“แม่คร๊าบ มีโฮมเลสมานอนในสนามบ้านเราด้วย”ไผทหยีตาขึ้นเพราะเสียงแจ้ว ๆ นอกเต็นท์มีแสงสว่างลอดเข้ามา“ไม่ใช่โฮมเลสครับ”วัชรมัยปรามเจ้าตัวกลม ที่เดินเข้าไปเกาะเต็นท์สนามสีเขียวเข้ม เมื่อคืนเธอนอนกอดลูกสบายมาก สดชื่นอารมณ์ดีจนลงมาทำมื้อเช้า ปล่อยสกลกันต์นอนต่อแป๊บเดียว ไม่คิดลูกจะตื่นเร็วขนาดนี้“ก็เขาไม่มีบ้านไม่ใช่เหรอ ถึงนอนเต็นท์”ปากเล็กยู่ยืนยันความคิดตัวเอง“เหมือนข่าวโฮมเลสในทีวีที่ปราบเคยดูในโรงอาหาร”“พ่อไม่ใช่โฮมเลส”เต็นท์เปิดมาพร้อมหน้าตึง ๆ ของคนนอนไม่พอ มือสางผมผมสีดำยุ่งตกระหน้าผาก ไผทขมวดคิ้ว เมื่อเห็นแม่กับลูกใส่ชุดนอนหมีน้อยเข้ากัน ...แล้วชุดเขาล่ะแม่งเอ๊ย! ไม่ยุติธรรมสักนิด ปรกติไผทไม่ใช่คนคิดเล็กคิดน้อย ทว่าตั้งแต่มีเมียนี่เขาเหมือนโดนลูกทิ้ง กลายเป็นหมาหัวเน่า เป็นคนนอกโดยสมบูรณ์แบ่งแยกกันชัดเจนก็เสื้อทีมนี่แหละ มีเขาแตกต่างอยู่คนเดียว“ทำไมพ่อมานอนเต็นท์ล่ะ”สกลกันต์เคยไปกางเต็นท์เที่ยวป่าชมธรรมชาติกับบิดาครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้ว จำได้ว่าสนุกมาก ...หมายถึงขี่หลังบิดาสนุก“อยากเปลี่ยนบรรยากาศ”เขาสลัดศีรษะไล่ความง่วงงุน“หลับสบายไหมคะพี่ป้อง”ไผทหงุดหงิดกับรอยยิ้
ไผทรีบพาเมียออกจากตลาดนัด ก่อนที่เธอจะหาอะไรมาเป็นงานทำมากกว่านี้ วัชรมัยหยิบเครื่องประดับทำจากกะลามะพร้าวมาชื่นชม สมองคิดจะมิกซ์แอนด์แมทกับชุด หรือออกแบบเครื่องประดับแบบไหนดีถ้าผสมกับสตอรี่เรื่องความยั่งยืน เป็นของธรรมชาติผลิตจากชุมชน ไม่มีการใช้ส่วนไหนจากสัตว์ยิ่งน่าสนใจ มันขายได้ในต่างประเทศ หรือจะชิมลางแตกแบรนด์เล็ก ๆ ขายแต่ทางออนไลน์ดีสมองการค้าวัชรมัยคิดไปเรื่อย กระทั่งรถคันโตหยุดที่สวน เธอหันซ้ายหันขวา โน่นก็คนงาน นั่นก็ต้นปาล์ม ภูเขาสีเขียวห่างอยู่ลิบ ๆ มีหมอกยามเช้าคลอเคลียคลุมวิวสวยดีอยู่หรอก แต่เขาเอาเธอมาทำไม“มิ้งขอกลับบ้านได้ไหมคะ”“อยู่นี่แหละ ใกล้ตาฉัน เกิดล้มไปจะยุ่ง ป้านิดลาไปเยี่ยมญาติ ไม่มีใครดูเธอ อยู่นี่ดูแลได้ดีกว่า”ไผทประกาศบอกคนสนิทถึงอาการป่วยของวัชรมัย ไม่ทันไรก็รู้กันทั้งสวน เขาขี้เกียจหาต้นตอว่าใครปูดข่าว ดีเสียอีกจะได้มีคนเพิ่มช่วยเป็นหูเป็นตาดูแลเธอให้“อยู่ในรถ ฉันจะติดเครื่องไว้ให้”แอร์เย็นก็จริง แต่วัชรมัยนั่งนิ่งนาน ๆ ชักเบื่อ มองออกไปเห็นต้นมะขามแผ่กิ่งก้านแตกใบในสวน มันคงอยู่มานานเพราะมีกิ่งห้อยย้อยจนต้องเอาไม้มาค้ำไม่ไห้ต้นล้มฝักดิบสีน้ำตาลอ
