หากเธอสามารถผ่านวิกฤตินี้ไปได้จริงๆ ไม่ว่าเธอจะดำเนินนโยบายอะไรก็ตาม การนำไปปฏิบัติก็จะง่ายขึ้น และเธอก็สามารถตระหนักถึงความทะเยอทะยานของเธอได้อย่างแท้จริงและบริษัทจะกลายเป็นเสาหินและเป็นหนึ่งเดียวคนเลวคนนี้คิดไปไกลมากจริงๆแต่ปัญหาก็คือ แค่อาศัยการบันทึกแบบนั้น นอกจากนี้ บันทึกไม่ได้พูดอะไรโดยละเอียด ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะพิสูจน์ว่าหลี่ว์ซิงเหอมีส่วนเกี่ยวข้องเพราะฉะนั้น เทปบันทึกเสียงเพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอเว้นแต่เขาจะเตรียมการอย่างอื่นแต่ท้ายที่สุดแล้ว เขาก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่ง การได้รับบันทึกนั้นอยู่นอกเหนือจินตนาการของเขา มีสถานการณ์อื่นใดที่เขาสามารถค้นพบได้หรือไม่?ในขณะนี้ หลิวเหวินก็เข้าใจเช่นกัน เพราะเธอรู้ดีว่าประธานหลินไม่รู้เรื่องทั้งหมดนี้เลย และยังตกใจและสูญเสียอีกด้วยแต่ภายใต้บรรจุภัณฑ์ของเย่เทียนหยู่ ปรากฏว่าประธานหลินรู้ทุกอย่างแล้วและมีไข่มุกแห่งปัญญาอยู่ในมือของเขาหากครั้งนี้ปลอดภัย ประธานหลินก็จะไม่มีข้อจำกัดใดๆ กับความทะเยอทะยานทางธุรกิจของเธออีกต่อไปแต่เห็นได้ชัดว่าหลี่ว์ซิงเหอจะไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ง่ายๆ และดุทันที “คุณยังคงพูดเรื่องไร้สาระ เ
เทียบกับความสงบของคนอื่น เห็นได้ชัดว่าหัวใจของหลี่ว์ซิงเหอกำลังกระสับกระส่าย และเมื่อเขาเห็นชายคนนั้นถูกพาเข้ามา สีหน้าของเขาก็มืดมนลงกว่าเดิมถึงชายคนนี้จะคุกคามเขาได้ไม่มาก แต่มันเป็นการยืนยันว่าเย่เทียนหยู่ค้นพบความจริงซูถิงแอบรวดร้าวในใจ เย่เทียนหยู่สมเป็นเย่เทียนหยู่ ไม่เพียงแค่อำนาจล้นฟ้า แต่ความสามารถของเขายังโดดเด่น เพียงแค่พริบตาก็เปลี่ยนเรื่องราวทุกอย่างได้แต่ว่า ทำไมในสายตาเขาถึงมีแต่หว่านหรู ทำไมเขาถึงไม่มองมาที่คนข้างๆ หว่านหรูอย่างเธอบ้าง?นอกจากฐานะทางบ้านแล้ว เธอแก้หลินหว่านหรูที่ตรงไหนต้องโทษหลินหว่านหรู เป็นผู้ชายที่เธอไม่เอาแท้ๆ แต่ก็ยังเอาแต่คอยพกไว้ข้างกาย ไร้ยางอายเป็นที่สุดหลังจากที่เขาถูกนำตัวเข้ามา สายตาของผู้คนต่างก็จรดไปที่ตัวของชายคนนั้น เพียงแต่พวกเขาไม่รู้จักชายคนนี้เลยแต่เฉินเวยกลับขมวดคิ้ว เห็นได้ชัดว่าเธอรู้จัก แต่จะเป็นเขาไปได้ยังไงกันนี่เป็นเรื่องที่เฉินเวยไม่เคยคาดคิดมาก่อน หรือจะเกิดความเข้าใจผิดอะไรกันหรือเปล่าเดิมทีชายคนนี้ก็ชื่อหวงเมา เป็นหนึ่งในหัวหน้าทีมฝ่ายการผลิต ดูท่าทางเป็นชายเรียบร้อย แต่ความจริงแล้วมีความสามารถไม่น้อย อีกท
ในยามนี้ เขาเริ่มกลัวขึ้นมาแล้วจริงๆถ้าเป็นคนอื่นก็ไม่เท่าไร แต่หยางอี้ติดตามเขามาหลายปี ฝีมือไม่เลว จัดการทุกอย่างได้มิดชิด และยังทำอะไรหลายอย่างเพื่อเขาเขาไปตกอยู่ในมือเย่เทียนหยู่ได้ยังไงกันแต่ก็เพียงชั่วครู่ ชายอีกคนก็ถูกนำตัวเข้ามาเขาเงยหน้าขึ้นมอง ไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นหยางอี้ คนขับรถของเขาหลี่ว์ซิงเหอหน้าถอดสีทันที ก่อนจะเอ่ยอย่างโมโห “เย่เทียนหยู่ ตกลงคุณต้องการอะไร คุณอยากโยนความผิดให้ผมมากถึงกับไม่เลือกวิธีการเลยรึไง?”“ได้ยังไงกันล่ะ คุณต่างหากโมโหขนาดนี้ หรือจะกลัวซะแล้ว”“ล้อเล่นกันรึไง ผมไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมต้องกลัวด้วย”หลี่ว์ซิงเหอปฏิเสธทันทีและพูดเสียงดัง “หยางอี้ ถึงคุณจะเป็นคนขับรถของผม แต่คุณก็เป็นแค่คนขับ ระวังคำพูดคำจาหน่อย ถ้ากล้าใส่ร้ายผมละก็ อย่ามาโทษที่ผมต้องหยาบคายนะ”“โอ้โห ตอนนี้คุณเริ่มข่มขู่กันแล้วเหรอ?” เย่เทียนหยู่ล้อเลียนเบาๆ“ข่มขู่อะไร? ผมก็แค่เตือนเขา”“ไม่ต้องเตือนหรอกครับ”หยางอี้ส่ายหัวแล้วพูดว่า “ประธานหลี่ว์ เขารู้ทุกหมดอย่างแล้ว คุณยอมรับเถอะนะ”“หยางอี้ หุบปากซะ!” หลี่ว์ซิงเหอโกรธมากหยางอี้ไม่โกรธ เขาเพียงแค่ส่ายหน้าและพูดอ
เมื่อสิ้นคำพูด อย่าว่าแต่หลินหว่านหรูที่โมโห แม้แต่คนอื่นๆ ต่างก็หมดคำจะพูดเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ความจริงทุกคนต่างก็มองออกได้อย่างชัดเจนแล้วว่าทั้งหมดนี่หลี่ว์ซิงเหอเป็นคนทำแต่เขาก็ยังยืนหยัดที่จะปฏิเสธประเด็นไม่ใช่แค่พวกเขา แต่คนที่อยู่ด้านนอกต่างก็โมโหกันแทบคลั่งอย่างนี้เองสินะ ที่แท้ไอ้คนชั่วนี่กำลังทำเรื่องเลวทรามทำร้ายพวกเขา ทำเอาหน้าของพวกเขามีจุดด่างดำยิ่งกว่านั้นพวกเขาไปหาหมอมาแล้ว และตอนนี้ยังไม่มีหนทางรักษาให้หายขาดแม้ว่าเย่เทียนหยู่จะสัญญาให้พวกเขารออย่างอดทน และเขาจะสามารถช่วยพวกเขาจัดการกับจุดด่างดำบนใบหน้า ซึ่งจะช่วยได้จริงหรือไม่ก็ยังไม่แน่ใจถ้าหากไม่สามารถกำจัดจุดด่างดำบนหน้าได้ล่ะ?ในขณะนี้ พวกเขาเกือบจะพุ่งเข้าไปกระทืบหลี่ว์ซิงเหออยู่รำไรหลี่ว์ซิงเหอไม่รับรู้เรื่องราวเลย เขาคิดว่าการถ่ายทอดสดบนหน้าจอขนาดใหญ่ด้านนอกถูกตัดขาดไปแล้วแน่นอนว่าการถ่ายทอดสดบนหน้าจอขนาดใหญ่ด้านนอกเมื่อครู่ถูกตัดการเชื่อมต่อไปจริงๆ แต่หลังจากที่ซูเหวินฮุยจากไปไม่นานก็กลับมาเชื่อมต่ออีกครั้ง เพราะหากไม่เชื่อต่อ พวกเขาก็ไม่อาจต้านความดาดเดือลของผู้คนภายนอกไว้ได้หลินหว่านหรู
“ฟ้องผมเหรอ?”“เหอะๆ ยังจะปากแข็งอีก ถ้าอย่างนั้นคุณลองดูสิว่านั่นใคร”ภายใต้คำสั่งของเย่เทียนหยู่ ที่หน้าประตูก็ปรากฏร่างของคนคนหนึ่งเป็นผู้หญิงคนหนึ่ง แต่หลังจากหลี่ว์ซิงเหอเห็นเธอใบหน้าเขาก็เปลี่ยนไป ไม่อาจรักษาความสงบนิ่งได้อีกแล้ว “สวีหลิน คุณมาทำอะไรที่นี่!” เขาพูดด้วยความโมโหสุดขีดสวีหลินไม่ได้ตอบกลับ เธอค่อยๆ เดินไปข้างหน้าสายตาของผู้คนจับจ้องไปที่เธอ ถ้าเป็นคนก่อนหน้าพวกเขาอาจไม่ค่อยรู้จัก แต่ผู้หญิงตรงหน้าเป็นสาวผู้ช่วยคนสนิทของประธานหลี่ว์ ซึ่งทุกคนคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีไม่ว่าเธอจะเดินไปที่นี่ก็เท่ากับเป็นตัวแทนของประธานหลี่ว์ และประธานหลี่ว์ไว้ใจเธออย่างมาก“สวีหลิน ผมให้คุณได้ทุกอย่างแต่ก็พรากทุกอย่างไปจากคุณได้เหมือนกัน คุณพูดจาอะไรก็ระวังหน่อย”ในเวลานี้ หลี่ว์ซิงเหอคิดอะไรเกินไปไม่ได้อีกแล้ว เขาข่มขู่ออกมาอย่างเปิดเผยสำหรับเขาตอนนี้ มันไม่เกี่ยวกับว่าเขายังต้องการชื่อเสียงหรือไม่ สิ่งที่สำคัญที่สุดคืออย่าให้เย่เทียนหยู่จับหลักฐานได้ ที่เหลือคนอื่นจะคิดยังไงก็ได้สวีหลินส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ประธานหลี่ว์ ฉันขอโทษ ฉันสารภาพทุกอย่างไปแล้วค่ะ”“คุณพูดอะไร!”หล
จางเหยียนสีหน้าไม่สู้ดีนัก เพราะสิ่งที่เธอทำ แค่การไล่ออกยังถือว่าเป็นเรื่องเล็ก กลัวก็แต่จะถูกเรียกร้องให้รับผิดชอบ เธอจึงเอ่ยปากขอวอนโดยไม่รู้ตัว:“ซือซือ ขอร้องล่ะ คุณช่วยหน่อยนะ ถ้าคุณไม่ช่วยฉัน ฉันตายแน่เลย”ในขณะนี้เธอไม่มีความเย่อหยิ่งเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไปไม่ต้องเอ่ยถึงแต่ก่อนที่เธอเอาแต่บอกว่า อยากจัดการกับเย่เทียนหยู่เลยหลิวซือซือส่ายหน้าและพูดอย่างช่วยไม่ได้ “ขอโทษด้วยนะ แต่ฉันช่วยคุณเรื่องนี้ไม่ได้หรอก เพราะความสัมพันธ์ของฉันกับหัวหน้าทีมเย่ไม่ค่อยดีนัก และความผิดที่คุณทำนั้นร้ายแรงมาก”ทันทีที่เธอพูดแบบนี้ เธอก็ตกใจเล็กน้อยและพูดว่า “ทำไมวิดีโอถึงหายไปอีกแล้วล่ะ”แน่นอน วิดีโอถูกตัดขาดไปอีกครั้งผู้คนด้านนอกเองก็ดูได้ถึงตรงนี้ก็มองไม่เห็นอะไรอีก แต่มาถึงจุดนี้พวกเขาไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้นอีกแล้วเพราะถึงยังไง เรื่องราวก็คลี่คลายความจริงแล้วต่อจากนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการจัดการกับผลที่ตามมา การแก้ไขปัญหาและการชดเชยเงินมีคนตั้งมากมายกำลังมองดู อีกทั้งยังมีนักข่าว พวกเขาจะต้องชดเชยให้ไม่น้อยแน่การตัดขาดการติดต่อจากคนภายนอกแบบนี้ แน่นอนว่าเย่เทียนหยู่เป็
“เฮ้อ มาถึงตรงนี้แล้ว คุณก็ยังไม่สำนึกถึงความใจดีของประธานหลินอีก”“ถ้าอย่างนั้นก็ไม่ต้องฟังประธานหลินแล้วเอาตามที่ผมว่า แจ้งตำรวจซะเลยตอนนี้แล้วให้คนของสำนักอุตสาหกรรมและการพาณิชย์เข้าแทรกแซงตรวจสอบ คนที่ควรติดคุกก็ติดซะ ที่ควรโดนปรับก็ปรับไป”เย่เทียนหยู่เอ่ยเสียงเรียบ ระหว่างที่พูดเขาก็ล้วงเอาโทรศัพท์ออกมาทันที “ผมจะโทรแจ้งตำรวจเดี๋ยวนี้” เขาพูดเรื่องนี้ทำเอาผู้คนจ้องเขม็งไปที่โทรศัพท์ของเขาโดยไม่รู้ตัวแม้แต่หลินหว่านหรูเองก็ด้วย ตัวเธอไปมีแผนอะไรตั้งแต่เมื่อไรยังถึงบอกว่าไม่ฟังเธอ แต่ว่าเรื่องนี้หลินหว่านหรูไม่ค่อยอยากแจ้งตำรวจจริงๆ จนแทบอดห้ามเขาไว้ไม่อยู่เพียงแต่หลี่ว์ซิงเหอเป็นฝ่ายทนไม่ไหวเสียก่อน เขานึกว่าเห็นแก่ที่เขาเป็นพนักงานเก่าแก่ของบริษัทจะไม่ทำกับเขาขนาดนั้น แต่ใครจะไปคิดว่าจะเจอคนบ้าแบบเย่เทียนหยู่เขารีบพูดขึ้นทันที “ถ้ายังไงก็ลองฟังแผนของประธานหลินดูก่อน”“ไม่ดีกว่า ผมว่าคุณไม่อยากรับความเมตตา” เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า“ลองฟังก่อนสิ ถ้ายังไว้หน้ากันบ้างผมรับแน่” หลี่ว์ซิงเหอรีบพูด ตอนนี้เขากลัวเข้าแล้วจริงๆหลินหว่านหรูมองไปที่ท่าทางที่ซีดเซียวและวิตกกังวลของ
เมื่อได้ฟังการสนทนาระหว่างทั้งสอง หลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นปกติแล้ว การซื้อหุ้นของหลี่ว์ซิงเหอในราคาห้าร้อยล้านจะถูกมาก แต่ปัญหาคือตอนนี้เธอไม่มีเงินห้าร้อยล้านแล้วเย่เทียนหยู่ไม่ได้ถามเธอด้วยซ้ำว่าเธอมีเงินมากขนาดนั้นหรือไม่ยิ่งไปกว่านั้น ขณะนี้บริษัทได้รับผลกระทบอย่างมาก และจะมีปัญหาที่ใหญ่กว่านี้รออยู่ข้างหน้าในเวลานี้ การใช้จ่ายห้าร้อยล้านเพื่อซื้อหุ้นของหลี่ว์ซิงเหอ อาจไม่ใช่เรื่องที่ดีแต่ในขณะนี้ เธอไม่จะออกมาทำลายแผนไม่ได้คำพูดของเย่เทียนหยู่ทำให้หลี่ว์ซิงเหอพูดไม่ออกแน่นอนว่าการปฏิรูปครั้งใหญ่ของหลินหว่านหรูทำให้มีระยะที่ยากลำบากอยู่บ้างแต่ก็ผ่านกันมาได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็วๆ นี้ ที่บริษัทได้เข้าร่วมหอการค้าหลงเถิงจากนั้นจึงร่วมมือกับนายน้อยซูในอุตสาหกรรมเครื่องสำอางปัวเรต์ เมื่อประกอบกับความร่วมมือของธนาคาร ทุกอย่างกำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็วเพียงแค่ว่า คงต้องอดทนผ่านช่วงเวลาที่การเงินถูกจำกัดเพราะการขยายตัวแบบนี้ไปก่อน โดยเฉพาะครั้งที่แล้วเขาถูกหลิวเจี๋ยหลอก ทำให้เงินทุนของบริษัทหลายสิบล้านได้รับความเสียหายแต่หลี่ว์ซิงเหอกล่าวอย่างรวดเร็
ในตอนที่เหอฉุนเดินออกมา เดิมทีเธอตั้งใจหยิบตั๋วเพิ่มมาสองสามใบ มีที่นั่งดี ๆ ในแถวแรกแค่หนึ่งที่เท่านั้น ส่วนที่นั่งอื่น ๆ อยู่ถัดลงไปด้านหลังอีกเล็กน้อยเวทีตรงนี้จัดไว้เพื่อที่เวลาทำการแสดง แม้ผู้ชมจะนั่งแถวหน้า ก็ไม่จำเป็นต้องเงยหน้าขึ้นเลยแม้แต่น้อย เป็นตำแหน่งที่สบายมากแต่เพราะสายตาที่ไม่อยู่นิ่งของเย่เทียนหยู่ เธอเลยหยิบตั๋วแบบลวก ๆ ให้เขาไปหนึ่งใบ เดิมทีตามคำขอของเฉินเฟยเฟยนั้น คือต้องการให้เย่เทียนหยู่นั่งอยู่ตรงกลางของแถวแรกอย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ได้รับนั้นก็ถือว่าค่อนข้างดีเช่นกัน อยู่ในแถวที่สาม ซึ่งอาจจะสบายกว่าด้วยซ้ำแต่การโต้ตอบกับดารานักร้องนั้น ก็อาจจะลำบากไปสักหน่อยเย่เทียนหยู่สังเกตเห็นอารมณ์ร้ายของเหอฉุนได้โดยธรรมชาติ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่เด็ก ๆ แล้ว แถมอารมณ์ร้ายอีกต่างหาก เธอคงเคยถูกผู้ชายรังแกมาสินะในครั้งนี้ เขานั้นทายถูกแล้วจริง ๆแน่นอนว่าเย่เทียนหยู่ก็ไม่คิดที่จะถือสาเรื่องเล็กน้อยพวกนี้อยู่แล้ว เขาเหลือบมองหมายเลขบนตั๋ว และเดินตามฝูงชนเข้าไปด้านในหลังจากผ่านความยากลำบากในการแหวกฝูงชนเข้ามา ในที่สุดเย่เทียนหยู่ก็พบที่นั่งของเขาที่อยู่ตรง
เธอถึงขั้นตั้งใจสืบเรื่องนี้มาโดยเฉพาะ และพบว่าตระกูลหนานกงเป็นถึงหนึ่งในตระกูลอันดับต้น ๆ ของอาณาจักรมังกร พวกเขามีความแข็งแกร่งที่น่าสะพรึงกลัว แทบจะไม่มีใครสามารถเทียบเคียงพวกเขาได้เลยพี่เย่เก่งกาจมากก็จริง หากเป็นแค่ตระกูลทั่วไปในเมืองตะวันออก เธอก็อาจจะลองเสี่ยงดวงดู แต่เมื่อต้องเผชิญหน้ากับตระกูลหนานกง ไม่ว่ายังไงก็ไม่มีทางรับมือพวกเขาได้เลย“คุณเย่จะมาเหรอคะ?” จางผิงถามด้วยความประหลาดใจ“อือ ฉันเชิญเขามาชมคอนเสิร์ตของฉันในคืนนี้ และเขาเองก็ตอบตกลงแล้วด้วย” เมื่อพูดถึงเย่เทียนหยู่ ใบหน้าของเฉินเฟยเฟยก็แสดงถึงความปิติขึ้นมา“ได้ค่ะ!”จางผิงพยักหน้า แต่ในใจเธอกลับกำลังคิดอยู่ว่า เธอควรจะใช้วิธีไหนเพื่อทำให้คุณเย่รู้เรื่องที่พี่เฟยเฟยกำลังถูกรังแกโดยเธอไม่จำเป็นต้องเป็นคนพูดดีไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด เธอถึงมักคิดว่าตัวตนของคุณเย่นั้นไม่ธรรมดาบางที เขาอาจจะมีวิธีรับมือจริง ๆ ก็ได้เหอฉุนไม่ได้พูดอะไรอีก เธอเองก็อยากที่จะพบกับบุคคลในตำนานคนนี้เหมือนกัน ดูว่าเขาโดดเด่นอย่างที่ทุกคนพูดกันจริงไหมแน่นอน หากดูจากเหตุการณ์ของปาร์คดาฮยอนก่อนหน้านี้แล้ว คนคนนี้น่าจะพอมีความสามา
เกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว สุดท้ายหลินหว่านหรูก็ตัดสินใจปล่อยให้เป็นเรื่องของเวลา ยังไงอีกไม่นานความจริงก็จะถูกเปิดเผยออกมาแล้วและในเวลาเดียวกันนั้นเอง หญิงสาวทั้งสามคนกำลังนั่งอยู่ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ใกล้กับสนามกีฬาคนหนึ่งคือเฉินเฟยเฟย นักร้องชื่อดังจากอาณาจักรมังกร ตอนนี้เฉินเฟยเฟยกำลังโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ แม้ว่าเธอจะต้องแบกรับแรงกดดันที่ค่อนข้างสูง แต่ตอนนี้เธอก็ค่อย ๆ ดีขึ้นมาบ้างแล้วอีกคนคืออดีตผู้ช่วยของเฉินเฟยเฟย ซึ่งปัจจุบันคนที่ทำหน้าที่แทนคือจางผิงคนสุดท้ายเป็นหญิงวัยสามสิบกว่า ๆ ที่มีใบหน้างดงาม หุ่นค่อนข้างสูง ทั้งหน้าอกและบั้นท้ายดูอวบอิ่ม มีเสน่ห์เฉพาะตัวในแบบของผู้หญิงที่อยู่ในวัยผู้ใหญ่และก็เป็นเพราะไม่สามารถทนต่อการคุกคามจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดิมได้ เธอจึงถูกบังคับให้ลาออก นอกจากนี้ก็เป็นเพราะได้รู้จักกับเฉินเฟยเฟย เฉินเฟยเฟยที่เดิมทีไม่ต้องการจะอยู่ภายใต้การควบคุมของบริษัท ดังนั้นสตูดิโอส่วนตัวของเธอเองจึงต้องการผู้จัดการด้วยเช่นกันเหอฉุนจึงเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตำแหน่งนี้ เธอเป็นคนที่มีความสามารถ เธอจัดการทุกอย่างได้อย่างเป็นระเบียบแต่เพราะค
หลังจากลังเลอยู่สักพัก เธอก็กดเบอร์โทรหาแม่ตระกูลหลินโดยตรง“ฮัลโหล!”“แม่ หนูเองนะคะ!”“อ๋อ หว่านหรูเองเหรอ” แม่ตระกูลหลินรู้สึกประหม่าในตอนแรก แต่เธอก็สงบสติอารมณ์ลงทันที และถามออกไปว่า “แกเป็นไงบ้าง ช่วงนี้สบายดีไหม”“ก็ดีค่ะ แค่มีเรื่องเกิดขึ้นนิดหน่อย”“แกหมายถึงเรื่องของปาร์คดาฮยอนนั่นน่ะเหรอ ฉันเองก็ติดตามข่าวนี้อยู่เหมือนกัน ปาร์คดาฮยอนนั่นเป็นคนที่ไร้ยางอายมากจริง ๆ นั่นแหละ ชาวเน็ตหน้าโง่พวกนั้นด้วย”“แต่ยังไงฉันก็เชื่อว่าขอแค่มีเทียนหยู่ แกจะต้องไม่เป็นไร เพราะงั้นฉันเลยไม่โทรศัพท์ไปรบกวนแก”แม่ตระกูลหลินอธิบายอย่างรวดเร็วในฐานะแม่ ตอนนั้นเธอไม่แม้แต่จะโทรหาเพื่อถามไถ่เลยด้วยซ้ำ เป็นเรื่องที่รับไม่ได้จริง ๆ“อืม เป็นอย่างที่ว่าแหละค่ะ ครั้งนี้ต้องขอบคุณเทียนหยู่มากจริง ๆ” หลินหว่านหรูลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังคงเลือกที่จะถามออกไป “แม่คะ ไม่นานมานี้มีข่าวเชิงลบเกี่ยวกับหนูบนโลกอินเทอร์เน็ต แม่เห็นหรือยังคะ?”“ข่าวอะไรเหรอ แม่ไม่ค่อยเล่นอินเทอร์เน็ตสักเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอะไรพวกนี้ด้วย เลยไม่รู้เรื่องน่ะ เรื่องของปาร์คดาฮยอนเองก็ฟังจากปากคนอื่
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว