อันที่จริงมาถึงจุดนี้แล้ว บนอินเตอร์เน็ตก็ติดฮิตอันดับหนึ่ง ถึงกับทุกแฮชแท็กที่เกี่ยวข้องล้วนติดอันดับ แน่นอนว่าเป็นเหตุฮอตฮิตที่สุด “ซือซือเห็นไหมว่าประธานหลินน่ะจบเห่แล้ว”จางเหยียนเยาะเย้ยและพูดว่า หลิวซือซือกอบโกยผลประโยชน์เข้าตนเอง ไม่เพียงแต่ไม่ช่วยพวกเขาเท่านั้น แล้วยังเลือกอยู่ข้างเย่เทียนหยู่หลิวซือซือดูไม่ค่อยสู้ดีนัก หากสถานการณ์ยังคงดำเนินต่อไปแบบนี้ ประธานหลินมีหวังได้จบเห่กันพอดีเพราะปัจจุบันบนอินเทอร์เน็ตกำลังสาดกันเมามัน ยังมีผู้คนจำนวนมากกำลังสร้างปัญหาและคนที่พวกเขาอยากจะหาล้วนเป็นประธานหลินไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ว่าประธานหลินก็เป็นผู้รับเคราะห์หลักของเรื่องทั้งหมดนี่ในเวลานี้ หลิวเหลิน หลี่ซินเยว่และคนอื่นๆ อีกหลายคนที่สนับสนุนหลินหว่านหรูต่างก็กำลังพากันมองโลกในแง่ร้าย แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้ว่าเรื่องนี้ไม่ได้มุ่งเป้าไปที่ประธานหลินโดยเฉพาะแต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าวันนี้ประธานหลินท่าจะรอดยากแม้เย่เทียนหยู่จะได้รับคำเตือนจากหลินหว่านหรู แต่เขาก็ไม่สามารถเพิกเฉยได้จริง ๆ และพูดกับเฉินเค่อซิน: “เค่อซิน ผมมีบางอย่างที่ต้องจัดการ คุณทานไปก่อนนะ”“อือ!”เฉินเค
จางผิงที่มากับเธอดูหมดหนทาง จริง ๆ แล้วเธอเองก็ไม่เชื่อเช่นกันแต่ตราบใดที่ยังมีโอกาสเธอก็ไม่อยากพลาด ถึงยังไงซะใครจะรู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถจริงหรือไม่แม้ว่าเขาจะไม่เห็นสีหน้าของเฉินเฟยเฟย แต่เย่เทียนหยู่ดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงสภาพจิตใจของอีกฝ่าย ก่อนที่เขาจะยิ้มเล็กน้อย: “ผมมองออกว่าคุณไม่เชื่อใจผม หรืออีกทางคือคุณไม่เชื่อใครเลย”“แต่ถ้าคุณเต็มใจให้โอกาสผม ผมสามารถแสดงให้คุณเห็นผลลัพธ์ที่แท้จริงได้ภายในเวลาไม่หนึ่งถึงวัน”เฉินเฟยเฟยไม่ใช่มือใหม่อย่างที่เธอเคยเป็นอีกต่อไป เมื่อเธอได้ยินแบบนั้น เธอก็พูดอย่างเย็นชา: “คุณไม่จำเป็นต้องพูดมากกว่านี้แล้ว ฉันไม่ใช่เฉินเฟยเฟย ฉันไม่รู้ว่าคุณกำลังพูดถึงอะไร”หลังสิ้นคำพูดเหล่านี้ เธอก็ลุกขึ้นยืนและพูดว่า: “ผิงผิง เราไปกันเถอะ!”จางผิงจนปัญญา เธอจ่ายเงินและลุกขึ้นตามไปแต่ทันทีที่ลุกขึ้น ก็มีชายหนุ่มสองคนและหญิงสาวอีกหนึ่งคนปรากฏตัวที่ประตูชายหนุ่มสองคนกำลังรายล้อมผู้หญิงคนหนึ่ง ส่วนหญิงสาวอีกคนนั้นมีรูปร่างหน้าตาสูงกว่ามาตรฐาน และแต่แต่งตัวได้มีเสน่ห์แถมเขายังมีเครื่องประดับมากมายทั่วร่างกาย ทำให้เขาดูรวยมากชายทั้งสองมองดูแล้วท
