หวงหงเจี้ยนได้แต่ยิ้มแห้ง เขาอยากจะบอกจริง ๆ ว่าเขาเดาออกแล้วแต่แกล้งทำเป็นไม่รู้ต่อไปไม่ไหวแล้วจึงได้แต่บอกความจริงไป นอกจากฐานะของเย่เทียนหยู่แล้ว ยังบอกอีกด้วยว่าอีกฝ่ายไม่ต้องการให้ใครรู้เรื่องนี้ผู้นำไม่ได้ทำให้เรื่องนี้ยุ่งยากมากขึ้น เขาขอแค่ให้ตัวเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับบุคคลนี้ เพราะบุคคลนี้มีพลังอำนาจอย่างยิ่งและเป็นผู้ครองเมืองจิงตูตัวจริงหลังจากวางสายโทรศัพท์หวงหงเจี้ยนก็ตกใจมาก ที่มาที่ไปอันน่ากลัวของแพทย์เซียนเย่คืออะไรกันแน่?ลูกชายของเขาหวงโหย่วเหวยบังเอิญเข้ามาหาเขาพอดี เมื่อเห็นท่าทางตกใจของพ่อ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถามเมื่อได้ยินแบบนั้น หวงโหย่วเหวยก็ตกตะลึงอย่างมาก สถานะของเย่เทียนหยู่ในใจของเขายกสูงขึ้นไปอีกระดับหลังจากกลับมา ก็เขาโทรหาซูเหวินฮวาแล้วพูดว่า “พี่ซู ถ้าพี่พึ่งพาแพทย์เซียนเย่ได้จริง ๆ ก็อาจเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของพี่ล่ะ”“ทำไม? เกิดอะไรขึ้น?” ซูเหวินฮวาถามอย่างเร่งรีบหวงโหย่วเหวยเล่าสิ่งที่พ่อของเขาพูดซูเหวินฮวาตกตะลึงเมื่อได้ยินแบบนั้น เขารู้ว่าเย่เทียนหยู่ฆ่าปรมาจารย์จากที่หวงโหย่วเหวยเล่า และแน่นอนว่าเขาเดาได้ว่าถานล่างเกี่ยวข้องกับ
“ต่อให้ตอนนี้ฉีเฟยกรุ๊ปอยู่ในมือพ่อ มันก็คงมีแต่ล้มละลายเหมือนเดิม”“ผมรู้นะว่าทั้งหมดนี่มันเป็นความผิดผม ถ้าไม่ใช่เพราะผมเราคงไม่มีวันเป็นล่วงเกินคนที่มีอำนาจอย่างเย่เทียนหยู่”แน่นอนว่าในตอนนี้หลิวเจี๋ยเข้าใจดีอำนาจของเย่เทียนหยู่นั้นเกินความสามารถที่เขาจะแข่งขันด้วย การเหยียบย่ำเขาจนตายนั้นง่ายพอ ๆ กับการเหยียบย่ำมดตัวเล็กตัวหนึ่งเท่านั้นเช่นเดียวกัน ทุกคนในตระกูลหลินก็ได้รับข่าวในไม่ช้า และพวกเขาทั้งหมดก็เริ่มเกิดอาการโศกเศร้าพวกเขาทุกคนทั้งเสียใจและรู้สึกอยากจะตายโดยเฉพาะคุณปู่หลิน ใบหน้าของเขาย่ำแย่มากเป็นพิเศษ ต้องรู้ว่าหลานสาวขอให้เก็บหุ้นเอาไว้ในนั้นต่อไป แต่ภายใต้แรงกดดันจากตัวเขาเอง ตัวเขาที่บังคับให้เธอไปเอาเงินคืนมาแบบนี้ไม่ถือว่าขาดทุนมากเท่าไร อีกทั้งยังได้กำไรมาเล็กน้อย แต่เงินทั้งหมดที่ทำได้ก็ล้วนเป็นเงินของตระกูลหลินเห็นได้ชัดว่าหากเขารออีกสักหน่อย ทรัพย์สินของตระกูลหลินจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า แต่สิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ก็ถูกทำลายโดยตัวเขาเองในทางกลับกัน หลินหว่านหรู เปลี่ยนจากความหดหู่ใจในตอนแรกเป็นการค่อย ๆ มองทุกอย่างให้แตกฉานบางทีเงินจำนวนนี้ไม่ควรเป
