จางเหยียนต้องล่าถอยกลับไปด้วยความสิ้นหวังเมื่อกี้มันก็เป็นเช่นนั้น แต่หัวหน้าทีมเย่ก็ยังคงไม่แยแสเธอเข้าใจว่าหัวหน้าทีมเย่ไม่ชอบเธอ และเขาไม่ได้ตั้งใจที่จะช่วยเธอหลังจากขับรถจางเหยียนออกไป โทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่ก็ดังขึ้น เป็นสายจากซูเหวินฮวา“พี่เย่ ตามข่าวจากคนที่ฉันจัดให้ ซูเหวินฮุยโกรธมาก ดูเหมือนว่าเขายังต้องการใช้เหยื่อเหล่านี้โจมตีหลินซื่อกรุ๊ปและพี่สะใภ้ของเขา”“โอ้?”“เขาเตรียมตัวจะทำอะไร?” เย่เทียนหยู่ไม่ได้ตื่นตระหนกหรือโกรธ เขาแค่ถามอย่างใจเย็น“ที่ผมได้ยินมา คือควรส่งเสริมให้คนบางคนเรียกร้องค่าตอบแทนก้อนโต และในขณะเดียวกันก็พยายามทุกวิถีทางที่จะทำลายชื่อเสียงของ เครื่องสำอางของหลินซื่อกรุ๊ป” ซูเหวินฮวาตอบ“อย่างนั้นเหรอ?”“ดูท่าเขาคงไม่อยากเป็นนายน้อยคนโตตระกูลซูต่อไปอีกแม้แต่นาทีเดียวแล้วสินะ”เย่เทียนหยู่พูดอย่างเย็นชา แน่นอนว่าเขาไม่กลัวคำยุยงและการใส่ร้ายของซูเหวินฮุย แต่นั่นจะทำให้หลินหว่านหรูเดือดร้อนและเขาก็เกียจคร้านเกินกว่าจะจัดการเรื่องนี้“พี่เย่ ฉันจะหาทางทำลายแผนของเขาได้ยังไง““ไม่ต้องหรอก ก็แค่ตัวตลกตัวเดียว ในเมื่อเขาไม่อยากเป็นนายน้อยตร
“ไม่มีทาง!”“ทำไมเธอไม่รู้ว่าเธอมีเสน่ห์แค่ไหน มีผู้ชายหลายคนในบริษัทที่สนใจเธอนะ แต่พวกเขากลัวถูกเธอปฏิเสธ”“ซือซือ ขอร้องล่ะได้โปรดช่วยฉันด้วยนะ”“ได้ ฉันจะพยายามนะ”แม้ว่าจางเหยียนจะไม่ใจดีกับเธอมากนัก แต่หลิวซือซือก็ตัดสินใจที่จะช่วยสอบถาม เพราะเธอไม่รู้ว่าจางเหยียนทำเรื่องอะไรไปบ้าง และต้องทนลำบากมามากแค่ไหนหลิวซือซือเคาะประตูก่อนจะเข้าไปด้านในเมื่อเห็นเป็นหลิวซือซือ ท่าทีของเย่เทียนหยู่ก็ดีขึ้นมาก เพราะเธอสวยมาก ผู้หญิงแบบเธอมองแล้วให้ความรู้สึกสบายเป็นพิเศษ“ซือซือ มีอะไรหรือเปล่า?”“ค่ะ แต่ถ้าฉันถามไปแล้ว หัวหน้าทีมเย่อย่าตำหนิฉันะคะ” หลิวซือซือกลัวเย่เทียนหยู่จะไม่พอใจ“คุณคงไม่ได้มาขอร้องแทนจางเหยียนใช่ไหม?”“ใช่ค่ะ ฉันอยากรู้ว่าจางเหยียนทำอะไรผิดพลาด แต่ถ้ามันมากเกินไป เธอก็ควรจะรับผิดชอบตามสมควร”“เอาล่ะ ในเมื่อคุณพูดแบบนั้น ก็ให้เธอไปหาประธานหลิน บอกว่าผมเป็นคนให้เธอไปหา แล้วให้เธออธิบายทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับหลี่ว์ซิงเหอให้ประธานหลินฟังซะ”แค่คนตัวเล็กๆ เย่เทียนหยู่ไม่ได้สนใจเลยด้วยซ้ำ เมื่อครู่เขาแค่หงุดหงิดก็เท่านั้น“ได้ค่ะ ขอบคุณพี่เย่!”ใบหน้าของหลิว
