หลังจากเพลงจบ พริตตีหน้าแบ๊วก็เดินหอบแฮ่กๆ กลับเข้ามาหลังเวที เพื่อเปลี่ยนให้โชว์ต่อไปขึ้นแสดง ทันทีที่เดินสวนกันในระยะประชิดเสียงแหลมเล็กก็กระซิบลอยลมมา
“ขอให้โชคดีนะยายนมปลอม” ก่อนกระแทกชนไหล่หญิงสาวจนเซแซ่ดๆ
อะไรของเขาวะ? ภีรดามองตามหลังแม่สาวแอ๊บแบ๊วอย่างงุนงง เธออุตส่าห์อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรให้ ยังโดนหางเลขอีกเรอะ ดุเดือดจริงๆ เวทีนี้
เอาน่า อย่างน้อยฝ่ายนั้นก็ยังอวยพรให้ เธอจะไม่ถือโทษแล้วกัน หญิงสาวพยายามคิดในแง่ดี
“หมายเลขสิบสามสแตนด์บายค่ะ”
ภีรดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เรียกพลังก่อนเดินออกไปยืนกลางเวทีที่ดับไฟมืด และโพสท่าตามที่ซ้อมไว้ รอบนี้เธอเลือกการเต้นแจ๊ซแดนซ์ที่ถนัดมาเรียกคะแนนจากกรรมการ
พรึ่บ! ทันทีที่แสงสปอตไลต์จับไปที่เรือนร่างงดงามบนเวที หัวใจของใครหลายคนก็ถูกกระชากอย่างแรง และหนึ่งในคนที่ตั้งตารอนั้นมีกรรมการหน้าเข้มอย่างรวินรุตม์รวมอยู่ด้วย ดวงตาคมวาววับจับจ้องแม่สาวน้อยตรงหน้าไม่วางตา
จนกระทั่งวินาทีที่ทุกคนรอคอยมาถึงเมื่อเสียงดนตรีดังกระหึ่มขึ้น และร่างสุดเซ็กซี่เริ่มขยับกายเตรียมโชว์ลีลาเด็ด แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็บังเกิด
“ปูหนีบอีปิ อีปิ อีปิ เจ็บหลาย ปูหนีบอีปิ อีปิ อีปิ อีปิ อีปิ เกือบตาย...”[1]
ภีรดาชะงักกึก ยิ้มค้างอย่างตกตะลึง
ตายโหง! เพลงนี้มาได้ไงวะ ม่ายนะ...โชว์แจ๊ซแดนซ์เรียกคะแนนของฉัน...ไหงมันกลายเป็นลูกทุ่งหมอลำซิ่งไปได้
หญิงสาวแอบเหล่มองไปทางข้างเวที ก็เห็นคนจากมอเดลลิงของเธอกำลังวิ่งไปโวยคนคุมเครื่องเสียงที่เปิดเพลงผิดยกใหญ่ แต่ดูเหมือนจะตกลงกันไม่ได้ และเพลงก็ยังดำเนินต่อไปไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ที่สำคัญที่สุดคือตอนนี้บนเวทีเป็นหน้าที่ของเธอ และมันถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ เวลาทุกวินาทีมีค่าจะปล่อยให้เสียไปไม่ได้เด็ดขาด
เอาวะ หมอลำแล้วไง เดอะโชว์มัสโกออน แพนด้าสู้ว้อย!
หญิงสาวตัดสินใจสะบัดแขน โยกย้ายส่ายสะโพกตามจังหวะเพลงด้วยลีลาชนิดแดนซ์เซอร์มืออาชีพต้องอาย เมื่อเจอลีลาพริตตีดาวยั่วตัวแม่มาเอง
ฮือ...พ่อแก้วแม่แก้วใครก็ได้ช่วยหนูที!
หลังจากที่ทุกคนหายงง และเห็นลีลาสุดพลิ้วของแม่สาวน้อยบนเวที รวมทั้งจังหวะม่วนซื่นทำให้เริ่มเกิดเสียงเชียร์ เสียงเป่าปาก เสียงปรบมือให้กำลังใจดังขึ้นทีละนิดๆ จนสุดท้ายก็กระหึ่มไปทั้งบริเวณที่จัดงาน และหลังจากนั้นทุกคนก็สนุกสนานตามกันแบบหลุดโลกไปกับการแสดงของผู้เข้าประกวดหมายเลขสิบสาม ไม่เว้นแม้แต่คณะกรรมการที่นำโดยหนุ่มฮอตเบอร์ต้นๆ ของประเทศ
ตติยะถึงกับกลืนน้ำลาย มองร่างยั่วยวนตาแทบไม่กะพริบ เมื่อถึงท่อนฮุกคนบนเวทีก็สะบัดโยกบั้นท้ายเน้นๆ ทำให้เขาแทบจะลุกแดนซ์ตามทีเดียว ถ้าไม่ถูกคนที่นั่งข้างๆ เบรกไว้ก่อน แถมยังส่งกระดาษทิชชูให้อีกด้วย