เมื่อเย่เทียนหยู่ได้ฟังเขาก็ส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ในเมื่ออีกไม่นานเราจะหย่ากันแล้วก็ช่างมันเถอะครับ ถึงเวลานั้นอย่าให้คนอื่นรู้แล้วมีแต่จะเกิดปัญหา”“แต่วัน ๆ นายจะไม่ทำอะไรเลยไม่ได้นะ”“ผมมีงานทำครับ”“นายมีงานทำ ทำอะไร ลองบอกให้ฉันฟังหน่อยซิ” หลินหว่านหรูพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ“เอ่อ บอกไม่ค่อยได้น่ะ”“ฉันว่านายไม่ค่อยสะดวกพูดมากกว่า นายน่ะไปเที่ยวกับแม่สาวน้อยนั่นหลายที่เลยใช่ไหมล่ะ” หลินหว่านหรูพูดอย่างประชดประชัน พอคิดถึงเรื่องนี้เธอก็ยิ่งหงุดหงิด“ไม่ใช่นะ!”“ผมรับรองได้ว่าผมไม่มีผู้หญิงคนไหนนอกจากคุณเลยจริง ๆ” เย่เทียนหยู่พูดรับประกัน“ชิ ใครเป็นผู้หญิงของนายกันยะ!”ใบหน้าของหลินหว่านหรูเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ แต่ในใจของเธอมีความสุขอย่างอธิบายไม่ได้ และเธอพูดว่า “ในเมื่อคุณไม่อยาก งั้นก็ช่างมันเถอะ จะได้ช่วยฉันประหยัดเวลาไม่ต้องหาตำแหน่งให้นายด้วย”“ใช่ มีคุณคอยหนุนหลัง ผมก็ไม่ขาดแคลนเงินแล้วล่ะ”“นี่นาย ฉันล่ะขอชื่นชมนายจริงๆ! ถ้านายยังเป็นแบบนี้ต่อไป ต่อไปเราหย่ากันแล้วนายจะทำยังไงล่ะ” หลินว่านหรูกล่าว“พอถึงเวลาจอดที่ท่า เรือมันก็จอดตรงของมันเอง บางทีอาจมีคนอื่นมาดูแลผมก
“อือ!”“หว่านหรู เหมือนเมื่อกี้ฉันจะได้เจอคนรู้จักนะ” ซูถิงพูดด้วยน้ำเสียงลังเล“คนรู้จัก ใครเหรอ? คงไม่ใช่เย่เทียนหยู่หรอกใช่ไหม” หลินหว่านหรูถาม “ไม่ใช่สิ ถ้าเป็นเย่เทียนหยู่ไม่ต้องพูดก็ได้”“งั้นใครล่ะ?”“เรื่องนั้น ฉัน ฉันไม่รู้ควรพูดไหม” ซูถิงทำท่าเหมือนลังเลมาก“ระหว่างเรามีอะไรมที่พูดไม่ได้ด้วยเหรอ”“ก็ได้ ฉันรู้สึกว่ามีบางเรื่องที่เธอควรรู้ คนที่ฉันเจอไม่ใช่ใครแต่เป็น จางลี่ คนที่เมื่อก่อนติดเงินเธอ แล้วก็คิดร้ายกับเธอคนนั้นน่ะ”หลินหว่านหรูตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและพูดว่า “พบเขาแล้วมีอะไรแปลก ความแค้นระหว่างฉันกับเขาจบลงแล้ว”“แต่ปัญหาคือเขา เขากับ กับ…”“เธอกำลังพูดถึงเรื่องอะไร? นี่เป็นคนพูดจายืดเยื้อแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร?”“เขากับเทียนหยู่อยู่ด้วยกัน และพวกเขาดูสนิทสนมกันมาก”“มีอะไรผิดปกติเหรอ?”“แน่สิ!”“หว่านหรู เธอลืมไปแล้ว เหตุผลที่เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ก็เพราะยากระตุ้นอารมณ์นั่น พอจางลี่วางยาเธอ เย่เทียนหยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นและพรากความบริสุทธิ์ของเธอไป” “ต่อมาจางลี่ก็ก่อกวนเธอ แล้วเย่เทียนหยู่ก็มาอยู่เคียงข้างเพื่อปกป้องเธอได้แบบพอดิบพอดี”“สิ่งที่น่าอัศจร
