“มึงมายุ่งอะไรกับเรื่องของกู”
“ถ้ามึงไม่รักเมีย มึงก็เลิกกับเขาสิวะ มันจะยากอะไร คนบ้านนั้นเขายอมมึงอยู่แล้ว ส่วนเมียของมึงทั้งสาวทั้งสวย แถมยังเด็กอีกด้วย เดี๋ยวเขาก็มีผัวใหม่เอง”“ไม่เด็กแล้ว อายุยี่สิบห้าแล้ว”“เหรอ หน้าตาเหมือนเด็กเพิ่งจบมหา’ลัย”“มึงเลิกวิจารณ์เมียกูได้แล้ว”“ไอ้นี่มีหวง หวงเมียจังเลย แต่ปากบอกไม่รักเมีย ไม่รักแต่เพื่อนพูดถึงก็ไม่ได้ เดี๋ยวเถอะมึง กูจะฟ้องภัส”“อย่าแม้แต่คิด”ติณณ์ชี้ปรามเพื่อนอย่างจริงจัง แค่รับมือเมียคนเดียว เขาก็ไม่ไหว จนต้องเผ่นออกมานั่งดื่มเหล้าอยู่นี่อย่างไรล่ะ ถ้าพ่วงพี่เมียจอมวายร้ายมาด้วย เขาไม่อยากนึกถึงสภาพตัวเอง หลากหลายอารมณ์ที่ถูกเก็บกดอยู่ข้างในทำให้เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าถูกเทลงในลำคอ อวัชมองติณณ์ด้วยสายตาครุ่นคิด ติณณ์เคยมานั่งดื่มเหล้าในผับครั้งล่าสุดก็เป็นตอนที่เลิกกับแฟนเก่า โดยมาติดๆ กันนานเป็นสัปดาห์ จากนั้นเพื่อนก็หายหัวไปเลย หากติดตามข่าวคราวอยู่ห่างๆ เขาก็เห็นว่าติณณ์ก้าวหน้าเรหัวใจของขวัญรดากระตุกแรงขณะมองภาพของสามีที่ถูกส่งเข้ามา กระดุมเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยจนเห็นแผงอกเกือบครึ่ง เธอเลื่อนดูท่อนล่าง...ยังดีที่กางเกงยีนอยู่ในสภาพปกติ“ใครถ่ายรูปเขา”มือไม้สั่นเทา ขวัญรดาเห็นโลเคชันที่ถูกส่งตามมาให้เป็นเพนต์เฮาส์หรูย่านทองหล่อ เธอรู้ว่าติณณ์มีเพนต์เฮาส์อยู่ที่นี่ ในตึกนี้มีเพนต์เฮาส์ของคนดังและลูกหลานคนใหญ่คนโตครอบครองอยู่หลายคน...อีกทั้งยังจำได้ดีว่าคัทลียาเคยใช้เพนต์เฮาส์ของเขาเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการที่เจ้าตัวเป็นแขกรับเชิญมาแล้ว“ไม่ยอมกลับบ้าน เพราะมีที่อื่นให้นอนอยู่แล้วนี่เอง ทุเรศที่สุด! ผู้ชายมักมาก! แค่แยกห้องคืนเดียวก็ทนไม่ได้ ถึงกับต้องไปหาผู้หญิงคนอื่น”เธอรู้ว่าติณณ์มีความต้องการมากแค่ไหน ตั้งแต่แต่งงานกันมา เขาไม่เคยว่างเว้นจากเธอ แล้วดูภาพที่ใครก็ไม่รู้ส่งเข้ามาสิ มันคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยขนาดนี้ แถมเขายังนอนหลับตาพริ้มอีกทำไมถึงเป็นแบบนี้…ทำไมเราต้องเจ็บปวดหัวใจอยู่คนเดียวคำถามเวียนซ้ำๆ อยู่ในหัว เมื่อคิดว่าค่ำคืนนี้ตนไม่อาจหลับตาลงได้อย่างแน่นอน หญิงสาว
อากาศภายในห้องโถงของเพนต์เฮาส์เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างเงียบกริบและสม่ำเสมอ ติณณ์ตื่นนอนในเวลาใกล้เที่ยง เขายันกายขึ้นมานั่งพลางทบทวนความทรงจำว่าตนอยู่ที่นี่ได้อย่างไรชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูด้วยความเคยชิน พลันหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นข้อความล่าสุด“ขวัญ...”เมื่อเห็นรูปถ่ายของตัวเองที่นอนหลับไม่รู้สึกตัวกับโลเคชันของเพนต์เฮาส์ในข้อความที่ตอบกลับไป ติณณ์ก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ แต่พอคิดว่าไม่เห็นขวัญรดาโทร.มาหาหรือส่งข้อความมาไถ่ถามอะไรอีก ความน้อยใจก็เกิดขึ้นมานิดๆเมียไม่ห่วง เห็นอยู่ว่าเราเมาหลับไม่รู้สึกตัวติณณ์ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ วันนี้เขาต้องเข้าไปที่โรงแรม โชคดีที่นัดกับพ่อไว้เป็นช่วงบ่าย ตอนนี้จึงยังเหลือเวลาพอให้จัดการตัวเอง“เฮ้ย! อย่าบอกว่านะว่าเธอขนเสื้อผ้าจะย้ายกลับไปอยู่บ้าน”ภัสสราร้องเอะอะเมื่อชะโงกหน้าไปดูที่นั่งทางตอนหลังของรถตู้ตัวเอง แล้วเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าและถุงใส่ข้าวของอัดอยู่เต็มรถเจ้าของสัมภาระยังปิดปากเงียบ ภัสสราจึงต้องหันไ
สปอร์ตคาร์คันสีขาวแล่นมาจอดในโรงรถในเวลาสามทุ่ม คนขับรถเดินมาดูรถคันสีเหลืองมะนาวที่จอดอยู่ริมสุด ปกติมันไม่ได้จอดตรงนี้ ที่ของมันอยู่ด้านใน“ขวัญกลับมาจากข้างนอกหรือเปล่า ทำไมเอารถมาจอดขวางตรงนี้ หรือกำลังจะออกไปไหน”คิดจะเคลื่อนรถของเธอให้เข้าที่เข้าทาง แต่เปลี่ยนใจ ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน วันนี้เขาเพลียไปทั้งร่าง สมองมึนตึ้บเพราะต้องนั่งประชุมตลอดบ่าย พอเลิกประชุม แล้วคิดจะกลับบ้าน แต่พ่อยังลากเขาไปกินข้าวกับเพื่อนนักธุรกิจของพ่ออีก กว่าจะขอตัวกลับบ้านได้ก็เกือบดึกติณณ์ลากสังขารที่เหนื่อยล้าเข้าไปในบ้าน อดที่จะกวาดสายตามองรอบๆ โถงบ้านไม่ได้ว่าขวัญรดาอาจอยู่ตรงนี้ แต่บ้านเงียบเกินไป ดวงไฟก็เปิดแค่ในโถงกลาง เขาจึงตรงขึ้นไปชั้นบนเขาเดินผ่านห้องนอนใหญ่ ไม่เห็นแสงไฟลอดออกมา คิดว่าคนในห้องคงหลับสนิทแล้ว ขวัญรดาเข้านอนเร็ว จากที่คิดจะแกล้งเธอให้หนำใจที่ไล่เขาออกไปจากห้องนอนตัวเอง แต่เปลี่ยนใจ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน รอให้สังขารของเขาพร้อมกว่านี้ก่อนมันเป็นการตัดสินใจที่บ้าดีเดือดครั้งใหญ่ หากไม่นับรวมถึงการตกลงแต่งงานกับติณณ์เมื่อสามเดือน
ตั้งใจตื่นนอนตั้งแต่เช้า เพราะอยากเห็นหน้าเมีย การไม่ได้เห็นเธอเกินยี่สิบชั่วโมงมันนานเกินไป ชีวิตของเขาเหมือนขาดอะไรไปติณณ์เดินลงมาชั้นล่างอย่างกระปรี้กระเปร่า วันนี้ตั้งใจจะหาเหตุอยู่กับขวัญรดาทั้งวัน ก็คนมันคิดถึงนี่นา แต่พอลงมาถึงชั้นล่าง เขากลับพบว่าบ้านทั้งหลังยังคงเงียบกริบ มันไร้ชีวิตชีวาสิ้นดี แม้แต่คนรับใช้ที่ปกติเดินไปมาอยู่แถวๆ นี้ก็ไม่มีให้เห็นสักคนชายหนุ่มเข้าไปในครัว ซึ่งเป็นที่ที่แม่บ้านพ่วงตำแหน่งแม่ครัวปักหลักอยู่“ขวัญลงมาหรือยังครับ”ป้านิ่มเลิกคิ้ว แลดูประหลาดใจ คนถามจึงแก้เก้อด้วยการบอกเสียใหม่ หวังว่ามันจะดีขึ้น“ผมยังไม่ได้ไปดูที่ห้องนอนน่ะ เมื่อคืนผมกลับดึก เลยไม่อยากกวนขวัญ”“คุณขวัญไม่ได้อยู่บ้านนะคะ คุณขวัญกลับไปบ้านโน้นตั้งแต่เมื่อวาน ป้าคิดว่าคุณติณณ์รู้เรื่องนี้แล้วซะอีก”“ขวัญไม่อยู่บ้าน? เป็นไปได้ยังไง ทำไมไม่มีใครบอกผม”เสียงโวยวายดังสวนทันที ไม่คิดจะรักษาภาพลักษณ์กันแล้วแหละ เมียเขาหายไปทั้งคน ทำไมเขาถึงเพิ่งมารู้เอาตอนนี้“ป้าจะบอกคุณตั
