ภีรดา ผกาสุวรรณ หญิงสาววัยยี่สิบสามปีก้าวออกมาหยุดยืนมองกระจกตรงหน้าเพื่อเช็กความเรียบร้อยอีกครั้ง ภาพที่สะท้อนกลับมาคือสาวสวยสะพรั่งคนหนึ่งที่สลัดคราบเด็กกะโปโลจนสิ้นซาก
ดวงหน้ารูปไข่อ่อนเยาว์สดใสถูกแต่งแต้มจนสวยโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับสาวมั่น สิ่งที่โดดเด่นสุดคงเป็นดวงตากลมโตทอประกายมีชีวิตชีวาปราศจากแว่นตาแฟชั่นที่เธอชอบใส่ให้ดูทรงภูมิ ล้อมกรอบด้วยแพขนตาหนางอนเด้ง รับกับจมูกโด่งปลายเชิดนิดๆ และริมฝีปากอวบอิ่มมีรอยลักยิ้มที่แก้มทั้งสองข้าง
เรือนร่างสูงเพรียวระหงในชุดเดรสสั้นเกาะอกเข้ารูปฟิตเปรี๊ยะสีบรอนซ์เงินสะท้อนแสงอวดทรวดทรงองค์เอวอรชรเซ็กซี่ และโชว์ขาเรียวสวยบนส้นสูงกว่าหกนิ้ว
บร๊ะ นี่มันธีม ‘ชะนีไซเบอร์’ หรือไงวะเนี่ย
“ดูไปดูมา ฉันเหมือนหลอดไฟนีออนเดินได้เหมือนกันแฮะ” หญิงสาวแอบบ่นอุบ สายตามาหยุดที่เนินอกอวบอิ่มคัปซีของตนที่วันนี้ดูโดดเด้งเป็นพิเศษ ก่อนกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ
นี่มันชุดล่อไอ้เข้ชัดๆ เลย!
มือเรียวพยายามดึงเสื้อเกาะอกขึ้นอีกนิด อกอวบอิ่มเบียดชิดกันแถมมีดันทรงในตัวเสริมความตู้มจนแทบล้นทะลัก แม้จะโนบราแต่ก็ป้องกันโดยใช้สติกเกอร์ปิดทับที่ปลายยอดอีกชั้นหนึ่ง ทว่าก็ยังอดเสียวไส้ไม่ได้ว่าหากเต้นแรงๆ อีชุดสุดฟิตนี่จะร่วงลงไปกองที่สะดือหรือเปล่านะ เธอละหวั่นใจเกิ๊น
“ว้าว...สวยกว่าที่คิดอีกนะเนี่ยคุณน้อง” คำทักทายของเจ้าของมอเดลลิงที่พาเธอเข้ามาประกวดไม่ได้ช่วยให้รู้สึกดีขึ้นเลย
“ไม่โป๊ไปหน่อยเหรอคะพี่ดาว”
“โป๊อะไรกัน ไปดูคนอื่นก่อนเถอะย่ะ เขาแหวกบนแหวกล่างไม่รวมผ่าหน้าเว้าหลังกันจนไส้พุงแทบจะปลิ้นทะลักกว่านี้ตั้งหลายเท่า อย่างแพนนี่ยังถือว่าเด็กๆ ใสๆ นะ”
‘หา...โป๊ขนาดนี้ยังถือว่าใสๆ ได้อีกเรอะ’ หญิงสาวค่อนขอดในใจ มองลุคพริตตีดาวยั่วของตัวเองอย่างปลงตก
เหอะ ปีหน้าคงมีคนเสนอให้แก้ผ้าประกวดกันมั่งละ
“ไหนมาให้พี่ดูชัดๆ สิจ๊ะ” เจ้าของมอเดลลิงจับร่างเพรียวระหงหมุนซ้ายหมุนขวา ก่อนที่สายตาจะมาหยุดที่เนินอกสล้างที่ล้นทะลักของหญิงสาวอย่างพอใจ
“แหม หนูนี่อึ๋มกว่ายายมิวเสียอีกนะนี่ ถามจริงอันนี้ของแท้หรือทำมาอะ”
คนถูกถามส่ายหน้าดิก
“เงินจะกินยังไม่ค่อยมี แพนจะเอาที่ไหนไปทำล่ะคะพี่ดาว”
“แหม ก็พี่ชวนทำงานสบายๆ ตั้งหลายครั้ง หนูก็ไม่เอาเองนี่ ผูกปิ่นโตหาคนเลี้ยงดูสักคนก็สิ้นเรื่อง ป่านนี้ก็มีเงินใช้ไม่ขาดมือแบบคนอื่นเขาไปแล้ว” สาวใหญ่ขยับมาใกล้ หรี่วอลุมเสียงเป็นโหมดกระซิบ
“เอาไหมล่ะ เดี๋ยวพี่ช่วยแนะนำคนดีๆ ให้ ได้ข่าวว่างานนี้มีพวกเศรษฐีหล่อๆ รวยๆ มาตรึมเลย ถ้าแพนโอเค พี่จะคัดระดับพรีเมียมเกรดเอมาให้เลือกเลย...หุ่นแซ่บๆ แบบหนูนี่เรียกค่าตัวอลังการก็มีคนยอมจ่ายนะพี่ว่า”
คนฟังได้แต่แอบกลอกตามองบน
“ไม่เอาดีกว่าค่ะ แพนยอมปากกัดตีนถีบแบบนี้ดีแล้ว” ดีกว่าต้องยอมทอดกายไปเป็นเด็กเสี่ย เมียน้อย นางบำเรอชายบ้าตัญหา ถ้าต้องไปเป็นของเล่นให้ผู้ชายย่ำยีแบบนั้นเธอขออยู่ลำบากแบบนี้ต่อไปดีกว่า
“ตามใจ แต่ถ้าไม่ไหวก็โทร. หาพี่ได้ทุกเมื่อ เด็กสู้ชีวิตอย่างแพนนี่พี่ถูกชะตาด้วย ที่จริงวันนี้มีเด็กพริตตีของค่ายอีกตั้งหลายคนมาอ้อนวอนเสนอตัวมาประกวดแทนยายมิว แต่พี่ไม่ไว้ใจ”
จังหวะนั้นเองสาวใหญ่ก็เหลือบเห็นใครคนหนึ่งเดินผ่านมาในระยะสายตาพอดี จึงแกล้งเอ่ยเสียงดัง
“ดูแต่ยายมิวนั่นปะไร จู่ๆ ก็มีมือดีขี้อิจฉาที่ไหนไม่รู้วางยาได้ พวกไม่แน่จริงสู้ด้วยฝีมือไม่ได้เลยเล่นสกปรก หึ เด็กตัวเองหน้าปลวกเลยกลัวไม่ได้มงมั้ง”