เพราะวัชรมัยมัวแต่มุ่งมั่นกับตำมะขาม สามีจึงทำไก่ทอดเกลือ กับต้มกระดูกหมูผักกาดดองให้“ไหนพี่ป้องไม่ให้กินโปรเซสเซ่นฟูดส์ไง”เธอหมายถึงอาหารแปรรูป ที่รวมของหมักดองด้วย“ผักดองมีพรีไบโอติกส์ ดีต่อลำไล้”ไผทซื้อหนังสือเกี่ยวกับการดูแลคนเป็นโรคมะเร็งมาหลายเล่ม เขาอ่านซ้ำจนจำขึ้นใจ ต้องการจะดูแลเธอให้ดีที่สุด“หมูที่ใช้ก็เป็นหมูคุโรบุตะ เจ้าของเลี้ยงแบบปล่อย มันจะไม่เครียด ไม่เพิ่มสารก่อมะเร็ง”เพิ่งรู้ว่ามีการเลี้ยงหมูให้ไม่เครียดด้วย วัชรมัยเคยได้ยินแต่การเลี้ยงวัวทะนุถนอมแบบฟาร์มญี่ปุ่น เปิดเพลงให้ฟัง มีนวดตัว ให้วัวกินเบียร์ สร้างอารมณ์วัวให้ดี เพื่อกลายเป็นเนื้อคุณภาพเยี่ยมกิโลกรัมละเป็นหมื่นไผทไปหาเนื้อหมูพวกนี้มาจากไหน“มิ้งรู้สึกตัวเองเป็นภาระพี่ป้องจัง”เธอรำพึงพลางตักตำมะขามเข้าปาก รสคล้ายกับที่วารีเคยทำ ความเศร้าเพราะคิดว่าตนช่างอ่อนแอเหลือเกินกลับมาเกาะกุมในอกโดยพลัน“พี่เป็นผัวเธอนะ เมียตัวแค่นี้ดูแลได้สบายมาก”มือสีเข้มตักไก่ทอดใส่จานเธอ“กินเยอะ ๆ จะได้มีเนื้อมีหนัง ตอนกอดจะได้นุ่มนิ่ม เต็มไม้เต็มมือ”สายตาคมวับวาวพราว วัชรมัยรู้ได้ทันที นายหัวไม่หยุดแค่กอดอย่างเดียวแน่“ห
“แม่คร้าบ...พ่อเหมือนหมีแพนด้าเลย”สกลกันต์ชี้ไปยังใต้ตาบิดาที่สีคล้ำ บ่งบอกอาการอดนอน มื้อเช้าวันนี้เป็นข้าวต้มกุ้งฝีมือไผท“หรือว่าตาพ่อเลอะร่า ๆ เหมือนแม่เกล”นิ้วป้อมชี้ นึกถึงสภาพหน้าแม่เพื่อนที่เคยเห็นตอนเปียกฝน เกลบอกเปื้อนอะไรสักอย่างชื่อร่า ๆ“มาสคาร่าหรือเปล่าครับ”วัชรมัยรินน้ำส้มผสมน้ำสับปะรด เอาใจลูกและเขาที่ส่งบรรยากาศมาคุอึมครึม“พ่อเขาไม่ได้ใช้มาสคาร่าหรอก”“แต่ตาพ่อดำเหมือนแพนด้า” เจ้าตัวย้ำ ขมวดคิ้วจ้องเขม็ง“กังฟูแพนด้า”สกลกันต์ไม่ได้ชอบเจ้าฮีโร่อ้วนตุ้ยนุ้ยนี่นะ แค่ตอนเด็ก ๆ บิดากับวิเชียรเปิดให้ดูบ่อย แถมฟัดแก้มนุ่มนิ่มจนแดงเขาชอบฮีโร่ตัวสูงปราดเปรียวปีนป่ายเก่งแล้วก็มีชุดเท่ ๆ อย่างสไปเดอร์แมนมากกว่า“กินข้าวไป อย่าพูดมากเดี๋ยวไปโรงเรียนสาย”บิดาตักกุ้งยัดปากช่างจ้อ เมื่อลิ้นสัมผัสกุ้งเนื้อเด้ง รสหวานกระจายทั่วปาก สกลกันต์กลับมาสนใจการเคี้ยวอาหารทันทีไผทจ้องเขม็งมายังเธอ ส่งสายตาข่มขู่ ขุ่นเคืองอารมณ์ค้างคาเรื่องเมื่อคืน วัชรมัยแกล้งไม่สนใจ ยกน้ำส้มขึ้นจิบอย่างสบายอารมณ์“เตเต้ปราบไปโรงเรียนก่อนนะ เป็นเด็กดีอยู่เฝ้าบ้าน ถ้ามีขโมยมาก็กัดตูดไล่มันลงทะเลเลย”ลูกพ
