ในความเงียบที่หนักอึ้งนั้น พ่อพรายรพีขยับร่างที่เต็มไปด้วยอำนาจ เขาใช้มือหนาใหญ่คว้าข้อมือของมีนา ร่างบางระหงของเธอเหมือนจะปลิวไปตามแรงกระชากอันน้อยนิดของเขา ข้อมือของเธอถูกบีบแน่น แต่เขากลับทำราวกับว่าเป็นเรื่องธรรมดา ขณะที่มีนาต้องถูลู่ถูกังไปตามแรงลาก
ใบหน้าของพ่อพรายรพียังคงนิ่งเฉย ดวงตาเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นและเงียบงัน เส้นกรามของเขาแน่นตึง สายตาที่มองตรงไปข้างหน้าเหมือนกับพายุที่คุกรุ่นอยู่ภายใน
แม้จะไม่ได้เอ่ยคำพูดใดๆ แต่การกระทำของเขาก็ชัดเจนในความดุดัน หน้าตาถมึงทึง บ่งบอกถึงความไม่พอใจและความเดือดดาลที่ปะทุอยู่ลึกๆ เขาลากมีนากลับไปยังที่ที่พวกเขาจากมา กระท่อมที่ซ่อนอยู่ในป่าเขา
ทุกก้าวเดินของเขานั้นหนักแน่นและแน่วแน่ มีนาที่ถูกกระชากไปไม่กล้าขัดขืน สัมผัสได้ถึงความเถื่อนและอำนาจที่แผ่ออกมาจากตัวเขา ร่างกายของเธอสั่นไหวไปกับความกลัวและความรู้สึกที่แปลกประหลาดที่คละคลุ้งอยู่ในใจ
มีนา: (เสียงสั่นเครือ ขณะพยายามบิดข้อมือ) "ฉะ... ฉันเจ็บค่ะ... ปล่อยฉันเถอะ"
พรายรพี: (ลดแรงลงเล็กน้อย แต่ยังคงเสียงแข็ง) "ขอโทษ... แต่บางทีเธอควรรู้ไว้ว่า ฉันไม่ยอมให้ใครมาแตะต้องของของฉัน"
มีนา: (บ่นอุบเสียงแผ่ว) "ฉันไม่ใช่ของของใครนะ..."
พรายรพี: (พูดด้วยน้ำเสียงมั่นคงและแฝงนัยยะ) "ได้เป็นแน่ๆ ไม่ต้องห่วง... เธอจะรู้เองว่าไม่มีใครหนีพ้นฉันได้" เสียงหนักเข้ม
เมื่อมาถึงกระท่อม บรรยากาศก็กลับเข้าสู่ความเงียบงันที่อึดอัด ทั้งสองต่างไม่พูดจากันอีก ราวกับว่าคำพูดใดๆ จะเป็นการจุดไฟที่ยังไม่มอดดับ มีนาก้มหน้าอย่างเงียบๆ ไม่กล้ามองสบตา เธอเริ่มจัดแจงทำอาหารอย่างเชื่องช้า ราวกับว่าทุกการกระทำของเธอกำลังถูกจับจ้อง
พ่อพรายรพีทิ้งตัวลงนั่งอย่างเงียบเชียบ เสียงลมหายใจของเขาดังเบาๆ แต่กลับให้ความรู้สึกหนักอึ้ง มีนารู้สึกถึงสายตาของเขาที่จับจ้องอยู่ แม้จะไม่ได้มองตรงๆ แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่แผ่ออกมาจากเขา
เมื่ออาหารเสร็จเรียบร้อย ทั้งสองนั่งกินกันอย่างเงียบเชียบ ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดออกมาจากปากของทั้งคู่ เสียงช้อนที่กระทบกับจานเป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำลายความเงียบ แต่กลับทำให้บรรยากาศดูอึดอัดยิ่งขึ้น
ในใจของมีนาสับสนและเต็มไปด้วยความกลัว แต่เธอก็ยังคงทำหน้าที่ของตนต่อไป ขณะที่พ่อพรายรพีนั่งกินอย่างไม่แสดงความรู้สึกใดๆ เหมือนกับว่าความเงียบนี้เป็นเพียงอีกวันหนึ่งในชีวิตของเขา แต่ในความเงียบนี้เองที่ทำให้มีนารู้สึกได้ถึงความตึงเครียดและความไม่แน่นอนที่แผ่ซ่านอยู่ในอากาศ
มีนากลับเข้ามาในกระท่อมหลังจากอาบน้ำเสร็จ เธอหยุดนิ่งเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของพ่อพรายรพีที่กำลังนอนหลับตาอยู่บนที่นอนที่ปูเรียบร้อย มีนายืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่ง มองภาพนั้นด้วยความรู้สึกที่ไม่สามารถบรรยายได้ หัวใจเธอสั่นไหวแต่ก็พยายามควบคุมตัวเอง เธอปิดตะเกียงเจ้าพายุอย่างเงียบๆ ให้แสงไฟอ่อนๆ ดับลง ทำให้ภายในกระท่อมเหลือเพียงความมืดและเสียงลมหายใจของทั้งสอง
เธอค่อยๆ ล้มตัวลงนอนข้างๆ ร่างสูงใหญ่ของพ่อพรายรพี
ในเสี้ยววินาทีนั้น มีนารู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุนเมื่อพรายรพีที่เธอคิดว่าหลับอยู่ กลับตวัดร่างของเธอเข้ามาในอ้อมแขนอย่างรวดเร็ว ร่างงามของเธอแทบปลิวเข้าไปแนบชิดกับอกกำยำของเขา ลมหายใจของเธอสะดุดเมื่อเขากระหน่ำจูบลงมาอย่างรุนแรง ริมฝีปากของเขาเร่าร้อนและเต็มไปด้วยความเรียกร้องที่เธอไม่เคยสัมผัสมาก่อน จูบของพรายรพีเต็มไปด้วยความเร่าร้อนและเอาแต่ใจ ราวกับว่าเขาต้องการครอบครองทุกอย่างที่เป็นเธอ มีนารู้สึกถึงแรงปรารถนาที่พุ่งพล่านในทุกสัมผัส ริมฝีปากของเขาบดเบียดลงมาอย่างหนักหน่วงจนเธอแทบไม่สามารถต่อต้านได้ หัวใจของเธอเต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมาจากอก ร่างกายของเธอสั่นสะท้านในอ้อมกอดของเขา ความร้อนแรงและความดุดันที่เขาปลดปล่อยออกมาทำให้เธอแทบละลายไปกับจูบนั้น รู้สึกเหมือนถูกดูดกลืนเข้าไปในกระแสความรู้สึกที่ไม่มีที่สิ้นสุด
พรายรพีถอนริมฝีปากออกด้วยความเร่าร้อนที่ยังคงเหลือไว้ในอากาศ เขาสบตากับมีนา สายตาของเขาเต็มไปด้วยความสับสนและโกรธเคือง
พรายรพี: (เงยหน้าเล็กน้อยจากจูบแล้วกระซิบข้างหูมีนา เสียงดุดันและเอาแต่ใจ) "ทั้งตัวของเธอ... เป็นของฉันทั้งหมด จำไว้ให้ดี"
เขารู้สึกว่าความปรารถนาที่พุ่งพล่านในใจนั้นไม่ใช่สิ่งที่ควรจะเกิดขึ้น แต่กลับหยุดไม่ได้ มือหนาและร่างใหญ่ของเขากอดรัดเธอแน่นขึ้น ราวกับอยากจะกลืนเธอเข้าไปให้หมด เขาโมโหทั้งเธอและตัวเองที่ต้องการครอบครองเธอมากขึ้นทุกที ความเถื่อนในใจของเขาถูกปลดปล่อยออกมาในความต้องการที่รุนแรง เขาต้องการจะครอบครองเธอทุกอย่าง ทั้งกายและใจจนไม่เหลืออะไรให้ใครอื่นได้สัมผัส.
มีนาดิ้นรนพยายามหลุดออกจากอ้อมกอดอันแข็งแกร่งของพรายรพี แต่ยิ่งเธอดิ้น เขาก็ยิ่งกอดแน่นขึ้น ความพยายามของเธอกลับยิ่งทำให้เขาเพิ่มแรงกดดันลงบนร่างบาง เธอหอบหายใจอย่างแรง พยายามฝืนต่อสู้กับความแข็งแกร่งที่ไม่สามารถต่อกรได้ เขาจับเธอไว้แน่น
พรายรพี: (ขู่เสียงเข้ม ขณะจ้องมองมีนา) "ถ้าไม่นอนนิ่งๆ ฉันจะทำมากกว่าจูบ...
มีนา: (จำยอมหยุดดิ้น ร่างกายเกร็งเล็กน้อย ขณะสบตาพรายรพีอย่างหวาดหวั่น)
พรายรพี: (ขณะที่กอดร่างบางของมีนาแนบแน่น ส่งความอบอุ่นให้กันในคืนหนาว) คิดในใจ "จะตบะแตกวันไหนกันนะ... ยิ่งใกล้เธอมากเท่าไหร่ ยิ่งยากที่จะห้ามใจ"
หลายวันต่อมาในตลาด จ้อยมองตามเจ้านายของตน พ่อพรายรพี เสือใหญ่แห่งขุนเขาแถบนี้ ผู้ที่ใครๆ ต่างยำเกรงและขนานนามว่าเป็นนักรบผู้ดุดัน วันนี้กลับถือตระกร้าในมือข้างหนึ่งและถือดาบในมืออีกข้าง เดินตามสาวน้อยอย่างมีนาต้อยๆ คอยถือของให้เธอ จ้อยอดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าระอาใจ ท่าทางที่แสดงออกนั้นช่างขัดกับภาพลักษณ์อันน่าเกรงขามของเจ้านายยิ่งนัก เขาไม่เข้าใจว่าทำไมชายที่แข็งแกร่งและน่าเกรงขามถึงได้ยอมลดตัวลงมาเดินตามและช่วยถือของให้สาวน้อยเช่นนี้
จ้อย: (ส่ายหน้าอย่างระอาใจ ขณะมองภาพที่เห็น) "หมดกัน หมดกัน... พ่อเสือใหญ่นายกู"
ขณะนั้นพรายรพีหันมาเจอจ้อยที่มุมหนึ่งที่กำลังทำท่าทางส่ายหน้า
พรายรพี: (ส่งสายตาที่มองไปหาจ้อย หน้านิ่งเย็นชาและดุดัน)
จ้อย: (รู้สึกเสียวสันหลัง ขณะสบตาพรายรพี รีบกระโดดหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว) อื๋ยยย ทีกับลูกน้องล่ะน่ากลัวยิ่งกว่าอะไร จ้อยนึกในใจ
บริเวณกระท่อมของพรายรพีนั้นเงียบสงบและห่างไกลจากผู้คน ไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้าใกล้ เพราะเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยความน่าเกรงขามและความลึกลับของเสือใหญ่แห่งขุนเขา
เมื่ออยู่ด้วยกันสองคนที่กระท่อม พรายรพีมักจะไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เขาชอบที่จะวนเวียนอยู่ใกล้ๆ และบางครั้งก็ดึงมีนาเข้าไปในอ้อมแขนของเขาแอบกอดแอบหอมแก้มอย่างหน้าตาเฉยแล้วเดินหนีไป
"อ๊ะ!" มีนาร้องเสียงหลงเมื่อร่างหนาใหญ่ของพรายรพีกระชากเธอเข้ามากอดจากด้านหลัง ร่างบางของเธอสั่นสะท้านขณะที่เขาก้มลงจูบที่ต้นคออย่างแรง สัมผัสของริมฝีปากที่ร้อนผ่าวกับผิวเนียนนุ่มทำให้มีนาตัวเกร็ง และหัวใจเต้นแรง เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและน้ำหนักของร่างกายเขาที่ชิดแนบไปกับเธอ ความรู้สึกระคนระหว่างความตกใจและความปรารถนาที่ถูกกระตุ้นขึ้นทำให้เธอแทบหายใจไม่ออก แต่ก็ไม่อาจต้านทานแรงที่ดึงเธอเข้าสู่อ้อมแขนของเขาได้
การดึงอีกฝ่ายมาจูบตามอำเภอใจ นั่นช่างเอาแต่ใจอย่างเห็นได้ชัด เขาชอบดึงมีนาเข้าสู่อ้อมแขนของเขา และมักจะจูบเธออย่างอุกอาจและเต็มไปด้วยความร้อนแรง และบางครั้งพรายรพีจะยั่วยวนมีนาอย่างนุ่มนวลด้วยจูบที่อ่อนหวานเรียกร้อง
มีนา: (ตวาดลั่น หลังโดนขโมยจูบดูดดื่ม) "คุณทำไมชอบทำแบบนี้นะ!"
พรายรพี: (ตอบกลับเสียงดุดัน ขณะสบตาเธอ) "เธอเป็นของของฉัน ฉันจะทำอะไรก็ได้ตามที่ต้องการ"
(ก้มลงกระซิบข้างใบหูของมีนา เสียงต่ำและดุดัน) "แต่ถ้าเธอยอมเป็นของฉันแต่โดยดี... ฉันอาจจะพิจารณาส่งเธอกลับบ้าน...ดีไหม?"
มีนา: (เงยหน้าขึ้นมองพรายรพี สายตาไหวระริก รู้สึกสับสนและหวั่นไหวกับคำพูดที่ได้ยิน)
(และละล่ำละลักถามด้วยเสียงสั่น) "คะ...คะ คุณจะไม่ทำอะไรฉันถ้าฉันไม่ยอมใช่ไหม?"
พรายรพี: (ตอบเสียงตึงและดุ) "ฉันไม่เคยฝืนใจผู้หญิงคนไหน"
หึ “ไม่ฝืนใจใครหรอก” มีนาคิดในใจ หน้าตาเง้างอด ปากบอกไม่ แต่การกระทำของเขาน่ะสิกลับตรงกันข้าม เมื่อเขาชอบเข้ามาใกล้มากอดจูบลูบคลำเธอตามอำเภอใจเสมอ มีนาพยายามเก็บอาการและกอดอกข่มความรู้สึกขุ่นมัวในใจ เธอรู้สึกเง้างอด แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธความอบอุ่นและความหวั่นไหวที่เกิดขึ้นทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้ เธอจึงได้แต่ปล่อยให้ความคิดนั้นวนเวียนในหัว ขณะที่ร่างกายถูกเขาโอบกอดแน่นขึ้นเรื่อยๆ
ดึกคืนนั้น เมื่อมีนาอาบน้ำเสร็จและกลับเข้ามาในกระท่อมที่เงียบสงบ เธอพบว่าที่นอนปูไว้อย่างเรียบร้อย ร่างบางล้มตัวลงนอนอย่างรวดเร็วเพราะอากาศคืนนี้หนาวผิดปกติกว่าทุกคืนที่ผ่านมา ความเย็นแผ่ซ่านทำให้เธอรีบห่มผ้าหนาแน่นขึ้น หวังให้ความอบอุ่นช่วยขับไล่ความหนาวเย็นที่แทรกเข้ามาในกระท่อมแต่ในที่สุด ความเหนื่อยล้าจากวันที่ยาวนานก็เข้ามาครอบงำ มีนาเผลอหลับไปท่ามกลางความหนาวเย็นที่โอบกอดร่างบางของเธอไว้ เสียงลมพัดผ่านหน้าต่างที่ปิดไม่สนิทกลายเป็นดั่งเสียงขับกล่อม และก่อนที่เธอจะรู้ตัว ความอุ่นจากผ้าห่มก็พาเธอเข้าสู่ห้วงนิทราอย่างลึกซึ้งนห้วงความคิดแบบครึ่งหลับครึ่งตื่นของมีนา กลิ่นหอมจากสบู่ที่มีความกลมกล่อมของเปลือกสนผสมกับกลิ่นของส้มเริ่มลอยเข้ามาในโสตประสาท กลิ่นที่เย้ายวนและน่าสนใจนี้ทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและอบอุ่น คล้ายกับการถูกปกคลุมด้วยผ้าห่มอันนุ่มนวลที่มีกลิ่นหอมละมุน เสียงหวานของลมพัดผ่านหน้าต่างและกลิ่นหอมที่แทรกซึมเข้ามาช่วยให้เธอหลับสนิทยิ่งขึ้น ในห้วงความฝันนั้น เธอรู้สึกเหมือนถูกล้อมรอบด้วยความอบอุ่นและความรู้สึกของการถูกดูแลอย่างใกล้ชิด ท่ามกลางบรรยากาศที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและลึกลับ.
มีนาค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาด้วยความยากลำบาก เมื่อความฝันของเธอถูกปลุกเร้าด้วยความร้อนและรัญจวนที่แปลกประหลาด ความรู้สึกนั้นเข้ามาคลุมเธอเหมือนกับลมหายใจร้อนที่คอยกระทบผิวกาย กลิ่นหอมจากสบู่ที่เธอเคยรับรู้ก่อนหน้านี้เริ่มเจือจางลง และแทนที่ด้วยความรู้สึกที่ร้อนแรงและคุ้นเคยมากขึ้น
เมื่อเธอลืมตาขึ้น มีนาเห็นเงามืดที่ล้อมรอบเธอ ในการพร่ามัวของความมืดที่เย็นและยามค่ำคืน ความร้อนที่เธอรู้สึกนั้นทำให้เธอรู้สึกกระวนกระวาย ร่างหนาที่ทาบทับอยู่ใกล้ชิดทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนและการสัมผัสที่หนักหน่วง ความรู้สึกนี้เปลี่ยนจากความนุ่มนวลเป็นความร้อนแรงที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นแรง
เมื่อมีนามองไปยังต้นตอของความร้อน เธอพบว่าพรายรพีกำลังนอนข้างๆ เธอ ร่างสูงใหญ่ที่กดทับอยู่ใกล้ๆ กับเธอ กลิ่นสบู่และความรู้สึกของความร้อนที่เขาแผ่ซ่านออกมา ทำให้เธอรู้สึกทั้งตกใจและหวั่นไหว ความรู้สึกนี้มีทั้งความดุเดือดและความอ่อนโยนในเวลาเดียวกัน.
พรายรพีเห็นสาวน้อยในอ้อมกอดลืมตาตื่น อารมณ์ที่ค้างคากลับกระตุ้นให้เขาโน้มหน้าเข้าใกล้ ร่างสูงใหญ่ของเขาเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความร้อนแรง มือของเขายังไม่ห่างจากตัวมีนา เขาดึงเธอเข้ามาใกล้แล้วจูบเธอด้วยความร้อนแรงและอารมณ์ที่ยังค้างอยู่
จูบของพรายรพีเต็มไปด้วยความดุดันและดูดดื่ม เขาใช้ริมฝีปากและลิ้นของเขาในการสำรวจและสอนสาวน้อยที่อยู่ในอ้อมกอดของเขา ร่างกายของเขาเคลื่อนไหวไปตามอารมณ์ที่สูงสุด ขณะที่เขาโอบกอดและเคลื่อนย้ายตัวมีนาอย่างเต็มที่ ความรู้สึกของความร้อนและความเร่าร้อนแผ่ซ่านไปทั่วร่างของเธอ
มีนาไม่สามารถต้านทานได้ถูกทำให้ตกอยู่ในโลกของความรู้สึกที่คุกรุ่นและแสนจะดื่มด่ำ เธอรู้สึกถึงความรุนแรงของจูบแต่ก็รู้สึกถึงความอบอุ่นและความรักที่มาพร้อมกับมัน จนกระทั่งความรู้สึกทั้งหมดกลายเป็นการหลอมรวมที่น่าสับสนแต่ก็เต็มไปด้วยความต้องการ
มีนา: (กลั้นใจส่งเสียงออกมาละล่ำละลัก หอบ) "ยะ... อย่าค่ะ! ไหนว่าจะไม่ฝืนใจไงคะ?"
พ่อพรายรพีที่เต็มไปด้วยอารมณ์และแรงดึงดูดชั่วขณะหนึ่งหยุดชะงัก ร่างสูงใหญ่ของเขาลดความรุนแรงลง และมองดูมีนาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความซับซ้อน และหลังจากนั้นเขาก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ มีนา มือของเขายังคงกอดเธอไว้แน่น แต่ครั้งนี้ท่าทีของเขาเปลี่ยนไปเป็นความอ่อนโยน ความเงียบเข้ามาครอบงำบรรยากาศ เขายังคงดึงสาวน้อยไว้ในอ้อมแขน
มีนานอนอยู่ในอ้อมกอดของเขา ความรู้สึกของการถูกกอดแน่นทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย แต่ในขณะเดียวกัน ความเงียบสงบที่เกิดขึ้นหลังจากความร้อนแรงยังคงเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ไม่อาจอธิบายได้ ความรู้สึกนี้ทำให้บรรยากาศเต็มไปด้วยความสับสนและความอ่อนไหว ที่พ่อพรายรพีพยายามจะค่อยๆ เรียบเรียงในใจของเขา
ทั้งคู่ยังคงนอนอยู่ในความเงียบสงบ ร่างใหญ่ของพรายรพีและร่างบางของมีนาเชื่อมโยงกันอย่างแนบแน่น ในขณะที่พ่อพรายรพีพยายามหาคำตอบให้กับสิ่งที่เขารู้สึกและสื่อสารกับตัวเองถึงความรู้สึกที่แท้จริงของเขา
พรายรพีที่เต็มไปด้วยอารมณ์และความรู้สึกอันรุนแรงในช่วงเวลาแห่งความเงียบสงบ พยายามข่มใจตัวเองให้หลับ เขาคิดในใจด้วยความอึดอัดและสับสน:
“นี่กูจะทนได้สักกี่วันวะ? นี่กูไม่ใช่พระนะเว้ย... กูก็ไม่เคยต้องโดนยั่วขนาดนี้มาก่อน”
คำพูดในใจของเขาแสดงถึงความรู้สึกของการต่อสู้ภายในที่รุนแรง ระหว่างความต้องการที่ดุเดือดและความรู้สึกที่ท้าทายที่มีนาได้กระตุ้นขึ้น ความรู้สึกนี้ทำให้เขารู้สึกถึงความขัดแย้งภายในตัวเอง ที่เต็มไปด้วยความอยากและความอึดอัดที่เขาต้องเผชิญในช่วงเวลานี้
ในขณะที่ มีนากำลังรดน้ำสวนผักอยู่ข้างๆกระท่อม เธอได้ยินเสียงกระหืดกระหอบของชายคนหนึ่งที่วิ่งตรงเข้ามาที่กระท่อม สีหน้าของเขาแสดงความร้อนรนท่าทางร้อนรนตามมาด้วยเสียงกระหืดกระหอบ ร่างของเขาดูเหนื่อยล้าและเต็มไปด้วยความวิตกกังวลขณะที่เขาเข้าไปกระซิบกับพรายรพีที่นั่งอยู่บนชานกระท่อม สีหน้าของพรายรพีเปลี่ยนไป สายตาของเขาหลุบต่ำลง ทอประกายดุดันและน่ากลัว เขาลุกพรวดจากที่นั่ง หยิบดาบคู่ใจขึ้นมา ในขณะที่เขาก้าวออกจากกระท่อมด้วยความรวดเร็ว ด้วยท่าทางเยียบเย็นและน่าเกรงขามป้าพิศ: นั่งลงข้างๆ มีนาในกระท่อม "นายบอกป้าว่าต้องมาคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ค่ะ"มีนา: มองป้าพิศด้วยความสงสัย "ป้า แล้วพ่อพรายรพีไปไหนคะ?"ป้าพิศ: ส่ายหน้าและยิ้ม "ไม่รู้เหมือนกันจ้า ป้าแค่ได้รับคำสั่งให้มาที่นี่เฉยๆ ไม่ได้บอกว่านายเขาไปไหน"มีนา: พยักหน้าอย่างเข้าใจ มีนานั่งอยู่ที่สวนผักเล็กๆ ของเธอ มือของเธอค่อยๆ รดน้ำต้นผักไปตามเคย แต่ใจของเธอกลับล่องลอยไปไกล เธอนั่งเหม่อมองไปที่แปลงผักที่เขียวขจีซึ่งเธอรู้สึกว่ามันสวยงามขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่มีความสุขจากการที่ต้องอยู่คนเดียวเป็นเวลาสองหรือสามวันแล้วที
เมื่อมีนามองใบหน้าคมสันของพรายรพีได้ถนัดตา เธอสังเกตเห็นหนวดเคราที่เริ่มเขียวคลึ้มขึ้นบนกรามแข็งแรง ความเคร่งขรึมและดุดันในสายตาของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นรัว ความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านมาถึงเธอ ความใกล้ชิดที่แสนร้อนแรงนี้ทำให้เธอรู้สึกสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลน อวบอัดไปทุกสัดส่วน เรียวขางามและเอวคอดกิ่ว บดเบียดแนบชิดกับร่างกายที่แข็งแกร่งของพรายรพี เขากอดแน่นราวกับจะหลอมรวมเธอไว้ในอ้อมกอดเดียว ความรู้สึกที่สะสมมาตลอดหลายวันทวีความรุนแรง จนเขาไม่อาจยับยั้งตัวเองได้อีกต่อไปพรายรพี: (โน้มใบหน้าลงใกล้ กระซิบเสียงพร่า) “คิดถึงฉันไหม... หืม? หรืออยากให้ฉันทำให้เธอคิดถึงมากกว่านี้?”มีนาใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบซ่อนอาการไม่อยู่ ดวงตาไหวระริก ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาของพรายรพียังคงอยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆแผ่วเบา แต่ละคำพูดของเขาทำเอาเธอเขินจนแทบหลบสายตาไม่ได้ หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ว่ามันจะหลุดออกมาเมื่อเขาพูดแผ่วเบาใกล้ๆ หูอีกครั้งมีนาหายใจสะดุด สายตาสั่นไหวขณะที่มองใบหน้าของพรายรพีที่ยังคงโน้มใกล้เธอ ใจเธอสับสนระคนตื่นเต้น “คะ...คุณ...จะไม่ทำร้ายฉันใ
มีนค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอน รู้สึกได้ถึงความปวดร้าวในทุกการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อของเธอเตือนให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน เมื่อเธอหันไปมองรอบๆ ห้อง เพียงแต่พบว่ามันเงียบงัน ร่างใหญ่ของพ่อพรายรพีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆ ที่เป็นต้นเหตุของสภาพเธอในตอนนี้มีนาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างที่ยังคงสั่นไหวเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองที่นอนซึ่งยับเยินอยู่ใต้ตัวเธอ ใจของเธอเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่คำตอบกลับหายไปพร้อมกับตัวของพรายรพี"เขาหายไปไหน..." มีนคิดในใจ แม้จะรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ แต่ความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นมีนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเรียก ป้าพิศ ผู้ดูแลบ้านของพรายรพี ยืนอยู่ที่ประตูห้องพร้อมกับถาดอาหารในมือ สายตาอ่อนโยนแต่แฝงความกังวลจ้องมองมาที่เธอ“ตื่นแล้วเหรอคะ” ป้าพิศถามเสียงนุ่มมีนาพยักหน้าเบาๆ พยายามฝืนยิ้มทั้งที่ความเจ็บปวดในร่างกายยังไม่หายไป “ค่ะป้า...” เธอตอบแผ่วเบาป้าพิศเข้ามาใกล้ วางถาดอาหารลงบนพื้นกระท่อม “ทานข้าวหน่อยนะคะ จะได้มีแรง แล้วถ้ารู้สึกไม่สบาย
มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อเกือบบ่าย สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าทั่วทั้งร่าง ร่างกายเธอประท้วงเมื่อลุกขึ้นจากที่นอน หลังจากคืนที่ผ่านมาที่เธอต้องเผชิญกับแรงรักที่ชายร่างใหญ่พ่อพรายรพีโหมกระหน่ำใส่ไม่หยุด ความรุนแรงของเขาได้ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายและหัวใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกทั้งอ่อนเพลียและไม่อาจหลีกเลี่ยงความคิดถึงเขาได้ ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับความปรารถนาและความอ่อนหวานในคืนที่ยาวนานทำให้เธอแทบไม่มีแรงจะลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับวันใหม่ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ให้กับความอ่อนล้าและรับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขากำลังเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่อาจหวนกลับได้แล้ว."ลุกไหวไหม?" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์และเย้าแหย่ ขณะยกถาดอาหารในมือขึ้นเล็กน้อย สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองตรงมาทำให้มีนาหน้าแดงซ่าน พรายรพีเมื่อเห็นสีหน้าเง้างอดของมีนา ก็อดขำไม่ได้ รีบวางถาดอาหารลงข้างๆ ก่อนจะเข้าไปกอดร่างบางจากด้านหลัง เขากระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหู "เมียจ๋า มากินข้าวเร็ว ๆ นะ จะได้มีแรงงง...อีก" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้มีนารู้สึกถึงความอบอุ่นและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน แต่ก็ไม่วายหันไปมองเขาด้วยสายตาคา
ฮ่าฮ่าฮ่า! เสียงหัวเราะเหี้ยมโหดของไอ้เข้มดังก้องอยู่รอบๆ ขณะที่ลูกน้องของเขาจับตัวแม่คนงามที่พ่อพรายรพีแสนหวงแหนมาได้ไอ้เข้ม: (หัวเราะเหี้ยมโหด) “ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันที่สุดยอดจริงๆ! ลูกน้อง: “พี่เข้ม พี่ต้องการให้เราทำอะไรกับสองคนนี้ดี?”ไอ้เข้ม: (มองไปที่ร่างงามในกรงไม้) “ปล่อยให้อยู่ในกรงนี้ก่อนแล้วกัน ”มีนา: (เสียงสั่น) “ปล่อยพวกฉันไปเถอะ! ”ไอ้เข้ม: (ยิ้มเหี้ยม) “ปล่อยเหรอ ไม่มีทาง เธอเป็นตัวล่อชั้นดีให้ไอ้พรายรพีเข้ามาติดกับของฉัน”ลูกน้อง: “พี่เข้มจะให้ทำอย่างไรต่อไป?” ถามย้ำไอ้เข้ม: (เดินไปใกล้กรงไม้) พวกเธอจะเป็นเหยื่อล่อให้ไอ้พรายรพีเข้ามาในรังของเรา เดี๋ยวไม่นานไอ้พรายรพี จะต้องมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเธอแน่นอน และเมื่อฉันฆ่ามันตายแล้ว เธอจะต้องตกเป็นเมียของฉัน อีกด้านพรายรพีและเสือร้ายทั้งเจ็ดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบท่ามกลางป่าลึก การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล้ายกับเงาที่ค่อยๆ ร้อยเรียงไปตามรอยแยกของต้นไม้ ความมืดของป่าทำให้พวกเขาดูเหมือนกับวิญญาณที่คอยคุกคามทุกมุมมอง ทุกครั้งที่เท้าของพวกเขาแตะพื้น เสียงของใบไม้ที่แห้งกรอบและกิ่งไม้ที่หักก
เมื่อมีนาตื่นขึ้นมาและพบว่าร่างใหญ่ที่เคยอยู่ข้างกายหายไป ความรู้สึกวูบไหวในใจเริ่มแผ่กระจายไปทั่ว ความน้อยใจและความเหงาท่วมท้นในหัวใจของเธอ ราวกับถูกทิ้งให้อยู่ลำพังโดยไม่บอกกล่าว ความคิดถึงเขายิ่งทวีความรุนแรง ทุกค่ำคืนที่เขามอบความร้อนแรงให้กับเธอ ตอนนี้กลับเหลือเพียงความว่างเปล่า ความไม่พอใจสะท้อนในแววตา เธอรู้สึกอ้างว้างและน้อยใจจนไม่อาจห้ามใจตัวเองได้.“ไปไหนอีกแล้ว...ทิ้งฉันไว้คนเดียวอีกแล้วเหรอ?” มีนาพึมพำเบาๆ ด้วยความน้อยใจมีนาพูดกับตัวเองเบาๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจและกังวล ใจเธอเริ่มสั่นไหวกับความเงียบงันที่รายล้อม.“วันทั้งวันก็ไม่เห็นหน้า จนมืดค่ำแล้วยังไม่กลับมาอีก...” พรายรพีที่กลับมาถึงกระท่อมอย่างเร่งรีบ พิงร่างสูงใหญ่กับต้นไม้อยู่ในเงามืด กอดอกพร้อมดาบยาวคู่ใจ ในขณะที่สายตาคมเข้มของเขาทอดมองไปยังร่างของสาวน้อยใต้แสงจันทร์ มีนา กำลังตักน้ำอาบจากตุ่มท่ามกลางแสงจันทร์อันสว่างไสว ภาพนั้นเย้ายวนจนแทบทำให้เขาหยุดหายใจ ผ้าถุงผืนเดียวที่เธอสวมใส่เปียกปอน ลู่ไปตามทรวดทรงอันงดงาม ร่างขาวโพลนภายใต้แสงจันทร์ อกอวบใหญ่เต็มตึงชูชัน เอวคอดกิ่ว และสะโพ
เสียงกระแทกของประตูที่ถูกเปิดออกดังก้องในความมืด มีนาเกาะอยู่ในมุมห้อง ขณะมือของพวกเขายื่นออกมาจับเธอไว้ เธอรู้สึกถึงแรงกดดันและความกลัวที่กัดกินทุกส่วนของร่างกาย ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะพังทลาย“ทำไมต้องทำแบบนี้!” มีนาตะโกนออกมาเสียงสั่นเครือ แต่คำพูดของเธอกลับถูกกลบด้วยเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ดังขึ้นใกล้เข้ามามือที่แข็งแกร่งจับข้อมือของเธออย่างแน่นหนา การดิ้นรนของเธอทำได้เพียงแค่พยายามจะหลุดออก แต่การต่อสู้ของเธอกลับไม่มีทางชนะ“เงียบ!” เสียงของผู้นำกลุ่มดังก้องเข้ามาในหูของเธอ มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและอำนาจ ความรู้สึกของการถูกจับกุมและไม่สามารถหนีได้ทำให้หัวใจของมีนาคล้ายจะหยุดเต้นเธอได้ยินเสียงเหล็กดังกระทบกัน การเปิดและปิดประตู และเสียงกระซิบของคำสั่งที่ถูกส่งผ่านความมืด ท่ามกลางความโกลาหลนี้ มีนาเริ่มรู้สึกว่าความหวังของเธอกำลังจะหมดไปเมื่อประตูปิดลงอีกครั้ง มีนาพยายามสงบสติและหาทางออก แต่ความรู้สึกของความกลัวที่แผ่ขยายออกมานั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกจมอยู่ในความมืดมิดที่ไม่รู้ว่าจะมีทางรอดหรือไม่ภายในรถมินิบัสถุงคลุมหัวที่ถูกดึงลงมาปิดบังทุกสิ่งทุ
พรายรพีหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ที่สะอาด—เสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้นที่เขาเตรียมไว้—แล้ว เขาโยนผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ไปยังมีนา“นี่” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่หยาบคายและไร้ความปรานี “ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า”มีนารีบหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ด้วยมือที่สั่นเทา เธอรู้สึกถึงความกลัวและความไม่แน่นอนในใจ แต่รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิบัติตามคำสั่ง เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำที่มืด อย่างทุลักทุเล น้ำตาที่หลั่งไหลทำให้เธอรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยและความผิดหวัง ห้องน้ำที่นี่เป็นสถานที่เล็กๆ มืดๆ ภายในห้องน้ำมีแต่ตุ่มใส่น้ำที่มุมหนึ่ง เมื่อเธอปิดประตูห้องน้ำ เธอถอนหายใจลึกๆ และมองไปรอบๆ น้ำในตุ่มดูไม่สะอาด แต่มีนาไม่สามารถเลือกได้ เธอรู้ว่าตัวเองต้องทำความสะอาดเพื่อรู้สึกดีขึ้นเธอค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงน้ำจากตุ่มด้วยภาชนะที่วางอยู่ข้างๆ น้ำเย็นทำให้เธอรู้สึกเย็นชาและกระทบถึงความรู้สึกของเธออย่างทันทีมีนาเริ่มล้างตัวเองอย่างช้าๆ เธอพยายามล้างคราบโคลนที่ติดอยู่บนร่างกาย น้ำที่ไหลจากภาชนะทำให้ความเย็นกระทบผิวของเธอ แต่ยังไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดและความเศร้าที่ลึกในใจของเธอได้ขณะที่น้ำไหลผ่าน