สปอร์ตคาร์คันสีขาวแล่นมาจอดในโรงรถในเวลาสามทุ่ม คนขับรถเดินมาดูรถคันสีเหลืองมะนาวที่จอดอยู่ริมสุด ปกติมันไม่ได้จอดตรงนี้ ที่ของมันอยู่ด้านใน
“ขวัญกลับมาจากข้างนอกหรือเปล่า ทำไมเอารถมาจอดขวางตรงนี้ หรือกำลังจะออกไปไหน”คิดจะเคลื่อนรถของเธอให้เข้าที่เข้าทาง แต่เปลี่ยนใจ ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน วันนี้เขาเพลียไปทั้งร่าง สมองมึนตึ้บเพราะต้องนั่งประชุมตลอดบ่าย พอเลิกประชุม แล้วคิดจะกลับบ้าน แต่พ่อยังลากเขาไปกินข้าวกับเพื่อนนักธุรกิจของพ่ออีก กว่าจะขอตัวกลับบ้านได้ก็เกือบดึกติณณ์ลากสังขารที่เหนื่อยล้าเข้าไปในบ้าน อดที่จะกวาดสายตามองรอบๆ โถงบ้านไม่ได้ว่าขวัญรดาอาจอยู่ตรงนี้ แต่บ้านเงียบเกินไป ดวงไฟก็เปิดแค่ในโถงกลาง เขาจึงตรงขึ้นไปชั้นบนเขาเดินผ่านห้องนอนใหญ่ ไม่เห็นแสงไฟลอดออกมา คิดว่าคนในห้องคงหลับสนิทแล้ว ขวัญรดาเข้านอนเร็ว จากที่คิดจะแกล้งเธอให้หนำใจที่ไล่เขาออกไปจากห้องนอนตัวเอง แต่เปลี่ยนใจ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน รอให้สังขารของเขาพร้อมกว่านี้ก่อนมันเป็นการตัดสินใจที่บ้าดีเดือดครั้งใหญ่ หากไม่นับรวมถึงการตกลงแต่งงานกับติณณ์เมื่อสามเดือน
ตั้งใจตื่นนอนตั้งแต่เช้า เพราะอยากเห็นหน้าเมีย การไม่ได้เห็นเธอเกินยี่สิบชั่วโมงมันนานเกินไป ชีวิตของเขาเหมือนขาดอะไรไปติณณ์เดินลงมาชั้นล่างอย่างกระปรี้กระเปร่า วันนี้ตั้งใจจะหาเหตุอยู่กับขวัญรดาทั้งวัน ก็คนมันคิดถึงนี่นา แต่พอลงมาถึงชั้นล่าง เขากลับพบว่าบ้านทั้งหลังยังคงเงียบกริบ มันไร้ชีวิตชีวาสิ้นดี แม้แต่คนรับใช้ที่ปกติเดินไปมาอยู่แถวๆ นี้ก็ไม่มีให้เห็นสักคนชายหนุ่มเข้าไปในครัว ซึ่งเป็นที่ที่แม่บ้านพ่วงตำแหน่งแม่ครัวปักหลักอยู่“ขวัญลงมาหรือยังครับ”ป้านิ่มเลิกคิ้ว แลดูประหลาดใจ คนถามจึงแก้เก้อด้วยการบอกเสียใหม่ หวังว่ามันจะดีขึ้น“ผมยังไม่ได้ไปดูที่ห้องนอนน่ะ เมื่อคืนผมกลับดึก เลยไม่อยากกวนขวัญ”“คุณขวัญไม่ได้อยู่บ้านนะคะ คุณขวัญกลับไปบ้านโน้นตั้งแต่เมื่อวาน ป้าคิดว่าคุณติณณ์รู้เรื่องนี้แล้วซะอีก”“ขวัญไม่อยู่บ้าน? เป็นไปได้ยังไง ทำไมไม่มีใครบอกผม”เสียงโวยวายดังสวนทันที ไม่คิดจะรักษาภาพลักษณ์กันแล้วแหละ เมียเขาหายไปทั้งคน ทำไมเขาถึงเพิ่งมารู้เอาตอนนี้“ป้าจะบอกคุณตั