“เอ้า เช็ดน้ำลายซะ อย่ามาหกเรี่ยราดแถวนี้ให้ขายหน้า” รวินรุตม์เหน็บแนม
เขาเองก็แทบจะหลุดหัวเราะออกมาในนาทีนั้นเช่นกัน ใครจะคิดว่ายายเด็กนี่จะเลือกเพลงหมอลำซิ่งมาโชว์บนเวทีประกวดพริตตีระดับชาติ ที่มีการถ่ายทอดสดไปทั้งประเทศแบบนี้ แถมเจ้าหล่อนยังพะยี่ห้อบริษัทของเขาไว้บนสายสะพายบนบ่าเสียด้วย ชายหนุ่มถึงขั้นกุมขมับ ไมเกรนจะขึ้น
เอากับเธอสิ หมดกันภาพลักษณ์สุดคูลของบริษัทเขาที่เพียรสร้างมากับมือหมดไปหลายล้าน ต้องพังพินาศเพราะลีลาปูหนีบของแม่สาวน้อยตรงหน้า คิดแล้วก็อยากเอาหัวโหม่งโลกให้ดับดิ้น
แต่แทนที่จะโกรธ ชายหนุ่มกลับแปลกใจตัวเองที่แอบเอาใจช่วยสาวน้อยอยู่ลึกๆ แถมยังละสายตาจากร่างที่แสนจะยั่วยวนตรงหน้าไม่ได้ จนแอบนึกสงสัยว่าหรือเขาจะโดนดีดน้ำมันพรายใส่จนหลงเสน่ห์อันพิลึกกึกกือของเธอไปแล้วก็เป็นได้ แถมยังแอบหงุดหงิดนิดๆ เมื่อเห็นสายตาพวกหนุ่มๆ รอบข้างที่จับจ้องเรือนร่างอรชรน่าหม่ำของเจ้าหล่อนตาแทบไม่กะพริบ โดยเฉพาะไอ้เพื่อนตัวดีของเขา
ยายตัวแสบ! เธอกำลังทำอะไรกับหัวใจน้ำแข็งของเขากันแน่
โดยไม่ทันรู้ตัว มือใหญ่ก็ขยับปากกาในมือจัดการเติมเลข 0 ตามหลังเลข 1 ในใบลงคะแนนทุกช่อง นี่ถ้ามีช่องคะแนนความฮาละก็ เขาคงเทใจ เอ๊ย! เทคะแนนให้หมดหน้าตัก
หญิงสาวด้นสดจนกระทั่งโชว์สุดมันสะเดิดจบลง เสียงปรบมือก็ดังกระหึ่มขึ้น และยาวนานกว่าผู้เข้าประกวดทุกคน ดูเหมือนลีลาของสาวน้อยเบอร์สิบสามจะมัดใจผู้ชมไว้ได้อยู่หมัดทีเดียว
ภีรดาหายใจหอบ ปาดเหงื่อเบาๆ ในใจกรีดร้องโหยหวน เมื่อกี้เธอทำอะไรลงไปเนี่ย มันต้องไม่ใช่แบบนี้สิ ภาพในหัวตอนแรกเธอต้องเต้นแจ๊ซแดนซ์อย่างสวยเท่มีสไตล์ไม่ใช่หรือ แล้วไหงมันเป็นแบบนี้ได้
หมดกันภาพพจน์พริตตีสุดเริดของฉัน กลายเป็นแดนเซอร์หมอลำซิ่งไปในชั่วพริบตา!
หญิงสาวเดินคอตกลงเวทีไปอย่างหดหู่ พอถึงหลังเวทีคนแรกที่ปราดเข้ามากอดรัดฟัดเหวี่ยงฟูมฟายคือประกายดาวที่เบะปากแทบจะปล่อยโฮออกมาเสียให้ได้
“มันเป็นแบบนี้ได้ไง เจ๊ว่าต้องมีคนแกล้งเราแน่ๆ” คนพูดจิกสายตาพิฆาตไปยังคู่แค้นตลอดกาลที่ยืนหัวร่อต่อกระซิกกันอย่างเมามัน
“ต้องใช่มันแน่ๆ พวกมันแอบเปลี่ยนเพลงเรา แถมอีตาคนคุมเครื่องเสียงก็เป็นใจไม่ยอมปิดเพลงนั่นให้อีก หรือว่ามันจะโดนติดสินบนมา...”
“พี่ดาวคะ มียาดมไหม แพนขอยืมหน่อยค่ะ” เสียงอ่อนระโหยเอ่ยแทรกขึ้นอย่างหมดเรี่ยวแรง องค์ที่ลงประทับบนเวทีเมื่อกี้คงเผ่นกลับสวรรค์ไปหมดแล้ว ตอนนี้คงเหลือก็แต่องค์บาก โอ๊ย อยากกระโดดเตะก้านคอคนชะมัด
ตอนนี้อย่าว่าแต่มงกุฎสุดยอดพริตตีเลย ที่บนเวทีจะมีให้ยืนหรือเปล่ายังไม่รู้ รั่วไปหมดแม็กขนาดนั้น ป่านนี้ญาติพี่น้องเปิดทีวีมาเจอคงได้อับอายขายขี้หน้ากันทั้งวงศ์ตระกูลเลยมั้ง แม่เธอเห็นเข้าจะว่าไงนี่ สงสัยคุณนายน้อมจิตต์คงอำลาวงการไฮโลไปบวชชี หรือไม่ก็เตรียมอัปเปหิเธอออกจากการเป็นลูกแน่นอน!
นี่แหละ ปูหนีบอีแพนของจริงเลย ฮือ...
