แชร์

บทที่ 41

ผู้เขียน: ซ่งจิ้น
คุณนายซังสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามที่จะสื่อสารกับเธอต่อไป “แล้วเธอเคยคิดถึงชีวิตของเธอในอนาคตบ้างไหม? ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น แค่ค่ารักษาพยาบาลอย่างเดียวก็เพียงพอที่จะทำให้เธอต้องแบกรับภาระหนักหน่วง! พ่อของเธอคนนั้น...”

“ยังไงฉันก็ไม่อดตาย” ซังหนี่ขัดคำพูดของเธอโดยตรง “นี่ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องกังวลแล้ว ต่อไปนี้ คุณก็ถือซะว่าฉันไม่เคยถูกตามตัวกลับมา”

“ซังหนี่ลูกสาวของคุณ ตายไปแล้วตั้งแต่ตอนที่เธออายุห้าขวบ ตอนที่เธอหายตัวไป”

สุดท้ายคุณนายซังก็จากไป

หลังจากนั่งเหม่ออยู่บนโซฟาครู่หนึ่ง ซังหนี่ก็หยิบไม้เทนนิสของตัวเองขึ้นมาอย่างเงียบ ๆ แล้วลุกขึ้นเดินออกไปข้างนอก

ที่โรงยิมใกล้ ๆ โรงเรียนมัธยมศึกษาแห่งหนึ่ง ซังหนี่กำลังตีลูกเทนนิสอย่างแรง

ภายในโรงยิมเปิดเครื่องปรับอากาศแล้ว แต่เพราะออกกำลังกายอย่างหนัก เหงื่อของเธอจึงไหลลงมาไม่หยุด ทำให้ผมบริเวณหน้าผากเปียกชุ่ม แม้กระทั่งสายตาก็พร่ามัวไปหมด

ขณะที่เธอกำลังรอคู่ต่อสู้เสิร์ฟลูกอยู่นั้น ก็มีเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้น “ให้ฉันเล่นบ้างสิ”

เพื่อนร่วมทีมชั่วคราว ที่ดูเหมือนจะเป็นนักศึกษาชายก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาพยักหน้ารับแล้วโยนลูกเทนนิสให้กับคนที่
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 42

    ถึงแม้จะแต่งงานกันแค่สองปี แต่จริง ๆ แล้วฟู่เซียวหานรู้จักซังหนี่มาหลายปีแล้วในความทรงจำและความประทับใจของเขา อารมณ์ของซังหนี่นั้นมักจะสงบนิ่งและเยือกเย็นอยู่เสมอครั้งเดียวที่เขาเห็นเธอร้องไห้ คือครั้งที่เธอแท้งลูกตอนที่เขารีบไปถึง การผ่าตัดก็เสร็จสิ้นแล้วยามค่ำคืนที่เงียบสงบ คนของทั้งสองครอบครัวก็แยกย้ายกันไปหมดแล้วผู้ช่วยพยาบาลเผลอหลับไปข้าง ๆ เธอ ส่วนเธอก็นั่งอยู่บนเตียงคนไข้อย่างเงียบ ๆ ไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟาย แม้แต่เสียงสะอื้นเบา ๆ ก็ไม่มี เธอเพียงแค่หันไปมองนอกหน้าต่าง ปล่อยให้น้ำตาไหลลงมาทีละหยดส่วนตอนนั้นฟู่เซียวหานทำอะไร?เขาลืมไปแล้วแม้กระทั่งชีวิตที่เกิดมาแค่ไม่ถึงสามเดือนนั้น ในหัวของเขาก็แทบจะไม่มีความทรงจำหรือความรู้สึกใด ๆ อยู่เลยแต่ในตอนนี้ ภาพของซังหนี่ที่กำลังร้องไห้ในตอนนั้นกลับผุดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ปรากฏขึ้นในหัวของเขาอย่างชัดเจนนั่นถือเป็นช่วงเวลาที่เขาเห็นซังหนี่มีอารมณ์แปรปรวนมากที่สุดแล้ว นอกจาก...ในช่วงเวลาพิเศษอื่น ๆ แต่เมื่อครู่นี้เธอกลับซบหน้าร้องไห้จนตัวสั่นต่อหน้าฉินม่อ“ประธานฟู่?”เสียงดังขึ้นมาอีกครั้งจากฝั่งตรงข้ามฟู่เซียวหานจึง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 43