ภัสสรานั่งชะเง้อมองไปยังประตูห้องรับรองในกองถ่าย รอคอยว่าเมื่อไรเอเดนจะเข้ามา เธออุตส่าห์มากองถ่ายก่อนเวลาเพื่อจะคุยเรื่องร้อนใจกับเขา แต่กลับพบว่าเขามาตรงเวลาเป๊ะ ซึ่งเพียงแค่พระเอกสุดฮอตมาถึง ช่างแต่งหน้าและฝ่ายเสื้อผ้าก็กรูกันไปรุมล้อม ไม่เหลือช่องให้เธอสบโอกาสพูดเรื่องสำคัญ “พี่ภัสยังไม่กลับหรือคะ หรือว่ารอใครมารับ” คนในกองถ่ายเข้ามาเห็นก็อดถามไม่ได้ “เปล่า ไม่มี พี่มากับรถของพี่” เสียงสูงไปสักหน่อย พอนึกได้ก็ขัดใจตัวเอง...ทำพิรุธไปทำไม ก็ในเมื่อไม่มีใครมารับเธอจริงๆ มีแต่คนขับรถตู้ที่รอเธออยู่ข้างนอก นานกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครสนใจนางร้ายเจ้าบทบาทที่นั่งซุกตัวอยู่ตรงโซฟามุมห้องอย่างเงียบกริบ กระทั่งประตูห้องรับรองเปิดออก เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจก็เรียกความสนใจให้เบนไปหา “เอเดนว่างไหมคะ พอดีมีนักข่าวรออยู่ข้างนอก เขาอยากคุยด้วยค่ะ” ผู้ช่วยผู้กำกับตามเข้ามาบอกใกล้ๆ ผู้จัดการของพระเอกหนุ่มที่ยืนประกบอยู่จึงเป็นฝ่ายตอบแทน “เอเดนให้สัมภาษณ์ละครใหม่ไปแล้วนี่ครับ” เมื่อสักครู่หลังจากเข้าฉากกับนางเอกหน้าใหม่เสร็จ เอเดนก็ถูกลากให้
แสงแดดทอทอดเข้ามาทางช่องหน้าต่างที่เปิดแง้ม ขวัญรดาตั้งใจจะเดินไปปิดมัน แต่สายตาแลเลยไปยังแม่น้ำกว้างที่อยู่ห่างจากบ้านไม่กี่สิบเมตร หลายสิ่งหลายอย่าง ณ ที่แห่งนี้ทำให้ความทรงจำที่ฝังอยู่ข้างในถูกขุดขึ้นมา‘เมื่อไรพ่อจะกลับบ้าน’‘พ่อไปทำงานจ้ะ เรารอพ่ออยู่ที่บ้านนี่แหละ’‘ขวัญคิดถึงพ่อ ขวัญไม่เจอพ่อน้านนานเลย’‘ขวัญเบื่อที่จะอยู่กับแม่แล้วหรือจ๊ะ’‘ขวัญอยากอยู่กับพ่อ ขวัญอยากอยู่กับแม่ด้วย ทำไมพ่อถึงไม่มาอยู่กับเรา’‘เดี๋ยวพ่อทำงานเสร็จเมื่อไร พ่อก็จะกลับมาหาเราเอง’‘ไม่จริงสักหน่อย แม่ก็ทำงาน แต่แม่อยู่กับขวัญ พ่อทำงานเหมือนแม่ แต่พ่อไม่อยู่กับขวัญ พ่อไม่อยู่กับแม่ด้วย ขวัญรู้ พ่อไม่กลับมาแล้ว’เด็กหญิงตัวน้อยตะโกนใส่แม่พลางร้องไห้ และเช่นเคยที่อ้อมอกอุ่นๆ ของแม่ทำหน้าที่ปลอบโยนเธอ มันเป็นอย่างนี้เสมอ ซึ่งต่างจากอ้อมอกของพ่อที่เธอถวิลหาอยู่ทุกคืนวัน หากเธอไม่อาจจดจำอะไรได้เลย...จำไม่ได้ แต่ร้องหาทุกคราเมื่อนึกถึงมือบางวางทาบบนหน้าท้องแบนราบ หากย้อนเวลากล
ภัสสราทำหน้ายุ่งขณะตัดสายจากติณณ์ ตอนนี้มันสี่ทุ่มแล้ว แต่พ่อเจ้าประคุณยังโทร.มาคาดคั้นถามว่าบ้านที่ขวัญรดาพักอยู่นั้นมีลักษณะและสภาพเป็นอย่างไร เหตุเกิดเพราะติณณ์เพิ่งรู้ว่าขวัญรดาไม่ได้พักร่วมบ้านกับป้าของเอเดน เขาแทบจะปรี่ไปอ้อมใหญ่เสียเดี๋ยวนี้ จนเธอต้องยืนยันว่าบ้านคอนกรีตยกเสาสูงหลังนั้นปลอดภัยดี ตอนไปส่งขวัญรดา เธอก็สำรวจดูจนมั่นใจแล้ว“สมน้ำหน้า เจ้ากี้เจ้าการพาน้องหนีดีนัก”“แม่! ทำไมพูดอย่างนี้ ภัสไม่ได้เป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องนี้สักหน่อย ยายขวัญเองต่างหากที่หอบเสื้อผ้าออกจากบ้านโน้น แล้วนายเอเดนก็ดันช่วยพาหนี ภัสแทบไม่มีบทบาทในเรื่องนี้เลย ได้แต่เออออไปกับพวกเขา ตอนนั้นภัสเสนออะไรไป ยายขวัญก็ตีตกหมด”“เพื่อนเราคนนี้ไว้ใจได้แค่ไหน”จู่ๆ คุณวิจัยก็ถามขึ้น สีหน้ายังคงเคร่งขรึม ภัสสราไม่รู้ว่าพ่อคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร แต่คำถามของพ่อก็ทำให้เธองุนงง“เพื่อนของภัส? ใครอะ”“เอเดน”ภัสสราถอนหายใจเฮือกใหญ่เหมือนกำลังเจอเรื่องหนักอก เธอค่อยๆ อธิบายให้พ่อเข้าใจไปทีละเปลาะ&ldqu
ติณณ์ออกอาการงุนงงเมื่อคุณจงกลบุกขึ้นมาพบถึงห้องทำงาน แล้วถามถึงเรื่องที่นางได้ฟังมาจากภัสสรา“ผมไม่ทำแบบนั้นแน่นอนครับ”ติณณ์ยืนยันความบริสุทธิ์ใจ ในขณะเดียวกันเขาก็รู้สึกตกใจไปด้วย ไม่คิดว่าจู่ๆ ตนจะต้องตกอยู่ในฐานะผู้ต้องสงสัยว่านอกใจภรรยา“คุณติณณ์ไม่ทำ แต่คุณบอกว่าคืนนั้นเมามาก คุณมั่นใจหรือเปล่าว่าไม่มีผู้หญิงคนไหนตามไปที่เพนต์เฮาส์”“ผมจำเรื่องคืนนั้นไม่ได้ทั้งหมด แต่ก่อนผมจะเมาจนไม่รู้ตัว ผมอยู่กับเพื่อนที่เป็นเจ้าของผับ มันบอกจะพาผมไปส่งที่เพนต์เฮาส์เอง ผมก็เลยดื่มต่อโดยไม่ได้สนใจอะไรอีก”“คุณติณณ์ต้องเคลียร์เรื่องนี้กับขวัญให้เข้าใจ ขวัญคงไม่ยอมทนอยู่กับเรื่องการนอกใจ เพราะแกมีปมกับมัน หวังว่าคุณติณณ์จะเข้าใจน้อง”“ผมเข้าใจครับ ผมไม่มีทางทำร้ายจิตใจขวัญด้วยเรื่องพวกนี้ คุณอาวางใจผมได้”“ไม่ทำร้ายจิตใจน้องด้วยเรื่องนอกใจ แล้วเรื่องอื่นๆ ล่ะ”แม่ยายถามทิ้งท้าย ติณณ์ยังไม่ทันได้ตอบหรือคำตอบของเขาอาจช้าเกินไป แม่ยายเลยขอตัวออกไปจากห้องทำงานเสียก่อน
การตามหาบ้านของป้าพระเอกคนดังไม่ใช่เรื่องยากสำหรับติณณ์ แค่จอดรถถามแม่ค้าขายขนมจีนรถเข็นข้างทาง เขาก็ได้รับคำตอบ“คุณเป็นดาราหรือเปล่า คุณหล่อไม่แพ้เอเดนนะ”คำถามชวนคุยพ่วงตามมาหลังจากแม่ค้าวัยกลางคนบอกเส้นทางให้เขาแล้ว“ไม่ใช่ครับ ผมเป็นเพื่อนของเขา”“แต่ป้าคุ้นๆ หน้าคุณอยู่นะ”ไม่ว่าเปล่า แม่ค้าทิ้งลูกค้าให้ยืนรออยู่หน้ารถเข็น ส่วนตัวเองก็เดินมามองเขาใกล้ๆ ติณณ์ได้แต่ยิ้มรับ หากไม่อาจเคลื่อนรถออก แม้หัวใจร่ำร้องอยากจะไปให้ถึงที่หมายไวๆ แล้ว“ผมขอตัวนะครับ”ทำท่าจะปิดกระจกหน้าต่างรถ หากแม่ค้าก็ไวเหลือใจ นางควักมือถือออกมาแล้วหันหลังย่อกายให้อยู่ในระดับเดียวกับเขา ก่อนจะถ่ายภาพเซลฟีคู่กับเขาอย่างว่องไว“คุณเป็นดาราแน่ๆ หล่อขนาดนี้อย่ามาหลอกป้าซะให้ยาก แต่ป้านึกไม่ออกว่าคุณชื่ออะไร เดี๋ยวป้าขอเก็บรูปไปคิดต่อที่บ้านก็แล้วกัน”ฟังธงโดยไม่เกรงใจใคร ก่อนจะปล่อยให้หนุ่มหล่อเจ้าของรถสวยเคลื่อนรถจากไปติณณ์วนหาบ้านของป้าเอเดนนานกว่าครึ่งชั่วโมง ทั้งที่มันอยู่ไม่ไกลจากจ
