หน้าหลัก / โรแมนติก / พ่อพรายรพี / ความโหดร้ายของโชคชะตา

แชร์

พ่อพรายรพี
พ่อพรายรพี
ผู้แต่ง: theoneyoulove

ความโหดร้ายของโชคชะตา

ผู้เขียน: theoneyoulove
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2024-11-04 23:56:52

   เสียงกระแทกของประตูที่ถูกเปิดออกดังก้องในความมืด มีนาเกาะอยู่ในมุมห้อง ขณะมือของพวกเขายื่นออกมาจับเธอไว้ เธอรู้สึกถึงแรงกดดันและความกลัวที่กัดกินทุกส่วนของร่างกาย ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะพังทลาย

“ทำไมต้องทำแบบนี้!” มีนาตะโกนออกมาเสียงสั่นเครือ แต่คำพูดของเธอกลับถูกกลบด้วยเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ดังขึ้นใกล้เข้ามา

มือที่แข็งแกร่งจับข้อมือของเธออย่างแน่นหนา การดิ้นรนของเธอทำได้เพียงแค่พยายามจะหลุดออก แต่การต่อสู้ของเธอกลับไม่มีทางชนะ

“เงียบ!” เสียงของผู้นำกลุ่มดังก้องเข้ามาในหูของเธอ มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและอำนาจ ความรู้สึกของการถูกจับกุมและไม่สามารถหนีได้ทำให้หัวใจของมีนาคล้ายจะหยุดเต้น

เธอได้ยินเสียงเหล็กดังกระทบกัน การเปิดและปิดประตู และเสียงกระซิบของคำสั่งที่ถูกส่งผ่านความมืด ท่ามกลางความโกลาหลนี้ มีนาเริ่มรู้สึกว่าความหวังของเธอกำลังจะหมดไป

เมื่อประตูปิดลงอีกครั้ง มีนาพยายามสงบสติและหาทางออก แต่ความรู้สึกของความกลัวที่แผ่ขยายออกมานั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกจมอยู่ในความมืดมิดที่ไม่รู้ว่าจะมีทางรอดหรือไม่

ภายในรถมินิบัส

ถุงคลุมหัวที่ถูกดึงลงมาปิดบังทุกสิ่งทุกอย่าง ทำให้มีนาหายใจไม่สะดวก ความมืดมิดที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้เธอไม่สามารถเห็นอะไรเลย สัมผัสของถุงที่หนาทึบและยืดหยุ่นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกพันธนาการในความมืดที่ไร้ขอบเขต

“ปล่อยฉันเถอะ!” เสียงของเธอดังออกมาผ่านทางผ้าที่คลุมอยู่ แต่เสียงของเธอถูกรบกวนด้วยความรู้สึกของความมืดและการขาดอากาศที่เพิ่มขึ้น

ทุกๆ วินาทีที่ผ่านไปเหมือนจะยืดเยื้อยาวนานอย่างไม่สิ้นสุด มือของเธอพยายามขยับเพื่อดึงถุงออก แต่การเคลื่อนไหวของเธอกลับไม่มีทางทำให้ถุงหลุดออกไป ความรู้สึกของการถูกปิดกั้นทำให้เธอเริ่มรู้สึกถึงความเครียดที่เพิ่มมากขึ้น

“ใคร? คุณจะทำอะไรกับฉัน?” เธอตะโกนด้วยเสียงที่สั่นเครือ แต่คำถามของเธอกลับไม่มีการตอบรับ อากาศที่ผ่านทางถุงยังคงหนาแน่นและทำให้การหายใจของเธอไม่สะดวก

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าและแสนยาวนาน มีนารู้สึกถึงความสับสนและความกลัวที่กัดกินใจ ความรู้สึกที่เหมือนเวลาไม่มีการเคลื่อนไหว ความมืดที่เต็มไปด้วยความเงียบสงัดทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในหลุมอากาศที่ไม่รู้จะหลุดพ้นไปได้อย่างไร

ทุกครั้งที่มีการเคลื่อนไหวของรถ ความรู้สึกของการถูกโยนไปมาทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น การไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะไปที่ไหนและไม่รู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปทำให้เธอรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังพังทลาย

เมื่อรถหยุดและประตูเปิดออก มีนาได้ยินเสียงของฝีเท้ากระทบพื้นและเสียงที่พูดคุยกันอย่างไม่ชัดเจน เธอพยายามรวบรวมความกล้าและสติ แต่ทุกอย่างก็ยังคงอยู่ในความมืดมิดและเงียบสงัด

“พวกแกต้องการอะไร?” มีนาตะโกนออกไปด้วยความวิตกกังวล “ต้องการเงินเหรอ? พ่อฉันมีเงิน! โทรหาพ่อฉัน! เขาจะจ่ายเงินให้พวกแก!”

เสียงของเธอเต็มไปด้วยความหวังและความเครียด ความพยายามในการเรียกร้องให้พวกเขาติดต่อพ่อของเธอนั้นเป็นความหวังสุดท้ายที่เธอมี แต่เสียงของเธอกลับสะท้อนในความมืดและเงียบสงัดของห้อง

“ปล่อยฉันไปเถอะ!” เธอร้องขอด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด “ฉันจะทำตามที่พวกแกต้องการทุกอย่าง! ขอแค่ปล่อยฉันไป!”

เธอพยายามรวบรวมความกล้าและความสงบในการพูด แต่คำร้องของเธอกลับไม่มีการตอบรับ สิ่งที่เธอได้รับคือความเงียบที่กดดันและทำให้รู้สึกถึงการโดดเดี่ยวที่เพิ่มมากขึ้น

มีนาตื่นขึ้นมาจากการหลับลึกโดยรู้สึกถึงความเจ็บปวดและความเหนื่อยล้าที่แผ่ไปทั่วร่างกาย ความมืดยังคงอยู่รอบตัวเธอ แต่เมื่อลืมตาขึ้นมา เธอก็เริ่มรู้สึกถึงความจริงของสถานการณ์ที่เธอเผชิญอยู่

เธอพบว่าตัวเองนอนอยู่ในกรงขังไม้ที่มืดทึบ เสียงไม้ครูดและการเคลื่อนไหวที่เบาบางรอบตัวทำให้เธอรู้ว่าเธอไม่ได้อยู่คนเดียว เธอลุกขึ้นนั่งและมองไปรอบๆ สถานที่ที่เป็นกรงขังซึ่งถูกสร้างขึ้นอย่างหยาบๆ และแข็งแรง

กรงขังที่มีนาอยู่เต็มไปด้วยเฉลยที่นอนอยู่ในมุมต่างๆ พวกเขามีท่าทางที่เหนื่อยล้าและสิ้นหวัง เหล่าผู้ที่ถูกขังรวมตัวอยู่ในพื้นที่จำกัดทำให้บรรยากาศรู้สึกหนักหน่วงและน่าสะพรึงกลัว

มีนาเงยหน้าขึ้นและพยายามสังเกตสิ่งแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย เธอเห็นแสงสลัวๆ ที่ลอดผ่านช่องกรงไม้ บางครั้งเสียงกระซิบและการเคลื่อนไหวของเฉลยที่มีอาการคล้ายๆ กันทำให้เธอรู้สึกถึงความเศร้าและความท้อแท้ที่ปกคลุมอยู่ในที่แห่งนี้

“นี่มันที่ไหน?” มีนาถามออกไปเสียงแผ่วเบา การถามคำถามนั้นเป็นเพียงความพยายามในการหาทางออกจากสถานการณ์ที่ไม่มีความหวัง เธอรู้สึกถึงความสิ้นหวังและความวิตกกังวลที่เพิ่มขึ้น

เมื่อเธอเริ่มหันไปหาผู้ที่นอนอยู่รอบๆ เธอพบว่ามีคนบางคนเงยหน้าขึ้นมาและมองเธอด้วยความสงสัยและความเห็นใจ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะเคยอยู่ในสถานการณ์เดียวกันมาก่อน

“เธอก็มาอยู่ที่นี่แล้ว” หนึ่งในผู้ที่ถูกขังพูดขึ้นด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเหนื่อยล้าและความผิดหวัง “เหมือนกับพวกเรา”

เสียงของเขาเป็นการยืนยันถึงความจริงที่มีนาเพิ่งรู้สึกได้—เธอเป็นเพียงหนึ่งในกลุ่มคนที่ถูกขังอยู่ในกรงนี้ และสถานการณ์ที่เธอเผชิญอยู่นั้นมีความซับซ้อนและเต็มไปด้วยความยากลำบาก

