เย่เทียนหยู่วางโทรศัพท์มือถือลงแล้วพูดว่า “ผมยังมีธุระต่อ ในเมื่อที่นี่ไม่มีอะไรแล้ว เราขอตัวกลับก่อน”“ครับ พี่เย่เชิญจัดการธุระก่อนเถอะครับ ไว้คราวหน้าผมมีโอกาสเลี้ยงอาหารค่ำคุณ” ซูเหวินฮวาพูดทันที แม้ตอนนี้เขาจะร้อนใจที่จะผูกมิตรและเสวนากันมากกว่านี้ แต่การกินตอนอาหารร้อนเกินคงไม่ใช่เรื่องดีนักหวงโหยวเหว่ยรู้สึกอึดอัดใจ สิ่งที่เขาต้องการจะพูดถูกซูเหวินฮวาแย่งพูดไปก่อนอีกครั้ง“เข่อซิน ไปกันเถอะ”เย่เทียนหยู่ไม่อยู่ต่อให้เสียเวลาและพาเฉินเข่อซินออกไปทันที หลังจากขึ้นรถแล้ว เขาพูดว่า “เข่อซิน หลังกลับไปแล้ว คุณกับคุณน้าจัดเก็บของให้เรียบร้อยแล้วย้ายเข้าไปในวิลล่านะ”“อ่า ไม่ได้นะคะ วิลล่านี้เป็นของพี่เย่ เรา...”“ปล่อยไว้แบบนั้นมันก็ยังอยู่เหมือนเดิม ไม่สู้เข้าไปใช้งานดีกว่านะ” เย่เทียนหยู่ขัดจังหวะในขณะนี้ เฉินเข่อซินเริ่มรู้สึกตัวและถามว่า: “พี่เย่ นี่พี่หลอกฉันเหรอ? พี่แค่อยากซื้อวิลล่าให้ฉันหรือเปล่า?”เย่เทียนหยู่ยิ้มแห้ง ไม่รู้ว่าจะตอบยังไง“ต้องใช่แน่ พี่เย่ ทำไมพี่ถึงดีกับฉันขนาดนี้” เฉินเข่อซินจ้องไปที่เย่เทียนหยู่ เธออดคิดไม่ได้ว่าพี่เย่ต้องชอบเธอแน่ทุกคนต่างก็บ
หยางต้าฝูกำลังจะพยักหน้าเห็นด้วย ในเวลานี้เอง แม่บ้านก็เข้ามาแล้วพูดว่า “ท่านประธาน คุณชายเย่มาถึงด้านหน้าแล้วค่ะ”“อะไรนะ มาถึงแล้วเหรอ! ไปเร็ว ไปทักทายคุณชายกันเถอะ”เมื่อหยางต้าฝูได้ยินดังนั้น เขาก็ลุกขึ้นและพาผู้คนไปที่ประตูวิลล่า แล้วยืนรออยู่ที่ประตูในทันทีซ่งเหวินป๋อและซ่งหยางตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากลังเลอยู่สักพัก พวกเขาก็เดินตามเขาไป แต่พวกเขาก็ยืนอยู่หลังประตู เพราะพวกเขาอยากรู้ว่าใครเป็นคนสำคัญแต่ท่านประธานหยางเองก็ไม่ได้ขับไล่พวกเขา ไม่แน่พวกเขาอาจมีโอกาสได้พูดคุยกับคนสำคัญ แบบนั้นพวกเขาก็มีโอกาสได้เติบโตแต่ภาพเบื้องหน้านี้ สมาชิกตระกูลหยางบางคนที่ไม่รู้สถานการณ์ต่างก็ตกตะลึงอย่างยิ่งด้วยฐานะของหยางต้าฝู เขามักถูกผู้คนมากมายจับตามองอยู่ตลอดเวลา แม้แต่ผู้นำระดับสูงของเมืองเทียนไห่ไม่รู้ว่าจะต้อนรับแขกคนสำคัญแบบไหนกัน แต่มันช่างดูยิ่งใหญ่จริง ๆหลังจากรออยู่ครู่หนึ่ง บุคคลนั้นก็ยังมไม่าถึง หยางต้าฝูขมวดคิ้วและถามแม่บ้านที่แท้แล้วหลังจากที่เย่เทียนหยู่เข้ามา เขาก็นึกถึงอะไรบางอย่างและหยุดไปสักพัก จึงอาจใช้เวลาพอสมควร แต่ไม่นานนักเขาก็ขับรถกลับเข้ามาอย่างรวดเ
