล่าหรอก”“เปล่า หรือว่าสำเร็จแล้ว?” จางเหยียนถามด้วยความไม่เชื่อ“ยังไม่เสร็จ หัวหน้าทีมเย่ขอให้ฉันบอกเธอว่าเธอควรไปหาประธานหลน และบอกทุกสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับหลี่ว์ซิงเหอ”“ยิ่งคุณพูดมากเท่าไร ความดีความชอบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และก็จะปลอดภัยมากขึ้นด้วย”“จริงเหรอ? เขาพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?” สิ่งสำคัญคือต้องปกป้องตัวเอง ตอนนี้จางเหยียนไม่สนใจเรื่องนั้นมากนัก“ขอแค่เธอบอกประธานหลินว่าหัวหน้าทีมเย่ขอให้เธอมา แล้วบอกความจริงก็น่าจะไม่เป็นไรแล้สล่ะ” หลิวซือซือตอบ“แล้วเธอเดินออกมาสภาพนั้น ทำฉันกลัวแทบตาย”จางเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากประสบกับเหตุการณ์นี้ เธอก็ไม่กล้าเข้าไปต่อสู้แบบเมื่อกี้อีก“ฉัน…” หลิวซือซือไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่ เพราะนั่นคือสิ่งที่จางเหยียนกำลังไคว่คว้า“แล้วเธอเป็นอะไรไป? มีอย่างอื่นเกิดขึ้นเหรอ?”“โอเค ๆ คือหัวหน้าทีมเย่บอกว่า ให้ฉันเตรียมรับตำแหน่งของเขาในฐานะหัวหน้าทีม”“อะไรนะ!”คราวนี้ถึงคราวที่จางเหยียนที่ต้องตกตะลึง เธอถามด้วยความไม่เชื่อ: “คุณพูดจริงเหรอ? แต่รองหัวหน้าท
แต่เขากลับไม่รู้เลยว่า หลิวซือซือจะชอบเขาเพราะความเข้าใจผิดนี้ไม่นานเวลาก็มาถึงเวลาค่ำ เมื่อเขารู้ว่าเย่เทียนหยู่กำลังจะลงมือ ซูเหวินฮวาได้จัดให้ผู้คนจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของตระกูลซูอย่างใกล้ชิด และอยากรู้ว่าพี่เย่จะดำเนินการยังไงแต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจก็ คือ ตั้งแต่วันนั้นมายังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลยในตระกูลซูส่วนที่อยู่ของพี่เย่ แม้ว่าเขาจะไม่กล้าสอบสวนก็ตาม แต่ทุกอย่างมันดูเผินๆ พี่เย่อยู่ในบริษัทและไม่ได้ออกไปไหนเลยพี่เย่คงจะไม่ลืมเรื่องนี้ใช่ไหม?มันเป็นไปไม่ได้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เลย“นายท่าน ท่านเย่ล้อเล่นหรือเปล่าครับ?” เสิ่นอัง คนสนิทของซูเหวินฮวา เขาดูแลซูเหวินฮวาตั้งแต่ยังเด็กและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาดังนั้น เขาจึงรู้เกี่ยวกับเรื่องของเย่เทียนหยู่ และซูเหวินฮวาก็พูดคุยกับเขาหลายเรื่อง“ไม่น่าหรอก” ซูเหวินฮวาส่ายหน้า“แล้วทำไมยังไม่มีการเคลื่อนไหวอีกล่ะครับ?”“บางทีเรื่องนี้อาจจะยุ่งยากสักหน่อย และพี่เย่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อจัดการกับมัน อดทนรอกันก่อน”“ก็จริงครับ เพราะถึงยังไงแล้ว ตระกูลซูไม่ใช่ตระกูลธรรมดา แต่เป็นหนึ่งในสี่ตร