แสงอาทิตย์เริ่มแทรกผ่านช่องกรงไม้ สาดส่องเข้าสู่พื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเศร้าและความท้อแท้ ความสว่างของยามเช้าตัดกับความมืดที่เกาะอยู่ในใจของมีนา เธอรู้สึกถึงความหวาดกลัวที่เพิ่มมากขึ้นเมื่อเห็นความสว่างที่ส่องเข้ามาในกรงขัง

เธอเริ่มรู้สึกถึงความเหนื่อยล้าทางจิตใจที่กดทับอยู่ในตัวเอง น้ำตาเริ่มไหลลงมาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ เธอไม่สามารถยับยั้งความเศร้าและความหวาดกลัวที่ท่วมท้นหัวใจของเธอ

“พ่อ… ช่วยหนูด้วย…” เธอพูดเบาๆ กับตัวเองในขณะที่น้ำตาไหลออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง ความคิดถึงพ่อของเธอทำให้ความรู้สึกของเธอทวีความรุนแรงมากขึ้น

เสียงร้องไห้ของมีนาในความสะลัวของยามเช้าดูเหมือนจะกลายเป็นความหวังที่ห่างไกล เธอรู้ว่าพ่อของเธอคงไม่มีทางรู้ว่าลูกสาวของเขาตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้ แต่ความคิดถึงพ่อทำให้เธอรู้สึกถึงการถูกทิ้งอยู่ในที่ที่ไม่สามารถหนีได้

“พ่อ… ทำไมพ่อไม่มาที่นี่?” เธอร้องไห้ด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด ความรู้สึกของการถูกทิ้งและการไม่รู้ว่าจะไปหันหน้าไปทางไหนทำให้เธอรู้สึกถึงความว่างเปล่าในใจ

น้ำตาของเธอไหลลงมาจนเปื้อนใบหน้า และเสียงสะอื้นของเธอก็เงียบลงในความเงียบของห้อง เมื่อการร้องไห้ของเธอหยุดลง 

ในขณะที่มีนานั่งร้องไห้อยู่ในมุมของกรงขังไม้ สาวชาวบ้านที่นอนอยู่ในอีกมุมหนึ่งของกรงขังเริ่มขยับตัวอย่างลุกลี้ลุกลน เธอแสดงออกถึงความวิตกกังวลอย่างชัดเจน และดูเหมือนจะพยายามเข้ามาใกล้มีนาอย่างระมัดระวัง

“คุณ!” เสียงของสาวชาวบ้านนั้นเบาและเต็มไปด้วยความกระวนกระวาย เธอค่อยๆ เข้ามาหามีนาและยกมือขึ้นมาห้ามไม่ให้มีนาพูดเสียงดัง “อย่าเสียงดัง! เดี๋ยวพวกมันจะกลับมาทำร้ายเรา!”

สาวชาวบ้านมีท่าทางที่เหนื่อยล้าและเต็มไปด้วยความกลัว ดวงตาของเธอจับจ้องไปรอบๆ อย่างไม่สบายใจเพื่อให้แน่ใจว่าความเงียบสงบยังคงอยู่ในกรงขัง เธอเข้ามาใกล้จนมีนาแทบจะสัมผัสได้ถึงลมหายใจของเธอ

“พวกมัน...” สาวชาวบ้านกระซิบเสียงแผ่ว “พวกมันจะกลับมาอีกไม่นาน พวกมันไม่ชอบเสียงดัง คุณต้องพยายามเงียบไว้ อย่าให้พวกมันได้ยินเรา”

น้ำเสียงของสาวชาวบ้านเต็มไปด้วยความวิตกกังวลและความกลัว การพูดถึง "พวกมัน" ที่จะกลับมาทำให้มีนารู้สึกถึงความอันตรายที่คืบคลานเข้ามาใกล้ เธอพยักหน้าและพยายามกลั้นเสียงสะอื้นของตัวเองให้เบาที่สุด

“ฉันไม่รู้ว่าคุณเป็นใคร แต่ฟังฉันเถอะ” สาวชาวบ้านกล่าวเสียงแผ่ว “เราต้องอดทนและหาทางออกจากที่นี่ให้ได้ พวกมันจะกลับมาเร็วๆ นี้”

        แสงอาทิตย์ส่องเข้ามาในกรงขังไม้ ทำให้ความมืดที่แผ่ปกคลุมเริ่มจางหายไป ความสว่างของยามเช้าส่งแสงผ่านช่องกรงไม้เผยให้เห็นภาพของตลาดที่คึกคักภายนอก

เมื่อมีนาเปิดตามองออกไป ภาพที่เห็นทำให้เธอรู้สึกถึงความตกตะลึงและความสิ้นหวังในเวลาเดียวกัน กรงขังที่เธออยู่ตั้งอยู่ท่ามกลางตลาดที่คึกคักในขุนเขา มีชาวบ้านที่มานั่งขายของป่านานาชนิดเรียงรายอยู่รอบๆ

ตลาดนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวาและสีสัน มีพ่อค้าแม่ค้าที่ตะโกนเรียกลูกค้าและเสนอขายสินค้าท้องถิ่น เช่น สมุนไพรป่า ผลไม้แปลกๆ และเครื่องมือการเกษตรที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เสียงพูดคุยของชาวบ้านผสมกับเสียงการแลกเปลี่ยนสินค้าทำให้บรรยากาศมีความคึกคักและเต็มไปด้วยชีวิต

ขณะที่มีนามองออกไปจากกรงขัง เธอเห็นผู้คนเดินผ่านไปมา ชาวบ้านที่มีท่าทางสุขสบายและใช้ชีวิตตามปกติ โดยไม่สนใจกรงขังที่ตั้งอยู่กลางตลาด ในขณะที่พวกเขาต่างยุ่งอยู่กับการซื้อขายและพูดคุยกัน

“ทำไมไม่มีใครช่วยเรา?” มีนาพูดกับตัวเองเสียงเบา เมื่อเห็นภาพที่ขัดแย้งกันระหว่างความปกติของชีวิตภายนอกและความทุกข์ทรมานที่เธอกำลังเผชิญอยู่ในกรงขัง

สาวชาวบ้านที่นั่งอยู่ใกล้ๆ หันมามองมีนาและกล่าวเสียงแผ่ว “พวกเขาอาจกลัวที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวกับพวกมัน”

หัวหน้าโจร: ยืนอยู่บนแท่นกลางสนามประมูล ตะโกนเสียงดัง "ฟังให้ดีๆ ทุกคน! ตอนนี้ถึงเวลาของจริงแล้ว! มาๆ กันเถอะ!"

เสียงฝูงชน: ส่งเสียงฮือฮาและกระซิบกันในฝูงชน "มาดูสิ! ของดีๆ มาแล้ว!"

หัวหน้าโจร: ตะโกนเสียงดัง "เราจะเริ่มการประมูลเดี๋ยวนี้แหละ! ของที่เรามีวันนี้มีค่าสูงลิบ! ไม่ควรพลาด!"

มีนา: ยืนอยู่ในมุมมืดของกรงขัง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก "ประมูล? ฉันต้องถูกประมูลด้วยเหรอ?"

หัวหน้าโจร: ตะโกนอีกครั้ง "มาๆ ทุกคน! อย่าช้า! ของที่เรามีวันนี้มันเด็ดจริงๆ! 

      เสียงตะโกนของพ่อค้าและเสียงตบมือจากผู้ที่ชนะการประมูลดังลั่น ตลาดเริ่มมีความคึกคักอย่างผิดปกติ พร้อมกับเสียงร้องไห้และการขอความช่วยเหลือที่แทรกซ้อนอยู่ในความวุ่นวาย

มีนาสัมผัสได้ถึงความตึงเครียดในอากาศเมื่อชาวบ้านในกรงขังทยอยถูกลากออกไปทีละคน การประมูลเริ่มขึ้นและเสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดจากผู้ถูกจับกลายเป็นเพลงประสานกับเสียงการประมูล

“ปล่อยฉันไป!” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวคนหนึ่งดังขึ้น “อย่าทำร้ายฉัน!”

เสียงคำขอความช่วยเหลือที่เจือด้วยความสิ้นหวังนั้นมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวที่โกลาหลของสมุนโจร มีผู้คนมากมายรายล้อมอยู่รอบๆตลาดที่เข้ามาดูการประมูล พวกเขาหมายตาสิ้นค้าที่ว่าที่อยู่ในกรงไม้และการเลือกซื้อที่ไร้ความปรานี

“ช่วยฉันด้วย!” เสียงกรีดร้องของหญิงสาวที่ถูกลากออกไปดังขึ้น “ไม่! อย่า!”

การกระทำของพวกเขาเต็มไปด้วยความโหดร้าย สมุนโจรบางคนไม่ลังเลที่จะใช้กำลังในการควบคุมผู้ที่ต้านทาน การจับตัวและลากออกไปอย่างรุนแรงทำให้มีนารู้สึกถึงความหวาดกลัวที่ท่วมท้น

สาวชาวบ้านที่อยู่ข้างๆ มีนาพยายามพูดเสียงต่ำ แต่ไม่สามารถปกปิดความวิตกกังวลของเธอได้ “พวกมันจะไม่หยุดจนกว่าทุกคนจะถูกขายออกไปหมด ถ้าพวกมันเห็นเราพูดเสียงดังหรือเคลื่อนไหว…”

เธอหยุดพูดเมื่อเสียงดังขึ้นจากการประมูลอีกครั้ง เสียงของพวกมันชัดเจนและดุดัน “หุบปาก!” เสียงของสมุนโจรคนหนึ่งตะโกน “ใครทำเสียงดังจะเชือดทั้งซะให้หมด!”

มีนาได้ยินเสียงปืนและเสียงแหลมของวัตถุต่างๆ ถูกทุบกระแทกลงบนพื้นอย่างไม่ปราณี สถานการณ์ในกรงขังนั้นเต็มไปด้วยความโหดร้ายและความไร้ความปรานี

เมื่อเสียงของคนที่ถูกซื้อไปจางลงและกลายเป็นความเงียบสงัดในกรงขัง 

มีนา: น้ำตาไหลและเสียงสั่น "ไม่! ฉันไม่ต้องการ! ขอร้องเถอะ... อย่าทำกับฉันแบบนี้ ติดต่อพ่อฉัน พ่อฉันมีเงิน"

หัวหน้าโจร: ยิ้มอย่างร้ายกาจ "ขอร้อง? ฮ่าฮ่า! ที่นี่ไม่มีที่ให้ขอร้องหรอก เธอจะต้องดูว่าใครจะจ่ายมากที่สุด!"

หัวหน้าโจร: ตะโกนสุดเสียง "เริ่มการประมูลเลย! ใครจะเป็นคนเสนอราคาสูงสุด? มาดูกัน!"

“เงียบ!” หัวหน้าโจรตะโกนด้วยเสียงที่ดังก้องไปทั่วตลาด เสียงของเขาดูเหมือนจะมีอำนาจเหนือเสียงอื่นๆ ทำให้ทุกคนต้องหยุดฟัง

        หัวหน้าใจรที่ยืนอยู่ร้องตะโกนเพื่อให้ทุกคนหยุดพูด เพื่อให้ความเงียบปกคลุม ก่อนที่เขาจะพูดต่อด้วยความมั่นใจ “วันนี้เรามีของดีสุดพิเศษ! สาวน้อยคนเมืองแสนสวย และที่สำคัญบริสุทธ์อยู่—เธอคือของที่ดีที่สุดที่เรามี!”

หัวหน้าโจรชี้ไปที่กรงขังที่มีนาอยู่ ความรู้สึกของความพอใจและความเหี้ยมโหดของมันแสดงออกชัดเจน เมื่อเห็นความหวาดกลัวและความสิ้นหวังบนใบหน้าของมีนา

“วันนี้จะเริ่มที่ห้าหมื่น!” เขาตะโกนด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ “ใครสนใจซื้อสาวสวยนี้ ขอให้เสนอราคาสูงที่สุด!”

เสียงการประมูลเริ่มต้นขึ้นทันที เสียงตะโกนของผู้ซื้อดังขึ้นในตลาด พวกเขาตั้งใจฟังการประกาศของหัวหน้าโจรและเตรียมตัวสำหรับการประมูล

“ห้าหมื่น!” เสียงของผู้ซื้อคนหนึ่งดังขึ้นในทันที

หัวหน้าโจรยิ้มเย้ยหยันและพยักหน้า “ใครจะให้สูงกว่านี้อีก!”

เสียงประมูลเริ่มรุนแรงขึ้น เสียงของผู้ซื้อที่เสนอราคาสูงขึ้นเรื่อยๆ เริ่มสร้างความตึงเครียดในตลาด 

มีนาเฝ้าดูอย่างสิ้นหวังเมื่อเห็นตัวเลขราคาที่เพิ่มสูงขึ้น ความหวาดกลัวในใจของเธอเพิ่มขึ้นเมื่อเสียงการประมูลดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงของเธอที่ขอความช่วยเหลือกลายเป็นเพียงเสียงที่แทรกอยู่ในความวุ่นวายของตลาด

“ปล่อยฉันไปเถอะ!” มีนาร้องไห้และขอความช่วยเหลือ “ฉันจะให้ทุกอย่าง!”

แต่เสียงของเธอกลับถูกกลบด้วยเสียงประมูลและเสียงหัวเราะชั่วร้ายของพ่อค้าที่สนใจในการซื้อเธอ

ทันใดนั้น เสียงทุ้มและทรงพลังจากผู้ที่ยืนอยู่ในมุมมืดของตลาดดังก้องขึ้น 

“สองแสน!”

เสียงของเสือเข้ม ดังก้องไปทั่วตลาด เสียงของเขาเต็มไปด้วยความมั่นใจและความน่ากลัว เมื่อเขายื่นเสนอราคาที่สูงจนทุกคนต้องหันไปมอง

หัวหน้าโจรมองไปยังที่มาของเสียงด้วยความสนใจและอารมณ์ที่เปลี่ยนไป “สองแสน!” เขาตะโกนด้วยความประหลาดใจและเคารพในข้อเสนอ “ใครจะท้าทายราคานี้? เสือเข้มเสนอราคาสูงเกินจะตามได้!”

เสียงประมูลเงียบลงในทันที การเสนอราคาสูงของเสือเข้มทำให้ตลาดตกอยู่ในความเงียบงัน

เสือเข้มยืนอยู่ในมุมมืดของตลาด ตั้งแต่เช้ามืด เขาได้เห็นมีนาผ่านช่องกรง และความงามของเธอทำให้เขาต้องการเธออย่างมาก 

“เอาละนะ นับ หนึ่ง สอง!”

“ห้าแสน!” เสียงของพรายรพีดังขึ้นอย่างทรงพลังและเต็มไปด้วยอำนาจ

ในช่วงเวลาแห่งความเงียบที่ตามมา ความรู้สึกของความเยือกเย็นและความดุดันเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลัน เมื่อพ่อพรายรพีปรากฏตัวจากเงามืดของตลาด

ร่างสูงใหญ่ของพรายรพีเดินออกมาจากมุมมืด ชุดเสื้อผ้าของเขาดูหม่นหมอง แต่สะท้อนถึงความแข็งแกร่ง รอยสักยันต์ที่ปกคลุมร่างกายของเขาเป็นเครื่องหมายของอำนาจและความน่าสะพรึงกลัว ดวงตาของเขาคือสิ่งที่ทำให้ทุกคนรู้สึกถึงความหนาวเย็น

พรายรพียืนกอดอกด้วยท่าทางที่แสดงถึงความมั่นใจและความท้าทาย ข้อมือที่ถือดาบยาวของเขาดูแข็งแกร่ง เสียงเหล็กกระทบกันจากการหมุนดาบในมือของเขาเป็นเสียงที่ทำให้ตลาดเงียบลง

จ้อย: ยืนอยู่ข้างๆ พรายรพี ดูเหมือนจะตกใจ "นาย นายจะเริ่มที่ห้าแสนเลยเหรอ?"

พรายรพี: ยิ้มเยาะ "แค่ห้าแสนเอง ไอ้จ้อย ข้าจะเริ่มที่ราคานี้แค่เพื่อให้ไอ้เข้มมันรู้ว่ามันไม่อาจมาเทียบกับเราได้ ข้าจะสนุกกับการเห็นมันพยายามเอาชนะเรา"

จ้อย: หัวเราะเบาๆ "ฮ่าฮ่า เข้าใจแล้วนาย ขนาดราคาแค่ห้าแสน ยังต้องการทำให้ไอ้เข้มมันเดือดร้อน"

เสียงฝูงชน: ส่งเสียงตื่นเต้นและคึกคัก

เข้ม: เดินเข้ามาอย่างโกรธเกรี้ยว "ไอ้รพี! แกกล้าทำแบบนี้กับข้าหรอ?! ห้าแสน? แกจะเล่นอะไรกับข้าหะ?"

พรายรพี: หันไปมองเข้มด้วยความเย็นชา 

เข้ม: กร้าวเสียง "ไอ้รพี! แกคิดว่าจะแย่งของ ของข้าเหรอ

เข้ม: เดินเข้ามาพร้อมความโกรธ "ไอ้รพี! แกกล้าเหยียบย่ำข้าแบบนี้ได้ยังไง? ห้าแสนเหรอ? แกคิดว่าแกจะขัดขวางข้าได้ด้วยราคานี้?"

