Share

บทที่ 4

บทที่ 4

 

  ส่วนศิรดาและลักขณาซึ่งนั่งประกบซ้ายขวาขนาบข้าง ภัทรานิษฐ์อยู่ หันมามองคนตรงกลางพร้อมกันหลังจากบรรดาหนุ่มๆ ทั้งรุ่นพี่ รุ่นเดียวกัน และรุ่นน้องที่มาร่วมงานต่างก็เข้ามาทักทายภัทรานิษฐ์และทักเพื่อนอย่างพวกเธอตามมารยาทได้กลับไปนั่งที่โต๊ะหมดแล้ว เสียงตื่นเต้นและดีใจของศิรดาก็ดังขึ้น 

“ยี่หวา...พี่แพทมาด้วยล่ะ กรี๊ด!!!” 

“เหรอ หวาไม่ยักจะเห็นพี่เขาเลย” ภัทรานิษฐ์แสดงสีหน้าได้เรียบเฉยมาก แต่ใจนั้นไม่ใช่เลย 

“แกนี่...พี่แพทนั่งแแปลกๆ?อยู่โต๊ะนู้นไม่เห็นเหรอ” พูดจบศิรดาก็แอบมองไปยังโต๊ะที่รุ่นพี่สุดฮอตนั่งอยู่อีกครั้งด้วยท่าทีขัดเขิน ก่อนจะหุบยิ้มเมื่อเห็นว่ามีสาวนางหนึ่งไปเจ๊าะแจ๊ะกับขวัญใจของเธอ 

“ไม่เห็น” เสียงใสๆ ของภัทรานิษฐ์ก็ยังคงปฏิเสธ ก่อนจะหยิบแก้วที่มีน้ำพั้นช์สีสวยขึ้นดื่มแก้คอแห้ง 

“ผู้ชายในดวงใจที่แกแอบชอบพี่เขามานานแสนนาน นั่งอยู่ในงานแกจะไม่เห็นได้ยังไง แถมตอนนี้ยังมีชะนีนางหนึ่งไปคุยกับพี่เขาอยู่ด้วย” 

“ฝน...เราไม่ได้ชอบพี่เขาแล้ว เลิกพูดสักที อีกอย่างพี่เขาจะคุยกับใครมันไม่เกี่ยวกับเราสักหน่อย” ภัทรานิษฐ์เอ่ยค้าน 

“ตามใจ” ศิรดาเอ่ยตบอกแบบปลงๆ เพราะรู้อยู่ว่าเพื่อนสาวอย่างภัทรานิษฐ์นั้นคิดอะไรอยู่ 

“แต่ข่าวล่ามาไว พี่แพทยังไม่แต่งงาน กรี๊ดดด” ลักขณาที่แอบหันไปคุยกับเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้นบ้าง ตามด้วยเสียงกรี๊ดอย่างดีใจอีกรอบ 

“จริงเหรอแก” คนที่ถามคือศิรดา ส่วนภัทรานิษฐ์นั้นก็แอบดีใจอยู่ลึกๆ 

“แต่แฟนไม่รู้นะ” 

“เอาน่า...ยังไม่แต่งงานก็ดีแล้ว เรื่องแฟนเดี๋ยวก็เลิก” ศิรดา แอบแช่ง ซึ่งลักขณาก็พยักหน้าเอาด้วยอีกคน 

“ท่าทางแกสองคนจะบ้า ไปแช่งแบบนั้นได้ไง เดี๋ยวก็โดนเข้าตัวเองหรอก” ภัทรานิษฐ์เอ่ยปรามเพื่อน ก่อนจะส่งยิ้มให้เพื่อนและ รุ่นพี่ที่ต่างเข้ามาทักทายเธอ ซึ่งภัทรานิษฐ์นั้นจำชื่อได้บ้างไม่ได้บ้าง เนื่องจากผ่านมาหลายปีแล้วที่ไม่ได้พบหน้า บางคนรูปร่างหน้าตาก็เปลี่ยนไปมากจนเธอนั้นจำไม่ได้จริงๆ

พัฒน์ชนะถูกพิธีกรเชิญขึ้นไปพูดคุยบนเวที เสียงตะโกนเชียร์ดังลั่นห้องจัดเลี้ยงเลยก็ว่าได้ ชายหนุ่มถูกถามเรื่องงาน เรื่องความสำเร็จและอื่นๆ รวมทั้งเรื่องส่วนตัวด้วย ภัทรานิษฐ์ได้แต่มองชายหนุ่มด้วยความชื่นชมกับงานที่เขารับผิดชอบเรื่องห้างสรรพสินค้าและอื่นๆ ของครอบครัว แม้จะดูเพลย์บอยแต่เรื่องงานเขาก็เอาจริงเอาจังมากเหมือนกัน ชายหนุ่มถูกจี้ถามเรื่องสเปคผู้หญิง และอีกมากก่อนพิธีกรจะยอมปล่อยให้ลงไปจากเวที 

และคนต่อไปที่ถูกเชิญขึ้นไปบนเวทีคือภัทรานิษฐ์ เนื่องจากเธอเคยเป็นถึงอดีตดาวมหาวิทยาลัยชื่อดัง คำถามเหมือนกับคำถามของพัฒน์ชนะไม่มีผิด แต่ดูเหมือนจะลงลึกมากหน่อยกับงานธุรกิจของเธอในตอนนี้ นั่นคือการเปิดร้านเวดดิ้งที่ทุกคนต่างคิดว่าเหมาะกับหญิงสาวมาก พัฒน์ชนะนั่งยิ้มกับคำพูดของภัทรานิษฐ์แม้จะไม่ได้มองหน้าเธอก็ตาม เพราะกำลังนั่งคุยกับสาวๆ อยู่ 

