แชร์

บทที่ 47

ผู้เขียน: ซ่งจิ้น
บนโต๊ะอาหารเหลือเพียงแม่ลูกสองคนเท่านั้น

“เมื่อไรจะย้ายกลับมาอยู่บ้าน?”

คุณนายฟู่ซดน้ำซุปเข้าไปคำหนึ่ง จากนั้นเอ่ยถามอย่างใจเย็น

ฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว

“ก่อนหน้านี้ที่ให้ลูกย้ายออกไป เพราะอยู่กับซังหนี่มันไม่สะดวก ในเมื่อตอนนี้หย่ากันแล้ว ก็ย้ายกลับมาเถอะ”

คุณนายฟู่กล่าวต่อ

“ไม่ต้องหรอก” ฟู่เซียวหานตอบ “ผมอยู่ที่นั่นสะดวกกว่า”

“สะดวกอะไร? พาแฟนใหม่กลับไปงั้นเหรอ?”

คำพูดของคุณนายฟู่ฟังดูใจเย็นมากก็จริง แต่เมื่อเข้าหูฟู่เซียวหาน กลับแฝงไปด้วยคำพูดเหน็บแนมเล็กน้อย

เขาวางตะเกียบลง ก่อนจะมองคนที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย

คุณนายฟู่กลับเหมือนไม่ได้รู้สึกอะไร เพียงแต่พูดว่า “แม่จริงจังนะ ในเมื่อลูกคิดว่าคู่แต่งงานที่พ่อของลูกหามาให้ไม่ดี งั้นตอนนี้ลูกก็ไปหาเอง...แม่จะไม่ขัดขวาง”

“มีแค่ข้อเดียว เด็กซังฉิงคนนั้น แม่ไม่มีทางยอมให้เธอเข้าบ้านเด็ดขาด”

“เพราะอะไร?”

ฟู่เซียวหานถาม

คำถามนี้กลับทำให้สีหน้าของคุณนายฟู่เคร่งขรึมทันที “ลูกคิดจะแต่งงานกับเธอจริง ๆ เหรอ?”

“ผมแค่สงสัยว่า ทำไมแม่ถึงเกลียดซังฉิงขนาดนั้น?”

“เหอะ” คุณนายฟู่หัวเราะเยาะ “แม่จะเกลียดใครสักคน ต้องมีเหตุผลด้วยเหรอ?”

บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 48

    ซังหนี่สวมชุดเดรสยาวสีดำผมยาวสยายลงมาถึงไหล่ ปลายผมม้วนเล็กน้อย มุมปากมีรอยยิ้มบาง ๆ ทั้งคนดูอ่อนโยนอย่างมากไม่รู้ว่าจ้าวจิ้งเหยาพูดอะไรกับเธอ แต่รอยยิ้มของเธอกลับมากขึ้น จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาที่ส่องประกาย ราวกับผืนทะเลสาบที่เป็นประกายระยิบระยับฟู่เซียวหานรู้สึกเหมือนว่าไม่เคยเห็นเธอยิ้มแบบนี้มาก่อนเพราะในความทรงจำของเขา ซังหนี่มักจะเงียบขรึมและน่าเบื่อเสมอแต่ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ฟู่เซียวหานก็นึกถึงเรื่องบางอย่างขึ้นมาได้ครั้งล่าสุดตอนที่อยู่บนรถ ขณะที่เธอกำลังแย่งสมุดภาพกับเขา จู่ ๆ เธอก็จูบที่ริมฝีปากของเขานั่นเป็นครั้งแรกที่ซังหนี่จูบเขาดูเหมือนว่านั่นจะกลายเป็นครั้งสุดท้ายด้วยขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังคิดอยู่นั้น จ้าวจิ้งเหยาที่อยู่ข้างหน้าก็เดินนำไปก่อนแล้วสองสามก้าวเขาหันไปพูดอะไรบางอย่างกับซังหนี่ เธอส่ายหน้าพร้อมกับรอยยิ้มจ้าวจิ้งเหยาไม่พูดอะไรอีก เพียงแค่เปิดประตูขึ้นรถซังหนี่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมสายลมยามค่ำคืนพัดปอยผมยาวข้างใบหูของเธอ เธอยกมือขึ้นทัดผม ก่อนจะโบกมือลาจ้าวจิ้งเหยาที่อยู่ในรถรถของจ้าวจิ้งเหยาแล่นไปข้างหน้าแล้วรอยยิ้มบนใบ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 49