พรายรพี: ยิ้มอย่างสะใจ 

เข้ม: ขมวดคิ้วและโกรธจัด "ไอ้รพี! ข้าจะให้ราคาสูงกว่านี้! แกอย่าหวังว่าจะขัดขวางข้าได้ง่ายๆ!"

สมุนของเข้ม: กระซิบเข้าที่หูของเข้ม "พี่เข้ม พอเถอะ เรามีเงินไม่พอจะให้สูงกว่านี้ตอนนี้จริงๆ"

เข้ม: หันไปมองสมุนด้วยความไม่พอใจ "ห๊ะ อะไรนะ? เราไม่มีเงินได้ไงวะ?"

สมุนของเข้ม: ตอบด้วยน้ำเสียงที่แสดงถึงความวิตกกังวล "นายใหญ่จำกัดเงินพี่เข้มไว้ตอนนี้ ลืมแล้วเหรอ?"

เข้ม: พ่นลมหายใจด้วยความหงุดหงิด "เชี่ย! ข้าลืมไปจริงๆ..

       เมื่อเสียงของพรายรพีดังก้องไปทั่วตลาด เสือเข้มก็ยอมแพ้และเลิกเสนอราคา ความเงียบที่ปกคลุมตลาดนั้นเผยให้เห็นความมั่นใจของพรายรพีที่ไม่มีใครกล้าท้าทาย

หัวหน้าโจรมองไปที่พรายรพีด้วยความเคารพและความหวาดกลัว “ห้าแสน! “การประมูลเสร็จสิ้นแล้ว!”

พรายรพีเดินไปยังโต๊ะประมูลพร้อมกับดวงตาที่แข็งแกร่งและอำนาจ เขาไม่แสดงอาการใดๆ ที่เกี่ยวกับความตื่นเต้นหรือความพอใจในการชนะ 

         เมื่อชนะเข้มด้วยความสะใจ พรายรพีหันหลังและเดินออกไปจากตลาดอย่างไม่รีบร้อน ความสง่างามและความดุดันของเขาสะท้อนออกมาในทุกย่างก้าว เขาไม่แม้แต่จะหันไปมองที่มีนา หรือสนใจสิ่งที่เขาเพิ่งประมูลได้

การเดินออกไปของพรายรพีทำให้ตลาดตกอยู่ในความเงียบงัน ความรู้สึกของความตกใจและความหวาดกลัวยังคงอยู่ในอากาศ เขาไม่แสดงออกถึงความรู้สึกหรือความสนใจในสิ่งที่เขาได้มาครอบครอง ความเย็นชาและความเถื่อนของเขายิ่งทำให้ผู้คนละแวกนั้นรู้สึกหนาวเย็นไปตามๆกัน

มีนายังคงอยู่ในกรงขังไม้ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง เมื่อเห็นพรายรพีเดินออกไปโดยไม่สนใจเธอเลย ความรู้สึกของการถูกทอดทิ้งและความอันตรายที่ยังคงอยู่ในชีวิตของเธอทำให้เธอรู้สึกถึงความสิ้นหวังอย่างมาก

       

      คืนที่ท้องฟ้ามืดครึ้มและเต็มไปด้วยหมอก พรายรพีกลับมาถึงกระท่อมที่อยู่บนยอดเขาในช่วงดึกของคืน เขาเดินด้วยความมั่นใจตามเส้นทางที่คุ้นเคย ร่างของเขากระทบกับแสงจันทร์ที่สาดส่องผ่านต้นไม้หนาทึบ เสียงฝีเท้าของเขาดังสะท้อนในความเงียบของป่า

เมื่อพรายรพีเข้ามาถึงกระท่อม เขาเปิดประตูเข้าไป ภายในกระท่อมเป็นที่เงียบสงัดและมืดครึ้ม

ทันทีที่เขาเดินเข้าไปในกระท่อม เสียงเคลื่อนไหวเบาๆ ดังขึ้นจากมุมหนึ่งของกระท่อม การเคลื่อนไหวนี้  ทำให้พรายรพีหยุดเดินและตึงเครียด ร่างกายของเขาตื่นตัวอย่างรวดเร็ว

“ใครอยู่ที่นี่?” พรายรพีถามด้วยเสียงต่ำและดุดัน

เขาชะงักหูและมองไปรอบๆ สถานที่นั้น ดูเหมือนว่าเขาจะไม่เห็นสิ่งใดนอกจากเงามืดที่คุ้นเคย แต่เสียงเคลื่อนไหวที่ยังคงดำเนินต่อไปนั้นชัดเจนและดังกังวานในความเงียบ

พรายรพีเดินไปที่มุมของห้องอย่างระมัดระวัง มือของเขากุมดาบยาวคู่ใจไว้ในมือแน่น แต่เขาก็ไม่เห็นใคร นอกจากความเงียบสงัดที่ครอบคลุม

เสียงเคลื่อนไหวเริ่มชัดเจนขึ้น—ดูเหมือนว่าจะเป็นเสียงของสิ่งของที่เคลื่อนที่หรือบางสิ่งที่พยายามซ่อนตัว ในขณะที่เขาก้าวไปข้างหน้า 

“ออกมาเดี๋ยวนี้!” พรายรพีตะโกนอีกครั้งด้วยเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจ

เมื่อเสียงกุกกักดังขึ้นอีกครั้งในความมืดของกระท่อม พรายรพีไม่รอช้า ร่างสูงใหญ่ของเขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วในความสลัว เขากระโจนเข้าไปหาผู้ที่เขาคิดว่าอาจจะเป็นภัยคุกคาม ร่างของเขาบิดตัวเพื่อควบคุมความเร็วและแรงในการกระโจน

พรายรพีเงื้อดาบขนาดใหญ่ขึ้นเหนือศีรษะ ดวงตาของเขากวาดมองหาทิศทางที่มาจากเสียง 

แต่ก่อนที่ดาบของเขาจะถึงร่างตะคุ่มนั้น เสียงกรีดร้องของผู้หญิงดังขึ้นอย่างกระทันหัน ความหวาดกลัวในเสียงนั้นทำให้พรายรพีหยุดชะงัก เขาหยุดกลางอากาศและหันไปยังต้นเสียง

พรายรพี: มองไปที่มีนาด้วยสายตาที่สงสัยและไม่พอใจ "เธอเป็นใคร? มาที่นี่ได้ยังไง?"

มีนา: ตอบด้วยเสียงที่สั่น "ก..ก็ หัวหน้าโจรส่งฉันมาที่นี่... บอกว่าคุณคือนายคนใหม่ของฉัน"

พรายรพี: ยิ้มอย่างเยาะเย้ย "อ้อ 

มีนา: พยักหน้าอย่างสับสนและหวาดกลัว "ใช่ค่ะ... เขาบอกว่าฉันต้องมาที่นี่และทำตามคำสั่งของคุณ"

พรายรพี: มองไปที่มีนาด้วยความเย็นชา 

มีนา: เสียงสั่นและเริ่มร้องไห้ "ฉันขออยู่ที่นี่ด้วยได้ไหมคะ? ขอให้ฉันอยู่ที่นี่ก่อน... ฉันไม่รู้จะทำอย่างไร"

        มีนาถูกพาตัวมาจากตลาดมืดโดยหัวหน้าโจรที่ว่านั่นก็คือจ้อยลูกน้องพ่อพรายรพีนั่นเอง 

จ้อยได้บอกกับมีนาอย่างทารุณว่าเขาคือหัวหน้าโจรที่มีอำนาจและเงื่อนไขที่ไม่มีทางหนีได้ เขาเตือนมีนาว่า หากเธอพยายามหนีออกไปจากกระท่อมนี้โดยไม่มีพ่อพรายรพีอยู่ด้วย เธอจะตกไปเป็นเมียของทุกคนในรังโจรที่อยู่ใกล้ๆ 

“ถ้าเธอคิดจะออกไปจากที่นี่” จ้อยกล่าวเสียงแข็ง “เธอจะต้องกลายเป็นของเล่นของพวกเรา ไม่มีใครจะมาช่วยเธอจากที่นี่ได้”