วาจาแดกดันนั่นมีผลทำให้คนมาใหม่ฉุนกึก เนื่องจากไม่ถูกกันมาแต่ปางก่อน เพราะเคยมีเรื่องแย่งเด็กเข้าสังกัดกัน และคนที่เดินมาพร้อมกันก็เป็นหนึ่งในคนที่ถูกแย่งไปจากมือเธอเช่นกัน
“แกว่าเด็กใครหน้าปลวกยะ” เสียงแปร๋นสะบัดใส่อย่างมีจริตจะก้าน คนพูดเป็นสาวประเภทสองร่างหนาแต่งหน้าจัดจ้านคนหนึ่ง ที่เดินมาพร้อมหญิงสาวในสังกัดที่ภีรดาแอบชื่นชมว่าหน้าตาสวยแบ๊วแนวเกาหลีห่างไกลจากคำว่าหน้าปลวกไปหลายโยชน์
“ฉันว่าลอยๆ ใครร้อนท้องจะรับก็รับไปสิ”
“หน็อย...จะพูดจะจาอะไรหัดระวังปากมั่งก็ดีนะยะ ฉวยพวกมือดีที่ว่ามาได้ยินเข้า เด็กหล่อนจะปิ๋วเข้าหม้อไปอีกคน”
“อุ๊ย! แพนจ๊ะ ได้กลิ่นอะไรตุๆ หรือเปล่า” คนพูดทำจมูกฟุดฟิดๆ “ดูเหมือนแถวนี้อากาศเริ่มเป็นพิษละ เราไปรอหลังเวทีกันดีกว่านะหนูแพน เดี๋ยวต้องไปซ้อมรับมงด้วย สวยแซ่บแบบหนูนี่ถ้ามงไม่ลงเจ๊จะงงมาก” คนพูดปรายตาเหยียดหยันไปทางคู่อาฆาต
“ปล่อยพวกชอบมโนเพ้อพกไป คนเรามันต้องวัดกันที่ฝีมือ ไม่ใช่วัดด้วยดวงหรือปาก มาค่ะ เดี๋ยวซือเจ๊จะติวเทคนิคกมัดใจกรรมการให้เอง”
ภีรดามองฝ่ายตรงข้ามที่ทำหน้าประหนึ่งบ้านโดนไฟไหม้แล้วชักแหยงๆ ปากเจ๊ดาวนี่ใช่ย่อยเลยจริงๆ สาวน้อยรีบเก็บข้าวของเผ่นแน่บตามอีกฝ่ายไปทันที โดยไม่ทันเห็นสายตาอาฆาตมาดร้ายของคู่กรณีทั้งสองที่มองตามไปจนลับตา“เอาไงดีคะเจ๊นวล” สาวสวยหน้าสุดแบ๊วอดีตเทพีมังคุดหวานเอ่ยกับพี่เลี้ยงของตน “เด็กคนใหม่ของเจ๊ดาวนั่นใครคะ ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนเลย รูปร่างหน้าตาไม่เลวเลยนะคะ เห็นหน้าอกมันหรือเปล่า จีน่าว่ามันต้องอัพเลเวลมาแหงๆ ไม่งั้นคงไม่ตู้มขนาดนั้น”สาวสวยผู้คร่ำหวอดในวงการศัลยกรรมเกาหลีมาโชกโชนประเมิน ไม่อยากจะคุยว่าทั้งตัวของเธอผ่านมีดหมอผ่ามาแล้วทุกสัดส่วน ฉายาจีน่าสวยด้วยมีด ไม่ใช่จะได้มาฟรีๆ แต่ต้องละลายทรัพย์แลกไปหลายสิบล้านเลยทีเดียว“เราจะจัดการพวกมันยังไงดี”“หึ จะกลัวอะไร ขนาดยายมิวพริตตีเงินล้านเจ๊ยังเขี่ยให้กระเด็นพ้นทางได้ กะอีแค่ยายเด็กเมื่อวานซืนนั่นจะเท่าไหร่กันเชียว เจอฤทธิ์เจ้าแม่นวลสุรางค์คนนี้เข้าไปก็หงายเก๋งไม่เป็นท่า งานนี้ยังไงหนูก็ต้องได้มง แล้วยังแถมได้ผู้หนีบไปเป็นรางวัลอีกด้วยนะ”“ผู้? คนไหนอะเจ๊ พวกเสี่ยพุงพลุ้ยจีน่าไม่เอานะคะ”นวลสุรางค์เบ้ปากหมั่นไส้เด็กในสังกัด “เออ เลื
“คนโน้นแซ่บเว่อร์ ดูขาสิ สวยชิบเป๋ง” หรือไม่ก็ “คนนั้นงานดีว่ะ หุ่นเผ็ดมาก” หรือแม้แต่ “คนนี้ขาวสวยหมวยเอกซ์สุดๆ ฉันจอง!”สิ่งเดียวที่เขากำลังรอคอยไม่ใช่ว่าพริตตีสาวแสนสวยบนเวทีคนไหนจะคว้ามงกุฎไปครองได้ แต่กลับเป็นการปรากฏกายของใครคนหนึ่งต่างหาก ป่านนี้เจ้าของรอยลิปสติกที่แก้มเขาอยู่ที่ไหนนะ อยากรู้จังว่าพอเธอแต่งตัวแล้วจะออกมาสวยแค่ไหน แล้วเด็กกะโปโลแบบนั้นจะสู้คนอื่นได้ยังไง ช่างน่าลุ้นระทึกเหลือเกิน ในเวลาเดียวกันนั้นเอง ชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าคนที่เขาคิดถึงกำลังยืนขาสั่นพั่บๆ ด้วยความตื่นเต้น ดวงตากลมโตสดใสเหลือบมองเพื่อนร่วมชะตากรรมรอบๆ ตัวอย่างตื่นตาตื่นใจ เธอไม่คิดเลยว่าเวทีประกวดพริตตีจะมีการแข่งขันดุเดือดขนาดนี้ปีนี้ทุกค่ายต่างจัดเต็มชนิดไม่มีใครยอมแพ้ใครเลยจริงๆ ทั้งความสวย เซ็กซี่ ความสามารถรอบด้าน ดีกรีการศึกษา ดีกรีด้านภาษาต่างประเทศ หรือแม้แต่เสื้อผ้าหน้าผม ใครจะว่าพริตตีเป็นพวกสวยใสไร้สมองนั้นคงต้องลองกลับไปคิดดูใหม่ เพราะคนที่ยืนอยู่บนเวทีนี้ได้ต้องมีคุณสมบัติครบเครื่องเกินกว่าจะดูถูกได้ง่ายๆ ทีเดียวภีรดาแอบปรายตามองเด็กในสังกัดคู่อาฆาตของประกายดาว ซึ่งได้หมายเลขก่อนเธ