การประชุมสมาชิกหอการค้าจังหวัด เริ่มต้นอย่างน่าเบื่อ นักการเมืองท้องถิ่นขึ้นมาพล่ามไร้สาระขายฝันเพื่อหาเสียง ก่อนนายกสมาคมจะกลับมาครองไมค์ได้เข้าสู่ช่วงการประชุมที่แท้จริงหลัก ๆ เป็นการพูดถึงแนวโน้มทางเศรษฐกิจของภาคและจังหวัดนายกสมาคมไม่ใช่คนหัวโบราณ แต่ยังกลัวนักธุรกิจรุ่นเดียวกันตามไม่ทัน จึงมีทั้งคลิปพรีเซนเทชั่น ทั้งกราฟให้ดูไม่ใช่การประชุมที่แย่นักในสายตาไผท ช่วงพักเบรกนักธุรกิจแยกนั่งคุยเป็นกลุ่ม ๆ เขายังเลือกนั่งกับเถ้าแก่ฮงและหนุ่มสถาปนิกเถ้าแก่ฮงวิดีโอคอลกับหลาน ๆ ของลูกอีกคนที่อยู่ในอเมริกา เสียงสองเสียงสามแสดงความเป็นอากงใจดีเรียกรอยยิ้มจากสมาชิกร่วมโต๊ะได้“ลูกเฮียนี่เก่งจริง ๆ ได้เรียนต่อถึงเมืองนอกเมืองนา แถมยังได้เมียฝรั่ง มีหลานลูกครึ่งน่ารัก”ผู้พูดเป็นเจ้าสัวภัตตาคารอาหารจีนขึ้นชื่อของจังหวัด“มันกระตือรือร้นของมันเอง ใครจะไปคิดล่ะว่าแค่เรียนถ่ายรูปก๊อกแก๊ก ๆ เผลอแป๊บเดียวมันได้ทุนเรียนต่อเมืองนอก เรียนจบมันบอกได้ทำงานในฮอลลีวูด ผมก็ไม่รู้อะไรหรอก รู้จักแต่ชอว์บราเธอร์หนังฮ่องกง ฮาร์ตมันพาเข้าโรงไปดูหนังพี่มันถ่ายภาพ ถึงรู้ว่ามันเก่ง ทำงานดี นี่หลานก็บอกพ่อมันไปถ
พักนี้มักมีข่าวลือเกี่ยวกับนายหัวไผทกับเมียแปลก ๆ อย่างเช่นเขาเลี้ยงเมียอด ๆ อยาก ๆ ไม่ค่อยยอมให้กินเนื้อสัตว์ ผู้เห็นเหตุการณ์คนที่หนึ่งเล่าว่า“วันก่อนฉันไปซูเปอร์มาร์เก็ต นายหัวอ่ะนะ พอเห็นเมียหยิบไส้กรอกเยอรมันกับแฮมสเปนใส่รถเข็นปุ๊บก็หยิบออกปั๊บ เมียหน้าบึ้งหน้างอบอกว่าอยากกินเท่าไรก็ไม่ให้กิน”ผู้เล่าจีบปากจีบคอทำตาเล็กตาน้อยสมใจ เมื่อในกลุ่มเม้าท์เงียบกัน ท่าทางตั้งใจฟังมาก“แต่พอลูกอ้อนเท่านั้นแหละ รีบหยิบกลับมาใส่ทันที”“ว่าแล้ว...นายหัวยอมรับกลับมาเป็นเมียแค่อยากให้กลับมาเป็นแม่ของลูก อยากแค่ให้ครอบครัวสมบูรณ์”คนตั้งใจฟังตบเข่าฉาด“ใช่ ๆ นายหัวน่ะขี้เหนียว ตอนไปรับลูกฉันเคยได้ยินว่าเมียบอกอยากไปกินข้าวนอกบ้าน แกดุเมียใหญ่ว่าไม่ต้องไป ให้กินที่บ้านน่ะดีแล้ว อยากกินอะไรก็ทำกิน”ผู้ปกครองนักเรียนอนุบาลท่านหนึ่งรีบเสริม“ใช่ ๆ ฉันเคยเจอที่ร้านคาเฟ่น้องเก๋ นายหัวไม่ให้เงินเมียใช้สักบาท อยากกินอะไรก็ต้องแบมือขอผัว”“เมียที่ผัวไม่รักชัด ๆ”เสียงถอดถอนหายใจ แต่ริมฝีปากกลับยกยิ้ม ตาสั่นระริก“แต่แกก็ไม่มีใครนอกจากเมียนี่”สาวนางหนึ่งรีบใส่ไฟ“ที่ไม่ยอมมีใครเพราะนายหัวเห็นแก่ลูก ทำตั