    “นอนหรือยัง?”“ฉันซื้อของมาให้นิดหน่อย วางไว้หน้าประตูแล้ว อย่าลืมหยิบเข้าไปนะ”ส่วนอีกหลายข้อความมาจากซ่งเสี่ยว บอกว่าวันนี้เธอทะเลาะกับหัวหน้าบรรณาธิการ แต่ก็ยังไม่สามารถช่วยให้เธอได้สิทธิ์ในการเผยแพร่ผลงานต่อ และกำลังขอโทษเธออยู่ซังหนี่ตอบข้อความของเธอไปพลางเดินไปเปิดประตูจากนั้น เธอก็เห็นเค้กที่แขวนอยู่บนประตูด้านบนโรยด้วยช็อกโกแลต เป็นรสชาติที่ซังหนี่ชอบที่สุดในขณะที่เธอกำลังจ้องมองเค้กนั้นอย่างเหม่อลอย โทรศัพท์จากฉินม่อก็ดังขึ้น“ตื่นแล้วเหรอ?”“อืม”“ได้ของแล้วใช่ไหม?”“ได้แล้ว”“เอาไปแช่ตู้เย็นก่อนนะ ตอนนี้ฉันกำลังจะไปหา เราจะได้...”“ฉินม่อ” ซังหนี่กลับขัดคำพูดของเขา “วันนี้ขอบคุณมากนะ แต่ตอนนี้ฉันไม่เป็นไรแล้ว”“ต่อไปนายก็ไม่ต้องทำอะไรแบบนี้เพื่อฉันอีก”หลังจากที่ซังหนี่พูดจบ คนที่อยู่ปลายสายกลับหัวเราะออกมา “ทำไม นี่จะตีตัวออกห่างจากฉันอีกแล้วเหรอ? ก่อนหน้านี้เธอบอกว่าเธอแต่งงานแล้วไม่ให้ฉันเข้าใกล้ แต่ตอนนี้...”“ฉันออกมาจากตระกูลซังแล้ว” ซังหนี่พูดต่อ “ตอนนี้ ฉันไม่ใช่คุณหนูใหญ่ตระกูลซังที่มีแค่ชื่อนั่นอีกต่อไปแล้ว ครอบครัวของนายจะยอมให้นายคบกับฉันเหรอ?”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 44

    ความสัมพันธ์ระหว่างซังหนี่และคุณนายซังนั้นจืดจาง ส่วนกับคุณพ่อของเธอนั้นเรียกว่าจืดจางยังไม่ได้ด้วยซ้ำในฐานะหัวหน้าครอบครัวและประธานบริษัท นายท่านซังจึงนำเอาพฤติกรรมในการทำงานมาใช้ในชีวิตประจำวัน คือชอบวางอำนาจและไม่ยอมรับการโต้แย้งหากพูดว่าคุณนายซังทำให้ซังหนี่รู้สึกถึงความลำเอียงเข้าข้างซังฉิงอย่างไม่มีที่สิ้นสุด นายท่านซังก็คือความเย็นชาเขาไม่ค่อยอยู่บ้าน ในความทรงจำของซังหนี่ เขาไม่เคยทำหน้าที่ของพ่อเลย แต่เขาก็ไม่ยอมให้ใครมาท้าทายอำนาจ “หัวหน้าครอบครัว” ของเขาหลังจากกลับมาหลายปี นี่เป็นครั้งแรกที่ซังหนี่ทานข้าวกับเขาตามลำพังตอนที่ซังหนี่มาถึง เขาก็รออยู่ในห้องส่วนตัวแล้ว กำลังยกมือขึ้นดูนาฬิกาด้วยท่าทางหงุดหงิด“ขอโทษค่ะ ฉันมาสายแล้ว”ซังหนี่กล่าวนายท่านซังไม่ได้โกรธ เพียงแค่เหลือบมองเธอแวบหนึ่ง ก่อนจะชี้ไปด้านข้าง “นั่งสิ”ซังหนี่ไม่ขยับ สายตากลับจับจ้องไปยังที่นั่งอื่น ๆ บนโต๊ะรวมกับของเธอและนายท่านซัง มีชุดจานชามทั้งหมดห้าชุด“เดี๋ยวจะมีคนอื่นมาอีก”นายท่านซังเห็นความกังวลของเธอ จึงพูดขึ้นตรง ๆ ซังหนี่นึกบางอย่างขึ้นมาได้ทันที น้ำเสียงของเธอเคร่งเครียดขึ้นท

