Share

บทที่ 8 ให้พี่ช่วยปลอบประโลม (2/4)

last update Terakhir Diperbarui: 2024-12-11 21:32:47

“ทำท่าทางเช่นนี้กำลังคิดแผนการอันใดอยู่หรือไม่” เป็นคังซืออี้รู้สึกหมั่นเขี้ยวเป็นอย่างมากจึงเอื้อมมือไปบีบแก้มเนียนที่พองจนใบหน้านางยับยู่

“โอ๊ย! ข้าเจ็บนะเจ้าคะ” นางส่งเสียงร้องเกินจริงเพื่อให้เขาสงสารจะได้รีบปล่อยมือ

“เจ็บมากหรือไม่ พี่ขอโทษ” เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แล้วเปลี่ยนมาใช้นิ้วลูบไล้แก้มของนางคล้ายปลอบประโลม

“ไม่มากเจ้าค่ะ” สัมผัสของเขาทำให้หัวใจของนางเต้นระรัวอีกแล้ว

“เจ็บไม่มากก็คือเจ็บอยู่ เช่นนั้นพี่จะช่วยปลอบประโลมให้เจ้า” กล่าวจบเขาก็ขยับใบหน้าเข้ามาใกล้จนนางสัมผัสได้ถึงลมหายใจ ก่อนที่เขาจะเป่าลมอุ่น ๆ ตรงที่แก้มนางสลับกับใช้นิ้วลูบไล้อย่างแผ่วเบา

การกระทำของเขาทำให้นางตัวแข็งทื่อไปในทันทีเพราะไม่กล้าขยับตัวก่อนจะเอ่ยปากห้ามปราม

“พะ พี่ซืออี้ ข้าไม่เป็นไรแล้วเจ้าค่ะ” จะถอยหนีก็ไม่ได้ เนื่องจากด้านหลังเป็นโต๊ะตัวใหญ่

“ดูสิ พี่คงทำให้เจ้าเจ็บไม่น้อย แก้มแดงเชียว” กล่าวจบเขาก็เป่าพลางใช้นิ้วลูบไล้แก้มอีกข้างของนาง

“ข้าไม่ได้เจ็บอันใดเจ้าค่ะ” นางรวบรวมแรงแล้วใช้สอง
Bab Terkunci
Membaca bab selanjutnya di APP

Bab terkait

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 8 ให้พี่ช่วยปลอบประโลม (3/4)

    คำถามของนางล้วนไร้คำตอบ แต่เอาเถิดจนกว่าจะมั่นใจว่าสหายของพี่ชายมีใจให้นางจริง ๆ นางยังมีเวลาที่จะช่วยสานวาสนาจับคู่ด้ายแดงให้พี่ใหญ่ ฟ่านซีอิ๋งใช้เวลาแช่น้ำร้อนเกือบสองเค่อเพื่อควบคุมหัวใจที่เต้นรัวแรงของตนให้กลับมาเป็นปกติ จากดวงหน้าหวานที่แดงก่ำด้วยความเขินอายตอนนี้เปลี่ยนไปแดงก่ำเพราะแช่น้ำร้อนนานเกินไป “คุณหนูหน้าแดงเช่นนี้ น่ามองยิ่งนักเจ้าค่ะ” เป็นซูฉีเอ่ยชม ยามปกติว่างดงามอยู่แล้ว แต่ยามนี้กลับดูเย้ายวนอย่างบอกไม่ถูก “เจ้าก็ยกยอข้าอีกแล้ว” เนื่องจากบิดามารดาและพี่ใหญ่กลัวนางเสียใจเพราะคำดูแคลน นอกจากจะคอยกล่าววาจาชื่นชมนางแล้ว แม้แต่บ่าวไพร่หรือสาวใช้ในเรือนก็ต้องทำเช่นนั้นเหมือนกัน ฟังมาตั้งหลายปีนางจึงค่อนข้างคุ้นชินกับคำชมเหล่านั้น “บ่าวพูดจริงนะเจ้าคะ” “เร่งมือเถิด ประเดี๋ยวพี่ซืออี้ก็รอข้านานหรอก” “เจ้าค่ะ” เมื่อแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยนางก็ออกไปพบเขาซึ่งพ่อบ้านกล่าวว่าไปอยู่รอที่หน้าประตูจวนได้ครู่ใหญ่แล้ว “รอข้านานหรือไม่เจ้าคะ” นางเอ่ยถามเสียงหอบเพราะกลัวจะทำให้เขารอน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-12
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 8 ให้พี่ช่วยปลอบประโลม (4/4)