เมื่อเห็นเย่เทียนหยู่เหลือบมอง ซ่งหยางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล รู้สึกตัวอีกทีพวกเขาก็เดินเข้าไปข้างในแล้วซ่งเหวินป๋อมองดูลูกชายของเขาแล้วเดินตามเขาเข้าไปคนอื่น ๆ เองก็เช่นกันเมื่อมาถึงด้านในแล้ว หยางต้าฝูเหลือบมองผู้คนที่ตามมา เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “พวกคุณทุกคนรออยู่ในห้องนั่งเล่นก่อน ผมมีธุระที่ต้องจัดการกับคุณชายเย่”ทุกคนตอบรับ รวมถึงซ่งเหวินป๋อและซ่งหยางแม้ว่าพวกเขาจะสงสัยเกี่ยวกับเรื่องที่ประธานหยางกำลังพูดถึงกับคุณชายเย่ แต่ด้วยสถานะของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าพวกเขาไม่กล้าขัดคำสั่งของประธานหยางเย่เทียนหยู่ก็เดินเข้าไปข้างในโดยมีหยางต้าฝูนำทาง และไม่นานก็มาถึงสถานที่คุมขังมีคนคนหนึ่งนั่งอยู่ข้างประตู ซึ่งก็คือคนที่พ่ายแพ้ให้กับเย่เทียนหยู่เมื่อคราวก่อนคนผู้มีฝีมือมากขนาดนี้ แต่กลับต้องมาถูกกุมขังอยู่ที่นี่ ดูเหมือนหยางต้าฝูคงอยากจะจัดการเรื่องนี้ให้สำเร็จจนทุ่มแรงไปมากตอนนี้ภายในห้อง คู่พ่อลูกหลิวกวงและหลิวเจี๋ยกำลังมีสีหน้าสิ้นหวังพวกเขานึกว่าหนีจากเมืองเทียนไห่ได้อย่างปลอดภัยและออกจากอาณาจักรมังกร แต่เขาไม่คิดมาก่อนเลยว่าหยางต้าฝูจะลงมือกับพวกเขา และใช้กำลังทั้ง
“อยากได้เท่าไรบอกมาได้เลยนะครับ”แต่หลิวเจี๋ยที่อยู่ข้างๆ เขากลับเอาแต่มึนงงและรู้สึกกลัวพ่อของเขาไม่รู้จักเย่เทียนหยู่ แต่เขารู้จัก เมื่อดูท่าทางของหยางต้าฝูที่มีต่อเย่เทียนหยู่ตอนนี้ เห็นได้ชัดว่าตัวตนของเย่เทียนหยู่นั้นไม่ธรรมดาจริง ๆหากเป็นแบบนี้ ทุกอย่างก็จะสมเหตุสมผลทั้งหมดเป็นเพราะ เย่เทียนหยู่!“คุณหมายความว่า เงินที่ถูกฉ้อโกงนั่นยังอยู่ในมือของคุณสินะ?” เย่เทียนหยู่พูดเบา ๆ เขาคิดว่าเงินถูกโอนไปต่างประเทศแล้ว และคงไม่สามารถเอาคืนมาได้แล้ว“คุณคือใคร?”หลิวกวงอดไม่ได้ที่จะถาม แม้ว่าเขาจะเห็นว่าหยางต้าฝูดูเหมือนจะนำทางเย่เทียนหยู่เข้ามา แต่เขาก็ยังรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติอยู่ดี เพราะยังไงคนคนนี้ก็ยังดูเด็กมา“ผมเป็นใครคุณไม่รู้ แต่ยังส่งคนมาฆ่าผมได้ตั้งสองสามครั้งเหรอ?”เย่เทียนหยู่ส่ายหน้า“ฆ่าคุณ?”หลิวกวงสะดุ้งเล็กน้อยหลิวเจี๋ยพูดทันที: “พ่อ เขาคือเย่เทียนหยู่!”“อะไรนะ!”หลิวกวงตกตะลึงอย่าง ชายหนุ่มคือเย่เทียนหยู่ที่เขาต้องการจะฆ่าอย่างนั้นเหรอ?เมื่อมองแบบนี้ เรื่องทุกอย่างก็กระจ่างในทันทีแต่ทำไมประธานหยางถึงปฏิบัติต่อชายหนุ่มด้วยความเคารพแบบนี้ เขาอด
ในเวลานี้ หลิวเจี๋ยดูน่าสงสารอย่างยิ่ง เขาดูไม่เหมือนคนที่ทั้งเยือกเย็นและสงบเหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไปแต่เห็นได้ชัดว่าเย่เทียนหยู่ไม่มีความเห็นอกเห็นใจใด ๆ และพูดอย่างใจเย็น: “หลิวเจี๋ยก่อนหน้านี้คุณเย่อหยิ่งมากเลยไม่ใช่เหรอ? คุณชอบบอกผมว่าคุณเป็นคนที่อยู่เหนือกว่าผมอยู่เสมอไม่ใช่เหรอ?”“ทำไมตอนนี้ถึงยอมก้มหัวยอมรับความผิดพลาดกับคนชั้นต่ำแบบผมกันล่ะ?”เมื่อหลิวเจี๋ยได้ยินดังนั้น เขาก็เพิกเฉยต่อความอัปยศอดสูและร้องขอความเมตตา: “ผมยังเด็กและไม่รู้ความ และไม่เข้าใจถึงอำนาจของคุณ ตอนนี้ผมรู้ว่าผมผิดแล้วครับ ผมคุกเข่าขอร้องและผมจะกลับใจแน่นอนครับ““ไม่ต้องกังวล ผมจะไม่รบกวนหว่านหรูอีกแล้วครับ…”ปึง!ก่อนที่ หลิวเจี๋ยจะพูดจบ เขาก็ถูกเย่เทียนหยู่ถีบกระเด็นออกไปอย่างแรง ตัวเขากระแทกตัวไปอีกด้านก่อนจะตกลงบนพื้น เขาเหงื่อแตกออกมาเพราะความเจ็บปวดเขาเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดบนนร่างกายและคลานกลับทันที เพียงแต่ว่าท่าทางของเขาดูไม่สะดวกนิดหน่อยเพราะว่ามือถูกมัดไว้“ชื่อหว่านหรูแกไม่มีสิทธิ์มาเรียกหรอก”เย่เทียนหยูเตะเสร็จก็พูดออกอย่างเย็นชา“ครับ ใช่แล้ว ไม่ต้องกังวล หลังจากวันนี้ผมจะอธิบายทุกอ
เขาไม่ได้รับคำสั่งจากราชามังกรให้หยุดด้วยซ้ำหลิวกวงเกือบเป็นอัมพาตด้วยความกลัว และพูดด้วยความหวาดกลัว: “ไม่นะ ผมพูดแล้ว ผมพูดแล้ว!”หยางต้าฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องหยุดการเคลื่อนไหวของเขา และพูดอย่างเย็นชา: “บอกมา เงินอยู่ไหน และจะโอนกลับได้ยังไง”“ผมจะบอกให้ เงินถูกโอนไปยังบัญชีต่างประเทศของผมแล้ว และผมต้องไปที่นั่นด้วยตนเองก่อนจึงจะสามารถโอนเงินออกมาได้” หลิวกวงพูดอย่างรวดเร็ว“ลำบากขนาดนั้นเลยเหรอ?”“นี่เป็นวิธีเดียว และมันก็เป็นวิธีรักษาชีวิตของผมตั้งแต่แรก” หลิวกวงอธิบายเมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ของหลิวกวง ก็สมเหตุสมผลอย่างยิ่งที่จะทำเช่นนั้นและหยางต้าฝูก็เชื่อเขาแต่เย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วและพูดว่า: “ยุ่งยาก ผมรอไม่ไหวหรอก ถ้าอย่างนั้นก็ช่างมันไปเถอะ ผมไม่ต้องการเงินแล้ว ฆ่ามันซะ!”แม่งเอ๊ย!แบบนี้ก็ฆ่าเหรอ?หลิวกวงกำลังจะบ้า เด็กคนนี้เป็นมนุษย์หรือเปล่า เขาพูดอย่างวิตกกังวล: “ไม่นะ แค่ส่งคนมาติดตามผม พอไปถึงที่นั่นก็สามารถโอนเงินได้เลย”“เท่าไร?” เย่เทียนหยู่ถาม“สองพันห้าร้อยล้าน!”“แค่สองพันห้าร้อยล้านเหรอ?”“ผมโกงมามากบวกกับเงินของตัวเองด้วย แต่ค่าใช้จ่ายก็มหาศ
หลิวกวงและลูกชายของเขาก็ตกตะลึงอย่างมาก ตอนนี้ฉีเฟยกรุ๊ปตกอยู่ในความยุ่งเหยิงและเต็มไปด้วยหนี้สินนี่มัน มีเรื่องดี ๆ แบบนี้ด้วยเหรอ อีกฝ่ายจะแลกเปลี่ยนสิ่งนี้กับชีวิตของเขาจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ?“มันไม่สำคัญหรอก แค่เสียเงิน ผมจ่ายไหว”เย่เทียนหยู่พูดหยางต้าฝูยิ้มแห้งด้วยสีหน้าสิ้นหวัง บางทีราชามังกรอาจมีเหตุผลของตัวเองก็ได้หลิวกวงไม่คิดเลยว่าจะมีเรื่องดี ๆ เช่นนี้เกิดขึ้น และอดไม่ได้ที่จะถามว่า “คุณเย่ คุณอยากได้ฉีเฟยกรุ๊ปจริง ๆ เหรอครับ”“ใช่!”