แต่คำถามที่ทำให้ภัทรานิษฐ์ดูจะอึกอักนั่นคือ มีแฟนหรือยังซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนได้รับคำยุยงมาจากชายหนุ่มในห้องจัดเลี้ยงเสียเป็นส่วนใหญ่ คำถามไหนที่ภัทรานิษฐ์ตอบได้หญิงสาวก็ตอบ คำถามไหนตอบไม่ได้ก็เลี่ยง โดยเฉพาะเรื่องที่ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากๆ บรรดาอาจารย์ที่มาร่วมงานด้วยในวันนี้ต่างก็ยินดีที่ลูกศิษย์ทุกคน ล้วนประสบความสำเร็จ คอยแลกเปลี่ยนความคิดและถามไถ่ลูกศิษย์ กันอย่างทั่วถึง 

“เฮ้อ...เกือบเอาตัวไม่รอด” เมื่อกลับมานั่งที่โต๊ะภัทรานิษฐ์ก็แอบถอนหายใจออกมาหนักๆ เพราะตอนที่อยู่บนเวทีสายตาของเธอมองเห็นพัฒน์ชนะได้ชัดเจนมาก แต่รุ่นพี่หนุ่มกลับไม่สนใจเธอสักนิด เอาแต่นั่งคุยกับผู้หญิงคนอื่นอยู่ เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่เปลี่ยน ไม่ว่าจะผ่านมากี่ปีพัฒน์ชนะก็ไม่เคยสนใจเธอเลย 

“ชนแก้วหน่อยครับน้องยี่หวา” 

“อ้อ...ค่ะ” ภัทรานิษฐ์หยิบแก้วเหล้ารสชาติจางๆ ในงานมาชนแก้วกับอนุภพ รุ่นพี่สมัยมัธยมและมหาวิทยาลัยที่เอ่ยบอกเมื่อครู่ หญิงสาวพอจะดื่มเหล้าได้บ้าง แต่ไม่ใช่ต้องเมาแอ๋กลับบ้าน 

“ไม่รู้มาก่อนว่าน้องยี่หวาเปิดร้านเวดดิ้ง” อนุภพเอ่ยถาม การมางานวันนี้ทำให้เขารู้เรื่องของภัทรานิษฐ์เพิ่มขึ้นกว่าแต่ก่อน หญิงสาวดูโตเป็นผู้ใหญ่กว่าที่คิด อายุไม่ถึงยี่สิบห้าแต่ก็มีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว 

“ค่ะ...น้อยคนที่จะรู้” 

“ธุรกิจเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทุ้มๆ ของรุ่นพี่เอ่ยถามเป็นภาพรวม เพราะคำถามบางอย่างตอนอยู่บนเวทีเธอยังไม่ได้ตอบให้เขากระจ่างนัก 

“ก็ดีค่ะ กำลังไปได้สวย พี่ภพละค่ะ ตอนนี้ทำอะไรอยู่” 

“จำชื่อพี่ได้ด้วยเหรอ นึกว่าจำกันไม่ได้เสียอีก” ชายหนุ่มดีใจกับคำพูดของภัทรานิษฐ์

“จำได้สิคะ” ภัทรานิษฐ์เอ่ยตอบอย่างมั่นใจ แม้จะเคยคุยกับอนุภพบ้างแต่เพราะชายหนุ่มคนนี้เป็นเพื่อนของพัฒน์ชนะ เธอจึงค่อนข้างให้ความสนใจเป็นพิเศษ อีกอย่างถ้าไม่คิดเข้าข้างตัวเองจนเกินไปอนุภพเหมือนจะเคยจีบเธอด้วย 

“เมื่อกี้น้องยี่หวายังไม่ตอบคำถามพิธีกรข้อหนึ่งนะ” 

“คำถามอะไรคะ” 

“มีคนรักแล้วหรือยังครับ” อนุภพเอ่ยถามตรงประเด็นไม่อ้อมค้อมให้เสียเวลาเพราะอยากรู้เต็มกำลัง แต่การพูดคุยของทั้งคู่นั้น มีสายตาของพัฒน์ชนะแอบชำเลืองมองอยู่เป็นระยะๆ 

  “มีแล้วค่ะ” 

   “ว้า...อย่างนี้พี่ก็อกหักแย่น่ะสิครับ” คนถามรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจอย่างช่วยไม่ได้ อยากกลับไปบอกให้พัฒน์ชนะให้เลิกล้มความคิดที่จะทำแบบนั้นกับภัทรานิษฐ์เสีย เพราะรู้สึกสงสารหญิงสาวขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก 

  “ค่ะ” ภัทรานิษฐ์เอ่ยรับ คนรักที่เธอหมายถึงและชอบเขาเพียงฝ่ายเดียวตลอดนั่นคือพัฒน์ชนะ แม้จะไม่เคยแสดงออกอะไรให้ชายหนุ่มรู้ว่าเธอชอบเขา ด้วยเพราะความไม่กล้าจึงทำได้แค่เพียงสั่งตัวเอง ให้ตัดใจหลังจากที่เขาเรียนจบแต่นั่นก็ผ่านมาหลายปีแล้ว เธอยังทำไม่ได้เลย 

 

 

 

++++++++++++++++

ฝากติดตามผลงานของนักเขียนนามปากกา วรนิษฐา ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

 

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status