    เธอรู้ดีทุกอย่างแต่เธอก็ยังเผลอพูดมันออกไปโดยไม่รู้ตัวและเมื่อได้ยินคำตอบจากเขา ซึ่งเป็นคำตอบที่เธอรู้ดีอยู่แล้ว ก็เหมือนเป็นการทรมานตัวเอง“ฉันรู้แล้ว”ซังหนี่กล่าวขึ้น “ประธานฟู่พูดจบแล้วใช่ไหม? ฉันลงจากรถได้หรือยัง?”ฟู่เซียวหานไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ความเร็วของรถกลับดูเหมือนจะช้าลงเล็กน้อยในที่สุดเขาก็จอดรถข้างทางซังหนี่ก็ไม่ลังเลเช่นกัน หันไปเปิดประตูรถทันที“ซังหนี่”จู่ ๆ เสียงของเขาดังขึ้นจากด้านหลังการกระทำที่กำลังจะเปิดประตูหยุดชะงัก แต่เธอก็ไม่ได้หันกลับไปฟู่เซียวหานกำพวงมาลัยแน่น ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยขึ้น “เห็นแก่ที่เราเคยเป็นสามีภรรยากัน ถ้าตระกูลซังของพวกคุณมีปัญหาอะไร...บอกผมได้”“อย่าใช้วิธีนี้มาทำให้ผมรู้สึกขยะแขยง”ซังหนี่ค่อย ๆ กำมือที่จับประตูแน่นหลังจากนั้นครู่หนึ่ง เธอจึงพูดขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ขอบคุณประธานฟู่มากนะคะ”พูดจบ เธอก็เปิดประตูรถออกเธอไม่หันกลับมามองเขาอีกเลย หลังจากปิดประตูรถแล้ว เธอก็หันหลังเดินตรงไปยังสถานีรถไฟใต้ดินทันทีฟู่เซียวหานนั่งอยู่ในรถ มองตามเงาของเธอที่ค่อย ๆ ไกลออกไป ริมฝีปากก็เม้มแน่นโดยไม่รู้ตัวแน่นอนว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 50

    ซังหนี่นอนไม่หลับทั้งคืนเพราะทันทีที่หลับตาลงก็จะตกอยู่ในฝันร้ายที่ไม่มีวันจบสิ้นห้องที่ชื้นและมืดมัว ประตูห้องที่ปิดไม่สนิทอยู่เสมอ เสื้อผ้าที่มักจะถูกทำให้สกปรกโดยไม่ทราบสาเหตุ และตู้เสื้อผ้าที่ถูกรื้อค้นจนยุ่งเหยิงสุดท้าย คือใบหน้าที่น่าขยะแขยงและน่ารังเกียจของผู้ชายคนนั้นเป็นเวลาแปดปี ซังหนี่ยังคงไม่สามารถหลุดพ้นจากฝันร้ายเหล่านั้นได้ และตอนนี้ เขาออกจากคุกแล้ว...เขาออกจากคุกมาแล้วจริง ๆ !ซังหนี่ไม่รู้ว่าเขาได้เบอร์โทรศัพท์ของเธอมาจากไหน แต่เธอกลับรู้สึกคุ้นเคยกับความรู้สึกแบบนี้...ความรู้สึกที่อึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก ราวกับว่าไม่ว่าเธอจะไปที่ไหนก็หนีไม่พ้นในตอนนี้ แม้แต่ห้องเช่าที่เธอเพิ่งเช่านี้ ก็ดูเหมือนจะไม่ปลอดภัยอีกต่อไปแล้วซังหนี่รู้สึกเหมือนมีสายตาคู่หนึ่งกำลังจ้องมองเธออยู่และในวินาทีต่อมา ก็จะพุ่งเข้ามากระโจนใส่เธอซังหนี่ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วแต่เธอจะไปที่ไหนได้ ตัวเธอเองก็ไม่รู้เหมือนกันสุดท้าย ซังหนี่ก็ไปที่โรงพยาบาลซังหนี่รู้ว่าตัวเธอเองไม่สามารถช่วยอะไรเธอได้แล้ว และซังหนี่ก็ไม่สามารถบอกอะไรเธอได้เช่นกัน แต่ในเวลานี้ แค่ได้มองเธอ ซังหนี่ถึง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 51