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 45

    “ผู้อำนวยการซัง ไม่ได้เจอกันนานเลย”ผู้ปกครองทั้งสองฝ่ายจับมือกันอย่างรวดเร็ว จากนั้นสายตาก็จับจ้องมาที่ซังหนี่อย่างพร้อมเพรียงกันนายท่านซังเหลือบมองซังหนี่หลังจากที่ซังหนี่กำมือของตนเองแน่น ก็ฝืนยิ้มออกมาได้ในที่สุด“ผมขอแนะนำ นี่คือซังหนี่ ลูกสาวของผมครับ”“คุณหนูซังสวยจริง ๆ ” นายท่านจ้าวเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน พร้อมกับส่งสัญญาณให้ลูกชายของตัวเองชายหนุ่มที่อยู่ฝั่งตรงข้ามจึงยื่นมือออกมา “สวัสดีครับ ผมจ้าวจิ้งเหยาครับ”ชายหนุ่มสวมสูทที่ดูสะอาดสะอ้าน บนสันจมูกมีแว่นสายตากรอบสีดำ ใบหน้าไม่ได้ดูโดดเด่นสะดุดตา แต่ก็ดูดีมากใบหน้าของเขามีรอยยิ้มที่ดูอ่อนโยน ขณะที่ซังหนี่ยังคงฝืนยิ้ม และค่อย ๆ ยื่นมือออกไป “สวัสดีค่ะ”“นั่งกันเถอะ!”นายท่านซังกล่าวเชื้อเชิญอีกครั้งทุกคนทยอยนั่งลงตามลำดับ จากนั้นนายท่านซังก็ถือโอกาสพูดคุยเรื่องธุรกิจกับนายท่านจ้าวถ้าไม่ใช่เพราะซังหนี่รู้จุดประสงค์ของพวกเขาอย่างชัดเจน ตอนนี้เธอคงคิดว่าทั้งสองฝ่ายแค่มาทานอาหารเย็นด้วยกันธรรมดา ๆ เท่านั้นจ้าวจิ้งเหยานั่งอยู่ตรงข้ามเธอ แต่นอกจากการทักทายในตอนแรกแล้ว เขาก็ไม่ได้สนใจซังหนี่เป็นพิเศษ มีเพียงแต่เข้าร

