“สิบปีมันนานไป จีน่าขอตบมันก่อนสักทีได้ไหมคะ”“เข้ามาสิยะ นึกว่ากลัวหรือไง หึ อยากโดนแฉยับก็เข้ามาเลย มา...” ประกายดาวกระดิกนิ้วท้าเหย็งๆ ร้อนถึงทีมงานแถวนั้นต้องรีบเข้ามาจับแยกก่อนเกิดศึกไทยไฟต์อีกรอบ“พี่ดาวคะ เรากลับกันดีกว่านะคะ แพนเหนื่อยอยากพักค่ะ” ภีรดารีบรั้งตัวสาวขาลุยรุ่นใหญ่ไปอีกทาง ตอนนี้เธอเหนื่อยจนไม่มีแรงจะทะเลาะตบตีกับใครแล้ว“เจ็บใจนัก อิพวกหมาลอบกัดแบบนี้มันต้องตบให้หายซ่า แพนไม่น่าห้ามพี่เลย” หลังออกมาจากจุดเกิดเหตุได้ ประกายดาวก็บ่นฮึดฮัดขัดใจ“ใจเย็นๆ ค่ะพี่ดาว ขืนมีเรื่องกันเราจะเสียชื่อเปล่าๆ น่ะสิคะ แพนยังไม่อยากลงหน้าหนึ่ง แค่แดนซ์หลุดโลกไปบนเวทีเมื่อกี้ก็อายจะแย่แล้ว ไหนจะเรื่องดึงเกาะอกหลุดนั่นอีก แค่นี้ก็ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน ป่านนี้โลกโซเชียลคงแชร์คลิปแพนกันสนุกไปแล้วมั้งคะนั่น ดังแย่เลย” หญิงสาวเอ่ยติดตลก เพื่อผ่อนคลายอารมณ์ให้อีกฝ่าย “เฮ้อ พูดแล้วก็เจ็บใจไม่หาย ยังดีนะที่หนูเอาชนะพวกนั้นได้ ถึงจะไม่ได้มงก็เหอะ แต่ก็สะใจเจ๊ชะมัด”“ขอโทษนะคะที่แพนทำให้พี่ดาวผิดหวัง”“โอ๊ย...ช่างหัวมันเหอะ อย่าคิดมาก ไม่ได้มงแต่ยังติดท็อปท็อปทรีก็ไม่เลวร้ายสักหน่อย เอ
ในที่สุดภีรดาก็ได้มายืนอยู่ในห้องอาหารของโรงแรมหรูระดับห้าดาวแห่งนี้จนได้ หญิงสาวมองบรรยากาศรอบกายสลับกับเสื้อผ้าที่ตัวเองใส่อย่างประหม่า ถ้ารู้ว่าจะพามากินหรูแบบนี้เธอจะลงทุนไปถอยชุดราตรีหางปลากรุยกรายมาใส่ให้รู้แล้วรู้รอด ไม่ใช่ลากเสื้อยืดกองประกวดกับกางเกงยีนตลาดนัดซีดๆ ขาดๆ ตัวละ 199 มาแบบนี้“เขาบอกให้มาที่นี่แน่เหรอคะพี่ดาว” ภีรดาป้องปากกระซิบกับคนข้างกาย“อืม ไม่ผิดหรอก โรงแรมนี้แหละ พี่เคยอ่านข่าวมาดูเหมือนคุณตติยะเขาเป็นเจ้าของที่นี่ด้วยนะ บอกแล้วไงคนนี้น่ะรวยเว่อร์”“เอิ่ม...งั้นแพนขอกลับไปเปลี่ยนชุดแป๊บได้ไหมคะ”“ทำไมจ๊ะ ตื่นเต้นเหรอ” ประกายดาวกระเซ้า “เปลี่ยนตอนนี้ก็ไม่ทันแล้วน้องเอ้ย”“ทำขำไปเหอะค่ะ ลูกค้ามาเห็นแพนสภาพทั้งเดี้ยงทั้งเซอร์แบบนี้ ดีไม่ดีเขาจะได้เผ่นแน่บ ไม่จ้างเรากันพอดี...” ยังไม่ทันได้เมาท์ต่อ ก็มีเสียงดังขึ้นด้านหลัง“สวัสดีค่ะ คุณภีรดาใช่ไหมคะ” ผู้จัดการห้องอาหารเดินออกมาต้อนรับอย่างนอบน้อม“คะ อ๋อ...ใช่ค่ะ”“เชิญทางนี้เลยค่ะ ท่านกำลังรออยู่ที่ห้องวีไอพีแล้วค่ะ”“ท่าน?” ภีรดาหันไปมองตากับสาวรุ่นใหญ่นิดๆบร๊ะ แค่ห้องอาหารในโรงแรมหรูก็ชวนให้ขาสั่นแล้ว นี่พ