ภัสสรานั่งชะเง้อมองไปยังประตูห้องรับรองในกองถ่าย รอคอยว่าเมื่อไรเอเดนจะเข้ามา เธออุตส่าห์มากองถ่ายก่อนเวลาเพื่อจะคุยเรื่องร้อนใจกับเขา แต่กลับพบว่าเขามาตรงเวลาเป๊ะ ซึ่งเพียงแค่พระเอกสุดฮอตมาถึง ช่างแต่งหน้าและฝ่ายเสื้อผ้าก็กรูกันไปรุมล้อม ไม่เหลือช่องให้เธอสบโอกาสพูดเรื่องสำคัญ “พี่ภัสยังไม่กลับหรือคะ หรือว่ารอใครมารับ” คนในกองถ่ายเข้ามาเห็นก็อดถามไม่ได้ “เปล่า ไม่มี พี่มากับรถของพี่” เสียงสูงไปสักหน่อย พอนึกได้ก็ขัดใจตัวเอง...ทำพิรุธไปทำไม ก็ในเมื่อไม่มีใครมารับเธอจริงๆ มีแต่คนขับรถตู้ที่รอเธออยู่ข้างนอก นานกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครสนใจนางร้ายเจ้าบทบาทที่นั่งซุกตัวอยู่ตรงโซฟามุมห้องอย่างเงียบกริบ กระทั่งประตูห้องรับรองเปิดออก เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจก็เรียกความสนใจให้เบนไปหา “เอเดนว่างไหมคะ พอดีมีนักข่าวรออยู่ข้างนอก เขาอยากคุยด้วยค่ะ” ผู้ช่วยผู้กำกับตามเข้ามาบอกใกล้ๆ ผู้จัดการของพระเอกหนุ่มที่ยืนประกบอยู่จึงเป็นฝ่ายตอบแทน “เอเดนให้สัมภาษณ์ละครใหม่ไปแล้วนี่ครับ” เมื่อสักครู่หลังจากเข้าฉากกับนางเอกหน้าใหม่เสร็จ เอเดนก็ถูกลากให้
ร่างขาวนวลเนียนขยับกายนอนคุดคู้เมื่อรู้สึกตัวตื่น รับรู้ถึงความเจ็บร้าวตรงกลางกาย อีกทั้งแขนและขาก็มีอาการไม่ต่างกัน มันปวดล้าไปทั่วทั้งร่าง“อูย…”เช้าวันนี้เป็นวันแรกหลังงานวิวาห์ ขวัญรดาผินหน้าไปมองผู้ชายที่อยู่ร่วมห้องหอบนที่นอนอีกฝั่ง แต่กลับว่างเปล่า เธอไม่เห็นเขาแล้ว นอกจากร่องรอยบนร่างกายของตัวเอง คงมีเพียงรอยยับย่นของผ้าปูที่นอนที่บอกให้รู้ว่าเมื่อคืนนี้เขาอยู่กับเธอจริงๆติณณ์...สามีของเธอ ผู้ชายที่เธอเห็นเขามาตั้งแต่เด็ก แต่เขาไม่เคยมองเห็นเธอ หากนั่นก็ไม่เป็นปัญหาหรอก เพราะเธอไม่เคยอยากให้ตัวเองอยู่ในสายตาของใครอยู่แล้วเจ้าสาวหมาดๆ ยันกายขึ้นมานั่งกลางเตียง สภาพเตียงนอนเหมือนสมรภูมิรบ แต่มันก็ไม่ไกลจากความจริงนัก... เมื่อคืนติณณ์ทำให้เธอตกใจ เขาจู่โจมและเข้าถึงตัวเธอ ไม่ยอมปล่อยวางเธอทั้งคืน ทั้งที่ตอนอยู่ในงานเลี้ยงแต่งงาน เขายังทำหมางเมินใส่เธออยู่เลยขวัญรดาหลับตา เรียวปากสวยเม้มสนิทด้วยต้องการข่มกลั้นความเจ็บแปลบและหวิวโหวงที่ประดังเข้ามา เธอไม่รู้ว่าเช้าวันแรกของชีวิตแต่งงานสำหรับผู้หญิงคนอื่นนั้นเป็นอย่างไร แต่สำหรับเธอ มันมีแต่ความหวาดหวั่นและไม่มั่นใจเอาเสียเลย..
เก้านาฬิกาเศษ ผู้ชายร่างสูงกำลังยืนอยู่กลางห้องนอน เขามองไปรอบๆ ห้อง หวังจะเห็นเธอคนนั้น แต่กลับไร้วี่แวว“ไปไหนของเขานะ” ดวงตาคมหรี่ลงอย่างครุ่นคิด ก่อนจะสาวเท้าไปยังห้องน้ำ บานประตูห้องน้ำปิดสนิท เมื่อลองผลักบานประตู เขาถึงรู้ว่ามันถูกล็อกจากข้างในชายหนุ่มผละออกมา แล้วเดินเข้าไปในห้องเสื้อผ้าตรงโซนด้านซ้ายมือซึ่งเขากันให้เป็นพื้นที่เก็บเสื้อผ้าและข้าวของของเธอเสื้อผ้าไม่กี่ชุดแขวนอยู่ภายในตู้เสื้อผ้า ชายหนุ่มเลือกหาชุดที่เหมาะๆ แล้วนำมาวางพาดไว้บนเตียง...หากก็กวาดสายตามองเตียงนอนไปโดยอัตโนมัติ ผ้าปูที่นอนเรียบตึง มีผ้าห่มคลุมทับไว้ครึ่งหนึ่ง มือแข็งแรงดึงมันออกมา แล้วถึงได้เห็นรอยเปรอะเปื้อนบนผ้าปูที่นอน...เธอคงตั้งใจปิดมันไว้พลันเสียงเปิดประตูห้องน้ำดังขึ้นเบาๆ ชายหนุ่มตวัดผ้าห่มปิดร่องรอยไว้ดังเดิม เขาหันไปมองตามทิศทางของเสียง จึงได้เห็นคนที่อยู่ในเสื้อคลุมอาบน้ำตัวเดียวเดินตรงมา อดที่จะกวาดสายตามองทั่วเรือนร่างของเธอไม่ได้“พี่...เอ่อ คุณติณณ์เข้ามาทำไมคะ”เธอออกอาการอ้ำอึ้ง ผิวแก้มขาวซีดเริ่มมีเลือดฝาด...มันน่ามอง วินาทีแรกนั้นติณณ์กำลังจะถอนสายตา แต่พอคิดว่าผู้หญิงคนนี้เป
ขวัญรดาใช้เวลานานกว่าครึ่งชั่วโมงสำหรับการพยายามทำให้ตัวเองงดงามขึ้น เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับความลังเลและไม่มั่นใจ เธอมองตัวเองจากภาพสะท้อนทางกระจก ก่อนจะยกแปรงขึ้นมาปัดบนแก้มนวลซ้ำอีกครั้ง “พอแล้วแหละ คงไม่ดีขึ้นไปกว่านี้แล้ว” หญิงสาวเก็บเครื่องสำอางลงในกระเป๋าแต่งหน้า มันมีเพียงน้อยชิ้น ก่อนจะหย่อนมันลงในกระเป๋าสะพาย ขวัญรดาไม่ได้ด้อยค่าตัวเอง แต่เธอมองตัวเองด้วยสายตาเป็นธรรม เธอเกิดมาท่ามกลางผู้หญิงที่มีดีกรีความสวยการันตี ไม่ว่าพี่สาวที่เป็นถึงนักแสดงชื่อดัง แม้ระยะหลังพี่สาวของเธอจะพลาดบทนางเอกไปแล้ว แต่ชื่อเสียงและความโดดเด่นก็ยังไม่แผ่ว อีกทั้งเจ้าตัวยังเป็นเจ้าแม่อีเวนต์ที่ถูกเรียกหาอยู่เสมอ ส่วนอีกคนก็คือคัทลียา ญาติสาวที่มีวัยห่างจากเธอเพียงสองปี แต่เส้นทางชีวิตกลับก้าวหน้าไปไกลมากแล้ว คัทลียาเป็นถึงนางงามตัวแทนประเทศไทยที่ได้เดินทางไปประกวดนางงามบนเวทีระดับโลกซึ่งคนไทยเคยได้ลุ้นกัน ก่อนจะกลับมาพร้อมกับรางวัลที่สามารถชนะใจกรรมการจนเข้าถึงรอบห้าคนสุดท้าย ผู้หญิงสวยมักโง่...ใครกันช่างพูดไว้ ขวัญรดาอยากค้านสุดใจว่ามันไม่ได้เป็นอย่างนั้น อย่างน้อยก็สำหรับผู้หญิงสองคนนี้ โดย