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 46

    ในที่สุดอาหารมื้อนี้ก็จบลงอย่างสงบซังหนี่ไม่ได้กลับไปกับนายท่านซัง เพียงแค่ให้คนขับรถไปส่งเธอที่อพาร์ตเมนต์คนขับรถมองนายท่านซังก่อน หลังจากยืนยันว่าเขาไม่มีข้อโต้แย้ง จึงเปิดไฟเลี้ยวแล้วเปลี่ยนเส้นทางซังหนี่ไม่อยากคุยกับนายท่านซัง จึงหันไปมองนอกหน้าต่างรถแต่วินาทีถัดมา โทรศัพท์ของเธอก็สั่นสองครั้งเธอก็ไม่ได้ดูแต่นายท่านซังกลับเตือนขึ้น “คุณชายจ้าวติดต่อมาหาเธอแล้วสินะ”คำพูดของเขาดูเหมือนเป็นการเตือน แต่กลับแฝงไปด้วยคำขู่อย่างชัดเจนในที่สุดซังหนี่ก็เปิดโทรศัพท์ บนนั้นเป็นข้อความที่จ้าวจิ้งเหยาส่งมาจริง ๆ “เจอกันครั้งแรก ดีใจที่ได้รู้จักคุณนะครับ”“ผมมีตั๋วคอนเสิร์ตอยู่สองใบ ไม่ทราบว่าคุณสนใจไหม พรุ่งนี้เราไปดูด้วยกันได้นะครับ”“แน่นอนว่าถ้าคุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไรครับ”คำเชิญของจ้าวจิ้งเหยาไม่ถือว่าเสียมารยาท แต่จุดประสงค์นั้นชัดเจนมากซังหนี่เม้มริมฝีปาก “ได้ค่ะ”หลังจากส่งข้อความแล้ว เธอก็ยื่นโทรศัพท์ของตัวเองให้นายท่านซังดู “พอใจแล้วใช่ไหมคะ?”นายท่านซังไม่ได้พูดอะไรอีกซังหนี่ก็ไม่อยากมองเขา “จอดรถข้างทางเถอะ ฉันจะกลับเองค่ะ”คนขับรถไม่ได้ตอบ และไม่กล้าจอดรถ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 47

    บนโต๊ะอาหารเหลือเพียงแม่ลูกสองคนเท่านั้น“เมื่อไรจะย้ายกลับมาอยู่บ้าน?”คุณนายฟู่ซดน้ำซุปเข้าไปคำหนึ่ง จากนั้นเอ่ยถามอย่างใจเย็นฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว“ก่อนหน้านี้ที่ให้ลูกย้ายออกไป เพราะอยู่กับซังหนี่มันไม่สะดวก ในเมื่อตอนนี้หย่ากันแล้ว ก็ย้ายกลับมาเถอะ”คุณนายฟู่กล่าวต่อ“ไม่ต้องหรอก” ฟู่เซียวหานตอบ “ผมอยู่ที่นั่นสะดวกกว่า”“สะดวกอะไร? พาแฟนใหม่กลับไปงั้นเหรอ?”คำพูดของคุณนายฟู่ฟังดูใจเย็นมากก็จริง แต่เมื่อเข้าหูฟู่เซียวหาน กลับแฝงไปด้วยคำพูดเหน็บแนมเล็กน้อยเขาวางตะเกียบลง ก่อนจะมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยคุณนายฟู่กลับเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร เพียงแต่พูดว่า “แม่จริงจังนะ ในเมื่อลูกคิดว่าคู่แต่งงานที่พ่อของลูกหามาให้ไม่ดี งั้นตอนนี้ลูกก็ไปหาเอง...แม่จะไม่ขัดขวาง”“มีแค่ข้อเดียว เด็กซังฉิงคนนั้น แม่ไม่มีทางยอมให้เธอเข้าบ้านเด็ดขาด”“เพราะอะไร?”ฟู่เซียวหานถามคำถามนี้กลับทำให้สีหน้าของคุณนายฟู่เคร่งขรึมทันที “ลูกคิดจะแต่งงานกับเธอจริง ๆ เหรอ?”“ผมแค่สงสัยว่า ทำไมแม่ถึงเกลียดซังฉิงขนาดนั้น?”“เหอะ” คุณนายฟู่หัวเราะเยาะ “แม่จะเกลียดใครสักคน ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 48