“อ่า……”หลิวซือซือกลับมามีสติสัมปชัญญะอีกครั้งและรีบพูดทันทีว่า “เปล่าหรอก”“เปล่า หรือว่าสำเร็จแล้ว?” จางเหยียนถามด้วยความไม่เชื่อ“ยังไม่เสร็จ หัวหน้าทีมเย่ขอให้ฉันบอกเธอว่าเธอควรไปหาประธานหลน และบอกทุกสิ่งที่เธอรู้เกี่ยวกับหลี่ว์ซิงเหอ”“ยิ่งคุณพูดมากเท่าไร ความดีความชอบก็ยิ่งมากขึ้นเท่านั้น และก็จะปลอดภัยมากขึ้นด้วย”“จริงเหรอ? เขาพูดแบบนั้นจริง ๆ เหรอ?” สิ่งสำคัญคือต้องปกป้องตัวเอง ตอนนี้จางเหยียนไม่สนใจเรื่องนั้นมากนัก“ขอแค่เธอบอกประธานหลินว่าหัวหน้าทีมเย่ขอให้เธอมา แล้วบอกความจริงก็น่าจะไม่เป็นไรแล้สล่ะ” หลิวซือซือตอบ“แล้วเธอเดินออกมาสภาพนั้น ทำฉันกลัวแทบตาย”จางเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากประสบกับเหตุการณ์นี้ เธอก็ไม่กล้าเข้าไปต่อสู้แบบเมื่อกี้อีก“ฉัน…” หลิวซือซือไม่รู้ว่าควรจะพูดหรือไม่ เพราะนั่นคือสิ่งที่จางเหยียนกำลังไคว่คว้า“แล้วเธอเป็นอะไรไป? มีอย่างอื่นเกิดขึ้นเหรอ?”“โอเค ๆ คือหัวหน้าทีมเย่บอกว่า ให้ฉันเตรียมรับตำแหน่งของเขาในฐานะหัวหน้าทีม”“อะไรนะ!”คราวนี้ถึงคราวที่จางเหยียนที่ต้องตกตะลึง เธอถามด้วยความไม่เชื่อ: “คุณพูดจริงเหรอ? แต่รองหัวหน้าท
แต่เขากลับไม่รู้เลยว่า หลิวซือซือจะชอบเขาเพราะความเข้าใจผิดนี้ไม่นานเวลาก็มาถึงเวลาค่ำ เมื่อเขารู้ว่าเย่เทียนหยู่กำลังจะลงมือ ซูเหวินฮวาได้จัดให้ผู้คนจับตาดูทุกความเคลื่อนไหวของตระกูลซูอย่างใกล้ชิด และอยากรู้ว่าพี่เย่จะดำเนินการยังไงแต่สิ่งที่ทำให้เขาตกใจก็ คือ ตั้งแต่วันนั้นมายังไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ เลยในตระกูลซูส่วนที่อยู่ของพี่เย่ แม้ว่าเขาจะไม่กล้าสอบสวนก็ตาม แต่ทุกอย่างมันดูเผินๆ พี่เย่อยู่ในบริษัทและไม่ได้ออกไปไหนเลยพี่เย่คงจะไม่ลืมเรื่องนี้ใช่ไหม?มันเป็นไปไม่ได้ แต่จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ เลย“นายท่าน ท่านเย่ล้อเล่นหรือเปล่าครับ?” เสิ่นอัง คนสนิทของซูเหวินฮวา เขาดูแลซูเหวินฮวาตั้งแต่ยังเด็กและรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเขาดังนั้น เขาจึงรู้เกี่ยวกับเรื่องของเย่เทียนหยู่ และซูเหวินฮวาก็พูดคุยกับเขาหลายเรื่อง“ไม่น่าหรอก” ซูเหวินฮวาส่ายหน้า“แล้วทำไมยังไม่มีการเคลื่อนไหวอีกล่ะครับ?”“บางทีเรื่องนี้อาจจะยุ่งยากสักหน่อย และพี่เย่ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรเพื่อจัดการกับมัน อดทนรอกันก่อน”“ก็จริงครับ เพราะถึงยังไงแล้ว ตระกูลซูไม่ใช่ตระกูลธรรมดา แต่เป็นหนึ่งในสี่ตร
