หน้าหลัก / แฟนตาซี / ภรรยาข้าคือนางร้าย / บทที่ 10 ผลไม้แห่งเพลิง

แชร์

บทที่ 10 ผลไม้แห่งเพลิง

ผู้เขียน: malinee
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-07-02 21:58:05

กลุ่มคนที่กำลังเดินไปตามทางไม่พบปีศาจทั้งระดับสูงหรือต่ำ แต่ก็ต้องหลบเลี่ยงไปก่อนเพราะคำเตือนจากเย่ชิงหาน 

อีกครึ่งวันต่อมา พวกเขาทั้งหมดรีบไปยังบริเวณด้านนอกของเทือกเขาแห่งเพลิงอัคคี ณ บริเวณนั้นมีป่าหนาทึบอยู่ด้านหน้า และหลังจากที่เดินไปได้สักพัก พลันหูก็ได้ยินเสียงการต่อสู้ที่อยู่ไม่ไกล ทำให้เย่ชิงหานและอีกหลายคนตื่นตัว

“นายน้อย เราจะไปที่นั่นกันไหม” ลู่เหล่าทอดสายตาออกไปเบื้องหน้า และเอ่ยถามเย่ชิงหานอย่างระมัดระวัง

ดวงตาของเย่ชิงหานเต็มไปด้วยความสุขุมและลึกล้ำ เขาเริ่มทำสมาธิข่มจิตให้นิ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ไป ไปดู” 

ภายหลังคำพูดของนายน้อย ทัพก็เริ่มเคลื่อนตัว เพื่อเร่งไปยังทิศทางที่ได้ยินเสียงการต่อสู้ เมื่อพ้นช่วงที่เป็นป่าทึบก็จะเริ่มเป็นลานโล่ง ณ เวลานี้ชายสามคนถูกล้อมรอบไปด้วยปีศาจขนปุยระดับที่สองและสาม โดยมีชายสองคนนอนจมกองเลือดอยู่ที่พื้น หนึ่งในนั้นเริ่มหายใจโรยริน ดูแล้วน่าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส 

“พวกข้ากำลังเจอปัญหาช่วยข้าที พวกข้าจะขอบคุณมาก” ชายคนหนึ่งอยู่ตรงนั้น ตะโกนขอความช่วยเหลือทันที เมื่อเห็นเย่ชิงหานและทัพของเขา

“พวกเจ้าจัดการซะ” เย่ชิงหานเอ่ย เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า

“ขอรับนายน้อย”

ชายสามคนและหญิงหนึ่งคนปฏิบัติตามคำสั่งของผู้เป็นนายทันที พวกเขาบินตรงเข้าไปในวงกลม พลันชักดาบขึ้นสู้กับเหล่าหมูสีแดงที่ปกคลุมไปด้วยปุยขน พวกเขาใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งก้านธูป ก็สามารถจัดการพวกปีศาจสิบกว่าตัวที่รายล้อมกลุ่มชายเหล่านั้นได้หมด 

หลูมู่หยานกอดอกและพิงหลังกับต้นไม้ใหญ่เพื่อมองดูการต่อสู้ ครานี้นางไม่สามารถเข้าร่วมต่อสู้ได้แม้ว่าจะต้องการเพียงใด นั่นก็เป็นเพราะร่างกายไร้ค่าของผู้ที่ไม่มีประสบการณ์นี้ทำให้นางทำได้แค่เพียงยืนมองเท่านั้น นางสังเกตว่าคนของเย่ชิงหานมีพลังและทักษะในการต่อสู้ที่ดี แน่ล่ะว่าพวกเขาเหล่านั้นคงผ่านการฝึกฝนกันอยู่บ่อยครั้ง

“ขอบคุณพวกเจ้าที่ช่วยเหลือ ข้ามีแกนคริสตัลของปีศาจระดับสามอยู่ห้าอัน มันเป็นของที่มีค่าที่สุดอยู่กับพวกข้า” เมื่อพูดจบ ชายร่างใหญ่ก็หยิบยื่นแกนคริสตันจำนวนห้าอันออกจากกระเป๋า และมอบให้เย่ชิงหานเพื่อเป็นการขอบคุณและถือเป็นสัญลักษณ์ที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้ 

ทว่า เย่ชิงหานไม่ได้รับแกนคริสตัน เขาเพียงยกยิ้มและเอ่ยออกไปว่า “ไม่เป็นไร พวกเราจัดการมันได้ง่าย ๆ” ไม่ใช่เรื่องง่ายที่เหล่าทหารรับจ้างสำหรับการทำภารกิจที่เทือกเขาแห่งนี้ เขาถือแกนคริสตัลของปีศาจ ‘ระเบิดสงครามยังไม่มีประโชน์มากนักในตอนนี้’ 

“ขอบคุณเจ้ามาก หากมันจะมีประโยชน์ในอนาคต ได้โปรดแจ้งให้ข้าได้ทราบ ข้าชื่อเจียงตง และพวกเขาเป็นผู้ร่วมทัพทหารรับจ้างของข้า” เจียงตงเก็บแกนคริสตัลลงประเป๋าดังเดิม พร้อมกับลอบมองคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า และเขาก็รับรู้ได้ว่า แกนคริสตัลไม่ใช่สิ่งของที่หายากเกินไปสำหรับชายที่สวมใส่ชุดราคาแพง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังรู้สึกขอบคุณด้วยใจจริง 

“ทำไมพวกท่านถึงได้ถูกไล่ล่าจากพวกนั้น?” เท่าที่ทราบ เหล่าปีศาจหมูแดงขนปุยเป็นสัตว์ที่อยู่รวมกันเป็นฝูง และพวกมันจะไม่ออกนอกอาณาเขตง่าย ๆ นั่นจึงทำให้เย่ชิงหานรู้สึกสงสัยว่าทหารรับจ้างกลุ่มนี้ถูกโจมตีได้อย่างไร

เจียงตงค่อย ๆ นั่งลงกับพื้นเพื่อนำผู้ร่วมทัพของพวกเขาให้อยู่ในระดับที่สามารถป้อนยาได้ หลังจากนั้นจึงเงยหน้าและอธิบายกับเย่ชิงหานว่า “พวกข้าบุกเข้าไปในขอบของวงแหวนรอบนอกโดยไม่ตั้งใจ เมื่อพวกข้าไล่ตามเสือดาวลายจุดระดับสาม พวกข้าพบกับผลไม้แห่งเพลิง เลยวางแผนที่จะเก็บมัน แต่ใครจะรู้ว่าตอนนั้นราชาหมูขนแดงระดับสี่จะปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และยังสั่งให้พวกหมูขนแดงระดับสองและสามล้อมเอาไว้ พวกข้าจึงวิ่งหนีออกมาแล้วก็พบกับพวกท่านเข้าไม่เช่นนั้นพวกเราคงต้องตายด้วยน้ำมือของปีศาจเหล่านั้นเป็นแน่” 

ดวงตาของหลูมู่หยานส่องประกายเมื่อได้ยิน นางไม่คิดว่าจะได้พบกับสิ่งที่ตามหาหลังจากเข้ามาได้ไม่นาน “สิ่งที่พวกท่านพบคือผลไม้แห่งเพลิงจริงหรือ?” 