[1] เพลงปูหนีบอีปิ ร้องโดย พร จันทพร
แม้ความหวังริบหรี่จนแทบจะเหลือศูนย์ แต่ด้วยความใจกล้าหน้าด้านก็ทำให้ภีรดาขึ้นมายืนรอผลเชือดบนเวทีอีกครั้งพร้อมสาวงามอีกเก้าคน เพื่อรอลุ้นผลการตัดสินให้เหลือห้าคนสุดท้าย ท่ามกลางสายตาแปลกๆ ของเพื่อนร่วมเวทีที่ยืนกันเสียห่างเป็นวาราวกับเธอเป็นตัวอะมีบาที่น่ารักก็ไม่ปานเออวะ ตกรอบก็ได้ แต่ช่วยรีบๆ ตัดสินทีเหอะ ฉันจะได้รีบกลับไปหากาวมาสมานรอยแหกบนหน้าเสียทีระหว่างที่กำลังคิดเพลินพิธีกรก็ทยอยประกาศรายชื่อผู้ที่เข้ารอบห้าคนสุดท้ายไปทีละคนๆ แม้แต่ยายจีน่าก็ยังอุตส่าห์ติดโผเข้ารอบไปด้วย โลกนี้ไม่ยุติธรรมเลย ฮือ...จนกระทั่ง...“สาวสวยคนสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบห้าคนสุดท้ายได้แก่...หมายเลขสิบสาม นางสาวภีรดา ผกาสุวรรณ หรือน้องแพนด้าค่ะ”เห็นมะ ว่าละ เธอตกรอบจนได้สิน่า เฮ้อ...หญิงสาวแอบคอตก เตรียมจะเดินหงอยๆ ลงเวทีตามเพื่อนพริตตีที่ตกรอบไป“ขอเชิญสาวงามหมายเลขสิบสามก้าวมายืนข้างหน้าด้วยค่ะ”“เขาเรียกเธอแน่ะ ไปสิ” เสียงกระซิบจากคนข้างๆ ทำให้ภีรดาเงยหน้ามึนๆ“เรียกใครนะ”“เรียกเธอไง”เจ้าของหมายเลขลักกี้นัมเบอร์เบิกตาค้าง ชี้ที่ตัวเอง “หา! ว่าไงนะ ฉันเนี่ยนะเข้ารอบ!”กรี๊ดดด! ฟลุกเว่อร์!ไม่อยากจะเช
ถ้าทำได้เธอก็อยากจะนั่งขัดสมาธิแล้วเอานิ้วชี้จุ่มน้ำลายมาวนที่ขมับเหมือนพ่อเณรน้อยเจ้าปัญญา คิดสิๆ แพนด้า เปรียบกับอะไรดีหว่า...ปิ๊ง!สาวงามเจ้าของหมายเลขสิบสามเชิดหน้าขึ้น สบตาคนถามตรงๆ“ขอบคุณสำหรับคำถามค่ะ แพนคิดว่ารถบิ๊กไบก์ก็เหมือนกับผู้หญิงค่ะ รูปลักษณ์ภายนอกของรถก็เหมือนรูปร่างหน้าตาของพวกเธอ ที่บางคนสวยแต่รูปจูบไม่หอม หรือบางคนอาจจะไม่สวยมากแต่กลับดูมีเสน่ห์ดึงดูดสายตา และถ้าอยากรู้ว่ารถคันไหนที่มีสมรรถนะดีจริง แรงจริง เร็วจริงหรือไม่ ก็ต้องลองขี่ดู เหมือนผู้หญิงที่มองแค่หน้าตาไม่ได้ แต่ต้องลองคบหา จะได้รู้ลึกเข้าไปถึงนิสัยใจคอและความคิดของพวกเธอ“อย่างแพนเองก็เหมือนรถบิ๊กไบก์ของราฟาเอล เรซซิ่ง ที่อาจไม่ได้สวยโฉบเฉี่ยวสะดุดตาในนาทีแรก แต่ถ้าได้ลองขับขี่ด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าสมรรถนะแรงและเร็วโดนใจแค่ไหน ของแบบนี้บอกไปก็เท่านั้น ต้องลองพิสูจน์ด้วยตัวเองถึงจะรู้ว่าเข้ากันได้หรือเปล่าค่ะ”ไงล่ะๆ คำตอบเธอ ขนาดเพิ่งคิดได้สดๆ ร้อนๆ เลยนะนี่ ดูเอาเถอะ ทำคนถามอึ้งไปเลย หญิงสาวแอบยักคิ้ว คลี่ยิ้มยั่วใส่ตาคมๆ ของพ่อเทพบุตรเจ้าของคำถาม“อัยย่ะ...คำตอบน้องแพนด้าขาแดนซ์ของแกเจ๋งดีนะนี่” ตติย
หญิงสาวมองมือเขาอย่างลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยอมยื่นมือไปเกาะอีกฝ่ายเพื่อพยุงตัวขึ้นแต่ก็ไม่สำเร็จ“อูย...ลุกไม่ไหวค่ะ ฉันเจ็บเข่า” หญิงสาวบอกเสียงอ่อย น้ำตาคลอเบ้าจวนจะหยด แล้วก่อนที่เธอจะทันรู้ตัว คนตรงหน้าก็ช้อนอุ้มร่างระหงของเธอขึ้นมาจากพื้นเสียแล้ว“อุ๊ย! คุณจะทำอะไรคะ” อารามตกใจ เธอรีบโอบรอบคอเขาไว้กันตก“ชู่...” ดวงตาคมเข้มก้มลงมาสะกดเธอไว้ ก่อนอุ้มหญิงสาวเดินเข้าไปส่งถึงหลังเวที ช็อตสุดฟินนั้นทำให้สาวๆ หลายคนหน้าเวทีแทบจะตายอย่างสงบศพสีชมพู นึกอิจฉาความโชคดีของแม่สาวน้อยเบอร์ 13 กันถ้วนหน้า แต่ก็มีแฟนคลับไม่น้อยที่แอบเขม่นพริตตีสาวที่โชคดีมีอัศวินรูปงามมาช่วยตติยะมองเพื่อนรักที่รับบทพระเอกขี่ม้าขาวตาลุกวาว หน็อยแน่...ทำมาเป็นหวงก้าง ที่แท้ก็จะเก็บไว้กินเองนี่หว่า หึ แต่ก็น่าแปลกที่ภูเขาน้ำแข็งหน้าตายนั่นยอมสละตนไปช่วยพริตตีสาวโนเนมตัวเล็กๆ คนหนึ่งแบบนั้น ทั้งที่ผ่านมาน้อยกว่าน้อยที่เพื่อนเขาจะยอมสนใจผู้หญิงอื่นนอกเหนือจากภารกิจบนเตียงน่าสนใจจริงแฮะ!ที่หลังเวที ภีรดาถูกอุ้มมาวางบนเก้าอี้ หญิงสาวมองเสี้ยวหน้าคมสัน แอบรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก“ไหนลองขยับขาสิ” เขาเอ่ยเสียงต