“บอกได้หรือยังว่าทำไมขวัญถึงมาพักที่นี่ บ้านหลังนี้มีอะไรที่บ้านเราไม่มี”ติณณ์ถามขึ้น หลังจากขวัญรดาหยอดเมล็ดผักลงในแปลงปลูกเสร็จแล้ว เขาไม่รู้ว่าเธอปลูกผักอะไร แต่ถ้าดูจากแปลงอื่นๆ ก็เห็นมีแต่ผักสลัด“ชอบปลูกผักหรือ” เขาถามต่อเมื่อเธอยังเงียบ“มันเป็นงานที่น่าสนใจสำหรับคนว่างงานค่ะ”“ขวัญอยากกลับไปทำงานหรือเปล่า”“คิดค่ะ แต่ขวัญไม่กลับไปทำที่เดิม”ที่เดิม...คืองานโรงแรมและห้างสรรพสินค้าของครอบครัวเขา ขวัญรดาเคยเป็นพนักงานที่นั่น ก่อนเธอจะลาออกมาเมื่อแต่งงานกับเขา“ขวัญโกรธผม...คิดว่าผมมีผู้หญิงคนอื่นใช่ไหม”ไม่อยากอ้อมค้อมแล้ว มัวแต่รอให้เธอพร้อมคุย เขารอจนตะวันบ่ายคล้อย เธอก็ยังไม่เลิกหมางเมินเสียที ขวัญรดาทำเหมือนเขาไม่มีตัวตน“ผมไม่มีผู้หญิงคนไหนทั้งนั้น ผมมีแต่ขวัญคนเดียว ตั้งแต่เราแต่งงานกัน ผมก็ไม่มองใครอีก ผมเพิ่งรู้จากคุณอาจงกลว่าขวัญเข้าใจผิดเรื่องรูปถ่ายในคืนที่ผมออกไปกินเหล้า”ขวัญรดาชะงัก เห็นได้ชัดว่าเรื่องนี้ทำให้เธอสนใจเขาขึ้นมา
ตะวันเคลื่อนคล้อยจนถึงเวลาเย็น แต่คนที่เปลือยท่อนบนยังนอนตากพัดลมอยู่ตรงระเบียงบ้าน ขวัญรดาที่เพิ่งเสร็จจากการทำอาหารเย็นเห็นเข้าก็อดที่จะถามเขาไม่ได้“คุณจะกลับบ้านกี่โมงคะ”“ไม่กลับ”ติณณ์ตอบฉับไว เปลือกตาหนาที่ปิดสนิทขยับขยุกขยิก ซึ่งขวัญรดารู้ตั้งแต่ต้นแล้วว่าเขาไม่ได้นอนหลับ พลันกายใหญ่ที่อุดมด้วยกล้ามเนื้อกำลังพอดีก็พลิกไปทางเธอ“ผมหิวแล้ว”ติณณ์ยันกายขึ้นมานั่ง สายตาเจ้ากรรมของขวัญรดาดันไปมองแผงอกกว้าง เห็นเม็ดเหงื่อผุดซึมออกมา อากาศยามเย็นยังคงร้อนอบอ้าว แม้สายลมจะพัดแผ่ว แต่มันยังเป็นลมร้อนอยู่ดี“ขวัญไม่ได้ทำเผื่อ”“เราออกไปหาอะไรกินกันข้างนอกไหม”“ขวัญทำสลัดไข่ต้มไว้แล้ว”“งั้นขวัญทำให้ผมอีกที่สิ” ติณณ์บอกอย่างไม่รู้ไม่ชี้ แถมยังเสนอแนะหน้าตาเฉย “ผักสลัดอยู่แค่ตรงนี้ เดี๋ยวผมไปเก็บเอง ส่วนขวัญก็ทำไข่ต้มกับน้ำสลัดให้ผมด้วย”ชายหนุ่มเคลื่อนตัวอย่างว่องไว เขาหายไปยังแปลงผักข้างบ้าน ขวัญรดาหมดทางเลี่ยง เธอได้แต่เดิ