“หมายความว่าไงคะ”“หมายความว่าผมมีงานจะให้คุณทำน่ะสิ”พริตตีสาวทำตาปริบๆ ก่อนชี้ที่อกตัวเอง “งาน? ให้ฉันทำเนี่ยนะคะ?” “หรือแถวนี้มีหมีแพนด้าตัวอื่นอีกล่ะ”แน่ะ กวนโอ๊ยเข้าไป แพนด้าสาวชักหัวร้อน พยายามข่มอารมณ์ด้วยการท่องคาถาสกัดมารในใจ“นั่งสิ ผมขี้เกียจแหงนคอคุย มันเมื่อย”รวินรุตม์เอ่ยเสียงเย็นชาเรียบๆ แต่ทำไมคนฟังกลับรู้สึกเหมือนโดนบังคับยังไงชอบกล แต่กระนั้นด้วยความเพลียร่าง หรืออาจเพราะหน้ามู่ทู่ของอีกฝ่ายทำให้เธอตัดสินใจหย่อนกายนั่งลงตรงฝั่งข้ามซึ่งห่างจากอีกฝ่ายเป็นโยชน์“ไกลไป” ฝ่ายนั้นพยักพเยิดไปที่เก้าอี้ข้างๆ ตัว เป็นเชิงบอกให้เธอรู้ว่าควรนั่งตรงไหน “ผมขี้เกียจตะโกนคุยข้ามห้อง”ภีรดาอยากจะบ้า พูดมาได้ว่าขี้เกียจตะโกนคุย แล้วใครใช้ให้เขาจองห้องเสียกว้างแบบนี้เล่า มาสองคนจองมันเข้าไปเกือบสิบที่นั่ง ตาบ้านี่เผด็จการไม่รู้เวล่ำเวลาอีกละ เดี๋ยวหงุดหงิดขึ้นมาแม่ก็คว่ำโต๊ะให้เสียเลยนี่“หรืออยากจะยืนคุย”พริตตีสาวแอบระบายลมหายใจเบาๆ ก่อนข่มอารมณ์เดินกะเผลกๆ ไปนั่งเก้าอี้ไม่ไกลจากที่เขานั่งนักเอาน่า เขาอาจจะมีงานดีเงินงามให้เธอทำก็ได้ ดีเหมือนกัน สงสัยช่วงนี้ดวงเรื่องงานกำลังเฮงม
“งาน? งานอะไรก็ได้งั้นเหรอ”“ถ้าเป็นงานที่ทำแล้วได้เงินมาโดยสุจริต และไม่ทำให้ใครเดือดร้อน ฉันก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องปฏิเสธไม่ใช่เหรอคะ”คนฟังตาลุกวาว ยกมุมปากขึ้นอย่างมีเลศนัย “ทุกอย่างเลยเหรอ”“ขึ้นอยู่กับว่างานที่ว่าเป็นงานอะไร ถ้าฉันทำได้ไม่เหลือบ่ากว่าแรง และรายได้สมน้ำสมเนื้อ ก็ไม่มีอะไรที่ต้องปฏิเสธนี่คะ”ดูสิดู แววตาเฉียบคมที่มองมาคู่นั้น ทำไมมันชวนให้ขนลุกซู่ รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แบบนี้ล่ะ“ว่าแต่งานที่คุณจะให้ฉันทำคืออะไรคะ”เอาละ เข้าประเด็นกันไปเลยไม่ต้องอ้อมค้อมละกัน เธอก็อยากรู้ว่าอีกฝ่ายจะมาไม้ไหน“แล้วคุณเคยทำอะไรมาบ้างล่ะ”“ส่วนใหญ่ก็เป็นงานพริตตีเอ็มซีค่ะ ฉันเรียนจบด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์ เกียรตินิยมอันดับสอง จากมหาวิทยาลัย...” หญิงสาวจาระไนคุณสมบัติอย่างคล่องปาก พูดแล้วจะหาว่าคุย เห็นโก๊ะกังแบบนี้ เธอก็มีดีกรีไม่ได้กะโหลกกะลาซะทีเดียวนะ“เท่านี้เหรอ”“อ้อ! แล้วล่าสุดฉันเพิ่งเป็นตัวแทนบริษัทคุณคว้าตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับสองจากเวทีประกวดมิสพริตตีคอนเทสต์วันนี้มาหมาดๆ ด้วยค่ะ” คนพูดลอยหน้าจงใจยิ้มยั่วประสาท“ข้อนี้ผมรู้แล้ว” ก็ให้คะแนนเองกับมือ จะไม่รู้ได้ไง “แล้วเรื่อง