“ไม่มีอะไรนี่ ในมือนายถืออะไรมาน่ะ?” ซูถิงตั้งใจเปลี่ยนหัวข้อ“เพื่อนให้เหล้าผมมาน่ะ ลองดมดูแล้วก็หอมดี”เย่เทียนหยู่ยิ้มและถามหลินหว่านหรู “หรือไม่ ลองดื่มด้วยกันไหมครับ?”เขารู้สึกงุนงงมากว่าเรื่องอะไรทำให้หลินหว่านหรูใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวได้แบบนี้ในที่สุด หลินหว่านหรูก็ได้สติกลับคืนมา เธอเพิ่งเริ่มรู้สึกดีกับเย่เทียนหยู่ และเธอไม่อยากให้เรื่องพวกนั้นเป็นเรื่องจริง หัวใจของเธอรู้สึกอึดอัดมากเมื่อเห็นเย่เทียนหยู่แสดงสีหน้าไร้อารมณ์แบบั้น เธอก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป “เย่เทียนหยู่ ฉันขอถามคำถามคุณหนึ่งข้อ และคุณก็ตอบฉันตามจริงด้วย”สีหน้าของซูหว่านถิงเปลี่ยนไปเล็กน้อย ทำไมหลินหว่านหรูถึงไม่ฟังที่เธอพูดบ้างเลย ตอนนี้ทั้งสองคนเผชิญหน้ากันอยู่ก็สามารถพูดเรื่องนี้ออกมาได้ง่าย ๆ เท่านี้ก็ไม่เข้าใจผิดกันแล้วเย่เทียนหยู่มองพิจารณาซูถิงเล็กน้อย เป็นเพราะซูถิงพูดอะไรหรือเปล่านะ“นายไม่ต้องมองซูถิงหรอก เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับซูถิง”“หว่านหรู เธออย่าเพิ่งร้อนใจไปนะ เรื่องนี้ยังไม่ได้กำหนดชัดเจน รอให้เราเข้าใจสถานการณ์โดยละเอียดก่อนเธอค่อยถามก็ได้” ซูถิงอดห้ามเธอไม่ได้แต่หลินหว่านห
“ใช่แล้วล่ะ แล้วพวกเขาก็รู้จักกันมาหลายปีแล้วด้วย”“หว่านหรูเพิ่งอายุเท่าไร ถึงได้บอกว่ารู้จักมาหลายปี?”“ตั้งแต่เด็ก”“เพื่อสมัยเด็กเหรอ?”“ก็ไม่เชิงว่าอย่างนั้นหรอก ที่จริงช่วงเวลาที่พวกเขาอยู่ด้วยกันมันก็ไม่ได้นานมาก แต่เด็กผู้ชายนั่นฝังอยู่ในใจของหว่านหรูมานานมากแล้วล่ะ”“บางครั้งหว่านหรูก็จะคิดถึงเขาขึ้นมา ถึงกับเคยพูดกับฉันตั้งหลายครั้งว่า วันหนึ่งผู้ชายคนนั้นจะกลับมาสู่ขอเธอ”“ส่วนเธอน่ะก็รอเด็กผู้ชายคนนั้นมาโดนตลอด!”คำพูดของซูถิงนั้นจริงครึ่งหนึ่งและเท็จครึ่งหนึ่ง อย่างน้อยที่บอกว่าจะแต่งงานและเธอรอคอยเขาอยู่ก็เป็นเรื่องจริง“แล้วเด็กคนนั้นชื่ออะไรล่ะ?” เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะถาม เมื่อคิดถึงความสัมพันธ์ของเขากับหลินหว่านหรู“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ตัวหว่านหรูเองยังไม่รู้เลยค่ะ รู้แค่เรียกเขาว่ายาจกน้อย”ดวงตาของเย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะสว่างขึ้นเมื่อเขาได้ยินคำว่า “ยาจกน้อย” จากนั้นเขาก็ถามว่า “คุณแน่ใจเหรอ ยาจกน้อย?”ซูถิงคิดนึกว่าเย่เทียนหยู่ไม่เชื่อเธอ แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องแปลกที่จะชอบยาจกน้อย เธอพูดว่า “เป็นเรื่องจริงนะ ในตอนนั้น ขอทานตัวน้อยไม่รู้จักชื่อหว่านหร