“อ่า……”ซูชังตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ซูเหวินฮวาหลานชายไร้ค่าที่เขาไม่ชอบมาโดยตลอดและไม่อยากเจอด้วยซ้ำไม่ใช่หรือ?ในขณะนี้เขาพอจะคาดเดาได้ว่าวันนี้เจ้าสำนักมาที่นี่เพื่อซูเหวินฮวา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือเพื่อทำลาย ซูเหวินฮุย หลานชายของเขา และช่วยซูเหวินฮวาแต่ซูเหวินฮวามีเก่งจนสามารถขอให้เจ้าสำนักมาช่วยด้วยตนเองได้เลยเหรอไม่รู้ว่าหลานชายคนสำคัญของเขาทำอะไรไป ทำให้เจ้าสำนักดูไม่พอใจเขาขนาดนี้“อะไร คุณไม่อยากเหรอ?” เย่เทียนหยู่ถามอย่างเย็นชา“ไม่ครับ เพียงแต่ว่าท่านเจ้าสำนักอาจไม่รู้จักเด็กคนนี้มากนัก แม้ว่าเหวินฮวาจะค่อนข้างฉลาด แต่เขาก็ยังซนและเอาแต่ใจตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เขาชอบกิน ดื่ม เที่ยวเมามาย ล่นการพนัน แต่ละอย่างล้วนทำจนชำนาญ”“ผมไม่เข้าใจ?”“ผมคิดว่าเป็นคุณที่โง่เกินกว่าจะเข้าใจคุณธรรมความสามารถของหลานชายคนรองของคุณมากกว่า”“คุณควรตรวจสอบดูว่า ซูเหวินฮวาแย่จริง ๆ หรือไม่ หรือทำไปเพื่อที่จะมีชีวิตรอดเพราะแค่กลัวคู่แม่ลูกของซูเหวินฮุยจะฆ่า เขาต้องซ่อนความสามารถของเขาและแกล้งทำตัวเป็นคนไร้ความสามารถให้คนอื่นตายใจ”“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”ซูชังตกใจมาก เขาไม่รู้เ
ประจวบเหมาะกับที่หลินหว่านหรูเองก็เกือบจะจัดการธุระเสร็จแล้ว เย่เทียนหยู่มองดูนาฬิกาครู่หนึ่ง เวลาเพิ่งจะสิบโมงกว่า ๆ ดังนั้นจึงมีเวลาอีกเหลือเฟือให้เขารีบกลับไป“แม่ของคุณกับคนอื่น ๆ ล่ะ หรือพวกเขากลับไปกันแล้ว?” เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อย นานแล้วที่ไม่ได้เจอพวกเขา แถมยังเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้นอีก ไม่คิดจะอยู่พูดคุยกันหน่อยรึไง“กลับไปกันแล้ว!”สีหน้าของหลินหว่านหรูเริ่มมืดมนลงเล็กน้อย “ไม่ใช่ว่าคุณต้องรีบกลับไปจัดการธุระเหรอคะ พวกเราเองก็กลับกันเถอะ”“ได้!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า เขาสตาร์ทรถและขับออกไปทันที ระหว่างทาง เขาหันไปมองหลินหว่านหรูที่ดูเหมือนว่าเธอมีอะไรอยากจะพูดแต่ก็ไม่กล่าเอ่ยปาก เขาจึงถามออกไปว่า “หว่านหรู คุณเป็นอะไรรึเปล่า หรือมีเรื่องอะไรที่ทำให้คุณลำบากใจรึเปล่า?”“หรือจะเป็นเรื่องสูตรนั่น?”เมื่อเห็นว่าเย่เทียนหยู่เป็นฝ่ายเริ่มพูดถึงเรื่องนี้ขึ้นมาก่อน หลินหว่านหรูก็พยักหน้าทันที ก่อนจะพูดซ้ำสิ่งที่แม่ของเธอเพิ่งจะพูดไปออกมาเย่เทียนหยู่ส่ายหัว พร้อมพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่สูตรส่วนผสมสูตรเดียวเอง ผมเขียนให้ตอนนี้เลยก็ได้ และจะ