    สุดท้าย เธอทำได้เพียงนั่งลงบนโซฟาอย่างช้า ๆ ใช้มือโอบกอดร่างกายของตนเองเอาไว้แน่นและก็เป็นเวลาเดียวกัน ที่โทรศัพท์เบอร์แปลกดังขึ้นมาอีกครั้งซังหนี่ไม่ได้บันทึกไว้ แต่แค่เมื่อคืนมองผ่านเบอร์เพียงแวบเดียว ตอนนี้เธอก็สามารถจดจำมันได้อย่างชัดเจนเวลานี้ไม่มีความลังเลใด ๆ ทั้งสิ้น หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วเขวี้ยงลงไปที่พื้นทันที!เมืองถง เถาหรานจูป้าคังกำลังมองคนที่อยู่ตรงหน้าโดยมีประตูอะลูมิเนียมกั้นอยู่ “คุณบอกว่าคุณเป็นใครนะคะ?”“ผมชื่อจวงโหย่วเหวย เป็นพ่อของเยว่…ไม่ใช่สิ เป็นพ่อของซังหนี่ครับ”ชายคนนั้นแย้มยิ้มเผยให้ฟันสีเหลืองทั่วทั้งปาก “ผมรู้ว่าตอนนี้เธอพักอยู่ที่นี่ คุณให้เธอออกมาพบผมหน่อยสิ”ก่อนหน้านี้ซังหนี่หายตัวไป และได้รับการเลี้ยงดูอยู่ในชนบทมาสิบกว่าปี คนเมืองถงต่างก็รู้เรื่องนี้ดีเมื่อเห็นท่าทางของชายคนนั้นในเวลานี้ ป้าคังก็รู้ถึงสถานะของเขาในทันที สายตาที่มองเขา แสดงความดูถูกมากขึ้นเรื่อย ๆ “คุณหนูซังหนี่ย้ายออกไปจากที่นี่แล้วค่ะ”“ย้ายออกไปแล้ว? เป็นไปได้ยังไง? ไม่ใช่ว่าเธอ…”“เธอกับคุณชายของพวกเราหย่ากันแล้ว” ป้าคังกล่าวอย่างอดรนทนไม่ไหว “หากคุณอยากพบเธอ ก็ต้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 52

    เพราะการเตือนของป้าคัง ฟู่เซียวหานถึงจำวันเกิดที่กำลังจะมาถึงของตัวเองได้หลังจากขึ้นรถ เขาก็หยิบไฟแช็กที่พกติดตัวขึ้นมาตามสัญชาตญาณสีดำทอง ไม่มีการตกแต่งใด ๆ เพียงแต่มีอักษรย่อชื่อของเขาสลักอยู่ที่ด้านขวาล่างเท่านั้นของขวัญที่แสนจะธรรมดาแต่กลับเป็นของขวัญเพียงชิ้นเดียวที่ซังหนี่มอบให้กับเขาในปีที่สอง…เพราะว่าเขาไม่ได้ไปเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบวันแต่งงาน ดังนั้นวันเกิดปีที่แล้ว ซังหนี่จึงไม่ได้มอบแม้กระทั่งของขวัญที่ดูขอไปทีเช่นนี้ให้เขาอีกและในปีนี้…ฟู่เซียวหานไม่ได้คิดต่อ เพียงแค่วางไฟแช็กกลับไปที่เดิม จากนั้นก็เปิดแท็บเล็ตที่อยู่ตรงหน้าทว่าในวินาทีต่อมา คนขับรถกลับเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน!การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วเช่นนั้น ทำให้ฟู่เซียวหานขมวดคิ้วขึ้นมาในทันที ดวงตาคมกริบคนขับรีบอธิบาย “ขอโทษครับประธานฟู่ แต่ว่าด้านหน้า…”ทว่ายังไม่ทันจะพูดจบ ผู้ชายที่เดิมทียืนขวางอยู่หน้ารถ ก็ได้อ้อมมาอยู่ที่ด้านข้างฟู่เซียวหานแล้ว และเคาะหน้าต่างรถไม่หยุดชายคนนี้อายุประมาณห้าสิบกว่าปี ตัดผมสั้นเตียน ฟันเหลืองเต็มปาก กำลังแสยะยิ้มอยู่นอกหน้าต่างรถเดิมทีฟู่เซียวหานไม่คิดจะสน

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 53

    ทางเข้าร้านอาหาร เป็นคนขับรถที่เตือนเขา ฟู่เซียวหานถึงได้มองเห็นคนที่พูดคุยอยู่กับนายท่านซังเห็นได้ชัดว่านายท่านซังหงุดหงิดเป็นอย่างมาก พยายามหลีกเลี่ยงเขาและเดินไปข้างหน้าแต่ว่าจวงโหย่วเหวยกลับไม่ยอมปล่อยเขาไป เอาแต่ตามอยู่ด้านหลังเขา เมื่อเห็นนายท่านซังกำลังจะขึ้นรถจากไป เขาก็ตะโกนออกมาในทันที “หากผู้อำนวยการซังไม่ยินยอมละก็ งั้นผมก็ทำได้แค่ไปหาประธานฟู่อีกครั้ง แล้วเอาเรื่องของเยว่เยว่ในตอนนั้นไปบอกเขา”เดิมทีฟู่เซียวหานก็เตรียมตัวจะจากไปเช่นกันถึงอย่างไร ไม่ว่าซังหนี่หรือว่าตระกูลซัง เรื่องพวกนี้ล้วนไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไปแล้วแต่ว่าในตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของจวงโหย่วเหวย การเคลื่อนไหวของเขาก็หยุดอยู่กับที่อีกครั้งในทันที“ประธานฟู่?”เสียงของสวีเหยียนดังมาจากด้านข้าง ทว่าฟู่เซียวหานกลับไม่ได้สนใจ เพียงแค่หันศีรษะมาเล็กน้อยเท่านั้นนายท่านซังที่เดิมทีใบหน้าเต็มไปด้วยความเย็นชาและเด็ดขาด ตอนนี้กลับยอมให้จวงโหย่วเหวยขึ้นรถไปเป็นที่เรียบร้อย ฟู่เซียวหานหรี่ตาอยู่ชั่วครู่“ประธานฟู่ เยว่เยว่ที่คนคนนั้นพูดถึง…”สวีเหยียนเห็นเขาไม่ขยับ จึงทำได้เพียงพูดออกมาด้วยความสั