สองหนุ่มสาวก้าวขึ้นมาบนสำนักงานเขตด้วยท่าทางเร่งรีบ พวกเขากลายเป็นจุดสนใจของประชาชนที่มาใช้บริการกันอย่างเนืองแน่น เพราะความสวยหล่อและความมีชื่อเสียงของคนทั้งคู่ อีกทั้งไม่มีใครคาดคิดว่าจะได้เจอพวกเขาในสถานที่แห่งนี้ภัสสรากวาดสายตามองหาน้องสาว เมื่อเกือบชั่วโมงก่อน เธอได้รับสายจากเจ้าตัวว่าขอให้มาเป็นพยานในการจดทะเบียนสมรส ภัสสราจึงตามมาเมื่อเห็นว่ามีช่วงเวลาว่างมากพอ หากเมื่อคนที่อยู่ใกล้ๆ รู้เรื่องเข้า เขาก็อาสามาเป็นพยานด้วยอีกคน โดยที่ไม่มีใครร้องขอเขาเลยเรื่องมันก็เป็นอย่างนี้แหละ...ภัสสราอยากป่าวประกาศให้เจ้าของสายตาหลายคู่ที่มองมาแล้วหันไปซุบซิบได้เข้าใจถึงสาเหตุที่ทำให้เธอกับเขาเข้ามาในแผนกจดทะเบียนสมรสในเวลาใกล้เที่ยงของวันนี้“พี่ภัสทางนี้ค่ะ” เสียงของขวัญรดาทำให้ทั้งสองคนหันไปมอง ก่อนจะตรงปรี่ไปหาคนท้องที่นั่งบนเก้าอี้รอคิวหน้าห้องทำการ“ใกล้จะถึงคิวขวัญพอดี ขอบคุณคุณเอเดนที่เสียสละเวลามาเป็นพยานให้ขวัญกับคุณติณณ์ด้วยนะคะ ฉุกละหุกหน่อยค่ะ ขวัญกับคุณติณณ์มาถึงที่นี่แล้วถึงได้รู้ว่าเราต้องมีพยานมาด้วย ขวัญเลยต้องโทร.ไปบอกพ
“แซ่บมากค่ะคุณขา อดีตนางงามตัวเต็งมงใหญ่ที่กำลังจะได้รับบทนางเอกในละครฟอร์มยักษ์ทำท่าจะเดินเกมพลาดแล้ว ตอนเช้าบอกว่ากำลังคุยกับผู้ชายที่เป็นคนกึ่งวงการบันเทิงและเป็นนักธุรกิจด้านโรงแรมและห้างสรรพสินค้า เจ๊ฟังแล้วก็รู้สึกตงิดๆ กับโพรไฟล์ที่แสนเพียบพร้อมนี้ เพราะนึกออกอยู่คนเดียว...แต่มันก็ไม่น่าเป็นไปได้”“ทำไมหรือคะเจ๊ ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ หรือว่าผู้ชายคนนั้นเป็นเหมือนพวกเรา”พิธีกรชายที่มีใจเป็นหญิงในรายการเมาท์ข่าวคนบันเทิงพูดจารับส่งกันอย่างลื่นไหล“ไม่ใช่ค่ะ เขาแมนทั้งแท่งนี่แหละ แมนขนาดการันตีด้วยเมียหนึ่งคนกับลูกชายที่อยู่ในท้องเมียอีกหนึ่งคน”“เมียเผลอแล้วเจอนางงามหรือคะ”“อันนี้เจ๊ก็ไม่รู้นะว่าเมียเผลอหรือเปล่า แต่ข่าวล่าสุดผู้ชายก็โต้กลับมาแล้วว่าขาเตียงของเขากับเมียยังแข็งแรงดี เขานอนกอดเมียอยู่ทุกคืน ทำงานเสร็จก็กลับบ้านตรงเวลาทุกวัน วันหยุดก็ขลุกอยู่บ้านกับลูกเมีย เขาไม่มีวันออกนอกลู่นอกทาง เพราะเขารักเมียมาก”“อ้าว! แล้วเมื่อเช้าที่นางงามบอกว่ามีความรู้สึกดีๆ ต่อกัน มันก็แสดงว
ห้องทำงานของติณณ์ได้ต้อนรับสาวสวยที่แวะมาหาสัปดาห์ละสามวัน หรือพูดได้ว่าเธอมาทุกวันที่เขาเข้ามาทำงาน แรกทีเดียวเลขาฯ ก็พยายามสกัด แต่กลับไม่เป็นผล เมื่ออีกฝ่ายใช้วิธี ‘บังเอิญพบ’ เขาบริเวณชั้นจอดรถหรือแม้กระทั่งในลิฟต์...สุดท้ายเจ้าหล่อนก็เดินเข้าไปในห้องทำงานพร้อมกับเขา โดยที่เลขาฯ หน้าห้องได้แต่มองตามตาปริบๆ“สรุปว่ายังไง? แบบนี้หมายถึงคุณติณณ์อนุญาตให้คุณแคทเข้าห้องทำงานเองใช่ไหม”สาวสวยมากความสามารถ อีกทั้งยังมีอัธยาศัยดี...ตอนแรกเธอก็ชอบอยู่หรอกนะ แต่พอมาคิดอีกที เจ้านายของเธอไม่ใช่ผู้ชายโสด เขามีเมียแล้ว แถมเมียก็กำลังท้องอยู่ด้วย การมีผู้หญิงเทียวมาหาอย่างนี้ มันไม่ใช่เรื่องดีแน่นอน...ยิ่งเธอต้องเห็นทุกครั้ง มันก็พานให้รู้สึกอึดอัดใจเมียของเขายังไม่มาเลย แต่แฟนเก่ามาเฝ้าเช้าเฝ้าเย็น มันชักจะยังไงๆ แล้วนะ แบบนี้เรารายงานเรื่องนี้กับใครได้บ้างไม่ต้องมีใครรายงาน...คุณจงกลก็รับรู้การเคลื่อนไหวของคัทลียาตั้งแต่วันแรกที่เจ้าตัวมาหาติณณ์ เรื่องแบบนี้มันแพร่สะพัดดีนักเชียว แต่หากคิดว่านางลำบากใจที่จะตักเตือนทั้งสองคนซึ่งอยู่ในฐานะลูกเขย
ขวัญรดาเดินไปชะเง้อมองแปลงที่ดินข้างบ้าน วันนี้รั้วคาวบอยสร้างเสร็จแล้ว เธออยากเข้าไปดูใกล้ๆ แต่ติดตรงที่ติณณ์กำชับไว้ว่าในช่วงที่ยังมีการก่อสร้าง ห้ามเธอเข้าไปในนั้นโดยไม่มีเขาอยู่ด้วย“หกโมงเย็นแล้ว แต่พ่อยังไม่กลับบ้านเลย ไม่รู้ว่าพ่อประชุมเสร็จหรือยัง”มือบางลูบท้องพลางรำพัน พลันรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของคนในท้อง หญิงสาวยิ้มออกมา“คิดถึงพ่อเหรอ เราโทร.ไปหาพ่อกันไหม” เธอถาม...คาดหวังจะได้รับสัญญาณตอบกลับจากลูกน้อย แต่คราวนี้ลูกนิ่งเงียบ “ว่ายังไงแตงโม หนูจะให้แม่โทร.ไปหาพ่อหรือเปล่า แต่ถ้าพ่อยังประชุมอยู่ มันจะกลายเป็นว่าเราไปรบกวนเวลาของพ่อหรือเปล่าก็ไม่รู้นะ”อยากรู้ว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน อยากจะโทร.ไปหาเขา แต่เธอพยายามบังคับตัวเองไว้ บอกให้ตัวเองรอเขาอยู่ที่บ้านหญิงสาวทอดฝีเท้าเอื่อยกลับเข้าไปในบ้าน พลันเห็นสาวใช้เดินตรงมาหา พร้อมกับยื่นโทรศัพท์มือถือของเธอมาให้...“คุณภัสสราโทร.มาค่ะ เมื่อกี้หนูหาคุณขวัญไม่เจอ สายเพิ่งตัดไปค่ะ”รอยยิ้มจางหาย ทีแรกคิดว่าติณณ์จะโทร.มาเสียอีกขวัญร
ติณณ์แวะไปหาพ่อที่ห้องทำงาน ตั้งแต่รู้ว่ากำลังจะมีหลาน พ่อก็ออกอาการเห่อหลานอย่างออกนอกหน้า‘หลานของฉันเป็นยังไงบ้าง แข็งแรงดีไหม แล้วจะคลอดเมื่อไรนะ’‘แข็งแรงดีครับ หมอยังชมเลย อีกสามเดือนก็คลอดแล้ว’‘ว่าแต่ช่วงนี้แกเข้ามาทำงานเกือบทุกวันเลยนะ ฉันบอกแล้วว่าถ้าแกมีลูก แกจะมีเป้าหมายชีวิตมากขึ้น’‘ความคิดของพ่อล้าสมัยจริงๆ’‘แต่มันยังใช้กับแกได้’ติณณ์ยิ้มกับตัวเอง คิดจะเถียงพ่อ แต่เถียงไม่ออก เพราะไม่รู้ว่าทุกวันนี้ที่เขาใช้ชีวิตอย่างเป็นระเบียบมากขึ้น โดยเข้ามาดูแลงานของครอบครัวบ่อยครั้งขึ้น จัดเวลาให้ทั้งสองงานได้อย่างสมดุลจนไม่ได้ยินเสียงบ่นของพ่อแล้ว เป็นผลมาจากการที่เขามีเจ้าแตงโมเข้ามาในชีวิตหรือเปล่า“ไม่นะ ไม่น่าจะใช่...”พยายามจะค้าน แต่กลับไม่มั่นใจในคำตอบของตัวเองเสียอย่างนั้น พลันเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น ติณณ์เงยหน้าขึ้นไปมอง ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับประตูถูกเปิดผลัวะเข้ามา“สวัสดีค่ะพี่ติณณ์ แคทมาทำธุระแถวนี้ นึกถึงพี่ติณณ์ก็เลยแวะมาหา”
หากวันเวลาผ่านไปเพียงไม่กี่เดือน รายการของติณณ์ที่เคยอยู่ในสภาพร่อแร่กลับมาผงาดขึ้น แถมยังมีแนวโน้มว่ามันอาจจะดังมากกว่าตอนที่เธอเคยทำร่วมกับเขาเสียอีกนั่นเป็นจุดสำคัญที่ทำให้คัทลียาตัดสินใจยกเลิกสัญญาการเป็นนางแบบที่นิวยอร์ก เธอไม่อยากปล่อยให้เวลาชีวิตสูญเปล่าโดยที่ไม่เห็นความหวัง เธอควรกลับมาเมืองไทย เพราะโอกาสยังเปิดรอเธออยู่“พี่ติณณ์แต่งงานทำไม”เรื่องนี้ยังติดอยู่ในใจ แต่ก่อนหน้านี้คัทลียาไม่เคยหยิบมาพูดถึง เพราะเธอคิดว่ามันไร้ค่าเกินกว่าจะเสียเวลาไปสนใจ...“คุณพฤกษ์ต้องการให้คุณติณณ์แต่งงานก่อนจะรับโอนหุ้นของบริษัท คุณพฤกษ์ต้องการมั่นใจว่าเขาจะมีทายาทสืบสกุลและสืบทอดธุรกิจต่อไป คุณติณณ์เลยประกาศแต่งงานกับเด็กคนนั้น”“พี่ติณณ์ไม่เคยบอกเรื่องนี้ให้แคทรู้ เขาเคยถามแคทเรื่องการแต่งงานและการมีครอบครัว...แต่ตอนนั้นแคทรู้สึกว่ามันตลกเกินไป แคทกับพี่ติณณ์ยังไม่โตเป็นผู้ใหญ่ แถมแคทก็เพิ่งได้รับโอกาสในการทำงาน”ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่าเวลาเพียงปีกว่าสามารถบ่มเพาะผู้ชายคนหนึ่งให้เติบโตอย่างมั่นคงและดูดี
“มานี่มา…จุ๊บแตงโมทีหนึ่ง”คนที่เดินเข้ามาในบ้านด้วยสภาพเหงื่อไหลซ่กทั้งตัวกวักมือเรียกคนในชุดเสื้อกล้ามกับกางเกงขายาวผ้ายืดให้เดินมาหา เจ้าหล่อนก็แสนน่ารัก รีบปรี่ตรงไปอย่างไม่รอช้าติณณ์โอบกอดภรรยา แล้วก้มลงจูบท้องนูนๆ ของเธอ วันนี้ขวัญรดามีอายุครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เห็นท้องป่องชัดเจนขึ้น หากแขนขาของเธอยังเรียวเล็ก แทบไม่มีส่วนใดเปลี่ยนแปลงนอกจากหน้าท้อง...น้ำหนักที่หมอสั่งควบคุมไม่ให้เกินเดือนละสองกิโลกรัม เธอก็ทำได้อย่างดี ตอนนี้สุขภาพของแม่และลูกก็แข็งแรง ซึ่งเป็นที่น่าพอใจสำหรับคุณหมอ“รั้วคาวบอยเป็นยังไงบ้างคะ”“ช่างบอกว่าอีกสองวันก็เสร็จแล้ว”พื้นที่เกือบสองไร่ที่ได้มาใหม่กำลังจะถูกล้อมรั้ว ขวัญรดามีความฝันอยากมีทุ่งหญ้าที่ถูกห้อมล้อมด้วยรั้วคาวบอย เธอจดจำภาพนั้นมาตั้งแต่เด็กเมื่อคราวครอบครัวไปพักผ่อนที่เขาใหญ่ พอถึงวันนี้เธอจึงอยากสร้างรั้วคาวบอยไว้ในอาณาจักรเล็กๆ ของตัวเอง“ดีเลยค่ะ ขวัญทำผังไว้แล้วว่าตรงไหนจะปลูกผักอะไร พอช่างทำรั้วเสร็จ ขวัญจะให้คนงานทำโรงเรือนปลูกต้นไม้และกระบะปลูกผักไว้ให้ขวั
“ภัสแค่สวยมากและมีความสามารถพอตัวน่ะ”เจ้าตัวให้เหตุผลที่คิดว่าเป็นเรื่องจริงที่สุดแล้ว หากคนฟังได้ทำหน้าเหม็นเบื่อ“ดีทุกอย่าง แต่เสียอย่างเดียว ชอบชมตัวเองให้ฉันหมั่นไส้”“ทำไมเราต้องรอให้คนอื่นชมด้วยล่ะ ถ้าอยากได้คำชมให้ชีวิตสดใส เราก็จัดให้ตัวเองเลย”เหตุผลดี๊ดีตามวิถีของผู้หญิงมั่นในยุคสมัยนี้“คนอื่นยังจำเป็นสำหรับเธอไหม”เมื่อเจ๊หวานถาม ใบอ้อก็ไม่พลาดที่ตอบ“ไม่ต้องแล้วมั้ง”“ฉันเห็นอนาคตของภัสสรารำไร คงอยู่ในวงการบันเทิงไปยาวๆ แล้วโหนคานต่องแต่ง ปล่อยให้ดารารุ่นเดียวกันออกเดตกับนักธุรกิจนอกวงการบ้าง ไฮโซตัวพ่อบ้าง ส่วนตัวเองก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานโดยไม่สนใจใคร”ภัสสราหัวเราะขำกับคำวิจารณ์ของช่างแต่งหน้าที่พ่วงตำแหน่งเพื่อนร่วมก๊วน...ไม่อยากบอกเลยว่าเธอก็มองเห็นภาพตัวเองไม่ต่างจากนี้แหละวันนี้บ้านสองชั้นที่แสนร่มรื่นซึ่งตั้งอยู่ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ได้ต้อนรับคุณจรุงจิตต์ผู้เป็นภริยาของปลัดกระทรวงกับลูกสาว หลังจากพวกเธอห่างหายไปจากบ้านหลังนี้นาน
“กว้างไปค่ะ” คำตอบช่างไม่คุ้มกับเวลาที่รอคอยนานนับนาที “เรามองอนาคตไม่เหมือนกัน แถมระยะหลังเวลาผมมองแคท ผมก็คอยแต่นึกถึงแม่ของผม มันไม่ยุติธรรมกับผู้หญิงทั้งสองคนหรอก แต่ผมก็รู้ว่าตัวเองคงหาความอบอุ่นหรือที่พักใจจากพวกเธอได้ยาก...ผมเคยถามแคทถึงภาพในอนาคต ตอนนั้นผมกับแคทยังคบหากันดี ขวัญต้องรู้ว่าผมรวบรวมความกล้ามากแค่ไหนถึงกล้าถามคำถามนี้ออกไป เพราะผมเองก็มีธงในใจวางไว้แล้ว” ขวัญรดารับฟังนิ่งๆ พยายามไม่ตัดสินคนรักเก่าของเขาเร็วเกินไป เธอวางอคติลง เพราะอยากเข้าใจเรื่องราวของเขาให้ถ่องแท้ “แคทเรียนจบมาจากต่างประเทศ ได้ตำแหน่งนางงามมาครอง และตอนนั้นเธอเพิ่งพ้นหน้าที่หลังจากการครองตำแหน่งมาเป็นเวลาหนึ่งปี มีข้อเสนอดีๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศมาให้เธอเลือก ขวัญคงเดาได้ว่าแคทเลือกอะไร ผมเข้าใจแคทได้ แต่พอผมถามแคทว่ามีภาพของครอบครัวเรายังไง แคทหัวเราะ เธอหาว่าผมบ้า เธอไม่เคยมีภาพนั้นในหัว ยังไม่รู้เลยว่าตัวเธอเองจะเดินไปถึงจุดนั้นหรือเปล่าด้วยซ้ำ” “มันก็ไม่มีใครผิด คุณแคทมีต้นทุนชีวิตที่สูง เธอเติบโตมาดี มีรูปสมบัติและความสามารถครบ เธอจึงมีสิทธิ์เลือก เชื่อว่าเธอมั่นใจ