“ได้สิ”ทันทีที่แม่ตระกูลหลินพูดจบ เธอก็รีบเดินจากไป พร้อมกับสาปแช่งอยู่ในใจใครขอให้แกมากัน ไม่รู้จะมาทำไม มาแย่งบริษัทไปจากฉันรึไงฝันไปเถอะ!หลินซื่อกรุ๊ป ไม่ใช่สิ่งที่แกคิดจะเอาก็เอาไปได้ง่าย ๆ หรอกนะ!ถ้าเธอรู้แต่แรก ว่าอีกไม่นานหลินหว่านหรูจะได้นั่งตำแหน่งผู้จัดการทั่วไปของเทียนเฟิงกรุ๊ป และได้กลายเป็นผู้จัดการระดับสูงของกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านแบบนี้ เธอไม่มีทางคิดเช่นนี้แน่พ่อตระกูลหลินรู้สึกทำอะไรไม่ถูก อันที่จริง เขาไม่ค่อยเห็นด้วยกับวิธีการของแม่ตระกูลหลินสักเท่าไหร่ แต่ถึงยังไงเมื่อก่อนทุกการตัดสินใจก็มักจะขึ้นอยู่กับแม่ตระกูลหลิน แถมตอนนี้ท่าทีของเธอก็ยิ่งเหมือนบูเช็คเทียนเข้าไปทุกวัน ไม่ว่าเธอพูดจะอะไร ตนก็ได้แต่ต้องทำตามเท่านั้น ในขณะเดียวกันนั้นเอง เย่เทียนหยู่ก็เดินตามหาหลงเจี๋ยจนเจอ จากนั้นหลงเจี๋ยก็ถามออกไปด้วยความโกรธทันที “เย่เทียนหยู่ นี่คุณหมายความว่ายังไง ก่อนหน้านี้ทำไมคุณถึงต้องหลอกฉันด้วย?”“ผมหลอกคุณงั้นเหรอ?” เย่เทียนหยูรู้สึกสับสน“ยังไม่ยอมรับอีกงั้นเหรอ เห็น ๆ อยู่ว่าคุณคือราชามังกรแห่งพรรคมังกร ไม่บอกฉันก็ช่างเถอะ แต่นี่ยังจะแสร้งบ
เย่เทียนหยู่ที่เห็นฉากนี้ ก็อดส่ายหัวไม่ได้ จึงพูดขึ้นว่า “หว่านหรู ในเมื่อทางนี้ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว พอดีเมื่อกี้คุณตำรวจหลงมีเรื่องที่ต้องคุยกับผมน่ะ ผมขอไปหาเธอหน่อยนะ”“อือ คุณไปเถอะ”เมื่อกี้ตอนที่หลงเจี๋ยเชิญเขา หลินหว่านหรูที่อยู่ข้าง ๆ เองก็รู้เรื่องนี้ดีหลังจากนั้นเย่เทียนหยู่จึงเดินจากไปเมื่อเย่เทียนหยู่เดินจากไปแล้ว คนที่เหลือก็เดินไปหาเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบคดี หลังจากที่สื่อสารกันไปมาสักพัก หลินหว่านหรูก็ได้เซ็นลงไปส่วนเรื่องเงินชดเชย แน่นอนว่าเธอไม่ต้องการเลยสักบาทเมื่อเห็นว่าในที่สุดปัญหาก็ได้คลี่คลายลงแล้ว แม่ตระกูลหลินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เธอจึงกอดหลินหว่านหรูเอาไว้แน่น พร้อมกับพูดด้วยความซาบซึ้งออกไปว่า “หว่านหรู ขอบคุณมากนะ!”“ก่อนหน้านี้แม่ทำผิดพลาดไปมากมาย แต่ลูกก็ยังปกป้องแม่ตลอด ลูกเป็นลูกสาวที่ดีที่สุดในโลกเลย แม่รักลูกนะ!”คำพูดที่หวานซึ้งเช่นนี้ หลินหว่านหรูถึงกับทนรับเอาไว้ไม่ไหว แต่การที่แม่สามารถแสดงมันออกมาได้ มันก็ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากแล้ว“หว่านหรู ลูกวางใจได้ ตอนนี้แม่รู้แล้วว่าตัวเองผิด ต่อไปจะไม่ทำอะไรแบบนั้นอีก แม่จะดูแลบริษัทใ