    ซังหนี่สวมชุดเดรสยาวสีดำผมยาวสยายลงมาถึงไหล่ ปลายผมม้วนเล็กน้อย มุมปากมีรอยยิ้มบาง ๆ ทั้งคนดูอ่อนโยนอย่างมากไม่รู้ว่าจ้าวจิ้งเหยาพูดอะไรกับเธอ แต่รอยยิ้มของเธอกลับมากขึ้น จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาที่ส่องประกาย ราวกับผืนทะเลสาบที่เป็นประกายระยิบระยับฟู่เซียวหานรู้สึกเหมือนว่าไม่เคยเห็นเธอยิ้มแบบนี้มาก่อนเพราะในความทรงจำของเขา ซังหนี่มักจะเงียบขรึมและน่าเบื่อเสมอแต่ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ฟู่เซียวหานก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ครั้งล่าสุดตอนที่อยู่บนรถ ขณะที่เธอกำลังแย่งสมุดภาพกับเขา จู่ ๆ เธอก็จูบที่ริมฝีปากของเขานั่นเป็นครั้งแรกที่ซังหนี่จูบเขาดูเหมือนว่านั่นจะกลายเป็นครั้งสุดท้ายด้วยขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังคิดอยู่นั้น จ้าวจิ้งเหยาที่อยู่ข้างหน้าก็เดินนำไปก่อนแล้วสองสามก้าวเขาหันไปพูดอะไรบางอย่างกับซังหนี่ เธอส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มจ้าวจิ้งเหยาไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่เปิดประตูขึ้นรถซังหนี่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมสายลมยามค่ำคืนพัดปอยผมยาวข้างใบหูของเธอ เธอยกมือขึ้นทัดผม ก่อนจะโบกมือลาจ้าวจิ้งเหยาที่อยู่ในรถรถของจ้าวจิ้งเหยาแล่นไปข้างหน้าแล้วรอยยิ้มบนใบ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 49

    เธอรู้ดีทุกอย่างแต่เธอก็ยังเผลอพูดมันออกไปโดยไม่รู้ตัวและเมื่อได้ยินคำตอบจากเขา ซึ่งเป็นคำตอบที่เธอรู้ดีอยู่แล้ว ก็เหมือนเป็นการทรมานตัวเอง“ฉันรู้แล้ว”ซังหนี่กล่าวขึ้น “ประธานฟู่พูดจบแล้วใช่ไหม? ฉันลงจากรถได้หรือยัง?”ฟู่เซียวหานไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ความเร็วของรถกลับดูเหมือนจะช้าลงเล็กน้อยในที่สุดเขาก็จอดรถข้างทางซังหนี่ก็ไม่ลังเลเช่นกัน หันไปเปิดประตูรถทันที“ซังหนี่”จู่ ๆ เสียงของเขาดังขึ้นจากด้านหลังการกระทำที่กำลังจะเปิดประตูหยุดชะงัก แต่เธอก็ไม่ได้หันกลับไปฟู่เซียวหานกำพวงมาลัยแน่น ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เห็นแก่ที่เราเคยเป็นสามีภรรยากัน ถ้าตระกูลซังของพวกคุณมีปัญหาอะไร...บอกผมได้”“อย่าใช้วิธีนี้มาทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง”ซังหนี่ค่อย ๆ กำมือที่จับประตูแน่นหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอจึงพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณประธานฟู่มากนะคะ”พูดจบ เธอก็เปิดประตูรถออกเธอไม่หันกลับมามองเขาอีกเลย หลังจากปิดประตูรถแล้ว เธอก็หันหลังเดินตรงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินทันทีฟู่เซียวหานนั่งอยู่ในรถ มองตามเงาของเธอที่ค่อย ๆ ไกลออกไป ริมฝีปากก็เม้มแน่นโดยไม่รู้ตัวแน่นอนว่

บทล่าสุด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 277

    ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูกสวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใดและในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”“ไม่ต้อง”ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซองสวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็วเพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาสวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุดสวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 276