“ใครกันแน่ที่ขี้อิจฉา ชอบลอบกัดคนอื่น โดนกรรมตามสนองแค่นี้ยังน้อยไป ดีเท่าไหร่แล้วที่นมปลอมไม่กระเด็นหลุดออกมาทั้งยวง ชิ ไม่ดีหรือไง พวกเธออยากดังอยู่แล้วนี่ หนูแพนก็ช่วยให้ดังสมใจแล้วไง เดี๋ยวโลกออนไลน์ก็ต้องแชร์รูปพริตตีนมหลุดกันให้ว่อน ดูซิว่าจะเอาหน้าไปไว้ไหน แหม มันสะใจฉันจริงจริ๊ง...”จีน่าฟังแล้วหน้าเสีย หันไปมองรอบข้างก็เห็นหลายคนกำลังจ้องโทรศัพท์แล้วซุบซิบกันสนั่น สลับกับมองมาที่เธอด้วยสายตาสมเพชก็อับอายจนแทบจะลงไปดิ้นตาย“แก อีดาว!” นวลสุรางค์เงื้อมือขึ้นสูงหมายตบคู่แค้นให้ดับดิ้น ทว่าประกายดาวกลับไวกว่าชิงปล่อยหมัดก่อนผลัวะ...สาวประเภทสองถึงกับหน้าหงาย ล้มก้นจ้ำเบ้าไม่เป็นท่าลงไปนอนนับดาว ท่ามกลางเสียงวี้ดว้ายรอบบริเวณภีรดาอ้าปากค้างมองเหตุชุลมุนตรงหน้าด้วยความตะลึง ครั้นจะห้ามก็จนปัญญาด้วยสภาพเดี้ยงไม่เอื้ออำนวยต่อการเป็นกรรมการมวย จนเหตุการณ์ทำท่าจะลุกลามบานปลายเพราะสองฝ่ายไม่มีใครยอมใคร พุ่งเข้าใส่ตบตีกันแบบไม่ยั้ง ร้อนถึงพนักงานรักษาความปลอดภัยและกรรมการจัดงานต้องรีบเข้ามาห้ามมวยยกใหญ่พี่เลี้ยงพริตตีทั้งสองฝ่ายถูกจับแยกและโดนคาดโทษด้วยใบแดงคือไล่ออกจากเวทีและห้องแต่ง
“ได้แก่...หมายเลขสิบเก้า นางสาววรางค์ทิพย์ ชัยวรากรค่ะ”ฟิ้ว! เสียงความหวังของเธอปลิวลงถังขยะไปทันใด พร้อมเสียงโห่ร้องปรบมือดังกระหึ่มทั่วฮอลล์ ผู้ได้รับตำแหน่งปิดปากร้องไห้ออกมาอย่างดีใจสุดขีด ส่วนคนชวดมงก็ได้แต่ยืนมองภาพการมอบมงกุฎตรงหน้าตาปรอยเฮ้อ หมดกัน มงฉันร่อนไปลงหัวคนอื่นเฉยเลย...หญิงสาวพยายามสกัดความผิดหวังโดยการเบนสายตาหนีภาพแสลงใจไปทางอื่น แต่แล้วเธอก็ได้เห็น...สายตาคู่หนึ่งที่มองมาจากทางโต๊ะกรรมการหน้าเวทีน่าแปลก! ท่ามกลางคนมากมาย แต่เธอกลับมองเห็นใบหน้าหล่อเข้มขรึมของเขาผู้นั้นอย่างเด่นชัดกว่าใคร ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉยราวกับไม่แคร์โลก กลับมีประกายบางอย่างในดวงตาคู่นั้นที่ทำให้เกิดอาการร้อนๆ หนาวๆ ขึ้นมา‘จำไว้ว่าคุณเป็นคนของราฟาเอล เรซซิ่ง’การที่เธอพลาดตำแหน่งที่หนึ่งไปทำให้เขาผิดหวังหรือเปล่านะ เขาคงโกรธมากที่อุตส่าห์เสียเงินจ้างเธอมา แล้วทำให้บริษัทเขาได้เพียงแค่ที่สามเท่านั้น เฮ้อ...ภีรดากำลังคิดอย่างห่อเหี่ยว แต่พลันสายตาเธอก็ไปสะดุดเข้ากับบางสิ่งบนใบหน้าคมเข้มของนายภูเขาน้ำแข็งนั่น มุมปากเขาโค้งขึ้นนิดๆ แต่เพียงเสี้ยวนาทีเท่านั้นก็หายไป นั่นเขายิ้มให้เธอใช่ไหม ตาคน
“สิบปีมันนานไป จีน่าขอตบมันก่อนสักทีได้ไหมคะ”“เข้ามาสิยะ นึกว่ากลัวหรือไง หึ อยากโดนแฉยับก็เข้ามาเลย มา...” ประกายดาวกระดิกนิ้วท้าเหย็งๆ ร้อนถึงทีมงานแถวนั้นต้องรีบเข้ามาจับแยกก่อนเกิดศึกไทยไฟต์อีกรอบ“พี่ดาวคะ เรากลับกันดีกว่านะคะ แพนเหนื่อยอยากพักค่ะ” ภีรดารีบรั้งตัวสาวขาลุยรุ่นใหญ่ไปอีกทาง ตอนนี้เธอเหนื่อยจนไม่มีแรงจะทะเลาะตบตีกับใครแล้ว“เจ็บใจนัก อิพวกหมาลอบกัดแบบนี้มันต้องตบให้หายซ่า แพนไม่น่าห้ามพี่เลย” หลังออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ ประกายดาวก็บ่นฮึดฮัดขัดใจ“ใจเย็นๆ ค่ะพี่ดาว ขืนมีเรื่องกันเราจะเสียชื่อเปล่าๆ น่ะสิคะ แพนยังไม่อยากลงหน้าหนึ่ง แค่แดนซ์หลุดโลกไปบนเวทีเมื่อกี้ก็อายจะแย่แล้ว ไหนจะเรื่องดึงเกาะอกหลุดนั่นอีก แค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ป่านนี้โลกโซเชียลคงแชร์คลิปแพนกันสนุกไปแล้วมั้งคะนั่น ดังแย่เลย” หญิงสาวเอ่ยติดตลก เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ให้อีกฝ่าย “เฮ้อ พูดแล้วก็เจ็บใจไม่หาย ยังดีนะที่หนูเอาชนะพวกนั้นได้ ถึงจะไม่ได้มงก็เหอะ แต่ก็สะใจเจ๊ชะมัด”“ขอโทษนะคะที่แพนทำให้พี่ดาวผิดหวัง”“โอ๊ย...ช่างหัวมันเหอะ อย่าคิดมาก ไม่ได้มงแต่ยังติดท็อปท็อปทรีก็ไม่เลวร้ายสักหน่อย เอ