ในตอนที่เพิ่งจะเดินเข้าไป ก็เห็นว่าพ่อตระกูลหลินกำลังเดินออกมา พร้อมกับพูดด้วยท่าทีที่ตื่นเต้นออกไปว่า “หว่านหรู ในที่สุดแกก็มาแล้ว ขืนแกยังไม่มา แม่แกคงอยู่ต่อไม่ไหวแล้ว”หลินหว่านหรูขมวดคิ้ว เธอแทบไม่เชื่อสิ่งเหล่านี้เลยแม้แต่น้อยสีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชาอย่างมากเมื่อต้องเผชิญหน้ากับความเย็นชาของทั้งสอง สีหน้าพ่อตระกูลหลินก็ดูหมดหวัง และคิดว่าหลายสิ่งที่พวกเขาทำมันเกินไปแล้วจริง ๆ เขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรออกไปดีเป็นเพราะเขาเดินตามทั้งสองเข้าไป พ่อตระกูลหลินถึงเข้าไปด้วยได้ เดิมที เขาแค่จะมาดูแม่ตระกูลหลินเท่านั้นภายใต้การนำทางของตำรวจ หลินหว่านหรูและเย่เทียนหยู่ก็ได้มาถึงห้องขังที่แม่ตระกูลหลินอยู่แม่ตระกูลหลินเองก็รู้ว่าหลินหว่านหรูมาถึงแล้ว ทันทีที่เห็นทั้งสอง เธอก็รีบลุกขึ้น และเดินมาหาทันที ดวงตาของเธอแดงก่ำ ก่อนจะตะโกนออกไปว่า “หว่านหรู ลูกรักของแม่ ลูกมาแล้วเหรอ!”มองดูดวงตาที่แดงก่ำของแม่ตระกูลหลิน บวกกับท่าทีตื่นเต้นโดยเฉพาะสีหน้าที่ดูอ่อนเพลียและซีดเซียวของเธอ แม้แต่ผมเผ้าเองก็ยังดูยุ่งเหยิงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งทำให้เธอดูน่าสงสารอย่างมากบวกกับที่เธอพูดคำว
คุณนายไป๋ถูกหัวหน้าใหญ่ไป๋จ้องตาเขม็ง สีหน้าเปลี่ยนไปนิดหน่อย ก่อนจะรีบพูดออกมาเบา ๆ ว่า “พี่เฉินคะ พะ พี่เป็นอะไรไป?”“เธอคิดว่ายังไงล่ะ ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พวกเราจะมาถึงจุดนี้ได้ยังไง!”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่“ละ แล้วนี่มันเกี่ยวอะไรกับฉันล่ะคะ ถึงต่อให้ฉันเป็นคนที่สร้างเรื่องขึ้นมา พี่ก็เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอ ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงจะสามารถจัดการเขาได้?”“เดิมทีมันก็อาจจะได้ แต่เมื่อกี้พยัคฆ์ทมิฬเพิ่งรายงานว่า เขาอาจจะเป็นราชามังกรแห่งพรรคมังกรก็ได้ และจากสถานการณ์ในปัจจุบัน ก็ดูเหมือนจะมีโอกาสมากถึงแปดเก้าส่วนที่จะเป็นเรื่องจริง”“หากว่าเขาเป็นราชามังกรจริง ๆ ล่ะก็ เกรงว่าแม้แต่สำนักเจวี๋ยฉิงก็ทำอะไรเขาไม่ได้”ไป๋เฉินพูดด้วยความโกรธ“หา ไม่จริงน่า เป็นไปได้ไหมที่พยัคฆ์ทมิฬกำลังหลอกพี่อยู่”“เขาไม่มีทางหลอกฉันแน่”ไป๋เฉินถอนหายใจ ตอนนี้เขาเข้าใจแล้ว เขาถูกภรรยาชักจูงแบบผิด ๆ มาตั้งแต่แรก ต่อให้ตอนนี้ตนได้รู้เรื่องราวทั้งหมด แล้วมันจะมีประโยชน์อะไรสิ่งที่เขากังวลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่ปัญหาในการจัดการกับเย่เทียนหยู่ แต่เป็นจุดตันเถียนของเขา มันจะยังสามารถฟื้นฟูกลับมาไ
จากนั้น ไป๋เฉินก็หยิบกล่องเล็ก ๆ ที่ดูประณีตออกมาจากตัว เขานำมันติดตัวมาด้วย จากนั้นจึงยื่นให้เย่เทียนหยู่ด้วยท่าทีที่ไม่เต็มใจสักเท่าไหร่นี่คือสมบัติที่แม้แต่เขาก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ว่ากันว่า หากกลั่นมันออกมาเป็นยา ก็จะสามารถช่วยให้ทะลวงเข้าสู่ระดับปรามาจารย์ได้ทันทีหากไม่ใช่เพราะแรงกดดันที่น่ากลัวจากสำนักเจวี๋ยฉิง เขาก็คงคิดที่จะเก็บมันเอาไว้ใช้เองเขาเคยเห็นด้วยตาตัวเองแล้ว ตอนที่ยอดฝีมือจากสำนักเจวี๋ยฉิงต่อสู้กับปรมาจารย์ที่น่ากลัวคนหนึ่ง กระบวนท่าเดียว ใช้เพียงกระบวนท่าเดียวเท่านั้น ก็สามารถฆ่ายอดฝีมือระดับปรมาจารย์คนนั้นได้ในทันทีดังนั้น การที่ไอ้เด็กนี่มันกล้าท้าทายอำนาจสำนักเจวี๋ยฉิงแบบนี้ มันจะต้องตายอย่างแน่นอนเย่เทียนหยู่รับกล่องมา ก่อนจะเปิดดูด้านใน และพบว่านั่นคือดอกบัวสีเจ็ดสีจริง ๆ สิ่งนี้มีประโยชน์อย่างมากเมื่อมาอยู่ในมือของเขา เขาจึงรับเก็บมันไว้ทันที แล้วพูดด้วยท่าทีเรียบเฉยออกไปว่า “เห็นแก่ของเล่นชิ้นนี้ ผมจะปล่อยคุณไปสักครั้งก็แล้วกัน”“จำไว้นะว่า อีกสี่หมื่นห้าพันล้าน จะต้องถูกโอนเข้าบัญชีภายในหนึ่งวัน เพราะไม่อย่างนั้น ก็รอรับผลที่จะตามมาได้เลย!”ทันที
เมื่อคุณนายไป๋ได้ยินดังนั้น เธอก็รีบโต้กลับทันที “หากเป็นสมบัติธรรมดาพวกเขาต้องไม่สนใจอยู่แล้ว แต่นี่เป็นถึงดอกบัว......”“เลิกพูดมากได้แล้ว!”เมื่อกี้หยุดเอาไว้ไม่ทัน ตอนนี้ไป๋เฉินจึงรีบพูดห้ามขึ้นทันที “พูดจาไร้สาระให้มันน้อย ๆ หน่อย ทางที่ดีแกก็รีบปล่อยพวกเราไปซะ เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาอาจเกินกว่าที่แกจะรับไหวก็ได้”เย่เทียนหยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะพูดออกไปว่า “คุณนับว่าฉลาดกว่าภรรยาคุณอยู่นะ หากเป็นเธอล่ะก็ ป่านนี้เธอคงสั่งให้ผมรีบขอโทษและยอมรับผิดไปแล้ว” “แต่ว่านะ ถึงยังไงก็ไม่มีประโยชน์อยู่ดี! อย่าว่าแต่สำนักเจวี๋ยฉิงอะไรนั่นเลย ต่อให้เป็นสำนักที่แข็งแกร่งมากแค่ไหน วันนี้ หากคุณยังไม่คืนเงินล่ะก็ ไม่ว่าใครหน้าไหนก็ช่วยพวกคุณไม่ได้ทั้งนั้น”สีหน้าของไป๋เฉินเปลี่ยนไปทันที เขาทั้งโกรธและตกใจ “นี่แกไม่กลัวสำนักเจวี๋ยฉิงจริง ๆ หรือว่าแกไม่รู้ว่าสำนักเจวี๋ยฉิงมีการดำรงอยู่ที่น่ากลัวมากแค่ไหนกันแน่?”“รู้หรือไม่มันก็ไม่สำคัญหรอก ผมจะให้โอกาสคุณเป็นครั้งสุดท้าย สี่หมื่นห้าพันล้าน จะให้หรือไม่ให้? !”สีหน้าเย่เทียนหยู่ดูเย็นชา เขาเสียเวลามามากพอสมควรแล้ว เขาไม่อยากพูด