ภัสสรานั่งชะเง้อมองไปยังประตูห้องรับรองในกองถ่าย รอคอยว่าเมื่อไรเอเดนจะเข้ามา เธออุตส่าห์มากองถ่ายก่อนเวลาเพื่อจะคุยเรื่องร้อนใจกับเขา แต่กลับพบว่าเขามาตรงเวลาเป๊ะ ซึ่งเพียงแค่พระเอกสุดฮอตมาถึง ช่างแต่งหน้าและฝ่ายเสื้อผ้าก็กรูกันไปรุมล้อม ไม่เหลือช่องให้เธอสบโอกาสพูดเรื่องสำคัญ “พี่ภัสยังไม่กลับหรือคะ หรือว่ารอใครมารับ” คนในกองถ่ายเข้ามาเห็นก็อดถามไม่ได้ “เปล่า ไม่มี พี่มากับรถของพี่” เสียงสูงไปสักหน่อย พอนึกได้ก็ขัดใจตัวเอง...ทำพิรุธไปทำไม ก็ในเมื่อไม่มีใครมารับเธอจริงๆ มีแต่คนขับรถตู้ที่รอเธออยู่ข้างนอก นานกว่าหนึ่งชั่วโมงโดยที่ไม่มีใครสนใจนางร้ายเจ้าบทบาทที่นั่งซุกตัวอยู่ตรงโซฟามุมห้องอย่างเงียบกริบ กระทั่งประตูห้องรับรองเปิดออก เสียงจ๊อกแจ๊กจอแจก็เรียกความสนใจให้เบนไปหา “เอเดนว่างไหมคะ พอดีมีนักข่าวรออยู่ข้างนอก เขาอยากคุยด้วยค่ะ” ผู้ช่วยผู้กำกับตามเข้ามาบอกใกล้ๆ ผู้จัดการของพระเอกหนุ่มที่ยืนประกบอยู่จึงเป็นฝ่ายตอบแทน “เอเดนให้สัมภาษณ์ละครใหม่ไปแล้วนี่ครับ” เมื่อสักครู่หลังจากเข้าฉากกับนางเอกหน้าใหม่เสร็จ เอเดนก็ถูกลากให้
ตั้งใจตื่นนอนตั้งแต่เช้า เพราะอยากเห็นหน้าเมีย การไม่ได้เห็นเธอเกินยี่สิบชั่วโมงมันนานเกินไป ชีวิตของเขาเหมือนขาดอะไรไปติณณ์เดินลงมาชั้นล่างอย่างกระปรี้กระเปร่า วันนี้ตั้งใจจะหาเหตุอยู่กับขวัญรดาทั้งวัน ก็คนมันคิดถึงนี่นา แต่พอลงมาถึงชั้นล่าง เขากลับพบว่าบ้านทั้งหลังยังคงเงียบกริบ มันไร้ชีวิตชีวาสิ้นดี แม้แต่คนรับใช้ที่ปกติเดินไปมาอยู่แถวๆ นี้ก็ไม่มีให้เห็นสักคนชายหนุ่มเข้าไปในครัว ซึ่งเป็นที่ที่แม่บ้านพ่วงตำแหน่งแม่ครัวปักหลักอยู่“ขวัญลงมาหรือยังครับ”ป้านิ่มเลิกคิ้ว แลดูประหลาดใจ คนถามจึงแก้เก้อด้วยการบอกเสียใหม่ หวังว่ามันจะดีขึ้น“ผมยังไม่ได้ไปดูที่ห้องนอนน่ะ เมื่อคืนผมกลับดึก เลยไม่อยากกวนขวัญ”“คุณขวัญไม่ได้อยู่บ้านนะคะ คุณขวัญกลับไปบ้านโน้นตั้งแต่เมื่อวาน ป้าคิดว่าคุณติณณ์รู้เรื่องนี้แล้วซะอีก”“ขวัญไม่อยู่บ้าน? เป็นไปได้ยังไง ทำไมไม่มีใครบอกผม”เสียงโวยวายดังสวนทันที ไม่คิดจะรักษาภาพลักษณ์กันแล้วแหละ เมียเขาหายไปทั้งคน ทำไมเขาถึงเพิ่งมารู้เอาตอนนี้“ป้าจะบอกคุณตั
สปอร์ตคาร์คันสีขาวแล่นมาจอดในโรงรถในเวลาสามทุ่ม คนขับรถเดินมาดูรถคันสีเหลืองมะนาวที่จอดอยู่ริมสุด ปกติมันไม่ได้จอดตรงนี้ ที่ของมันอยู่ด้านใน“ขวัญกลับมาจากข้างนอกหรือเปล่า ทำไมเอารถมาจอดขวางตรงนี้ หรือกำลังจะออกไปไหน”คิดจะเคลื่อนรถของเธอให้เข้าที่เข้าทาง แต่เปลี่ยนใจ ช่างมันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน วันนี้เขาเพลียไปทั้งร่าง สมองมึนตึ้บเพราะต้องนั่งประชุมตลอดบ่าย พอเลิกประชุม แล้วคิดจะกลับบ้าน แต่พ่อยังลากเขาไปกินข้าวกับเพื่อนนักธุรกิจของพ่ออีก กว่าจะขอตัวกลับบ้านได้ก็เกือบดึกติณณ์ลากสังขารที่เหนื่อยล้าเข้าไปในบ้าน อดที่จะกวาดสายตามองรอบๆ โถงบ้านไม่ได้ว่าขวัญรดาอาจอยู่ตรงนี้ แต่บ้านเงียบเกินไป ดวงไฟก็เปิดแค่ในโถงกลาง เขาจึงตรงขึ้นไปชั้นบนเขาเดินผ่านห้องนอนใหญ่ ไม่เห็นแสงไฟลอดออกมา คิดว่าคนในห้องคงหลับสนิทแล้ว ขวัญรดาเข้านอนเร็ว จากที่คิดจะแกล้งเธอให้หนำใจที่ไล่เขาออกไปจากห้องนอนตัวเอง แต่เปลี่ยนใจ เอาไว้พรุ่งนี้ก็แล้วกัน รอให้สังขารของเขาพร้อมกว่านี้ก่อนมันเป็นการตัดสินใจที่บ้าดีเดือดครั้งใหญ่ หากไม่นับรวมถึงการตกลงแต่งงานกับติณณ์เมื่อสามเดือน
อากาศภายในห้องโถงของเพนต์เฮาส์เย็นฉ่ำด้วยเครื่องปรับอากาศที่ทำงานอย่างเงียบกริบและสม่ำเสมอ ติณณ์ตื่นนอนในเวลาใกล้เที่ยง เขายันกายขึ้นมานั่งพลางทบทวนความทรงจำว่าตนอยู่ที่นี่ได้อย่างไรชายหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือมาดูด้วยความเคยชิน พลันหัวใจเต้นแรงเมื่อเห็นข้อความล่าสุด“ขวัญ...”เมื่อเห็นรูปถ่ายของตัวเองที่นอนหลับไม่รู้สึกตัวกับโลเคชันของเพนต์เฮาส์ในข้อความที่ตอบกลับไป ติณณ์ก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องราวได้ แต่พอคิดว่าไม่เห็นขวัญรดาโทร.มาหาหรือส่งข้อความมาไถ่ถามอะไรอีก ความน้อยใจก็เกิดขึ้นมานิดๆเมียไม่ห่วง เห็นอยู่ว่าเราเมาหลับไม่รู้สึกตัวติณณ์ลุกขึ้นเดินเข้าไปในห้องนอนเพื่อจะอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ วันนี้เขาต้องเข้าไปที่โรงแรม โชคดีที่นัดกับพ่อไว้เป็นช่วงบ่าย ตอนนี้จึงยังเหลือเวลาพอให้จัดการตัวเอง“เฮ้ย! อย่าบอกว่านะว่าเธอขนเสื้อผ้าจะย้ายกลับไปอยู่บ้าน”ภัสสราร้องเอะอะเมื่อชะโงกหน้าไปดูที่นั่งทางตอนหลังของรถตู้ตัวเอง แล้วเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าและถุงใส่ข้าวของอัดอยู่เต็มรถเจ้าของสัมภาระยังปิดปากเงียบ ภัสสราจึงต้องหันไ
หัวใจของขวัญรดากระตุกแรงขณะมองภาพของสามีที่ถูกส่งเข้ามา กระดุมเสื้อเชิ้ตหลุดลุ่ยจนเห็นแผงอกเกือบครึ่ง เธอเลื่อนดูท่อนล่าง...ยังดีที่กางเกงยีนอยู่ในสภาพปกติ“ใครถ่ายรูปเขา”มือไม้สั่นเทา ขวัญรดาเห็นโลเคชันที่ถูกส่งตามมาให้เป็นเพนต์เฮาส์หรูย่านทองหล่อ เธอรู้ว่าติณณ์มีเพนต์เฮาส์อยู่ที่นี่ ในตึกนี้มีเพนต์เฮาส์ของคนดังและลูกหลานคนใหญ่คนโตครอบครองอยู่หลายคน...อีกทั้งยังจำได้ดีว่าคัทลียาเคยใช้เพนต์เฮาส์ของเขาเป็นสถานที่ถ่ายทำรายการที่เจ้าตัวเป็นแขกรับเชิญมาแล้ว“ไม่ยอมกลับบ้าน เพราะมีที่อื่นให้นอนอยู่แล้วนี่เอง ทุเรศที่สุด! ผู้ชายมักมาก! แค่แยกห้องคืนเดียวก็ทนไม่ได้ ถึงกับต้องไปหาผู้หญิงคนอื่น”เธอรู้ว่าติณณ์มีความต้องการมากแค่ไหน ตั้งแต่แต่งงานกันมา เขาไม่เคยว่างเว้นจากเธอ แล้วดูภาพที่ใครก็ไม่รู้ส่งเข้ามาสิ มันคิดเป็นอื่นไปไม่ได้เลย เสื้อผ้าหลุดลุ่ยขนาดนี้ แถมเขายังนอนหลับตาพริ้มอีกทำไมถึงเป็นแบบนี้…ทำไมเราต้องเจ็บปวดหัวใจอยู่คนเดียวคำถามเวียนซ้ำๆ อยู่ในหัว เมื่อคิดว่าค่ำคืนนี้ตนไม่อาจหลับตาลงได้อย่างแน่นอน หญิงสาว
“มึงมายุ่งอะไรกับเรื่องของกู”“ถ้ามึงไม่รักเมีย มึงก็เลิกกับเขาสิวะ มันจะยากอะไร คนบ้านนั้นเขายอมมึงอยู่แล้ว ส่วนเมียของมึงทั้งสาวทั้งสวย แถมยังเด็กอีกด้วย เดี๋ยวเขาก็มีผัวใหม่เอง”“ไม่เด็กแล้ว อายุยี่สิบห้าแล้ว”“เหรอ หน้าตาเหมือนเด็กเพิ่งจบมหา’ลัย”“มึงเลิกวิจารณ์เมียกูได้แล้ว”“ไอ้นี่มีหวง หวงเมียจังเลย แต่ปากบอกไม่รักเมีย ไม่รักแต่เพื่อนพูดถึงก็ไม่ได้ เดี๋ยวเถอะมึง กูจะฟ้องภัส”“อย่าแม้แต่คิด”ติณณ์ชี้ปรามเพื่อนอย่างจริงจัง แค่รับมือเมียคนเดียว เขาก็ไม่ไหว จนต้องเผ่นออกมานั่งดื่มเหล้าอยู่นี่อย่างไรล่ะ ถ้าพ่วงพี่เมียจอมวายร้ายมาด้วย เขาไม่อยากนึกถึงสภาพตัวเองหลากหลายอารมณ์ที่ถูกเก็บกดอยู่ข้างในทำให้เหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าถูกเทลงในลำคออวัชมองติณณ์ด้วยสายตาครุ่นคิด ติณณ์เคยมานั่งดื่มเหล้าในผับครั้งล่าสุดก็เป็นตอนที่เลิกกับแฟนเก่า โดยมาติดๆ กันนานเป็นสัปดาห์ จากนั้นเพื่อนก็หายหัวไปเลย หากติดตามข่าวคราวอยู่ห่างๆ เขาก็เห็นว่าติณณ์ก้าวหน้าเร
“อ้าว! งั้นก่อนหน้านี้เขาเอาเบอร์ที่ติดต่อไม่ได้มาให้เธอทำไม ยิ่งพูดฉันก็ยิ่งงง”“มันไม่เชิงติดต่อไม่ได้นะคะ บางทีขวัญก็ยังได้คุยกับเขา”“เธอเป็นเมีย คนที่ใกล้ชิดผัวมากที่สุดก็ควรเป็นเมีย ผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ถ้าเข้าไม่ถึงสามีตัวเอง ฉันก็ไม่รู้ว่าจะแต่งไปทำไม สู้อยู่สวยๆ โสดๆ ไปดีกว่า”“ขวัญคิดเรื่องนี้มาตลอดค่ะ แรกๆ เขากับขวัญอาจไม่คุ้นเคยกัน ความจริงมันก็เป็นอย่างนั้น เพราะเราไม่รู้จักกันเลย แต่ระยะหลังคุณติณณ์เปลี่ยนไป เขาน่ารักขึ้นมากค่ะ เขาเอาใจขวัญ ขวัญรู้สึกว่าสถานการณ์ระหว่างเรามันกำลังดีขึ้น เราปรับตัวเข้าหากันได้ ขวัญคิดว่าตัวเองกำลังจะมีความสุข”“แต่จู่ๆ เมื่อวานเธอก็รู้สึกเหมือนพลัดตกเหวลึกแบบไม่รู้ตัว” ภัสสราพูดต่อให้ด้วยพอจะเข้าใจสถานการณ์ระหว่างน้องสาวและน้องเขย“อารมณ์นั้นเลยค่ะ ขวัญกำลังคิดถึงเรื่องเบอร์โทรศัพท์ด้วยว่าขวัญควรจะโกรธเขาแค่ไหน”“เธอไม่ใช่ผู้หญิงงี่เง่า เธอเป็นคนใจเย็นและมีเหตุผล แต่การที่เธอไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย มันก็ทำให้คนบางคนได้ใจแล
เกือบสองทุ่ม ติณณ์เดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงไปยังห้องรับรองแขกที่อยู่คนละฝั่งกับห้องนอนใหญ่ซึ่งถูกขวัญรดาครอบครองไปเรียบร้อยแล้ว‘คุณขวัญให้หนูเปิดห้องไว้ให้คุณติณณ์แล้วค่ะ’เด็กรับใช้บอกด้วยท่าทางกล้าๆ กลัวๆ เมื่อเขาเคาะประตูเรียกขวัญรดารัวๆ อยู่หลายครั้ง ครั้นเรียกหากุญแจสำรองด้วยหวังจะเข้าห้องนอนของตัวเองให้ได้ เขาก็ได้รับคำตอบที่ทำให้หัวเสียยิ่งขึ้นไปอีก‘คุณขวัญเก็บกุญแจสำรองในบ้านไว้หมดแล้วค่ะ’ชายหนุ่มผลักประตูห้องพักที่ถูกเตรียมไว้ให้ แล้วมายืนอยู่กลางห้องพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ...ห้องกว้างขวางและสะดวกสบายดี แต่มันเรื่องอะไรกันล่ะที่เขาจะต้องมามุดหัวอยู่ในห้องนี้ แทนที่จะได้อยู่ในห้องนอนของตัวเองชายหนุ่มตรงไปกระชากประตูตู้เสื้อผ้าให้เปิดออก พลันเขาต้องคำรามเสียงเข้มเมื่อเห็นเสื้อผ้าของตัวเองแขวนเรียงรายอยู่ในนี้แล้ว“ขวัญรดา...ตัวแสบจริงๆ”ตอนกลางวันเขาพยายามหลบหน้าขวัญรดาโดยเข้าไปทำงานในห้องทำงาน เขาเลี่ยงที่จะพบหน้าเธอ เพราะไม่อยากตอบคำถามใดๆ หากเจ้าหล่อนกลับฉวยจังหวะนี้ตลบหลังเขา ด้วยการย้ายข้าวของของเขาเข้า
“ถามอะไรเนี่ย ขวัญจะมาบ้านนี้เมื่อไรก็ตามใจเถอะ”“พ่อไม่เห็นคิดเหมือนแม่เลย”ขวัญรดาบอกเสียงกระเง้ากระงอด เมื่อแม่พูดอย่างเปิดทางให้ หญิงสาวจึงเดินไปกอดเอวแม่และซุกอกอุ่นอย่างประจบคุณจงกลลูบศีรษะลูกสาว แล้วพูดเสียงอ่อนลง“เมื่อกี้ขวัญเดินย่องลงมาเพราะกลัวพ่อเห็นใช่ไหมว่าเมื่อคืนขวัญหนีกลับมานอนที่บ้าน”ขวัญรดาพยักหน้าหงึกๆ เงยหน้าขึ้นมามองแม่ตาแป๋วเหมือนตอนเด็กไม่ผิดเพี้ยน“พ่อเป็นห่วงขวัญและพ่อก็เกรงใจคุณติณณ์ด้วย ขวัญแต่งงานกับคุณติณณ์แล้ว คิดจะไปไหนมาไหนเหมือนเมื่อก่อนก็คงไม่ได้ ถ้ามาที่บ้านนี้ทั้งสองคนก็ไม่มีใครว่าอะไรหรอก แต่การที่ขวัญกลับมานอนค้างที่บ้านคนเดียวบ่อยๆ มันก็ดูไม่ดี ขวัญรู้ไหมว่าตั้งแต่แม่แต่งงานกับพ่อ แทบไม่มีวันไหนเลยที่พ่อกับแม่แยกบ้านกัน นอกเสียจากมีความจำเป็นเรื่องงานที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดต้องเดินทาง แต่พอเสร็จจากงาน เราก็กลับมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้วยกัน”แม่ทำได้ เพราะพ่อเป็นพ่อ พ่อรักแม่คนเดียว พ่อไม่ใช่ผู้ชายอย่างคุณติณณ์...ขวัญรดาคิดค้านอยู่ในใจ แต่ไม่กล้าปริปากพูดให้แม่รู้เรื่