“สี่ปี! คุณเป็นเกย์หรือเปล่า”“ผมเป็นผู้ชาย!” ตอบกลับเสียงเขียว “ให้ตายเถอะ หน้าตาอย่างผมนี่บ่งบอกรสนิยมรักป่ามากหรือไง หา!”คนฟังแอบกลอกตา อีตานี่อารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ยิ่งกว่าคนวัยทองเสียอีก“อย่าบอกนะว่านกเขา...เอ๊ย...เอ่อ...ส่วนนั้นของคุณมันใช้การไม่ได้” นัยน์ตาใสแจ๋วหลุบลงมาหยุดที่กึ่งกลางลำตัวเขาอย่างอดไม่ได้“อืม...” เสียงเนือยๆ เจือรำคาญนิดๆ “ก็ประมาณนั้น”เธอจ้องหน้าหล่อๆ ของเขาเขม็ง อีตานี่ถ้าตัดเรื่องป๋าหมากแล้ว เขาก็คือเจ้าชายในฝันของผู้หญิงดีๆ นี่เอง คุณสมบัติเพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา การงาน ฐานะ แต่ดันเสื่อมสมรรถภาพทางเพศเนี่ยนะโถ...เวรกรรมของสัตว์โลก!“เอาละ ฉันพอเกตละ คุณต้องการให้ฉันปลุกอารมณ์หื่นที่ซุกซ่อนในตัวคุณสินะ”“อืม”โอแม่เจ้า หมอนี่ตาส่อนถึงขั้นเห็นเธอสวยเซ็กซี่ขนาดจะยั่วผู้ชายที่กามตายด้านอย่างเขาให้กลับมาฟิตปึ๋งปั๋งเตะปี๊บดังเปรี้ยงได้ขนาดนั้นเชียว ช่างเป็น ‘เกลียด’ เหลือเกิน“ขอถามอีกคำนะคะ ทำไมคุณถึงเลือกฉัน”คำถามนี้แม้แต่คนถูกถามก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าทำไม ผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างรวินรุตม์ ที่เพียงแค่เขาเอ่ยปากคำเดียว ผู้หญิงค่อนเมืองก็พร้อมยอมตายเพื่
“ไม่ทำไซด์ไลน์ แต่ดันรับนัดผู้ชายที่จ้องจะพาขึ้นเตียงเนี่ยนะ” เขาถามเสียงสูง ในใจแอบคิดว่า...หรือนี่จะเป็นมุกโก่งค่าตัวของอีกฝ่าย “เอาละ ปกติคุณได้ค่าตัวเท่าไหร่ล่ะ ผมจะจ่ายให้มากกว่าห้าเท่า”“ค่าตัว? นี่คุณเห็นฉันเป็นอะไรเนี่ย”“งั้นสิบเท่าล่ะ” ชายหนุ่มต่อรองอย่างใจเย็น“คุณคงเมาผงกะหรี่ในปูผัดจานนั้นชัวร์ป้าบ บอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ขายตัว!” พริตตีสาวตะเบ็งเสียงใส่อย่างของขึ้น อีตาหน้าหล่อใสไร้ฟีลลิงนี่ชักพูดไม่เข้าหูเสียแล้ว“ผมก็ไม่ได้จะซื้อตัวคุณสักหน่อย”“ฟังชัดๆ นะคะ คุณลาบ...”“ราล์ฟ!” เจ้าของชื่อแก้แอกเซนบ้านๆ ของเธอทันควัน“อะไรก็ช่างหัวมันเหอะ ถ้าคุณคิดจะจ้างฉันไปเป็นผู้ช่วยปฏิบัติภารกิจบนเตียงให้ละก็ ฉันขอสละสิทธิ์ค่ะ กรุณาไปหาคนอื่นเถอะ ฉันไม่สามารถจริงๆ ขอบายดีกว่าค่ะ” หญิงสาวเชิดใส่ ก่อนหันมาคว้ากระเป๋าเตรียมชิ่ง แต่กลับถูกชายหนุ่มหน้าตายคว้าข้อมือไว้เสียก่อน“ผมยังพูดไม่จบ” เขาเอ่ยเสียงโทนต่ำ พร้อมกับจ้องด้วยสายตาขุ่นไม่สบอารมณ์“แต่ฉันฟังจบแล้ว ขอตัวค่ะ” พริตตีสาวพูดพร้อมกับพยายามสะบัดแขนตัวเองให้หลุดจากมือแข็งแกร่งแต่เขาก็ยื้อไว้ไม่ยอมปล่อย สีหน้าเย็นชาระดับแปดแปรเปลี
นี่เขาควรขำหรือควรสงสารเธอดีนะ ด้วยความสังเวชหรือเอ็นดูก็สุดจะคาดเดา ทำให้ชายหนุ่มต้องยื่นมือไปรั้งต้นคอของอีกฝ่ายให้อยู่ในองศาที่ถนัด เพื่อสอนเทคนิคที่ถูกต้องให้เสียเอง“อะอื้ม...” หญิงสาวถึงกับครางอู้อี้ในลำคอ เมื่ออีกฝ่ายส่งปลายลิ้นอุ่นซ่านเข้ามาเยี่ยมเยียนในโพรงปากหวานฉ่ำ และเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นของเธออย่างหยอกเย้า นั่นแหละภีรดาจึงได้สติกลับมาอีกครั้งเมื่อรับรู้ถึงหายนะที่กำลังมาเยือน เวรแล้ว! ผีห่าซาตานตนไหนสิงให้เธอเผลอจูบเขาได้กันล่ะนี่ จูบแรกของเธอเลยเชียวนะ ขนาดแฟนเก่าคบมาตั้งหลายปียังไม่เคยได้ลิ้มรสจูบเธอเลยสักครั้งฮือ...