Share

บทที่ 5

บทที่ 5

“ว่างๆ เราไปกินข้าวกันนะครับ” 

“อืม...ขอคิดดูก่อนนะคะ เพราะหวากลัวแฟนพี่ภพจะว่าเอา” 

“ครับๆ” อนุภพจำเป็นต้องเอ่ยรับ เพราะรู้ว่านั่นคือการปฏิเสธแบบอ้อมๆ อย่างถนอมน้ำใจจากเธอ เมื่ออนุภพแยกตัวออกไปชายหนุ่มก็มีสาวๆ มาขอชนแก้วและคุยด้วยไม่น้อยเลย โดยส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆ กันมากกว่า ชายหนุ่มพยายามปลีกตัวไปหาพัฒน์ชนะและเขาก็ทำได้สำเร็จ ทันที่ที่หย่อนตัวลงนั่งบนเก้าอี้ได้ก็เอ่ยบอกในสิ่งที่ได้รู้มา 

“น้องเขามีแฟนแล้วว่ะ”

“แล้วไง” พัฒน์ชนะเอ่ยถามอย่างเป็นเรื่องปรกติ เขาไม่สนถ้าจะมีอะไรกับผู้หญิงที่มีแฟนแล้ว เพราะพวกผู้หญิงที่ข้องเกี่ยวกับเขาส่วนใหญ่ต่างก็เป็นฝ่ายสมยอมให้กับเขาเอง เขาไม่ได้บังคับใจใครสักหน่อย

“ไอ้นี่หนิ” อนุภพส่ายหน้าให้ ก่อนจะพูดเรื่องที่อยากพูดแต่ทำได้เพียงแค่อ้าปากก็ต้องหยุด เพราะมีเสียงๆ หนึ่งดังขึ้น 

“พี่แพท พี่ภพคะ ชนแก้วกันหน่อยสิ” สาวสวยสามสี่คนล้อมหน้าล้อมหลังอนุภพกับพัฒน์ชนะจนแทบไม่มีความเป็นส่วนตัว 

“อย่าไปไหน เดี๋ยวข้ามาคุยต่อ” อนุภพพาสาวๆ ออกไปก่อนเพื่อหวังจะกลับมาคุยกับเพื่อนใหม่ 

ส่วนภัทรานิษฐ์เองก็มีหนุ่มๆ อีกหลายคนเดินเข้าไปคุย ชวนเธอชนแก้ว ถามเรื่องงานบ้างแต่คนที่ดื่มแทนภัทรานิษฐ์นั่นคือศิรดา ที่ในวันนี้ดื่มมากเป็นพิเศษจนเกือบจะเมาแล้ว ทางด้านบนเวทีมีการแสดงคอนเสิร์ตของวงดนตรีชื่อดังที่ทางทีมงานเตรียมมาไว้ให้ ทุกคนต่างสนุกสนานแต่ภัทรานิษฐ์กำลังห้ามศิรดาไม่ให้ดื่มเหล้าต่ออยู่

“ฝน...พอแล้ว” มือเรียวๆ ของภัทรานิษฐ์เอื้อมไปรั้งมือของศิรดาที่กำลังยกแก้วเหล้าขึ้นดื่มเป็นแก้วที่เท่าไหร่ภัทรานิษฐ์ก็ลืมนับรู้แต่ว่าเพื่อนของเธอดื่มเหล้าไปเยอะมากแล้ว เรียกได้ว่าตั้งหน้าตั้งตาดื่มกันเลยทีเดียว 

“ยังไม่เมาเลยนะ” ศิรดาหันมาตอบภัทรานิษฐ์ แต่ตานั้นเริ่มปรือแล้ว 

“บ้า...จะดื่มให้เมาเลยหรือไง สร้างภาพหน่อยสิเพื่อน สวย...ท่องไว้วันนี้เราต้องสวย” ภัทรานิษฐ์พยายามบิ๊วท์อารมณ์ แต่ท่าทางจะไม่ได้ผล 

“ไม่สร้างมันแล้ว ตอนนี้เห็นเหล้าดีกว่าผู้ชาย” 

“ไอ้เพื่อนบ้า เก๋ เอาไงดี” เมื่อห้ามแล้วไม่เป็นผลภัทรานิษฐ์จึงหันไปถามลักขณาที่พอจะเข้าใจสาเหตุที่ทำให้ศิรดาดื่มหนักแบบนี้ เพราะคืนก่อนก็ชวนเธอไปเที่ยวเหมือนกัน 

“ปล่อยฝนมันไปเถอะ คืนนี้คิดซะว่าปล่อยผี เพราะแฟนมันไม่อยู่ บินไปทำงานที่ฮ่องกงเป็นอาทิตย์แล้ว คงเหงา” 

“ไหนตอนคุยโทรศัพท์บอกว่าดีใจไง จะได้มีเวลาเป็นส่วนตัว” ภัทรานิษฐ์หันไปมองศิรดาแล้วก็ส่ายหน้าให้ ที่แท้ก็ปากแข็งแต่ใจอ่อน 

“มันโกหกน่ะสิ หน้าอย่างเนี๊ยเหรอจะขาดพี่คริสได้” ลักขณาเอ่ยอย่างรู้ทัน 

“แกสองคนอย่าแขวะฉันสิ คนมันรัก พอห่างก็คิดถึงบ้างอะไรบ้าง แงๆ เมื่อไหร่แฟนฉันจะกลับมาซะที เดี๋ยวก็บินตามไปถึงฮ่องกงเลยนี่” คนที่กำลังเมาได้ที่แต่พอยังมีสติเอ่ยขึ้น ก่อนจะแกล้งร้องไห้ออกมา แต่ความคิดถึงแฟนหนุ่มนั้นไม่ได้แกล้งเลยจริงๆ 

“เพ้อแบบนี้ท่าทางจะไม่รอดว่ะ” 

“เอาไงดีล่ะเก๋ พากลับบ้านเลยไหม” ภัทรานิษฐ์เอ่ยถามลักขณา หาทางพาคนเมาออกไปจากงานก่อน 

“ไม่ดีกว่า กลับบ้านไปไอ้ฝนก็ต้องหาเหล้าดื่มแก้คิดถึงแฟนอยู่ดี ดีไม่ดีถูกม๊ามันดุอีก จะซวยกันไปใหญ่ คราวนี้งานได้งอกแน่นอน” 

“งั้นเปิดห้องให้ฝนนอนจนสร่างเมาก่อน จะได้อยู่ในสายตาเราด้วย” คำพูดของภัทรานิษฐ์ทำให้ลักขณาเห็นด้วย 

“อืม...ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละ” ลักขณาและภัทรานิษฐ์ช่วยกันหิ้วปีกศิรดา ออกไปจากห้องจัดเลี้ยง พัฒน์ชนะเองก็เดินเลี่ยงออกมายืนดูสามสาวเหมือนกันว่าจะไปไหน เพราะคืนนี้เขาจะเสียพนันไม่ได้ ลักขณาเข้าไปเช็คอิน ก่อนจะหิ้วปีกพาคนขี้เมาขึ้นไปบนห้องพัก ส่วนภัทรานิษฐ์ก็ช่วยอีกแรงโดยหารู้ไม่ว่าพัฒน์ชนะจ้องมองพวกเธออยู่และรู้ว่าทั้งสามกำลังตรงไปห้องไหน 

ชายหนุ่มอาศัยฐานะของการเป็นเจ้าของโรงแรม เอ่ยถามจากพนักงานหน้าเคาน์เตอร์เช็คอินนั่นเอง พัฒน์ชนะขึ้นมาบนห้องที่ทั้งสามคนเช็คอิน ก่อนจะยืนกอดอกพิงผนังหน้าห้อง เพราะอยากรู้ว่าจะเข้าหาภัทรานิษฐ์ได้ด้วยวิธีไหน ถ้าเธอไม่ยอมออกมาจะทำยังไง ชายหนุ่มกำลังครุ่นคิดแต่ก็เงี่ยหูฟังการสนทนาภายใน เพราะประตูยังปิดไม่สนิท การสนทนาภายในห้องพัฒน์ชนะจึงได้ยิน 

“ตัวหนักชะมัดเลย ยายฝน” ภัทรานิษฐ์เอ่ยบ่น ก่อนจะวางคนขี้เมาที่ตอนนี้หลับแบบไม่รู้เรื่องอะไรแล้วลงบนเตียง เมื่อกี๊ยังโต้ตอบได้ว่าไม่เมา แต่ตอนนี้กลับแทบไม่มีแรงขยับไปไหน

“นั่นสิ...มันกินเหล้าหรือกินช้างเข้าไปวะเนี่ย” ลักขณาเอ่ยอย่างเห็นด้วย ก่อนจะนั่งหอบอยู่ขอบเตียงนอน ภัทรานิษฐ์เดินเข้าไปในห้องน้ำ หยิบผ้าเช็ดตัวผืนเล็กชุบน้ำเย็นๆ ไปเช็ดตัวให้คนขี้เมา

“เมื่อไหร่จะสร่างเมาเนี๊ยฝน” 

“คงอีกนาน รองเท้าก็กัดฉัน จะอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ขอสวยหน่อยก็มีอุปสรรคตลอด” เมื่อตอบคำถามของภัทรานิษฐ์เรื่องศิรดาไปแล้ว ลักขณาก็เอ่ยเรื่องตัวเองบ้าง หญิงสาวนั่งไขว่ห้างมองเท้าของตัวเองที่มีรอยแดงและถลอกเพราะเจ้ารองเท้าส้นสูงปลายแหลมของเธอทำพิษ 

“เอาน่า…แค่นี้เก๋ก็สวยแล้ว” ภัทรานิษฐ์เอ่ยชม 

“จ้า…แม่คนงามตั้งแต่เกิด เพื่อนจะสวยก็ยอกันเข้าไป”

“ยอว่าสวยไม่ชอบเหรอ”

“ก็ชอบ…เออนี่หวา วันนี้ได้เจอพี่แพทแล้ว ทำไมไม่เข้าไปบอกพี่เขาว่าแกชอบวะ” คำพูดของลักขณาทำให้คนที่แอบฟังอย่างพัฒน์ชนะยิ้มออกมา เพราะไม่คิดว่าภัทรานิษฐ์จะชอบเขา อย่างนี้อะไรๆ มันก็ยิ่งง่าย 

“ไม่” คนถูกถามปฏิเสธ ทำให้ใบหน้าของพัฒน์ชนะบึ้งตึงอย่างเห็นได้ชัด ขัดใจที่เธอไม่พูดว่าชอบเขา ทั้งๆ ที่ผู้หญิงร้อยทั้งร้อยจะทำแบบนั้น หรือเพราะเธอมีแฟนแล้วอย่างที่อนุภพบอก 

“ทำไมล่ะแก ฉันไม่เข้าใจจริงๆ ว่าแกจะเก็บความรู้สึกนี้ไปอีกนานแค่ไหน ไม่อึดอัดเหรอ” 

“อึดอัดแต่ชินแล้ว เก๋แกว่าเราสวยไหม”

“สวย” ลักขณาเอ่ยรับแบบไม่ต้องคิด 

“แต่พี่แพทก็ไม่เห็นจะสนใจเราเลย แสดงว่าเขาไม่ชอบเราหรอก ขืนไปบอกว่าชอบเขาก็มีแต่จะหน้าแหกเปล่าๆ อีกอย่างเราก็อายด้วยที่จะบอกชอบใครก่อน” ขณะพูดภัทรานิษฐ์ทำหน้าที่เช็ดใบหน้าและลำคอของศิรดาไม่หยุดมือ 

++++++++++++++++

ฝากติดตามผลงานของนักเขียนนามปากกา วรนิษฐา ด้วยนะคะ

ขอบคุณมากค่ะ

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status