“ใช่ แต่ดูเหมือนมันเพิ่งจะออกผลไม่นาน เพราะยังเขียวอยู่หน่อย ๆ ราชาหมูขนแดงคงจะรอให้มันสุกเสียก่อน ไม่เช่นนั้นมันคงถูกกินไปแล้ว” เจียงตงพยายามอธิบายจากสิ่งที่เขาเดา 

“ท่านหาผลไม่แห่งเพลิงได้จากที่ใดหรือ?” หลูมู่หยานมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก หากนางพบกับผลไม้แห่งเพลิง นางก็จะสามารถปนำไปใช้กับซิ่วสุ่ยเพื่อใช้ปรับโครงสร้างของร่างกายได้ 

เจียงตงใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะชี้ไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ พร้อมกับเอ่ยว่า “พวกเราพบมันที่นั่น อยู่ห่างออกไปประมาณครึ่งชั่วโมง

“นายน้อยเย่ ข้าจะไปหาผลไม่แห่งเพลิง ท่านจะไปกับข้าหรือจะรออยู่ที่นี่?” หลูมู่หยานพยายามกดอารมณ์ที่อาจจะแสดงออกผ่านดวงตา ก่อนจะถามออกไปด้วยรอยยิ้มจาง ๆ 

เย่ชิงหานแสดงความรู้สึกประหลาดใจผ่านดวงตาเล็กน้อย แม้ว่าพวกเขาจะกำจัดพวกปีศาจหมูจนแดงไปแล้ว แต่ด้วยทักษะการใช้ดาบที่อยู่ในระดับต่ำของหลูมู่หยานจะเอาชนะราชาหมูขนแดงที่อยู่ในระดับที่สี่เพื่อช่วงชิงผลไม้นั่นได้อย่างไร? แต่เมื่อสังเกตไปที่ดวงตาคู่นั้นของนาง มันก็ชัดเจนว่าสิ่งเหล่านั้นที่เขากังวลคงไม่มีผลอะไร นั่นจึงทำให้เย่ชิงหานใคร่อยากจะรู้ว่าสตรีนางนี้จะจัดการกับราชาหมูขนแดงอย่างไร

“ข้าไปกับเจ้า” 

หลูมู่หยานพยักหน้ารับ อันที่จริงนางไม่ได้สนใจว่าเย่ชิงหานและพวกจะตามไปหรือไม่ ถึงแม้ตัวนางจะไม่สามารถต่อกรกับปีศาจระดับสี่ได้ แต่นางก็มีไพ่ช่วยชีวิตหลายใบ ซึ่งนางก็มิได้เกรงกลัวราชาหมูขนแดงอะไรนั่นเสียเท่าไหร่นัก อย่าคิดที่จะไปสถานที่อันตรายอย่างเทือกเขาแห่งเพลิงอัคคีเพื่อตามหาผลไม้แห่งเพลิง

เย่จิงแสดงความเย้ยหยัน หมายความว่าอย่างไรที่ว่าจะไปด้วยหรือรออยู่ที่นี่ นางไม่ได้ต้องการให้นายน้อยไปช่วย ในตอนนี้เย่จิงหัวเสียเป็นอย่างมาก นางไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายน้อยของนางคิดอย่างไร นางมองไปที่ขยะไร้ค่าคนนั้นที่ยินดีกับการช่วยเหลือในการตามหาผลไม้แห่งเพลิง เย่จิงไม่อยากตามไปด้วย

“ถ้าท่านไม่อยากไป ก็อย่าตามนางไป” หลูมู่หยานได้ยินเสียงเหยียดหยามของหญิงที่น่ารังเกียจ นางมองไปทางเย่จิงด้วยสายตาที่เย็นยะเยือก ก่อนจะหันไปพูดกับเจียงตงว่า “ขอบคุณ” จากนั้นจึงรีบไปตามทิศที่เจียงตงบอกอย่างรวดเร็ว

เย่จิงโกรธจนสีหน้าแดงก่ำ นางขยะไร้ค่ากล้าพูดกับตนเองเช่นนี้เชียวหรือ และเมื่อนางกำลังคิดจะสาปแช่งหลูมู่หยาน พลันเย่ชิงหานก็หันมาพร้อมกับคำเตือนผ่านสายตาที่เยือกเย็น กระนั้นเย่จิงกระทืบเท้าลงอย่างไม่เต็มใจ พร้อมกับก่นด่าสาปแช่งหลูมู่หยานอยู่ในใจ ในอนาคตคงจะต้องทำอะไรสักอย่างกับขยะนี่เสียแล้ว 

เย่ชิงหานมองไปยังเงาที่สวยงามเบื้องหน้าด้วยความสนอกสนใจ ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเล็กน้อยและรีบเดินตามไปอย่างรวดเร็ว 

หลังจากผ่านไปได้ครึ่งชั่วโมง หลูมู่หยานรู้สึกถึงคลื่นความร้อนจากด้านหน้าที่แผ่กระจายไปโดยรอบ ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความสุขสม ผลไม้แห่งเพลิง! นี่ต้องเป็นความร้อนที่ผลไม้แห่งเพลิงปล่อยออกมาแน่ 

นางก้าวเท้าเร็วขึ้น และเพียงไม่กี่อึดใจก็พบกับต้นไม้สีแดงใสราวกับอัญมณีอยู่ข้าง ๆ ก้อนหินสีเทาข้างหน้า ที่ต้นปรากฏเป็นผลไม้สีแดงละเอียดสามผล

บางทีเจียงตงอาจจะไม่ได้ตั้งใจทำให้ราชาปีศาจหมูขนแดงตื่นตัวก็เป็นได้ เห็นจากการที่มันนอนอยู่บนหินสีเทาอย่างเกียจคร้านในเวลานี้ แต่หลูมู่หยานหาได้สนใจไม่นางสนใจเพียงแค่ผลไม้สีแดงตรงหน้านั้นต่างหาก