ปากฉันเสียความบริสุทธิ์ให้ใครไม่เสีย ดันมาพลาดท่าเสียทีให้อีตาภูเขาน้ำแข็ง แถมกามตายด้านนี่ได้ยังไงเนี่ยพริตตีสาวพยายามขืนตัวจะถอนริมฝีปากออก แต่หนุ่มตัวร้ายกลับไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เขาและเล็มทุกอณูความฉ่ำหวานของเธออย่างติดใจ เห็นกะโหลกกะลาแบบนี้ ใครจะไปคิดว่าแม่สาวตรงหน้าจะซ่อนความหวานฉ่ำนุ่มชุ่มลิ้นราวกับเนื้อหมูคุโรบุตะไว้ จนเขาชักไม่อยากจะหยุดแค่จูบเดียวเสียแล้วจนพอใจ ชายหนุ่มจึงถอนเรียวปากอุ่นร้อนจากยายหมูแพนด้ากะทะร้อน แม้จะเสียดายอยู่บ้าง แต่นี่มันก็ท
“ฉันขอคิดดูก่อนได้ไหมคะ”“คิดนานแค่ไหน ผมไม่ชอบรอนาน เอาเป็นว่าชั่วโมงนึงแล้วกัน”“ชั่วโมงนึง!” หญิงสาวร้องเสียงหลง “คุณจะบ้าเหรอ เร็วไปไหม ขอเวลาฉันเตรียมใจหน่อยสิคะ”“งั้นก็สักสามวัน”“สามวันเนี่ยนะ!” พริตตีสาวแทบจะเอาทีนก่ายหน้าผาก หมอนี่สมเป็นเจ้าของบริษัทชะมัด สกิลต่อรองเหี้ยมมาก“นานไปเหรอ” คนพูดเลิกคิ้ว หน้ากลับมานิ่งเป็นชาเย็นอีกครั้งภีรดามองเขาแล้วไม่รู้จะโมโหหรือสงสารดี ตานี่ท่าทางคงไม่ใช่แค่นกเขาหรอกที่ชำรุด แต่คงเป็นต่อมผลิตอารมณ์ของเขาด้วยที่ทำงานไม่ปกติ เอาวะ ถือว่าเห็นแก่มวลมนุษยชาติสักคน“ก็ได้ค่ะ สามวันก็สามวัน แต่บอกไว้ก่อนนะว่าฉันยังไม่ได้ตกลงรับปากอะไรทั้งนั้นนะ แค่ขอคิดดูก่อน” คนฟังยกมุมปากนิดๆ อย่างพอใจ ก่อนแบมือมาตรงหน้า“ขอโทรศัพท์คุณด้วย”“เอานามบัตรคุณมาให้ฉันดีกว่า” เผื่อเห็นท่าไม่ดี เธอจะได้เผ่นง่ายๆ“ผมไม่ชอบพกนามบัตร งั้นเอานี่ไป กดเบอร์คุณมาแล้วกัน” เขายื่นมือถือของตัวเองให้ ภีรดาไหวไหล่น้อยๆ ก่อนตัดสินใจรับมากดเบอร์โทรศัพท์ให้แต่โดยดี ชายหนุ่มกดโทร. ออกอย่างรวดเร็ว เมื่อมีเสียงริงโทนของเธอดังขึ้นก็ส่งโทรศัพท์มือถือคืนให้“นี่เบอร์ผม แอดไลน์ไว้ด้วยล่ะ ค
ใบหน้าที่แห้งแล้ง และดวงตาหม่นแสงชนิดที่ไม่เคยเห็นมาก่อนของเขาทำให้หญิงสาวอดสงสารไม่ได้ จึงเผลอตัวยื่นมือไปดึงร่างใหญ่เข้ามากอดปลอบโยน แม้จะยังข้องใจและมีคำถามอีกมากมาย แต่เธอกลับไม่กล้าจะเอ่ยอะไรออกไปอีกเพราะกลัวคำตอบ“ฉันเชื่อว่าวันหนึ่งคุณจะได้พบคนคนนั้น คนที่คุณรักเขา แล้วเขาก็รักคุณโดยไม่หวังผลตอบแทนแน่นอน”รวินรุตม์อุ่นวาบขึ้นมาในดวงใจ รับรู้ได้ถึงความอาทรจริงใจที่อีกฝ่ายส่งผ่านมาให้ วงแขนแข็งแรงกอดกระชับร่างกลมกลึงตอบ ดวงตาคมเข้มทอประกายลึกล้ำอ่อนโยน รู้สึกเหมือนหัวใจที่เคยเย็นชาราวกับห่อหุ้มด้วยน้ำแข็งกำลังถูกแสงแดดอันอบอุ่นค่อยๆ ละลายเกราะกำแพงที่กั้นขวางลงทีละนิดๆ พร้อมความรู้สึกบางอย่างที่ก่อตัวขึ้นในส่วนลึกของหัวใจสัมผัสที่เปลี่ยนไปนั้นทำให้หญิงสาวรับรู้ได้เช่นกัน ภีรดาซุกซบใบหน้ากับอกแกร่งนิ่ง เริ่มคุ้นชินกับอ้อมกอดของเขา และเธอคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากอยู่ในอ้อมกอดนี้ไปเรื่อยๆ แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ในเมื่อเธอกับเขานั้นเป็นได้แค่ลูกจ้างกับนายจ้างเท่านั้น อีกไม่นาน ถ้างานสำเร็จเมื่อไหร่เธอกับเขาก็จะกลายเป็นแค่คนแปลกหน้าที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก คิดถึงตรงนี้ก็ใจหาย หยาดน้
“หา?” หญิงสาวทำตาโต“ส่วนใหญ่ก็เป็นลูกเป็นหลานเพื่อนๆ ของทั้งสองคนนั่นแหละ ผู้หญิงคนไหนดี คนไหนสวย มีคุณสมบัติเพียบพร้อมถูกใจก็ไปขอนัดให้ผมไปดูตัวหมด จนช่วงหลังนี่ผมงานยุ่งแล้วไหนจะต้องตระเวนแข่งรถก็เลยชักจะขี้เกียจเริ่มเบี้ยวนัด ทั้งสองคนเลยต้องหามุกใหม่ แทนที่จะนัดให้ผมไปดูตัวทีละคน ก็บังคับให้ผมไปตามงานเลี้ยงสารพัดสโมสร ไม่ก็งานวันเกิดเพื่อนๆ ของท่าน แล้วก็แนะนำผู้หญิงที่หมายตาเอาไว้แทนทีละหลายๆ คนไง อย่างงานวันมะรืนนี้ไง เจ้าสัวตระการที่ว่าน่ะเป็นทั้งเพื่อนสนิทพ่อผม แล้วก็ยังเป็นพ่อของนายเต้ เอ่อ...นายตติยะเพื่อนผมที่คุณเคยเจอด้วย ได้ข่าวว่าปีนี้จัดงานวันเกิดใหญ่โต เชิญพวกเซเลปและคนในแวดวงไฮโซมากันเยอะ เดาว่างานนี้ก็คงไม่แคล้วเป็นงานมหกรรมดูตัวอีกตามเคย”นานครั้งอีกฝ่ายถึงจะเล่าอะไรยาวๆ ให้ฟังสักที ภีรดาเลยเท้าคางฟังเพลิน“หึ...แต่ก็อย่างที่รู้กันว่าผมทำหลานให้ท่านอุ้มไม่ได้เพราะไอ้อาการที่เป็นอยู่เนี่ย ต่อให้ผมถูกใจเลือกผู้หญิงที่ท่านหมายตาสักคนมาแต่งงานด้วยก็ใช่ว่าจะผลิตหลานให้อุ้มได้...”“แล้วพวกท่านรู้หรือเปล่าคะว่าคุณ...เอ่อ...มีอาการอย่างว่าน่ะ”ชายหนุ่มหันมามองสบตา ก่อนส่าย
“คือ...แพน...”“เรื่องจริงใช่ไหมลูก” รวีวรรณร้องลั่น ดวงตาเป็นประกาย “งั้นก็แปลว่าลูกกับแม่หนูคนนี้...ทำหลานให้แม่อุ้มเรียบร้อยแล้วสินะ”“อุ๊ย! เปล่านะคะ ไม่ใช่อย่างนั้น” ภีรดาตาเหลือก รีบปฏิเสธลั่น“โธ่...อย่าเขินไปเลยจ้ะ ถ้าเราสองคนคิดจริงจังกันถึงขั้นจะสร้างครอบครัวมีลูกมีเต้า จะนอกลู่นอกทางไปบ้าง แม่ก็ไม่ได้ว่าอะไรสักหน่อย กลับจะดีใจด้วยซ้ำ”อ้าวเฮ้ย...ไหงอีกฝ่ายกลับดีใจล่ะ“ว่าแต่คุณแม่ยังไม่บอกเลยว่าแวะมาหาผมมีเรื่องอะไรหรือเปล่าครับ”“อ๋อ...ก็ลูกน่ะเล่นไม่ยอมกลับบ้านตั้งเป็นเดือนแล้ว แม่ก็เลยคิดถึง แล้วอีกอย่างคุณพ่อก็ฝากเตือนเรื่องงานเลี้ยงแซยิดเจ้าสัวตระการเพื่อนคุณพ่อวันมะรืนนี้ด้วย บอกว่าให้ลูกไปให้ได้” เอ่ยถึงตรงนี้ดวงตาคนพูดก็แอบฉายรอยกังวลขึ้นมานิดๆ “เออ...จริงสิ ทำไมลูกไม่พาหนูแพนด้าไปงานด้วยเสียเลยล่ะจ๊ะ”“หา! ไม่ดีมั้งคะ งานเลี้ยงที่ว่าคงมีแต่ผู้ใหญ่ อย่าพาแพนไปเกะกะเลยนะคะ...” ภีรดารู้สึกผิดที่ต้องมาโกหกผู้หญิงที่แสนจะใจดีตรงหน้า แต่ถ้าจะโทษก็คงต้องโทษตาหมีภูเขาน้ำแข็งนี่ด้วยที่ทำให้เรื่องบานปลาย“ไม่ต้องห่วงครับ เราสองคนจะไปร่วมงานแน่นอน จริงไหมครับที่รัก” ภีรดาสะดุ
ภีรดาเงยหน้ามองนายจ้างหนุ่มที่ตีหน้าขรึมทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่กลับดันหลังเธอไปข้างหน้าเบาๆ หญิงสาวจึงสูดหายใจเข้าลึกๆ ทำใจดีสู้เสือพร้อมกับขยับเข้าไปหาอีกฝ่าย“เข้ามาใกล้ๆ อีกสิ” เสียงเย็นยะเยือกสำทับพร้อมกับยื่นมือมา เสี้ยววินาทีที่ภีรดานึกว่าจะถูกอีกฝ่ายจิกหัวตบคว่ำขย้ำม้ามแตก เหมือนที่เคยดูในละครน้ำเน่าเรื่องแม่ผัวตัวร้ายกับลูกสะใภ้ทีเด็ดนั้นเอง จู่ๆ เสียงกังวานอย่างน่าเกรงขามก็ดังขึ้นว่า...“เฮ้อ...ท่าทางไม่เลวนี่”หะ...หา? อะไรคือไม่เลวหญิงสาวถึงขั้นช็อก อ้าปากค้าง คิดว่าตัวเองตาฝาดไป เมื่อได้เห็นรอยยิ้มกว้างของคนมากวัยกว่าหืม...นี่มันเรื่องอะไรกัน? ใครก็ได้ช่วยบอกฉันทีว่าเหตุการณ์มันกลับตาลปัตรแบบนี้ได้ยังไง!รวินรุตม์อมยิ้มขำ พร้อมยกมือขึ้นทำไฮไฟว์กับมารดาของเขาอย่างอารมณ์ดี“ไง คราวนี้แม่เล่นเนียนเลยใช่ไหม”“สุดๆ เลยครับ” ชายหนุ่มยิ้มพร้อมกับชูนิ้วโป้งให้ดาราเจ้าบทบาทที่เปลี่ยนบุคลิกราวกับพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือภีรดาหันมองคนทั้งสองสลับไปมา งุนงงเป็นไก่ตาแตก “เอ่อ...เดี๋ยวนะคะ ช่วยบอกดิฉันทีว่าตกลงเมื่อกี้คือการแสดงเหรอคะ”“แม่ผมเคยเป็นนางเอกละครเวทีของมหาวิทยาลัยเก่าน่ะคุณ” ร
“นั่งนี่แหละ!”สองเสียงเอ่ยขึ้นอย่างพร้อมเพรียง ทำเอาคนเป็นส่วนเกินสะดุ้งโหยง ก่อนค่อยๆ หย่อนกายนั่งลงที่โซฟาฝั่งตรงข้าม สีหน้าร่ำๆ ว่าอยากจะปล่อยโฮเสียให้ได้ฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย...ฮือๆ“ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร แล้วเข้ามาทำอะไรในห้องลูก” รวีวรรณเปิดฉากซักลูกชายด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่งจนอ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ภีรดารู้สึกมือไม้เย็นเฉียบ เหงื่อแตกพลั่กๆ ภาวนาให้คนตรงหน้าไม่ได้เห็นข่าวฉาวๆ ของเธอในเน็ต ในขณะที่คนถูกถามไม่ตอบกลับ ทำเป็นนิ่งเฉย ท่าทีเหมือนไม่ได้ทุกข์ร้อนกับสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานตรงหน้าเลยสักนิด“คืออย่างนี้ค่ะ หนู...เอ๊ย...ดิฉันขออนุญาตแนะนำตัวนะคะ ดิฉันชื่อภีรดา ชื่อเล่นแพนด้า เป็นผู้...”“เธอเป็นผู้หญิงของผมครับ”เปรี้ยงเดียวจบเห่! พริตตีสาวหันขวับไปมองคนหวังดีประสงค์ร้ายตาค้าง หมอนี่เล่นบ้าอะไรเนี่ย ไปแนะนำแบบนั้นได้ไง ไม่นะ! หรือว่าตาบ้านี่อยากเห็นเธอโดนแม่เขาเชือดคอหอย... “ผู้หญิงของลูกงั้นเหรอ...” แม่เสือหรี่ตามองมาทางลูกแพนด้าน้อยที่นั่งตัวลีบอย่างจับผิด “ผู้หญิงประเภทไหนล่ะ ชั่วคราวหรือว่าแบบเหมาจ่ายรายเดือน...”หืม...นั่นมันคนหรือโพรโมชันมือถือคะคุณแม่ ภีรดากลอก
ปล้ำเนี่ยนะ! งามหน้าแล้วไอ้แพนด้า! ไม่ใช่โดนเขาปล้ำ แต่เป็นปล้ำเขาเสียเอง รู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น!พริตตีสาวกุมขมับอยากหลับไปโดยไม่ต้องตื่น รีบก้มลงสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น แต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ นอกจากชุดที่ใส่เป็นคนละชุดกับเมื่อวาน ซึ่งเธอแน่ใจว่าไม่ได้เปลี่ยนเอง งั้นก็แปลว่า...ฝีมือคนตรงหน้าอยากจะบ้าตาย งั้นก็สรุปว่าเหตุการณ์เมื่อคืนก็ลงเอยที่...เธอปล้ำเขาจนสำเร็จสินะหมดกันพรหมจารีย์ที่หวงแหนมากว่ายี่สิบสามปี ต้องมาขาดวิ่นพังพินาศเพราะผู้ชายที่เซ็กซ์เสื่อมแบบนี้เหรอเนี่ย รู้ถึงไหนอายเขาถึงนั่นเซ็กซ์เสื่อมเหรอ...เดี๋ยวนะลองมาคิดดูอีกทีในเมื่อหมอนี่นกเขาไม่ขัน แล้วเธอจะปล้ำเขาสำเร็จได้ไง หรือจะเป็นเพราะไอ้ยาขวดนั้น หญิงสาวนึกถึงสินค้าออนไลน์ที่ตนแอบเทใส่ไว้ในแก้วเครื่องดื่มของรวินรุตม์เมื่อคืน แต่เท่าที่จำได้เขายังไม่ทันกินนี่หว่า หญิงสาวคิดแล้วสะดุ้งวาบในใจ เมื่อนึกถึงพริกในยำแซลมอนจานนั้นขึ้นมาได้ อย่าบอกนะว่า...ดาบนั้นคืนสนอง!ฮือ...ซวยกว่านี้มีอีกไหมเนี่ยเผ่นก่อนดีกว่า! ไม่แน่หมอนี่อาจจะจำเหตุการณ์เมื่อคืนไม่ได้ หรือไม่ก็คิดว่าฝันไปก็ได้ ว่าแล้วแม่สาวโก๊ะก็รีบย่องลุกจากที่เก
นาทีต่อมา รวินรุตม์ก็ต้องอ้าแขนรับการมาเยือนของผู้ช่วยสาวจอมหื่นที่โถมกายเข้าคร่อมทับเขาอย่างอุกอาจ แม้จะรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นช่างอ่อนหัด แต่เขาก็อดตื่นเต้นไม่ได้กับความบ้าบิ่นจนน่ามอบโล่ของเธอที่เริ่มจากพรมจูบทั่วใบหน้าหล่อเหลา ลามมาที่ซอกคอ ทั้งยังกล้าจับ จูบ ลูบ คลำ ขยำสะเปะสะปะมั่วซั่วไปทั่วเรือนกายอันสง่างามของชายชาตรี ร่างแกร่งถึงขั้นผวาเมื่อเจอปลายชิวหาน้อยๆ ไล้วนที่จุดสีชมพูปลายยอดอกจนวูบวาบไปทั้งร่าง แถมบางคราวยังมีกัดเล็กๆ ในบริเวณที่น่าหวาดเสียวเข้าให้อีกต่างหากยายนี่ไปกินดีหมี หัวใจเสือมาหรือไงนะ ถึงได้หื่นได้หื่นดีขนาดนี้!ไม่ใช่ไม่ชอบ แต่กลัวหัวใจจะวายตายคาที่เสียก่อน...แต่เหนือสิ่งใดนั้น ใช่ว่าสิ่งที่หญิงสาวทำจะไร้ผลเสียทีเดียว เมื่อความรู้สึกส่วนลึกบางอย่างในกายส่วนที่เคยด้านชาต่อสัมผัสหวามของเขาเริ่มจะมีปฏิกิริยาตอบสนองต่อสิ่งเร้าที่เธอกำลังปลุกเร้าทีละนิดๆ ราวกับเริ่มเห็นแสงสว่างจุดเล็กๆ ที่ปลายอุโมงค์มืด ทำให้รวินรุตม์ต้องกัดฟันทนรับการเล้าโลมของอีกฝ่ายโดยไม่ปริปากบ่น เพราะบังเกิดความหวังที่จะรอดพ้นจากคำสาปร้ายด้วยน้ำมือของผู้หญิงตรงหน้าบางทียายแพนด้าตัวยุ่งนี่อาจจะท
“งอนที่ไหน ไม่ได้ง้อน...แล้วฉันก็บอกแค่ให้ไปเต้น แต่ไม่ได้ให้คุณไปกอดไปหอมใครสักหน่อย” คนพูดขึ้นเสียงใส่ ในใจเดือดปุดๆ เมื่อนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในผับนั่น“ทีคุณก็จูบผมเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”ชิ้ง! เออจริงด้วยว่ะ ภีรดาได้ยินแล้วแทบสร่างเมา“กะ...ก็ ฉันจูบได้เพราะมันเป็นหน้าที่ อย่าลืมสิ คุณจ้างฉันมายั่วไม่ใช่หรือไง” แก้ตัวมันไปน้ำขุ่นๆ หน้าร้อนวาบๆ“งั้นก็ทำหน้าที่ของคุณสิ ยั่วให้ผมตื่นสักที หรือถ้าทำไม่ได้ ผมก็จะได้ไปหาคนอื่นมาทำแทนซะ...” คำพูดไม่เท่านัยน์ตาพราวระยับท้าทายคู่นั้นที่ทำให้คนถูกจ้องหายใจแทบไม่ออก ในอกวูบโหวงเมื่อคิดว่าต้องเสียตำแหน่งและเงินรางวัลก้อนโต แถมยังต้องหลีกทางให้ผู้หญิงคนอื่นเข้ามาใกล้ชิดคนตรงหน้าแทนตัวเอง“คุณท้าฉัน?”“ไม่ได้ท้า แต่ว่าพูดจริง ถ้าคุณทำไม่ได้ผมจะจ้างคนอื่น...อุ๊บ!”ไม่ทันขาดคำ กลีบปากนุ่มๆ ก็ทาบปิดลงมาที่เรียวปากของเขาเสียเต็มรัก เพราะไม่อยากได้ยินคำพูดแสลงหูนั่นออกจากปากร้ายกาจของอีกฝ่าย พริตตีสาวลืมอาย ลืมมันทุกอย่าง สารพัดความรู้สึกที่อัดอั้นในอกตีกันให้วุ่น ตอนนี้เธอไม่สนว่าตัวเองกำลังเป็นฝ่ายเริ่มก่อนด้วยซ้ำ ไม่ว่ายังไงวันนี้เธอต้องทำงาน
สิ่งที่ตติยะคาดไว้ไม่เกินจริงเลยสักนิดหลังจากพาหญิงสาวกลับมาที่คอนโดหรูอย่างทุลักทุเล ชายหนุ่มก็อุ้มร่างอรชรที่ดิ้นไม่หยุดพาดบ่า มิไยว่าอีกฝ่ายจะอาละวาดเพียงไหน หนักข้อเข้ามือใหญ่ๆ ก็หวดก้นเพียะเข้าให้จนแม่ตัวยุ่งร้องตะโกนเสียงหลง“โอ๊ย...มาตีฉ้านทามมายเนี่ย”“อยู่เฉยๆ ได้ไหมอย่าดิ้น เดี๋ยวตก...”“ก็ปล่อยสักทีเซ่”“ไม่ปล่อย คนนิสัยไม่ดีต้องโดนทำโทษแบบนี้” ว่าแล้วก็หวดอีกหลายเพียะอย่างมันเขี้ยวเรียกเสียงครวญครางเป็นระยะ ก่อนที่คนอุ้มจะโยนลงบนเตียง“โอ๊ย...เจ็บนะ เบาๆ เซ่ ”รวินรุตม์นิ่วหน้ามองอาการแม่สาวจอมยุ่งตรงหน้าอย่างเพลียๆ ปนสงสัยไปโดนตัวไหนมาล่ะเนี่ย ถึงคลั่งจนน่าจับฟัดแบบนี้ จะว่าเมาเหล้าก็ไม่น่าใช่ เพราะเครื่องดื่มที่สั่งให้ก็ไม่ได้มีแอลกอฮอล์มากมายอะไรนัก แล้วทำไมสภาพถึงเละเทะแถมหื่นได้ใจขนาดนี้ คิดไม่ทันขาดคำชายหนุ่มก็ตาเหลือก เมื่อคนขี้เมาเริ่มก่อปัญหาใหม่ ขึ้นมา“ร้อน...ทามมายร้อนแบบนี้ เปิดแอร์เซ่...” ปากบ่น มือน้อยๆ ก็พยายามจะทึ้งเสื้อผ้าตัวเองออก“เฮ้ย จะทำอะไรน่ะยายตัวยุ่ง ห้ามถอดนะ” ชายหนุ่มร้องลั่น ผวาเข้าตะครุบมือซุกซนที่ทำท่าจะดึงเกาะอกตัวเองลงไว้แทบไม่ทัน โอ๊ย