เย่เทียนหยู่ไม่เคยรู้ความคิดของซูถิงเลย และไม่รู้ด้วยว่าหลินหว่านหรูไปหารัฐมนตรีไช่ด้วยตัวเอง และได้ค้นพบเรื่องราวลึกลับมากมายบนตัวเขาได้รู้ว่าความจริงเขามีอำนาจและความสามารถมหาศาลหัวใจของขาก็รู้สึกอิ่มเอมเป็นอย่างมากคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนนี้จะรักฝังใจนานขนาดนี้ ยังจำตอนที่ตัวเขาเป็นยาจกตอนนั้นได้อยู่เลย แล้วยังเก็บเขาไว้ในเสมอมาด้วยเห็นได้ชัดว่าซูถิงจงไม่คิดว่าคำพูดของเธอไม่เพียงแต่ไม่อาจทำลายภาพลักษณ์ของเย่เทียนหยู่ในใจของหลินหว่านหรูได้ แต่กลับทำให้หลินหว่านหรูยิ่งชอบเขาขึ้นไปอีกถึงขั้นไม่สนใจความไม่ไว้วางใจของหลินหว่านหรูอีกต่อไปหลังจากออกจากที่นี่แล้ว เย่เทียนหยู่ไม่ได้กลับไปที่วิลล่าสกายพาเลซหมายเลขหนึ่งหรือที่เฉินเข่อซินอาศัยอยู่ แต่ไปที่บริษัทรักษาความปลอดภัยเทียนมู่ในตอนนี้อิทธิพลของตระกูลซาได้ถูกกำจัดไปอย่างสิ้นเชิง และอำนาจในมือของถานล่างได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นของเทียนมู่กรุ๊ปทั้งหมด รวมถึงฉีเฟยกรุ๊ปด้วยสำหรับเงินสองหนึ่งหมื่นล้านที่ได้รับคืนนั้น ทั้งหมดกลับเข้าฉีเฟยกรุ๊ปโดยไม่ได้มีข่าวออกมา และตกไปอยู่ในมือของถานล่างทั้งหมดเทียนมู่กรุ๊ปในปัจจุบันได้กลายเป็นบริ
“ขอแค่ยกระดับตัวเองได้ก็พอแล้วค่ะ” แววตาของหยางหยิ๋งมุ่งมั่นมาก“คุณมีความคิดที่ดี พยายามเข้า”เย่เทียนยู่ไม่ได้พูดอะไรมาก หันกลับมาแล้วพูดว่า: “ผั่วจวิน ไปกันเถอะ ผมจะช่วยคุณฝึกฝนชิงหลงเจวี่ยสามระดับกลาง”“ได้ครับ ขอบคุณคุณชายมาก!”หยางผั่วจวินพูดอย่างตื่นเต้นทั้งสองเข้าไปในสถานที่เฉพาะอย่างรวดเร็ว หลังจากอธิบายสั้น ๆ เขาก็ให้หยางปั่วจวินนั่งขัดสมาธิทันทีและเริ่มช่วยฝึกจิตในระดับที่สี่ถึงหกด้วยพรจากพลังอันทรงพลังและมหาศาลของเย่เทียนหยู่ ในที่สุดหยางผั่วจวินก็เชี่ยวชาญเทคนิคทางจิตทั้งสามระดับกลางได้ แม้ว่าตัวเขาจะเต็มไปด้วยเจ็บปวดก็ตามแต่เห็นได้ชัดว่าครั้งเดียวนั้นไม่เพียงพอ ดังนั้นเขาจึงวิ่งไปมามากกว่าสิบครั้งติดต่อกันโดยมีความช่วยเหลือของเย่เทียนหยู่ ทำให้เขาสามารถรวบรวมและคุ้นเคยกับเส้นทางการฝึกฝนได้อย่างสมบูรณ์จากนั้น เย่เทียนหยู่ก็ค่อย ๆ เก็บกวาดภารกิจ พร้อมมีเหงื่อออกเล็กน้อยบนหน้าผาก แสดงให้เห็นว่าเขาใช้ความพยายามไปไม่น้อยการการฝึกฝนครั้งนี้ใช้เวลาเกือบทั้งบ่ายเย่เทียนหยู่ใช้r]y’อย่างมากในการฝึกฝนหยางผั่วจวิน เขาหวังที่จะสร้างสุดยอดปรมาจารย์ที่น่ากลัวอย่างยิ่งแล
และนี่ก็ทำให้เย่เทียนหยู่รู้สึกโกรธมากจริง ๆตัวเองไม่ได้ไปหาเรื่องเธอ แต่เธอกลับมาทำให้หว่านหรูเดือดร้อน คนแบบนี้สมควรที่จะเป็นแม่คนได้ด้วยงั้นเหรอ แต่ว่าเรื่องนี้ จะบอกให้หว่านหรูรู้ดีไหมนะแต่ก็ไม่รู้ว่าเธอจะเชื่อรึเปล่า เพราะยังไงนั่นก็คือแม่ของเธอแต่จู่ ๆ เย่เทียนหยู่ก็นึกถึงเรื่องหนึ่งขึ้นมาได้ ผู้รับผิดชอบแพลตฟอร์มได้กล่าวเอาไว้ว่า เรื่องนี้ได้มีคนรีพอร์ตเข้ามาแล้ว ปัจจุบันอาณาจักรมังกรก็กำลังเร่งตรวจสอบข้อมูลในโพสต์ดังกล่าวอย่างละเอียดอยู่เดี๋ยวจะมีการประกาศชื่อผู้เสียหาย และคืนความบริสุทธิ์ให้กับผู้เสียหายอีกด้วยจากนั้นก็จะมีการเชิญตัวผู้ที่ปล่อยข่าวเสียหายมา