“อือ!”“หว่านหรู เหมือนเมื่อกี้ฉันจะได้เจอคนรู้จักนะ” ซูถิงพูดด้วยน้ำเสียงลังเล“คนรู้จัก ใครเหรอ? คงไม่ใช่เย่เทียนหยู่หรอกใช่ไหม” หลินหว่านหรูถาม “ไม่ใช่สิ ถ้าเป็นเย่เทียนหยู่ไม่ต้องพูดก็ได้”“งั้นใครล่ะ?”“เรื่องนั้น ฉัน ฉันไม่รู้ควรพูดไหม” ซูถิงทำท่าเหมือนลังเลมาก“ระหว่างเรามีอะไรมที่พูดไม่ได้ด้วยเหรอ”“ก็ได้ ฉันรู้สึกว่ามีบางเรื่องที่เธอควรรู้ คนที่ฉันเจอไม่ใช่ใครแต่เป็น จางลี่ คนที่เมื่อก่อนติดเงินเธอ แล้วก็คิดร้ายกับเธอคนนั้นน่ะ”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พบเขาแล้วมีอะไรแปลก ความแค้นระหว่างฉันกับเขาจบลงแล้ว”“แต่ปัญหาคือเขา เขากับ กับ…”“เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? นี่เป็นคนพูดจายืดเยื้อแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”“เขากับเทียนหยู่อยู่ด้วยกัน และพวกเขาดูสนิทสนมกันมาก”“มีอะไรผิดปกติเหรอ?”“แน่สิ!”“หว่านหรู เธอลืมไปแล้ว เหตุผลที่เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ก็เพราะยากระตุ้นอารมณ์นั่น พอจางลี่วางยาเธอ เย่เทียนหยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นและพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป” “ต่อมาจางลี่ก็ก่อกวนเธอ แล้วเย่เทียนหยู่ก็มาอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องเธอได้แบบพอดิบพอดี”“สิ่งที่น่าอัศจร
“ไม่มีอะไรนี่ ในมือนายถืออะไรมาน่ะ?” ซูถิงตั้งใจเปลี่ยนหัวข้อ“เพื่อนให้เหล้าผมมาน่ะ ลองดมดูแล้วก็หอมดี”เย่เทียนหยู่ยิ้มและถามหลินหว่านหรู “หรือไม่ ลองดื่มด้วยกันไหมครับ?”เขารู้สึกงุนงงมากว่าเรื่องอะไรทำให้หลินหว่านหรูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้แบบนี้ในที่สุด หลินหว่านหรูก็ได้สติกลับคืนมา เธอเพิ่งเริ่มรู้สึกดีกับเย่เทียนหยู่ และเธอไม่อยากให้เรื่องพวกนั้นเป็นเรื่องจริง หัวใจของเธอรู้สึกอึดอัดมากเมื่อเห็นเย่เทียนหยู่แสดงสีหน้าไร้อารมณ์แบบั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป “เย่เทียนหยู่ ฉันขอถามคำถามคุณหนึ่งข้อ และคุณก็ตอบฉันตามจริงด้วย”สีหน้าของซูหว่านถิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทำไมหลินหว่านหรูถึงไม่ฟังที่เธอพูดบ้างเลย ตอนนี้ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอยู่ก็สามารถพูดเรื่องนี้ออกมาได้ง่าย ๆ เท่านี้ก็ไม่เข้าใจผิดกันแล้วเย่เทียนหยู่มองพิจารณาซูถิงเล็กน้อย เป็นเพราะซูถิงพูดอะไรหรือเปล่านะ“นายไม่ต้องมองซูถิงหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับซูถิง”“หว่านหรู เธออย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ เรื่องนี้ยังไม่ได้กำหนดชัดเจน รอให้เราเข้าใจสถานการณ์โดยละเอียดก่อนเธอค่อยถามก็ได้” ซูถิงอดห้ามเธอไม่ได้แต่หลินหว่านห