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 54

    ซังหนี่กลับมาถึงเมืองถงแล้วซังหนี่ไม่รู้ว่านายท่านซัง ยังให้คนคอยจับตาดูเธออยู่หรือเปล่า แต่ว่าเธอไม่ได้จงใจหลีกเลี่ยงที่จะพบกับจวงโหย่วเหวยภัตตาคารฉีฝู———ร้านอาหารที่มีชื่อเสียงของเมืองถงตอนที่ซังหนี่มาถึง จวงโหย่วเหวยก็นั่งอยู่ตรงนั้นแล้ว กำลังนั่งไขว่ห้างพูดจาแทะโลมพนักงานที่อยู่ด้านข้างแววตาของเขาไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจ กำลังพูดในเรื่องหยาบโลน ดวงตาของเด็กสาวแดงก่ำไปหมด แต่ว่าไม่กล้าแสดงอาการ ทำได้เพียงก้มหน้าและยืนอยู่ตรงนั้น ถือเมนูอาหารที่อยู่ในมือไว้แน่นแม้ว่าจะเตรียมใจมาพร้อมแล้วก็ตาม แต่วินาทีที่มองเห็นโจวโหย่วเหวยอีกครั้ง หัวใจของซังหนี่ก็อดที่จะตึงเครียดไม่ได้!และในตอนนั้นเอง โจวโหย่วเหวยก็มองเห็นเธอแล้วเขาลุกขึ้นยืนในฉับพลัน โบกมือให้เธออย่างตื่นเต้น “เยว่เยว่!”หลังจากที่ซังหนี่ยืนกุมมืออยู่ชั่วขณะ ท้ายที่สุดก็เดินเข้าไปชีวิตของพนักงานคนนั้นเหมือนได้รับการปลดปล่อย หลังจากที่ซังหนี่เดินเข้ามาแล้ว ก็รีบวางเมนูอาหารแล้วจากไปในทันทีจวงโหย่วเหวยยังคงจับจ้องขาคู่นั้นของเธอ หลังจากผ่านไปไม่นาน เขาถึงได้มองมาที่ซังหนี่อีกครั้ง พลางแสยะยิ้ม “ไม่เจอกันนานเลยนะเยว

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 55

    ผ่านไปสักพัก เธอถึงได้หันหน้ากลับมา “ได้ คุณไปพูดเลยสิ”คำตอบนี้ของเธอ ทำให้จวงโหย่วเหวยตะลึงงันไปชั่วขณะเขายังไม่ทันจะตั้งสติได้ ซังหนี่ก็เดินไปข้างหน้าแล้วจวงโหย่วเหวยตบโต๊ะด้วยความโกรธ ขณะที่เตรียมจะเดินตามไปนั้น บริกรชายคนหนึ่งกลับขวางเขาเอาไว้ “คุณผู้ชายครับ คุณยังไม่ได้ชำระเงิน” “จ่ายเงินอะไรกัน? ฉันยังไม่ได้สั่งอาหารเลย!”“คุณผู้ชายครับ ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ได้สั่งอาหาร แต่พวกเราก็ต้องเก็บค่าบริการอื่น ๆ ครับ”ขณะที่คนผู้นั้นกำลังพูด สายตาก็เหลือบมองไปที่จวงโหย่วเหวยสองสามครั้งสายตาแห่งความดูถูกชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างมากจวงโหย่วเหวยโกรธจนตัวสั่น ในขณะที่กำลังเตรียมจะเอาบัตรธนาคาร ที่มีเงินฝากห้าแสนหยวนใบนั้นของตัวเองตบไปที่ใบหน้าของเขา ก็มีเสียงอีกเสียงหนึ่งดังขึ้น “ฉันจ่ายเองค่ะ”เมื่อได้ยินเสียง ใบหน้าของจวงโหย่วเหวยก็อดที่จะเปลี่ยนสีไม่ได้ตอนที่หันหน้ามาอย่างกะทันหัน ซังฉิงก็กำลังยื่นบัตรธนาคารของตนเองให้กับบริกรชายพอดี หลังจากนั้น ก็หันหน้ามาทางเขาแล้วยิ้ม “คุณคือคุณลุงจวงใช่ไหมคะ?”“เธอคือ…” “ฉันเป็นน้องสาวของซังหนี่ค่ะ ซังฉิง”“โอ้ เด็กที่เก็บมาเลี้ยงของตระกูลซ