    “กินหวานแล้วอย่าลืมบ้วนปากก่อนนอนประเดี๋ยวปวดฟัน ข้าก็ช่วยเจ้าไม่ได้” “เจ้าค่ะคุณหนู” ซูฉีซึ้งใจยิ่งนัก สาวใช้จวนอื่นมีหรือจะโชคดีเช่นตน “เดินต่อเถิดเจ้าค่ะ” ฟ่านซีอิ๋งหันไปกล่าวกับสหายของพี่ชาย “อืม” ดวงตาที่จ้องมองนางฉายแววหลงใหลล้ำลึกกว่าเดิม “เอ๊ะ! นั่นถังหูลู่นี่นา” ช่วงก่อนได้ยินสาวใช้คนสนิทของนางบ่นเช้าบ่นเย็นว่าอยากกินถังหูลู่ “รอประเดี๋ยว” ชินอ๋องซื่อจื่อยิ้มอย่างจนใจเมื่อสตรีตัวน้อยรีบวิ่งแหวกกลุ่มคนไปโดยไม่รอเขา หากเป็นเช่นนี้ต่อไปเกรงว่าอาจจะพลัดหลงกันได้ ผลั่ก! มีคนมาชนเขาอย่างแรง และแน่นอนว่าเดิมทีเขาก็ไม่ใช่บุรุษที่สุภาพอ่อนโยนแต่อย่างใด เขาจึงปล่อยให้อีกฝ่ายล้มลงไปกองบนพื้น “ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ข้าไม่ทันระวัง” กลิ่นหอมที่ฉุนจนระคายจมูกทำให้เขารู้สึกคันยุบยิบอยากจะจามออกมา จึงถอยห่างจากอีกฝ่ายสองก้าว “...” ชินอ๋องซื่อจื่อเก็บมือไพล่หลัง นัยน์ตาคมกวาดสายตามองหาสตรีตัวน้อยของตน หาได้สนใจสตรีที่นั่งอยู่บนพื้นไม่ “ชินอ๋องซื่อจื่อ ขออภัยเจ้าค่ะข้าเดินไม่ระวังจึ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-12
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 9 นางเป็นสตรีของข้า (1/3)

    9นางเป็นสตรีของข้า พอเดินเข้าไปในห้อง นางก็พบว่ามีอาหารวางเต็มโต๊ะ หน้าตาน่ากินยิ่งนัก นางจึงรีบเดินเข้าไปใกล้แล้วทรุดตัวลงนั่งเพื่อลงมือกิน “เช็ดมือก่อนแล้วค่อยเริ่มกิน” เขากล่าวพลางส่งผ้าเช็ดมือที่เปียกน้ำแต่ถูกบิดหมาด ๆ ให้นาง “ขอบคุณเจ้าค่ะ” นางรับมาเช็ดก่อนจะเริ่มลงมือกินอาหารตรงหน้า “ถูกปากหรือไม่” “เจ้าค่ะ เลิศรสยิ่งนัก สมแล้วที่เป็นโรงเตี๊ยมซือเช่อ” “เจ้าชอบก็ดี เช่นนั้นพี่ขอกล่าวถึงเรื่องที่เอ่ยค้างไว้ต่อ” เขาอยากจะเล่าให้นางฟัง เพื่อที่นางจะได้ไม่เข้าใจผิดในภายหลัง “เชิญเจ้าค่ะ” เขาอยากกล่าวสิ่งใดก็กล่าวมาเถิด นางจะตั้งใจกิน เอ่อ...ฟังในสิ่งที่เขาอยากพูด “ที่เจ้าไปแอบฟังคราวนั้น พี่เพียงแต่อยากทราบว่าสตรีผู้นั้นมีจุดประสงค์ใดถึงได้โผล่หน้าไปเจอพี่ในทุกที่ที่พี่ไป คล้ายกับไปดักรอเสียอย่างนั้น” “นางคงมีใจให้ท่านกระมัง” “มีใจให้พี่หรือแท้จริงหมายตาตำแหน่งพระชายาของพี่ก็ไม่แน่ใจ” “สรุปแล้วท่านกับนางไม่มีสิ่งใดเกี่ยวข้องกัน” “ในอดีตไม่เค

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-12
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 9 นางเป็นสตรีของข้า (2/3)