ในที่สุดภีรดาก็ได้มายืนอยู่ในห้องอาหารของโรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งนี้จนได้ หญิงสาวมองบรรยากาศรอบกายสลับกับเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อย่างประหม่า ถ้ารู้ว่าจะพามากินหรูแบบนี้เธอจะลงทุนไปถอยชุดราตรีหางปลากรุยกรายมาใส่ให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ใช่ลากเสื้อยืดกองประกวดกับกางเกงยีนตลาดนัดซีดๆ ขาดๆ ตัวละ 199 มาแบบนี้“เขาบอกให้มาที่นี่แน่เหรอคะพี่ดาว” ภีรดาป้องปากกระซิบกับคนข้างกาย“อืม ไม่ผิดหรอก โรงแรมนี้แหละ พี่เคยอ่านข่าวมาดูเหมือนคุณตติยะเขาเป็นเจ้าของที่นี่ด้วยนะ บอกแล้วไงคนนี้น่ะรวยเว่อร์”“เอิ่ม...งั้นแพนขอกลับไปเปลี่ยนชุดแป๊บได้ไหมคะ”“ทำไมจ๊ะ ตื่นเต้นเหรอ” ประกายดาวกระเซ้า “เปลี่ยนตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วน้องเอ้ย”“ทำขำไปเหอะค่ะ ลูกค้ามาเห็นแพนสภาพทั้งเดี้ยงทั้งเซอร์แบบนี้ ดีไม่ดีเขาจะได้เผ่นแน่บ ไม่จ้างเรากันพอดี...” ยังไม่ทันได้เมาท์ต่อ ก็มีเสียงดังขึ้นด้านหลัง“สวัสดีค่ะ คุณภีรดาใช่ไหมคะ” ผู้จัดการห้องอาหารเดินออกมาต้อนรับอย่างนอบน้อม“คะ อ๋อ...ใช่ค่ะ”“เชิญทางนี้เลยค่ะ ท่านกำลังรออยู่ที่ห้องวีไอพีแล้วค่ะ”“ท่าน?” ภีรดาหันไปมองตากับสาวรุ่นใหญ่นิดๆบร๊ะ แค่ห้องอาหารในโรงแรมหรูก็ชวนให้ขาสั่นแล้ว นี่พ
“หมายความว่าไงคะ”“หมายความว่าผมมีงานจะให้คุณทำน่ะสิ”พริตตีสาวทำตาปริบๆ ก่อนชี้ที่อกตัวเอง “งาน? ให้ฉันทำเนี่ยนะคะ?” “หรือแถวนี้มีหมีแพนด้าตัวอื่นอีกล่ะ”แน่ะ กวนโอ๊ยเข้าไป แพนด้าสาวชักหัวร้อน พยายามข่มอารมณ์ด้วยการท่องคาถาสกัดมารในใจ“นั่งสิ ผมขี้เกียจแหงนคอคุย มันเมื่อย”รวินรุตม์เอ่ยเสียงเย็นชาเรียบๆ แต่ทำไมคนฟังกลับรู้สึกเหมือนโดนบังคับยังไงชอบกล แต่กระนั้นด้วยความเพลียร่าง หรืออาจเพราะหน้ามู่ทู่ของอีกฝ่ายทำให้เธอตัดสินใจหย่อนกายนั่งลงตรงฝั่งข้ามซึ่งห่างจากอีกฝ่ายเป็นโยชน์“ไกลไป” ฝ่ายนั้นพยักพเยิดไปที่เก้าอี้ข้างๆ ตัว เป็นเชิงบอกให้เธอรู้ว่าควรนั่งตรงไหน “ผมขี้เกียจตะโกนคุยข้ามห้อง”ภีรดาอยากจะบ้า พูดมาได้ว่าขี้เกียจตะโกนคุย แล้วใครใช้ให้เขาจองห้องเสียกว้างแบบนี้เล่า มาสองคนจองมันเข้าไปเกือบสิบที่นั่ง ตาบ้านี่เผด็จการไม่รู้เวล่ำเวลาอีกละ เดี๋ยวหงุดหงิดขึ้นมาแม่ก็คว่ำโต๊ะให้เสียเลยนี่“หรืออยากจะยืนคุย”พริตตีสาวแอบระบายลมหายใจเบาๆ ก่อนข่มอารมณ์เดินกะเผลกๆ ไปนั่งเก้าอี้ไม่ไกลจากที่เขานั่งนักเอาน่า เขาอาจจะมีงานดีเงินงามให้เธอทำก็ได้ ดีเหมือนกัน สงสัยช่วงนี้ดวงเรื่องงานกำลังเฮงม
ติ๊ด! ภีรดาจัดการกดปุ่มเปิดสปีกเกอร์โฟนกระจายเสียงให้คนข้างกายฟังด้วยเสียเลย จะได้ปลื้มที่ถูกสาวอวด“ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรจะฝากถึงคุณราล์ฟอีกไหมคะ พอดีฉันทำงานยุ่งอยู่นิดหน่อย”“อ้าว...ตายจริง ฉันขอโทษนะคะ แค่จะโทร. มาบอกราล์ฟว่า...ฉันมีเรื่องเร่งด่วนมากอยากจะปรึกษากับเขา ถ้าเขากลับมาคุณช่วยบอกให้เขามาหาฉันที่คอนโดหน่อยได้ไหมคะ” น้ำเสียงสั่นเครือฟังดูร้อนรนราวกับมีเรื่องคอขาดบาดตาย“ได้ค่ะ ถ้าเขากลับมาฉันจะรีบบอกให้นะคะ เท่านี้ใช่ไหมคะ”“เดี๋ยวค่ะ คือฉันไม่แน่ใจว่าควรพูดไหม”หืม? ภีรดาหันไปมองหน้านายจ้างที่กำลังนั่งทำคิ้วผูกโบข้างๆ“คือ...ราล์ฟเขาเปรยๆ กับฉันเมื่อคืนน่ะค่ะ ว่าคุณทำงานไม่ค่อยถูกใจ เขาเลยต้องการให้ฉันมาเป็นผู้ช่วยส่วนตัวของเขาแทนคุณ เพราะอยากจะให้ฉันอยู่ใกล้ๆ เขาตลอดเวลา”“เหรอคะ ไม่เห็นเขาบอกฉันนะคะ” คนพูดชักจะหน้าตึงๆ เมื่อเรื่องเริ่มจะลามมาถึงตัว“คือ...เขาบอกว่า เขาไม่รู้จะพูดกับคุณยังไงน่ะค่ะ เพราะเกรงใจ เลยให้ฉันมาคุยกับคุณแทน ผู้หญิงเหมือนกันคงคุยกันง่ายกว่า เอาอย่างนี้ไหมคะ ถ้าคุณกลัวว่าจะตกงานหรือยังหางานใหม่ไม่ได้ ไม่ต้องห่วงนะคะฉันพอจะแนะนำบริษัทของเพื่อนๆ
ภีรดาไม่รู้เหมือนกันว่าตัวเองผ่านคืนนั้นมาได้อย่างไร และไม่รู้ด้วยว่าเช้านี้จะมองหน้าเจ้าของบ้านติดโดยที่ไม่คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนได้ไหม เธอไม่รู้หรอกว่าอีตาหมีน้ำแข็งจะมีความรู้สึกรู้สาอะไรบ้าง หัวใจของเขาอาจจะด้านชาไปแล้ว แต่เธอไม่!เสียงเปิดประตูห้องนอนดังขึ้น ทำให้คนนอนบนโซฟาแกล้งทำเป็นหลับตาทันที“ผมรู้ว่าคุณตื่นแล้ว...” เสียงเรียบนิ่งดักคอมาแต่ไกล ทำให้คนแกล้งหลับนึกอยากใช้แผนแกล้งตายไปเสียให้รู้แล้วรู้รอด จะได้จบๆ ไป แต่ก็ทำไม่ได้ เมื่อมีร่างสูงใหญ่มายืนอยู่ตรงหน้าภีรดาจำต้องลุกขึ้นนั่งเผชิญหน้ากับนายจ้างหนุ่ม โดยไม่ยอมมองหน้าเขาตรงๆ“คุณมีอะไรจะให้ฉันทำเหรอ หรือว่าหิว”“คุยกันหน่อยได้ไหม”“ได้ค่ะ...แต่ขอเวลาฉันไปล้างหน้าล้างตา จัดการตัวเองให้เรียบร้อยก่อนสักครู่ได้ไหม”ชายหนุ่มพยักหน้านิดๆ และนั่งรอจนหญิงสาวเดินออกมาจากห้องนอนของเขาด้วยสีหน้าสดชื่นขึ้น“เอาละ ฉันพร้อมแล้วคุณมีอะไรก็พูดมาสิคะ” “ผมอยากพูดเรื่องรียา...” แค่เริ่มก็จุกแล้ว แต่เอาเหอะ เจ็บมันไปเลยทีเดียวจะได้จบๆ “คือผมไม่อยากให้คุณเข้าใจผิด...”อะไรคือการเข้าใจผิดหว่า เอ...หรือเขากำลังจะสื่อแบบอ้อมๆ ว
ภีรดาฟังแล้วอ่อนใจ หันไปหยิบไฟแช็กที่เตรียมไว้มาจุดเทียนบนเค้กจนครบ ก่อนที่เสียงหวานจะดังขึ้น“แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูมายบอส แฮปปีเบิร์ดเดย์ทูยู...” หญิงสาวถือเค้กยื่นไปตรงหน้าเจ้าของวันเกิด พร้อมสบตาเขา “อธิษฐานสิคะ”“อืม...” ชายหนุ่มหลับตานิ่งไปชั่วครู่ ก่อนก้มลงเป่าเทียนเบาๆ“สุขสันต์วันเกิดนะคะ” พริตตีสาวเอ่ยพร้อมรอยยิ้มละไม “ทีนี้ก็ชิมเค้กได้แล้ว เค้กก้อนนี้ฉันอุตส่าห์ทำเองกับมือเลยนะ และคุณเป็นคนแรกที่ได้ชิมมัน”“อืม เห็นก็รู้แล้วละว่าทำเอง หน้าตามีเอกลักษณ์มาก” หนูทดลองเอ่ยชมหน้าตาย จนคนพูดหมั่นไส้เลยปาดครีมแต่งหน้าเค้กป้ายที่ปากเขาเข้าให้“นี่แน่ะ! ปากดีนัก” รวินรุตม์มองรอยยิ้มกวนๆ ของแพนด้าจอมแสบตาวาววับ “เป็นไงคะฝีมือการทำเค้กครั้งแรกในชีวิตของฉัน อร่อยดีไหม”ภีรดาหัวเราะเสียงใสออกมาอย่างไม่รู้ชะตากรรม“อยากรู้ก็ชิมดูสิ!”พอขาดคำ เขาจึงแกล้งเอาคืนด้วยการกดเรียวปากทาบลงมาบนกลีบปากหวานละมุนทันที ทำเอาหญิงสาวชาวาบไปทั้งร่าง เธอพยายามส่งเสียงประท้วงขัดขืน แต่นั่นยิ่งเป็นการเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้รุกเข้ามาเต็มกำลัง รสครีมหวานละมุนที่เข้ามาสัมผัสที