บทล่าสุด

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 278

    เมื่อฟู่เซียวหานยังเป็นเด็ก ครั้งหนึ่งเขาเคยเจอแมวจรจัดในโรงเรียนของพวกเขาลูกแมวตัวนั้นอาจเพิ่งคลอดได้ไม่นานแต่ไม่มีแม่แมวอยู่เคียงข้าง มีเพียงมันตัวเดียวที่นอนอยู่บนพื้นหญ้าและส่งเสียงร้องอย่างอ่อนแรงฟู่เซียวหานเพียงเหลือบตามองมันแต่เขาไม่มีความเห็นอกเห็นใจที่เปี่ยมล้น ดังนั้นหลังจากเหลือบมองครั้งหนึ่งเขาก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วแต่เขาไม่คาดคิดว่าลูกแมวตัวนั้นจะเดินตามหลังเขามาฝีเท้าของเขาไม่ได้นับว่าก้าวเดินช้า ทั้งที่ลูกแมวตัวนั้นยังไม่สามารถยืนได้อย่างมั่นคงแต่ยังคงยืนหยัดเดินตามเขามาทีละก้าวและในขณะที่ฟู่เซียวหานกำลังจะเดินไปถึงหน้าประตูโรงเรียน ในที่สุดเขาก็หยุดฝีเท้าลงจากนั้นก็หมุนตัวเดินไปที่ร้านของชำด้านข้าง พร้อมซื้อไส้กรอกมาหนึ่งชิ้นลูกแมวตัวน้อยกินอย่างมีความสุขดังนั้นนับตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ฟู่เซียวหานจะเจอมันทุกครั้งหลังเลิกเรียนมันเป็นฝ่ายริเริ่มเข้ามาหาเขาก่อน หลังจากซุกไซร้เข้ากับฝ่ามือของเขาแล้วจึงรอให้เขาป้อนอาหารด้วยความเชื่อฟังและนับตั้งแต่นั้น ฟู่เซียวหานก็มักจะเตรียมขนมไว้ในกระเป๋านักเรียนของเขาเสมอในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เขาแม้กระทั่งตั้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 277

    ฟู่เซียวหานราวกับสงบสติลงแล้ว ในเวลานี้สองมือของเขายันเข้ากับพื้นโต๊ะ แผ่นหลังที่เหยียดตรงอยู่เสมอโค้งงอ เขาก้มศีรษะลง ดูจิตใจเหงาหงอยเศร้าซึมลงอย่างบอกไม่ถูกสวีเหยียนคิดอยากจะปลอบโยนเขา แต่ว่าสวีเหยียนไม่รู้เลยว่าตนควรจะพูดสิ่งใดและในขณะที่เขาลังเลนั้นเอง จู่ ๆ ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นพร้อมถามเขาว่า “มีบุหรี่ไหม?”สวีเหยียนชะงักไปกับคำถามที่เข้ามาอย่างกะทันหันนี้ หลังจากผ่านไปสักพัก เขาก็รู้สึกตัวและนึกขึ้นได้ว่าฟู่เซียวหานเลิกบุหรี่ไปตั้งแต่ก่อนหน้านี้เขารีบส่งซองบุหรี่ที่พกติดตัวไปอย่างไม่ลังเล พร้อมกล่าวว่า “บุหรี่ยี่ห้อนี้แตกต่างกับที่คุณคุ้นเคย ให้ผมสั่งคนไปซื้อมาให้ไหมครับ?”“ไม่ต้อง”ฟู่เซียวหานพูดพลางหยิบบุหรี่ออกจากซองสวีเหยียนรีบส่งไฟแช็กที่จุดไฟแล้วไปให้อย่างรวดเร็วเพราะมือของเขายังคง…สั่นระริกอยู่ตลอดเวลาสวีเหยียนอดไม่ได้ที่จะตัวสั่นเทาเมื่อเห็นท่าทีของเขาเช่นนั้น โชคดีที่ครู่ต่อมาฟู่เซียวหานจุดบุหรี่ได้ในที่สุดสวีเหยียนถอนหายใจด้วยความโล่งอกฟู่เซียวหานสุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้อีกครั้ง หลังจากจ้องไปที่วงควันบนอากาศสักพัก เขาก็กล่าวว่า “เธอกำลังจะแต่งงานแล้ว”