    “ขอเพียงเป็นเจ้าเอ่ย ต่อให้ส่งเสียงร้องเหมือนเป็ด พี่ก็ย่อมมองว่าไพเราะ” วาจาของเขาบ่งบอกได้ชัดเจนว่าลุ่มหลงนางยิ่งนัก “ก่อนหน้าที่ข้าจะได้พบเจอพี่ใหญ่ที่หอชายงาม ข้าฝันเจ้าค่ะ ว่าพี่ใหญ่เป็นต้วนซิ่ว และพี่ซืออี้เป็นคนรักของคุณหนูซิวลู่หลิน ทั้งสองรักกันหวานซึ้ง ท่านแต่งนางเป็นพระชายาเพียงหนึ่งเดียว แต่ดูเหมือนนางจะไม่ค่อยชอบที่ท่านสนิทสนมกับพี่ใหญ่ ทั้งนางยังริษยาในความงามของข้ากลัวท่านที่เข้าออกจวนฟ่านบ่อยครั้งจะตกหลุมรักข้า จึงให้ซิวซือเย่พี่ชายของนางมาล่อลวงข้าสุดท้ายข้าก็แต่งเข้าจวนซิวเป็นพี่สะใภ้ของพระชายาท่าน ชีวิตข้าในจวนซิวลำบากยิ่งนัก จวนที่มีซิวฮูหยินเป็นใหญ่ แม้แต่ซิวซือเย่จะทำสิ่งใดยังต้องเอ่ยวาจาขออนุญาตมารดา” “มันเป็นเพียงแค่ฝัน...” “จุ๊ ๆ ท่านอย่าเพิ่งเอ่ยวาจาขัดข้าสิเจ้าคะ” นางกล่าวพลางแตะนิ้วเรียวลงบนริมฝีปากเขา ก่อนจะเปิดปากเล่าต่อ “กลับมาที่เรื่องพี่ใหญ่ เมื่อความสนิทสนมของท่านและพี่ใหญ่ขวางหูขวางตาพระชายาของท่านมากเข้า นางก็กล่าววาจายั่วยุให้พี่ใหญ่ลงมือทำร้ายนาง แล้วท่านที่รักพระชายาปานจะกลืนกิน ไม่สนถูกผิ

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 9 นางเป็นสตรีของข้า (3/3)

    “อืม...งดงาม แต่ไม่เท่าเจ้า” คังซืออี้กล่าวพลางจ้องมองน้องสาวสหายด้วยสายตาลุ่มหลง ตั้งแต่เมื่อใดก็ไม่ทราบที่โดนแม่นางน้อยผู้นี้ล่อลวง รู้ตัวอีกทีก็ยากจะละสายตาแล้ว “กินข้าวเสร็จแล้วเราไปลอยโคมก่อนกลับดีหรือไม่เจ้าคะ” “ตามใจเจ้า” “ตามใจข้าเกินไประวังข้าเสียคนนะเจ้าคะ” นางกล่าวเสียงเบาพลางแสร้งมองไปทางอื่นด้วยความเขินอาย “มิเป็นไร เพราะพี่ยินดีเลี้ยงดูเจ้าชั่วชีวิต” เขายิ้มพลางเอ่ยหยอกเย้านาง พลันเหลือบไปมองเห็นสายตาสามคู่กำลังจ้องมอง ‘ซิวเมิ่งหยวน ซิวลู่หลิน โจวคุนต๋า พวกเจ้ามองให้เต็มตาว่าข้ากับซีอิ๋งรักใคร่กันเพียงใด’ “ข้าไม่สนทนากับท่านแล้ว” แม้บริเวณรอบกายจะไม่สว่างมากนักแต่เขาก็เห็นดวงหน้าหวานที่แดงปลั่งด้วยความเขินอาย “หึหึ!” เขาเค้นเสียงในลำคอพลางมองลงไปเบื้องล่างสบตากับบัณฑิตผู้นั้นด้วยสายตาที่มีชัยเหนือกว่า ‘นางเป็นสตรีของข้า’ หลังจากดูพลุจบคังซืออี้ก็พาสตรีตัวน้อยไปลอยโคมที่บริเวณริมแม่น้ำซึ่งมีคนบางตา คงเพราะคนส่วนใหญ่เริ่มเดินทางกลับจวนของตนหลั

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-13
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 10 กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากชินอ๋องซื่อจื่อ (1/4)

    10กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากชินอ๋องซื่อจื่อ หลังจากเปิดเผยความรู้สึกต่อนางแล้ว สองวันนี้สหายของพี่ชายก็มักแวะเวียนมาบอกให้นางฝันดีทุกค่ำคืน แต่วันนี้ดูเหมือนผู้สูงศักดิ์จะมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นเปรี้ยวราวกับเทน้ำส้มราดตัว “เป็นอันใดหรือเจ้าคะ หน้าตาท่านถึงได้บึ้งตึงเช่นนั้น” นางเอ่ยปากถามเขาด้วยความสงสัย เพราะก่อนหน้านี้ยามเขาแวะเวียนมาบอกฝันดี เขาจะมาพบนางแค่หน้าเรือน มิได้ปีนหน้าต่างเข้ามาเช่นวันนี้ “เรื่องราวระหว่างเจ้าและซิวเมิ่งหยวนแท้จริงเป็นมาอย่างไรกันแน่” วาจาของเขาทำให้นางหุบยิ้มในทันใด เพียงแค่ได้ยินนามของบุรุษผู้นั้นก็พานทำให้นางรู้สึกมีโทสะขึ้นมาอีกแล้ว ย้อนกลับไปเมื่อต้นยามซื่อ (09.00-10.59) หลังจากรับสำรับเช้าพร้อมหน้าบิดามารดา นางก็นั่งสนทนาอยู่กับมารดาต่อ พี่ใหญ่ก็ไปทำงานต่างเมือง ส่วนสหายของพี่ชายผู้นั้นมาบอกฝันดีพร้อมทั้งบอกว่าจะไปทำงานสักสองสามวันจึงจะกลับมา ด้วยเหตุนี้หลังจากบิดาออกไปทำงานแล้วในจวนฟ่านจึงเหลือเพียงนางและมารดา ‘ฮูหยินขอรับ ซิวซือเย่มาขอพบขอรับ’ คำกล่าวของท่านพ่อบ้านทำให้คุณหนูฟ่านเลิกค