    ฟู่เซียวหานมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งสวีเหยียนและผู้จัดการฝ่ายดำเนินการเข้ามากล่าวรายงานกับเขาได้ครู่ใหญ่ และพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดกลับมาเลย สวีเหยียนถึงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ประธานฟู่ครับ?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาล้ำลึกคู่นั้นยังคงเปี่ยมด้วยความสงบอย่างเคยสวีเหยียนรู้สึกไปแม้กระทั่งว่าเมื่อกี้เป็นเขาที่คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยื่นเอกสารในมือให้เขา “นี่เป็นเอกสารที่ทางแผนกดำเนินการเพิ่งนำมาครับ ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ”ฟู่เซียวหานเหมือนจะเอ่ยตอบรับในลำคอ และหยิบปากกาที่วางด้านข้างขึ้นมาสวีเหยียนและคนที่ยืนด้านข้างยืนรออยู่ฝั่งตรงข้ามหากยึดตามความเร็วในการตรวจสอบเอกสารของฟู่เซียวหานในอดีต เอกสารชุดนี้ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งสองรอไปสักพักใหญ่ ก็พบว่าสายตาของฟู่เซียวหานยังคงหยุดอยู่ตรงหน้าแรกของเอกสาร“ประธานฟู่ครับ?”เขาทำได้เพียงเอ่ยถามอีกครั้ง ผู้จัดการฝ่ายดำเนินการกระทั่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ประธานฟู่ครับ เอกสาร…มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ฟู่เซียวหานไม่กล่าวอะไรออกมา เพียงพลิกหน้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 275

    เขาคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ราวกับสายน้ำแร่อันแสนอ่อนโยนที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปและมากกว่านั้นคือเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เธอจากไป เขาจะรู้สึก…เจ็บได้ถึงขนาดนี้——ราวกับสูญเสียอากาศและแหล่งน้ำที่จำต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดดังนั้น เขาคิดผิดไปอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกันกับในตอนแรกที่เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบาย ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเหนี่ยวรั้งเอาไว้เช่นกันความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ได้ถูกเธอตัดสินโทษประหารชีวิตเอาไว้แล้ว……ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซังหนี่ยังคงไปทำงานที่บริษัทตามปกติข่าวการแต่งงานกับจี้อวี้หยวนไม่ใช่เรื่องที่เธอกุขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษากันอย่างดีและตัดสินใจลงมือทำเพราะเวลาของคุณตาของจี้อวี้หยวนใกล้จะหมดลงแล้วชายชราไม่นับว่าอายุมากนัก แต่ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุยิ่งไปกว่านั้น อาการของเขาทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว จี้อวี้หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ความปรารถนาของผ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 273

    เขาก็อาจมีความรู้สึกต่อเธออย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นเวลาที่เธอมีเรื่องแต่ความรู้สึกนี้มีอยู่เท่าไหร่กันนะ?เป็นสิ่งที่ต่อท้ายจากผลประโยชน์ของเขา เป็นสิ่งที่หากมีเรื่องใดเกิดขึ้น เขาก็พร้อมจะใช้เธอเป็นไพ่ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างไม่ลังเลและการเหนี่ยวรั้งเธอไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ตรงตามจังหวะขั้นตอนเพราะอย่างไรเสียเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ปก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงหันมองย้อนกลับมานึกถึงไพ่ที่เขาทิ้งไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรก?ถึงตอนนี้เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้แล้วอย่างไร?ท้ายที่สุดก็โดนเขา…ทิ้งไปอยู่ดีซังหนี่ไม่คิดกล่าวโทษเขาเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งอีกอย่างเธอรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนอื่น ๆ ต่างเห็นความรุ่งโรจน์ของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วการจะมาถึงจุดนี้นั้นช่างแสนลำบาก ตอนนั้นคุณพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาเองก็ยังอายุน้อยอยู่มาก ลับหลังล้วนมีแต่คนจับจ้องผลประโยชน์ตาเป็นมันดังนั้นการที่เขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ซังหนี่เกลียดภาพที่เขาแสดงออกมาว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 272