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 276

    ฟู่เซียวหานมองภาพนั้นอยู่นานจนกระทั่งสวีเหยียนและผู้จัดการฝ่ายดำเนินการเข้ามากล่าวรายงานกับเขาได้ครู่ใหญ่ และพบว่าเขาไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองใดกลับมาเลย สวีเหยียนถึงจะตระหนักได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ “ประธานฟู่ครับ?”เมื่อได้ยินเสียงนั้น ฟู่เซียวหานก็เงยหน้าขึ้นมองเขาดวงตาล้ำลึกคู่นั้นยังคงเปี่ยมด้วยความสงบอย่างเคยสวีเหยียนรู้สึกไปแม้กระทั่งว่าเมื่อกี้เป็นเขาที่คิดไปเอง แต่เขาก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เพียงยื่นเอกสารในมือให้เขา “นี่เป็นเอกสารที่ทางแผนกดำเนินการเพิ่งนำมาครับ ต้องใช้ลายเซ็นของคุณ”ฟู่เซียวหานเหมือนจะเอ่ยตอบรับในลำคอ และหยิบปากกาที่วางด้านข้างขึ้นมาสวีเหยียนและคนที่ยืนด้านข้างยืนรออยู่ฝั่งตรงข้ามหากยึดตามความเร็วในการตรวจสอบเอกสารของฟู่เซียวหานในอดีต เอกสารชุดนี้ก็จะใช้เวลาเพียงไม่กี่สิบวินาทีเท่านั้น แต่ทั้งสองรอไปสักพักใหญ่ ก็พบว่าสายตาของฟู่เซียวหานยังคงหยุดอยู่ตรงหน้าแรกของเอกสาร“ประธานฟู่ครับ?”เขาทำได้เพียงเอ่ยถามอีกครั้ง ผู้จัดการฝ่ายดำเนินการกระทั่งเอ่ยด้วยเสียงสั่นเครือ “ประธานฟู่ครับ เอกสาร…มีปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ?”ฟู่เซียวหานไม่กล่าวอะไรออกมา เพียงพลิกหน้

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 275

    เขาคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เธอก็จะยังคงอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ราวกับสายน้ำแร่อันแสนอ่อนโยนที่คอยโอบอุ้มทุกสิ่งทุกอย่างของเขาเอาไว้เขาไม่เคยคิดว่าเธอจะจากไปและมากกว่านั้นคือเขาไม่เคยคิดเลยว่าหลังจากที่เธอจากไป เขาจะรู้สึก…เจ็บได้ถึงขนาดนี้——ราวกับสูญเสียอากาศและแหล่งน้ำที่จำต้องพึ่งพาเพื่อความอยู่รอดดังนั้น เขาคิดผิดไปอย่างไรก็ตาม มันก็เหมือนกันกับในตอนแรกที่เขาไม่ยอมเปิดโอกาสให้เธอได้อธิบาย ตอนนี้ เธอเองก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาเหนี่ยวรั้งเอาไว้เช่นกันความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขา ได้ถูกเธอตัดสินโทษประหารชีวิตเอาไว้แล้ว……ไม่กี่วันหลังจากนั้น ซังหนี่ยังคงไปทำงานที่บริษัทตามปกติข่าวการแต่งงานกับจี้อวี้หยวนไม่ใช่เรื่องที่เธอกุขึ้นมา แต่เป็นสิ่งที่พวกเขาปรึกษากันอย่างดีและตัดสินใจลงมือทำเพราะเวลาของคุณตาของจี้อวี้หยวนใกล้จะหมดลงแล้วชายชราไม่นับว่าอายุมากนัก แต่ก่อนหน้านี้จู่ ๆ เขาก็ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคอัลไซเมอร์ หรือรู้จักกันทั่วไปว่าเป็นโรคสมองเสื่อมในผู้สูงอายุยิ่งไปกว่านั้น อาการของเขาทรุดตัวลงไปอย่างรวดเร็ว จี้อวี้หยวนเป็นหลานชายเพียงคนเดียวของเขา ความปรารถนาของผ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 274

    ทันทีที่คำพูดนี้ของฟู่เซียวหานหลุดออกจากปาก ซังหนี่พลันตกตะลึงจากนั้นเธอก็หัวเราะออกมา “จริงหรือคะ? แล้วนับว่าคุณชนะหรือเปล่า?”ฟู่เซียวหานไม่ตอบคำถามของเธอ ราวกับรู้สึกว่าคำถามนี้ไม่มีความจำเป็นต้องตอบเขาจึงเดินถือสัมภาระออกไปทั้งอย่างนั้นเสียงปิดประตูไม่ดังไม่เบา ไม่เจือไปด้วยอารมณ์ใด ๆ ซังหนี่เองก็ไม่ได้เหลือบมองไปฝั่งนั้นเลยด้วยซ้ำกล่าวตามตรง เดิมทีเธอไม่คิดจะพูดถ้อยคำเมื่อกี้ไปสักนิดเพราะมัน…ไม่มีความหมายอะไรอย่างไรก็ตามความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาก็จบลงแล้ว การที่จะไปขุดคุ้ยอารมณ์จากเรื่องราวในอดีตขึ้นมาอีกครั้งช่างเป็นเรื่องที่ไม่มีความจำเป็นมันก็เหมือนกับผลไม้เน่าเสียที่แค่ต้องโยนทิ้งลงถังขยะไปก็เท่านั้น ทำไมต้องปอกเปลือกออกทีละชั้นเพื่อหาว่าตรงไหนกันที่เน่าเป็นจุดแรก?ท้ายที่สุดแล้ว บนมือก็หลงเหลือเพียงแกนกลางผลไม้ที่เน่าเปื่อยถึงจะยอมรับได้ในที่สุดว่า ——มันผิดมาตั้งแต่แรกแต่ซังหนี่เองที่อดใจไม่ไหวคำถามต่าง ๆ วนเวียนอยู่ในสมองของเธอ นับตั้งแต่เจิ้งชวนบอกกล่าวให้เธอฟังเกี่ยวกับเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ป นับตั้งแต่เธอรู้เรื่องว่าคุณนายฟู่ได้ฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วไม