“อ่า……”ซูชังตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ซูเหวินฮวาหลานชายไร้ค่าที่เขาไม่ชอบมาโดยตลอดและไม่อยากเจอด้วยซ้ำไม่ใช่หรือ?ในขณะนี้เขาพอจะคาดเดาได้ว่าวันนี้เจ้าสำนักมาที่นี่เพื่อซูเหวินฮวา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือเพื่อทำลาย ซูเหวินฮุย หลานชายของเขา และช่วยซูเหวินฮวาแต่ซูเหวินฮวามีเก่งจนสามารถขอให้เจ้าสำนักมาช่วยด้วยตนเองได้เลยเหรอไม่รู้ว่าหลานชายคนสำคัญของเขาทำอะไรไป ทำให้เจ้าสำนักดูไม่พอใจเขาขนาดนี้“อะไร คุณไม่อยากเหรอ?” เย่เทียนหยู่ถามอย่างเย็นชา“ไม่ครับ เพียงแต่ว่าท่านเจ้าสำนักอาจไม่รู้จักเด็กคนนี้มากนัก แม้ว่าเหวินฮวาจะค่อนข้างฉลาด แต่เขาก็ยังซนและเอาแต่ใจตัวเองมาตั้งแต่เด็ก ตอนนี้เขาชอบกิน ดื่ม เที่ยวเมามาย ล่นการพนัน แต่ละอย่างล้วนทำจนชำนาญ”“ผมไม่เข้าใจ?”“ผมคิดว่าเป็นคุณที่โง่เกินกว่าจะเข้าใจคุณธรรมความสามารถของหลานชายคนรองของคุณมากกว่า”“คุณควรตรวจสอบดูว่า ซูเหวินฮวาแย่จริง ๆ หรือไม่ หรือทำไปเพื่อที่จะมีชีวิตรอดเพราะแค่กลัวคู่แม่ลูกของซูเหวินฮุยจะฆ่า เขาต้องซ่อนความสามารถของเขาและแกล้งทำตัวเป็นคนไร้ความสามารถให้คนอื่นตายใจ”“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”ซูชังตกใจมาก เขาไม่รู้เ
เพราะถึงยังไงแล้ว การจราจรเป็นสิ่งสำคัญ และไม่มีใครคิดว่าจะมีการจราจรหนาแน่นขนาดนี้“ให้ตายเถอะ จริงสิ ก่อนหน้านี้เขาบอกไว้แล้วว่าโรงพยาบาลทำอะไรไม่ได้และอาจกลายเป็นโรคระยะสุดท้ายไม่ใช่หรือไง แต่หายเร็วมาก”“ใช่ มันค่อนข้างเหลือเชื่อนิดหน่อย”“ฉันสามารถเป็นพยานได้จริง ๆ เพราะน้องสาวของฉันเป็นเหยื่อ ใบหน้าของเธอจึงหายดีแล้ว และที่น่าทึ่งยิ่งกว่านั้นก็คือผิวบริเวณจุดด่างดำนั้นบอบบาง ขาว และอ่อนโยนมากขึ้น”“คุณเก่งมากเหรอ? จริงเหรอ?”“ก็จริง ป้าของฉันก็เหมือนกัน”“ใช่ มีพี่สาวด้วย ตอนนี้เธอมีความสุขมาก เช้านี้เธอไปคุยเรื่องค่าสินไหมทดแทนโดยเร็วที่สุดซึ่งเป็นแสน”“ไม่ใช่แค่รอยดำบนใบหน้าหายไป แต่ผิวก็ดูดีขึ้น แถมยังมีเงินซื้ออีก ให้ตายเถอะ ทำไมเครื่องสำอางที่ซื้อมาตอนเช้าถึงได้ใช้แล้วไม่มีจุดด่างดำล่ะ บนใบหน้าของฉัน”“โกรธชะมัดเลย ฉันอยากเปลี่ยนไปใช้เครื่องสำอางปัวเรต์แล้วล่ะ อยากมีจุดด่างดำบ้าง”“ต้องบอกว่าเครื่องสำอางปัวเรต์มีความรับผิดชอบจริง ๆ นะ ไม่เพียงแก้ปัญหาผิวหน้าเท่านั้น แต่ยังให้ชดใช้ค่าเสียหายให้เยอะมากเลยด้วย”“นอกจากนี้ หลินซื่อกรุ๊ปยังบอกด้วยว่าคราวนี้พวกเขาใช้ผลิต