และมอบคำเตือนที่เข้มงวดให้กับพวกเขา รวมถึงหากว่ามีเรื่องร้ายแรงเกิดขึ้น พวกเขาก็อาจมีการได้รับโทษร้ายแรงอีกด้วยตามที่ผู้รับผิดชอบกล่าวมา เรื่องนี้จะถูกรายงานขึ้นไป และด้วยความเข้มงวดในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในปัจจุบัน คาดว่าใช้เวลาไม่เกินหนึ่งหรือสองวัน ก็จะสามารถตรวจสอบให้ชัดเจนได้ทั้งหมดผลลัพธ์อย่างน้อยก็อาจจะประกาศออกมาภายในวันมะรืนนี้งั้นก็รออีกสักหน่อย เขาเองก็อยากจะรู้เหมือนกันพอถึงตอนนั้น แม่ตระกูล
“เป็นคำพูดที่เหลวไหลจริงหรือเปล่านั้น ต่อไปเดี๋ยวก็รู้เองค่ะ”จูเก่อหลิวหลีลุกขึ้น แต่ก็ไม่ได้ตรงไปสวมเสื้อผ้าในทันที กลับมายืนอยู่ตรงหน้าเย่เทียนหยู่ พูดพลางส่งรอยยิ้มเย้ายวนให้ “คุณชายคะ คุณคิดว่ารูปร่างของฉันเป็นยังไงบ้าง?”เย่เทียนหยู่ไม่มีคำพูดใด ๆ และรีบหลับตาลงทันทีแต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ทั้งที่เขาหลับตา รูปร่างที่สมบูรณ์นั้นกลับยังคงปรากฏในหัวอยู่ดี สะโพกที่ทั้งโค้งมนและเพรียวบาง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่น้อยความสวยงามของหน้าอกคู่นั้น รูปร่างโค้งมนที่สมบูรณ์แบบ ผิวพรรณนุ่มนวลจนทำให้คนตะลึงราวกับว่ากำลังลืมตามองดูอยู่ยังไงอย่างงั้นจูเก่อหลิวหลีที่เห็นเย่เทียนหยู่หลับตาอยู่ ในใจก็รู้สึกมีความสุขมาก เธอจึงพูดพลางหัวเราะขึ้นว่า “คุณชายคะ เลือดกำเดาคุณไหลแล้วนะคะ!”“ว่าไงนะ?”เย่เทียนหยู่อดไม่ได้ที่จะลืมตาขึ้นมา แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยว่า จูเก่อหลิวหลีจะนั่งคุกเข่าลง และโน้มตัวเข้ามาใกล้ ๆ ซึ่งทำให้เขาเห็นทุกอย่างได้ชัดเจนยิ่งขึ้น“นี่คุณ......”เย่เทียนหยู่รู้สึกพูดไม่ออก หญิงสาวคนนี้ถึงกับกล้าหลอกเขาเสียได้“ฮ่า ๆ......คุณชายนี่น่ารักจังเลยนะคะ!”แต่จูเก่อหลิ
เป็นอยู่อย่านั้น มีจูเก่อหลิวหลีแค่คนเดียวที่พูดอยู่ตลอดเวลา แม้แต่เธอเองก็ยังไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปบ้าง เอาแต่แสดงออกถึงความรู้สึกทุกสิ่งทุกอย่างของตัวเองอย่างไม่หยุดหย่อนเย่เทียนหยู่ไม่ได้พูดอะไร แค่ยืนฟังอยู่ข้าง ๆ ฟังอย่างงงงวยก็เท่านั้นเขาไม่เคยคิดมาก่อนว่า จูเก่อหลิวหลีจะมีความรู้สึกที่ลึกซึ้งต่อเขามากขนาดนี้ จนทำให้เย่เทียนหยู่ต้องรู้สึกผิด และไม่สบายใจอย่างบอกไม่ถูกหยางเฉียนเฉียนเองก็เป็นแบบนี้ แต่นั่นเขาก็ได้ทำเพื่อหยางเฉียนเฉียนไปไม่น้อย ช่วยเหลือเธอมากมาย จนทำให้ใจของเย่เทียนหยู่รู้สึกดีขึ้นมาบ้างกลับกัน พอเป็นหลิวหลี นอกจากเรื่องที่ช่วยให้เธอทะลวงถึงระดับปรมาจารย์แล้ว เขาก็ไม่ได้ทำอะไรอีกเลย เพื่อที่จะตามหาเขา กลับเป็นเธอที่คอยช่วยเหลือตน ช่วยเหลือแม่ของตนไปไม่น้อยที่สำคัญเลยก็คือ เย่เทียนหยู่ไม่รู้ว่าจะรับมือกับเธออย่างไร หรือจะปลอบใจเธอยังไงได้บ้างแน่นอน หากยอมหลับนอนกับเธอ ทำให้เธอเป็นผู้หญิงของเขา สำหรับเขาแล้วก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร สำหรับผู้ชายคนหนึ่งแล้ว ก็คงเป็นแค่สิ่งที่ปรารถนาไม่รู้จบแต่ว่า ขืนเขาทำแบบนั้น แล้วหว่านหรูจะทำยังไงหากหว่านหรูรู้เรื