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 273

    เขาก็อาจมีความรู้สึกต่อเธออย่างแท้จริง ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่รีบร้อนขนาดนั้นเวลาที่เธอมีเรื่องแต่ความรู้สึกนี้มีอยู่เท่าไหร่กันนะ?เป็นสิ่งที่ต่อท้ายจากผลประโยชน์ของเขา เป็นสิ่งที่หากมีเรื่องใดเกิดขึ้น เขาก็พร้อมจะใช้เธอเป็นไพ่ที่สามารถนำมาใช้งานได้อย่างไม่ลังเลและการเหนี่ยวรั้งเธอไว้ตอนนี้ก็เป็นเรื่องที่ตรงตามจังหวะขั้นตอนเพราะอย่างไรเสียเรื่องของจื้อเหอกรุ๊ปก็ได้รับการแก้ไขแล้ว เขาได้รับทุกสิ่งทุกอย่างที่ต้องการมาแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงหันมองย้อนกลับมานึกถึงไพ่ที่เขาทิ้งไปด้วยตัวเองตั้งแต่แรก?ถึงตอนนี้เขาจะเหนี่ยวรั้งไว้แล้วอย่างไร?ท้ายที่สุดก็โดนเขา…ทิ้งไปอยู่ดีซังหนี่ไม่คิดกล่าวโทษเขาเพราะอย่างไรเสียเขาก็เป็นนักธุรกิจคนหนึ่งอีกอย่างเธอรู้ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา คนอื่น ๆ ต่างเห็นความรุ่งโรจน์ของเขา ทว่าจริง ๆ แล้วการจะมาถึงจุดนี้นั้นช่างแสนลำบาก ตอนนั้นคุณพ่อของเขาเสียชีวิตอย่างกะทันหัน เขาเองก็ยังอายุน้อยอยู่มาก ลับหลังล้วนมีแต่คนจับจ้องผลประโยชน์ตาเป็นมันดังนั้นการที่เขาจะให้ความสำคัญกับผลประโยชน์มาเป็นอันดับแรกจึงไม่ใช่เรื่องแปลกแต่ซังหนี่เกลียดภาพที่เขาแสดงออกมาว่

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 272

    “คุณหมายความว่าอะไร?”ฟู่เซียวหานถามเสียงต่ำซังหนี่ดึงเค้กก้อนนั้นกลับมาอีกครั้ง ในมือถือส้อมไว้แต่ไม่ได้ขยับ เธอเพียงเอ่ยถามเสียงเบาว่า “ปัญหาของทางจื้อเหอกรุ๊ปคุณจัดการแล้วหรือคะ?”ฟู่เซียวหานคาดไม่ถึงว่าจู่ ๆ เธอจะถามถึงเรื่องนี้ก่อนที่จะคิดได้ว่าควรตอบไปอย่างไร ซังหนี่ก็กล่าวเสริมขึ้นมา “วิกฤตการณ์ทางธุรกิจของจื้อเหอกรุ๊ปในปีที่แล้ว จริง ๆ แล้วเป็นเพียงระเบิดควันที่คุณวางไว้ใช่ไหมคะ?”“ก่อนหน้านี้คุณเคยบอกฉันว่าจื้อเหอกรุ๊ปก่อตั้งมานานหลายสิบปี ซึ่งนั่นมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อดีคือเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันดีทั่วประเทศ มีทั้งชื่อเสียงทั้งรากฐานที่ยึดแน่น”“ข้อเสียคือในช่วงไม่กี่สิบปีที่ผ่านมา ความกระตือรือร้นของพนักงานมากหน้าหลายตาล้วนถูกขัดเกลาจนแทบไม่หลงเหลือความรู้สึกนั้นอยู่ โดยเฉพาะเหล่าญาติสนิทมิตรสหายของผู้ถือหุ้นหลายราย แต่คุณรู้อยู่แก่ใจถึงการกระทำที่ไม่เอาการเอางานของพวกเขาดี ทว่ากลับไม่สามารถกำจัดทั้งหมดออกไปได้ เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็เป็นผู้ถือหุ้นเก่าแก่ที่ร่วมทำงานหนักตรากตรำกันมากับคุณพ่อของคุณ หรือแม้แต่กับคุณปู่คุณด้วยซ้ำ หากคุณจะลงมือ มันก็คง

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 271

    ไม่จำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้เธอหัวเราะเยาะเขาไปมากกว่านี้แต่ในเวลานี้ ฟู่เซียวหานยังคงควบคุมมันไม่ได้หลังจากสบตาเขาสักพัก ซังหนี่ก็ตอบว่า “เรื่องการแต่งงานเราได้ตัดสินใจกันไปเรียบร้อยในเมื่อสองวันก่อนหน้านี้ค่ะ”“สำหรับเมื่อกี้…ประธานฟู่ที่มีประสบการณ์และความรู้กว้างขวางถึงเพียงนี้ หรือว่าคุณจะไม่รู้ว่าบนโลกนี้มีคำศัพท์อย่างคำว่าทำรักครั้งสุดท้ายเพื่อสิ้นสุดความสัมพันธ์งั้นหรือคะ? อีกอย่างไม่ว่าจะควรพูดหรือไม่ แต่ในช่วงที่ผ่านมานี้คุณได้ช่วยเหลือฉันไว้เยอะมากจริง ๆ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสมควรที่ฉันจะตอบแทนคุณเพียงเพื่อให้คุณมีความสุขขึ้นมาบ้าง”ซังหนี่อธิบายเปี่ยมด้วยความจริงจังและจริงใจฟู่เซียวหานมองเธอพร้อมอดหัวเราะออกมาไม่ได้ “ดังนั้นเมื่อกี้คุณ…ก็แค่อยากให้ผมมีความสุข?”“ใช่สิคะ ถ้าไม่ใช่อย่างนั้นแล้วคุณคิดว่าอะไรล่ะ?”มือของฟู่เซียวหานที่จับเธอไว้ปล่อยออกแทบจะในทันที แม้แต่ดวงตาที่จับจ้องมาราวกับจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ เมื่อกี้นี้เองก็ลดสายตาลงเช่นกันสภาพเช่นนั้น ราวกับเขาอ่อนแรงไปอย่างกะทันหันอย่างไรอย่างนั้นเดิมทีซังหนี่คิดว่าเขายอมรับเรื่องนี้ได้แล้ว แต่วินาทีถัดมา ฟู่เ

  • ภรรยาจำเลยของท่านประธานยื้อรัก   บทที่ 270

    ฟู่เซียวหานไม่อยากจะเชื่อเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน พวกเขาสองคนยังแนบชิดกันอยู่เลย แต่ตอนนี้ ซังหนี่กลับพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งว่าให้เขาออกฟู่เซียวหานนิ่งไปพักใหญ่ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณล้อผมเล่นใช่ไหม? ซังหนี่ คุณ……”“คุณกับโจวหลินทำข้อตกลงอะไรกัน?”ฟู่เซียวหานเดิมทีถอดถุงมือออกแล้วกำลังจะไปกอดเธอ แต่ซังหนี่กลับหลบเลี่ยงการกระทำของเขา แล้วถามเขาต่อสีหน้าจริงจังนั้น ทำให้มือของฟู่เซียวหานชะงักค้างกลางอากาศ สุดท้าย ก็ต้องค่อยๆ เก็บกลับไปแม้จะไม่เข้าใจว่ามันเกี่ยวอะไรกับเรื่องที่เธอพูดกับตัวเองตอนนี้ แต่ฟู่เซียวหานก็ตอบกลับไปว่า “เขามีปัญหาบางอย่างเรื่องการเงินที่ต่างประเทศ และผมเป็นคนช่วยจัดการให้เขา”“อืม ไม่น่าล่ะ”ซังหนี่พยักหน้าฟู่เซียวหานขมวดคิ้ว “ทำไมเหรอ? เกิดเรื่องอะไรขึ้น?”“เปล่าค่ะ ตรงกันข้าม เพราะคุณช่วยเอาไว้ โครงการของเราถึงดำเนินไปอย่างราบรื่น เงินทุนก็ถูกโอนเข้ามาวันนี้แล้ว ไม่อย่างนั้น อาจต้องรอเป็นเดือนกว่าจะได้ข้อสรุป”ฟู่เซียวหานฟังแล้วกลับยิ่งไม่เข้าใจในเมื่อทุกอย่างราบรื่น แล้วทำไม…ราวกับรู้ว่าเขากำลังสงสัยอะไร ซังหนี่จึงพูดขึ้นทันทีว่า “เพราะฉะนั้นฟู่เ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status