เย่เทียนหยู่ยืนยันทั้งสองฝ่ายต่างก็ไม่ได้มีความแค้นเอาเป็นเอาตายต่อกัน ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาโต้เถียงกับพวกเขาเหตุผลที่ต้องการยึดฉีเฟยกรุ๊ปในตอนนี้ก็เพราะ เมื่อมีการประกาศการภายในเมือง ฉีเฟยกรุ๊ปจะสามารถกลับมามีชีวิตอีกครั้งเมื่อถึงเวลานั้น แม้ว่าฉีเฟยกรุ๊ปจะล้มละลาย แต่ทางการก็จะต้องเข้าควบคุมกิจการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะไม่ตกไปอยู่ในมือของพวกเขาแน่นอน เพียงแต่ว่าตอนนี้ภายในเมืองยังไม่ได้รับแจ้งเรื่องข่าวใหญ่นี้ดังนั้นเขาจึงต้องการยึดฉีเฟยกรุ๊ปก่อนที่ข่าวจะถูกส่งต่อ“แต่ตอนนี้ฉีเฟยกรุ๊ปกำลังเผชิญกับภาวะล้มละลาย หากคุณรับม
เงินหนึ่งหมื่นล้านที่ถูกฉีเฟยกรุ๊ปเอาไปส่วนใหญ่ถูกส่งคืน เพราะคนจากด่านหลงเหมินจับคนได้และยืนยันว่าเงินส่วนใหญ่ยังอยู่ที่เดิมพื้นที่รกร้างขนาดใหญ่ใกล้กับกองขยะทางตะวันออกของเมืองจะช่วยให้ฉีเฟยกรุ๊ปได้เติบโตใครจะคิดว่าสถานที่ห่างไกลที่มีกองขยะและแม่น้ำที่ปนเปื้อนจะถูกเลือกให้เป็นสถานที่พัฒนาสำหรับเขตใหม่ และแม้กระทั่งกลายเป็นพื้นที่หลักของเมืองใหม่ได้ที่ดินหลายพันเอเคอร์ที่ฉีเฟยกรุ๊ปเกือบจะทิ้งร้างกำลังจะกลายเป็นที่ดินสำหรับทำเงินมหาศาลที่ด้านนอก ซ่งเหวินป๋อและลูกชายของเขาไม่ได้ออกมาด้วย โอกาสดี ๆ แบบนี้พวกเขาไม่ควรพลาด แต่ตอนนี้พวกเขารอมาเป็นเวลาค่อนข้างนานโชคดีที่เย่เทียนหยู่และคนอื่น ๆ ปรากฎตัวออกมาในเวลานี้หยางต้าฝูพูดด้วยความประหลาดใจ: “เหล่าซ่ง นี่คุณยังไม่กลับเหรอ?”“เหะ ๆ ประธานครับ ท่านบอกว่าวันนี้มีแขกคนสำคัญมาด้วยไม่ใช่เหรอ ผมก็อยากรู้จักเหมือนกัน คุณชายเย่ สวัสดีครับ ผมชื่อซ่งเหวินป๋อ ทำงานอยู่ในธุรกิจอัญมณีครับ” ซ่งเหวินป๋อริเริ่มทักทายเขาอย่างไร้ยางอายด้วยเวลาเพียงเท่านี้ พวกเขาได้รู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของเย่เทียนหยู่จากครอบครัวของหยางต้าฝู แต่พวกเขารู้เพียงว
ตอนนี้กลับมาคุกเข่าอยู่ต่อหน้าตัวเองแบบนี้งั้นเหรอ?แม้แต่แม่ตระกูลซุนเองก็รู้สึกไม่อยากจะเชื่อ พวกเขารู้ดีว่าซุนต้าอวี่นั้นให้ความสำคัญกับหน้าตามาก ในช่วงเวลานี้เขากลับกล้าทำเรื่องแบบนี้ได้และเธอเองก็ยังสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวที่อยู่ในใจของสามีตนอีกด้วยซุนต้าอวี่ไม่เพียงแค่คุกเข่าลงเท่านั้น แต่ภายใต้สายตาที่ดูตกตะลึงของทุกคน เขาก็พูดด้วยความโกรธไปว่า “พวกเธอสองคนมัวยืนทำอะไรอยู่ ยังไม่รีบมาคุกเข่าลงอีก”“เพราะพวกเธอนั่นแหละที่มาทำตัวไม่เหมาะสมที่นี่ในวันนี้ ถึงได้เผลอไปล่วงเกินท่านราชามังกรเข้า ยังไม่รีบมารับผิดกับท่านราชามังกรอีก”ในใจเขาแอบด่าไม่หยุด เฉินอู่คนนั้นเป็นผู้มีทำนาจมากในแดนตะวันออกนี้ บุคคลสำคัญหลายคนต่างก็ต้องการเอาใจเขา เมื่อพบท่านราชามังกร ตัวเขาเองยังคุกเข่าลงเลยแล้วเหตุใดพวกเธอถึงจะไม่คุกเข่าลงล่ะ?และก็เป็นเพราะเหตุนี้เอง การที่เขาคุกเข่าลงนั้น มันก็สมควรแล้วสีหน้าของแม่ตระกูลซุนดูไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ถือว่าเธอได้เข้าใจถึงสถานการณ์ตรงหน้าเป็นอย่างดีแล้ว ว่ายังไงก็ต้องขอความเมตตาจากท่านราชามังกรแต่ว่า เธอไม่อยากที่จะทำเรื่องขายหน้าแบบนี้เลย
เมื่อเทียบกับความตื่นเต้นของคู่สามีภรรยาตระกูลสวี่แล้ว พวกซุนต้าอวี่ทั้งสามคนกลับมีความตื่นเต้นในอีกแบบหนึ่งปกติซุนซวี่ได้ยินเรื่องราวความลึกลับและความแข็งแกร่งของราชามังกรมาก็มากมาย และหวังจะได้พบมาโดยตลอด กลับคิดไม่ถึงเลยว่า ตนจะกล้าหาญทำตัวอวดดีต่อหน้าคนคนนั้นได้นี่เท่าเขากำลังเต้นรำอยู่บนคมดาบไม่ใช่รึไง หากยังมีชีวิตอยู่ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์มากแล้ว เมื่อสังเกตเห็นสายตาของอีกฝ่ายที่มองมา ใบหน้าก็ซีดลงทันที เขาแทบจะฉี่ราดตรงนั้นเลยด้วยซ้ำสีหน้าของคุณแม่ตระกูลซุนเองก็ดูไม่ดีเช่นกัน ไม่มีความบ้าคลั่งหรือหยิ่งยโสเหมือนก่อนหน้านี้อีกต่อไป ใบหน้าที่เหมือนแม่มดก็หายไปด้วยเช่นกัน เธอได้แต่ก้มหน้าเงียบ ๆ ไม่พูดอะไรซุนต้าอวี่รู้สึกเสียใจจนแทบกระอักเลือด พอเขานึกถึงการแสดงออกของของอาจารย์จูเมื่อสักครู่นี้ เดิมทีก็รู้สึกว่ามันผิดปกติอยู่แล้ว แต่เขากลับคิดไม่ถึงเลยสักนิดเมื่อกี้เขาถูกความโกรธครอบงำ และความแข็งแกร่งของตระกูลซุนก็ทำให้เขาเลอะเลือน เพราะไม่อย่างนั้น ด้วยไอคิวของเขาแล้ว เขาจะต้องสังเกตเห็นถึงความผิดปกติได้อย่างแน่นอนแต่เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เสียใจไปก็ไม่ได้อะไ
แม้แต่ซุนต้าอวี่เองก็ยังรู้สึกงงงวยอย่างเห็นได้ชัด ข้อมูลชุดนี้ดูเหมือนว่าจะใหญ่เกินไปหน่อย เขารู้สึกไม่แน่ใจเกี่ยวกับสถานการณ์ตรงหน้าสักเท่าไหร่ เขาไปดูถูกท่านราชามังกรตั้งแต่เมื่อไหร่กันแล้วอีกอย่าง ใครคือท่านราชามังกร ราชามังกรแห่งพรรคมังกรน่ะเหรอ นั่นเป็นถึงชายผู้แข็งแกร่งที่อยู่บนจุดสูงสุดเชียวนะ ตัวเขาจะกล้าพูดจาเหลวไหลต่อหน้าท่านได้ยังไงช้าก่อน!จู่ ๆ ก็เหมือนว่าซุนต้าอวี่จะตระหนักได้ถึงอะไรบางอย่าง หรือว่า เจ้าเด็กนั่นคือราชามังกรงั้นเหรอ?เป็นไปไม่ได้!ยังไงก็เป็นไปไม่ได้!ไม่ใช่แค่เขา คนอื่น ๆ เองก็หันมามองไปที่เย่เทียนหยู่ด้วยความสงสัย เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเองก็คาดเดาไปในทิศทางเดียวกันสวี่อี้เองก็คิดแบบนั้นด้วยเช่นกัน แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกสั่นสะท้านด้วยความไม่เชื่อ นี่มันจะเป็นไปได้ยังไงความสับสนยังคงแขวนอยู่บนใบหน้าสวี่กวง หมายความว่ายังไง ขณะที่เขากำลังจะถามทันทีที่เฉินอู่ตำหนิซุนต้าอวี่เสร็จ เขาก็รีบหันไปหาเย่เทียนหยู่ ก่อนที่จะทรุดเข่าลงหนึ่งข้าง พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ และกล่าวขึ้นว่า “หนึ่งในสี่ผู้ส่งสารของพรรคมังกร ผู้ส่งสารอัสนี เฉิ
เมื่อคำพูดอันทรงพลังของเฉินอู่ดังขึ้น ทุกคนต่างก็หยุดชะงักกันไปตาม ๆ กัน ก่อนที่จะหันมองไปที่ประตูอย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ทันทีที่หันไปมอง ก็เห็นเพียงชายที่ทรงพลังคนหนึ่งกำลังเดินผ่านประตูเข้ามาจากท่าทางรูปร่างของเขา รวมถึงออร่าที่ทรงพลังและน่าเกรงขามที่อยู่รอบตัว เหมือนว่าคนที่มาจะไม่ใช่คนธรรมดาซุนต้าอวี่ที่ได้ยินเสียงนั้น สีหน้าเขาก็เปลี่ยนไปทันที เมื่อเขาหันไปมอง ก็เห็นว่าเป็นเจ้าสำนักหมัดมวยเว่ยอู่ตัวจริง ต้องเข้าใจก่อนว่า เฉินอู่คนนี้ ไม่ได้เป็นเพียงเจ้าสำนักธรรมดาเท่านั้นลูกศิษย์ที่มีชื่อเสียงหลายคนของเขา ต่างก็มีสถานะที่ไม่ธรรมดากันทั้งนั้น ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเลยว่า ยังมีผู้มีอำนาจอีกมากมายแค่ไหน ที่ต้องการจะส่งลูกหลานของตัวเองให้มาคำนับเป็นศิษย์ของเขายกตัวอย่าง เช่นสวี่กวง เขาเองก็เป็นหนึ่งในนั้น แต่เมื่อเทียบกับคนอื่น ๆ ที่เก่งกว่าแล้ว เขายังมีข้อบกพร่องอยู่มากแต่ถึงอย่างนั้น เฉินอู่คนนี้วางท่าหยิ่งยโสเกินไปรึเปล่า แค่เพราะสถานะที่เหนือกว่าของเขา ตระกูลซุนก็จะต้องกลัวเขาด้วยรึไงก่อนหน้ายังมีความเกรงใจอยู่ แต่ก็เป็นเพียงความเคารพเลื่อมใสก็เท่านั้นหากเรื่องนี้เกี่
“อย่าลืมสิ คุณเป็นคนพูดเองนะ ว่าตระกูลซุนสามารถทำลายตระกูลสวี่ของพวกเราได้ในพริบตา หากตระกูลที่แข็งแกร่งขนาดนี้ยังจัดการไม่ได้ แล้วพวกเราจะจัดการได้ยังไง”“คุณ!”แม่ตระกูลซุนโกรธมาก แต่โชคดีที่ในขณะนั้น ในที่สุดอาจารย์จูก็หยุดมือแล้ว แม้ว่าเย่เทียนหยู่จะไม่ได้สั่งให้หยุด แต่เขาก็ไม่กล้าทำต่อไปอีกอยู่ดีขืนยังทุบตีต่อ เขาได้ตายจริง ๆ แน่ หากเขาตาย ตนก็คงจบเห่ไปด้วยแต่ในตอนนี้ ใบหน้าของผู้นำตระกูลซุนก็ได้บวมจนเหมือนหัวหมูไปแล้ว แทบมองไม่เห็นโครงเดิมเลยด้วยซ้ำแต่ก็ยังถือว่าโชคดี ที่เขายังสามารถลุกขึ้นยืนได้ปกติดูเหมือนว่าอาจารย์จูจะไม่ได้ตีแบบสุ่มสี่สุ่มห้า เขายังพอมีขอบเขตอยู่บ้าง เพราะไม่อย่างนั้น ด้วยความแข็งแกร่งของเขา แค่สองสามทีก็สามารถทำให้ซุนต้าอวี่ตายได้ในทันทีแต่ซุนต้าอวี่เองก็รู้สึกถึงความอับอายอย่างมาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความโกรธปนเศร้า ตอนนี้เขารู้สึกเสียใจอย่างมาก ที่ทำไมเขาถึงพาคนมาเพียงเท่านี้กันหากเขาเรียกตำรวจหรือคนอื่น ๆ มาที่นี่เดี๋ยวนี้ ยังจะกลัวว่าจะจัดการกับเด็กหนุ่มพวกนี้ไม่ได้อีกงั้นเหรออาจารย์จูไม่สนใจเขา และหันไปหาเย่เทียนหยู่แทน พร้อมกับพูดอย่
ทันทีที่คำพูดเหล่านี้ถูกพูดออกมา ทุกคนตกตะลึกขึ้นอีกครั้งทั้งสวี่กวงและสวี่อี้ต่างก็ตาโตปากค้างเป็นรูปตัวโอ พวกเขาคาดหวังให้เย่เทียนหยู่โชคร้ายอยู่ตลอด ทำไมจู่ ๆ ถึงได้กล่าวขอโทษได้ล่ะพ่อตระกูลสวี่และคนอื่น ๆ ยังคงยืนอึ้งกันอยู่ ไม่เข้าใจสถานการณ์เลยแม้แต่น้อย แต่เมื่อพ่อตระกูลสวี่ลองนึกย้อนดู หรือว่าอาจารย์จูสัมผัสถึงความเก่งกาจของเย่เทียนหยู่ได้กันนะซุนซวี่และแม่ตระกูลซุนต่างก็มีสีหน้าที่ดูบิดเบี้ยวและน่าเกลียดอย่างมากผู้นำตระกูลซุนหน้าตาเคร่งเครียด และพูดด้วยความโกรธว่า “อาจารย์จู คุณหมายความว่ายังไงกันแน่?”อาจารย์จูไม่สนใจเขาเลยด้วยซ้ำ เพิกเฉยต่อเขาโดยสิ้นเชิง ได้แต่ก้มหัวและโน้มตัวลง รอให้เย่เทียนหยู่พูดออกมาเย่เทียนหยู่หัวเราะฮึ ๆ ออกมา ก่อนที่จะชี้ไปทางผู้นำตระกูลซุน แล้วพูดขึ้นว่า “ไม่เลว ดีที่คุณยังรู้ตัวได้ทันเวลา เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน คุณก็จัดการกับตาแก่นี่ให้กลายเป็นหัวหมูซะ เรื่องวันนี้ผมก็จะไม่เอาความคุณอีก”ทุกคนต่างตกใจไปชั่วขณะ ทำร้ายแม่ตระกูลซุนกับซุนซวี่ไม่พอ นี่ถึงขั้นจะทำร้ายผู้นำตระกูลซุนอีกนี่มันแทบจะพลิกโลกแล้ว!ในตอนนี้เอง ทุกคนจ้องมองไปทาง
เมื่อเห็นท่าทีของน้องชายที่แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง หลินหว่านหรูก็หันไปมองเย่เทียนหยู่ และกล่าวด้วยความซาบซึ้ง “เทียนหยู่ ขอบคุณนะ!”หากไม่มีการสั่งสอนและการชี้แนะจากเย่เทียนหยู่ น้องชายของเธอก็คงไม่มีความสามารถ ไม่มีความรับผิดชอบ และความกล้าที่ทำอย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้แน่นอนเห็นได้ชัดว่า ที่น้องชายของเธอได้รับการฝึกฝนมาอย่างหนักหน่วง ส่วนหนึ่งก็ได้รับอิทธิพลมาจากเทียนหยู่แม้จะมีการบาดเจ็บระหว่างทางอยู่หลายครั้ง แต่หลินจื่อตงก็ไม่เคยยอมถอยเลยสักครั้ง แววตาแห่งความมุ่งมั่น เขาต่อสู้กับอีกฝ่ายคนแล้วคนเล่าอย่างไม่ย่อท้อหลังจากการต่อสู้ที่หนักหน่วง ในที่สุดคนเหล่านี้ก็ถูกโจมตีจนต้องถอยร่นกลับไปถึงแม้ว่า ด้วยพลังของเย่เทียนหยู่ อย่าว่าแต่เอาชนะพวกมือสังหารเล็ก ๆ เหล่านี้เลย เขาสามารถทำให้ร่างกายของบอดี้การ์ดเหล่านี้หายไปในพริบตาได้เลยด้วยซ้ำในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่พวกหลินหว่านหรูเท่านั้น แม้แต่พ่อแม่ตระกูลสวี่เองก็แอบพยักหน้าเงียบ ๆ แม้ว่าหลินจื่อตงจะไม่ได้เก่งกาจอะไร แต่ความมุ่งมั่นของเขาก็ไม่เคยลดลงเลยแม้แต่น้อยการต่อสู้ครั้งแล้วครั้งเล่าที่ไม่กลัวความเจ็บปวด การแส
ผู้คนรอบข้างต่างก็พากันตกตะลึง ไม่มีใครคาดคิดมาก่อนในระหว่างที่กำลังต่อสู้ ตระกูลซุนก็กลับทะเลาะกันเองขึ้นมาเสียอย่างนั้นพ่อตระกูลสวี่และคนอื่น ๆ ต่างก็รู้สึกงงงวย เขาเริ่มไม่แน่ใจในสถานการณ์ตรงหน้าแล้ว แต่ผู้ชมที่อยู่ข้าง ๆ กลับเห็นได้อย่างชัดเจน เขามักจะรู้สึกว่าเย่เทียนหยู่นั้นไม่ธรรมดา และการที่อาจารย์จูล้มลงก็อาจจะเป็นฝีมือของเขาก็ได้ในตอนนั้นเอง เสียงโทรศัพท์ของสวี่กวงก็ดังขึ้น เมื่อเห็นว่าเป็นอาจารย์ของเขาที่โทรมา เขาก็ละความสนใจจากละครฉากใหญ่ระหว่างอาจารย์จูและแม่ตระกูลซุนที่อยู่ตรงหน้าทันที ก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปด้านข้างเพื่อรีบรับสายโทรศัพท์“อาจารย์ครับ!”“อืม พ่อของเธออยู่ที่บ้านไหม?” อาจารย์เฉินแห่งสำนักหมัดมวยเว่ยอู่ เพิ่งจะผ่านทางมาที่บ้านตระกูลสวี่พอดี เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเคยสัญญาเอาไว้ว่าจะช่วยรักษาอาการบาดเจ็บภายในให้กับพ่อตระกูลสวี่ เขาจึงกะว่าแวะมาช่วยจัดการให้สักหน่อย“อยู่ครับ อยู่!”สวี่กวงพยักหน้ารัว ๆ พร้อมกับถามออกไปอย่างรีบเร่งว่า “อาจารย์มีธุระอะไรรึเปล่าครับ หากต้องการให้ผมช่วยอะไร ก็บอกมาได้เลยนะครับ”สถานะอาจารย์ถือว่าไม่ธรรมดา การได้คำนับ
พ่อตระกูลสวี่ที่เห็นฉากนี้ ก็แอบส่ายหัวเงียบ ๆเด็กคนนี้จบเห่แล้วเขาต้องตายแน่นอน!แทบทุกคนต่างก็เชื่อแบบนั้น รวมถึงสวี่เจียเจียเองก็ด้วยมีเพียงหลินจื่อตงและหลินหว่านหรูสองคนเท่านั้น โดยเฉพาะหลินหว่านหรู เธอเคยเห็นการโจมตีที่แข็งแกร่งของเย่เทียนหยู่มาแล้วหลายครั้ง ความเร็วแค่นี้ถือว่ากระจอกมากสำหรับเขาที่สำคัญก็คือ เย่เทียนหยู่นิ่งเฉยได้ขนาดนี้ จะต้องไม่มีปัญหาแน่นอนเป็นอย่างที่คิด เห็นเพียงเย่เทียนหยู่ขมวดคิ้วเล็กน้อย ก่อนที่มือขวาของเขาจะดีดถั่วเมล็ดหนึ่งเบา ๆ ให้ลอยออกไป ตาเนื้อของคนทั่วไปแทบจะมองไม่เห็นเลยด้วยซ้ำแต่ท่านอาจารย์จูกลับถูกโจมตีเข้าที่ขาอย่างกะทันหัน ทำให้เขาล้มลงไปนอนกองอยู่บนพื้นในทันทีเดิมทีเขายังพอจะสามารถใช้มือพยุงตัวได้ แต่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มือของเขากลับถูกอะไรบางอย่างโจมตีจนหมดแรงไปซะดื้อ ๆจนล้มลงไปกองเหมือนหมาทันใดนั้น ทุกคนต่างก็อึ้งกันหมดพวกเขาเพียงแค่เห็นว่าอาจารย์จูพุ่งเข้าไปด้วยแรงที่ทรงพลัง มือขวาของเขาราวกับกรงเล็บ พุ่งตรงไปยังเย่เทียนหยู่ด้วยความน่าสะพรึงกลัว แต่ใครจะคิดล่ะว่า วินาทีต่อมาเขาจะเป็นแบบนี้เย่เทียนหยู่หัวเราะ ฮึ ๆ