“อืม ฉันรู้แล้ว เห็นว่าเธอยังโพสต์เฟสบุ๊กสนับสนุนพวกเราอยู่ด้วยเลยนี่” เย่เทียนหยู่กล่าวด้วยรอยยิ้มคิดไม่ถึงเลยว่าพี่เย่จะรู้เรื่องนี้ด้วย ซึ่งทำให้เฉินเฟยเฟยดีใจเอามาก ๆ ก่อนที่จะรีบพูดขึ้นว่า “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ช่วยอะไรพี่ไม่ได้เลยด้วยซ้ำ”“ทำไมจะไม่ช่วยล่ะ ไม่ว่าจะทำอะไรก็มีความหมายทั้งนั้นแหละ แค่เธอมองไม่เห็นก็เท่านั้นเอง”“จริงเหรอคะ ขอบคุณพี่เย่ที่ให้กำลังใจฉันนะคะ อันที่จริง ที่ฉันโทรหาพี่ครั้งนี้ เป็นเพราะฉันเห็นว่าพี่อยู่ที่ตงเฉิง เลยอยากเชิญพี่มาดูคอนเสิร์ตของฉันน่ะค่ะ”“เธอมีคอนเสิร์ตที่ตงเฉิงงั้นเหรอ เมื่อไหร่?” เย่เทียนหยู่ถาม เขาอาจจะต้องดูเวลาก่อน หากว่าตรงกับการประชุมศักดิ์สิทธิ์ ก็อาจจะไม่ว่างไป“คืนนี้ตอนทุ่มครึ่งค่ะ ที่สนามกีฬา พี่พอจะว่างไหม?” เฉินเฟยเฟยถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความหวัง เธออยากให้เย่เทียนหยู่ไปงานคอนเสิร์ตของเธอมากจริง ๆ เพื่อให้เขาได้ฟังเพลงที่เธอร้องหากไม่ใช่เพราะเรื่องของปาร์คดาฮยอน เธอก็คงส่งคำเชิญให้เขาไปนานแล้ว พอตอนนี้เห็นว่าไม่มีเรื่องวุ่นวายอะไรแล้ว จึงคิดว่าพี่เย่อาจจะว่างก็ได้ ถึงได้เชิญไป“ว่างสิ!”เย่เทียนห
เย่เทียนหยู่ตกใจเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าเขาไม่คิดว่าเธอจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้ แถมยังโอบกอดเขาแน่น พร้อมกับเปิดปากพุ่งเข้ามาอย่างบ้าคลั่งแบบนี้แม้จะดูเก้งก้างไปบ้าง แต่เขากลับรู้สึกมีอารมร์ร่วมในความเป็นจริงแล้ว ด้วยพลังอันแข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่ เขานั้นไม่ได้ถูกควบคุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่ส่วนใหญ่เป็นเพราะเสน่ห์อันเย้ายวนและความงดงามของจูเก่อหลิวหลีทั้งนั้นความรู้สึกต่อจูเก่อหลิวหลีตอนนี้เหมือนกันกับตอนหยางเฉียนเฉียน คือชมชอบ รู้สึกดี และถึงขั้นชอบเสียด้วยซ้ำแต่เนื่องจากความรับผิดชอบที่มีในใจ และความจริงที่ว่าหลินหว่านหรูคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ดังนั้นเขาจึงไม่กล้าที่จะก้าวข้ามไปแม้แต่ก้าวเดียวแต่ท่าทีของจูเก่อหลิวหลีในตอนนี้ เสน่ห์ของจูเก่อหลิวหลี บวกกับฤทธิ์ยา ไม่นานมันก็ได้กระตุ้นความตื่นตัวของเย่เทียนหยู่ขึ้นมาเขาถึงกับไม่สามารถควบคุมตัวเองเอาไว้ได้ และเปิดปากออกโดยไม่รู้ตัว มือก็เริ่มเคลื่อนไหวไปบนร่างของจูเก่อหลิวหลี ความรู้สึกนั้น มันทำให้ตื่นเต้นจนแทบทนไม่ไหวสมบูรณ์แบบมาก!ต้องบอกเลยว่า หากพูดถึงแรงดึงดูดต่อผู้ชาย จูเก่อหลิวหลีนั้นไม่แพ้หลินหว่านหรูเลยแม้แต่น้อย เป็นคว