ดวงตาหม่นแสงเหลือบมองอาหารบนโต๊ะที่เธอตั้งใจจัดไว้รอฉลองวันเกิดแบบเล็กๆ ให้เขาซึ่งถูกอุ่นไปรอบหนึ่งแล้ว ไหนจะขนมเค้กวันเกิดที่อุตส่าห์ลงมือทำเองเป็นครั้งแรกโดยเปิดดูวิธีทำจากยูทูป แต่เจ้าของวันเกิดก็ยังไม่มาสักที มีก็แต่มารดาของเขาที่ส่งรูปถ่ายตอนไปเที่ยวด้วยกันมาให้ แถมยังโทร. มาถามเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวของลูกชายกับคนรักเก่าสองสามรอบด้วยความเป็นห่วง ทุกครั้งหญิงสาวก็ต้องคอยปลอบไม่ให้อีกฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ ทั้งที่จริงๆ แล้วเธอต่างหากที่กำลังรู้สึกไม่มั่นคงทางใจภีรดาเลื่อนรูปภาพที่หน้าจอไปจนถึงรูปที่เธอกับนายจ้างหนุ่มโดนแอบถ่าย ดูแล้วก็อดทอดถอนใจด้วยความอัดอั้นในหัวใจไม่ได้ เพราะมันคล้ายกับว่า...เธอและเขาเป็นคู่รักที่กำลังสวีตกันก็ไม่ปานเส้นตายของภารกิจก็เริ่มใกล้เข้ามาทุกทีๆ นอกจากจะไม่มีวี่แววว่าเธอจะทำสำเร็จแล้ว ยังจะมีชารียาเข้ามาเป็นตัวแปรสำคัญในชีวิตของเขาเพิ่มอีกคน“เฮ้อ...” ยังไงๆ ผู้หญิงอื่นคงไม่อาจจะสู้กับคนรักที่แท้จริงได้หรอก ทำใจเสียเถอะ แพนด้าเอ๋ย...อีกไม่นานทั้งสองคนนั้นก็จะแต่งงานกัน แล้วตำแหน่งผู้ช่วยของเราก็คงตกกระป๋อง ไม่จำเป็นสำหรับหมอนั่นอีกต่อไป ตัดใจเสียเถอะน่
“จะพาหนูแพนไปด้วยทำไมล่ะ ลูกจะไปหาแฟนเก่าก็ไปคนเดียวสิ” รวีวรรณเดือดร้อนแทนคนโปรด“ไม่เป็นไรค่ะ แพนไปด้วยดีกว่า เผื่อมีอะไรจะได้ช่วยๆ กันได้”“งั้นก็ไปกันหมดนี่แหละ!” คนเป็นแม่รวบรัดอย่างเอาแต่ใจ“คุณ...ลูกโตแล้ว ปล่อยให้เขาได้จัดการกันเองเถอะนะ” กฤษณ์หันไปปรามภรรยา ก่อนหันไปทางบุตรชายคนเดียว “หากมีอะไรที่ต้องการให้พ่อกับแม่ช่วยก็โทร. มาแล้วกันนะตาราล์ฟ อ้อ! แล้วระวังให้ดี...อย่าให้อดีตมากระทบปัจจุบันได้ล่ะลูก”“ครับพ่อ...” ตอบพร้อมกับมองสบตาผู้ช่วยสาวผ่านกระจกมองหลังหลังจากไปส่งพ่อแม่เสร็จ รวินรุตม์ก็รีบบึ่งรถมาที่คอนโด แล้วก็เห็นรถของอดีตคนรักจอดอยู่ด้านหน้า พอเห็นชายหนุ่มลงจากรถ ชารียาก็รีบลงจากรถแล้วโผเข้ากอดร่างสูงใหญ่ของเขาทั้งน้ำตานองหน้า ใบหน้านั้นมีร่องรอยฟกช้ำจนเห็นได้ชัด“ราล์ฟขา...ในที่สุดคุณก็มาสักที ฮือ...” ภาพนั้นทำให้ผู้ชมที่เดินตามลงมาจากรถอดค่อนขอดไม่ได้แหม...มาถึงก็ดรามาใส่เลยนะแม่คุณ ฮึ...ส่วนอีกคนนี่ก็จะพระเอกไปไหน ยืนนิ่งให้เขาไซ้อยู่ได้ เฮ้อ...แล้วตัวประกอบอย่างเราจะอยู่ไปไยให้เป็นส่วนเกินเล่า ไปดีกว่า...ภีรดาแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นว่าอยู่ไปก็คงไม่ได้ช
หืม? พริตตีสาวทำตาปริบๆ ขณะที่รวีวรรณกับสามีทำหน้าสนใจฟังป้าแม่ค้าโม้ต่อ“ผัวป้ากินประจำ สะกิดทั้งคืนไม่ต้องหลับต้องนอน เอาไปให้ผัวเอ็งกินสักวันละเป๊กนะนังหนูเอ๊ย รับรองลูกหัวปีท้ายปี” ภีรดาถึงขั้นสะดุ้งหันไปสบตาลุกวาวกับคนจะทำลูกให้แล้วชักยิ้มไม่ออกเอิ่ม...ป้าจะรู้ไหมว่าพ่อพระเอกตรงหน้าขนาดไวอะกรายังเอาไม่อยู่ เอ...แต่พอหันไปมองลูกๆ หลานๆ ยั้วเยี้ยของป้าแล้วชักจะน่าสน ไม่แน่ว่าเจ้ายาดองบ้านๆ นี่อาจจะช่วยให้เธอทำสำเร็จใช้หนี้หมดไวขึ้นก็เป็นได้รวินรุตม์มองดวงตาเป็นประกายเจ้าเล่ห์คู่นั้นอย่างไม่ค่อยไว้ใจ โดยไม่มีใครรู้ พอคล้อยหลังคนทั้งสาม ภีรดาก็ย้อนกลับมาเหมายาดองสรรพคุณล้ำอีกถึงสองกลม!เอาเซ่...โด่ไม่โด่เดี๋ยวได้รู้กัน!ทั้งสี่ช่วยกันชิมช่วยกันช้อปจนข้าวของเต็มมือจึงชวนกันมานั่งพักเหนื่อยด้วยการรับประทานก๋วยเตี๋ยวเรือในร้านขึ้นชื่อริมคลอง ขณะที่รวีวรรณกำลังชี้ชวนให้สามีดูเรือขายของกลางคลองอย่างสนุกสนาน ภีรดาก็ยกกล้องมือถือขึ้นมาตั้งท่าเก็บภาพความหวานของทั้งคู่“คุณพ่อคุณแม่คะ หันมาทางนี้หน่อยค่ะ” พอสองสามีภรรยาหันมามอง เธอก็กดถ่ายภาพนั้นทันทีแชะ!“ภาพแสงสวยมากเลยค่ะ เดี๋ยวหนูส่งไ