“ใช่แล้วล่ะ แล้วพวกเขาก็รู้จักกันมาหลายปีแล้วด้วย”“หว่านหรูเพิ่งอายุเท่าไร ถึงได้บอกว่ารู้จักมาหลายปี?”“ตั้งแต่เด็ก”“เพื่อสมัยเด็กเหรอ?”“ก็ไม่เชิงว่าอย่างนั้นหรอก ที่จริงช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมันก็ไม่ได้นานมาก แต่เด็กผู้ชายนั่นฝังอยู่ในใจของหว่านหรูมานานมากแล้วล่ะ”“บางครั้งหว่านหรูก็จะคิดถึงเขาขึ้นมา ถึงกับเคยพูดกับฉันตั้งหลายครั้งว่า วันหนึ่งผู้ชายคนนั้นจะกลับมาสู่ขอเธอ”“ส่วนเธอน่ะก็รอเด็กผู้ชายคนนั้นมาโดนตลอด!”คำพูดของซูถิงนั้นจริงครึ่งหนึ่งและเท็จครึ่งหนึ่ง อย่างน้อยที่บอกว่าจะแต่งงานและเธอรอคอยเขาอยู่ก็เป็นเรื่องจริง“แล้วเด็กคนนั้นชื่ออะไรล่ะ?” เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะถาม เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับหลินหว่านหรู“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตัวหว่านหรูเองยังไม่รู้เลยค่ะ รู้แค่เรียกเขาว่ายาจกน้อย”ดวงตาของเย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำว่า “ยาจกน้อย” จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณแน่ใจเหรอ ยาจกน้อย?”ซูถิงคิดนึกว่าเย่เทียนหยู่ไม่เชื่อเธอ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่จะชอบยาจกน้อย เธอพูดว่า “เป็นเรื่องจริงนะ ในตอนนั้น ขอทานตัวน้อยไม่รู้จักชื่อหว่านหร
เย่เทียนหยู่ไม่เคยรู้ความคิดของซูถิงเลย และไม่รู้ด้วยว่าหลินหว่านหรูไปหารัฐมนตรีไช่ด้วยตัวเอง และได้ค้นพบเรื่องราวลึกลับมากมายบนตัวเขาได้รู้ว่าความจริงเขามีอำนาจและความสามารถมหาศาลหัวใจของขาก็รู้สึกอิ่มเอมเป็นอย่างมากคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะรักฝังใจนานขนาดนี้ ยังจำตอนที่ตัวเขาเป็นยาจกตอนนั้นได้อยู่เลย แล้วยังเก็บเขาไว้ในเสมอมาด้วยเห็นได้ชัดว่าซูถิงจงไม่คิดว่าคำพูดของเธอไม่เพียงแต่ไม่อาจทำลายภาพลักษณ์ของเย่เทียนหยู่ในใจของหลินหว่านหรูได้ แต่กลับทำให้หลินหว่านหรูยิ่งชอบเขาขึ้นไปอีกถึงขั้นไม่สนใจความไม่ไว้วางใจของหลินหว่านหรูอีกต่อไปหลังจากออกจากที่นี่แล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้กลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งหรือที่เฉินเข่อซินอาศัยอยู่ แต่ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนมู่ในตอนนี้อิทธิพลของตระกูลซาได้ถูกกำจัดไปอย่างสิ้นเชิง และอำนาจในมือของถานล่างได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นของเทียนมู่กรุ๊ปทั้งหมด รวมถึงฉีเฟยกรุ๊ปด้วยสำหรับเงินสองหนึ่งหมื่นล้านที่ได้รับคืนนั้น ทั้งหมดกลับเข้าฉีเฟยกรุ๊ปโดยไม่ได้มีข่าวออกมา และตกไปอยู่ในมือของถานล่างทั้งหมดเทียนมู่กรุ๊ปในปัจจุบันได้กลายเป็นบริ