“ท่านรอข้าตรงนี้” หลูมู่หยานเอ่ยกระซิบกับสหายร่วมทาง หลังจากประเมินความแข็งแกร่งของราชาหมูขนแดงตัวนี้

เย่ชิงหานขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจนัก พรางกระซิบกลับไปว่า “เจ้าอย่าดูถูกปีศาจหมูขนแดงระดับสี่เชียว การป้องกันของมันนับว่าแข็งแกร่งและดุดันมาก เจ้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของมัน” 

“ข้ารู้ ไม่ต้องห่วงหรอก ข้ารับมือได้” หลูมู่หยานโบกมือไปมา แม้ว่านางจะไม่มั่นใจเรื่องการสู้กับปีศาจหมูขนแดงนี้ แต่สิ่งที่นางมั่นใจก็คือการช่วงชิงผลไม้แห่งอัคคีนั่น 

เมื่อเย่ชิงหานคิดว่ามันไม่ใช่เรื่องเล่น แต่เมื่อเห็นหลูมู่หยานปล่อยประกายความมั่นใจ เขาจึงทำได้เพียงพยักหน้ารับเท่านั้น “ระวังตัวไว้ หากมีอันตราย ข้าจะเข้าไปจัดการ” 

“รับทราบ ข้าไปก่อนนะ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 11 คว้ามัน

    หลังจากที่หลูมู่หยานเอ่ยกับเย่ชิงหานเสร็จสิ้น นางใช้ชุนบุเพื่อมุ่งหน้าไปทางที่ราชาปีศาจหมูขนแดงซังเถาเปรียบเสมือนแบบเรียนที่ต้องทดลองทำด้วยตนเอง ซึ่งนางเคยได้รับมันแล้วในโลกของการบ่มเพาะที่เป็นอมตะ หลังจากฝึกแล้วร่างกายจะรู้สึกเหมือนไม่มีตัวตนและโปร่งใสราวกับสายลม รวมไปถึงมีความยืดหยุ่นและมีความเร็วมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหนี หรือเปลี่ยนตำแหน่งระหว่างการต่อสู้ กล่าวคือมันจะเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ดีที่สุดที่จะช่วยชีวิตได้ณ เวลานี้ หมูขนแดงเหมาซิที่กำลังนอนอยู่บนโขดหิน สังเกตเห็นเงาสีม่วงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว พลันดวงตาของมันเริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดง และมันก็เริ่มปล่อยลมร้อนระอุออกมาผ่านจมูก พร้อมกับยืนขึ้นเตะก้อนหินขนาดใหญ่ให้พุ่งโจมตีหลูมู่หยานทันที เมื่อเห็นว่าราชาหมูขนแดงกำลังเข้ามาใกล้ หลูมู่หยานเริ่มแสดงความเจ้าเล่ห์ผ่านดวงตา นางยื่นมือข้างซ้ายออกไปพร้อมกับโบกมือไหว ๆ ทำให้ลูกบอลกระดาษกระแทกเข้าที่งวงของมันทันที ทันใดนั้นลูกบอลกระดาษก็แตกเป็นแป้งขาว กระจายไปตามขนและเข้าไปในรูจมูกของมันทันใดนั้นเอง ตัวราชาปีศาจหมูขนแดงเริ่มแข็งทื่อ ก่อนจะล้มลงชักอยู่ที่พื้น ริมฝีปากของหลูมู่หยานยิ้มเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 12 สัตว์ผจญเพลิง

    ถ้ำของสัตว์แห่งเพลิงซ่อนอยู่ที่ภูเขาที่มอดดับแล้วในเทือกเขาแห่งเพลิงอัคคีที่อยู่ในส่วนที่ลึกและห่างไกลภูเขาไฟแห่งนั้นล้อมรอบด้วยพื้นที่รกร้าง ไม่มีแม้แต่สิ่งมีชีวิต ส่วนนี้พิสูจน์ให้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพื้นที่ตรงนี้เป็นของสัตว์ร้ายแห่งเพลิง แม้แต่ปีศาจชนิดอื่นก็ไม่กล้าย่างกรายเข้าไป หากไม่ได้รับอนุญาตณ บริเวณนี้คือสถานที่ที่ซ่อนตัวของสัตว์ร้ายแห่งเพลิง หลายคนรู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่แผ่กระจาย บ่งบอกได้ถึงการเป็นปีศาจระดับที่ห้าได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของเย่ชิงหานแสดงความกังวลออกมาอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งเป็นภาพที่หาดูไม่ง่าย เขาบอกกับผู้ร่วมทัพว่า “ข้ากับลู่เหล่าจะจัดการมันก่อน แล้วพวกที่เหลือค่อยตามมาสมทบ หากมีใครได้รับบาดเจ็บ มู่หยานจะเป็นคนทำแผลให้” “ขอรับนายน้อย”“ดี!”“มู่หยาน เจ้ายังมีผงยาที่ใช้กำจัดปีศาจหมูขนแดงอยู่หรือไม่?” เย่ชิงหานมองไปยังหลูมู่หยานอย่างมีความหวังหลูมู่หยานหยิบถุงกระดาษเล็ก ๆ ออกมาและยื่นสิ่งนั้นให้กับเย่ชิงหาน “ยานี้สามารถทำให้ปีศาจระกับสี่หยุดได้ประมาณแปดหรือเก้าลมหายใจ ทว่าสำหรับปีศาจระดับที่ห้า อาจทำได้เพียงลมหายใจเดียวเท่านั้น” “ไม่เป็นไรหากต้องใช้ถึงสามค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 13 คนชั่วร้าย