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-14
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 10 กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากชินอ๋องซื่อจื่อ (2/4)

    ‘เป็นคนต้องรู้จักทดแทนคุณ ท่านมีบุญคุณต่อข้า ข้าจึงไม่อาจเพิกเฉยได้’ น้ำเสียงและวาจาที่เอื้อนเอ่ยดูเป็นสุภาพชน หากนางไม่เคยฝันร้าย คงตกหลุมพรางอย่างง่ายดาย ‘ซิวซือเย่ บางเรื่องท่านปล่อยผ่านไปบ้างก็ได้นะเจ้าคะ มิเช่นนั้นหากยึดติดทุกเรื่องท่านจะใช้ชีวิตลำบาก’ ‘อะแฮ่ม!’ ฟ่านฮูหยินกระแอมไอเพื่อหยุดวาจาเถรตรงของบุตรสาว ‘คุณหนูฟ่านอย่าได้เกรงใจกันเกินไปเลย’ ‘เช่นนั้นข้าขอเอ่ยถามท่านสักประโยคได้หรือไม่’ ‘กล่าวมาเถิดคุณหนูฟ่าน’ ฟ่านฮูหยินปรายตามองบุตรสาวอย่างตักเตือนด้วยกลัวว่านางจะเอ่ยวาจาไม่งาม ‘หากข้ารับม้ามาแล้วบุญคุณระหว่างท่านและข้าก็จะจบสิ้นเช่นกันใช่หรือไม่’ ‘บุญคุณนั้นหาต้องตอบแทนในคราวเดียวไม่’ ก็หมายความว่าเขาก็จะแวะเวียนมาหานางเพื่อตอบแทนบุญคุณเช่นนี้ไม่หยุดหย่อน ‘เช่นนั้นท่านเอาม้ากลับไปเถิดเจ้าค่ะ’ ‘ข้านำมาแล้ว ไม่คิดนำกลับ’ ‘เช่นนั้นก็ปล่อยไว้ด้านนอกเช่นนั้นเถิดเจ้าค่ะ’ นางไม่อยากสรรหาวาจาที่ฟังแล้วรื่นหูมาสนทนากับอีกฝ่ายแล้ว ดื้อรั้นน

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-15
  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   บทที่ 10 กลิ่นเหม็นเปรี้ยวจากชินอ๋องซื่อจื่อ (3/4)

    “เจ้าค่ะ หากในวันนั้นข้าเห็นหน้าแล้วทราบว่าเป็นซิวซือเย่ ข้าคงเปลี่ยนใจไม่คิดช่วยเหลือ เขาทำให้ข้ารู้สึกไม่อยากมีจิตเมตตาต่อผู้อื่นแล้ว” “หึ! จวนราชครูเลี้ยงดูบุตรเช่นไร ถึงได้ชอบนำบุญคุณ มาบีบบังคับทำให้ผู้มีพระคุณลำบากใจ” คราวก่อนก็เป็นคนน้องที่พยายามใช้ข้ออ้างเดียวกันเข้าหาเขา ครั้งนี้ยังเป็นคนพี่คิดยุ่งกับสตรีของเขา “ดูเหมือนเราสองคนจะประสบปัญหาเพียงเพราะยื่นมือช่วยเหลือคุณหนูคุณชายตระกูลซิวโดยไม่ได้ตั้งใจเลยนะเจ้าคะ” “อืม...คงเป็นเพราะเรามีวาสนาต้องกันจึงมีสิ่งที่คล้ายคลึงกัน” “เดี๋ยวนะเจ้าคะ! ท่านมิใช่บอกว่าจะไปทำงานสองสามวันหรือเจ้าคะ” “ย่อมใช่ แต่พี่ร้อนใจเรื่องนี้มากจึงยอมควบม้าไม่หยุดพักกลับจากต่างเมืองเพื่อมาสอบถามเจ้าในเรื่องนี้” เขาปล่อยให้ลูกน้องเฝ้าติดตามบุตรชายของราชเลขาธิการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวคุณหนูในเมืองหลวงและสตรีชาวบ้านรอบ ๆ เมืองหลวง “ท่านควบม้าฝ่าลมหนาวเพื่อมาถามข้าเรื่องซิวซือเย่เพียงอย่างเดียวเนี่ยนะเจ้าคะ” “ย่อมใช่ เพราะเป็นเจ้าพี่ถึงได้ร้อนใจเช่นนี้” หากเป