“ขอแค่ยกระดับตัวเองได้ก็พอแล้วค่ะ” แววตาของหยางหยิ๋งมุ่งมั่นมาก“คุณมีความคิดที่ดี พยายามเข้า”เย่เทียนยู่ไม่ได้พูดอะไรมาก หันกลับมาแล้วพูดว่า: “ผั่วจวิน ไปกันเถอะ ผมจะช่วยคุณฝึกฝนชิงหลงเจวี่ยสามระดับกลาง”“ได้ครับ ขอบคุณคุณชายมาก!”หยางผั่วจวินพูดอย่างตื่นเต้นทั้งสองเข้าไปในสถานที่เฉพาะอย่างรวดเร็ว หลังจากอธิบายสั้น ๆ เขาก็ให้หยางปั่วจวินนั่งขัดสมาธิทันทีและเริ่มช่วยฝึกจิตในระดับที่สี่ถึงหกด้วยพรจากพลังอันทรงพลังและมหาศาลของเย่เทียนหยู่ ในที่สุดหยางผั่วจวินก็เชี่ยวชาญเทคนิคทางจิตทั้งสามระดับกลางได้ แม้ว่าตัวเขาจะเต็มไปด้วยเจ็บปวดก็ตามแต่เห็นได้ชัดว่าครั้งเดียวนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปมามากกว่าสิบครั้งติดต่อกันโดยมีความช่วยเหลือของเย่เทียนหยู่ ทำให้เขาสามารถรวบรวมและคุ้นเคยกับเส้นทางการฝึกฝนได้อย่างสมบูรณ์จากนั้น เย่เทียนหยู่ก็ค่อย ๆ เก็บกวาดภารกิจ พร้อมมีเหงื่อออกเล็กน้อยบนหน้าผาก แสดงให้เห็นว่าเขาใช้ความพยายามไปไม่น้อยการการฝึกฝนครั้งนี้ใช้เวลาเกือบทั้งบ่ายเย่เทียนหยู่ใช้r]y’อย่างมากในการฝึกฝนหยางผั่วจวิน เขาหวังที่จะสร้างสุดยอดปรมาจารย์ที่น่ากลัวอย่างยิ่งแล
“แน่นอน ภัตราคารเซียนเมามายน่ะไม่ใช่สถานที่ธรรมดาทั่วไปหรอกนะ แค่มีเงินก็ใช่ว่าจะเข้าไปได้ วันนี้ผมจะพาคุณเข้าไปดู”ชายผู้มีกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยู่มองตามการจ้องมองของเฉินเข่อซิน และอดไม่ได้ที่จะมองตรงไปรูปร่างหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นไม่สวยเท่าของเฉินเข่อซินแต่เธอก็หยังสูงกว่าค่าเฉลี่ย โดยพื้นฐานแล้วเธอมีรูปร่างที่ดีและมีเสน่ห์มาก“เฉินเข่อซิน?”“เป็นเธอจริง ๆ ด้วย เธอมาที่นี่เพื่อทานอาหารด้วยเหรอ?”อู๋หลิงดูตกใจใบหน้าของเฉินเข่อซินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ตอนที่เธออยู่ในวิทยาลัย อู๋หลิงมักจะมีปัญหากับเธอเพราะผู้ชายที่เธอชอบตามจีบเธอ อู๋หลิงเลยรังแกเธอหลายครั้งไม่คิดเลยว่าจะเจออู๋หลิงที่นี่วันนี้ อาจเป็นเพราะถูกรังแกมาตลอดจึงรู้สึกกลัวนิดหน่อยโดยไม่มีเหตุผล“ทำไมไม่พูดอะไรล่ะ? ดูเหมือนไม่ได้มาเพื่อทานอาหารแต่มาหางานมากกว่าล่ะสิ?”“แต่สถานที่ระดับสูงแบบนี้คงไม่ต้องการคนจนไร้รสนิยมแบบเธอหรอกนะ” อู๋หลิงกล่าวอย่างภาคภูมิใจเย่เทียนหยูขมวดคิ้ว เขารู้สึกโกรธแทนเฉินเข่อซินเล็กน้อย แล้วเขาจะทนกับความอัปยศอดสูเช่นนี้ได้ยังไง เขาพูดอย่างเย็นชา: “ใครบอกคุณว่าเรากำลังมองหางาน เรามาที่
อู๋หลิงพยักหน้าอันที่จริงเด็กหญิงทั้งสองสังเกตเห็นสถานการณ์ที่ด้านหน้าประตูแล้ว แต่มันอยู่ไกลออกไปเล็กน้อย และไม่ใช่เรื่องของพวกเธอ แต่เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่มา พวกเขาก็พูดทันที: “ท่านคะ โปรดแสดงบัตรสมาชิกของท่านด้วยค่ะ!”ผู้ที่มาที่นี่เพื่อทานอาหารล้วนเป็นสมาชิกของภัตราคารเซียนเมามาย และอย่างน้อยก็ต้องมีเงินเก็บมากกว่าห้าล้านบาทขึ้นไป ดังนั้นคนรวยธรรมดา ๆ จะไม่มาที่นี่เพื่อทานอาหารเย่เทียนหยู่หยิบแบล็กการ์ดมังกรดำออกมา เพราะเขาเห็นป้ายที่นี่ ซึ่งเป็นของหอการค้าหลงเถิงด้วย ร้านใดก็ตามที่อยู่ภายใต้หอการค้ามังกรสามารถใช้การ์ดมังกรดำได้เมื่อหญิงสาวเห็นการ์ดสีดำ เธอก็สะดุ้งเล็กน้อยแล้วพูดว่า “ท่านคะ ท่านหยิบการ์ดมาผิดหรือเปล่าคะ?”พี่เหลียงที่อยู่ข้างหลังเขาหัวเราะเสียงดังและพูดประชด: “เจ้าหนู แกคิดว่านี่เป็นสถานที่ที่แกสามารถเข้าไปได้ด้วยบัตรช้อปปิ้งอย่างนั้นเหรอ?”“ฮ่าฮ่า ตลกชะมัดเลย!” อู๋หลิงก็หัวเราะออกมาเสียงดังเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้ว ผู้หญิงสองคนจำการ์ดใบนี้ไม่ได้ ช่างลำบากจริง ๆ เลยนะแต่แล้วผู้หญิงอีกคนก็ลังเลและพูดว่า “เสี่ยวจวน เอาการ์ดให้ฉันดูหน่อย”ผู้หญิงชื่อเสี่ยวจวนร
ทันทีที่พนักงานได้ยินก็รีบเข้าไปหาทันที “สวัสดีครับคุณชาย ที่นั่งด้านนอกนี้ของเราไม่มีการกำหนดที่นั่งนะครับ หรือเราจัดห้องวีไอพีให้ท่านแทนดีไหมครับ?”“ห้องวีไอพีอะไร ผมจะนั่งตรงนี้” พี่เหลียงพูดด้วยอารมณ์โหดเหี้ยม“แต่ท่านชายและท่านหญิงทางนั้นมาาที่นี่ก่อนนะครับ”“ไม่สำคัญว่าจะมาที่นี่ก่อนหรือไม่ วันนี้ผมจองที่นั่งไว้แล้ว ผมไม่เชื่อว่าผมที่เป็นสมาชิกระดับสามดาวจะไม่มีสิทธิ์เลือกที่นั่งด้วยซ้ำ!”การเป็นสมาชิกระดับสามดาวไม่ใช่จะได้มาด้วยการเติมเงินเท่านั้น แต่ยังมาจากการใช้จ่ายสะสมในจำนวนที่เพียงพออีกด้วยว“ผู้จัดการอยู่ไหน? โทรหาผู้จัดการซุนมาที่นี่เดี๋ยวนี้!”ก่อนที่บริกรจะพูดได้ พี่เหลียงก็พูดด้วยท่าทางเอาแต่ใจอู๋หลิงที่อยู่ข้าง ๆ ยิ่งดูภาคภูมิใจมากยิ่งขึ้น พร้อมกับมองเฉินเข่อซินอย่างเหน็บแนมไม่ว่าตัวเองอยู่ระดับไหน กล้าสู้กับฉัน วันนี้แกจะได้ขายหน้าแน่ผู้จัดการอยู่ใกล้ๆ เมื่อเขารู้เกี่ยวกับสถานการณ์ เขาก็มา เมื่อเห็นบุคคลนั้นเขาก็กลายเป็นคนรู้จัก เขารีบพูดว่า: “พี่เหลียง เกิดอะไรขึ้นครับถึงได้โกรธขนาดนี้? ““คุณว่าไงล่ะ?”“ผู้จัดการซุน เกิดอะไรขึ้นในร้านอาหาร ทำไมขยะพวก
“พ่อคะ หรือว่าพ่อไม่เคยสนใจอนาคตของหนูเลยอย่างนั้นเหรอคะ ถึงได้บังคับหนูแบบนี้?” สวี่เจียเจียกล่าวทั้งน้ำตา พร้อมกับจ้องไปทางพ่อด้วยความโกรธสีหน้าพ่อตระกูลสวี่ดูไม่พอใจมากนัก แต่นี่คือความหมายของครอบครัว เขาทำไปก็เพื่อครอบครัว เพราะไม่อย่างนั้น ผลที่จะตามมาจากการรุกรานของตระกูลซุนคงจะน่ากลัวมาก ๆ เขาจึงพูดอย่างจำใจว่า “พ่อไม่ได้บังคับลูก แต่คุณชายซุนเป็นคนที่ดีที่สุดสำหรับลูก”“ใช่แล้ว เจียเจีย คุณชายซุนทั้งหล่อเหลาและมีความสามารถ สาว ๆ จากตระกูลใหญ่ในเมืองตะวันออกมากมายอยากแต่งงานกับเขา แต่ก็ไม่มีโอกาส เธออย่าไปหลงเชื่อคนไร้ค่าแบบนั้นเอาได้ล่ะ” สวี่อี้พูดเสริมขึ้นทันที“นั่นสิ เจียเจีย ตระกูลหลินเป็นเพียงตระกูลเล็ก ๆ หลินจื่อตงก็ยิ่งเป็นแค่ขยะ หากเธอต้องไปอยู่กับมัน ชาตินี้คงไม่มีวันได้เห็นแสงสว่างแน่”สวี่กวงเองก็รีบพูดขึ้นมาด้วยเช่นกันแต่สวี่เจียเจียกลับส่ายหัว แล้วพูดออกไปว่า “ฉันไม่สน ฉันแค่ชอบพี่ตง ฉันต้องการแต่งงานกับเขา!”เย่เทียนหยู่เองก็แอบรู้สึกประหลาดใจ คิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตง จะโชคดีขนาดนี้ สามารถทำให้หญิงสาวที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้หลงใหลในตัวเองได้หลินหว่า
หูของเย่เทียนหยู่ค่อนข้างไวต่อเสียง เพิ่งจะเดินเข้ามาที่ประตูห้องโถง ก็ได้ยินคำพูดของคุณแม่ตระกูลซุนพูดขึ้นทันที ดังนั้นเขาจึงพูดออกมาดัง ๆ จากประตูว่าพวกเขามีความเห็นต่างทันทีที่พวกเขาพูดจบ ไม่นานก็เดินตรงเข้ามาทุกคนต่างก็ตกใจเล็กน้อย ในช่วงเวลาแบบนี้ใครกันจะกล้าพูดจาไร้สาระ หรือกล้าคัดค้านบ้าง เพราะเหตุนี้จึงทำให้ทุกคนต่างก็หันไปมองพร้อมกัน และเห็นว่ามีคนสามคนยืนอยู่ตรงประตูโดยเฉพาะสวี่เจียเจีย ทันทีที่เธอเห็น เธอก็ไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้อีกต่อไป เธอลุกขึ้นยืนในทันที และตะโกนด้วยความตื่นเต้นออกไปว่า “พี่ตง!”ทันทีที่สวี่กวนเห็นคนที่เดินเข้ามา เขาก็รู้สึกโกรธขึ้น สีหน้าดูซีดเซียว เขาคิดไม่ถึงเลยว่า หลินจื่อตงจะกล้าบุกเข้ามาในบ้านตระกูลสวี่เพื่อแย่งคนจริง ๆนี่เท่ากับว่าเขาไม่สนใจคำขู่ของตนโดยสิ้นเชิง ไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาเลยสักนิด จนแทบจะทำให้เขาหมดความอดทนแต่ในขณะเดียวกัน น้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ก็รู้สึกโกรธมาก แล้วพูดอย่างเย็นชา“พวกแกเป็นใครกัน ถึงกล้าบุกเข้ามาพูดจาไร้สาระในบ้านตระกูลสวี่ของฉันแบบนี้?”“อารองครับ มันก็คือคางคกที่เพ้อฝันอยากกินเนื้อหงส์ หลินจ
ตระกูลสวี่ก็ถือว่าพอมีอิทธิพลอยู่จริง ๆ แต่ถ้าหากเทียบกับสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ความแตกต่างนั้นก็ค่อนข้างจะห่างชั้นอยู่พอสมควรหลายคนในตระกูลสวี่ โดยเฉพาะน้องชายของพ่อตระกูลสวี่ สวี่อี้ และลูกชายของเขา สวี่กวง ต่างก็มีความปรารถนาที่จะเข้าใกล้ตระกูลซุน เพียงเท่านี้ ก็จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และพวกเขาเองก็จะได้รับประโยชน์อย่างมากเช่นกันเพียงแต่สีหน้าของคุณแม่ตระกูลสวี่ดูไม่ค่อยดีนัก เพราะเธอรู้ว่าลูกสาวตนชอบหลินจื่อตง ครั้งที่แล้วก็เป็นเธอที่แอบปล่อยสวี่เจียเจียไปอย่างลับ ๆ เพื่อให้เธอได้ไปหาหลินจื่อตงที่เมืองเทียนไห่แม้ว่าพ่อตระกูลสวี่จะไม่ค่อยเต็มใจนัก แต่เพื่อครอบครัวแล้ว เขาจำเป็นต้องยอมรับสิ่งเหล่านี้สวี่เจียเจียก้มหน้า และกดตัวอักษรบนหน้าจอโทรศัพท์อย่างไม่หยุดหย่อน เธอกำลังส่งข้อความหาหลินจื่อตงแต่หลังจากที่ส่งข้อความไปหลายข้อความ หลินจื่อตงก็ยังไม่ตอบเธอเลยสักข้อความ อีกทั้ง ตอนนี้การสนทนาระหว่างทั้งสองฝ่ายก็ใกล้จะจบลงแล้ว เขากลับยังไม่ปรากฏตัวสิ่งนี่ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจมากนักแม้เธอจะรู้ว่าครอบครัวของหลินจื่อตงไม่ได้มีความสามารถ แทบจะไม่มีวิธีเลยด
เมื่อคุณแม่ตระกูลหลินได้ยินเสียง ก็ตกใจขึ้นมาทันทีพอหันไปมองก็เห็นว่าเย่เทียนหยู่กำลังเดินมา สีหน้าดูตื่นตระหนกเล็กน้อย และพูดติดอ่างขึ้นว่า “เทียนหยู่ เธอมาแล้วเหรอ ฉะ ฉันก็พูดมั่ว ๆ ไปอย่างั้นแหละ เธออย่าเก็บมาใส่ใจเลยนะ”“ฮึ ๆ!”เย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ครั้งนี้เขาเปลี่ยนเป็นรถอีกคัน บางทีอาจเป็นเพราะเหตุนี้ คุณแม่ตระกูลหลินจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นล่ะมั้งแต่เขาก็ขี้เกียจที่จะสนใจ และพูดอย่างเฉยเมยไปว่า “หว่านหรู จื่อตง รีบขึ้นรถเถอะ”เมื่อหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูได้ยินแบบนั้น ก็รีบเดินไปที่รถเพื่อเตรียมขึ้นรถในทันที“จื่อตง นายมาขับรถ” เย่เทียนหยู่หยิบกุญแจรถโยนให้กับหลินจื่อตงทันทีหลินจื่อตงพยักหน้า แล้วถือกุญแจเดินขึ้นรถไปเขาหวังเอาไว้อยู่แล้วว่าจะได้เป็นคนขับ แบบนั้นเขาก็จะสามารถเพิ่มความเร็วได้ดั่งใจ เพราะเขาเป็นคนที่ชื่นชอบการแข่งรถมาก และทักษะการขับขี่ของเขาก็ถือว่าไม่เลวเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับเขาแล้ว พี่เขยจะต้องขับรถได้แย่มากแน่นอนคุณแม่ตระกูลหลินเดินตรงเข้าไป พร้อมกับเปิดประตูรถ เพื่อที่จะขึ้นไปด้วย เรื่องใหญ่ขนาดนี้ ในฐานะผู้อาวุโส เธอรู้สึกว่า ยังไ
หม่าจวิ้นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและรีบพูดทันทีว่า “สภาพร่างกายของผมยอดเยี่ยมมาแต่เด็ก ผมไม่จำเป็นต้องฝึกหรอกครับ”“ผมบอกว่าต้องก็ต้อง จะไปมั้ย” เย่เทียนหยู่ถาม“ไปครับ!”หม่าจวิ้นจะไม่คว้าโอกาสแบบนี้เอาไว้ได้ยังไง เขาจึงตอบกลับทันทีเย่เทียนหยู่แจ้งหมายเลขโทรศัพท์และชื่อของหยางผั่วจวินให้เขาทันที จากนั้นเขาก็โทรหาหยางผั่วจวินและเล่าความเป็นมาให้เขาฟังแม้ว่าเขาจะยังไม่สามารถติดตามราชามังกร แต่เขาก็เป็นได้เป็นลูกกระจ๊อกคนหนึ่งแล้ว ต่อไปในอนาคตเขายังมีโอกาสอีกมากใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับความตื่นเต้นอันไม่อาจควบคุมเมื่อหลิวเมิ่งเห็นว่าเย่เทียนหยู่คุยกำลังว่าง่าย เธอก็พูดทันที “พี่เขย เรื่องพี่สาว...”“ผมพูดไปแล้ว ไม่ต้องพูดอะไรอีก”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ดึกแล้ว ผมจะไปพักผ่อน ถ้าไม่มีอะไรแล้วก็รีบกลับไปเถอะ” หลิวเมิ่งทำอะไรไม่ถูก หมายความว่าไงถ้าไม่มีอะไรแล้ว เธอก็พูดอยู่ตลอดว่ามีเรื่องนี่ แต่เขาเองที่ไม่ยอมฟังดูเหมือนคราวนี้พี่เขยตั้งใจจะออกจากตระกูลหลินอย่างแน่วแน่ แล้วลูกพี่ลูกน้องของเธอจะทำยังไงดีภายใต้ความสิ้นหวัง หลิวเมิ่งจากไปพร้อมกับหม่าจวิ้น หลังจากก
หลังจากวางสาย เย่เทียนหยู่ก็เดินทางไปยังบ้านพักของตระกูลหยางและแจ้งให้หยางเฉียนเฉียนทราบด้วยตัวเองว่าปัญหาแก้ไขแล้ว หรือให้พูดตามตรงก็คือ เขาไม่อยากทำให้เธอต้องเสียใจวินาทีแรกที่หยางเฉียนเฉียนได้ยิน เธอก็ยินยอมรับปากเย่เทียนหยู่ สำหรับเธอขอแค่พี่เย่มีความสุขเธอก็มีความสุขต่อมาแม้เธอจะผิดหวังอยู่บ้าง ที่สุดท้ายเธอไม่ได้ลงเอยกับพี่เย่ แต่อย่างน้อยเธอก็ได้จัดงานแต่งงานที่สมบูรณ์แบบกับเขา และยังได้รับใบทะเบียนสมรสกับเขาด้วยหยางต้าฝูดูหดหู่มากกว่า เขาได้แต่ยิ้มอย่างขมขื่นดูเหมือนว่า ความมั่งคั่งมหาศาลนั่น จะไม่ใช่ของตระกูลหยางของพวกเขาหลังจากจัดการเรื่องนี้แล้ว เย่เทียนหยู่ก็ขับรถกลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งแต่ทันทีที่เขามาถึงหน้าประตู เขาก็พบแขกที่ไม่ได้รับเชิญสองคนถูกเขาลงโทษไปแล้ว เจ้าโง่นั่นก็ไม่ยอมแพ้แถมยังตามเขามาถึงที่นี่ ยังไม่รู้ตัวอีกเหรอว่าตัวเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาคงไม่ได้โง่ขนาดนั้นหรอกใช่มั้ย!เดี๋ยวก่อน หลิวเมิ่งก็อยู่ที่นี่ด้วย แม้ว่าจะน่ารำคาญเล็กน้อย แต่เธอกับหว่านหรูก็มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันพวกเขาทั้งสองเห็นเย่เทียนหยู่แล้วรีบรุดหน้ามาทันที
ใบหน้าของหลินหว่านหรูแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อย เมื่อคิดถึงเรื่องเมื่อคืน เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่อธิบายไม่ได้ในใจ“เฮ้ คุณบอกว่าคุณต้องการมันมากใช่ไหม” เย่เทียนหยู่พูดด้วยรอยยิ้มที่ไม่ดี เขาถอนหายใจด้วยความโล่งอกหลังจากแก้ไขปัญหานี้ไม่อย่างนั้น เขารู้สึกจริง ๆ ว่าเขาเป็นหนี้หยางเฉียนเฉียนมากจนเขาไม่รู้ว่าจะเผชิญมันยังไง ในอนาคต“อะไรนะ ฉันจะมีอารมณ์คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ยังไง” ในเวลานี้ หลินหว่านหรูรู้สึกเหนื่อยมากเมื่อเธอคิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น“เกิดอะไรขึ้น เกิดอะไรขึ้น ตระกูลสวี่มาที่นี่หรือเปล่า” เย่เทียนหยู่ถาม ปัจจุบัน ตระกูลหลินควรจะมีเพียงธุรกิจของ หลินจื่อตงเท่านั้น“นั่นไม่เป็นความจริง แต่ตระกูลสวี่และตระกูลซุนตกลงกันว่าพ่อแม่ทั้งสองจะหมั้นกันในวันพรุ่งนี้ เราจะรอจนกว่าจะเลือกวันอันเป็นมงคลอื่นก่อนจึงจะจัดงานแต่งงานอย่างเป็นทางการ”“แล้วจื่อตงก็เริ่มวิตกกังวล พรุ่งนี้เขาต้องไปเยี่ยมตระกูลสวี่เขาบอกว่าแม้ว่าเขาจะตาย เขาก็จะไม่ปล่อยให้สวี่เจียเจียหมั้นหมายกับตระกูลซุนเลย” หลินหว่านหรูกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ในความเป็นจริง เขารู้สึกว่าทั้งสองฝ่ายเพิ่งหมั้นกันและ
หลินหว่านหรูขมวดคิ้วทันที มาจนถึงตอนนี้แล้วทำไมแม่เธอยังไม่ได้สติอีก ถ้าแม่เธอยังเป็นอยู่แบบนี้ ต่อให้เย่เทียนหยู่กลับมา จะช้าเร็วก็คงเกิดปัญหาอยู่ดีเมื่อแม่ตระกูลหลินเห็นหน้าตาของลูกสาว เธอก็รำคาญทันที “สายตาอะไรของลูกฮะ หรือแกจะทนดูน้องชายตัวเองตายไปทั้งแบบนี้รึไง”คุณปู่ตระกูลหลินเองก็รีบ “หว่านหรู ไม่ว่ายังไงก็ น้องก็คอยสนับสนุนหลานมาโดยตลอด หลานต้องช่วยเขานะ”“ใช่ หว่านหรู ลูกต้องช่วยจื่อตงนะ” หลินหงรีบพูดเสริมหลินจื่อตงเปิดปาก เขาไม่ต้องการรบกวนพี่สาว เพราะมีหลายเรื่องเกิดขึ้นในช่วงนี้ แถมความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลกับพี่เขยก็จบลงไปแล้วแต่เขาไม่อยากเสียสวี่เจียเจียไปเลยจริง ๆเมื่อมองดูสายตาของคนในตระกูล หลินหว่านหรูรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่งและพูดว่า “คิดว่าหนูจะไม่ช่วยจื่อตงเหรอคะ”คุณปู่ตระกูลหลินดูไม่ค่อยดีนัก แต่หลินจื่อตงก็พูดทันที “พี่ อย่าฟังคุณปู่กับทุกคนเลยครับ ผมเชื่อพี่อยู่แล้ว ถ้าพี่ไม่สะดวกจริง ๆ ผมจะไปเองครับ”“นายก็ยังไม่เชื่อพี่อยู่ดี”หลินหว่านหรูโกรธ เธอหันหลังกลับและเดินกลับห้องด้วยความโมโหคุณปู่ตระกูลหลินและคนอื่นๆ ที่ถูกทิ้งไว้ มองหน้ากันอย่างไม่เช
“แต่เธอจะมาที่นี่เร็วๆ นี้”“โอเค ถ้างั้นผมจะรอ”ตอนนี้ ขอแค่แม่ของเขาสบายดีแล้ว เย่เทียนหยู่ก็รู้สึกโล่งใจมากขึ้น แต่เขากังวลว่าตอนนี้แม่ของเขาเป็นอิสระแล้วจริง ๆ หรือเปล่า“ผมขอยืนยันอีกที พวกคุณไม่ขอให้ผมจดทะเบียนกับหยางเฉียนเฉียนแล้วใช่มั้ย” เย่เทียนหยู่ถามย้ำ“ใช่!”“โอเค ถ้างั้นผมไปละ!”เย่เทียนหยู่จากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ แม้ว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาจะมีเสน่ห์มากและดูเหมือนเธอจะไม่ได้ต่อต้านการการลุกล้ำของเขาเลยด้วยซ้ำจูเก่อหลิวหลีตกอยู่ในอาการมึนงง นี่เขา ออกไปแล้วเหรอตัวเธอมีเสน่ห์ไม่พอเลยหรือไงนี่เป็นครั้งแรกที่เธอสงสัยในความสวยของตัวเอง!เธอรู้สึกมาโดยตลอดว่าถ้าเธอเต็มใจ ก็คงไม่มีใครต้านทานเสน่ห์ของเธอได้ขณะที่เธอกำลังคิดอยู่ โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้น ท่านผู้หญิงของเธอโทรมา“ท่านผู้หญิง ฉันขอโทษ ทั้งหมดเป็นความผิดของฉัน” จูเก่อหลิวหลีรับสายและพูดทันที“ไม่เป็นไร!”“ฉันเพิ่งรู้ว่าเทียนหยู่ได้รับพลังลมปราณซวนหมิงของหยางเฉียนเฉียนมาแล้ว เพราะงั้นเขาจะอยู่กับหยางเฉียนเฉียนหรือไม่ก็ไม่สำคัญ”ท่านผู้หญิงตอบ“พลังลมปราณซวนหมิงนั่นคืออะไรคะ” จูเก่อหลิวหลีไม่เคยรู้