แต่สิ่งนี้ก็ยืนยันได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หัวหน้าใหญ่ไป๋ถูกจัดการแล้วจริง ๆ เขาถูกทำลายแล้วอย่างสิ้นเชิงคุณนายไป๋หน้าซีด สีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจและหวาดกลัว เธอทรุดตัวลงบนพื้นด้วยความอ่อนแรง ในเวลานี้ เธอก็เข้าใจแล้วว่าเทพสงครามในสายตาของเธอได้ถูกทำลายลงแล้วจริง ๆเพราะความทะเยอทะยานของเธอ จึงทำให้ผู้ชายของเธอได้กลายเป็นคนที่ไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิง!ผ่านไปนานพอสมควร ในที่สุดไป๋เฉินก็สงบสติอารมณ์ลงได้บ้าง ก่อนจะถามออกไปด้วยความกลัวว่า “แกเป็นใครกันแน่?”“ผมเป็นใครไม่สำคัญหรอก สิ่งที่สำคัญก็คือ เงินอีกสี่หมื่นห้าพันล้านจะต้องเข้าบัญชีเดี๋ยวนี้” เย่เทียนหยูกล่าวด้วยท่าทีเรียบเฉย “ภรรยาของคุณไม่สามารถเอาออกมาได้ แต่ตัวคุณก็น่าจะไม่มีปัญหาสินะ?”สีหน้าไป๋เฉินดูไม่ดีมากนัก เขารู้สึกเกลียดชังอีกฝ่ายอย่างมาก ที่ทำให้ชี่แท้ของตนถูกทำลาย เขาจึงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกไปว่า “เงินก้อนนี้ฉันจะไม่มีวันมอบให้แน่นอน”“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่ค่อยสนใจชีวิตภรรยาของคุณเลยสินะ”“พี่เฉินคะ......”คุณนายไป๋ลนลานขึ้นมาทันที เงินไม่มีก็หาใหม่ได้ แต่ถ้าคนตายไปแล้ว ยังไงก็ไม่มีทางกลับมาได้อีก เ
แต่ในขณะที่ทุกคนคิดว่าหัวหน้าใหญ่ไป๋มีโอกาสที่จะชนะแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อยู่นั้น เย่เทียนหยู่ก็กลับส่ายหัว ก่อนจะยกมือขวาขึ้นมา พร้อมกับก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางที่ดูสบาย ๆซึ่งมันก็เป็นการรับมือที่สบายมากจริง ๆ ไม่นาน เขาก็สามารถจับกรงเล็บที่เต็มไปด้วยพลังแห่งจิตสังหารของหัวหน้าใหญ่ไป๋เอาไว้ได้หัวหน้าใหญ่ไป๋ยังคงรู้สึกตื่นเต้นไม่หาย แต่เขาก็กลับพบว่ามือที่เขาใช้โจมตีนั้น ได้ถูกอีกฝ่ายจับเอาไว้ได้ นอกจากนี้ สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่านั้นก็คือ พลังที่อยู่ภายในมือของเขากลับจางหายไปอย่างสิ้นเชิงอีกด้วยทะ ทำไมถึงเป็นแบบนี้ไปได้!จากนั้นก็พบว่าร่างกายไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป และถูกอีกฝ่ายเหวี่ยงออกไปตามแนวระนาบ ก่อนจะกระแทกลงอย่างรุนแรงอ้าก!หัวหน้าใหญ่ไป๋ไม่สามารถทนได้อีกต่อไป เขาจึงส่งเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดและน่าสงสารออกมา ไม่นานความเจ็บปวดก็กระจายไปทั่วทั้งร่างกาย ซึ่งทำให้ร่างกายของเขาถึงกับต้องสั่นสะเทือนเดิมทีด้วยพลังที่เขามี เขาสามารถทนต่อความเจ็บปวดทั่วไปได้ แต่ในครั้งนี้ เขาไม่สามารถทนได้จริง ๆคุณนายไป๋รู้สึกสับสนทันทีนะ นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?ลูกน้องที่ตามมาด้วยต