    ร่างของหลูมู่หยานยังคงล้มลงอยู่ที่พื้น สติที่เคยพร่าเบลอกลับค่อย ๆ ชัดขึ้น ก่อนที่จะรู้สึกถึงเหมือนถูกประคองด้วยพลังที่อ่อนโยน รวมไปถึงจิตใจของนางเช่นกัน หลูมู่หยานไม่ได้รู้สึกถึงความแข็งกระด้างแต่อย่างใด เมื่อหลูมู่หยานลืมตาขึ้นมาหลังจากที่ล้มลงด้วยพลังงานนั้น นางก็พบกับดวงตาสีหมึกเข้มคู่หนึ่ง เวลานี้ ปรากฏเป็นบุรุษคนหนึ่งยืนอยู่บนดินฝั่งตรงข้าม เขาแต่งกายด้วยชุดสีแดงน่าหลงใหล เรือนผมสีหมึกอ่อน รูปร่างสูงใหญ่ จมูกโด่งเป็นสันคม ริมฝีปากที่ไม่ได้ถูกแต่งแต้มด้วยสี ใบหน้าของเขาหล่อเหลาไร้ที่ติบุรุษผู้นี้แสดงอารมณ์ออกมาตามธรรมชาติ คิ้วของเขาส่งพลังที่ดุร้ายและแสดงออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจ ดูแล้วเหมือนกับราชาที่มองสิ่งมีชีวิตทั้งหมด ตอนนี้บุรุษผู้นั้นเหมือนปีศาจที่มองมาด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก หลูมู่หยานรู้ว่าบุรุษผู้นี้ช่วยชีวิตนางเอาไว้ ไม่เช่นนั้นนางคงพิการจากการตกที่สูงไปแล้ว“ขอบคุณท่าน!” หลูมู่หยานมองบุรุษผู้นั้นด้วยความขอบคุณอย่างใจจริง พร้อมกับเอ่ยสัญญาออกไปว่า “พระคุณของท่านที่ช่วยชีวิตข้าในครั้งนี้ ข้าจะตอบแทนในอนาคตแน่นอน” “หญิงโง่” บุรุษผู้สง่างามผู้นั้นขบเม้มริมฝีปากและยิ้มเยา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 14 พลังการต่อสู้ที่กล้าหาญ

    ไฟหลินตะโกนออกมาด้วยความโกรธแค้น เกล็ดที่ปกคลุมอยู่ทั่วร่างก็ขยายออก ปรากฏเป็นเปลวเพลิงสีแดงเข้มเจือทองพุ่งออกมาจากช่องว่างของเกล็ด อุณหภูมิของถ้ำสูงขึ้นในทันที จากนั้นระหว่างผนังและรอยร้าวของถ้ำก็มีเปลวเพลิงพุ่งออกมา ราวกับธารลาวาที่ทะลักจากปล่องภูเขาไฟหลูมู่หยานใช้พลังจิตของนางต่อต้านการบีบบังคับทั้งของบุรูษผู้นั้นและปีศาจไฟหลิน เพื่อให้นางดูการแสดงที่กำลังจะเกิดขึ้นตรงหน้า ทว่าการเปลี่ยนแปลงที่กะทันหันแบบนี้ทำให้ร่างกายของหลูมู่หยานต้านมันไม่ไหว ความรู้สึกร้อนรุ่มแผ่ซ่านไปทั่วร่างกายของหลูมู่หยาน นางไม่สามารถใช้ความแข็งแกร่งจากธาตุของนางต้านอุณภูมิที่สูงจากแรงขับเคลื่อนของปีศาจนี้ได้ ฉะนั้นนางจึงทำได้แค่เพียงกัดฟันกลั้นไม่ให้ตัวเองร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด ทางด้านปากถ้ำ ตอนนี้มันเต็มไปด้วยหินก้อนเล็กใหญ่ถล่มลงมาปิดทับเอาไว้ราวกับไม่เคยมีทางเข้าออกมาก่อน หลูมู่หยานไม่สามารถหาทางออกไปจากตรงนี้ได้เลย หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป เห็นทีร่างกายของนางคงไม่สามารถต้านทางอาการอักเสบที่กำลังเกิดขึ้นด้วยพลังของปีศาจได้อย่างแน่นอน หลูมู่หยานได้แต่คิดว่าจะเอาชีวิตรอดจากตรงนี้ได้อย่างไร?เมื่อมองไปท

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 15 เล่นแร่แปรธาตุ

    ครึ่งวันต่อมาหลูมู่หยานค่อย ๆ ลืมตาขึ้น ตอนนี้ร่างกายนางแทบจะฟื้นตัวได้แล้ว นางขยับไล่หัวที่ค่อนข้างมึนงง แต่แล้วสายตาของนางจับไปที่บุรุษผู้นั้นที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะพบว่าคิ้วของเขาขมวดแน่นเป็นปม พร้อมใบหน้าที่แดงก่ำ นางสังเกตเห็นแกนคริสตัลสีแดงเข้มที่อยู่ในมือเขาเปลี่ยนเป็นสีขาวอมเทาผู้บุรุษผู้นั้นปรับแต่งคริสตัลของปีศาจไฟ และดูเหมือนว่าเขากำลังเจอเส้นเลือดของพลังงานรุนแรงจากคริสตัลที่บุกรุกร่างกายหลูมู่หยานขมวดคิ้วเล็กน้อย นางเดินเข้าไปใกล้บุรุษผู้นั้น และจ้องที่ข้อมือของเขา ตามที่คาดไว้ ข้อมือใต้แขนเสื้อของเขาเรืองแสงสีม่วงสถานการณ์ปัจจุบันของบุรุษผู้นี้ไม่สู้ดีนัก แกนคริสตัลปีศาจจากยอดเขาระดับที่หกนี้มีพลังสูงกว่าตัวเขามาก เมื่อถูกดูดซึมเขาจะไม่สามารถควบคุมพลังงานได้ หงุดหงิดง่ายและจะเจ็บปวดจากเส้นเลือดที่แตกจากการสังเกตของหลูมู่หยาน สีฟ้าอมม่วงบนข้อมือของเขาค่อนข้างลึก ซึ่งบ่งชี้ว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาดูดซับนิวเคลียสคริสตัลโดยตรง ร่างกายของเขามีพิษไฟจำนวนมากสะสมอยู่หากพิจารณาแล้ว บุรุษที่มีความแข็งแกร่งผู้นี้ดูแล้วการขอความช่วยเหลือจากนักเล่นแล่แปรธาตุให้ช่วยรวมหญ้าวิญญาณเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 16 การค้า

    เมื่อหญ้าวิญญาณกลายเป็นผงสีต่าง ๆ หลูมู่หยานจึงนำเอาถ่านที่ให้ความร้อนออก พร้อมกับทิ้งตัวนั่งพักบริเวณนั้น แต่เพราะการดูแลตัวเองของนางในช่วงนี้ค่อนข้างดี ทำให้การปรังแต่งหญ้าวิญญาณเป็นไปได้ด้วยดี ไม่เช่นนั้นนางคงเหนื่อยจนหมดแรงเมื่อพักผ่อนไปได้ครู่หนึ่ง หลูมู่หยานก็นึกได้ว่ายาซีซุยที่ทำไว้เมื่อครู่ สามารถกำจัดของเสียในร่างกายได้อย่างสมบูรณ์แบบ ไม่นานก็หยัดตัวลุกขึ้นยืนด้วยความตั้งมั่นการทำให้บริสุทธิ์ง่ายกว่าการสะกัดครั้งก่อน เมื่อแป้งที่ห่อด้วยพลังจิต หากวางเปลวเพลิงที่ควบคุมไฟได้ สีของมันก็จะค่อย ๆ เข้มขึ้น และขั้นตอนต่อไปคือการควบแน่นเม็ดยา ซึ่งถือเป็นจุดที่สำคัญที่สุด เพราะจะไม่สามารถหยุดพักระหว่างทำได้กุญแจสำคัญในการควบแน่นเม็ดยาคือความร้อน และหลูมู่หยานก็มีประสบการณ์ในการเล่นแร่แปรธาตุอย่างโชคโชน ฉะนั้นทุกการเชื่อมต่อและทุกการเปลี่ยนแปลงของไฟไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ นางสามารถควบคุมได้เป็นอย่างดี ผงหลากสีจากหญ้าวิญญาณในหม้อ ค่อย ๆ แยกออกและรวมเข้าด้วยกันภายใต้การควบคุมจากพลังจิตของหลูมู่หยาน ก่อนที่ผงเหล่านั้นจะค่อย ๆ ไหม้เกรียมทีละน้อยหลูมู่หยานฉายความมั่นใจและมุ่งมั่นออกมาผ่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 17 บำเพ็ญเพียร

    ความฉลาด และความไม่โอ้อวดของหลูมู่หยาน ทำให้หมิงซิ่วรู้สึกชื่นชมในตัวนางมากขึ้น และรอยยิ้มที่เปี่ยมความสุขของเขาที่เป็นภาพหายากก็ปรากฏขึ้น“ตกลง เทพตกลง”หลูมู่หยานมองไปที่บุรุษผู้ร้ายกาจผู้นั้นด้วยท่าทีเฉยชา พร้อมกับแอบพ่นลมหายใจออกมาอย่างแผ่วเบา นี่คือความแข็งแกร่งที่คนอื่นมองว่าเป็นสมบัติ ไม่มีอะไรในสายตาของผู้มีอำนาจระดับสูง เหมือนที่นางเคยเป็นทว่านางไม่ใช่คนที่จะเห็นอกเห็นใจกับฤดูอะไร นางสามารถไปเกิดใหม่ได้ในโลกอื่นหลังจากที่ตาย ไม่สำคัญว่าจะเสียอะไรไป เพราะวันหนึ่งนางจะสามารถยืนอยู่บนจุดสูงสุดของโลกใบนี้ และกลายเป็นจุดพลังงานที่ไม่มีใครเทียบได้“ที่จริงท่านไม่ได้สูญเสีย” หลูมู่หยานยิ้มและกะพริบตามองไปที่บุรุษผู้นั้น “ข้าเป็นคนเดียวที่สามารถปรับแต่งเม็ดยาวิญญาณนี้ได้ แม้ว่าหญ้าวิญญาณจะไม่ใช่ของหายาก แต่สูตรก็ไม่เหมือนใคร สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหากเทคนิคของท่านได้รับความช่วยเหลือจากยานี้ ท่านจะได้รับผลสองเท่าโดยใช้ความพยายามเพียงครึ่งเดียว และไม่ต้องกังวลเรื่องพิษตกค้าง”หมิงซิ่วขยับของเข้าในแขนเสื้อ สตรีร่างบางผู้นี้ฉลาดยิ่งนัก และเดาว่านั่นคงเป็นสาเหตุที่ว่าทำไมเขาถึงสามารถดูดซึม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08
  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 18 การต่อต้านการฆ่า

    หลังจากที่หมิงซิ่วจากไปแล้ว หลูมู่หยานก็สังเกตรอบตัว พร้อมกับปล่อยพลังจิตเพื่อตรวจสอบ หลังจากที่มั่นใจแล้วว่าตรงนี้ปลอดภัยไม่มีอันตราย นางจึงกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้สูงทึบเพื่อซ่อนตัว ท่ามกลางใบไม้ทึบหลูมู่หยานตัดสินใจใช้สถานที่นี้เป็นที่พักพิงก่อนจะหลับตาพักเพื่อฟื้นฟูพลังยามแสงแรกสาดส่องลงมาบนเทือกเขาจีฮั่ว ในเช้าตรู่ของวันถัดไป หลูมู่หยานค่อย ๆ ลืมตาและเหยียดร่างกายออกเพื่อคลายความเมื่อยล้า ตอนนี้ใบหน้าของนางกลับมาเป็นปกติ ไม่ซีดเซียวอีกต่อไปแล้วหลังจากที่หลูมู่หยานกินยาหลิงหลิงไปเมื่อคืนแล้ว นางรู้สึกดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมากหลังจากที่ได้ดูดซับเข้าสู้ร่างกาย นางยังคงรักษาร่องรอยของพลังวิญญาณเอาไว้ได้ ซึ่งมันสามารถเป็นประกันได้ว่านางจะเดินออกจากวงล้อมนี้ได้เพียงลำพัง“ข้าไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเย่ชิงหาน และคนอื่น ๆ ลองไปดูสถานที่ที่ตกลงกันไว้ดีกว่า” หลูมู่หยานลุกขึ้นยืนพร้อมบ่นพึมพำกับตัวเอง ก่อนจะกระโดดลงจากกิ่งไม้และรีบวิ่งไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนืออย่างรวดเร็วก่อนหน้านั้นหลูมู่หยานมีข้อตกลงกับเย่ชิงหานเอาไว้ว่า หากเราบังเอิญแยกจากกันเราจะไปรอกันในที่พักก่อนออกรอบวงนอก และหากไม่เจอกันห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-07-08

บทล่าสุด

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 40 ความลับแห่งโซลอีทเตอร์

    หมิงซิ่วไม่ได้สนใจคนรอบข้างที่ลอบมองเขา หากแต่ดวงตาฟีนิกซ์ที่ยาวเรียวภายใต้หน้ากากทำให้หลูมู่หยานมองลึกลงไป แต่เพียงเสี้ยววินาทีมันก็หายวับอย่างรวดเร็วจนคนอื่นไม่สามารถสังเกตได้ทัน เขาหยุดพูด ก่อนจะหายตัวไปเหล่าเย่ที่รอให้หมิงซิ่วจากไป ค่อย ๆ เดินมาหาหลูมู่หยานด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “แม่นางไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” “ขอบคุณท่านเหล่าเย่ที่เป็นห่วงข้า แต่ข้าไม่เป็นไร” หลูมู่หยานยิ้มตอบ พร้อมกับส่ายหัวไปมา หลูมู่หยานรู้สึกถึงแรงสั่นที่มาจากอสูรน้อยในมือของนางที่เริ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาของนางกลับนิ่งเรียบ ก่อนจะเอ่ยกับเหล่าเย่ทั้งที่ยังยิ้มว่า “เหล่าเย่ ข้าคงต้องไปก่อน ข้ามีอะไรต้องทำต่อ” “ตกลง เจ้าทำเถิด” เหล่าเย่สังเกตเห็นอสูรร้ายตัวเล็กในมือของนางอยู่ในสภาพที่ไม่ดีนัก เขาจึงค่อย ๆ พรูลมหายใจออกมาด้วยความเสียดาย หลูมู่หยานพยักหน้า จากนั้นจึงหยิบนกหวีดที่คล้องคอไว้ขึ้นเป่า ใช้เวลาเพียงไม่กี่ลมหายใจ ม้าอาชาตัวสีขาวสว่างก็ปรากฏอยู่เบื้องหน้าทุกคน นางกล่าวลาหยุนหลัน และคนอื่น ๆ ก่อนจะขึ้นไปที่หลังม้าพร้อมกับอสูรกลืนกินวิญญาณ และออกจากหอการค้าหมิงเหมิงเพื่อมุ่งหน้ากลับไปที่บ้าน ใบหน้

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 39 ข้าเป็นหนี้บุญคุณเทพ

    ทันใดนั้นก็มีพลังที่นุ่มนวลจำนวนหนึ่งตกลงมาจากท้องฟ้า ห่อหุ้มไปด้วยก้อนกรวดที่ถูกรัศมีดาบของชายชราในชุดดำบดขยี้ ก่อนจะรวมตัวกันอีกครั้งทีละชิ้น แค่เพียงครู่เดียวรอยแตกที่พื้นบลูสโตนใต้ดินก็เริ่มสมาน และกลับคืนสู่สภาพเดิม“แม่นาง เจ้าเป็นหนี้บุญคุณต่อเทพอีกแล้ว” เสียงของบุรุษที่ฟังแล้วเหมือนจะมีความเป็นผู้ใหญ่ดังแว่วผ่านโสตประสาทของหลูมู่หยานราวกับสายลม ความเฉยเมยระหว่างคิ้วและดวงตาของหลูมู่หยานเริ่มถูกแทนที่ด้วยรอยยิ้ม แท้จริงแล้วมือนั้นเป็นฝ่ามือของบุรุษผู้มากไปด้วยเสน่ห์ … หมิงซิ่ว! เมื่อมองไปยังฝ่ามือใหญ่ที่เต็มไปด้วยเปลวเพลิง นางรู้ได้ทันทีว่านี่เป็นคลื่นของการทำสมาธิ และความรู้สึกไว้วางใจก็เกิดขึ้นในใจของนางอย่างอธิบายไม่ได้ หลูมู่หยานหันกลับมา ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองบุรุษผู้กล้าหาญรูปร่างสูงโปร่ง และสวมหน้ากากสีเงินที่กำลังเดินเหมือนกับอยู่ที่บ้านตัวเอง ชุดสีแดงของเขาพริ้วไหวไปตามสายลม และพลังที่แผ่กระจายออกมารอบตัวของเขาก็เผยให้เห็นโดยธรรมชาติ และเมื่อเทียบกับบุรุษทุกคนที่อยู่ตรงนั้น คนอื่น ๆ เปรียบเสมือนเป็นเกราะป้องกันของเขา เหมือนกับหิ่งห้อยที่ไม่สามารถเทียบกับเฮาเยว่ได้

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 38 นรก

    ชายชราชุดดำก้าวไปด้านหน้าสองก้าว ก่อนจะยกฮั่วหยุนเตียวจากพื้นด้วยมือของเขา พร้อมกับแสยะรอยยิ้มแปลก ๆ ออกมา เขายังคงท่องคาถายอมจำนนอสูรร้ายอย่างเงียบ ๆ ในปากและหลังจากท่องเสร็จเขาก็ใช้ดาบลมของหยุนลี่กรีดไปที่นิ้วชี้ และหยดเลือดสีแดงลงที่ขนของเสี่ยวซูหลูมู่หยานคลี่ยิ้มเบา ๆ กอดอก พร้อมกับมองไปที่ชายชราที่กำลังทำการแสดงด้วยท่าทีเย้ยหยันชายชราผู้นี้ยังคงต้องการที่จะปราบอสูรร้ายกลืนกินวิญญาณด้วยวิธีนี้ ช่างเป็นความฝันที่เพ้อเจ้อเสียจริงหลังจากนั้นไม่นาน ชายชราก็พบว่าเลือดที่เขาหยดไปนั้น ไม่สามารถเข้ากับร่างกายของอสูรกลืนกินวิญญาณได้ เขาตกใจ และสายตาของเขาก็เริ่มนิ่ง ก่อนจะหยิบเครื่องรางสีแดงออกมาจากแหวนจักรวาล โดยที่ปากยังคงพึมพำท่องคาถาอย่างเงียบ ๆ และแตะเครื่องรางสีแดงด้วยมือของเขา ก่อนที่มันจะตกใส่ร่างของอสูรร้ายจากนั้นชายชราก็ได้สร้างผนึกที่มีพลังชีวิตแข็งแกร่งขึ้นในอากาศ พร้อมกับบังคับให้เข้าสู่ก้องสำนึกของสัตว์ร้าย จากนั้นก็ได้หยดเลือดลงบนหน้าผากของมันอีกสองสามหยด ดวงตาของมันประกายแสงราวกับมีดาวนับล้าน และนี่คือสัญญาณนักฆ่าในฐานะปรมจารย์อสูรวิญญาณ เขาไม่เชื่อว่าเขาจะยังสามารถจั

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 37 เดิมพันกับราชาแห่งดาบ

    หลังจากที่หลูมู่หยานเสร็จสิ้นกับการพูดคุยกับเหล่าเย่ นางก็รีบไปพบหยุนหลันทันที และเมื่อนางออกจากประตูของหอการค้า นางสังเกตเห็นบุรุษวัยกลางคนร่างกายกำยำ และชายชราในชุดสีดำผอมแห้งหยุดอยู่ตรงหน้าหยุนหลัน ก่อนที่นางจะเกิดคำถามขึ้นในใจว่าสองคนนี้เป็นใคร?“มู่หยาน ข้าจะส่งเจ้ากลับไปที่คฤหาสน์นายพล” หยุนหลันพูด ก่อนจะเดินมาหาหลูมู่หยานที่ยืนอยู่ย้อนหลับไปเมื่อครู่ ราชาแห่งเจิ้นซีได้เอ่ยถามพวกเขาถึงผู้ที่ครอบครองฮั่วหยุนเตียว พวกเขาจึงพยายามบ่ายเบี่ยงเพื่อเก็บมันไว้เป็นความลับ ทว่ากู่ยันรันกลับพูดออกไปเสียหมด นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำไมเขาจึงต้องไปส่งหลูมู่หยานที่คฤหาสน์นายพล“ตกลง” หลูมู่หยานยิ้ม และพยักหน้าแม้ว่าหลูมู่หยานจะตกลงออกไปแบบนั้น แต่นางสัมผัสได้ว่าการที่นางจะเดินทางกลับนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายแน่ ๆ “ทำไมต้องกังวลขนาดนั้นด้วยเล่า” หวังเจิ้นซีเอ่ย ก่อนจะยื่นมือออกไปข้างหน้าเพื่อหยุดหยุนหลันเอาไว้ เขาจะปล่อยให้คน ๆ นั้นออกไปได้อย่างไรหวังเจิ้นซีมองไปยังหลูมู่หยานที่สวมใส่ชุดสีม่วง ผมยาวม้วนขึ้นเป็นมวยแบบธรรมชาติ ดวงตานิ่งเรียบ ประกอบกับใบหน้าที่สวยงามน่าเย้ายวนแม้ว่าอายุยังน้อยหลูมู่ห

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 36 คำสั่งการของผู้บำเพ็ญเพียร

    ราคาของการประมูลของซีซุยตันทำให้คนที่อยู่ในห้องประมูลส่วนตัวหมายเลขเก้าต้องตกใจ สายตาที่เต็มไปด้วยความริษยาจับจ้องไปทางหลูมู่หยานแทบจะเป็นสายตาเดียว เพราะตอนนี้นางจะกลายเป็นสตรีผู้ร่ำรวย ต่อให้พวกเขากลับบ้านไปได้ช่วงหนึ่ง ก็ไม่สามารถหาเหรียญทองคำจำนวนมหาศาลนี้ได้หยุนจินเอ่ยอย่างภาคภูมิใจ “ดูเหมือนจะทำกำไรถึงสามร้อยล้านเหรียญทองเลยนะ” เมื่อมองไปยังใบหน้าที่หล่อเหลาของหยุนจิน หยุนหลัวก็อดมองว่าเขางี่เง่าไม่ได้ เขาอิจฉาที่ลูกพี่ลูกน้องเขาผู้นี้ได้ยามูลค่าสามร้อยล้านเหรียญไปครอบครอง เสี่ยวเซียงเองก็อดไม่ได้ที่จะมองหยุนจินด้วยความไม่สบอารมณ์ เพราะเขาเองก็อยากจะได้ยาเม็ดไขกระดูกเหมือนกันหลังจากการประมูลซีซุยตันในวันนี้ จะสร้างความตื่นเต้นให้อาณาจักรแห่งอัคคี และประเทศอื่น ๆ ในทวีปวิญญาณสวรรค์ เพราะการจะได้มาซึ่งยาเม็ดนั้นเป็นเรื่องที่ค่อนข้างยากดวงตาของกู่ยันรันเต็มไปด้วยเจตนาปองร้ายและอาฆาตแค้น นางไม่เข้าใจว่าทำไมหลูมู่หยานถึงเปลี่ยนไปได้เพียงระยะเวลาแค่ไม่ถึงสามเดือน และนางก็ดีกว่าหลูมู่หยานทุกเรื่อง เว้นพื้นฐานครอบครัว แต่ทำไมนางถึงไม่ได้รับยาซีซุยนั่นนางเกลียด เกลียดหลูมู่หยานขณะ

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 35 กระประมูลที่น่าตื่นเต้น

    หลังจากนั้นก็ยังคงมีการประมูลรายการสินค้าอีกหลายอย่างจากหอการค้าหมิงเหมิง ซึ่งซีซุยตันยังไม่ได้เข้าร่วมประมูลโดยตรงหลูมู่หยานยังได้เก็บภาพดอกไม้ลิงสีม่วงที่จำเป็นสำหรับการปรับแต่งจีตัน รวมไปถึงการฝึกฝนอื่น ๆ ทั้งเครื่องมือจิตวิญญาณ ชุดเกราะวิญญาณ แต่นางไม่ได้ต้องการ เพราะรวม ๆ แล้วนางเองได้ประโยชน์มากมายจากการประมูลในครั้งนี้ ณ ห้องประมูลส่วนตัว แขกที่เข้าร่วมการประชุมมักจะเก็บภาพรายการประมูลที่พวกเขาชื่นชอบ ขณะที่เม็ดยาซีซุยไม่ได้รับความสนใจมากนัก ซึ่งอาจเป็นเพราะรูปลักษณ์ของมันที่ไม่ได้ดึงดูดอะไรหลังจากที่รายการสินค้าทั้งหมดถูกประมูลแล้ว หนี่จุนก็ได้คลี่ยิ้มพร้อมกับเอ่ยว่า “การประมูลต่อไปคือรายการสุดท้ายที่ค่อนข้างหนักเป็นพิเศษของหอการค้าหมิงเหมิง และเราก็เพิ่งได้รับเกียรติจากเหล่าเย่ ผู้รับผิดชอบการประมูลโจวกั๋วขึ้นมาเป็นประธาน” เมื่อจบคำพูดของหนี่จุน ผู้เข้าร่วมการประมูลที่อยู่ข้างล่างก็ต่างพากันส่งเสียงวุ่นวายรายการประมูลใดกันที่จะสามารถรบกวนเหล่าเย่ได้ เพราะเขาไม่เพียงแต่เป็นราชาแห่งดาบที่แข็งแกร่งที่สุดเท่านั้น แต่ยังเป็นผู้สะกัดระดับกลางอีกด้วย นั่นทำให้เป็นเรื่องยากที่เข

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 34 แผนที่เกี่ยวข้อง

    ทั้งสองคนเป็นสมาชิกราชวงศ์ และพื้นฐานครอบครัวท่านแม่ของหยุนจินก็แข็งแกร่งมาก หากหลูมู่หยานให้ยาซีซุยแก่พวกเขา และบุคคลที่มีอำนาจระดับสูงของราชวงศ์ก็จะไม่ทำให้นางอับอายอย่างแน่นอน“เอาเถิด ท่านป้าก็รักข้าเหมือนลูกตัวเองมาตั้งข้ายังเด็ก เราเป็นญาติกันแค่ยาเม็ดเดียวอย่าให้มันรบกวนเลย” หลูมู่หยานเอ่ย พร้อมกับคลี่ยิ้มออกเล็กน้อยหยุนหลันแสดงความขอบคุณต่อลูกพี่ลูกน้องผ่านทางใบหน้า เขาไม่ได้คาดหวังว่าหลูมู่หยาน ลูกพี่ลูกน้องที่พบหน้ากันเพียงไม่กี่ครั้ง แต่กลับกลายเป็นคนที่ใจกว้างและกล้าเช่นนี้ นี่คงเป็นเหตุผลที่ท่านแม่ของเขาเห็นเป็นแน่“ตกลง ถ้าอย่างนั้นข้ายินดี ยาซีซุยตันนี้สำคัญมากสำหรับข้า และข้าจะเขียนความรู้สึกนี้ลงไปในวงแหวน หากมู่หยานมีอะไรให้ข้าช่วยในอนาคต บอกข้าได้” หยุนหลันสัญญาด้วยรอยยิ้ม “ตกลง” หลูมู่หยานตอบกลับ“หลูมู่หยาน หยุนหลันเป็นญาติของเจ้า มันก็ชัดเจนที่เจ้าจะให้เขา แต่ทำไมเจ้าถึงให้มันแก่ข้า?” หยุนจินไม่เข้าใจว่าทำไมหลูมู่หยานถึงต้องการให้ยาเม็ดนี้กับเขา เป็นเพราะเขาให้เหรียญสนับสนุนนางงั้นหรือ? เป็นไปไม่ได้“ครั้งที่แล้วที่ข้าได้รับบาดเจ็บจากดอกไม้สีขาวดอกเล็ก ๆ นั่น ก

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 33 รับของขวัญ

    จากการยืนยันของเหล่าเย่ สายตาของผู้คนในห้องที่มองหลูมู่หยานก็เปลี่ยนไป แม้แต่คนที่ติดตามเหล่าเย่ก็มองมาที่ขวดยาสีขาวอย่างไม่วางตาเหล่าเย่ใช้เวลาคิดอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะมองไปที่หลูมู่หยานด้วยรอยยิ้ม และถามว่า “แม่นางหลู เจ้ากำลังกำหนดราคาสำหรับซีซุยตันหรือไม่?” “ข้าไม่รู้เรื่องนี้มากนัก แต่ข้าเชื่อว่าหอการค้าหมิงเหมิงจะช่วยให้ข้าขายได้ในราคาดี ฉะนั้นโปรดให้ท่านเหล่าเย่เรียกราคาเริ่มต้น” หลูมู่หยานแสดงรอยยิ้มที่อ่อนโยนต่อหอการค้าหมิงเหมิง เหล่าเย่ยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ “ในกรณีนี้ ชายชราจะได้ตั้งราคาให้กับแม่นาง” “ปัญหาของเหล่าเย่คือเริ่มอายุมากขึ้น” หลูมู่หยานตอบกลับอย่างสุภาพ เหล่าเย่ยิ้มและพยักหน้า ก่อนเอ่ยถามสิ่งที่คิดอยู่ในใจ “แม่นางหลู เจ้ายังมียาไขกระดูกนี้อีกหรือไม่?” เดิมทีเหล่าเย่เพียงแค่ต้องการถามถึงที่มาของซีซุยตัน ว่าหลูมู่หยานได้มาจากที่ใด ไม่ว่าเขาจะรู้จะจักนักเล่นแร่แปรธาตุที่เก่งกาจแค่ไหน แต่เขาก็ยังคงต่อต้าน เพราะนักเล่นแร่แปรธาตุส่วนมากมักมีนิสัยแปลก ๆ และไม่ชอบให้ผู้อื่นถาม ฉะนั้นเขาจึงอยากที่จะผูกมิตรกับหลูมู่หยานให้ดีเสียก่อน คนอื่น ๆ ก็เริ่มมองมาที่หลูมู่หยาน

  • ภรรยาข้าคือนางร้าย   บทที่ 32 ฝ่าบาท

    บนห้องแห่งความลับชั้นสามของหอการค้าหมิงเหมิง มีบุรุษชุดแดงสวมหน้ากากสีเงินนั่งอยู่อย่างเกียจคร้าน และมีคนสองคนยืนอยู่ด้านหน้าเพื่อคอยรายงานสถาณการณ์ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูดังขึ้น บุรุษชุดแดงหยักหน้าให้หญิงสาวทรงเสน่ห์ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ กัน ก่อนที่เด็กหนุ่มจะเดินไปเปิดประตู “ผู้พิทักษ์หลาน” เจ้าของร้านหลู่ตะโกนออกมาด้วยความเคารพ และสตรีผู้นั้นก็เหลือบมองมาที่เขาขณะที่ยังยืนอยู่ข้างบุรุษผู้นั้น“องค์รัชทายาท!” เจ้าของร้านหลู่เดินเข้าไปที่ห้องลับ และก็พบว่าไม่ใช่แค่ผู้อาวุโสสองคนเท่านั้นที่นั่งอยู่ แต่ยังมีองค์รัชทายาทอยู่ในห้องด้วย เจ้าของร้านหลู่จึงก้มลงเพื่อแสดงความเคารพ “อะไรจะเร่งด่วนปานนั้น” หมิงซิ่วเอ่ยอยากเฉื่อยชา“เมื่อครู่นี้แขกผู้มีเกียรติห้องประมูลส่วนตัวที่เก้า หยิบยาออกมาเพื่อให้ทางหอการค้าของเราทำการประมูล แต่ผู้ใต้บังคับบัญชาของเราไม่เคยเห็นยาเม็ดนี้มาก่อน พวกเขาเลยตัดสินไปก่อนว่าเป็นเพียงยาระดับสองเท่านั้น” เจ้าของร้านหลู่นำขวดยาสีขาวออกมา “แขกผู้มีเกียรติผู้นั้นบอกว่ายาเม็ดนี้เรียกว่าซีซุยตัน แม้ว่ายาจะอยู่ในระดับที่สอง แต่ผลลัพธ์ของมันไม่น้อยกว่าระดับที่สาม”

บางทีคุณอาจจะชอบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status