คำพูดเหล่านี้ทำให้มีนาตกอยู่ในความหวาดกลัวและสิ้นหวัง เมื่อจ้อยพามาส่งที่กระท่อม

       เมื่อสายตาของพรายรพีปรับตัวได้ในความมืด พรายรพีก็เห็นหญิงสาวคนหนึ่งที่สั่นเทาอยู่มุมนึงของกระท่อม เธออยู่ในสภาพที่แทบจะไม่สามารถรู้ได้ว่าหน้าตาเป็นอย่างไร ร่างของเธอเต็มไปด้วยฝุ่น ใบหน้าของเธอถูกปกคลุมไปด้วยคราบโคลนที่แห้งกรัง เส้นผมยุ่งเหยิงและมีเศษดินติดอยู่ ชุดที่เธอสวมใส่ถูกฉีกขาดและเลอะเทอะด้วยสิ่งสกปรก

พรายรพี: ถอนหายใจอย่างหมดหนทาง "เอ๋า... ถ้าอยากอยู่ที่นี่ก็อยู่ไปเถอะ แต่สภาพของเธอเป็นแบบนี้ ฉันคงต้องให้เธอไปอาบน้ำก่อน"

มีนา: มองพรายรพีด้วยความรู้สึกผสมผสานของความโล่งใจและความวิตก "จริงเหรอคะ? ขอบคุณค่ะ"

พรายรพี: พยักหน้า "ใช่ แล้วไปอาบน้ำให้สะอาด แล้วค่อยมาพบฉันหลังจากนั้น ฉันจะตัดสินใจต่อไปว่าเธอจะต้องทำอย่างไร"

      หลังจากที่จ้อยส่งมีนาไปยังกระท่อม เขาก็เดินออกไปอย่างเงียบๆ ร่างของเขาหายไปในความมืดและความเงียบของคืน

ในใจของเขาเต็มไปด้วยความกระหยิ่มยิ้มย่อง ความคิดของเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับความสำเร็จที่เขาได้รับ เขาเชื่อมั่นว่าแผนของเขาเริ่มบรรลุผลตามที่เขาต้องการ

"คราวนี้ละเว้ย นายกูจะได้มีเมียกับเขาเสียที" จ้อยคิดในใจพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ เสียงหัวเราะชอบใจ

          

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พ่อพรายรพี   ในกระท่อมคืนแรก

    พรายรพีหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ที่สะอาด—เสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้นที่เขาเตรียมไว้—แล้ว เขาโยนผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ไปยังมีนา“นี่” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่หยาบคายและไร้ความปรานี “ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า”มีนารีบหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ด้วยมือที่สั่นเทา เธอรู้สึกถึงความกลัวและความไม่แน่นอนในใจ แต่รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิบัติตามคำสั่ง เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำที่มืด อย่างทุลักทุเล น้ำตาที่หลั่งไหลทำให้เธอรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยและความผิดหวัง ห้องน้ำที่นี่เป็นสถานที่เล็กๆ มืดๆ ภายในห้องน้ำมีแต่ตุ่มใส่น้ำที่มุมหนึ่ง เมื่อเธอปิดประตูห้องน้ำ เธอถอนหายใจลึกๆ และมองไปรอบๆ น้ำในตุ่มดูไม่สะอาด แต่มีนาไม่สามารถเลือกได้ เธอรู้ว่าตัวเองต้องทำความสะอาดเพื่อรู้สึกดีขึ้นเธอค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงน้ำจากตุ่มด้วยภาชนะที่วางอยู่ข้างๆ น้ำเย็นทำให้เธอรู้สึกเย็นชาและกระทบถึงความรู้สึกของเธออย่างทันทีมีนาเริ่มล้างตัวเองอย่างช้าๆ เธอพยายามล้างคราบโคลนที่ติดอยู่บนร่างกาย น้ำที่ไหลจากภาชนะทำให้ความเย็นกระทบผิวของเธอ แต่ยังไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดและความเศร้าที่ลึกในใจของเธอได้ขณะที่น้ำไหลผ่าน

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-04
  • พ่อพรายรพี   ของของข้าาาา

    มีนา: รู้สึกตัวขึ้นในตอนเช้า เริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคย เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น และทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงแขนแข็งแรงที่กอดรัดรอบตัวเธอมีนา: หัวใจเต้นแรง ตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของพรายรพี แสงอ่อนๆ ของยามเช้าส่องเข้ามาในกระท่อม เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและความหนักของอ้อมกอดที่กอดเธอไว้แน่น ใบหน้าของเธอซุกอยู่บนแผงอกแกร่ง และเมื่อเธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นก็ได้เห็นรูปร่างของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อพรายรพีอย่างชัดเจนร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ชัดเจน ใบหน้าคมคายดุดัน แฝงไปด้วยความเข้มแข็งที่ไม่เหมือนใคร ผิวแทนเข้มขับให้เขาดูสง่าและทรงอำนาจ ราวกับชายผู้นี้เกิดมาเพื่อควบคุมมีนา: พยายามขยับตัวออกมา แต่แขนของพรายรพีกลับกอดเธอไว้แน่นขึ้นพรายรพี: ค่อยๆ ตื่นขึ้นจากการขยับของมีนา มองลงไปที่เธอและยิ้มเล็กน้อย "ตื่นแล้วเหรอ?"มีนา: ตกใจและอึดอัด "คะ...คุณ... ทำไมฉันถึงอยู่ในอ้อมกอดคุณ?"พรายรพี: (เสียงดุดันและเนือย ๆ พร้อมกับสายตาที่คม) "ก็แค่กอด... เมื่อคืนฉันทำมากกว่านั้นอีกจำไม่ได้เหรอมีนา: รู้สึกอายและขยับตัวออกมาทันที "ไม่! ปล่อยฉัน!"มีนา: ยิ่งรู้

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • พ่อพรายรพี   พ่อพรายนะ ไม่ใช่พ่อพระ

    ในความเงียบที่หนักอึ้งนั้น พ่อพรายรพีขยับร่างที่เต็มไปด้วยอำนาจ เขาใช้มือหนาใหญ่คว้าข้อมือของมีนา ร่างบางระหงของเธอเหมือนจะปลิวไปตามแรงกระชากอันน้อยนิดของเขา ข้อมือของเธอถูกบีบแน่น แต่เขากลับทำราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่มีนาต้องถูลู่ถูกังไปตามแรงลากใบหน้าของพ่อพรายรพียังคงนิ่งเฉย ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเงียบงัน เส้นกรามของเขาแน่นตึง สายตาที่มองตรงไปข้างหน้าเหมือนกับพายุที่คุกรุ่นอยู่ภายในแม้จะไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ แต่การกระทำของเขาก็ชัดเจนในความดุดัน หน้าตาถมึงทึง บ่งบอกถึงความไม่พอใจและความเดือดดาลที่ปะทุอยู่ลึกๆ เขาลากมีนากลับไปยังที่ที่พวกเขาจากมา กระท่อมที่ซ่อนอยู่ในป่าเขาทุกก้าวเดินของเขานั้นหนักแน่นและแน่วแน่ มีนาที่ถูกกระชากไปไม่กล้าขัดขืน สัมผัสได้ถึงความเถื่อนและอำนาจที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ร่างกายของเธอสั่นไหวไปกับความกลัวและความรู้สึกที่แปลกประหลาดที่คละคลุ้งอยู่ในใจมีนา: (เสียงสั่นเครือ ขณะพยายามบิดข้อมือ) "ฉะ... ฉันเจ็บค่ะ... ปล่อยฉันเถอะ"พรายรพี: (ลดแรงลงเล็กน้อย แต่ยังคงเสียงแข็ง) "ขอโทษ... แต่บางทีเธอควรรู้ไว้ว่า ฉันไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของของฉัน"มี

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-05
  • พ่อพรายรพี   เสือใหญ่ที่หิวกระหาย

    ในขณะที่ มีนากำลังรดน้ำสวนผักอยู่ข้างๆกระท่อม เธอได้ยินเสียงกระหืดกระหอบของชายคนหนึ่งที่วิ่งตรงเข้ามาที่กระท่อม สีหน้าของเขาแสดงความร้อนรนท่าทางร้อนรนตามมาด้วยเสียงกระหืดกระหอบ ร่างของเขาดูเหนื่อยล้าและเต็มไปด้วยความวิตกกังวลขณะที่เขาเข้าไปกระซิบกับพรายรพีที่นั่งอยู่บนชานกระท่อม สีหน้าของพรายรพีเปลี่ยนไป สายตาของเขาหลุบต่ำลง ทอประกายดุดันและน่ากลัว เขาลุกพรวดจากที่นั่ง หยิบดาบคู่ใจขึ้นมา ในขณะที่เขาก้าวออกจากกระท่อมด้วยความรวดเร็ว ด้วยท่าทางเยียบเย็นและน่าเกรงขามป้าพิศ: นั่งลงข้างๆ มีนาในกระท่อม "นายบอกป้าว่าต้องมาคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ค่ะ"มีนา: มองป้าพิศด้วยความสงสัย "ป้า แล้วพ่อพรายรพีไปไหนคะ?"ป้าพิศ: ส่ายหน้าและยิ้ม "ไม่รู้เหมือนกันจ้า ป้าแค่ได้รับคำสั่งให้มาที่นี่เฉยๆ ไม่ได้บอกว่านายเขาไปไหน"มีนา: พยักหน้าอย่างเข้าใจ มีนานั่งอยู่ที่สวนผักเล็กๆ ของเธอ มือของเธอค่อยๆ รดน้ำต้นผักไปตามเคย แต่ใจของเธอกลับล่องลอยไปไกล เธอนั่งเหม่อมองไปที่แปลงผักที่เขียวขจีซึ่งเธอรู้สึกว่ามันสวยงามขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่มีความสุขจากการที่ต้องอยู่คนเดียวเป็นเวลาสองหรือสามวันแล้วที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-06
  • พ่อพรายรพี   ไฟรักของพ่อพรายรพี

    เมื่อมีนามองใบหน้าคมสันของพรายรพีได้ถนัดตา เธอสังเกตเห็นหนวดเคราที่เริ่มเขียวคลึ้มขึ้นบนกรามแข็งแรง ความเคร่งขรึมและดุดันในสายตาของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นรัว ความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านมาถึงเธอ ความใกล้ชิดที่แสนร้อนแรงนี้ทำให้เธอรู้สึกสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลน อวบอัดไปทุกสัดส่วน เรียวขางามและเอวคอดกิ่ว บดเบียดแนบชิดกับร่างกายที่แข็งแกร่งของพรายรพี เขากอดแน่นราวกับจะหลอมรวมเธอไว้ในอ้อมกอดเดียว ความรู้สึกที่สะสมมาตลอดหลายวันทวีความรุนแรง จนเขาไม่อาจยับยั้งตัวเองได้อีกต่อไปพรายรพี: (โน้มใบหน้าลงใกล้ กระซิบเสียงพร่า) “คิดถึงฉันไหม... หืม? หรืออยากให้ฉันทำให้เธอคิดถึงมากกว่านี้?”มีนาใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบซ่อนอาการไม่อยู่ ดวงตาไหวระริก ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาของพรายรพียังคงอยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆแผ่วเบา แต่ละคำพูดของเขาทำเอาเธอเขินจนแทบหลบสายตาไม่ได้ หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ว่ามันจะหลุดออกมาเมื่อเขาพูดแผ่วเบาใกล้ๆ หูอีกครั้งมีนาหายใจสะดุด สายตาสั่นไหวขณะที่มองใบหน้าของพรายรพีที่ยังคงโน้มใกล้เธอ ใจเธอสับสนระคนตื่นเต้น “คะ...คุณ...จะไม่ทำร้ายฉันใ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-08
  • พ่อพรายรพี   ป่าร้อนกระท่อมรัก..

    มีนค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอน รู้สึกได้ถึงความปวดร้าวในทุกการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อของเธอเตือนให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน เมื่อเธอหันไปมองรอบๆ ห้อง เพียงแต่พบว่ามันเงียบงัน ร่างใหญ่ของพ่อพรายรพีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆ ที่เป็นต้นเหตุของสภาพเธอในตอนนี้มีนาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างที่ยังคงสั่นไหวเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองที่นอนซึ่งยับเยินอยู่ใต้ตัวเธอ ใจของเธอเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่คำตอบกลับหายไปพร้อมกับตัวของพรายรพี"เขาหายไปไหน..." มีนคิดในใจ แม้จะรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ แต่ความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นมีนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเรียก ป้าพิศ ผู้ดูแลบ้านของพรายรพี ยืนอยู่ที่ประตูห้องพร้อมกับถาดอาหารในมือ สายตาอ่อนโยนแต่แฝงความกังวลจ้องมองมาที่เธอ“ตื่นแล้วเหรอคะ” ป้าพิศถามเสียงนุ่มมีนาพยักหน้าเบาๆ พยายามฝืนยิ้มทั้งที่ความเจ็บปวดในร่างกายยังไม่หายไป “ค่ะป้า...” เธอตอบแผ่วเบาป้าพิศเข้ามาใกล้ วางถาดอาหารลงบนพื้นกระท่อม “ทานข้าวหน่อยนะคะ จะได้มีแรง แล้วถ้ารู้สึกไม่สบาย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • พ่อพรายรพี   ท่าอุ้มน้องน้อย️

    มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อเกือบบ่าย สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าทั่วทั้งร่าง ร่างกายเธอประท้วงเมื่อลุกขึ้นจากที่นอน หลังจากคืนที่ผ่านมาที่เธอต้องเผชิญกับแรงรักที่ชายร่างใหญ่พ่อพรายรพีโหมกระหน่ำใส่ไม่หยุด ความรุนแรงของเขาได้ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายและหัวใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกทั้งอ่อนเพลียและไม่อาจหลีกเลี่ยงความคิดถึงเขาได้ ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับความปรารถนาและความอ่อนหวานในคืนที่ยาวนานทำให้เธอแทบไม่มีแรงจะลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับวันใหม่ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ให้กับความอ่อนล้าและรับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขากำลังเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่อาจหวนกลับได้แล้ว."ลุกไหวไหม?" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์และเย้าแหย่ ขณะยกถาดอาหารในมือขึ้นเล็กน้อย สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองตรงมาทำให้มีนาหน้าแดงซ่าน พรายรพีเมื่อเห็นสีหน้าเง้างอดของมีนา ก็อดขำไม่ได้ รีบวางถาดอาหารลงข้างๆ ก่อนจะเข้าไปกอดร่างบางจากด้านหลัง เขากระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหู "เมียจ๋า มากินข้าวเร็ว ๆ นะ จะได้มีแรงงง...อีก" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้มีนารู้สึกถึงความอบอุ่นและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน แต่ก็ไม่วายหันไปมองเขาด้วยสายตาคา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09
  • พ่อพรายรพี   อย่าให้พ่อได้โมโห

    ฮ่าฮ่าฮ่า! เสียงหัวเราะเหี้ยมโหดของไอ้เข้มดังก้องอยู่รอบๆ ขณะที่ลูกน้องของเขาจับตัวแม่คนงามที่พ่อพรายรพีแสนหวงแหนมาได้ไอ้เข้ม: (หัวเราะเหี้ยมโหด) “ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันที่สุดยอดจริงๆ! ลูกน้อง: “พี่เข้ม พี่ต้องการให้เราทำอะไรกับสองคนนี้ดี?”ไอ้เข้ม: (มองไปที่ร่างงามในกรงไม้) “ปล่อยให้อยู่ในกรงนี้ก่อนแล้วกัน ”มีนา: (เสียงสั่น) “ปล่อยพวกฉันไปเถอะ! ”ไอ้เข้ม: (ยิ้มเหี้ยม) “ปล่อยเหรอ ไม่มีทาง เธอเป็นตัวล่อชั้นดีให้ไอ้พรายรพีเข้ามาติดกับของฉัน”ลูกน้อง: “พี่เข้มจะให้ทำอย่างไรต่อไป?” ถามย้ำไอ้เข้ม: (เดินไปใกล้กรงไม้) พวกเธอจะเป็นเหยื่อล่อให้ไอ้พรายรพีเข้ามาในรังของเรา เดี๋ยวไม่นานไอ้พรายรพี จะต้องมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเธอแน่นอน และเมื่อฉันฆ่ามันตายแล้ว เธอจะต้องตกเป็นเมียของฉัน อีกด้านพรายรพีและเสือร้ายทั้งเจ็ดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบท่ามกลางป่าลึก การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล้ายกับเงาที่ค่อยๆ ร้อยเรียงไปตามรอยแยกของต้นไม้ ความมืดของป่าทำให้พวกเขาดูเหมือนกับวิญญาณที่คอยคุกคามทุกมุมมอง ทุกครั้งที่เท้าของพวกเขาแตะพื้น เสียงของใบไม้ที่แห้งกรอบและกิ่งไม้ที่หักก

    ปรับปรุงล่าสุด : 2024-11-09

บทล่าสุด

  • พ่อพรายรพี   ตอนจบ

    ในห้องที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเมื่อไอ้อ้วนน้อยของพ่อได้เวลาฝากพี่เลี้ยงไว้แล้ว เขาหันไปหาภรรยาสุดที่รักของเขา พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหมาย “เมื่อไอ้อ้วนของพ่อไปกับพี่เลี้ยงแล้ว พ่อขอเวลาส่วนตัวกับแม่หน่อยนะ”แม่ยิ้มตอบกลับ ขอบตาของเธอเบิกบาน “ได้สิค่ะ พ่อ” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรักและความเอื้ออาทร“พ่อคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะใช้เวลากับแม่” เขาพูดต่อ ดวงตาของเขาส่องแสงอ่อนโยน “เราไม่ได้มีเวลาส่วนตัวกันนานแล้ว”“ใช่ค่ะ แม่ก็รู้สึกแบบนั้น” แม่ตอบอย่างอบอุ่น ความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจกลับมาร่วมกันอีกครั้ง “มีเรื่องที่พ่ออยากพูดหรือเปล่าคะ?”เขายิ้มกว้างขึ้น “พ่อแค่คิดว่าแม่ยังเป็นคนพิเศษในชีวิตพ่อเสมอ”“แม่ก็รักพ่อมากเหมือนกัน” เธอพูดพร้อมกับยิ้มออกมาพวกเขายิ้มให้กัน ดวงตาเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ ความรู้สึกของการได้อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่เงียบสงบนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาอบอุ่นยิ่งขึ้น“มาหาเวลาที่จะทำให้แม่รู้สึกดีอีกครั้งดีกว่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหวานซึ้ง“ฉันจะยังรักเธอเสมอไม่ว่าเธอจะสาวหรือจะแก่ลง” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ เมื่อเขาจ้องมองไปที่เธอ ความรู้

  • พ่อพรายรพี   ลูกกินแล้วให้พ่อกินบ้าง

    เวลาผ่านไปจนมีนาได้คลอดลูกชายตัวน้อย ตอนนี้เขาอายุห้าเดือนแล้ว เด็กน้อยที่มีร่างอ้วนจ้ำม่ำ ทำให้ทุกคนในบ้านรู้สึกอบอุ่นใจเมื่อได้เห็นเขา ขณะที่เขานอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ กำลังดูดนมอย่างมีความสุข เสียงจู๊บๆ ของเขานั้นทำให้มีนารู้สึกมีความสุขและภาคภูมิใจในบทบาทใหม่ของเธอรพีมักจะนั่งอยู่ข้าง ๆ มองดูลูกชายด้วยความรักและความภาคภูมิใจ เขาไม่สามารถละสายตาจากความน่ารักของลูกได้ และรู้สึกได้ถึงความรักที่เพิ่มพูนในครอบครัวนี้“ลูกของเราน่ารักมากเลยนะ” เขาพูดพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ขณะยื่นมือไปลูบหัวลูกชายอย่างเบา ๆ“ใช่ค่ะ ที่รัก เขาทำให้ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้น” มีนาตอบกลับพร้อมยิ้มให้กับลูกน้อยในอ้อมแขนของเธอ ความรักในครอบครัวนี้กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีลูกชายเป็นศูนย์กลางของความสุขเด็กชายวัยห้าเดือนนอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ ขณะที่เขาดูดนมจากอกของเธออย่างหิวโหย ริมฝีปากน้อยๆ ของเขาดูดตุ้บๆ เป็นจังหวะ สร้างเสียงนุ่มๆ ที่แสดงถึงความอิ่มเอมและความสุข เด็กน้อยมีใบหน้ากลมอวบอิ่ม ดวงตาหลับสนิทเหมือนกำลังฝันดี ในขณะที่มือเล็กๆ ของเขายังคงจับเสื้อแม่ไว้แน่น แสดงถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยทันใดนั้น ร่า

  • พ่อพรายรพี   คนท้องก็ทำได้นะ

    ในบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ รพีและมีนากลับมาจากฮันนีมูนที่น่าจดจำ หลังจากผ่านไปสามเดือน คู่รักหนุ่มสาวยังคงอยู่ในช่วงเวลาแห่งความรักและความสุขที่หวานชื่นเช้าวันหนึ่ง มีนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าขณะที่แสงแดดส่องผ่านหน้าต่าง เธอสวมเสื้อยืดหลวม ๆ และกางเกงขาสั้น รพีก้าวเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่กระชับและกลิ่นอายของความเป็นชายที่ลอยมา ทำให้มีนารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นเขา“วันนี้เราจะทำอะไรดี?” มีนาถามเสียงหวาน ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความอยากรู้“ไปเที่ยวที่ทะเลกันไหม?” รพีเสนอต่ออย่างกระตือรือร้น “ฉันอยากให้เธอได้เห็นความงามของทะเลในฤดูร้อน”“ดีเลย! ฉันชอบทะเลมาก” มีนาตอบด้วยความตื่นเต้น ขณะเธอยิ้มกว้าง รู้สึกถึงความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกันระหว่างที่พวกเขากินอาหารเช้า พูดคุยและหัวเราะด้วยกัน รพีไม่สามารถหยุดมองมีนาได้ เธอสวยงามในทุกมุมมอง จนเขารู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่มีเธอในชีวิต“เราจะต้องเตรียมของไปด้วยนะ” รพีพูดอย่างคิดคำนวณ “และฉันจะต้องให้เธอสวมชุดว่ายน้ำใหม่ที่ฉันซื้อให้”มีนาหัวเราะออกมา “จะให้ฉันใ

  • พ่อพรายรพี   ฮันนีมูนร้อนๆกลางป่า4

    ที่ชานกระท่อม ท่ามกลางแสงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ รพียืนซ้อนกอดมีนาไว้จากด้านหลัง อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดเธอไว้แนบแน่น เขาโน้มตัวลงจูบเธออย่างดูดดื่มและลึกซึ้ง ราวกับต้องการมอบทุกความรู้สึกที่มีให้เธอในชั่วขณะนี้เมื่อริมฝีปากผละออก รพีค่อย ๆ ใช้มือประคองใบหน้าของมีนาให้ซบลงกับอกกว้างของเขา หัวใจของเขาเต้นหนักแน่นอยู่ข้างหูเธอ สองคนมองดูแสงดาวทอประกายระยิบอยู่บนท้องฟ้ากว้าง ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ห่มคลุมพวกเขาไว้ ราวกับทั้งจักรวาลมีเพียงแค่สองคนนี้พ่อพรายรพีลูบเส้นผมของเธอเบา ๆ พึมพำแผ่ว ๆ ข้างหู "ดาวอาจจะสวย... แต่สำหรับฉันมันสวยน้อยกว่าเธอมาก”"มีนา..." รพีเอ่ยเรียกเสียงนุ่ม แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความทะเล้น "เธอว่า... มีที่ไหนในป่านี่ที่เรายังไม่ได้เอากันบ้าง?"มีนาหน้าแดงก่ำ แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืด เธอหันไปมองเขาอย่างตื่นเต้นและขวยเขิน ก่อนจะยกมือขึ้นตีเบา ๆ บนแขนแข็งแรงที่โอบเธอจากด้านหลัง"พูดอะไรออกมาน่ะ!" เธอตอบพร้อมหัวเราะเขิน ๆรพีหัวเราะแผ่ว ๆ ในคอ โอบกระชับเธอแน่นขึ้น รอยยิ้มซุกซนประดับบนใบหน้า "ฉันหมายถึง... มีที่ไหนที่เรายังไม่ได้ชมวิวสวย ๆ ด้วยกันต่างหาก"มีนาหันมามองรพี

  • พ่อพรายรพี   ฮันนีมูนร้อนๆกลางป่า3

    เช้าวันใหม่ในกระท่อมร้อนรักรพีตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่อบอุ่น แสงแดดยามเช้าผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา เขาหันไปมองมีนาที่นอนอยู่ข้างๆ เธอหลับใหลอย่างสงบ เส้นผมยาวสลวยกระจายไปบนหมอน ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง ความรู้สึกของความรักที่เขามีให้เธอแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น“น่าเสียดายที่ไม่สามารถอยู่ในอ้อมแขนเธอได้นานกว่านี้” เขากระซิบกับตัวเอง ก่อนที่จะลุกขึ้นไปเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ สำหรับทั้งสองคนในครัวเล็กๆ รพีเริ่มทำไข่เบคอนในกระทะ โดยมีเสียงฉ่าและกลิ่นหอมของเบคอนทำให้เขารู้สึกดี การทำอาหารเช้านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตร่วมกันที่เขาตั้งใจจะมอบให้มีนาเมื่อทุกอย่างพร้อม เขายกกาแฟกลิ่นหอมพร้อมกับจานไข่เบคอนเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง มุมปากของเขายิ้มขึ้นเมื่อเห็นมีนาค่อยๆ ลืมตาขึ้นและยิ้มให้เขา“สวัสดีเช้านี้นะครับที่รัก” รพีทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่วางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง“ทำไมถึงทำอาหารเช้าให้ฉัน?” มีนาถามอย่างงัวเงีย ขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง“เพราะว่าฉันอยากให้วันของเราเริ่มต้นด้วยความพิเศษ” เขาตอบพลางยิ้ม “วันนี้เราเป็นสามีภรรยากันอย่างเต็มตัวแล้

  • พ่อพรายรพี   ฮันนีมูนร้อนๆ กลางป่า2

    ภายใต้แสงดาวพราวฟ้าบนหุบเขาที่เงียบสงัด กระท่อมรักที่เคยเป็นสถานที่แห่งความทรงจำกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รพี ยืนเด่นอยู่ใต้แสงจันทร์สีเงินงาม ส่องกระทบผิวกายกำยำของเขาจนดูดุดันและทรงพลัง สายลมเย็นพัดโชยมากระทบใบหน้า แต่สิ่งที่ร้อนแรงยิ่งกว่าคือสัมผัสจากมือใหญ่ของเขาที่ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามทรวงอกอวบอิ่มของมีนาเธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความต้องการ ความเถื่อนดิบที่แฝงอยู่ในแววตาทำให้เธอไม่อาจหลบสายตาไปได้ รพีลูบไล้มือหนักหน่วงไปตามร่างกายของเธอ ปลายนิ้วไล่จากไหล่ลาดลงมาสู่ส่วนโค้งเว้าที่อกอวบที่เขาหลงใหล เขากดปลายนิ้วกับผิวเนื้อที่นุ่มนวลของเธออย่างแนบแน่น ขณะที่มีนาครางแผ่วอย่างอ่อนโยน"ที่รัก… เธอจำความรู้สึกนี้ได้ไหม?" รพีกระซิบอย่างดุดันข้างหูเธอ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อน ๆ ลงบนเนื้ออ่อนที่หน้าอกของเธอ ขบกัดเบา ๆ ทำให้เธอสะดุ้งไหว ร่างกายของมีนาเริ่มตอบสนองต่อความสัมผัสดิบเถื่อนที่เธอคุ้นเคยเสียงครางเบา ๆ ของเธอหลุดออกมา ขณะที่รพีจับร่างเธอแน่นและกดลงกับกำแพงไม้ของกระท่อม ท่ามกลางเสียงใบไม้พลิ้วไหวและเสียงหายใจหนักหน่วง รพีทำให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่แทรกซึมอยู่ในทุก

  • พ่อพรายรพี   ฮันนีมูนร้อนๆกลางป่า1

    “เดี๋ยวฉันอาบน้ำให้” สียงกระซิบของเขาแผ่วเบา แต่กลับมีพลังที่ทำให้มีนาใจเต้นรัว เมื่อผ้าถุงหลุดออก มีนายืนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงจันทร์ ผิวของเธอเปล่งปลั่งและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ขอบเขตของความใกล้ชิดในค่ำคืนนี้ยิ่งทวีความร้อนแรง เมื่อเขามองเธอ สายตาของเขาแสดงถึงความชื่นชมและความหลงใหลในร่างกายของเธอที่งดงามร่างสูงใหญ่ของเขาเข้ามาประชิดตัวมีนา มือใหญ่และอบอุ่นของเขาเลื่อนขึ้นไปสัมผัสที่ทรวงอกของเธออย่างเบามือ สัมผัสนั้นอ่อนโยนแต่หนักแน่น เขาค่อยๆ ลูบไล้ฟองสบู่วนไปบนผิวเนียนลื่น ราวกับต้องการจดจำทุกความนุ่มนวลและความโค้งเว้าของเธอ ทรวงอกใหญ่ล้นออกมาอย่างงดงาม ยิ่งทำให้เขาเผลอสายตาและหลงใหลในตัวเธอมากขึ้นเขาเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ใช้ปลายนิ้วลูบวนไปตามเนื้อเนียนละเอียด เธอหายใจสะท้านเล็กน้อยจากสัมผัสนั้นเสียงลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อยเมื่อสัมผัสผิวของมีนา ทุกสัมผัสที่วนมือไปบนทรวงอกของเธอ ทำให้เกิดเสียงฟองสบู่แตกตัวเบาๆ ผสมกับเสียงน้ำที่กระเซ็นลงบนพื้น มันเป็นเสียงที่สร้างบรรยากาศเงียบสงบและนุ่มนวล ทว่าแฝงด้วยความเร่าร้อนที่กำลังปะทุขึ้นในทุกจังหวะสัมผัสเธอเผลอหายใจสั่น เส

  • พ่อพรายรพี   งานวิวาห์ของพ่อพรายรพีกับมีนา

    เมื่อพิธีวิวาห์ของพ่อพรายรพีและมีนาเริ่มขึ้น ปางไม้ที่ถูกประดับด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนและขาว ไล่เฉดกันไปทั่วบริเวณ กลายเป็นทุ่งดอกไม้ที่งดงามเกินคำบรรยาย ทุกมุมมองเต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและความบริสุทธิ์ราวกับภาพฝัน แม้มีนาจะขอให้จัดงานอย่างเรียบง่าย แต่ธรรมชาติที่รายล้อมกับความประณีตในการจัดเตรียม ทำให้บรรยากาศนั้นมีความขลังและมีเสน่ห์อย่างลึกซึ้ง บรรยากาศดูเหมือนต้องมนต์สะกด ทุกสีสันและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้พลิ้วไหวไปพร้อมกับสายลม สร้างความรู้สึกสงบและศักดิ์สิทธิ์ผู้คนในปางต่างร่วมพิธีด้วยการแต่งกายอย่างงดงามตามขนบธรรมเนียม ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงสีเข้ม สวมเสื้อยาวกรอมแขนที่พริ้วไหวไปกับท่วงท่าที่อ่อนช้อย แต่ละคนมีสไบเบี่ยงพาดไหล่ เพิ่มความอ่อนหวานและสง่างามดุจดั่งนางในวรรณคดี ส่วนผู้ชายแต่งกายด้วยผ้าสโร่งสีเข้ม เนื้อผ้าทอด้วยลวดลายเรียบง่าย แต่แฝงความเข้มขลัง และสวมเสื้อสีเดียวกันอย่างกลมกลืน การแต่งกายสมถะเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์เหล่านี้ สะท้อนถึงความเคารพในวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่ละคนต่างเป็นภาพสะท้อนของความงามที่ไร้กาลเวลาตรงกลางลานกว้างมีบายศรีที่ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตรตระการตา บายศรีส

  • พ่อพรายรพี   เกมส์สวาทของคนที่จะเป็นเจ้าบ่าวเจ้าสาว

    รพีไม่รอช้า เขายกร่างสวยอวบอัดของมีนาขึ้น ก่อนจะเสียบแก่นกายแข็งใหญ่ของเขาเข้าไปในความชุ่มชื้นฉ่ำของกุหลาบป่าที่พร้อมรับสัมผัส ร่างของทั้งคู่กระแทกเข้าหากันอย่างรุนแรง ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและความกระหายที่ไม่อาจระงับได้"อื้ม… ที่รัก…!" มีนาครางเสียงสั่นสะท้าน ร่างกายของเธอสั่นไหวไปตามแรงขับของเขา เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง "ตั๊บ ตั๊บ" อย่างต่อเนื่อง มือของรพีขย้ำสะโพกกลมกลึงของเธอแน่น ดึงเธอเข้าหาตัวอีก ขณะที่เขาเด้งเอวขึ้นรับการเคลื่อนไหวของเธออย่างต่อเนื่อง“เร็วอีกสิ… อาา... แบบนั้นแหละ” เสียงของรพีแหบพร่าด้วยความเร่าร้อน ความต้องการที่ลุกโชนในตัวเขาเหมือนเปลวไฟที่ไม่มีวันดับ เขาผลักดันความแข็งใหญ่เข้าไปลึกจนสุด จนมีนาได้แต่กรีดร้องด้วยความเสียวซ่าน "อื้ม… อาา... ไม่ไหวแล้ว!"จังหวะของพวกเขารัวเร็วขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เหงื่อไหลซึมทั่วตัว รพีมองใบหน้าของมีนาที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความต้องการ สายตาของเธอพร่ามัวด้วยความเสียวซ่าน ขณะที่สะโพกของเธอเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและเร่งรีบ“อาา… ที่รัก! ถึงพร้อมกัน!” พวกเขาเร่งจังหวะอย่างสุดแรง จนถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน ร่างกายขอ

DMCA.com Protection Status