“พ่อ...แม่ปราบเมื่อไรจะทำหน้าที่นางฟ้าเสร็จฮะ”ในรถเอสยูวีคันโตเกิดอุณหภูมิลดฮวบกะทันหัน วิเชียรที่นั่งข้างคนขับเหลือบตาดูเด็กชายผู้นั่งคนเดียวที่เบาะหลัง สลับกับเจ้านายผู้นั่งหลังพวงมาลัย เห็นแล้ว มือกำพวงมาลัยแน่นจนเส้นเลือดปูดโปน“ปราบอยากเจอแม่”เจ้าตัวน้อยอมลมจนแก้มพอง“ทุกคนมีหน้าหน้าที่ต้องทำ แม่...ก็มีหน้าที่ของเขา”ผู้เป็นพ่อตอบเสียงต่ำ ๆ ตามองไปยังถนน ทว่าร่างใหญ่โตแผ่รังสีอึมครึมชวนอึดอัดออกมาวิเชียรกลืนน้ำลายลงคอดังอึก เมื่อเรื่องต้องห้ามถูกเอ่ยออกจากผู้เป็นนายน้อยของบ้าน“พ่อช่วยบอกแม่ทำงานเสร็จเร็ว ๆ ได้ไหมฮะ ปราบคิดถึง”บรรยากาศน่าจะเศร้ากว่านี้ ถ้าคนนั่งเบาะหลังจะไม่พูดเสร็จแล้วล้วงมือหยิบโดนัทเคลือบช็อกโกแลตจากถุงออกมาเคี้ยวหงุบ ๆ หงับ ๆ“อืม...”ไผทรับคำ เมื่อเห็นความสนใจของเด็กชายเบี่ยงเบนไปที่ของกิน บรรยากาศกดดันค่อยผ่อนคลายลงมาหน่อย ลูกน้องอย่างวิเชียรถึงกับเป่าปากโล่งอกไปด้วย“เกลไม่ชอบกินบร็อคโคลี่”สกลกันต์กินขนมพร้อมเล่าเรื่องในโรงเรียนไปเรื่อย เหมือนทุก ๆ วันยามผู้เป็นบิดาขับรถมารับจากโรงเรียนอนุบาล“อืม...”ไผทตอบรับลูก แสดงความเอาใจใส่ เรื่องพวกนี้เขาอ่านม
สกลกันต์เล่นก่อกองทรายกับเพื่อนในบ่ออยู่ แม้หลังบ้านจะมีทะเล แต่ใช่ว่าจะได้ไปเล่นบ่อย ๆ ไผทไม่ยอมให้ลูกลงทะเลเด็ดขาดถ้าตนเองไม่ได้ไปด้วยแล้วนายหัวอย่างเขาก็งานยุ่งเสียด้วย ไม่ค่อยมีเวลาพาลูกไปทะเล สกลกันต์จึงได้แต่เล่นอยู่ภายในบ้านบ้าง ในสวนยาง สวนปาล์มบ้างบ่อทรายในโรงเรียนอนุบาลจึงเป็นสถานที่เล่นที่เขาโปรดปรานที่สุด“เมื่อเช้านี้แม่เราทำเทมปุระบร็อคโคลี่ให้กินด้วยแหละ”ผู้พูดเป็นเด็กอวบอ้วนตาหยี ข้าง ๆ กันเป็นลูกสมุน อ้วนหนึ่ง ผอมหนึ่ง“อร่อยมากเลย”ดีนที่เล่นเอารถตักทรายไม่สนใจ สกลกันต์ได้ยินแต่แกล้งทำเฉย ก่อกองทรายต่อ ขณะเด็กหญิงเกลเลิกคิ้ว“แล้ว...”เด็กตาหยียิ้มกว้าง เมื่อสาวที่น่ารักที่สุดในห้องแสดงท่าทีสนใจตน เขากำลังจะกลายเป็นคนเท่ในสายตาเธอแน่ ๆ“ถ้าวันนี้เกลยอมไปเล่นชิงช้ากับเรา จะให้แม่ทำเทมปุระบร็อคโคลี่ให้ก็ได้”พ่อบอกว่าจะจีบผู้หญิงต้องมีของล่อใจ เด็กชายได้ยินเกลเล่าเรื่องเจ้าผักเขียวบ่อย แสดงว่าเธอต้องชอบแน่ ๆ“เราไม่กินของทอดหรอก เดี๋ยวอ้วน”เกลสะบัดบ๊อบ“ทำไมล่ะ แม่เราทำอร่อยนะ หรือไม่ชอบบร๊อคโคลี่ทอด จะกินทอดมันกุ้งไหม ขาหมูก็ได้ แม่เราทำอร่อย พ่อกินเยอะทุกวันเลย”