    “คุณหมายความว่าอะไร?”ฟู่เซียวหานถามเสียงต่ำซังหนี่ดึงเค้กก้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ในมือถือส้อมไว้แต่ไม่ได้ขยับ เธอเพียงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ปัญหาของทางจื้อเหอกรุ๊ปคุณจัดการแล้วหรือคะ?”ฟู่เซียวหานคาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอจะถามถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรตอบไปอย่างไร ซังหนี่ก็กล่าวเสริมขึ้นมา “วิกฤตการณ์ทางธุรกิจของจื้อเหอกรุ๊ปในปีที่แล้ว จริง ๆ แล้วเป็นเพียงระเบิดควันที่คุณวางไว้ใช่ไหมคะ?”“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกฉันว่าจื้อเหอกรุ๊ปก่อตั้งมานานหลายสิบปี ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีทั้งชื่อเสียงทั้งรากฐานที่ยึดแน่น”“ข้อเสียคือในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นของพนักงานมากหน้าหลายตาล้วนถูกขัดเกลาจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายของผู้ถือหุ้นหลายราย แต่คุณรู้อยู่แก่ใจถึงการกระทำที่ไม่เอาการเอางานของพวกเขาดี ทว่ากลับไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นเก่าแก่ที่ร่วมทำงานหนักตรากตรำกันมากับคุณพ่อของคุณ หรือแม้แต่กับคุณปู่คุณด้วยซ้ำ หากคุณจะลงมือ มันก็คง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 271

    ไม่จำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้เธอหัวเราะเยาะเขาไปมากกว่านี้แต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงควบคุมมันไม่ได้หลังจากสบตาเขาสักพัก ซังหนี่ก็ตอบว่า “เรื่องการแต่งงานเราได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยในเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ค่ะ”“สำหรับเมื่อกี้…ประธานฟู่ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้ หรือว่าคุณจะไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคำศัพท์อย่างคำว่าทำรักครั้งสุดท้ายเพื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์งั้นหรือคะ? อีกอย่างไม่ว่าจะควรพูดหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณได้ช่วยเหลือฉันไว้เยอะมากจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่ฉันจะตอบแทนคุณเพียงเพื่อให้คุณมีความสุขขึ้นมาบ้าง”ซังหนี่อธิบายเปี่ยมด้วยความจริงจังและจริงใจฟู่เซียวหานมองเธอพร้อมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดังนั้นเมื่อกี้คุณ…ก็แค่อยากให้ผมมีความสุข?”“ใช่สิคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”มือของฟู่เซียวหานที่จับเธอไว้ปล่อยออกแทบจะในทันที แม้แต่ดวงตาที่จับจ้องมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ เมื่อกี้นี้เองก็ลดสายตาลงเช่นกันสภาพเช่นนั้น ราวกับเขาอ่อนแรงไปอย่างกะทันหันอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีซังหนี่คิดว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่วินาทีถัดมา ฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 270

    ฟู่เซียวหานไม่อยากจะเชื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พวกเขาสองคนยังแนบชิดกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ ซังหนี่กลับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่าให้เขาออกฟู่เซียวหานนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม? ซังหนี่ คุณ……”“คุณกับโจวหลินทำข้อตกลงอะไรกัน?”ฟู่เซียวหานเดิมทีถอดถุงมือออกแล้วกำลังจะไปกอดเธอ แต่ซังหนี่กลับหลบเลี่ยงการกระทำของเขา แล้วถามเขาต่อสีหน้าจริงจังนั้น ทำให้มือของฟู่เซียวหานชะงักค้างกลางอากาศ สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ เก็บกลับไปแม้จะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เธอพูดกับตัวเองตอนนี้ แต่ฟู่เซียวหานก็ตอบกลับไปว่า “เขามีปัญหาบางอย่างเรื่องการเงินที่ต่างประเทศ และผมเป็นคนช่วยจัดการให้เขา”“อืม ไม่น่าล่ะ”ซังหนี่พยักหน้าฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“เปล่าค่ะ ตรงกันข้าม เพราะคุณช่วยเอาไว้ โครงการของเราถึงดำเนินไปอย่างราบรื่น เงินทุนก็ถูกโอนเข้ามาวันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสรุป”ฟู่เซียวหานฟังแล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อทุกอย่างราบรื่น แล้วทำไม…ราวกับรู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซังหนี่จึงพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะฉะนั้นฟู่เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status