ขืนยังเป็นแบบนี้ต่อไป เกรงว่าแม้แต่โอกาสที่จะได้อยู่ข้าง ๆ คุณชายก็คงไม่เหลือ ดังนั้น เธอจึงตัดสินใจที่จะทำตัวให้กระตือรือร้นมากขึ้นถึงแม้จะไม่ได้เป็นภรรยาของคุณชาย ขอแค่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายบ้าง ต่อไปเธอก็จะถือว่าเป็นผู้หญิงของคุณชาย และอย่างน้อยก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณชายไปตลอดชีวิตได้เพราะไม่อย่างนั้น สักวันหนึ่งระยะห่างของเธอกับคุณชายก็คงจะไกลกันมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อเหตุนี้ เธอจึงตัดสินใจวางยา ยานี้ไม่ใช่ยาธรรมดา ไม่เพียงแต่ไม่มีสีและรสชาติเท่านั้น แต่ยังเป็นยาที่หายากอีกด้วย เพียงแต่ผลลัพธ์ของยานั้นกลับไม่ได้มีความเข้มข้นมากนักแต่ก็ไม่เป็นไร โชคดีที่ได้เจอกับมันโดยบังเอิญ บวกกับเสน่ห์ที่ดูแพรวพราวของเธออีกเพื่อเสริมเสน่ห์ของตัวเองแล้ว หลายวันมานี้เธอได้ทำการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อที่จะทำให้คุณชายหลงใหล และให้คุณชายยอมกลืนกินเธอแม้ว่าวันนี้จูเก่อหลิวหลีจะสวมกระโปรงสีดำแหวกข้าง และเสื้อคอลึก จนทำให้ขาเรียวยาวของเธอโผล่พ้นออกมา ซึ่งความมีเสน่ห์ของเธอทำให้เขารู้สึกใจสั่นเล็กน้อยแต่เย่เทียนหยู่ก็ไม่ได้คิดมากอะไร ในขณะที่ดื่มน้ำในมือ เขาก็เดินดูรอบ ๆ พร้อมกับเอ่ยชมขึ้นว่า
อันที่จริงแล้ว ครั้งนี้ไม่ใช่การเตรียมการของเย่เทียนหยู่ แต่เป็นการเตรียมการของมู่หรงอิน อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดว่ามู่หรงอินเองก็ไม่ได้รังเกียจที่จะจัดการเรื่องนี้ กระทั่งเธอยังยินดีที่จะทำเสียด้วยซ้ำเกี่ยวกับสถานการณ์ของบริษัทเทียนเฟิงกรุ๊ปสาขาตะวันออก ข้อมูลก็ได้ถูกส่งไปถึงหูของมู่หรงอินแล้ว ใบหน้าของเธอก็ปรากฏรอยยิ้มออกมาแม้จะมีความช่วยเหลือจากเย่เทียนหยู่อยู่แล้ว แต่การแสดงออกของหลินหว่านหรูนั้นก็ทำให้เธอพอใจมากจริง ๆเดิมทีภาพรวมของเทียนเฟิงกรุ๊ปก็ดีมากอยู่แล้ว เพียงแค่ปัญหาร้ายแรงบังเอิญมาเกิดที่สาขานี้ก็เท่านั้น เธอแค่ต้องการอยากจะเห็นการแก้ปัญหาของหลินหว่านหรู และจะใช้เวลานานแค่ไหนในการจัดการคิดไม่ถึงเลยว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ แถมยังกระตุ้นความกระตือรือร้นของพนักงานให้มีแรงผลักดันมากขึ้นอีกด้วยไม่เสียแรงที่ตนให้คนเตรียมข้อมูลพนักงานที่ละเอียดขนาดนั้นเอาไว้ให้เธอเลยจริง ๆในตอนที่เย่เทียนหยู่เดินออกจากบริษัท เขาเองก็กำลังคิดว่าจะหาบ้านที่เหมาะสมในบริเวณใกล้เคียง แล้วซื้อเอาไว้สักหลัง ไม่ว่ายังไงก็จะให้หลินหว่านหรูพักอยู่โรงแรมตลอดไปไม่ได้หรอกนี่เห็นได้ชัดว่ามันไม่เ
