ในขณะที่ มีนากำลังรดน้ำสวนผักอยู่ข้างๆกระท่อม เธอได้ยินเสียงกระหืดกระหอบของชายคนหนึ่งที่วิ่งตรงเข้ามาที่กระท่อม สีหน้าของเขาแสดงความร้อนรนท่าทางร้อนรนตามมาด้วยเสียงกระหืดกระหอบ ร่างของเขาดูเหนื่อยล้าและเต็มไปด้วยความวิตกกังวลขณะที่เขาเข้าไปกระซิบกับพรายรพีที่นั่งอยู่บนชานกระท่อม สีหน้าของพรายรพีเปลี่ยนไป สายตาของเขาหลุบต่ำลง ทอประกายดุดันและน่ากลัว เขาลุกพรวดจากที่นั่ง หยิบดาบคู่ใจขึ้นมา ในขณะที่เขาก้าวออกจากกระท่อมด้วยความรวดเร็ว ด้วยท่าทางเยียบเย็นและน่าเกรงขาม
ป้าพิศ: นั่งลงข้างๆ มีนาในกระท่อม "นายบอกป้าว่าต้องมาคอยอยู่เป็นเพื่อนคุณที่นี่ค่ะ"
มีนา: มองป้าพิศด้วยความสงสัย "ป้า แล้วพ่อพรายรพีไปไหนคะ?"
ป้าพิศ: ส่ายหน้าและยิ้ม "ไม่รู้เหมือนกันจ้า ป้าแค่ได้รับคำสั่งให้มาที่นี่เฉยๆ ไม่ได้บอกว่านายเขาไปไหน"
มีนา: พยักหน้าอย่างเข้าใจ
มีนานั่งอยู่ที่สวนผักเล็กๆ ของเธอ มือของเธอค่อยๆ รดน้ำต้นผักไปตามเคย แต่ใจของเธอกลับล่องลอยไปไกล เธอนั่งเหม่อมองไปที่แปลงผักที่เขียวขจีซึ่งเธอรู้สึกว่ามันสวยงามขึ้นเรื่อยๆ แต่กลับไม่มีความสุขจากการที่ต้องอยู่คนเดียว
เป็นเวลาสองหรือสามวันแล้วที่พรายรพีและลูกน้องของเขาหายตัวไปจากกระท่อม ความเงียบที่แผ่ซ่านอยู่รอบๆ ทำให้มีนารู้สึกถึงความเงียบเหงาที่เพิ่มขึ้นในชีวิตประจำวันของเธอ ภาพเหตุการณ์วันนั้นยังคงค้างคาในความทรงจำของเธอ พรายรพีที่เดินออกไปพร้อมกับลูกน้องด้วยความมุ่งมั่นและความตึงเครียดที่ราวกับจะมีสิ่งที่ใหญ่หลวงกำลังเกิดขึ้น
มีนานั่งเหม่อมองไปที่ดินและพืชผัก พร้อมกับความวิตกกังวลที่ค่อยๆ เกาะกินเธอ แม้จะพยายามไม่ให้ตัวเองคิดเรื่องนี้ แต่ความรู้สึกของความว่างเปล่าและความกังวลยังคงฝังอยู่ในใจ กลับรู้สึกถึงความหวังว่าพรายรพีจะกลับมาโดยเร็ว
ป้าพิศ: (เขย่าร่างมีนาที่นั่งอยู่ด้วยท่าทางเหม่อลอย) "คุณ... คุณ... ป้าทำข้าวไว้ให้แล้วค่ะ มากินข้าวเถอะ เดี๋ยวป้าต้องกลับไปที่หมู่บ้านก่อนนะคะ มืดๆ ป้าจะกลับมาอยู่เป็นเพื่อน"
ตกค่ำในคืนนั้นในกระท่อมที่มีแสงจันทร์สลัวส่องผ่านหน้าต่างไม้สักบานเล็กๆ มีนากำลังถอดเสื้อผ้าของเธอด้วยความรู้สึกที่แสนเงียบสงบ เสียงของใบไม้ที่ปลิวไหวจากลมเบาๆ เป็นเพียงสิ่งที่ทำลายความเงียบของค่ำคืน
แสงจันทร์ที่ลอดผ่านผ้าม่านบางๆ ทำให้ห้องดูมีเสน่ห์และคลุมเครือ แสงนั้นทำให้เงาของมีนาพาดไปบนพื้นอย่างละมุนละไม ในขณะที่เธอค่อยๆ ปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกทีละชิ้น ความรู้สึกของความสบายและเป็นส่วนตัวเริ่มเข้ามาครอบงำ
เมื่อเธอเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ แสงของดวงจันทร์ที่สาดส่องทำให้ผิวของเธอเป็นประกาย ความเงียบสงัดและบรรยากาศที่อ่อนโยนนั้นทำให้มีนารู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในโลกที่แยกออกจากความจริง