“ไปทำอะไรมาล่ะ ถึงไม่ได้หลับได้นอน” คนเป็นแม่ส่งมุกให้ทั้งๆ ที่รู้ดีแก่ใจว่า ‘ใคร’ ที่ทำให้ลูกชายตัวดีไม่ได้นอนทั้งคืน“ถูกผีอำทั้งคืนเลยน่ะสิครับแม่ นอนทับผมจนเมื่อยไปทั้งตัวเลยเนี่ย”“แค็กๆ”ผี! เอ้ย...คนที่ถูกกล่าวหาสำลักออกมาจนหน้าเขียวหน้าแดง อยากหาอะไรเขวี้ยงใส่ปากคนพูด แต่ต้องเก็บอาการไว้ชำระทีเดียวเมื่อถึงเวลาหน็อย...ตาบ้านี่ต้องการอะไรจากสังคมมิทราบ! มานอนกอดเขาทั้งคืนไม่พอยังมีหน้ามาหาว่าเขาเป็นผีอีก ผีที่ไหนจะหุ่นแซ่บแบบนี้ล่ะ ฮึ!ภีรดาได้แต่ฮึดฮัดไม่เข้าใจตัวเองเลยว่าทำไมเธอถึงขยันเดินละเมอมาให้เขากอดอยู่ได้ทุกวี่ทุกวัน ไม่ใช่จะรังเกียจหรอกนะ เพราะอันที่จริงการได้นอนในอ้อมกอดแสนอุ่นของเขามันทำให้เธอผ่อนคลายนอนหลับสบายทั้งคืนเหมือนกัน แต่ก็นั่นแหละ หลับสบายแต่ตื่นมาหัวใจจะวายทุกครั้งที่รู้ว่าได้ใกล้ชิดกับขนมหวานต้องห้ามที่น่ากินแต่กินไม่ได้เฮ้อ...ตูละหน่าย!“อ้าว...นั่นพระมาแล้วจ้ะ” ภีรดาขยับก้าวถอยหลัง แต่ถูกรวีวรรณรุนหลังเอาไว้ “ยืนข้างๆ ตาราล์ฟสิจ๊ะหนูแพน ทำบุญร่วมชาติ ตักบาตรร่วมขัน จะได้พบกันทุกชาติไปไงจ๊ะ”หึๆ แค่ชาติเดียวก็จะบ้าตายแล้ว ถ้าขืนได้พบทุกชาติคงไม่ได้แก่
ภีรดาหลับตาสูดลมหายใจพยายามจะข่มอารมณ์ ถึงจะจริงแต่ตอนนี้มันใช่เวลามารำลึกความหลังไหมเนี่ย“งั้นฉันไปนอนที่โซฟาตรงนั้นละกัน” หญิงสาวต่อรอง อย่างน้อยนี่ก็บ้านเขา ขืนใครรู้ว่าเธอนอนเตียงเดียวกับผู้ชายที่มีแฟนแล้วในบ้านของพ่อแม่เขา อีกทั้งยังเป็นนายจ้าง คนจะครหาเอาได้ ว่าแล้วพริตตีสาวก็ยักแย่ยักยันลุกขึ้นไป นอนที่โซฟาฝั่งตรงข้าม พยายามจะไม่ไยดีสายตาเว้าวอนที่ทอดมองมาคู่นั้น เพราะมันทำให้อดหัวใจสั่นไหวรุนแรงไม่ได้เธอพยายามจะตีตัวออกห่าง แต่เขาก็ยังเข้ามาใกล้เหมือนกับแกล้ง!“หลับตาสิคะ พรุ่งนี้ ไม่ใช่สิ...นี่มันเลยเข้าวันใหม่แล้วนี่ เดี๋ยวเราต้องตื่นเช้าไปใส่บาตรวันเกิดคุณนะ ไม่รีบนอนตอนนี้ ระวังจะตื่นไม่ทัน” รวินรุตม์พลิกตัวนอนตะแคงข้างส่งสายตามองสบตาคนบนโซฟาในความมืดนิ่งๆ จนคนถูกมองเริ่มจะทนไม่ไหว ใบหน้าร้อนผ่าวๆ ดีที่มืดเลยอำพรางความรู้สึกได้บ้าง แต่ความอึดอัดทำให้ต้องชวนคุย“คุณรู้ได้ยังไงว่าฉันอยู่ที่นี่”“ก็ไม่เห็นจะยากนี่ ก็แค่ขอดูกล้องวงจรปิด แล้วก็ถาม รปภ. คอนโด ก็รู้แล้วว่าคุณออกไปกับใคร”จ้ะ พ่อคนฉลาด! หมั่นไส้...“แล้ว...ทำไมคุณไม่บอกล่ะคะว่าวันนี้เป็นวันเกิดคุณ”“ผมจำไม่ได้..
เธอก็แค่มายืมพื้นที่ที่ควรเป็นของผู้หญิงแสนสวยคนนั้นอยู่ชั่วคราวเท่านั้น วันหนึ่งที่ภารกิจสิ้นสุด ห้องนี้ หรือแม้กระทั่งครอบครัวของเขาก็จะถูกยึดคืนโดยเจ้าของตัวจริง ส่วนภีรดาก็จะจากไปโดยไม่มีใครคิดถึงอีก แค่คิดก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมาจับใจเธอไม่ควรปล่อยให้ใจถลำรู้สึกลึกซึ้งกับนายจ้างมากไปกว่านี้ เพราะถ้าวันนั้นมาถึงจริง จะได้ไม่ต้องรู้สึกเจ็บปวดใจมากนักภีรดาหันไปมองรูปของเจ้าของห้องที่วางไว้ที่ข้างเตียง“ไม่ต้องมามองอ่อยเลยนะ ต่อจากนี้ไปฉันขอสั่งห้ามไม่ให้คุณเข้ามาเพ่นพ่านในหัวใจของฉันอีก ต่างคนต่างอยู่เข้าใจไหม ฮึ” ว่าแล้วก็จับกรอบรูปนั้นคว่ำหน้าลงอย่างไม่ไยดีทว่าปณิธานที่ตั้งไว้มีอันต้องถูกทดสอบในกลางดึกของคืนนั้นจนได้!ในขณะที่กำลังนอนหลับสนิทคืนนั้นเอง ภีรดารับรู้ได้ถึงพลังงานบางอย่างที่คืบคลานเข้ามาใกล้ในยามที่เสมือนครึ่งหลับครึ่งตื่น วัตถุหนักๆ บางอย่างพาดทับบนกายจนไม่อาจขยับได้ ไออุ่นหอมสะอาดๆ โอบล้อมกายเธอไว้เหมือนมนตร์สะกดผีอำ! ความรู้สึกแรกที่แวบขึ้นมาในมโนจิต ผีชนิดไหนวะ แทนที่จะทับ ดันมากอด...“ไอ้ผีชีกอ!” หญิงสาวงึมงำด่า ทำใจกล้าด้วยการปรือตามองสิ่งลี้ลับที่กำลังครอบงำร่าง