“อะไร พูดไม่ออกเหรอ? ไม่มีอะไรจะปฏิเสธเหรอ?”“ในฐานะมนุษย์ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการรู้จักตัวเองให้ชัดเจนและรู้ว่าตัวเองสำคัญแค่ไหน ไม่อย่างนั้นก็มีแต่จะทำให้ตัวเองตาย”จงเหล่ยดูภูมิใจเมื่อนึกถึงว่า สมัยที่เธอเคยเป็นผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟยมาก่อน และวันนี้เธอก็รู้สึกฟินสุด ๆ ที่ได้ทำแบบนี้เฉินเฟยเฟยโกรธมาก เห็นจางผิงถูกทุบตีแบบนี้ เธอรู้สึกไม่สบายใจยิ่งกว่าตัวเองถูกทุบเสียอีกแต่เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้ามอง เพราะชายสองคนที่อยู่ข้าง ๆ กำลังปกป้องจงเหล่ย ต่อให้เธออยากจะทำ แต่เกรงว่ายังไม่ทันได้เข้าไปตบก็คงประสบเคราะห์กรรมก่อนในขณะนี้ มีเสียงแผ่วเบาเข้ามาพูดว่า: “ไม่รู้ว่าพี่สาวคนนี้มาจากไหนนะครับเนี่ย หรือจะเป็นตึกอวี๋หง ถึงได้กล้าบ้าบิ่นขนาดนี้”ทันทีที่คำพูดเหล่านี้หลุดออกไป ทุกคนก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งเฉินเฟยเฟยและจางผิงไม่คิดเลยว่าเย่เทียนหยู่จะช่วยพวกเธอ และพูดล้อจงเหล่ยแบบนี้จงเหล่ยก็ตกตะลึงเช่นกัน เธอต้องใช้เวลาสักพักกว่าจะรู้ว่าเย่เทียนหยู่จงใจเรียกเธอว่าเป็นหญิงขายบริการ และเธอก็โกรธทันที: “แก แก กำลังพูดถึงฉันเหรอ?”“มีใครเหมือนอีก นอกจากคุณ?”“รนหาที่ตาย รู้ไหมว่า
ครั้งนี้ทำเอาทุกคนมองดูด้วยความตกตะลึงนี่มันพลังของมนุษย์เหรอ จะน่ากลัวเกินไปแล้ว แถมยังลงมือรุนแรงขนาดนี้แต่เย่เทียนหยู่ไม่แม้แต่จะแลมองจงเหล่ย เขาจะไปมีเวลาใส่ใจขยะแบบนั้นได้ยังไง เขาออกไปอย่างรวดเร็วก่อนจะบอกลาเฉินเค่อซินแล้วตรงไปที่บริษัททันทีในเวลานี้ จงเหล่ยที่เจ็บไปทั้งร่างกำลังตะเกียกตะกายลุกขึ้นพร้อมกับกุมหน้าไว้ด้วยความโมโหและความตกใจใบหน้าของเธอบวมเป่งไปกว่าครึ่งเฉินเฟยเฟยกับจางผิงตกใจยิ่งกว่า พวกเธอไม่อยากจะเชื่อสายตาของตัวเองเลย“มองอะไรฮะ พวกเธอสองคนคอยดูเถอะ เรื่องนี้พวกแกหนีไปไม่ได้แน่ พวกแกจะต้องถูกรวมไปด้วย”จงเหล่ยพูดด้วยความโมโห ดวงตาทั้งสองราวกับจะมีไฟลุกเฉินเฟยเฟยและจางผิงต่างก็ไม่ได้พูดจา เพียงแต่เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ถึงกับเปลี่ยนที่อยู่ใหม่ เพื่อป้องกันไม่ให้จงเหล่ยหาตัวเจอเพราะพวกเธอมองออกว่า ครั้งนี้จงเหล่ยถูกกระทำและโกรธมาก จะต้องมาตามล้างแค้นพวกเธอแน่เพียงแต่เด็กหนุ่มคนนั้นช่วยพวกเธอไว้มาก แต่เธอกลับไม่ได้บอกขอบคุณเขาเลยถึงขั้นว่าตอนเธอเห็นจงเหล่ยครั้งแรก เธอยังสงสัยด้วยว่าอีกฝ่ายเป็นคนที่จงเหล่ยส่งมาหรือเปล่าไม่อย่างนั้นละก็ จะบังเอิญ
นี่ก็เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เธอเชื่อซูเหวินฮุย และรู้สึกว่าคนที่ทำเรื่องแย่นี่ต้องไม่ใช่เขาแน่“ขอโทษค่ะประธานซู”“ขอโทษแล้วจะได้อะไร ที่ผมมาวันนี้ก็เพื่อดูว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ยังไง ถ้าจบไม่สวย คุณควรจะชดใช้ซะจะเป็นการดีที่สุด” ซูเหวินฮุยเอ่ยอย่างเย็นชา“คุณสบายใจได้เลยค่ะ ฉันจะต้องหาคำอธิบายให้คุณได้แน่”หลินหว่านหรูกัดฟันพูด สิ่งสำคัญที่สุดในยามนี้คือการจัดการกับการประชุมปราบปรามที่หลี่ว์ซิงเหอเป็นคนจัด เขารอคอยมานาน โอกาสแบบนี้ หลี่ว์ซิงเหอไม่มีทางปล่อยหลุดมือเป็นไปตามที่คาด การประชุมเพิ่งจะเริ่มต้น และหลี่ว์ซิงเหอก็ริเริ่มโจมตีใส่หลินหว่านหรูอย่างแรงโดยไม่ปิดบังใดๆเขาพูดต่อหน้าฝูงชนว่าตลอดเวลาเข้ารับตำแหน่งที่ผ่านมาหลินหว่านหรูดึงดันความคิดของตนเป็นใหญ่ เลือกที่รักมักที่ชังขอแค่เธอเป็นคนตัดสิน จะปัญหาใหญ่แค่ไหนเธอก็จะยังดึงดันทำโดยไม่สนคำเตือนแม้แต่น้อยเมื่อก่อนเป็นเพราะผลลัพธ์ออกมาไม่เลว ก็เลยไม่เป็นปัญหาแต่ว่าครั้งนี้ หลี่ว์ซิงเหอเอ่ยถึงเครื่องสำอางว่า “เรื่องการเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง พวกเราเหล่าผู้บริหารระดับสูงคัดค้านมาตลอด”“เพราะเราไร้ความรู้ในด้านนี้ แต
หลินหว่านหรูเข้าใจดีอยู่แล้ว ว่าต้องมีคนวางแผนใส่เธออยู่ภายในนี้ ไม่อย่างนั้นละก็ ผู้คนด้านนอกไม่มีทางพุ่งตรงมาหาเธอแน่นอนเพียงแต่ไม่รู้ว่าเป็นใครกันแน่ เมื่อนึกถึงคำพูดของเย่เทียนหยู่ หรือว่าเรื่องนี้จะเป็นหลี่ว์ซิงเหอทำจริงๆ ?ถ้าไม่มีคนอยู่เบื้องหลัง หลินหว่านหรูคงไม่คิดแบบนี้ แต่ถ้ามีคนสร้างเรื่องจริง หลี่ว์ซิงเหอก็มีแรงจูงใจมากที่สุดแต่ตอนนี้รู้เรื่องนี้ไปแล้วจะได้อะไร เพราะผลลัพธ์มันชัดเจนอยู่แล้วในเวลานี้เอง หลี่ว์ซิงเหอมองดูหลินหว่านหรูอย่างภูมิอกภูมิใจ ใบหน้าของเขาเผยสีหน้าหมดหนทางออกมา ก่อนจะเอ่ยปากว่า “ประธานหลิน อย่าโทษที่ผมต้องตัดญาติขาดมิตรขนาดนี้เลยนะ ตอนนี้มันหมดหนทางแล้วจริงๆ”“ผมว่าตัวคุณเองคงสำนึกได้อยู่แล้วสินะ ว่าผู้เสียหายด้านนอกทุกคนอยากจะฆ่าคุณซะ ถ้าคุณไม่ออกหน้ารับ เรื่องนี้คงไม่จบแน่”“ยิ่งยื้อไปก็ยิ่งทำให้บริษัทเลวร้ายลงกว่าเดิม”“ถ้าคุณไม่ยอมจริงๆ งั้นก็ให้ทุกคนยกมือเป็นการตัดสิน ลองดูซิว่าทุกคนหวังให้บริษัทล้มละลาย ทุกคนตกงาน หรือแม่แต่เงินเดือนก็ไม่ได้รับกันหรือเปล่า”หลี่ว์ซิงเหอมองไปที่ทุกคนขณะที่กำลังพูด เห็นได้ชัดว่าจะทำการโหวตแต่คำพูดของเ
แต่ดูจากตอนนี้แล้ว สงสัยเราคงยังเมตตาเกินไปสินะหลี่ว์ซิงเหอคิดไม่ถึงเลยว่าซูเหวินฮุยจะช่วยเขาขนาดนี้ หัวใจของเขาตื่นเต้น “ประธานหลิน ปัญหาเรื่องการชดใช้ก็ชัดเจนแล้ว ตอนนี้คุณควรจะลาออกแล้วลงไปเผชิญหน้ากับผู้คนที่ร่วมตัวกันอยู่ด้านล่างได้แล้วใช่ไหม” เขาพูดเสียงเข้มพร้อม“ดันทุรังต่อไป มีแต่จะเกิดปัญหาใหญ่”หัวใจของหลินหว่านหรูรู้สึกขมขื่น เธอลุกขึ้นยืนและร่างกายของเธอก็แทบจะยืนไม่อยู่ “ได้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันหลินหว่านหรู…”“ปึง!”ในตอนนั้นเอง ห้องประชุมเกิดเสียงดังลั่น ที่แท้แล้วประตูห้องก็ถูกคนคนหนึ่งถีบให้เปิดออกอย่างแรงแน่นอนว่าคำพูดของหลินหว่านหรูถูกขัดจังหวะทันทีใบหน้าของทุกคนตกตะลึง ใครกัน บุกเข้ามาที่ห้องประชุมในเวลานี้ แถมยังรุนแรงขนาดนั้นแต่หลังจากที่ทุกคนหันไปมอง ผู้คนจำนวนหนึ่งก็จำเขาได้ คิดไม่ถึงว่าคนที่มาจะเป็นเย่เทียนหยู่ หัวหน้าทีมฝ่ายขายหลินหว่านหรูเองก็เพ็งสายตาไปทันที ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเย่เทียนหยู่ หลังจากงุนงงไปชั่วครู่ เขามาทำอะไรที่นี่ แถมยังพังประตูเข้ามาอีกหลิวเหวินและคนอื่นๆ บนแสตนที่นั่งกับหลี่ซินเยว่ที่อยู่ด้านล่างต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็น
ทันทีที่สิ้นคำพูดนี้ หลินหว่านหรูก็หน้าแดงก่ำ ความสุขอันไม่อาจอธิบายซึมผ่านหัวใจของเธอ ต่อให้เธอคิดว่าเขากำลังพูดโม้ หรืออาจะเรียกได้ว่าเป็นเพียงแผนลวงมายาอยู่ก็ตามอันที่จริงทุกคนต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน ตกใจที่เย่เทียนหยู่ปกป้องประธานหลินขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้นคือความสงสัยที่ว่าทำไมเขาถึงดูทรงอำนาจขนาดนี้แต่ภายในใจของหลิวเหวินกลับแอบคิดว่าเห็นทีเธอจะคิดไว้ไม่มีผิด เย่เทียนหยู่กับประธานหลินมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกันแต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้มีอำนาจเก่งกาจอะไร จะช่วยประธานหลินได้ยังไงกันมีแต่หลี่ซินเยว่ที่กำลังตื่นเต้น เย่เทียนหยู่พูดเช่นนี้เขาต้องมีวิธีการแน่แน่นอนว่าหลินหว่านหรูมีความสุขที่สุด แม้เธอจะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่ทำอะไรไม่ได้ แต่เพียงความตั้งใจที่เขามี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วแต่หลี่ว์ซิงเหอโกรธมาก และพูดอย่างเย็นชาว่า “เย่เทียนหยู่ เลิกทำตัวเย่อหยิ่งที่นี่ซะะ ปัญหาของประธานหลิน แม้แต่ตัวประธานหลินเองก็ยังยอมรับ แกมีสิทธิ์อะไรมาสร้างเรื่องที่นี่?”“ถ้ายังรอต่อไป หลินซื่อกรุ๊ปมีหวังได้ถูกแกทำลายพินาศแน่ หรือแกไม่อยากให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีอย่างนั้นรึไง?”เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ทุกคนก็เ
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว