“ต่อให้ตอนนี้ฉีเฟยกรุ๊ปอยู่ในมือพ่อ มันก็คงมีแต่ล้มละลายเหมือนเดิม”“ผมรู้นะว่าทั้งหมดนี่มันเป็นความผิดผม ถ้าไม่ใช่เพราะผมเราคงไม่มีวันเป็นล่วงเกินคนที่มีอำนาจอย่างเย่เทียนหยู่”แน่นอนว่าในตอนนี้หลิวเจี๋ยเข้าใจดีอำนาจของเย่เทียนหยู่นั้นเกินความสามารถที่เขาจะแข่งขันด้วย การเหยียบย่ำเขาจนตายนั้นง่ายพอ ๆ กับการเหยียบย่ำมดตัวเล็กตัวหนึ่งเท่านั้นเช่นเดียวกัน ทุกคนในตระกูลหลินก็ได้รับข่าวในไม่ช้า และพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มเกิดอาการโศกเศร้าพวกเขาทุกคนทั้งเสียใจและรู้สึกอยากจะตายโดยเฉพาะคุณปู่หลิน ใบหน้าของเขาย่ำแย่มากเป็นพิเศษ ต้องรู้ว่าหลานสาวขอให้เก็บหุ้นเอาไว้ในนั้นต่อไป แต่ภายใต้แรงกดดันจากตัวเขาเอง ตัวเขาที่บังคับให้เธอไปเอาเงินคืนมาแบบนี้ไม่ถือว่าขาดทุนมากเท่าไร อีกทั้งยังได้กำไรมาเล็กน้อย แต่เงินทั้งหมดที่ทำได้ก็ล้วนเป็นเงินของตระกูลหลินเห็นได้ชัดว่าหากเขารออีกสักหน่อย ทรัพย์สินของตระกูลหลินจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็ถูกทำลายโดยตัวเขาเองในทางกลับกัน หลินหว่านหรู เปลี่ยนจากความหดหู่ใจในตอนแรกเป็นการค่อย ๆ มองทุกอย่างให้แตกฉานบางทีเงินจำนวนนี้ไม่ควรเป
เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ฟังเขาก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ในเมื่ออีกไม่นานเราจะหย่ากันแล้วก็ช่างมันเถอะครับ ถึงเวลานั้นอย่าให้คนอื่นรู้แล้วมีแต่จะเกิดปัญหา”“แต่วัน ๆ นายจะไม่ทำอะไรเลยไม่ได้นะ”“ผมมีงานทำครับ”“นายมีงานทำ ทำอะไร ลองบอกให้ฉันฟังหน่อยซิ” หลินหว่านหรูพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“เอ่อ บอกไม่ค่อยได้น่ะ”“ฉันว่านายไม่ค่อยสะดวกพูดมากกว่า นายน่ะไปเที่ยวกับแม่สาวน้อยนั่นหลายที่เลยใช่ไหมล่ะ” หลินหว่านหรูพูดอย่างประชดประชัน พอคิดถึงเรื่องนี้เธอก็ยิ่งหงุดหงิด“ไม่ใช่นะ!”“ผมรับรองได้ว่าผมไม่มีผู้หญิงคนไหนนอกจากคุณเลยจริง ๆ” เย่เทียนหยู่พูดรับประกัน“ชิ ใครเป็นผู้หญิงของนายกันยะ!”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แต่ในใจของเธอมีความสุขอย่างอธิบายไม่ได้ และเธอพูดว่า “ในเมื่อคุณไม่อยาก งั้นก็ช่างมันเถอะ จะได้ช่วยฉันประหยัดเวลาไม่ต้องหาตำแหน่งให้นายด้วย”“ใช่ มีคุณคอยหนุนหลัง ผมก็ไม่ขาดแคลนเงินแล้วล่ะ”“นี่นาย ฉันล่ะขอชื่นชมนายจริงๆ! ถ้านายยังเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อไปเราหย่ากันแล้วนายจะทำยังไงล่ะ” หลินว่านหรูกล่าว“พอถึงเวลาจอดที่ท่า เรือมันก็จอดตรงของมันเอง บางทีอาจมีคนอื่นมาดูแลผมก
“อือ!”“หว่านหรู เหมือนเมื่อกี้ฉันจะได้เจอคนรู้จักนะ” ซูถิงพูดด้วยน้ำเสียงลังเล“คนรู้จัก ใครเหรอ? คงไม่ใช่เย่เทียนหยู่หรอกใช่ไหม” หลินหว่านหรูถาม “ไม่ใช่สิ ถ้าเป็นเย่เทียนหยู่ไม่ต้องพูดก็ได้”“งั้นใครล่ะ?”“เรื่องนั้น ฉัน ฉันไม่รู้ควรพูดไหม” ซูถิงทำท่าเหมือนลังเลมาก“ระหว่างเรามีอะไรมที่พูดไม่ได้ด้วยเหรอ”“ก็ได้ ฉันรู้สึกว่ามีบางเรื่องที่เธอควรรู้ คนที่ฉันเจอไม่ใช่ใครแต่เป็น จางลี่ คนที่เมื่อก่อนติดเงินเธอ แล้วก็คิดร้ายกับเธอคนนั้นน่ะ”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พบเขาแล้วมีอะไรแปลก ความแค้นระหว่างฉันกับเขาจบลงแล้ว”“แต่ปัญหาคือเขา เขากับ กับ…”“เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? นี่เป็นคนพูดจายืดเยื้อแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”“เขากับเทียนหยู่อยู่ด้วยกัน และพวกเขาดูสนิทสนมกันมาก”“มีอะไรผิดปกติเหรอ?”“แน่สิ!”“หว่านหรู เธอลืมไปแล้ว เหตุผลที่เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ก็เพราะยากระตุ้นอารมณ์นั่น พอจางลี่วางยาเธอ เย่เทียนหยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นและพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป” “ต่อมาจางลี่ก็ก่อกวนเธอ แล้วเย่เทียนหยู่ก็มาอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องเธอได้แบบพอดิบพอดี”“สิ่งที่น่าอัศจร
“ไม่มีอะไรนี่ ในมือนายถืออะไรมาน่ะ?” ซูถิงตั้งใจเปลี่ยนหัวข้อ“เพื่อนให้เหล้าผมมาน่ะ ลองดมดูแล้วก็หอมดี”เย่เทียนหยู่ยิ้มและถามหลินหว่านหรู “หรือไม่ ลองดื่มด้วยกันไหมครับ?”เขารู้สึกงุนงงมากว่าเรื่องอะไรทำให้หลินหว่านหรูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้แบบนี้ในที่สุด หลินหว่านหรูก็ได้สติกลับคืนมา เธอเพิ่งเริ่มรู้สึกดีกับเย่เทียนหยู่ และเธอไม่อยากให้เรื่องพวกนั้นเป็นเรื่องจริง หัวใจของเธอรู้สึกอึดอัดมากเมื่อเห็นเย่เทียนหยู่แสดงสีหน้าไร้อารมณ์แบบั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป “เย่เทียนหยู่ ฉันขอถามคำถามคุณหนึ่งข้อ และคุณก็ตอบฉันตามจริงด้วย”สีหน้าของซูหว่านถิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทำไมหลินหว่านหรูถึงไม่ฟังที่เธอพูดบ้างเลย ตอนนี้ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอยู่ก็สามารถพูดเรื่องนี้ออกมาได้ง่าย ๆ เท่านี้ก็ไม่เข้าใจผิดกันแล้วเย่เทียนหยู่มองพิจารณาซูถิงเล็กน้อย เป็นเพราะซูถิงพูดอะไรหรือเปล่านะ“นายไม่ต้องมองซูถิงหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับซูถิง”“หว่านหรู เธออย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ เรื่องนี้ยังไม่ได้กำหนดชัดเจน รอให้เราเข้าใจสถานการณ์โดยละเอียดก่อนเธอค่อยถามก็ได้” ซูถิงอดห้ามเธอไม่ได้แต่หลินหว่านห
“ใช่แล้วล่ะ แล้วพวกเขาก็รู้จักกันมาหลายปีแล้วด้วย”“หว่านหรูเพิ่งอายุเท่าไร ถึงได้บอกว่ารู้จักมาหลายปี?”“ตั้งแต่เด็ก”“เพื่อสมัยเด็กเหรอ?”“ก็ไม่เชิงว่าอย่างนั้นหรอก ที่จริงช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมันก็ไม่ได้นานมาก แต่เด็กผู้ชายนั่นฝังอยู่ในใจของหว่านหรูมานานมากแล้วล่ะ”“บางครั้งหว่านหรูก็จะคิดถึงเขาขึ้นมา ถึงกับเคยพูดกับฉันตั้งหลายครั้งว่า วันหนึ่งผู้ชายคนนั้นจะกลับมาสู่ขอเธอ”“ส่วนเธอน่ะก็รอเด็กผู้ชายคนนั้นมาโดนตลอด!”คำพูดของซูถิงนั้นจริงครึ่งหนึ่งและเท็จครึ่งหนึ่ง อย่างน้อยที่บอกว่าจะแต่งงานและเธอรอคอยเขาอยู่ก็เป็นเรื่องจริง“แล้วเด็กคนนั้นชื่ออะไรล่ะ?” เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะถาม เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับหลินหว่านหรู“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตัวหว่านหรูเองยังไม่รู้เลยค่ะ รู้แค่เรียกเขาว่ายาจกน้อย”ดวงตาของเย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำว่า “ยาจกน้อย” จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณแน่ใจเหรอ ยาจกน้อย?”ซูถิงคิดนึกว่าเย่เทียนหยู่ไม่เชื่อเธอ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่จะชอบยาจกน้อย เธอพูดว่า “เป็นเรื่องจริงนะ ในตอนนั้น ขอทานตัวน้อยไม่รู้จักชื่อหว่านหร
เย่เทียนหยู่ไม่เคยรู้ความคิดของซูถิงเลย และไม่รู้ด้วยว่าหลินหว่านหรูไปหารัฐมนตรีไช่ด้วยตัวเอง และได้ค้นพบเรื่องราวลึกลับมากมายบนตัวเขาได้รู้ว่าความจริงเขามีอำนาจและความสามารถมหาศาลหัวใจของขาก็รู้สึกอิ่มเอมเป็นอย่างมากคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะรักฝังใจนานขนาดนี้ ยังจำตอนที่ตัวเขาเป็นยาจกตอนนั้นได้อยู่เลย แล้วยังเก็บเขาไว้ในเสมอมาด้วยเห็นได้ชัดว่าซูถิงจงไม่คิดว่าคำพูดของเธอไม่เพียงแต่ไม่อาจทำลายภาพลักษณ์ของเย่เทียนหยู่ในใจของหลินหว่านหรูได้ แต่กลับทำให้หลินหว่านหรูยิ่งชอบเขาขึ้นไปอีกถึงขั้นไม่สนใจความไม่ไว้วางใจของหลินหว่านหรูอีกต่อไปหลังจากออกจากที่นี่แล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้กลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งหรือที่เฉินเข่อซินอาศัยอยู่ แต่ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนมู่ในตอนนี้อิทธิพลของตระกูลซาได้ถูกกำจัดไปอย่างสิ้นเชิง และอำนาจในมือของถานล่างได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นของเทียนมู่กรุ๊ปทั้งหมด รวมถึงฉีเฟยกรุ๊ปด้วยสำหรับเงินสองหนึ่งหมื่นล้านที่ได้รับคืนนั้น ทั้งหมดกลับเข้าฉีเฟยกรุ๊ปโดยไม่ได้มีข่าวออกมา และตกไปอยู่ในมือของถานล่างทั้งหมดเทียนมู่กรุ๊ปในปัจจุบันได้กลายเป็นบริ
“ขอแค่ยกระดับตัวเองได้ก็พอแล้วค่ะ” แววตาของหยางหยิ๋งมุ่งมั่นมาก“คุณมีความคิดที่ดี พยายามเข้า”เย่เทียนยู่ไม่ได้พูดอะไรมาก หันกลับมาแล้วพูดว่า: “ผั่วจวิน ไปกันเถอะ ผมจะช่วยคุณฝึกฝนชิงหลงเจวี่ยสามระดับกลาง”“ได้ครับ ขอบคุณคุณชายมาก!”หยางผั่วจวินพูดอย่างตื่นเต้นทั้งสองเข้าไปในสถานที่เฉพาะอย่างรวดเร็ว หลังจากอธิบายสั้น ๆ เขาก็ให้หยางปั่วจวินนั่งขัดสมาธิทันทีและเริ่มช่วยฝึกจิตในระดับที่สี่ถึงหกด้วยพรจากพลังอันทรงพลังและมหาศาลของเย่เทียนหยู่ ในที่สุดหยางผั่วจวินก็เชี่ยวชาญเทคนิคทางจิตทั้งสามระดับกลางได้ แม้ว่าตัวเขาจะเต็มไปด้วยเจ็บปวดก็ตามแต่เห็นได้ชัดว่าครั้งเดียวนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปมามากกว่าสิบครั้งติดต่อกันโดยมีความช่วยเหลือของเย่เทียนหยู่ ทำให้เขาสามารถรวบรวมและคุ้นเคยกับเส้นทางการฝึกฝนได้อย่างสมบูรณ์จากนั้น เย่เทียนหยู่ก็ค่อย ๆ เก็บกวาดภารกิจ พร้อมมีเหงื่อออกเล็กน้อยบนหน้าผาก แสดงให้เห็นว่าเขาใช้ความพยายามไปไม่น้อยการการฝึกฝนครั้งนี้ใช้เวลาเกือบทั้งบ่ายเย่เทียนหยู่ใช้r]y’อย่างมากในการฝึกฝนหยางผั่วจวิน เขาหวังที่จะสร้างสุดยอดปรมาจารย์ที่น่ากลัวอย่างยิ่งแล
“แน่นอน ภัตราคารเซียนเมามายน่ะไม่ใช่สถานที่ธรรมดาทั่วไปหรอกนะ แค่มีเงินก็ใช่ว่าจะเข้าไปได้ วันนี้ผมจะพาคุณเข้าไปดู”ชายผู้มีกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยู่มองตามการจ้องมองของเฉินเข่อซิน และอดไม่ได้ที่จะมองตรงไปรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไม่สวยเท่าของเฉินเข่อซินแต่เธอก็หยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยพื้นฐานแล้วเธอมีรูปร่างที่ดีและมีเสน่ห์มาก“เฉินเข่อซิน?”“เป็นเธอจริง ๆ ด้วย เธอมาที่นี่เพื่อทานอาหารด้วยเหรอ?”อู๋หลิงดูตกใจใบหน้าของเฉินเข่อซินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนที่เธออยู่ในวิทยาลัย อู๋หลิงมักจะมีปัญหากับเธอเพราะผู้ชายที่เธอชอบตามจีบเธอ อู๋หลิงเลยรังแกเธอหลายครั้งไม่คิดเลยว่าจะเจออู๋หลิงที่นี่วันนี้ อาจเป็นเพราะถูกรังแกมาตลอดจึงรู้สึกกลัวนิดหน่อยโดยไม่มีเหตุผล“ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ? ดูเหมือนไม่ได้มาเพื่อทานอาหารแต่มาหางานมากกว่าล่ะสิ?”“แต่สถานที่ระดับสูงแบบนี้คงไม่ต้องการคนจนไร้รสนิยมแบบเธอหรอกนะ” อู๋หลิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยูขมวดคิ้ว เขารู้สึกโกรธแทนเฉินเข่อซินเล็กน้อย แล้วเขาจะทนกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้ยังไง เขาพูดอย่างเย็นชา: “ใครบอกคุณว่าเรากำลังมองหางาน เรามาที่
ในใจโจวฉิงรู้สึกสั่นสะท้านอย่างบอกไม่ถูก ตั้งแต่ต้นจนจบหม่าต้านก็เผยความรู้สึกหวาดกลัวออกมาไม่หยุด นั่นจึงทำให้เธอรู้สึกตกใจไปชั่วขณะการแสดงออกของหม่าต้านหลังจากนั้น ราวกับคนใกล้ตายที่กำลังร้องขอชีวิตไม่หยุดไม่มีผิด ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นถึงความกลัวของเขาที่มีต่อคุณเย่ได้เป็นอย่างดีคนคนหนึ่ง เหตุใดถึงทำให้คนอีกคนกลัวได้มากขนาดนี้ แต่นั่นก็ทำให้เธอได้เห็นถึงสถานะและจุดยืนของเขาได้อย่างชัดเจนหลังจากที่โจวฉิงได้สติ ในใจก็กลับรู้สึกเหมือนมีม้ากำลังวิ่งพล่านไปทั่ว ทำให้เธอรู้สึกสั่นสะเทือนอย่างมากในเวลานี้ เธอก็นึกถึงสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดก่อนหน้านั้นขึ้นมาได้ แต่ตอนนั้นเธอก็กลับไม่เชื่อเลยด้วยซ้ำว่าเขาจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ด้วยการกดโทรออกเพียงครั้งเดียวเท่าที่เห็นแทบไม่จำเป็นต้องโทรเลยด้วยซ้ำ อารมณ์เหมือนแค่เขาไอออกมาก็สามารถทำให้หม่าต้านวิ่งมาคุกเข่าเพื่อร้องขอชีวิตได้เลยอย่าว่าแต่เธอเลย ขนาดหลินหว่านหรูเองก็ชะงักไปด้วยเช่นกัน แม้เธอจะรู้ดีว่าเย่เทียนหยู่เก่งกาจมาก แต่ก็คิดไม่ถึงเลยว่าเย่เทียนหยู่จะเก่งกาจได้มากถึงเพียงนี้ต้องเข้าใจก่อนว่า โจวฉินเองก็เพิ่งจะพูดไป ว่าตระกูลไป๋เป
“ช่างเถอะ เห็นแก่หน้าหว่านหรู ผมเองก็ไม่อยากจะเถียงกับคุณแล้วเหมือนกัน”เย่เทียนหยู่ส่ายหัวเบา ๆ ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และกำลังจะกดโทรออกแต่ในขณะเดียวกันนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของโจวฉิงก็ดังขึ้น เธอก้มลงมองครู่หนึ่ง ก่อนที่สีหน้าเปลี่ยนไปทันที ก่อนจะรีบพูดออกไปว่า “มะ หม่าต้านโทรมาค่ะ”“โอ้ พอดีเลย จะได้ประหยัดค่าโทรศัพท์ด้วย!”เย่เทียนหยู่พูดด้วยท่าทีเรียบเฉย“......”โจวฉิงจึงรีบกดรับสายอย่างช่วยไม่ได้ และเพื่อให้เย่เทียนหยู่ได้ยินเนื้อหาบทสนทนา เธอจึงกดเปิดลำโพงทันทีที่รับสาย พร้อมกับพูดด้วยความสุภาพออกไปว่า “ค่ะ ประธานหม่า!”แต่หม่าต้านกลับไม่สุภาพเลยแม้แต่น้อย เขาส่งเสียงฮึดฮัดออกมา พร้อมกับพูดขึ้นว่า “ประธานโจว คุณพิจารณาข้อเสนอที่เรามอบให้ไปถึงไหนแล้ว?”โจวฉิงเหลือบมองไปยังเย่เทียนหยู่ ก่อนจะพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกไปว่า “ประธานหม่าคะ ข้อเรียกร้องของคุณค่อนข้างที่จะเข้มงวดเกินไป พวกเราไม่สามารถยอมรับได้จริง ๆ ค่ะ”“งั้นเหรอ หมายความว่าพวกคุณไม่ยินยอมสินะ?” หม่าต้านโกรธจัดโจวฉิงหันไปมองเย่เทียนหยู่อีกครั้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ในใจก็ยิ่งรู้สึกไม่มั่นใจขึ้นมา แต่ก็ย
เมื่อเห็นว่าโจวฉิงเหมือนจะไม่ค่อยเชื่อในสิ่งที่เย่เทียนหยู่พูดสักเท่าไหร่ หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกอารมณ์ไม่ดีอย่างเห็นได้ชัด ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยออกมาว่า “โจวฉิง แค่เงินไม่กี่หมื่นล้าน สำหรับเทียนหยู่แล้ว มันแทบไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลยด้วยซ้ำ!”“เอ่อ......”โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย ที่เธอพูดออกมาว่าหลายหมื่นล้านนั้น เดิมทีก็เป็นคำพูดที่เกินจริงอยู่แล้ว แน่นอน เกี่ยวกับการสร้างโรงงาน รวมถึงการซื้ออุปกรณ์ต่าง ๆ เงินที่ต้องเตรียมเอาไว้ให้กับค่าใช้จ่ายจำนวนหมื่นล้านมันจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมากเมื่อหลินหว่านหรูเห็นว่าโจวฉิงยังไม่ค่อยเชื่อ เธอจึงหยิบโทรศัพท์ออกมา ก่อนจะเปิดข้อความให้ดู พร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบออกไปว่า “ไม่งั้น คุณก็ลองดูสิ่งนี้ก่อนสิ”โจวฉิงอึ้งไปชั่วขณะ เธอพยายามลองมองอย่างละเอียด ก่อนที่ต่อมาสีหน้าจะเต็มไปด้วยความรู้สึกตกใจ และถามออกไปด้วยความรู้สึกไม่อยากจะเชื่อขึ้นว่า “ห้าแสนล้านเหรอคะ?” ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยเห็นจำนวนเงินมหาศาลจนน่าตกใจมากขนาดนี้มาก่อน“นี่ เขาเป็นคนให้คุณเหรอคะ?”“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ พอเขาเห็นว่าฉันอยากจะลงทุนกับอุตสาหกรร
โจวฉิงรู้สึกสับสนนิดหน่อย ทำไมจู่ ๆ ถึงได้มาพูดเรื่องการร่วมมือได้ หรือว่าอีกฝ่ายจะสามารถแก้ปัญหาได้จริง ๆ เพียงแต่รอดูว่าตนจะสามารถให้ผลประโยชน์อะไรได้บ้างก็เท่านั้นใช่ จะต้องเป็นเช่นนั้นแน่นอน!เธอจึงรีบพูดออกไปว่า “คุณเย่คะ แล้วคุณคิดว่าเราควรจะร่วมมือกันในรูปแบบไหนถึงจะดีคะ?”“ผมว่าคุณเป็นคนเสนอจะดีกว่านะครับ” เย่เทียนหยู่พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบโจวฉิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อนึกถึงขีดจำกัดที่พ่อเธอมี เธอจึงพูดออกไปว่า “หากเป็นไปได้ พวกเราก็หวังว่าจะได้รับเงินลงทุนประมาณสองพันห้าร้อยล้านค่ะ จากนั้นหุ้นให้พวกคุณถือหุ้นหกสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ว่า การบริหารและการดำเนินงานต่าง ๆ ให้อยู่ในความรับผิดชอบของพวกเราค่ะ”ในสถานการณ์ที่ค่อนข้างพิเศษเช่นนี้ อันที่จริงเธอเองก็ไม่กล้าที่จะหวังอะไรมากเหมือนกัน“สองพันห้าร้อนล้านมันน้อยเกินไป ทำให้น้ำกระเซ็นยังไม่ได้เลยด้วยซ้ำ!”“งั้นเอาอย่างนี้นะ พวกเราจะมอบเงินลงทุนให้คุณหนึ่งหมื่นล้าน แลกกับหุ้นแปดสิบเปอร์เซ็นต์! และต้องให้หลินหว่านหรูเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการบริหารด้วย คุณคิดว่าแบบนี้เป็นไงบ้าง?”หนึ่งหมื่นล้านงั้นเหรอ?โจวฉิงรู้สึกตกใจ นี
โจวฉิงรู้สึกสับสนเล็กน้อย นี่หลินหว่านหรูกำลังจะไปถามใครกันอย่างไรก็ตาม เธอเองก็ไม่ได้ถามอะไรมากนัก ทำได้เพียงรีบเดินตามไปเท่านั้น แม้เรื่องนี้จะเร่งด่วนมากก็ตาม แถมอีกฝ่ายยังกำหนดเวลาให้ถึงแค่ภายในวันนี้อีกต่างหาก ตำแหน่งที่เย่เทียนหยู่ทานข้าวก็อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินเพียงสามนาทีเท่านั้น ไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงด้านหน้าของห้องอาหารสุดหรูกันแล้วเห็นได้ชัดว่าราคาจะต้องแพงหูฉีกแน่นอน คนธรรมดาไม่มีทางมาทานข้าวในที่แบบนี้ได้ บรรยากาศด้านในเองก็ดีมากเช่นกัน ทั้งสะอาดเรียบร้อยทั้งสะดวกสบายตามห้องอาหารส่วนตัวที่เย่เทียนหยู่บอกเอาไว้ หลินหว่านหรูจึงได้เดินเข้าไปในทันทีโจวฉิงเองก็เดินตามหลังไปติด ๆ ทันทีที่เดินเข้าไป เธอก็เห็นชายหนุ่มอายุราว ๆ ยี่สิบกว่า ๆ คนหนึ่งนั่งอยู่ด้านในรูปลักษณ์ของเขานั้น ทั้งหล่อและมีเสน่ห์อย่างมาก รูปร่างเองก็ได้มาตรฐาน แค่มองแวบแรก ก็รู้ได้เลยว่าเขาจะต้องเป็นที่ชื่นชอบของเหล่าสาว ๆ อย่างแน่นอนเขาคือใครกัน อย่าบอกนะว่าเขาคือแฟนของหลินหว่านหรู หลินหว่านหรูช่างตาดีเสียจริง แต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายจะมีความสามารถมากแค่ไหน คงไม่ได้เป็นแค่ผู้ชาย
และการที่มู่หรงอินทำดีกับตนแบบนี้ ก็เห็นได้ชัดว่าเป็นเพราะเทียนหยู่ รักรังนกก็ต้องรักตัวนกด้วยเมื่อย้อนกลับมาดูตัวเอง ทำไมตนถึงไม่มีแม่แบบนี้บ้างกันนะพูดถึงความแตกต่าง ความแตกต่างระหว่างเธอกับเทียนหยู่ในตอนนี้มันก็คือความรู้สึกแตกต่างที่แม่ของเธอเคยมองเธอกับเย่เทียนหยู่มาก่อน แต่คุณป้ากลับไม่เคยดูถูกตัวเธอเลยสักครั้ง กระทั่งอาจจะดูแลเอาใจใส่เธอมากกว่าเสียด้วยซ้ำเมื่อนึกถึงแม่ของตัวเอง ไม่รู้เลยว่าช่วงนี้เธอจะเป็นยังไงบ้าง อย่างจะโทรหาอยู่ลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยังคงอดทนเอาไว้และต่อให้เธอจะไม่โทร แม่ของเธอก็ไม่คิดจะโทรหาเธออยู่ดีช่างเถอะ ทำไมจะต้องคิดมากขนาดนั้นด้วย อย่างน้อยก็ยังมีเทียนหยู่ที่ดีกับเธอ เมื่อนึกถึงเย่เทียนหยู่ ริมฝีปากหลินหว่านหรูก็อดไม่ได้ที่จะเผยรอยยิ้มออกมาเมื่อเวลาล่วงเลยจนมาถึงเที่ยงวัน หลินหว่านหรูก็ได้รับสายของเย่เทียนหยู่ ไม่นานเธอก็รีบลงจากตึกเพื่อออกไปข้างนอกทันทีที่เธอเพิ่งจะเดินออกมา เธอก็เห็นโจวฉิงที่ดำลังเดินอย่างเร่งรีบอยู่ด้านนอกเข้าในทันทีโจวชิงสวมใส่ชุดเดรส ร่างกายของเธอเพรียวบาง ขาเรียวยาว แต่สีหน้าของเธอกลับดูอ่อนเพลียอย่างเห็นได้ชัด ใ
หลังจากที่คำนั้นถูกพูดออกมา ทุกคนต่างก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที หนึ่งในพนักงานถึงกับอดไม่ได้จนต้องร้องอุทานออกมาเสียงดัง“ประธานเย่คะ พวกเรารู้ดีค่ะ ว่าประธานหลินมีข้อขัดแย้งกับคุณ แต่ว่าประธานหลินเป็นคนดีมากเลยนะคะ เธอคือความหวังของบริษัท อย่างไล่เธอออกเลยได้ไหมคะ?”“ใช่ค่ะ ประธานเย่คะ ขอร้องล่ะค่ะ ให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะคะ”“ใช่แล้วครับ ประธานเย่ พวกเราต้องการประธานหลินครับ!”“ช่วยให้ประธานหลินได้ทำงานที่นี่ต่อด้วยเถอะนะครับ!”“......”เมื่อมีผู้นำ ก็ย่อมมีผู้ตาม ไม่นาน ทุกคนต่างก็พากันพูดขอร้องด้วยความตื่นเต้นเพื่อให้หลินหว่านหรูได้ทำงานที่บริษัทต่อ จะเห็นได้ว่า ในสายตาของพวกเขา หลินหว่านหรูทำหน้าที่ของตัวเองได้ดีมากจริง ๆฉากแบบนี้ อย่าว่าแต่เย่ซานที่ได้รู้เรื่องอะไรยังรู้สึกอึ้งเลย แม้แต่หลินหว่านหรูเองก็รู้สึกสับสนไปด้วยเช่นกันเธอคิดไม่ถึงเลยว่า นี่เพิ่งจะผ่านไปเพียงไม่กี่วัน แต่ทุกคนก็กลับให้การสนับสนุนเธอมากถึงขนาดนี้เย่ซานรู้สึกตกใจ ในเวลานี้เขาเองก็เพิ่งจะเข้าใจ ว่าหลินหว่านหรูยอดเยี่ยมกว่าที่ตนคิดเอาไว้มาก การที่ท่านประธานพูดแบบนั้น เกรงว่าไม่ใช
“ฉันเองก็ไม่รู้ เธออาจจะต้องพึ่งตัวของเธอเองแล้วล่ะ”เมื่ออดีตราชามังกรพูดมาถึงตรงนี้ เขาจึงพูดอย่างช่วยไม่ได้ออกมาอีกว่า “เทียนหยู่ เรื่องของตระกูลเย่เธอเองก็น่าจะได้ยินมาบ้างแล้วใช่ไหม?”“อือ!”เย่เทียนหยู่พยักหน้า“เธอคิดเอาไว้บ้างไหม ว่าจะจัดการยังไง?” อดีตราชามังกรถาม“อีกไม่นานผมจะเดินทางไปที่อาณาจักรมังกรแล้วครับ” นี่คือแผนที่เย่เทียนหยู่คิดเอาไว้ในใจ สำหรับอาจารย์แล้ว เขาเองก็ไม่มีอะไรที่จะต้องปิดบัง“เธอนี่นะ จิตใจดีจนเกินไปจริง ๆ กะแล้วว่าจะต้องเลือกแบบนี้ แต่มีอีกเรื่องที่ฉันอาจจะต้องบอกเธอให้รู้เอาไว้ เกี่ยวกับเรื่องที่ตระกูลเย่ถูกกดขี่อยู่ตอนนี้ อันที่จริงเบื้องหลังมีผู้มีอำนาจที่แข็งแกร่งมาก ๆ ผู้หนึ่งคอยหนุนหลังอยู่น่ะสิ”“ใครเหรอครับ?”“ตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่าเป็นใคร แต่เขาก็เป็นถึงยอดฝีมือระดับเทพยาดาแดนดินที่แข็งแกร่งมากเลยทีเดียว”“แข็งแกร่งขนาดนั้นเลยเหรอครับ หากเป็นเช่นนี้ ตระกูลเย่ก็แทบไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลยน่ะสิครับ?”“นั่นเพราะยังไม่จำเป็นต้องให้เขาเป็นคนลงมือด้วยตัวเองน่ะสิ ถ้าหากเธอช่วยตระกูลเย่ เธอก็อาจจะเผลอไปล่วงเกินคนใหญ่คนโตผู้นั้นเข้าก็ไ
เมื่อคืนเธอสามารถหลับได้อย่างสบายใจ หลักจากที่ตื่นเช้าขึ้นมา พอหลินหว่านหรูลงจากเตียง เธอก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังยุ่งอยู่กับการเตรียมอาหารเช้าใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสุขช่วงหลายวันมานี้ เธอไม่เคยรู้สึกสบายใจเท่ากับเมื่อคืนมาก่อนเลยรู้สึกว่าชีวิตนี้ช่างสวยงามเหลือเกิน ทำไมตัวเองถึงได้มีความสุขมากขนาดนี้ช่วงเวลาเก้าโมงเช้า หลินหว่านหรูปรากฏตัวที่บริษัทตามเวลาเข้างาน หลังจากที่เธอทบทวนมาทั้งคืน เธอก็เปลี่ยนการตัดสินใจของเธอ นี่ยังไม่ถึงเวลาที่เธอจะต้องจากเทียนเฟิงกรุ๊ปไปเพราะแบบนั้นมันก็เท่ากับเธอกำลังหนีปัญหาในช่วงเวลาที่สำคัญ หรือต่อให้เธอจะต้องจากไปจริง ๆ เธอก็ควรที่จะสร้างผลงานให้เป็นชิ้นเป็นอันเสียก่อน เพราะไม่อย่างนั้น เธอคงจะรู้สึกผิดต่อความรักความเอ็นดูที่มู่หรงอินมีต่อเธอเป็นแน่เมื่อเห็นหลินหว่านหรู ทุกคนต่างก็แสดงความเคารพต่อเธอด้วยความจริงใจแม้ว่าจะเป็นเพียงเวลาสั้น ๆ แต่การบริหารและการจัดการของหลินหว่านหรูก็ทำให้ทุกคนรู้สึกประทับใจมากจริง ๆประสิทธิภาพของบริษัทเองก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าปัจจุบันผลทางสถิติอาจจะยังไม่ชัดเจนมากนัก แต่มันก็ทำให้ทุกคนสามารถ