พ่อพรายรพีกลับมาที่กระท่อมด้วยความเร่งรีบและใจที่ร้อนรุ่ม เขาพยายามกลั้นความวิตกกังวลที่เกาะกุมอยู่ในอก ขณะที่เขาเดินเข้าสู่ความมืดมิดของกระท่อม ความรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งขาดหายไปกัดกร่อนเขาอย่างหนักหน่วง
เขามองเห็นกระท่อมที่มืดมิดไม่มีแสงไฟใดๆ เหมือนไม่มีใครอยู่ ในมือที่ถือดาบสั่นน้อยๆ เพราะความกังวลที่ทวีความรุนแรงขึ้น เขาเคลื่อนตัวอย่างรวดเร็ว แต่ยังระมัดระวังเพราะกลัวจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิด
ความเงียบสงัดในกระท่อมทำให้หัวใจของเขาเต้นแรงและเสียงลมหายใจของเขาเองรู้สึกดังมากขึ้น พ่อพรายรพีรู้สึกถึงความร้อนรุ่มที่ระเบิดในอก ในหัวของเขาคิดถึงแต่คำถามเดียว—มีนาอยู่ที่ไหน?
เมื่อพ่อพรายรพีค่อยๆ เดินเข้าไปในกระท่อมด้วยความเงียบ ความมืดที่หนาแน่นทำให้เขาแทบไม่สามารถเห็นอะไรได้ แต่เมื่อแสงจันทร์สาดเข้ามาในกระท่อม เขาก็ต้องหยุดชะงัก หัวใจของเขาตกตะลึงและแทบลืมหายใจ
ภาพที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้า ทำให้หัวใจของเขาหยุดเต้นไปครู่หนึ่ง
แสงจันทร์ที่ส่องเข้ามาเผยให้เห็นร่างของมีนาในความมืด ความขาวสล้างของเธอสะท้อนออกมาอย่างชัดเจน ร่างของเธอเปลือยเปล่าถูกแสงจันทร์สาดส่องทำให้เธอดูเหมือนนางฟ้าที่หลุดออกมาจากฝัน อากาศเย็นของค่ำคืนทำให้ผิวของเธอสัมผัสได้ถึงความหนาวเย็น แต่ก็ยังมีความร้อนที่ซ่อนอยู่ในตัวเธอ
การปลดเสื้อผ้าทีละชิ้นของเธอเป็นไปอย่างช้าๆ แต่ละการเคลื่อนไหวของเธอเต็มไปด้วยเสน่ห์และความยั่วยวน เธอไม่รู้เลยว่าเขายืนอยู่ที่นั่น เธอกำลังปลดกระดุมสุดท้ายอย่างสง่างาม ขณะที่ร่างกายของเธอเริ่มเผยให้เห็นอย่างเต็มที่
พ่อพรายรพีรู้สึกถึงความร้อนที่เกิดขึ้นในตัวเขาอย่างรุนแรง เขาควบคุมตัวเองได้ยากเมื่อเห็นมีนากำลังอยู่ในสภาพนี้ ความรู้สึกของเขาค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นความต้องการที่ไม่อาจปฏิเสธได้ เขาไม่สามารถละสายตาไปจากเธอได้ และความรู้สึกที่เกิดขึ้นในใจของเขาเริ่มรุนแรงมากขึ้น
ความร้อนที่เกิดขึ้นทำให้เขารู้สึกเหมือนจะระเบิดออกมา เขารู้สึกถึงความต้องการที่จะเข้าไปอยู่ใกล้ชิดกับมีนามากขึ้น ความรู้สึกที่ปะทุออกมาทำให้เขาต้องสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อพยายามควบคุมตัวเอง เขาไม่เคยรู้สึกถึงความเร้าใจแบบนี้มาก่อน และมันทำให้เขารู้สึกเหมือนกำลังตกอยู่ในความฝันที่ร้อนแรงและเต็มไปด้วยความต้องการ เขาเดินเข้าไปใกล้มีนาอย่างรวดเร็ว ความรู้สึกของเขาท่วมท้นด้วยความต้องการที่ไม่อาจปฏิเสธได้ ในพริบตาที่เขามาถึงตัวเธอ เขาจึงกระชากร่างของเธอเข้ามาในอ้อมกอดอย่างแรงและเร่าร้อน
มีนา: (ตกใจสุดขีดเมื่อถูกกระชากเข้าไปในอ้อมแขน ร้องสุดเสียง) "ใครน่ะ! ปล่อยฉันนะ!"
ในท่าทีของการดินรนสุดแรงเกิดจากอ้อมกอดนั้น มีนาก็เห็นได้ถนัดตาว่าเป็นใคร
มีนา: (หายใจหอบ เสียงสั่น) "คะ... คุณ..."
………………………………………………………………………
คอมเม้นต์ + ถูกใจ = กำลังใจ
กดเข้าชั้น = รับอัปเดทตอนใหม่
กดติดตามนักเขียน = อยู่ด้วยกันก่อนน๊าาา ยาวๆๆไป มีนิยายหลายรูปแบบทะยอยลงให้อ่านค่ะ
เมื่อมีนามองใบหน้าคมสันของพรายรพีได้ถนัดตา เธอสังเกตเห็นหนวดเคราที่เริ่มเขียวคลึ้มขึ้นบนกรามแข็งแรง ความเคร่งขรึมและดุดันในสายตาของเขาทำให้หัวใจเธอเต้นรัว ความร้อนจากร่างกายของเขาแผ่ซ่านมาถึงเธอ ความใกล้ชิดที่แสนร้อนแรงนี้ทำให้เธอรู้สึกสั่นไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ร่างเปลือยเปล่าขาวโพลน อวบอัดไปทุกสัดส่วน เรียวขางามและเอวคอดกิ่ว บดเบียดแนบชิดกับร่างกายที่แข็งแกร่งของพรายรพี เขากอดแน่นราวกับจะหลอมรวมเธอไว้ในอ้อมกอดเดียว ความรู้สึกที่สะสมมาตลอดหลายวันทวีความรุนแรง จนเขาไม่อาจยับยั้งตัวเองได้อีกต่อไปพรายรพี: (โน้มใบหน้าลงใกล้ กระซิบเสียงพร่า) “คิดถึงฉันไหม... หืม? หรืออยากให้ฉันทำให้เธอคิดถึงมากกว่านี้?”มีนาใบหน้าร้อนผ่าวจนแทบซ่อนอาการไม่อยู่ ดวงตาไหวระริก ขณะที่ใบหน้าหล่อเหลาของพรายรพียังคงอยู่ใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆแผ่วเบา แต่ละคำพูดของเขาทำเอาเธอเขินจนแทบหลบสายตาไม่ได้ หัวใจเต้นแรงจนรู้สึกได้ว่ามันจะหลุดออกมาเมื่อเขาพูดแผ่วเบาใกล้ๆ หูอีกครั้งมีนาหายใจสะดุด สายตาสั่นไหวขณะที่มองใบหน้าของพรายรพีที่ยังคงโน้มใกล้เธอ ใจเธอสับสนระคนตื่นเต้น “คะ...คุณ...จะไม่ทำร้ายฉันใ
มีนค่อยๆ ลุกขึ้นจากที่นอน รู้สึกได้ถึงความปวดร้าวในทุกการเคลื่อนไหว กล้ามเนื้อของเธอเตือนให้เธอรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนไม่ใช่ความฝัน เมื่อเธอหันไปมองรอบๆ ห้อง เพียงแต่พบว่ามันเงียบงัน ร่างใหญ่ของพ่อพรายรพีหายไปอย่างไร้ร่องรอย ทั้งๆ ที่เป็นต้นเหตุของสภาพเธอในตอนนี้มีนาดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างที่ยังคงสั่นไหวเล็กน้อย แล้วหันกลับไปมองที่นอนซึ่งยับเยินอยู่ใต้ตัวเธอ ใจของเธอเต็มไปด้วยคำถามและความสงสัยเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ แต่คำตอบกลับหายไปพร้อมกับตัวของพรายรพี"เขาหายไปไหน..." มีนคิดในใจ แม้จะรู้สึกโล่งใจเล็กน้อยที่ไม่ต้องเผชิญหน้ากับเขาในตอนนี้ แต่ความว่างเปล่าที่เกิดขึ้นก็ทำให้เธอรู้สึกหวาดหวั่นมีนสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อได้ยินเสียงเรียก ป้าพิศ ผู้ดูแลบ้านของพรายรพี ยืนอยู่ที่ประตูห้องพร้อมกับถาดอาหารในมือ สายตาอ่อนโยนแต่แฝงความกังวลจ้องมองมาที่เธอ“ตื่นแล้วเหรอคะ” ป้าพิศถามเสียงนุ่มมีนาพยักหน้าเบาๆ พยายามฝืนยิ้มทั้งที่ความเจ็บปวดในร่างกายยังไม่หายไป “ค่ะป้า...” เธอตอบแผ่วเบาป้าพิศเข้ามาใกล้ วางถาดอาหารลงบนพื้นกระท่อม “ทานข้าวหน่อยนะคะ จะได้มีแรง แล้วถ้ารู้สึกไม่สบาย
มีนาลืมตาตื่นขึ้นมาเมื่อเกือบบ่าย สัมผัสได้ถึงความเหนื่อยล้าทั่วทั้งร่าง ร่างกายเธอประท้วงเมื่อลุกขึ้นจากที่นอน หลังจากคืนที่ผ่านมาที่เธอต้องเผชิญกับแรงรักที่ชายร่างใหญ่พ่อพรายรพีโหมกระหน่ำใส่ไม่หยุด ความรุนแรงของเขาได้ทิ้งร่องรอยไว้บนร่างกายและหัวใจเธอ ทำให้เธอรู้สึกทั้งอ่อนเพลียและไม่อาจหลีกเลี่ยงความคิดถึงเขาได้ ความเหนื่อยล้าจากการต่อสู้กับความปรารถนาและความอ่อนหวานในคืนที่ยาวนานทำให้เธอแทบไม่มีแรงจะลุกขึ้นมาเผชิญหน้ากับวันใหม่ แต่ในที่สุดก็ต้องยอมแพ้ให้กับความอ่อนล้าและรับรู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเขากำลังเปลี่ยนไปอย่างที่ไม่อาจหวนกลับได้แล้ว."ลุกไหวไหม?" เขาเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์และเย้าแหย่ ขณะยกถาดอาหารในมือขึ้นเล็กน้อย สายตาเจ้าเล่ห์ที่มองตรงมาทำให้มีนาหน้าแดงซ่าน พรายรพีเมื่อเห็นสีหน้าเง้างอดของมีนา ก็อดขำไม่ได้ รีบวางถาดอาหารลงข้างๆ ก่อนจะเข้าไปกอดร่างบางจากด้านหลัง เขากระซิบเสียงแผ่วเบาที่ข้างหู "เมียจ๋า มากินข้าวเร็ว ๆ นะ จะได้มีแรงงง...อีก" น้ำเสียงเจ้าเล่ห์ของเขาทำให้มีนารู้สึกถึงความอบอุ่นและเย้ายวนในเวลาเดียวกัน แต่ก็ไม่วายหันไปมองเขาด้วยสายตาคา
ฮ่าฮ่าฮ่า! เสียงหัวเราะเหี้ยมโหดของไอ้เข้มดังก้องอยู่รอบๆ ขณะที่ลูกน้องของเขาจับตัวแม่คนงามที่พ่อพรายรพีแสนหวงแหนมาได้ไอ้เข้ม: (หัวเราะเหี้ยมโหด) “ฮ่าฮ่าฮ่า! นี่มันที่สุดยอดจริงๆ! ลูกน้อง: “พี่เข้ม พี่ต้องการให้เราทำอะไรกับสองคนนี้ดี?”ไอ้เข้ม: (มองไปที่ร่างงามในกรงไม้) “ปล่อยให้อยู่ในกรงนี้ก่อนแล้วกัน ”มีนา: (เสียงสั่น) “ปล่อยพวกฉันไปเถอะ! ”ไอ้เข้ม: (ยิ้มเหี้ยม) “ปล่อยเหรอ ไม่มีทาง เธอเป็นตัวล่อชั้นดีให้ไอ้พรายรพีเข้ามาติดกับของฉัน”ลูกน้อง: “พี่เข้มจะให้ทำอย่างไรต่อไป?” ถามย้ำไอ้เข้ม: (เดินไปใกล้กรงไม้) พวกเธอจะเป็นเหยื่อล่อให้ไอ้พรายรพีเข้ามาในรังของเรา เดี๋ยวไม่นานไอ้พรายรพี จะต้องมาที่นี่เพื่อช่วยพวกเธอแน่นอน และเมื่อฉันฆ่ามันตายแล้ว เธอจะต้องตกเป็นเมียของฉัน อีกด้านพรายรพีและเสือร้ายทั้งเจ็ดเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วและเงียบเชียบท่ามกลางป่าลึก การเคลื่อนไหวของพวกเขาคล้ายกับเงาที่ค่อยๆ ร้อยเรียงไปตามรอยแยกของต้นไม้ ความมืดของป่าทำให้พวกเขาดูเหมือนกับวิญญาณที่คอยคุกคามทุกมุมมอง ทุกครั้งที่เท้าของพวกเขาแตะพื้น เสียงของใบไม้ที่แห้งกรอบและกิ่งไม้ที่หักก
เมื่อมีนาตื่นขึ้นมาและพบว่าร่างใหญ่ที่เคยอยู่ข้างกายหายไป ความรู้สึกวูบไหวในใจเริ่มแผ่กระจายไปทั่ว ความน้อยใจและความเหงาท่วมท้นในหัวใจของเธอ ราวกับถูกทิ้งให้อยู่ลำพังโดยไม่บอกกล่าว ความคิดถึงเขายิ่งทวีความรุนแรง ทุกค่ำคืนที่เขามอบความร้อนแรงให้กับเธอ ตอนนี้กลับเหลือเพียงความว่างเปล่า ความไม่พอใจสะท้อนในแววตา เธอรู้สึกอ้างว้างและน้อยใจจนไม่อาจห้ามใจตัวเองได้.“ไปไหนอีกแล้ว...ทิ้งฉันไว้คนเดียวอีกแล้วเหรอ?” มีนาพึมพำเบาๆ ด้วยความน้อยใจมีนาพูดกับตัวเองเบาๆ น้ำเสียงเต็มไปด้วยความน้อยใจและกังวล ใจเธอเริ่มสั่นไหวกับความเงียบงันที่รายล้อม.“วันทั้งวันก็ไม่เห็นหน้า จนมืดค่ำแล้วยังไม่กลับมาอีก...” พรายรพีที่กลับมาถึงกระท่อมอย่างเร่งรีบ พิงร่างสูงใหญ่กับต้นไม้อยู่ในเงามืด กอดอกพร้อมดาบยาวคู่ใจ ในขณะที่สายตาคมเข้มของเขาทอดมองไปยังร่างของสาวน้อยใต้แสงจันทร์ มีนา กำลังตักน้ำอาบจากตุ่มท่ามกลางแสงจันทร์อันสว่างไสว ภาพนั้นเย้ายวนจนแทบทำให้เขาหยุดหายใจ ผ้าถุงผืนเดียวที่เธอสวมใส่เปียกปอน ลู่ไปตามทรวดทรงอันงดงาม ร่างขาวโพลนภายใต้แสงจันทร์ อกอวบใหญ่เต็มตึงชูชัน เอวคอดกิ่ว และสะโพ
เสียงกระแทกของประตูที่ถูกเปิดออกดังก้องในความมืด มีนาเกาะอยู่ในมุมห้อง ขณะมือของพวกเขายื่นออกมาจับเธอไว้ เธอรู้สึกถึงแรงกดดันและความกลัวที่กัดกินทุกส่วนของร่างกาย ความรู้สึกเหมือนโลกทั้งใบกำลังจะพังทลาย“ทำไมต้องทำแบบนี้!” มีนาตะโกนออกมาเสียงสั่นเครือ แต่คำพูดของเธอกลับถูกกลบด้วยเสียงฝีเท้าของพวกเขาที่ดังขึ้นใกล้เข้ามามือที่แข็งแกร่งจับข้อมือของเธออย่างแน่นหนา การดิ้นรนของเธอทำได้เพียงแค่พยายามจะหลุดออก แต่การต่อสู้ของเธอกลับไม่มีทางชนะ“เงียบ!” เสียงของผู้นำกลุ่มดังก้องเข้ามาในหูของเธอ มันเป็นเสียงที่เต็มไปด้วยความเยือกเย็นและอำนาจ ความรู้สึกของการถูกจับกุมและไม่สามารถหนีได้ทำให้หัวใจของมีนาคล้ายจะหยุดเต้นเธอได้ยินเสียงเหล็กดังกระทบกัน การเปิดและปิดประตู และเสียงกระซิบของคำสั่งที่ถูกส่งผ่านความมืด ท่ามกลางความโกลาหลนี้ มีนาเริ่มรู้สึกว่าความหวังของเธอกำลังจะหมดไปเมื่อประตูปิดลงอีกครั้ง มีนาพยายามสงบสติและหาทางออก แต่ความรู้สึกของความกลัวที่แผ่ขยายออกมานั้นทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกจมอยู่ในความมืดมิดที่ไม่รู้ว่าจะมีทางรอดหรือไม่ภายในรถมินิบัสถุงคลุมหัวที่ถูกดึงลงมาปิดบังทุกสิ่งทุ
พรายรพีหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ที่สะอาด—เสื้อเชิ้ตและกางเกงขาสั้นที่เขาเตรียมไว้—แล้ว เขาโยนผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ไปยังมีนา“นี่” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่หยาบคายและไร้ความปรานี “ไปอาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้า”มีนารีบหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดใหม่ด้วยมือที่สั่นเทา เธอรู้สึกถึงความกลัวและความไม่แน่นอนในใจ แต่รู้ว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากปฏิบัติตามคำสั่ง เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำที่มืด อย่างทุลักทุเล น้ำตาที่หลั่งไหลทำให้เธอรู้สึกถึงความเหน็ดเหนื่อยและความผิดหวัง ห้องน้ำที่นี่เป็นสถานที่เล็กๆ มืดๆ ภายในห้องน้ำมีแต่ตุ่มใส่น้ำที่มุมหนึ่ง เมื่อเธอปิดประตูห้องน้ำ เธอถอนหายใจลึกๆ และมองไปรอบๆ น้ำในตุ่มดูไม่สะอาด แต่มีนาไม่สามารถเลือกได้ เธอรู้ว่าตัวเองต้องทำความสะอาดเพื่อรู้สึกดีขึ้นเธอค่อยๆ เอื้อมมือไปดึงน้ำจากตุ่มด้วยภาชนะที่วางอยู่ข้างๆ น้ำเย็นทำให้เธอรู้สึกเย็นชาและกระทบถึงความรู้สึกของเธออย่างทันทีมีนาเริ่มล้างตัวเองอย่างช้าๆ เธอพยายามล้างคราบโคลนที่ติดอยู่บนร่างกาย น้ำที่ไหลจากภาชนะทำให้ความเย็นกระทบผิวของเธอ แต่ยังไม่สามารถลบล้างความเจ็บปวดและความเศร้าที่ลึกในใจของเธอได้ขณะที่น้ำไหลผ่าน
มีนา: รู้สึกตัวขึ้นในตอนเช้า เริ่มรู้สึกถึงความอบอุ่นแปลกๆ ที่ไม่คุ้นเคย เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้น และทันใดนั้นก็รู้สึกได้ถึงแขนแข็งแรงที่กอดรัดรอบตัวเธอมีนา: หัวใจเต้นแรง ตกใจสุดขีด เมื่อพบว่าตัวเองกำลังนอนอยู่ในอ้อมกอดของพรายรพี แสงอ่อนๆ ของยามเช้าส่องเข้ามาในกระท่อม เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและความหนักของอ้อมกอดที่กอดเธอไว้แน่น ใบหน้าของเธอซุกอยู่บนแผงอกแกร่ง และเมื่อเธอค่อยๆ เงยหน้าขึ้นก็ได้เห็นรูปร่างของชายที่ได้ชื่อว่าเป็นพ่อพรายรพีอย่างชัดเจนร่างสูงใหญ่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่ชัดเจน ใบหน้าคมคายดุดัน แฝงไปด้วยความเข้มแข็งที่ไม่เหมือนใคร ผิวแทนเข้มขับให้เขาดูสง่าและทรงอำนาจ ราวกับชายผู้นี้เกิดมาเพื่อควบคุมมีนา: พยายามขยับตัวออกมา แต่แขนของพรายรพีกลับกอดเธอไว้แน่นขึ้นพรายรพี: ค่อยๆ ตื่นขึ้นจากการขยับของมีนา มองลงไปที่เธอและยิ้มเล็กน้อย "ตื่นแล้วเหรอ?"มีนา: ตกใจและอึดอัด "คะ...คุณ... ทำไมฉันถึงอยู่ในอ้อมกอดคุณ?"พรายรพี: (เสียงดุดันและเนือย ๆ พร้อมกับสายตาที่คม) "ก็แค่กอด... เมื่อคืนฉันทำมากกว่านั้นอีกจำไม่ได้เหรอมีนา: รู้สึกอายและขยับตัวออกมาทันที "ไม่! ปล่อยฉัน!"มีนา: ยิ่งรู้