    Terakhir Diperbarui : 2024-12-15

Bab terbaru

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (5/5)

    “ในเมื่อพี่ตกลงกราบไหว้ฟ้าดินกับเจ้าแล้ว ชั่วชีวิตไม่ว่าจะทุกข์หรือสุขพี่ย่อมมีเจ้าเป็นสตรีเพียงคนเดียวในเรือนหลัง หากเจ้าลองสังเกตดี ๆ เจ้าจะพบว่านอกจากบิดาของพี่จะมีฮูหยินเพียงคนเดียวแล้ว สหายของพี่ที่เป็นถึงชินอ๋อง ก็ยังแต่งพระชายาคือน้องสาวของพี่เพียงคนเดียว ไร้อนุฯ หรือสาวใช้อุ่นเตียง บ่งบอกว่าพวกเราคนตระกูลฟ่านต้องการมีรักเดียวชั่วชีวิต” “นี่ท่าน!” หูเซียงเฟยตกใจยิ่งนัก มิคิดว่าเขาจะคิดเช่นนั้นมาโดยตลอด “เช่นนั้นเจ้าอย่าได้เอ่ยถึงเรื่องข้อเสนอนั่นอีกเลย ในเมื่อการกราบไหว้ฟ้าดินของเราเกิดขึ้นเพราะความเต็มใจ” สิ้นเสียงเขาก็เชยคางมนขึ้นก่อนจะกดริมฝีปากทาบทับลงบนกลีบปากสีอ่อน ลิ้นร้อนบุกรุกโพรงปากนุ่มเป็นครั้งแรก ก่อนหน้านี้เขาจงใจทำให้นางคุ้นเคยกับสัมผัสของเขาจึงทำเพียงกินเต้าหู้นางเล็ก ๆ น้อย ๆ ลิ้นร้อนลิ้มรสความหวานจากโพรงปากนุ่ม ลิ้นเรียวเล็กของนางพยายามตอบรับสัมผัสของเขาอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ยิ่งทำให้เข้าปรารถนาอยากจะกดนางลงบนเตียงแล้วทำให้นางกลายเป็นฮูหยินของเขาเต็มตัว “เซียงเซียง เจ้าหวานเหลือเกิน” เขากล่าวพลางจ้องมองนางด้ว

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (4/5)

    “ท่านพี่เหนื่อยหรือไม่เจ้าคะ” นางถามไถ่เขาเช่นนี้ทุกวัน นางช่างเป็นสตรีที่น่าอิจฉา ครอบครัวของสามีดีกับนางเหลือเกิน สามีหรือก็ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นบุรุษมักมากพร้อมรับสตรีเข้าเรือนมากมาย ทำให้นางยิ่งสำนึกในบุญคุณของเขา จึงพยายามปรนนิบัติดูแลเขาให้ดีที่สุด “เหน็ดเหนื่อยอยู่บ้าง” “เช่นนั้นไปอาบน้ำให้สบายตัวก่อนกินข้าวดีหรือไม่เจ้าคะ” “ไม่ล่ะ อาบน้ำร้อนทุกวันไม่ดีกับร่างกายกระมัง เจ้ากินข้าวก่อนเถิด วันนี้พี่มีงานมากมายจึงมาบอกเจ้าว่าอย่ารอพี่เข้านอน เพราะพี่อาจจะนอนที่ห้องหนังสือเลย” “เจ้าค่ะ” ฮูหยินน้อยจวนฟ่านคล้ายจะรู้สึกผิดหวัง นางก้มหน้าเล็กน้อยเพื่อซ่อนแววตาเสียใจ “เช่นนั้นพี่ไปทำงานก่อนนะ” เขากล่าวก่อนจะเดินออกจากห้องไป ไม่มีท่าทางหยอกเย้าหรือกินเต้าหู้นางเช่นทุกวัน” ‘เขาโกรธอันใดข้าหรือไม่’ ‘หรือเขาเบื่อหน่ายข้าแล้ว จึงพยายามหลีกเลี่ยงเช่นนี้’ หูเซียงเฟยไม่เข้าใจตนเองเช่นกันว่าเหตุใดถึงรู้สึกเสียใจเมื่อเห็นท่าทางเมินเฉยของเขา ในเมื่อเขาบอกว่าอาจจะไม่กลับมา นางจึงถ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (3/5)

    “แต่หากเจ้าไม่อยาก...” เขากำลังจะบอกว่าไม่อยากฝืนใจนาง เขามีเวลาเป็นปีที่จะยั่วยวนจนนางหลวมตัวหลวมใจยินดีที่จะเป็นฟ่านฮูหยินตลอดไป “ท่านได้โปรดชี้แนะข้าด้วย” นางรีบกล่าวคล้ายกลัวเขาเข้าใจผิด ที่เขายอมรับข้อเสนอตบแต่งนางเป็นฮูหยินเอกนับว่ามีพระคุณกับนางยิ่งนัก “หากพี่สอน เจ้าจะหาว่าพี่หน้าไม่อายหรือไม่” “ไม่ว่าเจ้าค่ะ” “เช่นนั้นลองสัมผัสมันดูหรือไม่ ทำความคุ้นเคยกับมันก่อน” น้ำเสียงที่แฝงด้วยยั่วเย้าและแววตาที่ล่อลวงทำให้นางหลวมตัวพยักหน้าตอบรับด้วยใจหนึ่งก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็น แม้ก่อนออกเรือนมารดาจะนำหนังสือปกขาวที่เคยได้รับมามอบให้ แต่ทว่านางลองศึกษาแล้วยังไม่กระจ่างเท่าใด ทราบแต่เพียงว่าครั้งแรกจะเจ็บมากเท่านั้น “เจ้าค่ะ” นางตอบรับด้วยสีหน้าเขินอาย แต่ก็ยอมเอื้อมมือไปจับเจ้าสิ่งนั้นที่คล้ายผงกหัวเรียกนางอยู่ “เป็นอย่างไรบ้าง” “มันเหมือนมีชีวิตเลยนะเจ้าคะ” “เพราะมันปรารถนาอยากจะปลดปล่อยอย่างไรเล่า” “แล้วยามที่มันแข็งขึงเช่นนี้ ท่านปวดหรือไม่เจ้าคะ”

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (2/5)

    ‘หากเจ้ายอมเล่าเรื่องทุกอย่างให้ข้าฟังตามจริง ข้าอาจจะตบแต่งกับเจ้าตามข้อตกลงก็ได้’ ‘เช่นนั้นเราเปลี่ยนที่สนทนาได้หรือไม่เจ้าคะ’ ‘ย่อมได้’ เขากล่าวพลางวางตะเกียบลง ‘ท่านกินให้อิ่มก่อนก็ได้เจ้าค่ะ ข้ารอได้’ อย่างไรกลับไปก็โดนหาเรื่องอยู่แล้ว หากนางจะกลับช้าอีกสักหน่อยจะเป็นไรไป ‘เช่นนั้นก็รอข้า’ ‘เจ้าค่ะ’ หลังจากย้ายที่สนทนาแล้วนางก็เล่าเรื่องราวที่ตนต้องเข้าร่วมการคัดเลือกนางสนมของฮ่องเต้ ซึ่งพี่สาวที่เข้าเกณฑ์จะต้องเข้าร่วมเช่นกันกับฮูหยินรองที่ยามนี้ทำตัวเช่นฮูหยินเอกกดขี่นางและมารดา พยายามหาบุรุษมีตำหนิมาแต่งกับนางเพื่อจะได้ตัดคู่แข่งในการคัดเลือกนางสนมออกไป ซึ่งตัวหูเซียงเฟยที่ไม่ได้อยากเป็นสนมของฮ่องเต้ จึงคิดเลือกบุรุษสักคนด้วยความคิดที่ว่าหากต้องพลีกายให้กับใครสักคน นางขอเป็นคนเลือกเอง ทว่าสถานที่เลือกบุรุษของนางกลับเป็นร้านบะหมี่ข้างทาง ไม่ใช่โรงเตี๊ยมที่คุณชายมักจะไปนั่งจิบชา ซึ่งนางให้เหตุผลว่าที่มาเลือกบุรุษในที่นี่ก็เพราะ ในสายตานางบะหมี่ร้านนี้รสเลิศกว่าอาหารในโรงเตี๊ยม แต่กลับถ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่    ตอนพิเศษ : การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง (1/5)

    การยั่วยวนฮูหยินของฟ่านไห่ถิง วันต่อมาฟ่านฮูหยินพาบุตรชายและแม่สื่อมาเยือน แน่นอนว่าพระชายาชินอ๋องที่ทราบถึงเรื่องราวโสมมในจวนโหวย่อมมาร่วมด้วย โดยชินอ๋องที่ได้ฟังพระชายาเล่าเรื่องการมาเยือนจวนโหวครั้งก่อนให้ฟังยังคงติดตามมาด้วยเพราะรู้สึกไม่พอใจกับความไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงของอี๋เหนียงจวนโหว แน่นอนว่าผู้สูงศักดิ์ที่โอรสสวรรค์ยังต้องหยุดฟังมาเยือนถึงจวน ท่านโหวย่อมว่าง่ายและไม่ขัดข้องต่อความประสงค์ของฟ่านฮูหยินเลยแม้แต่น้อย หลังจากนั้นเจ็ดวันคุณหนูรองหูแต่งเข้าเป็นฮูหยินน้อยจวนฟ่าน ตามธรรมเนียมหากฝ่ายชายส่งสินสอดให้เท่าใด สินเดิมของสตรีต้องมากกว่าแม้สักเล็กน้อยก็ยังดี ทำให้อี๋เหนียงต้องกัดฟันขนข้าวของที่ซุกซ่อนไว้ ซึ่งเป็นสินเดิมของฮูหยินเอกมอบคืนไปพร้อมกับแช่งชักหักกระดูกคนจวนฟ่านที่กล้าดีส่งสินสอดมามากถึงยี่สิบหีบ ทำให้ตนต้องคืนสินเดิมที่ยักยอกไปทั้งหมด หลังจากนี้คงได้แต่สั่งริบเบี้ยหวัดของฮูหยินและอนุฯ ทั้งหลายเพื่อเติมเต็มสินเดิมเตรียมเอาไว้ให้บุตรสาว กล่าวถึงเรื่องราวหลังจากดื่มสุรามงคลของฟ่านไห่ถิงและฮูหยินน้อยจวนฟ่าน ซึ่งฟ่านไห่ถิง

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (5/5)

    “เจ้าน่ะหรือหูเซียงเฟย ท่านโหว นางคือคุณหนูรองหูตัวจริงใช่หรือไม่ ท่านไม่ได้กำลังหลอกลวงเบื้องสูงนำตัวแทนมาอีกใช่หรือไม่ บอกตามตรงเปิ่นหวางเฟยไม่ใคร่จะไว้ใจท่านโหวแล้ว” วาจาของพระชายาชินอ๋องทำให้หูโหวหน้าชา วันนี้เขาโดนพระชายาต่อว่าไปหลายเรื่องทีเดียว “เป็นหม่อมฉันหูเซียงเฟยจริง ๆ วันนี้พระชายาคงมาพบหม่อมฉันเพราะเรื่องคุณชายฟ่านใช่หรือไม่เจ้าคะ” “ย่อมใช่ แต่เพื่อยืนยันว่าเจ้าคือหูเซียงเฟยจริง ๆ เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ ว่าเจ้าเข้าไปสนทนากับพี่ชายข้าครั้งแรกเมื่อใด” “ที่ร้านบะหมี่เจ้าอร่อย ข้างทาง...” หูเซียงเฟยเล่าถึงที่ตั้งของร้านบะหมี่ที่ตนเดินเข้าไปยื่นข้อเสนอให้กับคุณชายฟ่าน หากพระชายาผู้นี้มาหานางถึงจวนได้ มิแคล้วก็คงพอจะทราบเรื่องข้อเสนอนั่นด้วยกระมัง “ข้าเชื่อแล้วว่าเจ้าคือหูเซียงเฟย สตรีที่จะมาเป็นพี่สะใภ้ของข้า” คำเรียกขานตนเองอย่างถือตัวเปลี่ยนไป ทำให้ท่านโหวเริ่มตระหนักถึงความสำคัญของบุตรสาวคนรองที่อยู่นอกสายตามาโดยตลอด “เพคะ” “ที่จวนโหวมีสวนพอให้เปิ่นหวางเฟยพาว่าที่พี่สะใภ้ไปเดินเล่นได้หรือไม่ท่

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (4/5)

    “เปิ่นหวางเฟยต้องขออภัยอี๋เหนียงจริง ๆ ที่ไม่เข้าใจกฏเกณฑ์ของจวนโหว ที่แท้ท่านโหวใจกว้างยกอี๋เหนียงให้มีเกียรติเทียบเท่าฮูหยินเอก เรื่องนี้ทำให้เปิ่นหวางเฟยเปิดหูเปิดตายิ่งนัก ดี ๆ ที่ได้รู้เช่นนี้ วันหน้าหากท่านอ๋องคิดจะรับพระชายารอง เปิ่นหวางเฟยคงต้องคิดไตร่ตรองให้หนักมิเช่นนั้น พระชายารองคงขึ้นมาเหยียบหัวเปิ่นหวางเฟยเล่นเช่นที่อี๋เหนียงทำเป็นแน่” “พระชายาได้โปรดให้อภัยอี๋เหนียงของกระหม่อมเถิดพ่ะย่ะค่ะ นางเป็นเพียงหญิงสาวชาวบ้านไม่ค่อยรู้ความ จึงอาจเอ่ยวาจาที่ไม่ทันได้คิดไปบ้าง” “ที่แท้ท่านโหวก็รักใคร่อี๋เหนียงมากถึงเพียงนี้ เปิ่นหวางเฟยเข้าใจแล้ว ลุกขึ้นมานั่งสนทนากันดี ๆ เถิด” “ขอบพระทัยพ่ะย่ะค่ะ” “ขอบพระทัยเพคะ” “แล้วฮูหยินเอกไปที่ใดหรือท่านโหว เหตุใดนางถึงไม่มาต้อนรับเปิ่นหวางเฟย” “นาง เอ่อ...” หูโหวไม่รู้จะเอ่ยวาจาอย่างไร จะบอกว่าเขาลงโทษฮูหยินเอกด้วยความผิดเล็ก ๆ อย่างเช่นการไม่อบรมสาวใช้ในจวนให้ดีเพื่อเอาใจอี๋เหนียงของตนก็ไม่ได้ เช่นนั้นเรื่องราวในจวนเขาคงถูกเล่าขานหากพระชายาชินอ๋องผู้นี้เป็นคนปา

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (3/5)

    “แล้วเจ้าก็ไตร่ตรองดูเถิดว่าจะบอกมารดาเช่นใดจึงจะเหมาะสม” “ข้าเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ แท่งหยกของท่านคล้ายจะเรียกหาข้าแล้ว เช่นนี้ ข้าไม่เกรงใจท่านแล้วนะเจ้าคะ” กล่าวจบนางก็ล้วงมือเข้าไปในอาภรณ์ของเขาอย่างรวดเร็ว “อ๊า...ซีอิ๋ง” ชินอ๋องซื่อจื่อครวญคราง ก่อนจะสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อชายาตัวน้อยอ้าปากครอบครองส่วนหัวของแท่งหยกมือเรียวก็กอบกุมสลับรูดขึ้นลง ยามนางดูกลืนส่วนหัวพลางโลมเลีย เขาแสดงสีหน้าสุขสมยิ่งนัก “ท่านต้องปลดปล่อยก่อนหนึ่งครั้งข้าถึงจะขึ้นควบขี่ให้นะเจ้าคะ” “ย่อมได้ ซีอิ๋ง อ๊า...เจ้าดียิ่งนัก” คังซืออี้จ้องมองการกระทำของนางด้วยแววตาลุ่มหลง เขาส่งเสียงร้องครวญครางสุขสมดังขึ้นยามนางขยับมือและโลมเลียให้เร็วขึ้น ก่อนจะปลดปล่อยธารน้ำสีขาวขุ่นในปากของนาง “ท่านนี่นะ ปลดปล่อยอยู่ทุกวัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่เคยลดลงเลย” นางกล่าวก่อนจะแลบลิ้นเลียที่เปรอะเปื้อนรอบริมฝีปาก ท่าทางของนางช่างยั่วยวนให้เขาเขาปรารถนาอยากจะปลดปล่อยในกายนางอีกครั้ง ฟ่านซีอิ๋งไม่ปล่อยให้พระสวามีได้พัก นางรุกเร้าเขาอีกครั้งด้วยการ

  • พี่ชาย! ท่านกำลังล่อลวงข้าใช่หรือไม่   ตอนพิเศษ : ฟ่านไห่ถิงน่ะหรือจะแต่งงาน (2/5)

    “ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใดมากหรอกเจ้าค่ะ แต่หากท่านมีใจอยากช่วยไขข้อข้องใจ น้องย่อมยินดี” นางกล่าวพลางช่วยเขาปลดสายรัดเอวแล้วถอดอาภรณ์ตัวนอกออก “กล่าวมาเถิด ขอเพียงเจ้าเอ่ยถาม หากพี่สามารถหาคำตอบมาให้เจ้าได้ พี่ย่อมลงแรงเต็มที่” เมื่อถอดอาภรณ์เสร็จเขาจึงโอบเอวพระชายาของตนเดินไปที่เตียง “วันนี้ท่านแม่ร้อนใจนักจึงมาปรึกษาข้า เรื่องที่พี่ใหญ่จู่ ๆ ก็มาคุกเข่าขอร้องให้ท่านแม่ไปสู่ขอสตรีให้ ทั้งยังเร่งรีบจะเอาคำตอบเช้าวันพรุ่งนี้” “แท้จริงเรื่องนี้นั้น เป็นความลับของสหายพี่ หากพี่บอกเจ้าเรื่องนี้ เจ้ามีสิ่งใดมอบให้พี่เป็นการตอบแทน” “พรุ่งนี้ข้าจะทำขนมที่ท่านชื่นชอบให้เจ้าค่ะ” “ความลับของไห่ถิงมีค่าเพียงเท่านั้นเองหรือ” “เช่นนั้นคืนนี้ข้าจะปรนนิบัติท่านอาบน้ำเจ้าค่ะ ท่านชอบให้ข้าถูหลังมิใช่หรือ” ถูไป ลูบไป ถูกใจเขายิ่งนัก “นั่นเจ้าย่อมต้องทำอยู่แล้ว สิ่งตอบแทนเจ้าไม่คุ้มค่าที่พี่ต้องหักหลังสหายบอกความลับสำคัญแก่เจ้าเลย” เมื่อได้ยินสวามีบอกนางจึงงัดไม้ตายที่เขายอมสยบทุกครั้ง “คืนนี้ข้าจะ

DMCA.com Protection Status