ชิ้ง!...ก๊า...กา...!เงียบกริบไปทั้งฮอลล์ ชวนให้เจ้าของคติพจน์นึกสงสัยแกมปลื้มปริ่ม ไม่เลวแฮะ การแนะนำตัวของเธอมันมีอานุภาพถึงกับสะกดคนทั้งฮอลล์ได้ขนาดนี้เลยหรือเนี่ย สาวน้อยยืดอกยิ้มอย่างภาคภูมิด้วยความมั่นหน้าโดยไม่ได้เอะใจใดๆ แม้แต่น้อยนิด จนกระทั่งนาทีต่อมาเสียงหัวเราะครืนก็ดังขึ้นทั่วทั้งฮอลล์ หญิงสาวหน้าเสียหันไปสบตาชายหนุ่มหน้าเวทีที่ทำหน้าปูเลี่ยนๆ คล้ายกับกำลังกลั้นหัวเราะอย่างสุดกำลังอะไรวะ เธอพูดอะไรผิดตรงไหนนี่?“น้องแพนด้าเล่นมุกหรือเปล่าคะเนี่ย” พิธีกรสาวเอ่ยขึ้นอย่างไม่แน่ใจ “ต้องพูดว่าความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น หรือเปล่าคะ ไม่ใช่ความพยายามอยู่ที่ไหน ความพยายามก็อยู่ที่นั่น”ตึ้ง! หมดกันไอ้แพนด้า อุตส่าห์ซ้อมแนะนำตัวมาดิบดีเจอ ‘ผู้’ จ้องหน่อยเดียว ดันประหม่าจนพูดผิด หมดกันแผนสร้างความประทับใจแรกพบของฉัน หน้าแหกตั้งแต่เพิ่งเริ่มเสียแล้วหรือเนี่ยพริตตีสาวยิ้มค้าง หนังหน้าร้าว แว่วได้ยินเสียงไก่กุ๊กๆ ที่เธอปล่อยกลางเวทีเต็มๆ ดังก้องในหูเพราะตาลุงนั่นแท้ๆ มาทำเธอประหม่าจนเสียสมาธิพูดผิดพูดถูก โอ๊ย...คะนงคะแนนฉันหายวับหมดแหงเลยเอาวะ มาถึงขั้นนี้แล้วเป็นไงเ
ผู้เข้าประกวดคนอื่นน่ะว่าคะแนนต่ำเตี้ยเรี่ยดินแล้ว แต่ช่องลงคะแนนของผู้เข้าประกวดหมายเลข 13 กลับกวาดคะแนนไปแบบถล่มทลาย เพราะเป็นคนเดียวที่เหมา 1 คะแนนจากคะแนนเต็ม 10 ได้เกือบทุกช่อง!บ้าไปแล้ว!ตติยะถึงกับงุนงง ชักไม่เข้าใจกับตรรกะของเพื่อนรัก เห็นจ้องมองสาวน้อยแพนด้านั่นตาแทบไม่กะพริบ เขาก็เลยนึกว่าเพื่อนแอบถูกใจ แต่ไหงคะแนนที่ให้มันสวนทางกับการกระทำแบบนั้นล่ะครับท่าน เอ หรือมันจะลืมเติม 0 ที่ท้ายเลข 1 ไปหว่า ด้วยความหวังดีเลยแอบสะกิดเตือน“ฉันว่านายเขียนคะแนนให้น้องเบอร์ 13 ตกเลข 0 ไปหรือเปล่าวะ” “อืม จริงด้วย ขอบใจที่เตือนนะ”คนเตือนแอบยิ้มโล่ง นั่นไงเขาว่าแล้วไม่ผิด ชอบประสาอะไรถึงให้คะแนนน้อยนิดขนาดนั้น ทว่านาทีต่อมาเขากลับต้องตาเหลือก งงเต็กหนักกว่าเก่า เพราะไอ้ 0 ที่ว่าลืมน่ะ ไอ้เพื่อนตัวดีของเขาดันเติมไว้ใน 2 ช่องสุดท้ายคะแนนการแต่งกาย และคะแนนรูปร่างผู้เข้าประกวด เอิ่ม...อึ๋มขนาดนั้นมันยังให้ศูนย์คะแนนเนี่ยนะ เห็นทีเขาคงต้องพามันไปตรวจสายตาบ้างแล้ว!การประชันกันบนเวทีเริ่มดุเดือดและทวีความร้อนแรงขึ้นเรื่อยๆ จากรอบแรกเพียงเดินโชว์ตัวเรียกคะแนน มาถึงรอบโชว์ทักษะพรีเซนต์สินค้า
หลังจากเพลงจบ พริตตีหน้าแบ๊วก็เดินหอบแฮ่กๆ กลับเข้ามาหลังเวที เพื่อเปลี่ยนให้โชว์ต่อไปขึ้นแสดง ทันทีที่เดินสวนกันในระยะประชิดเสียงแหลมเล็กก็กระซิบลอยลมมา“ขอให้โชคดีนะยายนมปลอม” ก่อนกระแทกชนไหล่หญิงสาวจนเซแซ่ดๆอะไรของเขาวะ? ภีรดามองตามหลังแม่สาวแอ๊บแบ๊วอย่างงุนงง เธออุตส่าห์อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรให้ ยังโดนหางเลขอีกเรอะ ดุเดือดจริงๆ เวทีนี้เอาน่า อย่างน้อยฝ่ายนั้นก็ยังอวยพรให้ เธอจะไม่ถือโทษแล้วกัน หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดี“หมายเลขสิบสามสแตนด์บายค่ะ”ภีรดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เรียกพลังก่อนเดินออกไปยืนกลางเวทีที่ดับไฟมืด และโพสท่าตามที่ซ้อมไว้ รอบนี้เธอเลือกการเต้นแจ๊ซแดนซ์ที่ถนัดมาเรียกคะแนนจากกรรมการพรึ่บ! ทันทีที่แสงสปอตไลต์จับไปที่เรือนร่างงดงามบนเวที หัวใจของใครหลายคนก็ถูกกระชากอย่างแรง และหนึ่งในคนที่ตั้งตารอนั้นมีกรรมการหน้าเข้มอย่างรวินรุตม์รวมอยู่ด้วย ดวงตาคมวาววับจับจ้องแม่สาวน้อยตรงหน้าไม่วางตาจนกระทั่งวินาทีที่ทุกคนรอคอยมาถึงเมื่อเสียงดนตรีดังกระหึ่มขึ้น และร่างสุดเซ็กซี่เริ่มขยับกายเตรียมโชว์ลีลาเด็ด แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิด“ปูหนีบอีปิ อีปิ อีปิ เจ็บหลาย ปูหนีบอีปิ อี
แม้ความหวังริบหรี่จนแทบจะเหลือศูนย์ แต่ด้วยความใจกล้าหน้าด้านก็ทำให้ภีรดาขึ้นมายืนรอผลเชือดบนเวทีอีกครั้งพร้อมสาวงามอีกเก้าคน เพื่อรอลุ้นผลการตัดสินให้เหลือห้าคนสุดท้าย ท่ามกลางสายตาแปลกๆ ของเพื่อนร่วมเวทีที่ยืนกันเสียห่างเป็นวาราวกับเธอเป็นตัวอะมีบาที่น่ารักก็ไม่ปานเออวะ ตกรอบก็ได้ แต่ช่วยรีบๆ ตัดสินทีเหอะ ฉันจะได้รีบกลับไปหากาวมาสมานรอยแหกบนหน้าเสียทีระหว่างที่กำลังคิดเพลินพิธีกรก็ทยอยประกาศรายชื่อผู้ที่เข้ารอบห้าคนสุดท้ายไปทีละคนๆ แม้แต่ยายจีน่าก็ยังอุตส่าห์ติดโผเข้ารอบไปด้วย โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย ฮือ...จนกระทั่ง...“สาวสวยคนสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบห้าคนสุดท้ายได้แก่...หมายเลขสิบสาม นางสาวภีรดา ผกาสุวรรณ หรือน้องแพนด้าค่ะ”เห็นมะ ว่าละ เธอตกรอบจนได้สิน่า เฮ้อ...หญิงสาวแอบคอตก เตรียมจะเดินหงอยๆ ลงเวทีตามเพื่อนพริตตีที่ตกรอบไป“ขอเชิญสาวงามหมายเลขสิบสามก้าวมายืนข้างหน้าด้วยค่ะ”“เขาเรียกเธอแน่ะ ไปสิ” เสียงกระซิบจากคนข้างๆ ทำให้ภีรดาเงยหน้ามึนๆ“เรียกใครนะ”“เรียกเธอไง”เจ้าของหมายเลขลักกี้นัมเบอร์เบิกตาค้าง ชี้ที่ตัวเอง “หา! ว่าไงนะ ฉันเนี่ยนะเข้ารอบ!”กรี๊ดดด! ฟลุกเว่อร์!ไม่อยากจะเช
ถ้าทำได้เธอก็อยากจะนั่งขัดสมาธิแล้วเอานิ้วชี้จุ่มน้ำลายมาวนที่ขมับเหมือนพ่อเณรน้อยเจ้าปัญญา คิดสิๆ แพนด้า เปรียบกับอะไรดีหว่า...ปิ๊ง!สาวงามเจ้าของหมายเลขสิบสามเชิดหน้าขึ้น สบตาคนถามตรงๆ“ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ แพนคิดว่ารถบิ๊กไบก์ก็เหมือนกับผู้หญิงค่ะ รูปลักษณ์ภายนอกของรถก็เหมือนรูปร่างหน้าตาของพวกเธอ ที่บางคนสวยแต่รูปจูบไม่หอม หรือบางคนอาจจะไม่สวยมากแต่กลับดูมีเสน่ห์ดึงดูดสายตา และถ้าอยากรู้ว่ารถคันไหนที่มีสมรรถนะดีจริง แรงจริง เร็วจริงหรือไม่ ก็ต้องลองขี่ดู เหมือนผู้หญิงที่มองแค่หน้าตาไม่ได้ แต่ต้องลองคบหา จะได้รู้ลึกเข้าไปถึงนิสัยใจคอและความคิดของพวกเธอ“อย่างแพนเองก็เหมือนรถบิ๊กไบก์ของราฟาเอล เรซซิ่ง ที่อาจไม่ได้สวยโฉบเฉี่ยวสะดุดตาในนาทีแรก แต่ถ้าได้ลองขับขี่ด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าสมรรถนะแรงและเร็วโดนใจแค่ไหน ของแบบนี้บอกไปก็เท่านั้น ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าเข้ากันได้หรือเปล่าค่ะ”ไงล่ะๆ คำตอบเธอ ขนาดเพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ เลยนะนี่ ดูเอาเถอะ ทำคนถามอึ้งไปเลย หญิงสาวแอบยักคิ้ว คลี่ยิ้มยั่วใส่ตาคมๆ ของพ่อเทพบุตรเจ้าของคำถาม“อัยย่ะ...คำตอบน้องแพนด้าขาแดนซ์ของแกเจ๋งดีนะนี่” ตติย
หญิงสาวมองมือเขาอย่างลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยอมยื่นมือไปเกาะอีกฝ่ายเพื่อพยุงตัวขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จ“อูย...ลุกไม่ไหวค่ะ ฉันเจ็บเข่า” หญิงสาวบอกเสียงอ่อย น้ำตาคลอเบ้าจวนจะหยด แล้วก่อนที่เธอจะทันรู้ตัว คนตรงหน้าก็ช้อนอุ้มร่างระหงของเธอขึ้นมาจากพื้นเสียแล้ว“อุ๊ย! คุณจะทำอะไรคะ” อารามตกใจ เธอรีบโอบรอบคอเขาไว้กันตก“ชู่...” ดวงตาคมเข้มก้มลงมาสะกดเธอไว้ ก่อนอุ้มหญิงสาวเดินเข้าไปส่งถึงหลังเวที ช็อตสุดฟินนั้นทำให้สาวๆ หลายคนหน้าเวทีแทบจะตายอย่างสงบศพสีชมพู นึกอิจฉาความโชคดีของแม่สาวน้อยเบอร์ 13 กันถ้วนหน้า แต่ก็มีแฟนคลับไม่น้อยที่แอบเขม่นพริตตีสาวที่โชคดีมีอัศวินรูปงามมาช่วยตติยะมองเพื่อนรักที่รับบทพระเอกขี่ม้าขาวตาลุกวาว หน็อยแน่...ทำมาเป็นหวงก้าง ที่แท้ก็จะเก็บไว้กินเองนี่หว่า หึ แต่ก็น่าแปลกที่ภูเขาน้ำแข็งหน้าตายนั่นยอมสละตนไปช่วยพริตตีสาวโนเนมตัวเล็กๆ คนหนึ่งแบบนั้น ทั้งที่ผ่านมาน้อยกว่าน้อยที่เพื่อนเขาจะยอมสนใจผู้หญิงอื่นนอกเหนือจากภารกิจบนเตียงน่าสนใจจริงแฮะ!ที่หลังเวที ภีรดาถูกอุ้มมาวางบนเก้าอี้ หญิงสาวมองเสี้ยวหน้าคมสัน แอบรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก“ไหนลองขยับขาสิ” เขาเอ่ยเสียงต
ใบหน้าที่แห้งแล้ง และดวงตาหม่นแสงชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาทำให้หญิงสาวอดสงสารไม่ได้ จึงเผลอตัวยื่นมือไปดึงร่างใหญ่เข้ามากอดปลอบโยน แม้จะยังข้องใจและมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปอีกเพราะกลัวคำตอบ“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะได้พบคนคนนั้น คนที่คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน”รวินรุตม์อุ่นวาบขึ้นมาในดวงใจ รับรู้ได้ถึงความอาทรจริงใจที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกลมกลึงตอบ ดวงตาคมเข้มทอประกายลึกล้ำอ่อนโยน รู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเย็นชาราวกับห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกำลังถูกแสงแดดอันอบอุ่นค่อยๆ ละลายเกราะกำแพงที่กั้นขวางลงทีละนิดๆ พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจสัมผัสที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้หญิงสาวรับรู้ได้เช่นกัน ภีรดาซุกซบใบหน้ากับอกแกร่งนิ่ง เริ่มคุ้นชินกับอ้อมกอดของเขา และเธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ไปเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเขานั้นเป็นได้แค่ลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น อีกไม่นาน ถ้างานสำเร็จเมื่อไหร่เธอกับเขาก็จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คิดถึงตรงนี้ก็ใจหาย หยาดน้
“หา?” หญิงสาวทำตาโต“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเป็นหลานเพื่อนๆ ของทั้งสองคนนั่นแหละ ผู้หญิงคนไหนดี คนไหนสวย มีคุณสมบัติเพียบพร้อมถูกใจก็ไปขอนัดให้ผมไปดูตัวหมด จนช่วงหลังนี่ผมงานยุ่งแล้วไหนจะต้องตระเวนแข่งรถก็เลยชักจะขี้เกียจเริ่มเบี้ยวนัด ทั้งสองคนเลยต้องหามุกใหม่ แทนที่จะนัดให้ผมไปดูตัวทีละคน ก็บังคับให้ผมไปตามงานเลี้ยงสารพัดสโมสร ไม่ก็งานวันเกิดเพื่อนๆ ของท่าน แล้วก็แนะนำผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้แทนทีละหลายๆ คนไง อย่างงานวันมะรืนนี้ไง เจ้าสัวตระการที่ว่าน่ะเป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่อผม แล้วก็ยังเป็นพ่อของนายเต้ เอ่อ...นายตติยะเพื่อนผมที่คุณเคยเจอด้วย ได้ข่าวว่าปีนี้จัดงานวันเกิดใหญ่โต เชิญพวกเซเลปและคนในแวดวงไฮโซมากันเยอะ เดาว่างานนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นงานมหกรรมดูตัวอีกตามเคย”นานครั้งอีกฝ่ายถึงจะเล่าอะไรยาวๆ ให้ฟังสักที ภีรดาเลยเท้าคางฟังเพลิน“หึ...แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าผมทำหลานให้ท่านอุ้มไม่ได้เพราะไอ้อาการที่เป็นอยู่เนี่ย ต่อให้ผมถูกใจเลือกผู้หญิงที่ท่านหมายตาสักคนมาแต่งงานด้วยก็ใช่ว่าจะผลิตหลานให้อุ้มได้...”“แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าคะว่าคุณ...เอ่อ...มีอาการอย่างว่าน่ะ”ชายหนุ่มหันมามองสบตา ก่อนส่าย
“คือ...แพน...”“เรื่องจริงใช่ไหมลูก” รวีวรรณร้องลั่น ดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็แปลว่าลูกกับแม่หนูคนนี้...ทำหลานให้แม่อุ้มเรียบร้อยแล้วสินะ”“อุ๊ย! เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ภีรดาตาเหลือก รีบปฏิเสธลั่น“โธ่...อย่าเขินไปเลยจ้ะ ถ้าเราสองคนคิดจริงจังกันถึงขั้นจะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า จะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับจะดีใจด้วยซ้ำ”อ้าวเฮ้ย...ไหงอีกฝ่ายกลับดีใจล่ะ“ว่าแต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าแวะมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”“อ๋อ...ก็ลูกน่ะเล่นไม่ยอมกลับบ้านตั้งเป็นเดือนแล้ว แม่ก็เลยคิดถึง แล้วอีกอย่างคุณพ่อก็ฝากเตือนเรื่องงานเลี้ยงแซยิดเจ้าสัวตระการเพื่อนคุณพ่อวันมะรืนนี้ด้วย บอกว่าให้ลูกไปให้ได้” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตาคนพูดก็แอบฉายรอยกังวลขึ้นมานิดๆ “เออ...จริงสิ ทำไมลูกไม่พาหนูแพนด้าไปงานด้วยเสียเลยล่ะจ๊ะ”“หา! ไม่ดีมั้งคะ งานเลี้ยงที่ว่าคงมีแต่ผู้ใหญ่ อย่าพาแพนไปเกะกะเลยนะคะ...” ภีรดารู้สึกผิดที่ต้องมาโกหกผู้หญิงที่แสนจะใจดีตรงหน้า แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตาหมีภูเขาน้ำแข็งนี่ด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลาย“ไม่ต้องห่วงครับ เราสองคนจะไปร่วมงานแน่นอน จริงไหมครับที่รัก” ภีรดาสะดุ
ภีรดาเงยหน้ามองนายจ้างหนุ่มที่ตีหน้าขรึมทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับดันหลังเธอไปข้างหน้าเบาๆ หญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจดีสู้เสือพร้อมกับขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” เสียงเย็นยะเยือกสำทับพร้อมกับยื่นมือมา เสี้ยววินาทีที่ภีรดานึกว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกหัวตบคว่ำขย้ำม้ามแตก เหมือนที่เคยดูในละครน้ำเน่าเรื่องแม่ผัวตัวร้ายกับลูกสะใภ้ทีเด็ดนั้นเอง จู่ๆ เสียงกังวานอย่างน่าเกรงขามก็ดังขึ้นว่า...“เฮ้อ...ท่าทางไม่เลวนี่”หะ...หา? อะไรคือไม่เลวหญิงสาวถึงขั้นช็อก อ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคนมากวัยกว่าหืม...นี่มันเรื่องอะไรกัน? ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่าเหตุการณ์มันกลับตาลปัตรแบบนี้ได้ยังไง!รวินรุตม์อมยิ้มขำ พร้อมยกมือขึ้นทำไฮไฟว์กับมารดาของเขาอย่างอารมณ์ดี“ไง คราวนี้แม่เล่นเนียนเลยใช่ไหม”“สุดๆ เลยครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้ดาราเจ้าบทบาทที่เปลี่ยนบุคลิกราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภีรดาหันมองคนทั้งสองสลับไปมา งุนงงเป็นไก่ตาแตก “เอ่อ...เดี๋ยวนะคะ ช่วยบอกดิฉันทีว่าตกลงเมื่อกี้คือการแสดงเหรอคะ”“แม่ผมเคยเป็นนางเอกละครเวทีของมหาวิทยาลัยเก่าน่ะคุณ” ร
“นั่งนี่แหละ!”สองเสียงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาคนเป็นส่วนเกินสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม สีหน้าร่ำๆ ว่าอยากจะปล่อยโฮเสียให้ได้ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย...ฮือๆ“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเข้ามาทำอะไรในห้องลูก” รวีวรรณเปิดฉากซักลูกชายด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ภีรดารู้สึกมือไม้เย็นเฉียบ เหงื่อแตกพลั่กๆ ภาวนาให้คนตรงหน้าไม่ได้เห็นข่าวฉาวๆ ของเธอในเน็ต ในขณะที่คนถูกถามไม่ตอบกลับ ทำเป็นนิ่งเฉย ท่าทีเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้าเลยสักนิด“คืออย่างนี้ค่ะ หนู...เอ๊ย...ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันชื่อภีรดา ชื่อเล่นแพนด้า เป็นผู้...”“เธอเป็นผู้หญิงของผมครับ”เปรี้ยงเดียวจบเห่! พริตตีสาวหันขวับไปมองคนหวังดีประสงค์ร้ายตาค้าง หมอนี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไปแนะนำแบบนั้นได้ไง ไม่นะ! หรือว่าตาบ้านี่อยากเห็นเธอโดนแม่เขาเชือดคอหอย... “ผู้หญิงของลูกงั้นเหรอ...” แม่เสือหรี่ตามองมาทางลูกแพนด้าน้อยที่นั่งตัวลีบอย่างจับผิด “ผู้หญิงประเภทไหนล่ะ ชั่วคราวหรือว่าแบบเหมาจ่ายรายเดือน...”หืม...นั่นมันคนหรือโพรโมชันมือถือคะคุณแม่ ภีรดากลอก
ปล้ำเนี่ยนะ! งามหน้าแล้วไอ้แพนด้า! ไม่ใช่โดนเขาปล้ำ แต่เป็นปล้ำเขาเสียเอง รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!พริตตีสาวกุมขมับอยากหลับไปโดยไม่ต้องตื่น รีบก้มลงสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากชุดที่ใส่เป็นคนละชุดกับเมื่อวาน ซึ่งเธอแน่ใจว่าไม่ได้เปลี่ยนเอง งั้นก็แปลว่า...ฝีมือคนตรงหน้าอยากจะบ้าตาย งั้นก็สรุปว่าเหตุการณ์เมื่อคืนก็ลงเอยที่...เธอปล้ำเขาจนสำเร็จสินะหมดกันพรหมจารีย์ที่หวงแหนมากว่ายี่สิบสามปี ต้องมาขาดวิ่นพังพินาศเพราะผู้ชายที่เซ็กซ์เสื่อมแบบนี้เหรอเนี่ย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นเซ็กซ์เสื่อมเหรอ...เดี๋ยวนะลองมาคิดดูอีกทีในเมื่อหมอนี่นกเขาไม่ขัน แล้วเธอจะปล้ำเขาสำเร็จได้ไง หรือจะเป็นเพราะไอ้ยาขวดนั้น หญิงสาวนึกถึงสินค้าออนไลน์ที่ตนแอบเทใส่ไว้ในแก้วเครื่องดื่มของรวินรุตม์เมื่อคืน แต่เท่าที่จำได้เขายังไม่ทันกินนี่หว่า หญิงสาวคิดแล้วสะดุ้งวาบในใจ เมื่อนึกถึงพริกในยำแซลมอนจานนั้นขึ้นมาได้ อย่าบอกนะว่า...ดาบนั้นคืนสนอง!ฮือ...ซวยกว่านี้มีอีกไหมเนี่ยเผ่นก่อนดีกว่า! ไม่แน่หมอนี่อาจจะจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ หรือไม่ก็คิดว่าฝันไปก็ได้ ว่าแล้วแม่สาวโก๊ะก็รีบย่องลุกจากที่เก
นาทีต่อมา รวินรุตม์ก็ต้องอ้าแขนรับการมาเยือนของผู้ช่วยสาวจอมหื่นที่โถมกายเข้าคร่อมทับเขาอย่างอุกอาจ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นช่างอ่อนหัด แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้กับความบ้าบิ่นจนน่ามอบโล่ของเธอที่เริ่มจากพรมจูบทั่วใบหน้าหล่อเหลา ลามมาที่ซอกคอ ทั้งยังกล้าจับ จูบ ลูบ คลำ ขยำสะเปะสะปะมั่วซั่วไปทั่วเรือนกายอันสง่างามของชายชาตรี ร่างแกร่งถึงขั้นผวาเมื่อเจอปลายชิวหาน้อยๆ ไล้วนที่จุดสีชมพูปลายยอดอกจนวูบวาบไปทั้งร่าง แถมบางคราวยังมีกัดเล็กๆ ในบริเวณที่น่าหวาดเสียวเข้าให้อีกต่างหากยายนี่ไปกินดีหมี หัวใจเสือมาหรือไงนะ ถึงได้หื่นได้หื่นดีขนาดนี้!ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่กลัวหัวใจจะวายตายคาที่เสียก่อน...แต่เหนือสิ่งใดนั้น ใช่ว่าสิ่งที่หญิงสาวทำจะไร้ผลเสียทีเดียว เมื่อความรู้สึกส่วนลึกบางอย่างในกายส่วนที่เคยด้านชาต่อสัมผัสหวามของเขาเริ่มจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เธอกำลังปลุกเร้าทีละนิดๆ ราวกับเริ่มเห็นแสงสว่างจุดเล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์มืด ทำให้รวินรุตม์ต้องกัดฟันทนรับการเล้าโลมของอีกฝ่ายโดยไม่ปริปากบ่น เพราะบังเกิดความหวังที่จะรอดพ้นจากคำสาปร้ายด้วยน้ำมือของผู้หญิงตรงหน้าบางทียายแพนด้าตัวยุ่งนี่อาจจะท
“งอนที่ไหน ไม่ได้ง้อน...แล้วฉันก็บอกแค่ให้ไปเต้น แต่ไม่ได้ให้คุณไปกอดไปหอมใครสักหน่อย” คนพูดขึ้นเสียงใส่ ในใจเดือดปุดๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับนั่น“ทีคุณก็จูบผมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”ชิ้ง! เออจริงด้วยว่ะ ภีรดาได้ยินแล้วแทบสร่างเมา“กะ...ก็ ฉันจูบได้เพราะมันเป็นหน้าที่ อย่าลืมสิ คุณจ้างฉันมายั่วไม่ใช่หรือไง” แก้ตัวมันไปน้ำขุ่นๆ หน้าร้อนวาบๆ“งั้นก็ทำหน้าที่ของคุณสิ ยั่วให้ผมตื่นสักที หรือถ้าทำไม่ได้ ผมก็จะได้ไปหาคนอื่นมาทำแทนซะ...” คำพูดไม่เท่านัยน์ตาพราวระยับท้าทายคู่นั้นที่ทำให้คนถูกจ้องหายใจแทบไม่ออก ในอกวูบโหวงเมื่อคิดว่าต้องเสียตำแหน่งและเงินรางวัลก้อนโต แถมยังต้องหลีกทางให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาใกล้ชิดคนตรงหน้าแทนตัวเอง“คุณท้าฉัน?”“ไม่ได้ท้า แต่ว่าพูดจริง ถ้าคุณทำไม่ได้ผมจะจ้างคนอื่น...อุ๊บ!”ไม่ทันขาดคำ กลีบปากนุ่มๆ ก็ทาบปิดลงมาที่เรียวปากของเขาเสียเต็มรัก เพราะไม่อยากได้ยินคำพูดแสลงหูนั่นออกจากปากร้ายกาจของอีกฝ่าย พริตตีสาวลืมอาย ลืมมันทุกอย่าง สารพัดความรู้สึกที่อัดอั้นในอกตีกันให้วุ่น ตอนนี้เธอไม่สนว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วยซ้ำ ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอต้องทำงาน
สิ่งที่ตติยะคาดไว้ไม่เกินจริงเลยสักนิดหลังจากพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดหรูอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มก็อุ้มร่างอรชรที่ดิ้นไม่หยุดพาดบ่า มิไยว่าอีกฝ่ายจะอาละวาดเพียงไหน หนักข้อเข้ามือใหญ่ๆ ก็หวดก้นเพียะเข้าให้จนแม่ตัวยุ่งร้องตะโกนเสียงหลง“โอ๊ย...มาตีฉ้านทามมายเนี่ย”“อยู่เฉยๆ ได้ไหมอย่าดิ้น เดี๋ยวตก...”“ก็ปล่อยสักทีเซ่”“ไม่ปล่อย คนนิสัยไม่ดีต้องโดนทำโทษแบบนี้” ว่าแล้วก็หวดอีกหลายเพียะอย่างมันเขี้ยวเรียกเสียงครวญครางเป็นระยะ ก่อนที่คนอุ้มจะโยนลงบนเตียง“โอ๊ย...เจ็บนะ เบาๆ เซ่ ”รวินรุตม์นิ่วหน้ามองอาการแม่สาวจอมยุ่งตรงหน้าอย่างเพลียๆ ปนสงสัยไปโดนตัวไหนมาล่ะเนี่ย ถึงคลั่งจนน่าจับฟัดแบบนี้ จะว่าเมาเหล้าก็ไม่น่าใช่ เพราะเครื่องดื่มที่สั่งให้ก็ไม่ได้มีแอลกอฮอล์มากมายอะไรนัก แล้วทำไมสภาพถึงเละเทะแถมหื่นได้ใจขนาดนี้ คิดไม่ทันขาดคำชายหนุ่มก็ตาเหลือก เมื่อคนขี้เมาเริ่มก่อปัญหาใหม่ ขึ้นมา“ร้อน...ทามมายร้อนแบบนี้ เปิดแอร์เซ่...” ปากบ่น มือน้อยๆ ก็พยายามจะทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออก“เฮ้ย จะทำอะไรน่ะยายตัวยุ่ง ห้ามถอดนะ” ชายหนุ่มร้องลั่น ผวาเข้าตะครุบมือซุกซนที่ทำท่าจะดึงเกาะอกตัวเองลงไว้แทบไม่ทัน โอ๊ย