จากท่าทางลุ่มหลงและเพลิดเพลินของเย่เทียนหยู่ เห็นได้ชัดว่าเขาเองก็หลงทางไปเล็กน้อยแต่ในขณะนี้ท่าทางโกรธของหลินหว่านหรูก็แวบขึ้นมาในใจของเขาเขาได้สติขึ้นมาในทันที เขาสัญญากับหลินหว่านหรูไว้แล้วว่าเขาจะรักเพียงแค่เธอเท่านั้น แล้วเขาจะทำมั่วซั่วแบบนี้ได้ยังไงทันใดนั้นดนตรีก็หยุดลงทุกคนหยุดการเคลื่อนไหว และหลายคนมองไปยังเย่เทียนหยู่หลังจากที่หยางเฉียนเฉียนหยุด ใบหน้าของเธอก็แดงมากขึ้น และร่างกายของเธอก็ล้มทับแนบตัวอิงเข้ากับเย่เทียนหยู่ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเธอเหนื่อยหรือเพราะเธอรู้สึกอ่อนแอเมื่อได้อยู่ในอ้อมแขนของเย่เทียนหยู่กันแน่แต่เธอเพลิดเพลินกับความรู้สึกนี้มากในเวลานี้ไม่มีเสียงเพลงแล้ว เย่เทียนหยู่พยายามผลักหยางเฉียนเฉียนอย่างใจเย็น และในขณะเดียวกันเขาก็กระซิบว่า: “ทุกคนกำลังมองอยู่นะ เราลงไปกันเถอะ”“ฉันไม่กล้ามองใครเลย คุณอุ้มฉันลงไปหน่อยนะคะ” หยางเฉียนเฉียนพึมพำเย่เทียนหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตัวเหมือนลิงให้คนอื่นดู เขาอุ้มหยางเฉียนเฉียนลงไปในขณะที่ทุกคนมองเธอด้วยความอิจฉาแต่สิ่งที่ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูก คือเมื่อเขามาถึงที่นั่ง หยางเฉียนเฉียนกลับไม่ยอมลง
“ทำร้ายคุณแล้วจะทำไม? ถ้ายังพูดไร้สาระผมจะฆ่าคุณซะ!”เย่เทียนหยู่พูดไม่ออกจริง ๆ ทำไมหมาแมวอะไรก็กล้าออกอาละวาดกันขนาดนี้“ฮ่าฮ่า อย่างมึงน่ะเหรอ จะฆ่ากู มาสิ กูก็ยืนอยู่ตรงหน้ามึงแล้วนี่ไง ถ้ามึงเก่งจริงก็ฆ่ากูสิวะ”ชายคนนั้นหัวเราะเสียงดังและแม้แต่เริ่มขยับหน้าเข้าหาเธอด้วยซ้ำ“โง่!”หลังจากที่เย่เทียนหยู่ด่าเสร็จ เขาก็เตะชายคนนั้นออกไปอย่างแรงชายคนนั้นตกตะลึงอยู่ชั่วครู่และคิดจะหลบ แต่กลับพบว่าไม่มีทางให้หลับได้เลย เขาจึงถูกเตะกระเด็นออกไปอย่างแรงจนมาตกลงตรงจุดที่ไกลออกไปเขาปวดมากจนลุกขยับตัวไม่ได้เลยแรงขนาดนี้ น่ากลัวเกินไปแล้วแม้แต่เพื่อนของชายคนนั้นก็อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลาย ก่อนจะพากันเก็บเท้าที่ก้าวออกมาแล้วอย่างรวดเร็ว แถมไม่กล้าพูดอะไรสักคำพวกเขารู้ตัวแล้วว่า คราวนี้พวกเขาเจอคนจริงเข้าให้แล้วเย่เทียนหยู่ไม่สนใจที่จะโต้เถียงกับอันธพาลพวกนี้ เขาอุ้มหยางเฉียนเฉียนขึ้นมาแล้วเดินออกไปมีคนจำนวนมากพากันออกความเห็นต่าง ๆ นานา แต่การอยู่ต่อไปจะไม่ส่งผลดีต่อใครเลย ไม่ว่าจะเขาหรือหยางเฉียนเฉียน โดยเฉพาะสำหรับผู้หญิงที่อ่อนแอเช่นหยางเฉียนเฉียนหยางเฉียนเฉียนไม่ได้พูดอะไร
เวลา 9 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น โทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่ก็ดังก่อนที่เขาจะตื่น หลังจากรับสาย เขาก็รู้ว่าเป็นคุณแม่ตระกูลหลินที่โทรหาเขา และอยากมาเยี่ยมเย่เทียนหยู่ไม่มีเวลาคุยกับพวกเขา ดังนั้น เขาจึงปฏิเสธไป แต่คุณแม่ตระกูลหลินยืนกรานที่จะถาม เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนัดหมายเพื่อไปพบกันที่ชั้นล่างของบริษัทยังไงก็ต้องไปบริษัทเสียหน่อยหลังจากได้ฟังแบบนั้น คุณแม่ตระกูลหลินก็พบว่าเย่เทียนหยู่ไปทำงานในบริษัทของลูกสาวเธอแล้วถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะโกรธมาก แต่ในขณะนี้ เธอก็แอบมีความสุข ลูกสาวของเธอนี่สายตาดีจริง ๆ เลยนะ รู้จักใช้ประโยชน์จากเย่เทียนหยู่ตั้งแต่เนิ่น ๆด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่สามีภรรยามาถึงบริษัทตอน 10 โมงเช้า และบอกว่าอยากคุยกับเย่เทียนหยู่เรื่องนี้ทำให้หลินหว่านหรูตกใจมาก และเธอก็รีบเรียกพวกเขาเข้าไปในห้องทำงานของเธอ เธอเตือนพวกเขาว่าไม่มีใครรู้ว่าเย่เทียนหยู่คือสามีของเธอถ้าเธอไม่รู้เรื่องของหยางเฉียนเฉียนกับเย่เทียนหยู่ คุณแม่ตระกูลหลินคงจะไม่พอใจอย่างแน่นอน เพราะการเป็นสามีภรรยากันก็ควรจะแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาให้ทุกคนรู้ไปเลย ให้ดีก็กินข้าวตอนข้าวร้อน มีลูกอีกสั
“เดี๋ยวก่อน ใครบอกคุณว่าอนาคตผมจะเป็นลูกเขยตระกูลหยาง”“เทียนหยู่ คุณมองสถานการณ์ไม่ชัดเจนจริง ๆ เหรอ ลองคิดดูสิ ประธานหยางให้ความสำคัญกับคุณมาก ถ้าคุณขัดความปรารถนาของเขา จุดจบมันจะอนาถขนาดไหน”“ยิ่งกว่านั้น อาก็ได้ยินมานะ ว่าลูกสาวของประธานหยางสวยสดงดงามมาก เป็นสาวงามที่หาตัวได้อยาก เธอสวยและมีเสน่ห์กว่าหว่านหรูอีกนะ”คุณพ่อตระกูลหลินชักชวนคุณแม่ตระกูลหลินถึงกับกระซิบ: “เทียนหยู่ น้ารู้ว่าคุณชอบหว่านหรู แต่สำหรับคุณ การเป็นลูกเขยของตระกูลหยางคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”“สำหรับหว่านหรูน่ะ ถ้าคุณชอบเธอจริง ๆ ในอนาคตก็ค่อยแอบมาหาเธอเอา แค่ระวังอย่าท้องก็พอแล้ว และก็อย่าให้ประธานหยางรู้เรื่องนี้”หลินหว่านหรูตกใจกับสิ่งที่เธอพูดและพูดด้วยความโกรธ: “แม่ นี่แม่กำลังพูดเรื่องอะไรคะ?”“มันก็เพื่อผลประโยชน์ของลูกเองไม่ใช่รึไง ลูกไม่เต็มใจที่จะปล่อยเย่เทียนหยู่ไปไม่ใช่เหรอ? ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ เขาสามารถเป็นลูกเขยตระกูลหยางและได้รับอิทธิพลมหาศาล แถมลูกยังอยู่กับคนที่ลูกรักได้ด้วย”“หยุดนะ ถ้าแม่ยังพูดไร้สาระอีกหนูจะโกรธแล้ว” หลินหว่านหรูโกรธมาก นี่พวกเขาเห็นเธอเป็นคนแบบไหน?“เอาล่ะ หยุดทะเลา
“เทียนหยู่ คุณหมายความว่ายังไง” คุณแม่ตระกูลหลินดูไม่เชื่อเลยสักนิด“ใช่ เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าคุณหนูหยางรู้เกี่ยวกับการแต่งงานของคุณกับหว่านหรูแล้ว?” พ่อหลินถามอย่างกังวล ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ ไม่ใช่มีหวังได้ถูกเก็บกวาดกันหมดเหรอ“ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หยางเฉียนเฉียนเพิ่งหมั้นหมายกับคนอื่นเมื่อเช้านี้”อะไรนะ!ทันทีที่สิ้นคำพูดเหล่านี้ ทุกคนก็ตกตะลึงโดยเฉพาะ หลินหว่านหรูที่ดูประหลาดใจมาก แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามิตรภาพระหว่างเย่เทียนหยู่และหยางเฉียนเฉียนนั้นลึกซึ้งแค่ไหน แต่เธอก็มองสายตาของหยางเฉียนเฉียนออกไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นชอบเย่เทียนหยู่มากแค่ไหน ดวงตาของเธอไม่อาจโกหกได้ในกรณีนี้ เธอจะหมั้นหมายกับคนอื่นได้ยังไง?โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวลือว่าประธานหยางรักลูกสาวล้ำค่าคนนี้มากและมีพลังมหาศาลเช่นนี้ โดยปกติแล้วน่าจะให้อิสระในการเลือกคู่ครองแก่ลูกสาวสิคุณแม่ตระกูลหลินยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ และถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงหมั้นกันล่ะ? คุณทำให้ใครขุ่นเคืองบ้างหรือเปล่า?”“นั่นสิ เทียนหยู่ คุณทำอะไรไป?”คุณพ่อตระกูลหลินถามด้วยความโกรธ เย่เ
“แบบนี้แล้วละก็ ขอแค่ไม่ใช่คนโง่ก็คงต้องเลือกพรรคถังอย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นการที่เย่เทียนหยู่ถูกไล่ออกมาก็เป็นเรื่องปกติ”คุณพ่อตระกูลหลินอธิบาย“อย่างนี้เองสินะ ถ้าอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเย่เทียนหยู่ก็จะกลับไปเป็นพวกไร้ประโยชน์อีกแล้วสิ เพราะถึงยังไงซะ หยางต้าฝูก็คงจะไม่คุ้มกะลาหัวเขาต่อไปแน่”คุณแม่ตระกูลหลินก็ตระหนักได้ทันที“ก็น่าจะอย่างนั้นล่ะ”“ดูเหมือนว่าเย่เทียนหยู่คงจะถูกกำหนดให้ทั้งชีวิตเป็นได้แค่เหลือบไรแล้วสินะ โอกาสดีแบบนี้ก็ยังพลาดไปได้” หลินหงส่ายหน้า“เขาไม่ใช่แค่ขยะเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นตัวอัปโชคด้วย”คุณแม่ตระกูลหลินเปลี่ยนสีหน้าทันทีและพูดว่า: “เย่เทียนหยู่ ในเมื่อประธานหยางไม่ได้ชอบแกแล้ว หว่านหรูของเราก็คงไม่ชอบแกเหมือนกัน เพราะงั้นควรจะทำยังไง แกคงรู้ดีสินะ?”เย่เทียนหยู่ที่ยืนอยู่ถึงกับตกตะลึงเขาเพิ่งได้รับข่าวแล้วยังไม่ทันได้เริ่มอธิบายอะไรเลยสักคำ ก็เริ่มโจมตีเขาแล้วเหรอ การเปลี่ยนหน้าของคนพวกนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆในขณะนั้นเอง หลินหว่านหรูโกรธจัดและพูดออกไปว่า “พ่อกับแม่หมายความว่ายังไงกันคะ? เป็นคนทั้งทีต้องบ้าอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”“อะไรเรียกว่าบ้าอำ
“อีกครึ่งปี?”“ตอนแรกก็ครึ่งเดือน ตอนนี้ก็มาครึ่งปี แกคิดว่าพวกเราโง่หรือยังไง?”คุณแม่ตระกูลหลินตอบด้วยความโกรธ“ใช่ ทำแบบนั้นไม่ได้แน่นอน เราจะไม่มีวันตกลง!”“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อผม ผมก็คงช่วยไม่ได้ สรุปคือ เว้นเสียแต่หว่านหรูจะเป็นคนไล่ผมเอง ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบพ่อแม่ตระกูลหลินโกรธมาก ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้น และเธอก็กดวางสายไป แต่หลิวเหวินก็โทรมาอีกครั้งเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกดรับ ทันทีที่เธอรับสาย น้ำเสียงเร่งด่วนของหลิวเหวินก็ดังขึ้นว่า: “ประธานหลิน มีคนจากสถานีตำรวจบอกว่าพวกเขาต้องการจับกุมเย่เทียนหยู่ค่ะ”“อะไรนะ!”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยู่“ฉันกำลังให้คนตามหาเขาอยู่ค่ะ”หลิวเหวินพูดก่อนวางสายโทรศัพท์“มีเรื่องอะไร?”พ่อแม่ตระกูลหลินได้ยินมาว่ามีคนจากสถานีตำรวจดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเย่เทียนหยู่ หลินหว่านหรูเพิกเฉยต่อเธอและถามเย่เทียนหยู่: “เย่เทียนหยู่ นายไปทำอะไรมา คนของสถานีตำรวจมาที่บริษัทเพื่อจับกุมนาย”“จับผม?”“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”เย่เทียนหยู่ก็สับสนเล็กน
โดยเฉพาะ ข่าวสมัยก่อนที่ว่าลูกเขยสังหารโหดทั้งครอบครัวเพราะความโกรธ น่ากลัวมากสีหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนไปทันที และเธอพูดด้วยความกังวล: “คุณตำรวจ คุณเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ? เย่เทียนหยู่เป็นที่ซื่อมากเลยนะคะ ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอกค่ะ”“เขาได้ทำหรือไม่ หลังจากการสอบสวนเราก็จะได้รู้กันแน่ชัดเจนแล้วค่ะ”“ใส่กุญแจมือ!”ตำรวจหญิงจึงสั่งการเจ้าหน้าที่ของเธอเย่เทียนหยู่ไม่ได้ขัดขืน และขมวดคิ้ว: “คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคุณไปเอาข้อมูลมาจากไหน แต่คุณต้องเข้าใจผิดคนแน่”ตำรวจสาวดูเฉยเมย ทุกครั้งที่มีนักโทษถูกจับกุมต่างก็ล้วนปฏิเสธกันทั้งนั้น “ไว้เราจะรู้เองว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหรือไม่ แต่คุณต้องมากับฉันก่อน”“แต่ฉันต้องรู้ว่าทำไมฉันถึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ผมฆ่าใคร?”“คุณจะรู้เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ”“เอาตัวไป!”เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงไม่ได้พูดคำว่า ในประเทศแห่งนี้ ทุกคนมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในสืบสวนคดี เพียงแต่จับเขาใส่กุญแจมืออย่างไม่เหมาะสมแต่เย่เทียนหยู่คนนี้มีฝีมือไม่ธรรมดา และเป็นบุคคลที่อันตรายอย่างยิ่งเย่เทียนหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถูกใส่กุญแจมือและเอาตัวไปในเวล