แต่ดูจากตอนนี้แล้ว สงสัยเราคงยังเมตตาเกินไปสินะหลี่ว์ซิงเหอคิดไม่ถึงเลยว่าซูเหวินฮุยจะช่วยเขาขนาดนี้ หัวใจของเขาตื่นเต้น “ประธานหลิน ปัญหาเรื่องการชดใช้ก็ชัดเจนแล้ว ตอนนี้คุณควรจะลาออกแล้วลงไปเผชิญหน้ากับผู้คนที่ร่วมตัวกันอยู่ด้านล่างได้แล้วใช่ไหม” เขาพูดเสียงเข้มพร้อม“ดันทุรังต่อไป มีแต่จะเกิดปัญหาใหญ่”หัวใจของหลินหว่านหรูรู้สึกขมขื่น เธอลุกขึ้นยืนและร่างกายของเธอก็แทบจะยืนไม่อยู่ “ได้ นับจากวันนี้เป็นต้นไป ฉันหลินหว่านหรู…”“ปึง!”ในตอนนั้นเอง ห้องประชุมเกิดเสียงดังลั่น ที่แท้แล้วประตูห้องก็ถูกคนคนหนึ่งถีบให้เปิดออกอย่างแรงแน่นอนว่าคำพูดของหลินหว่านหรูถูกขัดจังหวะทันทีใบหน้าของทุกคนตกตะลึง ใครกัน บุกเข้ามาที่ห้องประชุมในเวลานี้ แถมยังรุนแรงขนาดนั้นแต่หลังจากที่ทุกคนหันไปมอง ผู้คนจำนวนหนึ่งก็จำเขาได้ คิดไม่ถึงว่าคนที่มาจะเป็นเย่เทียนหยู่ หัวหน้าทีมฝ่ายขายหลินหว่านหรูเองก็เพ็งสายตาไปทันที ไม่คาดคิดเลยว่าจะเป็นเย่เทียนหยู่ หลังจากงุนงงไปชั่วครู่ เขามาทำอะไรที่นี่ แถมยังพังประตูเข้ามาอีกหลิวเหวินและคนอื่นๆ บนแสตนที่นั่งกับหลี่ซินเยว่ที่อยู่ด้านล่างต่างก็ตกตะลึงเมื่อเห็น
ทันทีที่สิ้นคำพูดนี้ หลินหว่านหรูก็หน้าแดงก่ำ ความสุขอันไม่อาจอธิบายซึมผ่านหัวใจของเธอ ต่อให้เธอคิดว่าเขากำลังพูดโม้ หรืออาจะเรียกได้ว่าเป็นเพียงแผนลวงมายาอยู่ก็ตามอันที่จริงทุกคนต่างก็ตกใจไม่แพ้กัน ตกใจที่เย่เทียนหยู่ปกป้องประธานหลินขนาดนี้ยิ่งไปกว่านั้นคือความสงสัยที่ว่าทำไมเขาถึงดูทรงอำนาจขนาดนี้แต่ภายในใจของหลิวเหวินกลับแอบคิดว่าเห็นทีเธอจะคิดไว้ไม่มีผิด เย่เทียนหยู่กับประธานหลินมีสัมพันธ์ใกล้ชิดกันแต่เย่เทียนหยู่ไม่ได้มีอำนาจเก่งกาจอะไร จะช่วยประธานหลินได้ยังไงกันมีแต่หลี่ซินเยว่ที่กำลังตื่นเต้น เย่เทียนหยู่พูดเช่นนี้เขาต้องมีวิธีการแน่แน่นอนว่าหลินหว่านหรูมีความสุขที่สุด แม้เธอจะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่ทำอะไรไม่ได้ แต่เพียงความตั้งใจที่เขามี แค่นี้ก็เพียงพอแล้วแต่หลี่ว์ซิงเหอโกรธมาก และพูดอย่างเย็นชาว่า “เย่เทียนหยู่ เลิกทำตัวเย่อหยิ่งที่นี่ซะะ ปัญหาของประธานหลิน แม้แต่ตัวประธานหลินเองก็ยังยอมรับ แกมีสิทธิ์อะไรมาสร้างเรื่องที่นี่?”“ถ้ายังรอต่อไป หลินซื่อกรุ๊ปมีหวังได้ถูกแกทำลายพินาศแน่ หรือแกไม่อยากให้ทุกคนมีชีวิตที่ดีอย่างนั้นรึไง?”เมื่อทุกคนได้ยินดังนั้น ทุกคนก็เ
“รีบไสหัวออกไปซะ เลิกทำร้ายหลินซื่อกรุ๊ปได้แล้ว”“ใช่ ไสหัวออกไปจากที่นี่ซะ”คนที่สนับสนุนหลี่ว์ซิงเหอหลายคนเริ่มพากันพูดทำให้มีผู้คนจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ พยายามขับไล่เย่เทียนหยู่ออกไปเมื่อมองดูฉากตรงหน้า หลี่ว์ซิงเหอดูภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก ก่อนจะเหน็บแนมเขาในใจ เย่เทียนหยู่ ที่แท้แกก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลยสินะ ก็แค่ทำให้คนอื่นตื่นตูม รอดูเถอะว่าฉันจะจัดการแกยังไงหลินหว่านหรูกังวล แม้เธอจะไม่รู้ว่าแผนของเย่เทียนหยู่คืออะไร แต่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเย่เทียนหยู่แค่อยากช่วยเธอ และทำไปเพื่อเธอเท่านั้นเธอกำลังจะเอ่ยปากปกป้องเย่เทียนหยู่แต่เย่เทียนหยู่กลับพูดขึ้นมาก่อนว่า “ประธานหลิว รบกวนหน่อยนะครับ คุณช่วยผมจำหน่อยว่าตอนแรกมีใครบ้างที่อยากจะไล่ผมออกไป เพราะคนพวกนั้นมีสิทธิ์เกี่ยวข้องกับหลี่ว์ซิงเหอมากที่สุด”เมื่อหลิวเหวินได้ยินดังนั้น เธอก็พูดไม่ออกไม่ว่าสถานการณ์ตอนนี้จะเป็นยังไง นายก็ปกป้องตัวเองก่อนเถอะยังจะไปคิดเรื่องนั้นอีกทุกคนถึงกับพูดไม่ออก แต่เย่เทียนหยู่ยังกล่าวต่อ “ส่วนอารมณ์ของผู้คนที่อยู่ด้านนอกนั่นทุกคนไม่ต้องกังวล ก่อนผมจะเข้ามาที่นี่ ผมได้พูดกับผู้รับผิดชอบของอาค
เป็นเพราะทั้งสองไม่ได้พูดคุยกันอย่างละเอียด แรกเริ่มเดิมทีซูเหวินฮวาจึงไม่ได้ให้ข้อมูลแก่เย่เทียนหยู่ เขาต้องการค้นหาให้ชัดเจนยิ่งขึ้นแต่ไม่คิดเลยว่าหลี่ว์ซิงเหอจะลงมือเร็วขนาดนี้ และสถานการณ์ปัจจุบันก็เกิดขึ้นภายในไม่กี่วันแต่ด้วยเหตุนี้ ซูเหวินฮวาจึงไม่เพียงแต่จัดเตรียมเทปบันทึกเท่านั้น แต่ยังให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องอีกมากมายเพื่อช่วยให้คนของเย่เทียนหยู่ดำเนินการได้อย่างรวดเร็วพวกเขาพยายามอย่างหนักเพื่อหาว่าใครบ้างที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ดูแลผิว จนทำให้คนจำนวนหนึ่งเกิดปัญหาผิวแม้หลี่ว์ซิงเหอจะกล้าหาญ แต่ก็ไม่กล้าปล่อยให้ทุกคนต้องทนทุกข์ทรมาน การชดเชยดังกล่าวจะทำลายหลินซื่อกรุ๊ปและจะไม่ทำประโยชน์ใด ๆ ให้กับเขานอกจากนี้ยังมีแผนกบริการลูกค้าที่ทำให้พวกเขาพูดเรื่องไร้สาระแบบนั้นและนำปัญหามาสู่ หลินหว่านหรูแน่นอนว่ายังมีสื่อต่างๆแอบโปรโมตอยู่ด้วยทันทีที่บันทึกนี้ออกมา ทุกคนก็อดไม่ได้ที่จะยืนตะลึงกับจุดนั้นแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้คัดค้าน หลินหว่านหรูอยู่ในใจ แต่พวกเขาเชื่อว่า หลินหว่านหรูล้มเหลวในการควบคุมคุณภาพเครื่องสำอางที่นำไปสู่ปัญหาในปัจจุบันถ้าหลินหว่านหรูไม่ต้องเ
เมื่อหลินหว่านหรูได้ยินก็ยิ่งโมโห “ประธานซู นี่คุณยังข่มขู่กันแบบเปิดเผยอีกเหรอคะ? คุณอย่าลืมนะ ว่าทุกอย่างในห้องนี้จะถูกเผยแพร่ไปด้านนอก คุณไม่กลัวถูกประณามหรือไง?”“ประณาม?”“ใครจะประณาม พวกพนักงานชั้นต่ำที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่น่ะเหรอ?”“น่าตลกสิ้นดี!”ซูเหวินฮุยเผยสีหน้าเย่อหยิ่ง“จะว่าไปแล้ว เมื่อกี้นี้ผมเพิ่งให้คนตัดการเชื่อมต่อของที่นี่กับคนข้างนอกไปน่ะนะ” เขาพูดอย่างเยาะเย้ย“เพราะอย่างนั้นเองสินะ ถึงว่าทำไมถึงได้ผยองขนาดนี้”เย่เทียนหยู่เอ่ย “แต่ว่านะประธานซู เราทำสิ่งใดฟ้าย่อมมีตา คุณไม่กลัวกรรมตามสนองหรือไง?”“กรรมตามสนอง ใครจะมาสนองผมได้ คุณเหรอ?”“หรือไอ้พวกชั้นต่ำไร้สมองข้างนอกนั่น?”“ช่างน่าหัวเราะจริงๆ!”ซูเหวินฮุยพูดอย่างเย็นชา “หลินหว่านหรู ผมจะไม่พูดเหลวไหลกับพวกคุณอีก สรุปแล้ว ถ้าคุณแก้ปัญหาเครื่องสำอางปัวเรต์ไม่ได้ ก็รอชดใช้ก็แล้วกัน”“แต่ว่าตอนนี้คุณทำให้ผมโมโห คงไม่ได้ชดใช้กันแค่เงินสองร้อยห้าสิบล้าน นอกจากชดใช้ด้วยเงินแล้ว ยังมีด้วยชื่อเสียงกับอื่น ๆ ด้วย”“ส่วนคุณ เย่เทียนหยู่ เพลิดเพลินกับชีวิตช่วงนี้ให้ดีเถอะ เพราะวันเวลาของคุณคงเหลืออีกไม่มาก”ยิ่
เรื่องอะไรกัน?ที่แท้เรื่องจริงเป็นแบบนี้อย่างนั้นเหรอ?แต่ที่ประธานหลี่ว์พูดไว้ก็ไม่ผิด หัวหน้าทีมฝ่ายขายตัวเล็ก ๆ อย่างเย่เทียนหยู่ จะไปเอาความกล้าบ้าบิ่นขนาดนี้มาจากไหนถ้าไม่ได้รับคำชี้แนะจากประธานหลิน?แต่ว่า มันเป็นเทปเสียงปลอมจริงหรือเปล่า?มองจากสีหน้าของนายน้อยตระกูลซูแล้ว ดูเหมือนจะไม่ใช่ของปลอมไม่อย่างนั้นละก็ เกรงว่านายน้อยตระกูลซูคงไม่ยอมปล่อยเขาไปง่าย ๆ แบบนี้แน่หลินหว่านหรูโมโหยิ่งกว่า เรื่องราวมันไม่ได้เป็นแบบนั้นเสียหน่อย ตั้งแต่ต้นจนจบ เธอเป็นแค่คนโง่ที่ถูกเรื่องราวพาไป โดยที่ไม่ได้เป็นผู้นำเรื่องราวเลยสักนิดเมื่อเย่เทียนหยู่ได้ยินแบบนั้น เขากลับพูดขึ้นเสียงดังโดยไม่ได้เกรงกลัว “หลี่ว์ซิงเหอ คุณพูดถูกแล้ว เดิมทีประธานหลินไม่ได้วางแผนจะรับผิดชอบความผิดนี้อยู่แล้ว”ทันทีที่สิ้นคำพูด ทุกคนต่างก็ตะลึงงันทุกคนเบิกตากว้าง และเกิดสงสัยหูตัวเองอะไรกัน นี่เย่เทียนหยู่ช่วยประธานหลี่ว์เหรอ?หากหลี่ว์ซิงเหอพูดเอง พวกเขาคงจะเชื่อบ้างไม่เชื่อบ้าง แต่คำพูดของเย่เทียนหยู่ยืนยันทุกอย่างอย่างไม่ต้องสงสัยหลินหว่านหรูสับสนขึ้นมาทันที เธอไม่คิดเลยว่าเย่เทียนหยู่จะพูดยอมรั
หากเธอสามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้จริงๆ ไม่ว่าเธอจะดำเนินนโยบายอะไรก็ตาม การนำไปปฏิบัติก็จะง่ายขึ้น และเธอก็สามารถตระหนักถึงความทะเยอทะยานของเธอได้อย่างแท้จริงและบริษัทจะกลายเป็นเสาหินและเป็นหนึ่งเดียวคนเลวคนนี้คิดไปไกลมากจริงๆแต่ปัญหาก็คือ แค่อาศัยการบันทึกแบบนั้น นอกจากนี้ บันทึกไม่ได้พูดอะไรโดยละเอียด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ว่าหลี่ว์ซิงเหอมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะฉะนั้น เทปบันทึกเสียงเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอเว้นแต่เขาจะเตรียมการอย่างอื่นแต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง การได้รับบันทึกนั้นอยู่นอกเหนือจินตนาการของเขา มีสถานการณ์อื่นใดที่เขาสามารถค้นพบได้หรือไม่?ในขณะนี้ หลิวเหวินก็เข้าใจเช่นกัน เพราะเธอรู้ดีว่าประธานหลินไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้เลย และยังตกใจและสูญเสียอีกด้วยแต่ภายใต้บรรจุภัณฑ์ของเย่เทียนหยู่ ปรากฏว่าประธานหลินรู้ทุกอย่างแล้วและมีไข่มุกแห่งปัญญาอยู่ในมือของเขาหากครั้งนี้ปลอดภัย ประธานหลินก็จะไม่มีข้อจำกัดใดๆ กับความทะเยอทะยานทางธุรกิจของเธออีกต่อไปแต่เห็นได้ชัดว่าหลี่ว์ซิงเหอจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ และดุทันที “คุณยังคงพูดเรื่องไร้สาระ เ
เทียบกับความสงบของคนอื่น เห็นได้ชัดว่าหัวใจของหลี่ว์ซิงเหอกำลังกระสับกระส่าย และเมื่อเขาเห็นชายคนนั้นถูกพาเข้ามา สีหน้าของเขาก็มืดมนลงกว่าเดิมถึงชายคนนี้จะคุกคามเขาได้ไม่มาก แต่มันเป็นการยืนยันว่าเย่เทียนหยู่ค้นพบความจริงซูถิงแอบรวดร้าวในใจ เย่เทียนหยู่สมเป็นเย่เทียนหยู่ ไม่เพียงแค่อำนาจล้นฟ้า แต่ความสามารถของเขายังโดดเด่น เพียงแค่พริบตาก็เปลี่ยนเรื่องราวทุกอย่างได้แต่ว่า ทำไมในสายตาเขาถึงมีแต่หว่านหรู ทำไมเขาถึงไม่มองมาที่คนข้างๆ หว่านหรูอย่างเธอบ้าง?นอกจากฐานะทางบ้านแล้ว เธอแก้หลินหว่านหรูที่ตรงไหนต้องโทษหลินหว่านหรู เป็นผู้ชายที่เธอไม่เอาแท้ๆ แต่ก็ยังเอาแต่คอยพกไว้ข้างกาย ไร้ยางอายเป็นที่สุดหลังจากที่เขาถูกนำตัวเข้ามา สายตาของผู้คนต่างก็จรดไปที่ตัวของชายคนนั้น เพียงแต่พวกเขาไม่รู้จักชายคนนี้เลยแต่เฉินเวยกลับขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเธอรู้จัก แต่จะเป็นเขาไปได้ยังไงกันนี่เป็นเรื่องที่เฉินเวยไม่เคยคาดคิดมาก่อน หรือจะเกิดความเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่าเดิมทีชายคนนี้ก็ชื่อหวงเมา เป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมฝ่ายการผลิต ดูท่าทางเป็นชายเรียบร้อย แต่ความจริงแล้วมีความสามารถไม่น้อย อีกท
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว