เวลา 9 โมงเช้าของวันรุ่งขึ้น โทรศัพท์มือถือของเย่เทียนหยู่ก็ดังก่อนที่เขาจะตื่น หลังจากรับสาย เขาก็รู้ว่าเป็นคุณแม่ตระกูลหลินที่โทรหาเขา และอยากมาเยี่ยมเย่เทียนหยู่ไม่มีเวลาคุยกับพวกเขา ดังนั้น เขาจึงปฏิเสธไป แต่คุณแม่ตระกูลหลินยืนกรานที่จะถาม เขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากนัดหมายเพื่อไปพบกันที่ชั้นล่างของบริษัทยังไงก็ต้องไปบริษัทเสียหน่อยหลังจากได้ฟังแบบนั้น คุณแม่ตระกูลหลินก็พบว่าเย่เทียนหยู่ไปทำงานในบริษัทของลูกสาวเธอแล้วถ้าเป็นเมื่อก่อนเธอคงจะโกรธมาก แต่ในขณะนี้ เธอก็แอบมีความสุข ลูกสาวของเธอนี่สายตาดีจริง ๆ เลยนะ รู้จักใช้ประโยชน์จากเย่เทียนหยู่ตั้งแต่เนิ่น ๆด้วยเหตุนี้ ทั้งคู่สามีภรรยามาถึงบริษัทตอน 10 โมงเช้า และบอกว่าอยากคุยกับเย่เทียนหยู่เรื่องนี้ทำให้หลินหว่านหรูตกใจมาก และเธอก็รีบเรียกพวกเขาเข้าไปในห้องทำงานของเธอ เธอเตือนพวกเขาว่าไม่มีใครรู้ว่าเย่เทียนหยู่คือสามีของเธอถ้าเธอไม่รู้เรื่องของหยางเฉียนเฉียนกับเย่เทียนหยู่ คุณแม่ตระกูลหลินคงจะไม่พอใจอย่างแน่นอน เพราะการเป็นสามีภรรยากันก็ควรจะแสดงออกอย่างตรงไปตรงมาให้ทุกคนรู้ไปเลย ให้ดีก็กินข้าวตอนข้าวร้อน มีลูกอีกสั
“เดี๋ยวก่อน ใครบอกคุณว่าอนาคตผมจะเป็นลูกเขยตระกูลหยาง”“เทียนหยู่ คุณมองสถานการณ์ไม่ชัดเจนจริง ๆ เหรอ ลองคิดดูสิ ประธานหยางให้ความสำคัญกับคุณมาก ถ้าคุณขัดความปรารถนาของเขา จุดจบมันจะอนาถขนาดไหน”“ยิ่งกว่านั้น อาก็ได้ยินมานะ ว่าลูกสาวของประธานหยางสวยสดงดงามมาก เป็นสาวงามที่หาตัวได้อยาก เธอสวยและมีเสน่ห์กว่าหว่านหรูอีกนะ”คุณพ่อตระกูลหลินชักชวนคุณแม่ตระกูลหลินถึงกับกระซิบ: “เทียนหยู่ น้ารู้ว่าคุณชอบหว่านหรู แต่สำหรับคุณ การเป็นลูกเขยของตระกูลหยางคือสิ่งที่สำคัญที่สุด”“สำหรับหว่านหรูน่ะ ถ้าคุณชอบเธอจริง ๆ ในอนาคตก็ค่อยแอบมาหาเธอเอา แค่ระวังอย่าท้องก็พอแล้ว และก็อย่าให้ประธานหยางรู้เรื่องนี้”หลินหว่านหรูตกใจกับสิ่งที่เธอพูดและพูดด้วยความโกรธ: “แม่ นี่แม่กำลังพูดเรื่องอะไรคะ?”“มันก็เพื่อผลประโยชน์ของลูกเองไม่ใช่รึไง ลูกไม่เต็มใจที่จะปล่อยเย่เทียนหยู่ไปไม่ใช่เหรอ? ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ เขาสามารถเป็นลูกเขยตระกูลหยางและได้รับอิทธิพลมหาศาล แถมลูกยังอยู่กับคนที่ลูกรักได้ด้วย”“หยุดนะ ถ้าแม่ยังพูดไร้สาระอีกหนูจะโกรธแล้ว” หลินหว่านหรูโกรธมาก นี่พวกเขาเห็นเธอเป็นคนแบบไหน?“เอาล่ะ หยุดทะเลา
“เทียนหยู่ คุณหมายความว่ายังไง” คุณแม่ตระกูลหลินดูไม่เชื่อเลยสักนิด“ใช่ เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าคุณหนูหยางรู้เกี่ยวกับการแต่งงานของคุณกับหว่านหรูแล้ว?” พ่อหลินถามอย่างกังวล ถ้าเป็นแบบนั้นละก็ ไม่ใช่มีหวังได้ถูกเก็บกวาดกันหมดเหรอ“ไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “หยางเฉียนเฉียนเพิ่งหมั้นหมายกับคนอื่นเมื่อเช้านี้”อะไรนะ!ทันทีที่สิ้นคำพูดเหล่านี้ ทุกคนก็ตกตะลึงโดยเฉพาะ หลินหว่านหรูที่ดูประหลาดใจมาก แม้ว่าเธอจะไม่รู้ว่ามิตรภาพระหว่างเย่เทียนหยู่และหยางเฉียนเฉียนนั้นลึกซึ้งแค่ไหน แต่เธอก็มองสายตาของหยางเฉียนเฉียนออกไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นชอบเย่เทียนหยู่มากแค่ไหน ดวงตาของเธอไม่อาจโกหกได้ในกรณีนี้ เธอจะหมั้นหมายกับคนอื่นได้ยังไง?โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีข่าวลือว่าประธานหยางรักลูกสาวล้ำค่าคนนี้มากและมีพลังมหาศาลเช่นนี้ โดยปกติแล้วน่าจะให้อิสระในการเลือกคู่ครองแก่ลูกสาวสิคุณแม่ตระกูลหลินยิ่งกังวลมากขึ้นเรื่อย ๆ และถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงหมั้นกันล่ะ? คุณทำให้ใครขุ่นเคืองบ้างหรือเปล่า?”“นั่นสิ เทียนหยู่ คุณทำอะไรไป?”คุณพ่อตระกูลหลินถามด้วยความโกรธ เย่เ
“แบบนี้แล้วละก็ ขอแค่ไม่ใช่คนโง่ก็คงต้องเลือกพรรคถังอย่างแน่นอน เพราะอย่างนั้นการที่เย่เทียนหยู่ถูกไล่ออกมาก็เป็นเรื่องปกติ”คุณพ่อตระกูลหลินอธิบาย“อย่างนี้เองสินะ ถ้าอย่างนั้น ไม่ใช่ว่าเย่เทียนหยู่ก็จะกลับไปเป็นพวกไร้ประโยชน์อีกแล้วสิ เพราะถึงยังไงซะ หยางต้าฝูก็คงจะไม่คุ้มกะลาหัวเขาต่อไปแน่”คุณแม่ตระกูลหลินก็ตระหนักได้ทันที“ก็น่าจะอย่างนั้นล่ะ”“ดูเหมือนว่าเย่เทียนหยู่คงจะถูกกำหนดให้ทั้งชีวิตเป็นได้แค่เหลือบไรแล้วสินะ โอกาสดีแบบนี้ก็ยังพลาดไปได้” หลินหงส่ายหน้า“เขาไม่ใช่แค่ขยะเท่านั้นนะ แต่ยังเป็นตัวอัปโชคด้วย”คุณแม่ตระกูลหลินเปลี่ยนสีหน้าทันทีและพูดว่า: “เย่เทียนหยู่ ในเมื่อประธานหยางไม่ได้ชอบแกแล้ว หว่านหรูของเราก็คงไม่ชอบแกเหมือนกัน เพราะงั้นควรจะทำยังไง แกคงรู้ดีสินะ?”เย่เทียนหยู่ที่ยืนอยู่ถึงกับตกตะลึงเขาเพิ่งได้รับข่าวแล้วยังไม่ทันได้เริ่มอธิบายอะไรเลยสักคำ ก็เริ่มโจมตีเขาแล้วเหรอ การเปลี่ยนหน้าของคนพวกนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆในขณะนั้นเอง หลินหว่านหรูโกรธจัดและพูดออกไปว่า “พ่อกับแม่หมายความว่ายังไงกันคะ? เป็นคนทั้งทีต้องบ้าอำนาจขนาดนั้นเลยเหรอคะ?”“อะไรเรียกว่าบ้าอำ
“อีกครึ่งปี?”“ตอนแรกก็ครึ่งเดือน ตอนนี้ก็มาครึ่งปี แกคิดว่าพวกเราโง่หรือยังไง?”คุณแม่ตระกูลหลินตอบด้วยความโกรธ“ใช่ ทำแบบนั้นไม่ได้แน่นอน เราจะไม่มีวันตกลง!”“ถ้าพวกคุณไม่เชื่อผม ผมก็คงช่วยไม่ได้ สรุปคือ เว้นเสียแต่หว่านหรูจะเป็นคนไล่ผมเอง ผมจะไม่ไปไหนทั้งนั้น”เย่เทียนหยู่พูดเสียงเรียบพ่อแม่ตระกูลหลินโกรธมาก ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือของหลินหว่านหรูก็ดังขึ้น และเธอก็กดวางสายไป แต่หลิวเหวินก็โทรมาอีกครั้งเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกดรับ ทันทีที่เธอรับสาย น้ำเสียงเร่งด่วนของหลิวเหวินก็ดังขึ้นว่า: “ประธานหลิน มีคนจากสถานีตำรวจบอกว่าพวกเขาต้องการจับกุมเย่เทียนหยู่ค่ะ”“อะไรนะ!”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และอดไม่ได้ที่จะมองไปที่เย่เทียนหยู่“ฉันกำลังให้คนตามหาเขาอยู่ค่ะ”หลิวเหวินพูดก่อนวางสายโทรศัพท์“มีเรื่องอะไร?”พ่อแม่ตระกูลหลินได้ยินมาว่ามีคนจากสถานีตำรวจดูเหมือนจะเกี่ยวข้องกับเย่เทียนหยู่ หลินหว่านหรูเพิกเฉยต่อเธอและถามเย่เทียนหยู่: “เย่เทียนหยู่ นายไปทำอะไรมา คนของสถานีตำรวจมาที่บริษัทเพื่อจับกุมนาย”“จับผม?”“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”เย่เทียนหยู่ก็สับสนเล็กน
โดยเฉพาะ ข่าวสมัยก่อนที่ว่าลูกเขยสังหารโหดทั้งครอบครัวเพราะความโกรธ น่ากลัวมากสีหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนไปทันที และเธอพูดด้วยความกังวล: “คุณตำรวจ คุณเข้าใจผิดหรือเปล่าคะ? เย่เทียนหยู่เป็นที่ซื่อมากเลยนะคะ ไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นหรอกค่ะ”“เขาได้ทำหรือไม่ หลังจากการสอบสวนเราก็จะได้รู้กันแน่ชัดเจนแล้วค่ะ”“ใส่กุญแจมือ!”ตำรวจหญิงจึงสั่งการเจ้าหน้าที่ของเธอเย่เทียนหยู่ไม่ได้ขัดขืน และขมวดคิ้ว: “คุณตำรวจ ผมไม่รู้ว่าคุณไปเอาข้อมูลมาจากไหน แต่คุณต้องเข้าใจผิดคนแน่”ตำรวจสาวดูเฉยเมย ทุกครั้งที่มีนักโทษถูกจับกุมต่างก็ล้วนปฏิเสธกันทั้งนั้น “ไว้เราจะรู้เองว่ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นหรือไม่ แต่คุณต้องมากับฉันก่อน”“แต่ฉันต้องรู้ว่าทำไมฉันถึงกลายเป็นผู้ต้องสงสัย ผมฆ่าใคร?”“คุณจะรู้เมื่อไปถึงสถานีตำรวจ”“เอาตัวไป!”เจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงไม่ได้พูดคำว่า ในประเทศแห่งนี้ ทุกคนมีหน้าที่ให้ความร่วมมือกับตำรวจในสืบสวนคดี เพียงแต่จับเขาใส่กุญแจมืออย่างไม่เหมาะสมแต่เย่เทียนหยู่คนนี้มีฝีมือไม่ธรรมดา และเป็นบุคคลที่อันตรายอย่างยิ่งเย่เทียนหยู่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากถูกใส่กุญแจมือและเอาตัวไปในเวล
หลิวซือซือซึ่งนั่งอยู่ในรถตำรวจรู้สึกประหม่ามากและถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา: “หัวหน้าทีมเย่ ฉันพูดผิดไป ทำให้ยิ่งช่วยยิ่งยุ่งยากหรือเปล่าคะ?”“คุณคิดยังไง?”เย่เทียนหยู่กลอกตา“ฉันขอโทษนะ ฉันแค่อยากจะช่วยคุณ”“ไม่เป็นไรหรอกครับ บอกไปก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่อะไรหรอก”“จริงเหรอคะ หัวหน้าทีมเย่ คุณรู้จักเจ้าพ่อใหญ่ ๆ ใช่ไหมคะ?”หลิวซือซือถามด้วยความสงสัย“……”เย่เทียนหยู่พูดไม่ออก ต้องมาอยากพูดเรื่องนี้ต่อหน้าตำรวจด้วยเหรอ?นี่เธอยังเป็นยอดนักขายของบริษัทอยู่รึเปล่า?“นั่นเพราะเขาเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีฆาตกรรม เรื่องที่คุณบอกก็เลยไม่ใช่กระทงใหญ่” ตำรวจหญิงที่นั่งข้างเขาพูดอย่างเย็นชา“อ่า อะไรนะคะ?”หลิวซือซือตกใจ คดีฆาตกรรมเหรอ?เป็นไปได้ยังไงกัน“อย่าฟังเรื่องไร้สาระ ผมไม่ได้ทำอะไรเลย” เย่เทียนหยู่ปลอบใจเธอ“ฉันก็หวังอย่างนั้น แต่ถ้าคุณตกอยู่ในมือของฉัน คุณก็อย่าหวังพึ่งโชคเลย ขอแค่คุณก่ออาชญากรรม ไม่ว่าคุณจะรู้จักเจ้าพ่อคนไหนก็ไม่มีประโยชน์หรอก”“ผมไม่ได้ก่ออาชญากรรม” เย่เทียนหยู่พูดอย่างใจเย็น“แล้วเจียงเทาตายได้ยังไง?”“เจียงเทา?”“ฉันไม่รู้จักคนคนนี้สักหน่อย!”ตำรวจหญิงส่ายห
“เขาตายแล้วเหรอ?”“ดูเหมือนเวรกรรมจะมีจริงสินะ”“คุณพูดอะไร?”หลงเจี๋ยโกรธมาก“ไม่มีอะไร ผมหมายถึงไม่มีหลักฐานพิสูจน์ว่าผมฆ่าเขา เพียงเพราะผมมีเรื่องขัดแย้งกับเขา คุณก็คิดว่าผมเป็นฆาตกรแน่แล้วอย่างนั้นเหรอครับ?”เย่เทียนหยู่โต้กลับ“นายคงคิดว่าตัวเองทำมันได้สมบูรณ์แบบเลยสินะ เจียงเทาทิ้งหลักฐานไว้ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต”หลงเจี๋ยตะคอกอย่างเย็นชาและพูดว่า “แต่ว่า ฉันจะให้โอกาสคุณสารภาพทุกอย่างเอง”“ไม่ต้องหรอก ถ้าคุณมีหลักฐานก็แสดงออกมาเลย”“ดี งั้นคุณลองดูนี่”หลงเจี๋ยก็แสดงวิดีโอที่เจียงเทาบันทึกไว้เมื่อคืนนี้ เขาบอกว่าคนที่ทุบตีเขาตอนนั้นเตือนเขาว่าเขาจะฆ่าเขา เขากังวลมากจากนั้นก็มีรูปถ่ายที่เขาเขียนคำว่า “เย่” ไว้ข้างตัวเขาก่อนจะเสียชีวิตเย่เทียนหยู่ส่ายหน้าอย่างไร้คำพูดและพูดว่า “คุณก็เชื่อเรื่องนี้เหมือนกัน ไม่คิดว่าทุกอย่างเป็นการจงใจสร้างของปลอมเหรอ?”“คุณหมายถึงมีคนจงใจที่จะทำร้ายคุณและฆ่าใครสักคนเพื่อใส่ร้ายคุณ?” หลงเจี๋ยถามกลับ“เป็นไปได้”ภาพของหลายคนปรากฏในใจของเย่เทียนหยู่ แต่เขาไม่รู้ว่าใครโหดร้ายขนาดนี้ หลี่ว์ซิงเหอ?ไม่หรอกมั้งหรือจะเป็นกงซุนจื้อ? ซูเห
ซุนซวี่หัวเราะเยาะอย่างต่อเนื่อง ก่อนที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยท่าทางดุดัน “ไอ้หนู แกรอก่อนเถอะ แกจะต้องเสียใจในสิ่งที่ทำลงไปในวันนี้อย่างแน่นอน”“พอถึงตอนนั้น ก็อย่ามาอ้อนวอนขอความเมตตาก็แล้วกัน ฮ่า ๆ......”ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของซุนซวี่ บวกกับคำพูดเหล่านั้น หลินจื่อตงยังไม่ทันจะพูดอะไร สวี่เจียเจียก็เริ่มได้สติ สีหน้าเต็มไปด้วยความกังวล “พ่อคะ นี่พ่อ......”“เจียเจีย เรื่องถัดจากนี้ ไม่ใช่สิ่งที่พ่อจะสามารถจัดการได้ เขาเพิ่งบอกว่าเขาสามารถปกป้องตัวเองได้ใช่ไหม เช่นนั้นต่อไปก็ขึ้นอยู่กับความสามารถของเขาแล้ว” พ่อตระกูลสวี่พูดขัดขึ้นมา“จะดูความสามารถอะไรกัน เขาเป็นแค่คนที่มาจากครอบครัวธรรมดา จะเอาอะไรไปสู้กับตระกูลซุนได้” สวี่เจียเจียพูดด้วยความร้อนใจ“เจียเจีย ไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตระกูลซุนมีการดำรงอยู่แบบไหน ลูกก็เข้าใจดี พ่อของลูกสามารถทำได้ถึงขนาดนี้ ก็ถือว่าทุ่มความสามารถทั้งหมดที่มีของตระกูลสวี่แล้ว”คุณแม่ตระกูลสวี่พูดขึ้น พร้อมส่ายหัวว่า “หลังจากนี้ ก็ต้องดูที่ตัวเขาแล้วล่ะ หากเขาสามารถมีชีวิตรอดได้ แม่ก็จะสนับสนุนให้พวกลูกคบกัน”“ยิ่งไปกว่านั้น ทันทีที่พวกลูกสองค
“ยินดีครับ!”“ต่อให้จะต้องตาย ผมก็จะอยู่กับเธอ ขอให้คุณลุงสบายใจได้ ถึงไม่มีตระกูลสวี่ พวกเราก็สามารถปกป้องเจียเจียได้เช่นกัน”หลินจื่อตงนึกถึงพี่เขยของตน พี่เขยของเขาเป็นถึงราชามังกร“พูดจาใหญ่โตไม่อายปาก คนอย่างแกที่แค่มากจากครอบครัวขยะในเมืองเทียนไห่ จะเอาอะไรมาเผชิญหน้ากับตระกูลซุนของฉัน” ซุนซวี่อดไม่ได้ที่จะพูดจาเย็นชาออกมาเพราะเขารู้สึกว่าท่าทีของคุณพ่อตระกูลสวี่เริ่มมีบางอย่างแปลกไปหลินจื่อตงที่กำลังจะตอบ แต่พ่อตระกูลสวี่กลับพูดออกมาทันทีว่า “ดีมาก หลินจื่อตง แค่เธอมีจิตใจที่มั่นคงแบบนี้ ฉันก็จะสนับสนุนเอง!”เมื่อคำนี้ถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็อึ้งไปชั่วขณะไม่มีใครคาดคิดว่า พ่อตระกูลสวี่จะตัดสินใจในทางที่คิดไม่ถึงอย่างกะทันหันแบบนี้ แม้แต่สมาชิกในตระกูลสวี่เองก็คิดไม่ถึงเช่นกัน อาจเป็นเพราะวิดีโอเมื่อสักครู่นี้หรือเปล่า?สวี่เจียเจียก็รู้สึกงงงวยไปชั่วขณะ เพราะแม้แต่ตัวเธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลย“พี่ใหญ่!”สวี่อี้อดไม่ได้ที่จะพูดออกมา “พี่กำลังทำอะไรอยู่ ทำแบบนี้ พี่คิดจะให้ตระกูลสวี่ไม่เหลือจุดยืนเลยรึไง?”สวี่กวงเองก็อยากจะเชื่อหูตัวเองเช่นกัน และรีบพูดออกไปว่
ทุกคนต่างตกใจเล็กน้อย พ่อตระกูลสวี่เองก็เช่นกัน แต่เขาก็ยังคงรับมันมาอยู่ดี เพียงแต่ทันทีที่เขาเห็นเนื้อหาข้างในวิดีโอ สีหน้าก็เปลี่ยนไปจนดูน่าเกลียดมากประเด็นสำคัญคือไม่ได้มีผู้หญิงเพียงคนเดียว ซุนซวี่แทบจะเปลี่ยนเป็นคนวิปริตไปโดยสิ้นเชิง ก่อนหน้านี้ได้ยินแค่ว่าในช่วงวัยหนุ่มของซุนซวี่นั้น เขาเป็นคนที่เจ้าชู้มาก จึงคิดว่าเขาอาจจะพอแก้ไขได้ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเลวร้ายได้ถึงขนาดนี้ในขณะเดียวกันแม่ตระกูลสวี่เองก็ลุกขึ้นเช่นกัน ทันทีที่เห็นฉากเหล่านั้น สีหน้าก็เปลี่ยนไป แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะรีบปิดวิดีโอเร็วแค่ไหน แต่สายตาของเธอก็กลับมั่นคงอย่างเห็นได้ชัดไม่ว่าอย่างไร ก็ห้ามให้ลูกสาวแต่งงานกับคนอย่างซุนซวี่เด็ดขาดเพราะไม่เช่นนั้น ลูกสาวก็ต้องจะถูกย่ำยีเป็นแน่พ่อตระกูลสวี่รีบลบวิดีโอทันที ก่อนที่จะส่งคืนให้กับเย่เทียนหยู่ พร้อมกล่าวด้วยเสียงต่ำว่า “ขอบคุณสำหรับวิดีโอ แต่ฉันได้ลบวิดีโอพวกนั้นไปแล้ว และหวังว่าจะไม่มีการสำรองข้อมูลเอาไว้นะ”พูดถึงตรงนี้ เขาก็มองไปที่ซุนซวี่ และกล่าวเตือนขึ้นว่า “เพราะไม่อย่างนั้น แม้แต่พระเจ้าก็ช่วยไม่ได้!”เย่เทียนหยู่รู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย
ทุกคนต่างก็นิ่งไปชั่วขณะ เจ้าหนุ่มนี่มาจากไหนกัน เขารู้ตัวไหมว่ากำลังทำอะไรอยู่แม้แต่สวี่เจียเจียเองก็ยังตกใจ นี่ใครกัน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปทางหลินจื่อตงด้วยความสงสัย หลินจื่อตงจึงรีบอธิบายออกไปว่า “เขาคือพี่เขยของฉันเอง”ทันทีที่สวี่เจียเจียได้ยิน เธอก็ชะงักไปครู่หนึ่ง นี่คือพี่เขยที่คนในตระกูลหลินพูดถึงงั้นเหรอ ท่าทีก็เหมือนจะไม่ได้น่ากลัวอะไรขนาดนั้น ดูเหมือนคนธรรมดาที่เข้าถึงได้ง่ายมากกว่าสวี่กวงทนไม่ได้อีกต่อไป เขาหัวเราะเยาะ และพูดขึ้นว่า “ไอ้หนู แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร ที่นี่มีพื้นที่ให้แกออกความเห็นรึไง?”“แน่นอนว่าต้องมีสิ!”“ฉันขอแนะนำตัวหน่อยก็แล้วกัน ฉันชื่อเย่เทียนหยู่ เป็นพี่เขยของหลินจื่อตง ที่มาในวันนี้ ก็ไม่ได้ต้องการที่จะมาพาตัวสวี่เจียเจียไป”เย่เทียนหยู่ไม่สนใจท่าทีดูถูกและความไม่พอใจของคนอื่น ๆ เขาพูดอย่างเฉยเมยว่า “แต่เพื่อเป็นการทดสอบดูว่า สวี่เจียเจีย เหมาะสมกับจื่อตงหรือไม่ต่างหาก”ทุกคนที่ได้ยินเช่นนั้น ต่างก็พูดไม่ออกกันหมดแกรู้ไหมว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่แกคิดว่าตัวเองเป็นใคร?ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองยังเด็กอยู่ แถมยังพูดออก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก