มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อเกือบบ่าย สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าทั่วทั้งร่าง ร่างกายเธอประท้วงเมื่อลุกขึ้นจากที่นอน หลังจากคืนที่ผ่านมาที่เธอต้องเผชิญกับแรงรักที่ชายร่างใหญ่พ่อพรายรพีโหมกระหน่ำใส่ไม่หยุด ความรุนแรงของเขาได้ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายและหัวใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกทั้งอ่อนเพลียและไม่อาจหลีกเลี่ยงความคิดถึงเขาได้ ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับความปรารถนาและความอ่อนหวานในคืนที่ยาวนานทำให้เธอแทบไม่มีแรงจะลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับวันใหม่ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ให้กับความอ่อนล้าและรับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขากำลังเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่อาจหวนกลับได้แล้ว."ลุกไหวไหม?" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์และเย้าแหย่ ขณะยกถาดอาหารในมือขึ้นเล็กน้อย สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองตรงมาทำให้มีนาหน้าแดงซ่าน พรายรพีเมื่อเห็นสีหน้าเง้างอดของมีนา ก็อดขำไม่ได้ รีบวางถาดอาหารลงข้างๆ ก่อนจะเข้าไปกอดร่างบางจากด้านหลัง เขากระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหู "เมียจ๋า มากินข้าวเร็ว ๆ นะ จะได้มีแรงงง...อีก" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้มีนารู้สึกถึงความอบอุ่นและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน แต่ก็ไม่วายหันไปมองเขาด้วยสายตาคา
ฮ่าฮ่าฮ่า! เสียงหัวเราะเหี้ยมโหดของไอ้เข้มดังก้องอยู่รอบๆ ขณะที่ลูกน้องของเขาจับตัวแม่คนงามที่พ่อพรายรพีแสนหวงแหนมาได้ไอ้เข้ม: (หัวเราะเหี้ยมโหด) “ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันที่สุดยอดจริงๆ! ลูกน้อง: “พี่เข้ม พี่ต้องการให้เราทำอะไรกับสองคนนี้ดี?”ไอ้เข้ม: (มองไปที่ร่างงามในกรงไม้) “ปล่อยให้อยู่ในกรงนี้ก่อนแล้วกัน ”มีนา: (เสียงสั่น) “ปล่อยพวกฉันไปเถอะ! ”ไอ้เข้ม: (ยิ้มเหี้ยม) “ปล่อยเหรอ ไม่มีทาง เธอเป็นตัวล่อชั้นดีให้ไอ้พรายรพีเข้ามาติดกับของฉัน”ลูกน้อง: “พี่เข้มจะให้ทำอย่างไรต่อไป?” ถามย้ำไอ้เข้ม: (เดินไปใกล้กรงไม้) พวกเธอจะเป็นเหยื่อล่อให้ไอ้พรายรพีเข้ามาในรังของเรา เดี๋ยวไม่นานไอ้พรายรพี จะต้องมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเธอแน่นอน และเมื่อฉันฆ่ามันตายแล้ว เธอจะต้องตกเป็นเมียของฉัน อีกด้านพรายรพีและเสือร้ายทั้งเจ็ดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบท่ามกลางป่าลึก การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล้ายกับเงาที่ค่อยๆ ร้อยเรียงไปตามรอยแยกของต้นไม้ ความมืดของป่าทำให้พวกเขาดูเหมือนกับวิญญาณที่คอยคุกคามทุกมุมมอง ทุกครั้งที่เท้าของพวกเขาแตะพื้น เสียงของใบไม้ที่แห้งกรอบและกิ่งไม้ที่หักก
เมื่อมีนาตื่นขึ้นมาและพบว่าร่างใหญ่ที่เคยอยู่ข้างกายหายไป ความรู้สึกวูบไหวในใจเริ่มแผ่กระจายไปทั่ว ความน้อยใจและความเหงาท่วมท้นในหัวใจของเธอ ราวกับถูกทิ้งให้อยู่ลำพังโดยไม่บอกกล่าว ความคิดถึงเขายิ่งทวีความรุนแรง ทุกค่ำคืนที่เขามอบความร้อนแรงให้กับเธอ ตอนนี้กลับเหลือเพียงความว่างเปล่า ความไม่พอใจสะท้อนในแววตา เธอรู้สึกอ้างว้างและน้อยใจจนไม่อาจห้ามใจตัวเองได้.“ไปไหนอีกแล้ว...ทิ้งฉันไว้คนเดียวอีกแล้วเหรอ?” มีนาพึมพำเบาๆ ด้วยความน้อยใจมีนาพูดกับตัวเองเบาๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจและกังวล ใจเธอเริ่มสั่นไหวกับความเงียบงันที่รายล้อม.“วันทั้งวันก็ไม่เห็นหน้า จนมืดค่ำแล้วยังไม่กลับมาอีก...” พรายรพีที่กลับมาถึงกระท่อมอย่างเร่งรีบ พิงร่างสูงใหญ่กับต้นไม้อยู่ในเงามืด กอดอกพร้อมดาบยาวคู่ใจ ในขณะที่สายตาคมเข้มของเขาทอดมองไปยังร่างของสาวน้อยใต้แสงจันทร์ มีนา กำลังตักน้ำอาบจากตุ่มท่ามกลางแสงจันทร์อันสว่างไสว ภาพนั้นเย้ายวนจนแทบทำให้เขาหยุดหายใจ ผ้าถุงผืนเดียวที่เธอสวมใส่เปียกปอน ลู่ไปตามทรวดทรงอันงดงาม ร่างขาวโพลนภายใต้แสงจันทร์ อกอวบใหญ่เต็มตึงชูชัน เอวคอดกิ่ว และสะโพ
“วันนี้ฉันจะพาไปลำธาร เอาผ้าไปซักที่นั่นด้วย” ร่างสูงเอ่ยขึ้นขณะนั่งกินอาหารเช้าด้วยกันที่ชานกระท่อม เสียงของเขาทุ้มหนักแน่น ทำให้มีนาหันไปมองด้วยความสงสัยเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้ารับโดยไม่ปริปาก ภาพลำธารขนาดใหญ่เบื้องหน้ามีนา งดงามดุจภาพวาดจากสรวงสวรรค์ น้ำใสบริสุทธิ์ราวกระจกใส สะท้อนภาพท้องฟ้าสีครามสดใสและพรรณไม้เขียวชอุ่มที่ล้อมรอบ เสียงลำธารที่ไหลเบาๆ คล้ายดนตรีธรรมชาติที่บรรเลงเพลงแห่งความสงบ เสียงลมพัดใบไม้แผ่วเบาเพิ่มความเย็นสบาย ทำให้เธอรู้สึกถึงความร่มเย็น ลมหายใจของมีนาค่อยๆ ช้าลงเมื่อดวงตาจับจ้องไปที่ทิวทัศน์แสนงดงามนี้ ดวงตาของเธอเบิกกว้างด้วยความตื่นเต้น ราวกับเธอได้พบกับความมหัศจรรย์ที่ซ่อนอยู่ในป่าใหญ่ ความงดงามนี้สะกดทุกสัมผัสของเธอ ทำให้เธอรู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวหยุดนิ่งและหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติ เมื่อมีนาเดินเข้าไปใกล้ลำธารมากขึ้น เสียงของธรรมชาติรอบตัวเริ่มเปลี่ยนไป จากเสียงลมและสายน้ำที่ไหลรินเบาๆ กลายเป็นเสียงจอแจของการพูดคุยที่ดังขึ้นเรื่อยๆ เสียงแปลกๆ นี้ทำให้เธอหยุดชะงัก พลางตั้งใจฟังให้ชัดเจนขึ้น ทุกก้าวที่เดินเข้าไ
พ่อพรายรพีโน้มหน้ามาใกล้ เขาพูดด้วยเสียงแหบพร่าและเต็มไปด้วยความต้องการ“ไม่ไหวแล้วว... ฉันขอรักเธอตรงนี้ได้ไหม?”พรายรพีไม่รอคำตอบจูบมีนาอย่างเร่าร้อน ความตื่นเต้นและแรงดึงดูดในช่วงเวลานั้นทำให้ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โน้มหน้าเข้ามาและจูบเธออย่างเรียกร้อง ริมฝีปากของเขาสัมผัสกับของมีนาอย่างเต็มที่ เสียงของเขาผสมกับความร้อนที่แพร่กระจายไปทั่วร่างกายของทั้งคู่ มีนาเคลิบเคลิ้มไปกับการจูบที่ดุเดือดและเร้าอารมณ์ ภายในไม่ถึงนาทีพ่อพรายรพีใช้มือใหญ่ของเขาอย่างมั่นใจและมีความรู้สึกในการเคลื่อนไหว เขาถอดเสื้อผ้าของมีนาออกอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความต้องการทันใดนั้น พ่อพรายรพีดึงร่างของมีนาขึ้นจากพื้น เขาผลักเธอให้หลังพิงต้นไม้ใหญ่ ขณะที่เขาเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและเต็มไปด้วยความต้องการ“ปล่อยตัวให้รู้สึกดีไปกับฉัน” เขาพูดด้วยเสียงที่แฝงไปด้วยความร้อนแรง ขณะที่เขาจับแขนของมีนารวบขึ้นบนศรีษะจับไว้ด้วยมือใหญ่ข้างเดียว และทำให้เธอแนบติดกับต้นไม้ใหญ่ ความรู้สึกตื่นเต้นและความเร้าอารมณ์ในตอนนี้กระจายไปทั่วทั้งร่างของเธอมีนาเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ผสมปนเป ขณะที่ต
พรายรพีกระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น "เราจะย้ายลงไปอยู่ปางกันวันนี้ ตื่นสิยัยขี้เซา" มีนาที่กำลังหลับสนิทอยู่ในอ้อมแขนของเขาตอบกลับมางัวเงีย "ยังไม่เช้าเลย" พร้อมกับซุกหน้าลงไปที่อกกว้างของพ่อพรายรพีอย่างออดอ้อน หนุ่มใหญ่ยิ้มออกมาด้วยความเอ็นดู มองท้าวแขนขึ้นเล็กน้อยก่อนจะเอียงคอลงมาดูใบหน้าของสาวน้อยที่ซุกเข้าหาอกของเขา แล้วก้มลงกระซิบข้างหูด้วยเสียงแหบพร่า "ถ้าไม่ตื่น...จะทำอย่างอื่นนะ"…………………………………………… เมื่อพ่อพรายรพีพามีนาลงจากเขา สายตาของเธอค่อยๆ เผยให้เห็นภาพที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน หมู่บ้านที่อยู่เบื้องหน้าไม่ได้เป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ ในจินตนาการ หากแต่เป็นหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยบ้านเรือนที่หลากหลาย ทั้งชั้นเดียวและสองชั้น สร้างด้วยวัสดุที่ดูทันสมัยเรียงรายอย่างเป็นระเบียบ ราวกับภาพของหมู่บ้านจัดสรรในเมืองใหญ่ การตกแต่งบ้านแต่ละหลังประณีตงดงาม เสมือนหมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ในดินแดนที่ห่างไกลจากความวุ่นวาย บ้านทุกหลังไม่มีรั้วกั้น แต่กลับมีสนามหญ้าสีเขียวสดใสที่ทอดยาวไปจนถึงถนนที่โอบล้อมหมู่บ้าน หน้าบ้านบางหลังประดับด้วยดอกไม้หลากสีสันที่ผลิบานในแสงแดด บางหล
เมื่อพรายรพีเห็นร่างงามยั่วยวนในห้องน้ำ ความตั้งใจของเขาที่จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก็พลันเปลี่ยนไป เขาทิ้งเสื้อไว้และก้าวเข้าไปในห้องน้ำ น้ำจากฝักบัวยังคงไหลลงบนร่างของมีนา เขาเดินเข้าไปข้างหลังเธอและกอดเธอด้วยความเร่าร้อนเมื่อรู้สึกถึงการสัมผัสของเขา มีนาหันหน้ามามองด้วยความตกใจที่โดนรวบจากข้างหลัง แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไร มือใหญ่ของพรายรพีก็กดวนคลึงเคล้นอกงามของเธออย่างหนักหน่วง ร่างของเขาแนบสนิทอยู่กับหลังของเธอ ขณะที่จูบของเขาลงมาทำให้รู้สึกถึงความร้อนและความปรารถนาอย่างเต็มที่ลิ้นของเขาสอดเข้าไปในปากของเธอในขณะที่มือของเขาเคลื่อนไหวไปตามเส้นสายของร่างเธออย่างอ่อนโยนแต่เต็มไปด้วยความมั่นใจ ความรู้สึกนี้ทำให้มีนาหยุดหายใจไปชั่วขณะ ขณะที่ทุกสัมผัสของพรายรพีทำให้เธอรู้สึกถึงความร้อนแรงที่ยากจะปฏิเสธพรายรพีพลิกมีนาให้หันมาหาเขาอย่างรวดเร็ว มือของเขาเต็มไปด้วยความแรงและความต้องการ เขาตวัดร่างงามของเธอขึ้นอุ้มไว้ในอ้อมแขนของเขา ขณะที่ริมฝีปากของเขาจูบเธออย่างไม่หยุดยั้ง จูบที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความรักที่ท่วมท้นเขาพาเธอออกจากห้องน้ำและเดินไปที่ห้องนอนกว้างที่มีกระจกบานใหญ่ใสที่มองอ
พรายรพีเดินออกมาที่ลานกว้างของปาง ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่งและเงียบสงบ ตรงกลางลานมีเรือนหลังใหญ่ตั้งตระหง่าน เป็นเรือนที่ถูกสร้างขึ้นอย่างประณีตและสง่างาม ใช้เป็นสถานที่ประชุมและรับแขกสำคัญของปาง บรรยากาศรอบลานเต็มไปด้วยความเคร่งขรึม ผสมผสานกับความเรียบง่ายที่ลงตัว และเมื่อเขาก้าวเข้าไป เสือทั้งเจ็ด—น้ำ เพชร ปีน้อย ไพรวัลย์ ประเวศ ขวัญ มิ่ง ก็รออยู่ที่นั่นแล้ว ลูกน้องของเขานั้น ต่างเป็นชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาดีในแบบฉบับของชายชาวไทยที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ ท่ามกลางบรรยากาศอันเคร่งขรึมในห้องรับแขกของเรือนใหญ่ พวกเขาแต่งกายด้วยชุดธรรมดาที่ดูเรียบง่าย ทว่ามีสไตล์คล้ายกับวงบอยแบนด์เกาหลี เสื้อเชิ้ตเรียบๆ กางเกงยีนส์พอดีตัว รองเท้าผ้าใบ ดูสบายตาแต่แฝงไปด้วยความเข้มแข็งและความเป็นระเบียบในท่าทีของพวกเขา แต่ละคนยืนกระจายตัวอยู่รอบๆ ห้องรับแขก ซึ่งถูกตกแต่งอย่างหรูหราด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้เนื้อดี พรมหนานุ่ม และผ้าม่านผืนใหญ่ที่ห้อยอยู่ที่หน้าต่างสูง"สวัสดีครับ คุณพรายรพี ผมอาทิตย์ครับ สารวัตรที่เพิ่งย้ายมาใหม่" อาทิตย์แนะนำตัวด้วยน้ำเสียงสุภาพพลางยื่นมือไปทักทายพรายรพีมองสำรวจร่
ในห้องที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นเมื่อไอ้อ้วนน้อยของพ่อได้เวลาฝากพี่เลี้ยงไว้แล้ว เขาหันไปหาภรรยาสุดที่รักของเขา พร้อมรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความหมาย “เมื่อไอ้อ้วนของพ่อไปกับพี่เลี้ยงแล้ว พ่อขอเวลาส่วนตัวกับแม่หน่อยนะ”แม่ยิ้มตอบกลับ ขอบตาของเธอเบิกบาน “ได้สิค่ะ พ่อ” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความรักและความเอื้ออาทร“พ่อคิดว่ามันเป็นเวลาที่เหมาะสมแล้วที่จะใช้เวลากับแม่” เขาพูดต่อ ดวงตาของเขาส่องแสงอ่อนโยน “เราไม่ได้มีเวลาส่วนตัวกันนานแล้ว”“ใช่ค่ะ แม่ก็รู้สึกแบบนั้น” แม่ตอบอย่างอบอุ่น ความรู้สึกที่เก็บไว้ในใจกลับมาร่วมกันอีกครั้ง “มีเรื่องที่พ่ออยากพูดหรือเปล่าคะ?”เขายิ้มกว้างขึ้น “พ่อแค่คิดว่าแม่ยังเป็นคนพิเศษในชีวิตพ่อเสมอ”“แม่ก็รักพ่อมากเหมือนกัน” เธอพูดพร้อมกับยิ้มออกมาพวกเขายิ้มให้กัน ดวงตาเต็มไปด้วยความรักและความเข้าใจ ความรู้สึกของการได้อยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่เงียบสงบนี้ทำให้หัวใจของพวกเขาอบอุ่นยิ่งขึ้น“มาหาเวลาที่จะทำให้แม่รู้สึกดีอีกครั้งดีกว่า” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหวานซึ้ง“ฉันจะยังรักเธอเสมอไม่ว่าเธอจะสาวหรือจะแก่ลง” เสียงของเขาเต็มไปด้วยความจริงใจ เมื่อเขาจ้องมองไปที่เธอ ความรู้
เวลาผ่านไปจนมีนาได้คลอดลูกชายตัวน้อย ตอนนี้เขาอายุห้าเดือนแล้ว เด็กน้อยที่มีร่างอ้วนจ้ำม่ำ ทำให้ทุกคนในบ้านรู้สึกอบอุ่นใจเมื่อได้เห็นเขา ขณะที่เขานอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ กำลังดูดนมอย่างมีความสุข เสียงจู๊บๆ ของเขานั้นทำให้มีนารู้สึกมีความสุขและภาคภูมิใจในบทบาทใหม่ของเธอรพีมักจะนั่งอยู่ข้าง ๆ มองดูลูกชายด้วยความรักและความภาคภูมิใจ เขาไม่สามารถละสายตาจากความน่ารักของลูกได้ และรู้สึกได้ถึงความรักที่เพิ่มพูนในครอบครัวนี้“ลูกของเราน่ารักมากเลยนะ” เขาพูดพร้อมรอยยิ้มอบอุ่น ขณะยื่นมือไปลูบหัวลูกชายอย่างเบา ๆ“ใช่ค่ะ ที่รัก เขาทำให้ชีวิตเรามีความหมายมากขึ้น” มีนาตอบกลับพร้อมยิ้มให้กับลูกน้อยในอ้อมแขนของเธอ ความรักในครอบครัวนี้กำลังเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีลูกชายเป็นศูนย์กลางของความสุขเด็กชายวัยห้าเดือนนอนอยู่ในอ้อมแขนของแม่ ขณะที่เขาดูดนมจากอกของเธออย่างหิวโหย ริมฝีปากน้อยๆ ของเขาดูดตุ้บๆ เป็นจังหวะ สร้างเสียงนุ่มๆ ที่แสดงถึงความอิ่มเอมและความสุข เด็กน้อยมีใบหน้ากลมอวบอิ่ม ดวงตาหลับสนิทเหมือนกำลังฝันดี ในขณะที่มือเล็กๆ ของเขายังคงจับเสื้อแม่ไว้แน่น แสดงถึงความอบอุ่นและความปลอดภัยทันใดนั้น ร่า
ในบ้านหลังใหญ่ที่เต็มไปด้วยความอบอุ่นและเสียงหัวเราะ รพีและมีนากลับมาจากฮันนีมูนที่น่าจดจำ หลังจากผ่านไปสามเดือน คู่รักหนุ่มสาวยังคงอยู่ในช่วงเวลาแห่งความรักและความสุขที่หวานชื่นเช้าวันหนึ่ง มีนานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารเช้าขณะที่แสงแดดส่องผ่านหน้าต่าง เธอสวมเสื้อยืดหลวม ๆ และกางเกงขาสั้น รพีก้าวเข้ามาในห้องด้วยรอยยิ้มกว้าง เขาใส่เสื้อเชิ้ตแขนสั้นเผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่กระชับและกลิ่นอายของความเป็นชายที่ลอยมา ทำให้มีนารู้สึกตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้เห็นเขา“วันนี้เราจะทำอะไรดี?” มีนาถามเสียงหวาน ดวงตาของเธอเปล่งประกายด้วยความอยากรู้“ไปเที่ยวที่ทะเลกันไหม?” รพีเสนอต่ออย่างกระตือรือร้น “ฉันอยากให้เธอได้เห็นความงามของทะเลในฤดูร้อน”“ดีเลย! ฉันชอบทะเลมาก” มีนาตอบด้วยความตื่นเต้น ขณะเธอยิ้มกว้าง รู้สึกถึงความสุขที่ได้ใช้เวลาร่วมกันระหว่างที่พวกเขากินอาหารเช้า พูดคุยและหัวเราะด้วยกัน รพีไม่สามารถหยุดมองมีนาได้ เธอสวยงามในทุกมุมมอง จนเขารู้สึกว่าเขาโชคดีมากที่มีเธอในชีวิต“เราจะต้องเตรียมของไปด้วยนะ” รพีพูดอย่างคิดคำนวณ “และฉันจะต้องให้เธอสวมชุดว่ายน้ำใหม่ที่ฉันซื้อให้”มีนาหัวเราะออกมา “จะให้ฉันใ
ที่ชานกระท่อม ท่ามกลางแสงดาวที่ส่องประกายระยิบระยับ รพียืนซ้อนกอดมีนาไว้จากด้านหลัง อ้อมแขนแข็งแรงโอบรัดเธอไว้แนบแน่น เขาโน้มตัวลงจูบเธออย่างดูดดื่มและลึกซึ้ง ราวกับต้องการมอบทุกความรู้สึกที่มีให้เธอในชั่วขณะนี้เมื่อริมฝีปากผละออก รพีค่อย ๆ ใช้มือประคองใบหน้าของมีนาให้ซบลงกับอกกว้างของเขา หัวใจของเขาเต้นหนักแน่นอยู่ข้างหูเธอ สองคนมองดูแสงดาวทอประกายระยิบอยู่บนท้องฟ้ากว้าง ความเงียบสงบของค่ำคืนนี้ห่มคลุมพวกเขาไว้ ราวกับทั้งจักรวาลมีเพียงแค่สองคนนี้พ่อพรายรพีลูบเส้นผมของเธอเบา ๆ พึมพำแผ่ว ๆ ข้างหู "ดาวอาจจะสวย... แต่สำหรับฉันมันสวยน้อยกว่าเธอมาก”"มีนา..." รพีเอ่ยเรียกเสียงนุ่ม แต่น้ำเสียงแฝงไปด้วยความทะเล้น "เธอว่า... มีที่ไหนในป่านี่ที่เรายังไม่ได้เอากันบ้าง?"มีนาหน้าแดงก่ำ แม้จะอยู่ท่ามกลางความมืด เธอหันไปมองเขาอย่างตื่นเต้นและขวยเขิน ก่อนจะยกมือขึ้นตีเบา ๆ บนแขนแข็งแรงที่โอบเธอจากด้านหลัง"พูดอะไรออกมาน่ะ!" เธอตอบพร้อมหัวเราะเขิน ๆรพีหัวเราะแผ่ว ๆ ในคอ โอบกระชับเธอแน่นขึ้น รอยยิ้มซุกซนประดับบนใบหน้า "ฉันหมายถึง... มีที่ไหนที่เรายังไม่ได้ชมวิวสวย ๆ ด้วยกันต่างหาก"มีนาหันมามองรพี
เช้าวันใหม่ในกระท่อมร้อนรักรพีตื่นขึ้นมาในห้องนอนที่อบอุ่น แสงแดดยามเช้าผ่านเข้ามาทางหน้าต่าง ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและมีชีวิตชีวา เขาหันไปมองมีนาที่นอนอยู่ข้างๆ เธอหลับใหลอย่างสงบ เส้นผมยาวสลวยกระจายไปบนหมอน ทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงอีกครั้ง ความรู้สึกของความรักที่เขามีให้เธอแน่นแฟ้นยิ่งขึ้น“น่าเสียดายที่ไม่สามารถอยู่ในอ้อมแขนเธอได้นานกว่านี้” เขากระซิบกับตัวเอง ก่อนที่จะลุกขึ้นไปเตรียมอาหารเช้าง่ายๆ สำหรับทั้งสองคนในครัวเล็กๆ รพีเริ่มทำไข่เบคอนในกระทะ โดยมีเสียงฉ่าและกลิ่นหอมของเบคอนทำให้เขารู้สึกดี การทำอาหารเช้านี้กลายเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตร่วมกันที่เขาตั้งใจจะมอบให้มีนาเมื่อทุกอย่างพร้อม เขายกกาแฟกลิ่นหอมพร้อมกับจานไข่เบคอนเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้ง มุมปากของเขายิ้มขึ้นเมื่อเห็นมีนาค่อยๆ ลืมตาขึ้นและยิ้มให้เขา“สวัสดีเช้านี้นะครับที่รัก” รพีทักทายด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ขณะที่วางจานอาหารลงบนโต๊ะข้างเตียง“ทำไมถึงทำอาหารเช้าให้ฉัน?” มีนาถามอย่างงัวเงีย ขยับตัวลุกขึ้นมานั่ง“เพราะว่าฉันอยากให้วันของเราเริ่มต้นด้วยความพิเศษ” เขาตอบพลางยิ้ม “วันนี้เราเป็นสามีภรรยากันอย่างเต็มตัวแล้
ภายใต้แสงดาวพราวฟ้าบนหุบเขาที่เงียบสงัด กระท่อมรักที่เคยเป็นสถานที่แห่งความทรงจำกลับมามีชีวิตอีกครั้ง รพี ยืนเด่นอยู่ใต้แสงจันทร์สีเงินงาม ส่องกระทบผิวกายกำยำของเขาจนดูดุดันและทรงพลัง สายลมเย็นพัดโชยมากระทบใบหน้า แต่สิ่งที่ร้อนแรงยิ่งกว่าคือสัมผัสจากมือใหญ่ของเขาที่ค่อย ๆ ลูบไล้ไปตามทรวงอกอวบอิ่มของมีนาเธอเงยหน้าขึ้นมองดวงตาของเขาที่เต็มไปด้วยความต้องการ ความเถื่อนดิบที่แฝงอยู่ในแววตาทำให้เธอไม่อาจหลบสายตาไปได้ รพีลูบไล้มือหนักหน่วงไปตามร่างกายของเธอ ปลายนิ้วไล่จากไหล่ลาดลงมาสู่ส่วนโค้งเว้าที่อกอวบที่เขาหลงใหล เขากดปลายนิ้วกับผิวเนื้อที่นุ่มนวลของเธออย่างแนบแน่น ขณะที่มีนาครางแผ่วอย่างอ่อนโยน"ที่รัก… เธอจำความรู้สึกนี้ได้ไหม?" รพีกระซิบอย่างดุดันข้างหูเธอ ก่อนจะกดริมฝีปากร้อน ๆ ลงบนเนื้ออ่อนที่หน้าอกของเธอ ขบกัดเบา ๆ ทำให้เธอสะดุ้งไหว ร่างกายของมีนาเริ่มตอบสนองต่อความสัมผัสดิบเถื่อนที่เธอคุ้นเคยเสียงครางเบา ๆ ของเธอหลุดออกมา ขณะที่รพีจับร่างเธอแน่นและกดลงกับกำแพงไม้ของกระท่อม ท่ามกลางเสียงใบไม้พลิ้วไหวและเสียงหายใจหนักหน่วง รพีทำให้ค่ำคืนนี้เต็มไปด้วยความเร่าร้อนที่แทรกซึมอยู่ในทุก
“เดี๋ยวฉันอาบน้ำให้” สียงกระซิบของเขาแผ่วเบา แต่กลับมีพลังที่ทำให้มีนาใจเต้นรัว เมื่อผ้าถุงหลุดออก มีนายืนอยู่ในสภาพเปลือยเปล่าท่ามกลางแสงจันทร์ ผิวของเธอเปล่งปลั่งและมีเสน่ห์ยิ่งขึ้น ขอบเขตของความใกล้ชิดในค่ำคืนนี้ยิ่งทวีความร้อนแรง เมื่อเขามองเธอ สายตาของเขาแสดงถึงความชื่นชมและความหลงใหลในร่างกายของเธอที่งดงามร่างสูงใหญ่ของเขาเข้ามาประชิดตัวมีนา มือใหญ่และอบอุ่นของเขาเลื่อนขึ้นไปสัมผัสที่ทรวงอกของเธออย่างเบามือ สัมผัสนั้นอ่อนโยนแต่หนักแน่น เขาค่อยๆ ลูบไล้ฟองสบู่วนไปบนผิวเนียนลื่น ราวกับต้องการจดจำทุกความนุ่มนวลและความโค้งเว้าของเธอ ทรวงอกใหญ่ล้นออกมาอย่างงดงาม ยิ่งทำให้เขาเผลอสายตาและหลงใหลในตัวเธอมากขึ้นเขาเคลื่อนไหวอย่างช้าๆ ใช้ปลายนิ้วลูบวนไปตามเนื้อเนียนละเอียด เธอหายใจสะท้านเล็กน้อยจากสัมผัสนั้นเสียงลมหายใจของเขาหนักหน่วงขึ้นเล็กน้อยเมื่อสัมผัสผิวของมีนา ทุกสัมผัสที่วนมือไปบนทรวงอกของเธอ ทำให้เกิดเสียงฟองสบู่แตกตัวเบาๆ ผสมกับเสียงน้ำที่กระเซ็นลงบนพื้น มันเป็นเสียงที่สร้างบรรยากาศเงียบสงบและนุ่มนวล ทว่าแฝงด้วยความเร่าร้อนที่กำลังปะทุขึ้นในทุกจังหวะสัมผัสเธอเผลอหายใจสั่น เส
เมื่อพิธีวิวาห์ของพ่อพรายรพีและมีนาเริ่มขึ้น ปางไม้ที่ถูกประดับด้วยดอกไม้สีชมพูอ่อนและขาว ไล่เฉดกันไปทั่วบริเวณ กลายเป็นทุ่งดอกไม้ที่งดงามเกินคำบรรยาย ทุกมุมมองเต็มไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติและความบริสุทธิ์ราวกับภาพฝัน แม้มีนาจะขอให้จัดงานอย่างเรียบง่าย แต่ธรรมชาติที่รายล้อมกับความประณีตในการจัดเตรียม ทำให้บรรยากาศนั้นมีความขลังและมีเสน่ห์อย่างลึกซึ้ง บรรยากาศดูเหมือนต้องมนต์สะกด ทุกสีสันและกลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกไม้พลิ้วไหวไปพร้อมกับสายลม สร้างความรู้สึกสงบและศักดิ์สิทธิ์ผู้คนในปางต่างร่วมพิธีด้วยการแต่งกายอย่างงดงามตามขนบธรรมเนียม ผู้หญิงนุ่งผ้าถุงสีเข้ม สวมเสื้อยาวกรอมแขนที่พริ้วไหวไปกับท่วงท่าที่อ่อนช้อย แต่ละคนมีสไบเบี่ยงพาดไหล่ เพิ่มความอ่อนหวานและสง่างามดุจดั่งนางในวรรณคดี ส่วนผู้ชายแต่งกายด้วยผ้าสโร่งสีเข้ม เนื้อผ้าทอด้วยลวดลายเรียบง่าย แต่แฝงความเข้มขลัง และสวมเสื้อสีเดียวกันอย่างกลมกลืน การแต่งกายสมถะเรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์เหล่านี้ สะท้อนถึงความเคารพในวัฒนธรรมดั้งเดิม แต่ละคนต่างเป็นภาพสะท้อนของความงามที่ไร้กาลเวลาตรงกลางลานกว้างมีบายศรีที่ถูกจัดขึ้นอย่างวิจิตรตระการตา บายศรีส
รพีไม่รอช้า เขายกร่างสวยอวบอัดของมีนาขึ้น ก่อนจะเสียบแก่นกายแข็งใหญ่ของเขาเข้าไปในความชุ่มชื้นฉ่ำของกุหลาบป่าที่พร้อมรับสัมผัส ร่างของทั้งคู่กระแทกเข้าหากันอย่างรุนแรง ทุกการเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความดิบเถื่อนและความกระหายที่ไม่อาจระงับได้"อื้ม… ที่รัก…!" มีนาครางเสียงสั่นสะท้าน ร่างกายของเธอสั่นไหวไปตามแรงขับของเขา เสียงเนื้อกระทบเนื้อดัง "ตั๊บ ตั๊บ" อย่างต่อเนื่อง มือของรพีขย้ำสะโพกกลมกลึงของเธอแน่น ดึงเธอเข้าหาตัวอีก ขณะที่เขาเด้งเอวขึ้นรับการเคลื่อนไหวของเธออย่างต่อเนื่อง“เร็วอีกสิ… อาา... แบบนั้นแหละ” เสียงของรพีแหบพร่าด้วยความเร่าร้อน ความต้องการที่ลุกโชนในตัวเขาเหมือนเปลวไฟที่ไม่มีวันดับ เขาผลักดันความแข็งใหญ่เข้าไปลึกจนสุด จนมีนาได้แต่กรีดร้องด้วยความเสียวซ่าน "อื้ม… อาา... ไม่ไหวแล้ว!"จังหวะของพวกเขารัวเร็วขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เหงื่อไหลซึมทั่วตัว รพีมองใบหน้าของมีนาที่เต็มไปด้วยความเร่าร้อนและความต้องการ สายตาของเธอพร่ามัวด้วยความเสียวซ่าน ขณะที่สะโพกของเธอเคลื่อนไหวอย่างรุนแรงและเร่งรีบ“อาา… ที่รัก! ถึงพร้อมกัน!” พวกเขาเร่งจังหวะอย่างสุดแรง จนถึงจุดสุดยอดพร้อมกัน ร่างกายขอ