“เพราะเขาเป็นคนพูดเองว่า ไม่ว่าโลกจะกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ภรรยาก็คือที่สุด!”“ถ้าไม่มีการอนุญาตจากฉัน เขาจะทำอะไรบุ่มบ่ามแน่นอน”“ฮ่า ๆ......”พอทุกคนได้ยินคำพูดของหลินหว่านหรู ก็แทบจะหัวเราะออกมาโดยไม่รู้ตัว จู่ ๆ ก็คิดว่าประธานหลินคนนี้ไม่เลวเลยจริง ๆเห็น ๆ อยู่ว่าอำนาจในมือนั้นเกินคาดเดา แต่เจ้าตัวกลับเป็นคนที่อ่อนโยนเช่นนี้เมื่อพูดถึงว่าภรรยาเป็นใหญ่ สีหน้าของหลินหว่านหรูก็แดงเพราะความเขินอายขึ้นมา สิ่งสำคัญคือเธอรู้สึกว่าควรจะดึงบรรยากาศกลับมาสักหน่อย เพื่อไม่ให้ทุกคนมุ่งคิดแต่จะเอาใจเธออย่างเดียว จนละเลยหน้าที่ในบริษัท แบบนั้นคงไม่ดีแน่เย่เทียนหยู่สามารถที่จะไม่สนใจผลประโยชน์ของบริษัทได้ กระทั่งปล่อยให้บริษัทล้มละลายไปเลยก็ตาม แต่เธอเองกลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ ถ้าตั้งใจจะทำแล้ว ก็ต้องทำให้ถึงที่สุด แล้วก็จะต้องแข็งแกร่งยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยเพราะไม่เช่นนั้น เธอจะมีหน้าไปพบอนาคตแม่สามีได้อย่างไรเมื่อเห็นปฏิกิริยาของทุกคน หลินหว่านหรูก็รู้สึกว่าตนทำถูกต้องแล้ว จากนั้นจึงกล่าวขึ้นอีกว่า “แต่ว่านะ ถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้เอาแต่ใจเท่ากับเขา แต่สำหรับเรื่องงานแล้ว ฉันกลับมีความเข้
คำพูดนี้ทำให้ทุกคนรู้สึกตกตะลึงและสั่นสะเทือนในใจขึ้นมาอีกครั้งถึงขนาดไม่สนใจว่าบริษัทจะล้มละลาย แม้แต่การขอร้องจากประธานบริษัทเองก็ยังไม่ได้ผลเลยด้วยซ้ำ!นี่เป็นเผด็จการและการปกป้องที่ไร้เหตุผลชัด ๆ!ในใจหลายคนก็อดสงสัยไม่ได้ว่าชายหนุ่มคนนี้คือใคร อาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประธานบริษัท หรืออาจจะมีสถานะที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น พวกเขาก็ยิ่งอดไม่ได้ที่จะหันไปมองหลินหว่านหรูด้วยความรู้สึกอิจฉาโดยเฉพาะผู้หญิงบางคน ในใจพวกเธอก็อดคิดไม่ได้ ว่าหากพวกเธอมีผู้ชายแบบนี้สักคน ต่อให้จะเป็นเพียงหนึ่งในหมื่น พวกเธอก็คงจะมีความสุขจนตายได้เลยการปกป้องที่ไม่มีเหตุผลแบบนี้ แม้แต่หลินหว่านหรูที่ถูกเย่เทียนหยู่ทะนุถนอมตลอดเวลาก็ยังรู้สึกใจเต้นเช่นกันเทียนหยู่ได้ทุ่มเททุกอย่างให้กับเธออย่างแท้จริง เขาทั้งมุ่งมั่นและตั้งใจทำเพื่อเธอพอนึกย้อนกลับไป เขาก็คอยปกป้องเธออยู่เงียบ ๆ มาโดยตลอดมาเช่นกันเพียงแค่ตัวเองก่อนหน้านี้นั้นกลับโง่เขลาเกินไป ไม่สามารถแยกแยะสถานการณ์ได้ ไม่เพียงแต่ไม่เข้าใจ แถมยังเข้าใจผิดเกี่ยวกับเขาตั้งหลายครั้งอีกด้วยตอนนี้พอมาคิดดูแล้