ทันทีที่เธอคิดถึงเรื่องนี้หลินหว่านหรูก็โทรหานายธนาคารหลิว ทันทีและพูดอย่างสุภาพ: “สวัสดีนายธนาคารหลิว!”หลังจากเหตุการณ์ครั้งล่าสุด นายธนาคารหลิวได้บันทึกหมายเลขโทรศัพท์ของหลินหว่านหรูไว้เป็นพิเศษ หลังจากดูหมายเลขและฟังเสียงแล้ว เขาก็พูดด้วยรอยยิ้มทันที: “สวัสดีคุณหลิน”“คุณมีคำแนะนำบ้างไหม?”เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลินซื่อกรุ๊ปมันใหญ่เกินไปจริงๆ นอกจากนี้ธนาคารฝูซางที่เขาเป็นผู้นำได้ให้เงินกู้ที่สูงเช่นนี้แก่หลินซื่อกรุ๊ปดังนั้นเขาจึงกังวลโดยธรรมชาติตอนแรกฉันกังวลมาก แต่ต่อมาฉันรู้สึกโล่งใจเมื่อเห็นว่าหลินซื่อกรุ๊ปกำลังเลี้ยวมุมไปทีละขั้นโดยเฉพาะเขาเห็นชายหนุ่มที่ทุบตีเขา ชายหนุ่มที่รับผิดชอบเรื่องทั้งหมดนี้สิ่งที่เขากลัวมาโดยตลอดคือพลังของตระกูลหยาง เพราะตระกูลหยางต้องการช่วยเหลือชายหนุ่มแต่หลังจากเมื่อวาน จู่ๆ เขาก็รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนี้ไม่ธรรมดาอย่างแน่นอนวันนี้ เขาเห็นความคิดเห็นสาธารณะที่เกี่ยวข้องบนอินเทอร์เน็ตอีกครั้ง และรู้ว่าหลินซื่อกรุ๊ปกำลังจะนำไปสู่การพัฒนาครั้งใหญ่ ไม่ต้องพูดถึงว่าตระกูลหยางอยู่เบื้องหลังการสนับสนุนของบริษัทและหนุ่มหล่อที่ยืนอยู่บนเวที
เรื่องนี้สร้างความเจ็บปวดให้เขาขนาดไหนจำได้ว่าตอนนั้นเธอกับสมาชิกทุกคนในบ้างว่าเขาว่าขโมยผลงานคนอื่น อีกทั้งตอนนั้นซูถิงก็ยังเป็นพยานบอกว่าหลิวเจี๋ยเป็นคนที่ช่วยเธอไว้ทุกอย่างส่วนหลิวเจี๋ยก็แสร้งทำเป็นคนดี ยกความดีความชอบให้เย่เทียนหยู่ ทำให้คนอื่นๆ ต่างก็โมโหกันจนแทบกระอักเลือดคิดถึงตอนนั้นแล้ว เย่เทียนหยู่จะน้อยใจขนาดไหนกันนะแต่ว่า เขากลับไม่แค้นเคืองอะไรเลยตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่เพียงเท่านั้น แต่เขายังไม่แม้กระทั่งคิดจะเอ่ยปากบ่น ยังคงตั้งใจช่วยเธอต่อไปอย่างเงียบๆเธอจะไม่ชอบผู้ชายที่ดีกับเธอขนาดนี้ เธอรังเกียจเขาขนาดนนั้นได้ยังไงกันนะ?เธอคิดถึงกระทั่งว่าตอนนั้นตัวเธอตาบอดหรือพิการทางจิตใจกันแน่“ประธานหลินครับ?”นายธนาคารหลิวยิ้มอย่างขมขื่น ประธานหลินชอบจู่ๆ ก็ไม่พูดไม่จา การพูดคุยกับเธอช่างกินแรงจริงๆ แต่เขาก็ไม่กล้าวางสายเธออยู่ดี“คราวนี้ฉันต้องการใช้ชื่อส่วนตัวของฉันในการกู้ยืมเงินค่ะ ไม่รู้ว่าจะได้ไหมคะ?”“เท่าไรครับ?”“ห้าร้อยล้านค่ะ! ฉันสามารถใช้ทรัพย์สินบางส่วนของตระกูลหลินเป็นหลักประกันได้ แต่ฉันเกรงว่ามูลค่าจะไม่ถึงขนาดนั้น”“ไม่เป็นไร ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของ
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก