แชร์

ตอนที่ 3 ความห่วงใย

ผู้เขียน: กุลฉัตร ( Hydrenyea )
last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-01-13 19:15:47

“ คุณอาการเป็นอย่างไงบ้าง นี่ก็ค่ำแล้ว ทานอะไรรึยัง ” เขาถามเสียงเรียบแต่แฝงความห่วงใย

“ ค่ะ ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณจริงๆ ” รอยยิ้มนั้นทำให้เขาเหมือนโดนมนต์สะกด ก่อนที่เขาจะเสียศูนย์ไปมากกว่านี้เขาต้องเปลี่ยนสถานการณ์ด่วน

“ ป้าแก้วคงเตรียมกับข้าวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ ” เขาพูดเสียงขรึมคิ้วขมวดทำให้ร่างบางไม่เข้าใจเท่าไหร่กับอารมณ์แปรปรวนของชายร่างสง่างามตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเดินนำหล่อนไป แต่เมื่อก้าวพ้นประตูชายหนุ่มเอามือข้างขวาจับหัวใจด้านซ้ายที่มันเต้นแรงเมื่อเดินนำห่างจากหล่อนจนคิดว่าหล่อนไม่เห็นแล้ว

“ เฮ้อ ” เขาถอนหายใจหนักๆกับตนเองก่อนจะทิ้งระยะห่างจากสาวเจ้า ร่างบางที่ก้าวออกจากห้องครั้งแรกมองรอบๆตัว บันไดสีน้ำตาลลายไม้ศักดิ์ที่เป็นเกลียวตั้งอยู่กลางตัวบ้าน....บันไดขนาดที่ยาวไม่มากแต่มีสองฝั่งและสองชั้นคือถ้าเดินขึ้นมาชั้นแรกประตูที่เห็นคือห้องทำงานแต่ถ้าอีกชั้นที่อยู่สูงขึ้นไปอีกนิดที่มีบันไดเพียงห้าขั้นซึ่งสถานที่นั้นคือที่ส่วนตัวของภวิช นั่นคือห้องนอนนั่นเองมันเป็นการออกแบบของเขาในการสร้างพื้นที่ส่วนตัว ป้าแก้วคือผู้หญิงคนแรกที่เขาให้เข้าได้เพราะต้องทำความสะอาด ส่วนบุคคลอื่นเป็นผู้ต้องห้าม คนสนิททั้งสามเองก็ไม่เคยย่างกายไปยังห้องนอนเขาสักคนจะมีอีกคนก็คือ มินตราเท่านั้นที่ต่อไปห้องเขาคือห้องเธอ ร่างบางเดินลงมาถึงชั้นล่าง โคมไฟที่ติดบนเพดานดูหรูหรา โซฟาที่อยู่ที่ห้องรับแขกไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคงแพงยิบ.....ร่างสูงที่เดินพาไปที่โต๊ะอาหารเงียบๆ ทำให้ร่างบางถามขึ้นท่ามกลางความเงียบเมื่อภวิชเดินถึงหัวโต๊ะ

“ คุณภวิชค่ะ ” ร่างบางที่ทักเขาเสียงอ่อนโยนทำให้เขาที่กำลังจะเลื่อนเก้าอี้เงยหน้ามองพร้อมถัดมาที่เขาก็หย่อนตัวนั่ง

“ ว่าไง ”

“ คุณอยู่ที่นี่กับครอบครัวรึเปล่าค่ะ ทำไมดูเงียบจัง ” ถึงรู้ว่าไม่ควรถามแต่ก็อยากรู้นี่นาดีกว่าเงียบกันแบบนี้

“ คุณเห็นคนอื่นรึไง นอกจากป้าแก้ว แล้ว ก็ เราสองคน ” เขาลากเสียงยาวพร้อมหน้านิ่งขรึม

"ขอโทษค่ะ คุณมีครอบครัวไหมค่ะ ” หล่อนนั่งลงตรงเก้าอี้ใกล้ๆเขา ภวิชสั่งเด็กรับใช้ให้ทำหน้าที่ตักข้าวใส่จานเขาและเธอร่างบางหันไปยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณอย่างสุภาพทำเอาสาวรับใช้แทบวางตัวไม่ถูกที่มีคนขอบคุณแถมยิ้มให้อีกภวิชมองสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตาแล้วก็ต้องตักอาหารเข้าปากเมื่อจู่ๆหล่อนก็หันมาหาเขา

“ คุณภวิชค่ะ ขอบคุณที่ช่วยฉันเอาไว้นะคะ ” หญิงสาวบอกเขาที่ตักอาหารเข้าปากหันมองเธออีกครั้งนี่จะไม่กินข้าวรึไงนะเขาคิดในใจ

“ ผมว่าคุณกินข้าวก่อนไหมเดี๋ยวจะเย็นหมดเปล่าๆ ” เขาบอกพร้อมตาคมที่ส่งมาทำให้ร่างบางเริ่มตักอาหารเข้าปากด้วยความหิว เขามองทุกอิริยาบถที่เธอทำ พร้อมกระตุกยิ้มนิดๆที่ดูท่าหล่อนหิวถึงขั้นขอข้าวอีกจานในขณะที่เขาก็ตักอาหารเข้าปากเรื่อยๆจริงๆไม่ได้หิวเท่าไหร่หรอกเพราะเขาเพิ่งกินตอนเย็นแต่เพราะกลัวว่าถ้าให้หล่อนกินคนเดียวคงไม่กินแน่ จะให้เขาอิ่มก่อนแล้วมองหล่อนหล่อนก็คงหยุดกินเหมือนกัน ฉะนั้นจำต้องให้หล่อนอิ่มแปร้ก่อนแล้วเขาถึงรวบช้อนตาม

“ อาหารถูกปากไหม ”

“ อร่อยมากๆเลยค่ะ ” ร่างบางยิ้มให้อย่างอ่อนหวานจนใจเขากระตุกอีกครั้ง.ไม่อยากรอเวลาจริงๆ ตอนนี้เขาอยากจะรักเธอจะแย่อยู่แล้ว

“ คุณจะไปเดินเล่นหน่อยไหม ”

“ เอ่อ ก็ได้ค่ะ ”

“ มิน คุณจะทำอะไร ” เขาเรียกชื่อเล่นเธออย่างสั้นๆแล้วมองมือเธอที่หยิบจานเขาไปรวมกับของหล่อน

“ ฉันจะไปล้างจานค่ะ ” เธอตอบอย่างใสซื่อ ผู้หญิงคนนี้ไม่เหมือนคนอื่นจริงๆ

“ ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวมีคนทำเอง ส่วนคุณอยู่เฉยๆก็พอ ” เขาเดินมาจับมือหล่อนออกจากจานชามพร้อมส่งยื่นให้คนรับใช้ที่หน้าเจื่อนลงเมื่อเห็นร่างบางจัดเก็บจานทำหน้าที่แทนตัวเอง                                               

จากนั้นภวิชก็ฉวยมือคนที่กำลังยืนงงให้เดินตามเขาออกไปหน้าบ้าน....ลมทะเลในยามนี้มันทำให้คนที่เพิ่งหายไข้ รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลายกว่าเดิมเธอมองร่างสูงที่จับมือเธอลากจูงไปยังซุ้มที่ทำจากไม้ชั้นดีมุงด้วยใบจากที่อยู่กลางสนามหญ้าสีเขียวอ่อนๆที่มีไฟประดับอย่างสวยงามรอบๆตัวบ้านพักที่เพิ่งเดินออกมานั้น มีบ้านเล็กๆที่ดูอบอุ่นอีกสามหลัง และมีบ้านไม้หลังใหญ่พอสมควรอีกที่ มีสวนดอกไม้ตามริมทาง สวยมากจริงๆ

“ คุณภวิชจะพาฉันไปไหนค่ะ ปล่อยก็ได้ค่ะฉันเดินเองได้ ” หญิงสาวรั้งมือให้เข้าหาตัว ภวิชยอมปล่อยทั้งที่ขัดใจเขา

“ ก็เห็นว่าคุณไม่สบายเลยอยากให้มาสูดอากาศเท่านั้น ” เขายักไหล่ให้เธอ คนอุตส่าห์เอาใจ ดันมาทำท่าไม่ไว้ใจเขาซะงั้น เขาเดินนำหล่อนไปนั่งที่ซุ้ม

“ ขอบ คุณนะ คะ และก็ขอโทษด้วยที่ทำให้คุณต้องเดือดร้อน ” เธอเอ่ยพร้อมสบตาเขาที่ก็มองเธอเช่นกัน

“ อย่าคิดมากเลย เป็นใครก็ต้องช่วยทั้งนั้นแหละถ้าเจอคนไม่สบายคุณต้องการอะไรเพิ่มก็บอกป้าแก้วได้เขาจะหาให้คุณ ”

“ ไม่แล้วค่ะขอบคุณมาก เอ่อ ฉันมีเรื่องจะขอรบกวนคุณได้ไหมคะ ” เขาพยักหน้าจนหล่อนยิ้มกว้างให้เขาอีกที จิตใจเขาสั่นอีกแล้ว

“ พรุ่งนี้คุณพาฉันขึ้นฝั่งได้ไหมค่ะ ” ความตื่นเต้นที่ได้รับที่หล่อนยิ้มให้แทบหายไปทันที คิ้วเรียวหนาขมวดอีกครั้ง

“ ทำไม? อยู่ที่นี่ไม่สบายหรอ อยากได้อะไรเพิ่มอีกฉันจะให้คนหาให้ ” เขาพูดกึ่งประชดประชันและเอาแต่ใจ ดูแลอย่างดีจะมาหนีเขาไปเนี่ยนะไม่มีทางซะหรอก

“ ปะเปล่านะคะฉันรบกวนคุณมามากเกินไปแล้วไม่อยากให้คุณลำบากอีกค่ะ ” เธอรีบตอบเพราะไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องทำเสียงขุ่นใส่เธอด้วย

“ อ้อ นึกว่าเรื่องอะไร ไม่ลำบากอะไรหรอกอยู่ไปเถอะ ”เขายังคงพูดเอาแต่ใจ

“ ไม่ใช่อย่างนั้นนะคะ ” ทำไมไม่เข้าใจบ้างเลยนะ หญิงสาวเริ่มขุ่นในใจ

“ หรือเธอมีใครที่รออยู่ที่บ้านหรือมีคนที่รักหรอถึงต้องรีบกลับ ” เรียวตาคมที่สบมาอย่างค้นหาความจริง ว่าเธอมีคนที่รักอยู่หรือเปล่า

“ ค่ะ ฉันมีคนที่ฉันรักรออยู่ที่บ้านแล้ว ” คำตอบนี้ทำให้ภวิชเผลอกำมือแน่นใจเต้นรัว ไม่ใช่เพราะดีใจแต่กำลังรู้สึกเหมือนจะเสียของรักไปซึ่งเขาไม่มีวันยอมเธอไม่รู้สึกหวั่นไหวกับเขาเหมือนผู้หญิงอื่นๆเลยรึไง ถึงจะไปจากเขาทั้งๆที่ผู้หญิงคนอื่นมีแต่จะจับเขาทั้งนั้นแต่ความรู้สึกเหมือนจะเสียของมีค่าก็ชะงักและเรียกความชุ่มชื้นในหัวใจให้เขาอีกครั้งเมื่อหล่อนพูดต่อ

“ ฉันห่วงพ่อ กับน้องค่ะ อีกอย่างฉันต้องทำงานด้วย ” เขาแอบยิ้มอยู่ในใจเมื่อหล่อนพูดถึงพ่อแต่ก็ยังไม่แน่ใจอยู่ดีคนเจ้าเล่ห์จึงถามอีกครั้ง

“ ไอ้ที่ว่าคนที่รักเนี่ย พ่อกับน้องหรอ? ” เขาถามตีหน้าขรึม

“ ใช่ค่ะ ” คำตอบเธอทำให้เขาดี๊ด๊าอยู่ในใจ

“ เออ จริงสิคะ ” หล่อนทำท่าเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้

 “ ค่ารักษาพยาบาลของฉันเท่าไหร่ค่ะ ” ร่างสูงเกือบลืมคิดไปเลยเพราะเขาไม่ได้สนใจอะไรนอกจากเธอแต่ก็เท่านั้นคนชอบวางแผนมีหรอจะรับมือไม่ทัน

“ ประมาณ 30000 ”

“ หะ 30000 คุณพาฉันไปโรงพยาบาลที่ไหนเนี่ย? ” ใบหน้าหล่อนที่ตกใจและเสียงที่ร้องขึ้นสูงทำให้เขากลั้นหัวเราะจนหน้าแดง

“ นี่คุณ ผมพาคุณไปรพ. จ่ายห้องพิเศษไหนจะค่าหมอที่เป็นคนดูแลครอบครัวผมอีก นี่ถือว่าผมลดให้คุณเยอะแล้วนะ ” เขาทำเสียงดุแต่ไม่จริงจัง เขายังไม่รวมตั๋วเครื่องบินที่ต้องยกเลิกตั้งสามที่เพราะเขาให้สายชลเดินทางล่วงหน้ามาจัดการบางอย่างให้เขาก่อนแล้วนี่ยังไม่รวม ค่าที่หล่อนนอนตักเขา ค่าจูบและค่ากอดนะ หึๆ เขาหัวเราะในใจ จริงๆราคาก็ประมาณนั้นจริงๆ ไหนจะค่าน้ำมัน ค่าโน่นค่านี่ที่อำนวยความสะดวกให้เธอ

“ นี่ลดแล้วหรอค่ะ......เฮ้อ....ฉันจะรีบหามาคืนนะคะ รับรองไม่หนี ” หญิงสาวถอนหายใจ นอกจากหนี้ยังไม่หมด งานก็ยังไม่มีที่ทำ ยังมาเป็นหนี้อีก โชคดีจริงๆที่เจอคนรวยให้ที่พักและจ่ายค่ารักษา แต่ก็นะ โชคร้ายที่เขารวยและจ่ายให้เธอมากไปร่างบางนั่งห่อไหล่ ถอนหายใจอย่างคิดหนัก จะหางานจากไหนหล่ะทีนี้ ร่างสูงเปลี่ยนท่านั่งที่ใช้มือยันกับที่นั่งไว้ก่อนจะเปลี่ยนมันมาเป็นกอดอกแทน เห็นหล่อนเศร้าแล้วเขาก็ไม่อยากแกล้งเลย

“ เอาหล่ะ เรื่องเงินมันเรื่องเล็กสำหรับผม คุณมีเมื่อไหร่ค่อยให้ผมคืน ผมไม่รีบ ส่วนวันพรุ่งนี้ ตกลง ผมจะไปส่งคุณแต่มีข้อแม้คือ ผมต้องไปที่บ้านคุณด้วยและห้ามปฎิเสธ เด็ดขาด!! ” เขายื่นคำขาด ร่างบางมองหน้ายิ้มรับที่เขาจะให้เธอกลับแถมยังให้เธอติดเงินอีกต่างหาก

“ ก็ได้ค่ะ ” แต่คำขอสุดท้ายนี่สิถึงจะลำบากใจแต่ก็ตอบไปแล้ว ชายหนุ่มที่ตีหน้าขรึมแอบยิ้มในใจ หึๆ ต่อให้เธอหนีเขาเขาก็จะลากเธอกลับมาให้ได้

“ ติ๊ดๆ ” เสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นทำให้ภวิชต้องล้วงไปหยิบในกระเป๋ากางเกง เขามองที่นาฬิกาข้อมือ เพิ่งรู้ว่าสนทนากับหญิงสาวตรงหน้ามันจะใช้เวลาเร็วและนานขนาดเป็นชั่วโมง ชื่อหน้าจอนั่นคือสายชลนั่นเอง....ภวิชหันมองหญิงสาวที่นั่งมองหน้าเขาอยู่พลางอยากจะอัดลูกน้องนัก จะรีบโทรมาทำไมว่ะ ขัดจังหวะความสุขจริงๆ เขาคาดโทษในใจ นี่เขามีความสุขกับคนตรงหน้าจริงหรอเนี่ย ทั้งที่เพิ่งเจอมันเป็นเรื่องที่เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน ก่อนจะขอตัวเพื่อไปคุยธุระ ร่างบางมองตามร่างสูงที่เดินลับหายไปแล้วเขาพูดทิ้งท้ายแค่ว่าดึกแล้วรีบกลับเข้าบ้านเพราะอากาศเริ่มเย็นแล้วเดี๋ยวไข้จะกลับอีก

“ มินตราเอ้ยมินตรา เธอจะเอาไงกับชีวิตเธอเนี่ย ” ร่างบางพูดกับตัวเอง วันพรุ่งนี้กลับบ้านหายมาหลายวันแบบนี้ พ่อจะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ เฮ้อ ร่างบางนั่งอยู่ตรงนั้นอีกสักพักมองดาวมองจันทร์ที่สาดส่องลงมากระทบพื้นน้ำทะเลที่อยู่เบื้องหน้าไม่ไกลเท่าไหร่นัก ธรรมชาติที่ใดจะสวยงามได้เท่านี้นะ

“ ฟึ่บ นายทำทุกอย่างที่ฉันให้จัดการรึยัง ” เขาที่เดินถือโทรศัพท์คุยมาจนถึงห้องแต่เมื่อเข้าห้องเขาก็ตรงไปที่บานกระจกใสที่ผ้าม่านปิดอยู่เขาดึงมันออกแล้วมองไปยังซุ้มที่เขาเพิ่งเดินจากมา มองร่างที่นั่งอยู่ตรงนั้นแล้วคุยโทรศัพท์ไปด้วย

(เรียบร้อยแล้วครับ) ปลายสายตอบกลับ

“ ดีมาก แล้วนี่จะจัดการมันตอนไหน ” เขาถามเสียงเหี้ยมแต่หากสายตายังคงมองที่เดิม

(คืนนี้ครับ)

“ ก็ดี ฉันขี้เกียจเก็บพวกมันไว้นานๆ ถ้าจัดการเสร็จแล้วนายก็มาพักที่บ้านนภา ได้เลยนะ ”

(ครับเจ้านายขอบคุณครับ งั้นผมคงต้องวางแล้วเชิญเจ้านายพักผ่อนเถอะครับ)

“ อืม ขอบใจ ” พูดจบสัญญาณก็ถูกตัดไป บ้านนภาคือชื่อบ้านที่เขาตั้งขึ้น เป็นบ้านไม้ชั้นเดียวที่พักได้สบายอยู่ถัดจากบ้านหลังนี้ที่เขาพักไปสักนิดมันเป็นบ้านพักพิเศษที่เขาทำขึ้นเองจะว่าไปบนเกาะนี้เขาก็ออกแบบทั้งหมด จริงๆสายชลก็นอนที่บ้านไม้หลังใหญ่อีกที่ที่อยู่ใกล้ๆกันรวมถึงกฤษและทัชด้วยก็พักที่นั่นแต่ด้วยงานที่เขาให้สายชลและกฤษไปจัดการนั้นมันใช้เวลาค่อนข้างนานกว่าจะกลับก็คงเกือบเช้าของพรุ่งนี้ ดังนั้นเขาจึงให้บ้านพักนั้นเป็นที่พักของบอดี้การ์ดทั้งสองแทน เมื่อวางโทรศัพท์ลงและเห็นว่าร่างบางยังคงนั่งอยู่เขาจึงไปจัดการอาบน้ำอาบท่าให้สดชื่นเสียหน่อยอยากรู้นักว่าถ้าเขาบอกเรื่องห้องนอนกับเธอ เธอจะทำยังไง........

        เอาไงดีว่ะเรา ร่างบางคิดหากำลังใจให้ตัวเองเมื่อมาหยุดยืนที่หน้าห้องนอนของร่างสูง จะมาถามเขาว่าคืนนี้เธอจะนอนที่ไหนในเมื่อเจ้าของห้องเขามาแล้ว

“ เฮ้อ ” ถอนหายใจอย่างคิดวิธีที่จะคุยกับเขา จนต้องสะดุ้งอีกครั้งเมื่อประตูห้องนอนเปิดออก ผ้าที่เขาเช็ดผมเปียกหมาดๆยังคงพาดอยู่ที่บ่า เสื้อยืดสบายๆ กับกางเกงเลย์ที่เหมือนของเธอทำให้เขาดูเด็กกว่าตอนใส่สูทไปเยอะ

“ อ้าว มายืนทำไมตรงนี้ ” เขาถามเมื่อเห็นว่าหล่อนไม่ยอมเปิดประตูเข้ามาสักที เขาได้ยินตั้งแต่ฝีเท้าที่มาหยุดอยู่ห้องเขาตั้งแต่สิบนาทีแรกแล้ว แต่อยากรู้ว่าเจ้าหล่อนจะทำอะไรเลยรอดูก่อนแต่เมื่อความเงียบที่ไม่มีวี่แววว่าจะเปิดทำให้เขาต้องเดินไปเปิดมันเสียเอง

“ คุณวิชค่ะ คือ มิน.....”

“ เข้ามาสิ ” เขาสะบัดหน้าเข้ามาในห้องเชิงบอกให้หล่อนเข้ามาข้างใน แล้วเขาก็ถอยตัวให้แต่หล่อนก็ยังยืนที่เดิม

“ ฉันบอกให้เข้ามาก่อน เธอจะพูดเรื่องที่นอนใช่ไหม ” เขาถามอย่างรู้ดีว่าหล่อนกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่

“ คะ ค่ะ ” เมื่อรู้ว่าอย่างน้อยเขาก็รู้เรื่องที่เธอจะพูดเธอจึงเดินเข้ามาในห้องเขาโดยไม่เห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากนั่น ภวิชปิดประตูล็อคห้องทันที

“ คือว่า..” หล่อนก้มหน้าจะหาคำพูดแต่เขาก็พูดขึ้นเสียก่อน

“ เธอนอนบนเตียงฉันเนี่ยแหล่ะ ” 

“ หะ ได้ยังไงคะ ไม่เอาหรอก คุณก็นอนสิ ฉันไปนอนที่อื่นก็ได้ ” หล่อนปฎิเสธพัลวัน จนเขาเผลอยิ้มออกมารอยยิ้มนั้นทำให้หล่อนใจเต้นแรงมันดูมีเสน่ห์เหลือร้ายจริงๆเขากอดอกมองเธอแล้วส่ายหัว

“ มินตรา ถ้าคุณไม่นอนที่นี่ห้องนี้ คุณจะไปนอนที่ไหนครับ ” เขาถามน้ำเสียงยียวน กวนๆแต่น่ารัก

“ ก็ บ้านหลังอื่นๆของคุณไงค่ะมีตั้งหลายบ้านนี่นา ” หล่อนลองเสนอให้ เพิ่งรู้ว่าหล่อนนี่หัวธุรกิจมาต่อรองกับเขา

“ ไม่ได้หรอก คุณคิดว่าเกาะนี่ปลอดภัยนักหรือไง!อันตรายรอบตัวไปหมด แถมบ้านพักนั้นก็มีคนนอนแล้ว ลูกน้องผมไง ผู้ชายทั้งนั้น ถ้าคุณไม่กลัวก็ไปก็ได้นะ พวกนี้มันห่างเมียมานาน ถ้ามันทำอะไรคุณนิดๆหน่อยๆอย่าร้องให้ผมช่วยแล้วกัน ผมไม่เกี่ยวนะ ” เขายักไหล่แล้วแถมขู่อีก ลูกน้องที่นอนหน่ะใช่ ก็เขาไงหล่ะที่วางแผนทำให้บ้านพักที่ปกติว่างวันนี้ต้องทำให้เต็มไม่มีที่ว่างเพราะรู้ว่าเธอคงต้องไม่นอนห้องเขาแน่เมื่อรู้สึกตัว ร่างบางหน้าซีดทันทีเมื่อเขาข่มขู่อย่างนั้นและก็ทำท่าจะคัดค้านเขาอีกแต่เขาก็ชิงพูดก่อน

“ คุณนอนเตียงนี่แหล่ะ ส่วนผมจะนอนโซฟาตรงนั้น ” เขาชี้ไปอีกมุมห้องที่มีโซฟาปรับให้เป็นที่นอนอีกทีตัวยาวพร้อมผ้าห่มและหมอน ร่างบางมองหน้าเขาอย่างขอบคุณ

“ ตะแต่ว่าคุณเป็นผู้ชายนะ ”

“ เฮ้อ ให้ได้ยังงี้สิ คุณจะเอายังไง งั้นผมไปนอนห้องทำงานก็ได้ ” เขาทำเสียงหงุดหงิดแล้วเดินไปห้องทำงานที่ประตูเชื่อมกับห้องนอน ร่างบางที่จะพูดก็ต้องกลืนน้ำลายอีกครั้ง นิสัยแย่จริงๆ บ้านก็บ้านเขา ที่นอนก็ที่นอนเขา ยังมาแย่งเขาอีก.... หล่อนเดินไปนั่งตรงโซฟาที่ที่เขาเตรียมไว้สำหรับนอน ก่อนจะค่อยๆ เดินไปยังห้องที่ชายหนุ่มเพิ่งหายเข้าไป

“ ก็อกๆ ” เสียงเคาะประตูดังขึ้นขณะที่ภวิชกำลังพิมพ์งานอยู่หน้าคอมเขาเงยหน้าขึ้น เมื่อเห็นการโผล่หัวเข้ามาของมินตราทำให้เขาละสายตาจากหน้าจอมองหน้าเธอ

“ อะไรอีก ผมบอกแล้วไงว่านอนนี่ก็ได้คุณจะได้สบายใจ ”

ร่างบางค่อยๆก้าวผ่านประตูเข้ามาแต่ก็ไม่ได้ปิดไว้

“ ฉันจะบอกคุณว่า คุณนอนที่เตียงก็ได้นะคะ ฉันจะนอนที่โซฟาเอง ถึงยังไงมันก็เป็นห้องของคุณ ฉันไม่อึดอัดหรอกค่ะ ” หล่อนโกหกออกไปว่าไม่อึดอัดอย่างน้อยก็เกรงใจผู้ให้ที่อยู่แถมช่วยชีวิตไว้อีกต่างหาก ภวิชเอนกายพิงเก้าอี้แล้วถอนหายใจ

“ มินตรา คุณนี่มัน...จิ๊ ...จริงๆเลยนะ คุณนั่นแหล่ะนอนที่เตียงผม แล้วอย่ามีปัญหาอีกไม่งั้นผมจะจับคุณโยนออกนอกห้องแล้วส่งให้ลูกน้องผมซะ เข้าใจไหม แล้วก็ไปนอนได้แล้ว ” เขาพูดทำเสียงจิ๊จ้ะขัดใจ เสียงไม่ดุมากแต่ก็จริงจังจนคนที่ฟังหน้าง้ำงอก่อนจะพยักหน้าโดยไม่มีข้อโต้แย้งแล้วปลีกวิเวกตัวเองไปยังเตียงนอนอย่างเสียไม่ได้ หยิบผ้าห่มขึ้นคลุมกาย การพยายามเพื่อข่มตาให้หลับดำเนินไปเกือบเที่ยงคืน ก็ยังไม่มีวี่แววว่าคนที่นอนตรงโซฟาจะเดินไปนอนตรงนั้นสักที หล่อนก็ยิ่งนอนไม่หลับ เสียงประตูที่เชื่อมต่อห้องทำงานและห้องนอนถูกบิดออกอย่างแผ่วเบาร่างบางหลับตาลงทันที...ภวิชก้าวเข้ามาในห้องพร้อมบิดกายเล็กน้อยนวดคอนิดๆ ถอนหายใจออกมา เขาเพิ่งคุยงานกับผู้จัดการที่อยู่ต่างประเทศโดยผ่านวิดีโอคอลก่อนที่สายชลจะโทรมารายงานผลให้ทราบ ว่าได้ส่งสี่คนนั้นไปนรกเรียบร้อยแล้วโดยการซ้อมก่อนจะจับยัดใส่ถุงกระสอบโดยมัดมือและเท้าก่อนจะโยนลงทะเล ให้ตายอย่างทรมาน เขาไม่ได้อยากฆ่าใครจริงๆแต่พวกมันคิดจะฆ่าเขาก่อนนี่ยังคิดไม่ตกเรื่องพ่อของมินตรา เขามีส่วนจะกำจัดเขาด้วยหรือเปล่า ชายหนุ่มคิดอย่างกลุ้มก่อนจะเดินไปนั่งโซฟาซึ่งวันนี้มันกลายเป็นที่นอนที่เขาไม่เต็มใจสักนิด อดไม่ได้ที่จะชำเลืองมองร่างบางที่หลับตาพริ้ม เขากระชับผ้าห่มให้คลุมตัวหล่อนอย่างเบามือ คนใต้ผ้าห่มสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนของชายหนุ่มตรงหน้าใจก็เต้นแรงทุกครั้งที่รู้สึกเช่นนี้บอกไม่ถูกว่ารู้สึกเช่นไร แต่ที่แน่นอนคือหล่อนรู้สึกดี ดีมากๆ จากนั้นภวิชก็นวดๆ ไหล่ให้ตัวเองก่อนจะค่อยๆเอนกายลงด้วยความอ่อนล้า เขายังคงลืมตากว้างร่างบางคอยแอบลืมตามองเป็นพักๆก็เห็นเขายังคงนวดขรึงที่ไหล่อยู่จนในที่สุด ก็ทนพยายามหลับไม่ได้แล้วจึงค่อยๆลุกจากที่นอนทำให้ร่างสูงหันมามอง

“ มีอะไรหรือเปล่า? ” เขาถามเมื่อเห็นว่าอยู่ๆหล่อนก็ลุกขึ้น แล้วเดินตรงมาหาเขา จนภวิชค่อยๆยัดตัวขึ้นนั่งเมื่อหล่อนมาหยุดตรงหน้าเขา

“ เมื่อยมากไหมค่ะ ” คิ้วเขาขมวดเมื่อหล่อนตื่นขึ้นมาเพื่อตั้งคำถามกับเขางั้นหรอ

“ คุณไปนอนเถอะ นิดหน่อยเท่านั้น ” เขายังคงใช้มือซ้ายมากดที่ไหล่ขวาให้ตัวเอง แล้วก็ต้องหันมองร่างบางเมื่อมือนิ่มๆจับมือของเขาออกแล้วแทนด้วยมือของหล่อนที่นวดไหล่ให้เขาแทน ใจสั่นไหวเหลือเกินสัมผัสอ่อนโยนแค่นี้มันทำให้เขาทำอะไรแทบไม่ถูกอุตส่าห์พาตัวเองให้อยู่ไกลๆจากเธอแล้วเชียวแต่ดูเธอสิ มาใกล้เขาแบบนี้ ถ้าเขาต้องการ....เธอจะทำยังไง

“ น้ำหนักแค่นี้พอไหมค่ะ ”

“ อืม ” เขาไม่ตอบอะไรนอกจากนั้นนั่งนิ่งๆให้หล่อนขยับนิ้วบีบนวดไปมา ใจเขานั้นหล่อร้อนรุ่มจนลืมความปวดเมื่อยเสียแล้ว

"พอแล้วหล่ะ ขอบใจมาก นอนเถอะดึกแล้ว " เขาจับมือนุ่มของหล่อนให้หยุดนวดแล้วหันไปอมยิ้มให้หญิงสาวจนหล่อนยิ้มตอบ

“ ขอบคุณนะค่ะคุณภวิช ”

“ วันนี้คุณขอบคุณผมกี่ครั้งแล้ว ขอเป็นอย่างอื่นบ้างได้ไหม ” เขาส่ายหัว ที่วันนี้ทั้งวันได้ฝังคำขอบคุณไปแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

“ แล้วคุณอยากได้อะไรค่ะ? ” หล่อนทำหน้าสงสัยจนเขาส่ายหัวซื่อจริงๆ ถ้าเขาบอกอยากได้เธอ เธอจะให้เขาไหมหล่ะ เขาคิดต่อในใจ

“ คุณคงให้ไม่ได้หรอก ”

“ ก็แล้วมันอะไรหล่ะค่ะ ฉันอาจให้คุณได้นะ ” หล่อนยิ้ม และไม่นานร่างบางก็ถูกกระชากลงมานั่งที่ตักเขาพร้อมฝ่ามือที่ประครองข้างแก้มทั้งสองของหล่อนตามด้วยริมฝีปากหน้าที่บดเร่าร้อน

“ อะ อืม อือ ” ร่างบางดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขนของเขาแต่ก็รู้สึกเหมือนโลกเบาหวิว เมื่อความรุนแรงตอนแรกเริ่มแผ่วบางและเปลี่ยนเป็นอ่อนโยน เขาขบริมฝีปากให้หล่อนรู้สึกนิดๆและยอมเปิดปากให้เขาได้ชิมความหอมหวาน ลิ้นอุ่นชำนาญกวาดหาเรียวลิ้นที่พยายามหนีให้พร้อมใจร่วมมือไปกับจูบของเขา หญิงสาวเริ่มหวามไหวและหมดแรงดิ้นรนต้องยอมให้เขาขโมยจูบ ตัวเธอเองหมดเรี่ยวแรงเหมือนถูกเขาสูบเอาวิญญาณออกจากร่าง ภวิชต้องรีบถอนตัวออกมาก่อนจะถลำลึกไปกว่านี้ เขาต้องอดทน เพื่อให้เธอเต็มใจเพราะรักเขาจริงๆ ถึงแม้ตอนนี้ร่างกายแทบแหลกสลายเพราะอารมณ์ที่ก่อตัว ยิ่งตาหวานเยิ้มเขายิ่งแทบขาดใจ

“ คุณ ขโมยจูบฉันอีกแล้วนะ ” หญิงสาวพยายามจะลุกหนีแต่ด้วยความที่ไม่มีแรงบวกกับมือแกร่งที่โอบหล่อนทำให้ขยับไม่ได้

“ แค่จูบยังไม่ได้ปล้ำซักหน่อย ” เขาพูดหน้าตายพร้อมช้อนร่างบางไว้ในอ้อมแขนแล้วตรงมาที่เตียง ร่างบางเริ่มมีสติกลับมา นี่เขาจะทำอะไรคงไม่ได้จะปล้ำหล่อนหรอกนะอาการหวาดกลัวทำเอาภวิชยิ้มในหน้ามองคนที่อยู่ในอ้อมแขน

“ ผมไม่ได้ทำอะไรแค่จะส่งคุณถึงที่ เท่านั้นเอง ” เขาวางร่างบางลงบนเตียงแต่แทนที่เขาจะลุกเขากลับโน้นตัวล็อคหล่อนไว้อีกครั้ง หญิงสาวพลิกหน้าหันซ้ายและขวาให้หนีจากใบหน้าเขา

“ นอนได้แล้วค่ะฉันง่วงแล้ว ” เธอคว้าผ้าห่มขึ้นหมายจะคลุมโปรงแต่โดนมือหนาคว้าไว้ก่อน

“ งั้นผมนอนนี่ ” เขาทำท่าจะขึ้นเตียง

“ ไม่ได้นะคะไหนคุณบอกจะนอนนั่นไง ไปนอนที่คุณสิ ”

“ ฮ่าๆๆ ” เขาหัวเราะอีกครั้งรอยยิ้มนี้ ทำให้เธอใจสั่นแรงทุกทีสิน่า

“ นึกว่าจะไม่พูดกับผมซะแล้ว ” ใบหน้าที่อยู่ใกล้แค่คืบพูดเสียงอ่อนโยนและน่าฟัง ตามด้วยสัมผัสที่อ่อนโยนที่เขาจูบตรงหน้าผาก และเมื่อเธอเผลอเขาก็จูบปากเธอบางเบาอีกครั้งก่อนจะพูดเบาๆแล้วลุกจากไปด้วยคำว่า

“ ฝันดีนะครับ มิน ”

บทที่เกี่ยวข้อง

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 4 การเปลี่ยนแปลง

    เช้ามืดวันต่อมาที่หล่อนค่อยๆปรือตารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อทำท่าจะลุกจากที่นอนก็รู้สึกถึงมีบางอย่างทับอยู่ที่หน้าท้องของเธอพร้อมเสียงลมหายใจเธอจึงค่อยๆหันมามอง “ เปี้ยะ นี่คุณ! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ ” มินตราลุกขึ้นเขย่าตัวเขาแรงๆ เจ้าเล่ห์จริงๆมานอนกอดหล่อนได้ยังไง “ อะอืม เช้ามืดอยู่นะคุณจะปลุกผมทำไมเนี่ย ” เขาทำน้ำเสียงหงุดหงิดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาพลางควานหานาฬิกาแล้วหลี่ตาขึ้นมอง ตีห้า โอ้ย แม่คุณจะรีบรู้สึกตัวทำไมเนี่ย เขาเข่นเขี้ยวในใจ มือเขาถูกเจ้าหล่อนผลักออกจากตัว “ ทำไมคุณทำแบบนี้ไหนบอกจะนอนที่โซฟาแล้วมานอนที่เตียงได้ยังไง ” หล่อนโวยวายพร้อมดึงเขาให้ลุกขึ้นนั่ง ร่างสูงนั่งสัปหงกตามแรงดึงที่ทำให้เขาลุกขึ้นนั่งแต่ยังไม่ลืมตา ผมที่ตั้งๆชี้โด่วชี้เด่ เพราะนอนพลิกตัวตั้งนานไม่หลับสักทีเมื่อคืนกว่าจะหลับก็ตีสี่ซึ่งเขาเพิ่งจะได้นอนเองก็เพราะแอบชำเลืองมองร่างบางจนเห็นว่าหล่อนหลับสนิทนั่นแหล่ะเขาถึงย่องมา ซุกหัวที่เตียงอย่างเคยเพราะเมื่อยตัวที่ต้องนอนบนโซฟามันจะสู้นอนเตียงได้อย่างไร “ ผมก็นอนแล้วไง! แต่มันปวดตัวนี่ อีกอย่างเตียงออกจะกว้างอย่า งกนักเลยน่า พอๆเลย ไม่ต้องบ่นแล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 5 จะทำยังไง

    รถคันงามจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าบ้านของมินตรา ตลอดการเดินทางมินตรารู้สึกตัวตื่นและหลับไปหลายต่อหลายครั้ง เขาพาเธอแวะพักทานข้าวโดยที่ตอนแรกเธอไม่ยอมเพราะอยากกลับบ้าน แต่ภวิชก็พะเน้าพะนอลากเธอให้ลงไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งมันคือข้าวกลางวันของเขาและเธอในเวลา 2 ทุ่ม “ นี่คุณ! ฉันจะรีบกลับบ้านนะ ฉันไม่หิว คุณอยากกินก็กินคนเดียวสิคะลากฉันมาทำไม ” “ มินตรา คุณไม่หิวแต่ผมหิว ให้ผมกินคนเดียว ผมกินไม่ลงหรอกแค่กินข้าวเป็นเพื่อนผมมันคงไม่ลำบากคุณมากเกินไปหรอกมั้ง ” เขาไม่สนใจอาการฟึดฟัดของคนตรงหน้าสักนิดแถมยังตักอาหารใส่จานหล่อนจนในที่สุดคนหน้างอก็ต้องตักเข้าปากตามใจเขาอีกจนได้ “ ก็แค่นั้น ” เขาพูดอย่างพอใจ เมื่อทานข้าวกันเสร็จก็เดินทางอีกครั้งและมินตราก็หลับอีกครั้งโดยมีหมอนหนุนเป็นแบบพิเศษนั่นคือตักของภวิช ภวิชหยุดห้วงความคิดที่เพิ่งไปทานข้าวกับเธอพร้อมมองปัจจุบันคือเวลานี้ที่รถจอดสนิทหน้าบ้านมินตรา เกือบยี่สิบนาทีแล้วที่เขานั่งนิ่งๆ แบบนี้ ทัชมองเจ้านายหนุ่มที่เอาแต่มองออกนอกกระจกไปยังตัวบ้านของคนที่เขามาส่ง ไม่มีทีท่าว่าจะปลุกหล่อนขึ้นมา ภวิชถอนหายใจอย่างหนัก ที่มาถึงบ้านหล่อนแล้ว เขาไม่อยากป

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 6 ใจหวั่น

    “ นี่คุณทำอะไรของคุณ มาดึงมือฉันทำไม ไม่เห็นหรอว่าน้องฉันกำเริบขนาดไหน ” หญิงสาวสาดเสียงใส่ชายหนุ่มผู้ที่เธอเสียจูบแรกให้เขาและยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตเธอพร้อมดึงมือออกจากการเกาะกุม “ เห็นสิมิน ผมรู้ว่าคุณโกรธ แต่คุณโมโหใครเขาจะฟัง เรื่องของน้องกับพ่อของคุณพักไว้ก่อนดีกว่าส่วนคุณมากับผมเลย ” ภวิชฉวยโอกาสฉุดมือหญิงสาวให้เดินตามเขาถึงแม้จะขัดขืนแต่เธอก็สู้แรงเขาไม่ได้ “ นี่!!คุณภวิชค่ะ คุณจะพาฉันไปไหน ” “ ถามมากจริง จิ๊ เดี๋ยวถึงที่ก็รู้เองไม่ต้องห่วงตอนนี้ผมยังไม่......อยาก ” เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะคล้ายหงุดหงิดแต่เปล่าหรอกแค่วางฟอร์มเท่านั้นก่อนจะใช้สายตามองหล่อนด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ยิ้มนิดๆที่มุมปากซึ่งหล่อนเห็นว่ามันดูไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ และจบท้ายด้วยการเน้นเสียงที่ปลายประโยค คำว่า. ' อยาก ' เธอไม่ได้ซื่อถึงขนาดที่ว่าคำพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร “ กรี้สสสสส หื่น.. นี่คุณโรคจิตหรือไงห๊า ” “ ฮ่าๆๆ ผมเป็นผู้ชายนี่ เจอสาวๆ ก็ต้องมีบ้างแต่วางใจได้ผมไม่ทำแน่นอนถ้าผู้หญิงไม่สมยอม รับประกัน!! ได้เลย บ่นมากเดี๋ยวจับปล้ำตรงนี้ซะนี่ ” เขาหัวเราะเสียงดังในขณะดันหญิงสาวให้เข้าไปนั่งประจำที่พร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 7 ตัวประกันจำเป็น

    “ กรี๊ด คุณภวิช นี่คุณพาฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย อร้ายยยยฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกคุณหรอกนะ ” มินตรากรีดร้องเมื่อได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่อง เมื่อคืนหล่อนเผลอหลับไปที่คอนโดของเขาที่ลากเธอไปพอสายๆของวัน เขาก็ลากเธอมา เล่นเกมส์บ้าบออะไรก็ไม่รู้ ชื่อเกมส์ IDPA คือเกมส์ยิงปืนเพื่อฝึกการป้องกันตัว เหมือนสถานการณ์จริงแต่ลูกกระสุนไม่ใช่ของจริง แต่ไหงกลายเป็นเธอที่ต้องโดดเดี่ยวด้วย “ ช่วยพวกผมหน่อยไม่ได้หรือไง ก็แค่เกมส์เองหน่ะมิน คุณจะซีเรียสทำไม ” ภวิช สวมถุงมือหนังสีดำ ชุดกันกระสุนกางเกงขายาว การแต่งกายเหมือนตำรวจชุดสืบสวนเหมือนที่เธอชอบดูหนังฝรั่ง เขาเก็บโทรศัพท์ยัดเข้าล็อคเกอร์พร้อมล็อคกุญแจแล้วโยนให้ทัชที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “ กฤษ นายบอกให้เขาจัดทีมให้แข่งกับเราพร้อมแล้วใช่ไหม ” “ ใช่ครับ ” “ แล้วไหนคุณบอกเล่นเกมส์ เล่นเกมส์บ้าอะไรหน้าที่ฉันเป็นตัวประกันนี่อ่ะนะ ต้องใส่หมวกอะไรด้วยก็ไม่รู้ แล้วมันใส่ยังไงเนี่ย ” เธอบ่นอย่างหัวเสียเกมส์อะไรจับมาเธอมามัดให้ยืนอยู่กลางแจ้งเนี่ยนะ บ้าชัดๆ ได้ยิงบ้างคงดีนี่ไม่มีสิทธิ์ได้สู้เลย หน้าง้ำงอของหญิงสาวทำให้ภวิชยิ้มกว้างหล่อนพยายามจะสวมเสื้อกันกร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13
  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 8 บางมุมของมาเฟีย

    “ เจ้านายครับใกล้ได้เวลาแล้วครับ ” ทัชบอกเจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ริมสนามพร้อมหญิงสาวที่อยู่ด้านข้าง “ อืม รู้แล้ว ” “ คุณมินตราครับ เชิญตามผมมาทางนี้ครับ ” มินตราจู่ๆขาก็แข็งก้าวไม่ออกซะงั้นเมื่อเหตุการณ์ตรงหน้านี้ ถูกสร้างจำลองเหตุการณ์แต่กลับเป็นเหมือนสถานการณ์จริงแถมรอบๆที่ดูน่ากลัววังเวง เริ่มตกเย็นแล้วด้วยเพราะก่อนลงสนามนี่เขาก็บอกกติกาและวิธีการเล่นก็เสียเวลาไปนานพอสมควร “ คุณเป็นอะไรรึเปล่ามิน ” เขาถามเมื่อเห็นเธอหน้าซีดเล็กน้อย “ ปะเปล่าค่ะ ” “ คุณไปเตรียมตัวตัวสิ ผมจะไปส่ง ” ภวิชกล่าวขึ้น “ มาสิมิน ” เขาเร่งเมื่อเธอไม่ยอมเดินตามมา “ คะ ” ระหว่างทางที่เดินไม่มีการพูดคุยกันภวิชลอบมองสีหน้ากังวลของเธออยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เห็นเธอจะเอ่ยปากอะไรกับเขาเมื่อถึงแท่นแสตนที่มีเสาอยู่ต้นนึง แสตนสูงที่ทำจากเหล็กมินตราพยายามทำใจให้กล้าอย่าไปกลัวมันก็แค่เกมส์ “ ถ้างั้นผมไปประจำที่ก่อนนะ ” “ ดะเดี๋ยวค่ะ มันเป็นแค่เกมส์ใช่ไหมไม่อันตรายใช่ไหมคุณจะมาช่วยฉันได้แน่ๆใช่ไหม ” เธอคว้าแขนของเขาไว้ทันทีที่เขาหันหลังจะก้าวกลับไปทางเดิมภวิชมองมือบางเล็กที่จับแขนเขาไว้พร้อมพ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 9 คนที่รอ

    มินตราถูกตรึงมือเข้ากับเสาปูนต้นนึง ผ้าปิดปาก......บ้า เกมส์บ้าอะไรพาเธอมาทารุณชัดๆ ' คุณวิช.. คุณหายไปไหนเนี่ยนานไปแล้วนะ.....' มินตราเกิดใจหวั่นเล็กน้อยในใจยอมรับเลยว่ากลัว เหตุการณ์ในอดีตนั้นเธอจำได้ไม่ลืม เหตุการณ์วันนั้นวันที่เธอถูกคนของเสี่ย ชัย จับไป แต่โชคดีที่วันนั้นเธอเอาตัวรอดกลับมาได้ต้องหลบหัวซุกหัวซุนไปหลายที่เลย “ ปังๆๆๆๆ ” เสียงปืนดังขึ้นบ่อยและหลายต่อหลายครั้งทำให้ความคิดในอดีตต้องหยุดลง มินตรารู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มอาจกำลังมาช่วยเธอ ฟ้าเริ่มมืดสลัวจนแทบมองไม่เห็นอะไรแล้วเธอถูกมัดอยู่ในโกดังที่มีเพียงแสงไฟสีส้มจางๆ สาดส่องเข้ามาก็เท่านั้น ฝั่งภวิช ชายหนุ่มมีเหงื่อท่วมตัว ให้ตายสิคราวนี้ลำบากกว่าคราวที่แล้วหลายเท่าเลย มีทั้งระเบิดทั้งเอฟเฟคนี่มันพอๆกับทำสงครามมากกว่าป้องกันตัวละมั้ง “ กฤตฉันบอกให้นายโทรมาบอกเขาแล้วไม่ใช่หรอแล้วใครเลือกระดับบ้าบอนี่ห๊ะ.....” ภวิชสบถอย่างหัวเสีย ถ้าวันปกติเขาคงไม่เท่าไหร่แต่ทำไมต้องเป็นวันนี้วะวันนี้มินตราอยู่กับเขาลูกน้องก็ได้ใจจริงจริ้งจัดด่านยากให้เขาถึงตัวมินตราได้ช้าขึ้น ฉันควรตบรางวัลให้นา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 10 คนเบื้องหลัง

    “ มิก เห้ยมึงช่วยกูหน่อยไม่ได้ไงว่ะ วันนี้ไอ้ซันไม่มาจริงๆนะเว้ย ” เพื่อนของรณภพที่เป็นนักดนตรีขอร้องให้รณภพช่วยเล่นกีต้าร์ให้เพราะเพื่อนเกิดเข้าโรงพยาบาลกะทันหันถ้าไม่มีการเล่นโฟคซองวันนี้เขาต้องโดนผู้จัดการเล่นงานแน่ๆ “ ไม่เอาเว้ย กูบอกแล้วไงว่าไม่ชอบ กูเป็นแค่บาร์เทนเดอร์ พอ! ” “ โห่ว กูก็แค่ขอให้มึงมาเล่นโฟคซองแทนกูแค่ชั่วโมงเอง เดี๋ยวกูหาเพื่อนมากู ขอแค่ชั่วโมงให้มึงมาแทนแค่นี้ไม่ได้ใช่ไหมไอ้มิก ” “ ไอ้เปรี้ยว มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบไปทำตัวให้ใครเห็นหน้ากู ” “ ก็กูรู้ไงไอ้มิก กูถึงขอมึงแค่ชั่วโมงเนี่ยถ่วงเวลาเล่นให้กูก่อนเดี๋ยวกูหาคนมาเล่นแทนไอ้ซันเอง มึงช่วยกูไม่ได้หรอ ” รณภพกำลังเจรจากับเพื่อน จะเรียกว่าเจรจาก็คงไม่ใช่เรียกว่าพยายามปฏิเสธคำขอร้องของเพื่อนตัวเอง มากกว่า “ แล้วถ้ากูไม่ช่วยมึงหล่ะมึงจะทำไง ” “ ก็ไม่ทำไง มึงก็รู้พี่เอ้ดุจะตายกูก็แค่โดนไล่ออก ” ชายหนุ่มอีกคนสบถเบาๆ พี่เอ้คือผู้จัดการที่ใครๆก็รู้ว่าไนท์คลับนี้พี่เอ้เป็นคนเข้มงวดขนาดไหน วงดนตรีของเปรี้ยว ถูกจ้างให้มาเล่นด้วยบทเพลงที่ทั้งร็อคและอ่อนหวานทำให้คนสนใจ ผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-17
  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 1 จัดการตามนั้น

    ภวิช กิตติรัชไพทูล ลูกชายคนเล็กของท่านกิตติศักดิ์ละคุณหญิงรติการ กิตติรัชไพทูล เจ้าของบริษัทขนส่งน้ำมันรายใหญ่ของประเทศและอสังหาริมทรัพย์อีกมากมาย ที่สำคัญท่านเคยเป็นบุคคลที่อยู่เบื้องหลังอำนาจมืดหลายๆอย่างแต่วันนี้ถึงคราวจะสละให้ลูกชายวัย 29 ปี ดำรงตำแหน่งงานสักทีหลังจากฝึกฝนและกว่าจะผ่านด่านทดสอบอย่างยากลำบากมาหลายปี....ภวิช ชายหนุ่มรูปงามที่มีทรงผมสีดำสนิทรองทรงสูงทรงผมที่รับเข้ากับจมูกรั้นที่แฝงความเอาแต่ใจ ริมฝีปากหยักหนาที่สาวๆพากันหลงใหล คิ้วเข้มเรียงตัวสวย จุดเด่นที่สำคัญของเขาคือดวงตา สีน้ำตาลเข้มคู่นั้นที่ชวนน่าหลงใหลยิ่งนัก แววตาที่หลากหลายอารมณ์ทั้งอ่อนหวาน อ่อนโยนแต่แฝงไว้ด้วยความดุดัน ชายหนุ่มก้าวลงจากรถราคาหลายล้านในชุดสูทภูมิฐาน ดวงตาคู่งามถูกบดบังด้วยแว่นกันแดดสีน้ำตาลพร้อมมองสถานที่ที่เขามาวันนี้ “ กฤษ วันนี้นายช่วยเลื่อนนัดแซมให้ฉันที บอกเขาว่าฉันติดธุระด่วนไว้ฉันจะติดต่อกลับไป ” เขาหันมาสั่งการ์ดคนสนิทที่เป็นทั้งเพื่อนและพี่ในเวลาเดียวกัน “ ส่วนทัช นายช่วยติดต่อไปที่บริษัทแล้วบอกให้กัญญาส่งเอกสารเกี่ยวกับการขนสินค้าลงเรือมาให้ฉันที่นี่ด่วน ” เขาบอกการ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-01-13

บทล่าสุด

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 10 คนเบื้องหลัง

    “ มิก เห้ยมึงช่วยกูหน่อยไม่ได้ไงว่ะ วันนี้ไอ้ซันไม่มาจริงๆนะเว้ย ” เพื่อนของรณภพที่เป็นนักดนตรีขอร้องให้รณภพช่วยเล่นกีต้าร์ให้เพราะเพื่อนเกิดเข้าโรงพยาบาลกะทันหันถ้าไม่มีการเล่นโฟคซองวันนี้เขาต้องโดนผู้จัดการเล่นงานแน่ๆ “ ไม่เอาเว้ย กูบอกแล้วไงว่าไม่ชอบ กูเป็นแค่บาร์เทนเดอร์ พอ! ” “ โห่ว กูก็แค่ขอให้มึงมาเล่นโฟคซองแทนกูแค่ชั่วโมงเอง เดี๋ยวกูหาเพื่อนมากู ขอแค่ชั่วโมงให้มึงมาแทนแค่นี้ไม่ได้ใช่ไหมไอ้มิก ” “ ไอ้เปรี้ยว มึงก็รู้ว่ากูไม่ชอบไปทำตัวให้ใครเห็นหน้ากู ” “ ก็กูรู้ไงไอ้มิก กูถึงขอมึงแค่ชั่วโมงเนี่ยถ่วงเวลาเล่นให้กูก่อนเดี๋ยวกูหาคนมาเล่นแทนไอ้ซันเอง มึงช่วยกูไม่ได้หรอ ” รณภพกำลังเจรจากับเพื่อน จะเรียกว่าเจรจาก็คงไม่ใช่เรียกว่าพยายามปฏิเสธคำขอร้องของเพื่อนตัวเอง มากกว่า “ แล้วถ้ากูไม่ช่วยมึงหล่ะมึงจะทำไง ” “ ก็ไม่ทำไง มึงก็รู้พี่เอ้ดุจะตายกูก็แค่โดนไล่ออก ” ชายหนุ่มอีกคนสบถเบาๆ พี่เอ้คือผู้จัดการที่ใครๆก็รู้ว่าไนท์คลับนี้พี่เอ้เป็นคนเข้มงวดขนาดไหน วงดนตรีของเปรี้ยว ถูกจ้างให้มาเล่นด้วยบทเพลงที่ทั้งร็อคและอ่อนหวานทำให้คนสนใจ ผู้อยู่เบื้องหลังก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็ไ

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 9 คนที่รอ

    มินตราถูกตรึงมือเข้ากับเสาปูนต้นนึง ผ้าปิดปาก......บ้า เกมส์บ้าอะไรพาเธอมาทารุณชัดๆ ' คุณวิช.. คุณหายไปไหนเนี่ยนานไปแล้วนะ.....' มินตราเกิดใจหวั่นเล็กน้อยในใจยอมรับเลยว่ากลัว เหตุการณ์ในอดีตนั้นเธอจำได้ไม่ลืม เหตุการณ์วันนั้นวันที่เธอถูกคนของเสี่ย ชัย จับไป แต่โชคดีที่วันนั้นเธอเอาตัวรอดกลับมาได้ต้องหลบหัวซุกหัวซุนไปหลายที่เลย “ ปังๆๆๆๆ ” เสียงปืนดังขึ้นบ่อยและหลายต่อหลายครั้งทำให้ความคิดในอดีตต้องหยุดลง มินตรารู้สึกใจชื้นขึ้นมานิดหน่อยเมื่อรู้ว่าชายหนุ่มอาจกำลังมาช่วยเธอ ฟ้าเริ่มมืดสลัวจนแทบมองไม่เห็นอะไรแล้วเธอถูกมัดอยู่ในโกดังที่มีเพียงแสงไฟสีส้มจางๆ สาดส่องเข้ามาก็เท่านั้น ฝั่งภวิช ชายหนุ่มมีเหงื่อท่วมตัว ให้ตายสิคราวนี้ลำบากกว่าคราวที่แล้วหลายเท่าเลย มีทั้งระเบิดทั้งเอฟเฟคนี่มันพอๆกับทำสงครามมากกว่าป้องกันตัวละมั้ง “ กฤตฉันบอกให้นายโทรมาบอกเขาแล้วไม่ใช่หรอแล้วใครเลือกระดับบ้าบอนี่ห๊ะ.....” ภวิชสบถอย่างหัวเสีย ถ้าวันปกติเขาคงไม่เท่าไหร่แต่ทำไมต้องเป็นวันนี้วะวันนี้มินตราอยู่กับเขาลูกน้องก็ได้ใจจริงจริ้งจัดด่านยากให้เขาถึงตัวมินตราได้ช้าขึ้น ฉันควรตบรางวัลให้นา

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 8 บางมุมของมาเฟีย

    “ เจ้านายครับใกล้ได้เวลาแล้วครับ ” ทัชบอกเจ้านายหนุ่มที่ยืนอยู่ริมสนามพร้อมหญิงสาวที่อยู่ด้านข้าง “ อืม รู้แล้ว ” “ คุณมินตราครับ เชิญตามผมมาทางนี้ครับ ” มินตราจู่ๆขาก็แข็งก้าวไม่ออกซะงั้นเมื่อเหตุการณ์ตรงหน้านี้ ถูกสร้างจำลองเหตุการณ์แต่กลับเป็นเหมือนสถานการณ์จริงแถมรอบๆที่ดูน่ากลัววังเวง เริ่มตกเย็นแล้วด้วยเพราะก่อนลงสนามนี่เขาก็บอกกติกาและวิธีการเล่นก็เสียเวลาไปนานพอสมควร “ คุณเป็นอะไรรึเปล่ามิน ” เขาถามเมื่อเห็นเธอหน้าซีดเล็กน้อย “ ปะเปล่าค่ะ ” “ คุณไปเตรียมตัวตัวสิ ผมจะไปส่ง ” ภวิชกล่าวขึ้น “ มาสิมิน ” เขาเร่งเมื่อเธอไม่ยอมเดินตามมา “ คะ ” ระหว่างทางที่เดินไม่มีการพูดคุยกันภวิชลอบมองสีหน้ากังวลของเธออยู่บ่อยครั้งแต่ก็ไม่เห็นเธอจะเอ่ยปากอะไรกับเขาเมื่อถึงแท่นแสตนที่มีเสาอยู่ต้นนึง แสตนสูงที่ทำจากเหล็กมินตราพยายามทำใจให้กล้าอย่าไปกลัวมันก็แค่เกมส์ “ ถ้างั้นผมไปประจำที่ก่อนนะ ” “ ดะเดี๋ยวค่ะ มันเป็นแค่เกมส์ใช่ไหมไม่อันตรายใช่ไหมคุณจะมาช่วยฉันได้แน่ๆใช่ไหม ” เธอคว้าแขนของเขาไว้ทันทีที่เขาหันหลังจะก้าวกลับไปทางเดิมภวิชมองมือบางเล็กที่จับแขนเขาไว้พร้อมพ

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 7 ตัวประกันจำเป็น

    “ กรี๊ด คุณภวิช นี่คุณพาฉันมาทำอะไรที่นี่เนี่ย อร้ายยยยฉันไม่มีเวลามาเล่นกับพวกคุณหรอกนะ ” มินตรากรีดร้องเมื่อได้ยินเสียงปืนดังต่อเนื่อง เมื่อคืนหล่อนเผลอหลับไปที่คอนโดของเขาที่ลากเธอไปพอสายๆของวัน เขาก็ลากเธอมา เล่นเกมส์บ้าบออะไรก็ไม่รู้ ชื่อเกมส์ IDPA คือเกมส์ยิงปืนเพื่อฝึกการป้องกันตัว เหมือนสถานการณ์จริงแต่ลูกกระสุนไม่ใช่ของจริง แต่ไหงกลายเป็นเธอที่ต้องโดดเดี่ยวด้วย “ ช่วยพวกผมหน่อยไม่ได้หรือไง ก็แค่เกมส์เองหน่ะมิน คุณจะซีเรียสทำไม ” ภวิช สวมถุงมือหนังสีดำ ชุดกันกระสุนกางเกงขายาว การแต่งกายเหมือนตำรวจชุดสืบสวนเหมือนที่เธอชอบดูหนังฝรั่ง เขาเก็บโทรศัพท์ยัดเข้าล็อคเกอร์พร้อมล็อคกุญแจแล้วโยนให้ทัชที่อยู่ฝั่งตรงข้าม “ กฤษ นายบอกให้เขาจัดทีมให้แข่งกับเราพร้อมแล้วใช่ไหม ” “ ใช่ครับ ” “ แล้วไหนคุณบอกเล่นเกมส์ เล่นเกมส์บ้าอะไรหน้าที่ฉันเป็นตัวประกันนี่อ่ะนะ ต้องใส่หมวกอะไรด้วยก็ไม่รู้ แล้วมันใส่ยังไงเนี่ย ” เธอบ่นอย่างหัวเสียเกมส์อะไรจับมาเธอมามัดให้ยืนอยู่กลางแจ้งเนี่ยนะ บ้าชัดๆ ได้ยิงบ้างคงดีนี่ไม่มีสิทธิ์ได้สู้เลย หน้าง้ำงอของหญิงสาวทำให้ภวิชยิ้มกว้างหล่อนพยายามจะสวมเสื้อกันกร

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 6 ใจหวั่น

    “ นี่คุณทำอะไรของคุณ มาดึงมือฉันทำไม ไม่เห็นหรอว่าน้องฉันกำเริบขนาดไหน ” หญิงสาวสาดเสียงใส่ชายหนุ่มผู้ที่เธอเสียจูบแรกให้เขาและยังเป็นคนที่ช่วยชีวิตเธอพร้อมดึงมือออกจากการเกาะกุม “ เห็นสิมิน ผมรู้ว่าคุณโกรธ แต่คุณโมโหใครเขาจะฟัง เรื่องของน้องกับพ่อของคุณพักไว้ก่อนดีกว่าส่วนคุณมากับผมเลย ” ภวิชฉวยโอกาสฉุดมือหญิงสาวให้เดินตามเขาถึงแม้จะขัดขืนแต่เธอก็สู้แรงเขาไม่ได้ “ นี่!!คุณภวิชค่ะ คุณจะพาฉันไปไหน ” “ ถามมากจริง จิ๊ เดี๋ยวถึงที่ก็รู้เองไม่ต้องห่วงตอนนี้ผมยังไม่......อยาก ” เขาทำเสียงจิ๊จ๊ะคล้ายหงุดหงิดแต่เปล่าหรอกแค่วางฟอร์มเท่านั้นก่อนจะใช้สายตามองหล่อนด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ยิ้มนิดๆที่มุมปากซึ่งหล่อนเห็นว่ามันดูไม่น่าไว้ใจยังไงก็ไม่รู้ และจบท้ายด้วยการเน้นเสียงที่ปลายประโยค คำว่า. ' อยาก ' เธอไม่ได้ซื่อถึงขนาดที่ว่าคำพูดนั้นหมายความว่าอย่างไร “ กรี้สสสสส หื่น.. นี่คุณโรคจิตหรือไงห๊า ” “ ฮ่าๆๆ ผมเป็นผู้ชายนี่ เจอสาวๆ ก็ต้องมีบ้างแต่วางใจได้ผมไม่ทำแน่นอนถ้าผู้หญิงไม่สมยอม รับประกัน!! ได้เลย บ่นมากเดี๋ยวจับปล้ำตรงนี้ซะนี่ ” เขาหัวเราะเสียงดังในขณะดันหญิงสาวให้เข้าไปนั่งประจำที่พร

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 5 จะทำยังไง

    รถคันงามจอดนิ่งสนิทอยู่หน้าบ้านของมินตรา ตลอดการเดินทางมินตรารู้สึกตัวตื่นและหลับไปหลายต่อหลายครั้ง เขาพาเธอแวะพักทานข้าวโดยที่ตอนแรกเธอไม่ยอมเพราะอยากกลับบ้าน แต่ภวิชก็พะเน้าพะนอลากเธอให้ลงไปกินข้าวด้วยกัน ซึ่งมันคือข้าวกลางวันของเขาและเธอในเวลา 2 ทุ่ม “ นี่คุณ! ฉันจะรีบกลับบ้านนะ ฉันไม่หิว คุณอยากกินก็กินคนเดียวสิคะลากฉันมาทำไม ” “ มินตรา คุณไม่หิวแต่ผมหิว ให้ผมกินคนเดียว ผมกินไม่ลงหรอกแค่กินข้าวเป็นเพื่อนผมมันคงไม่ลำบากคุณมากเกินไปหรอกมั้ง ” เขาไม่สนใจอาการฟึดฟัดของคนตรงหน้าสักนิดแถมยังตักอาหารใส่จานหล่อนจนในที่สุดคนหน้างอก็ต้องตักเข้าปากตามใจเขาอีกจนได้ “ ก็แค่นั้น ” เขาพูดอย่างพอใจ เมื่อทานข้าวกันเสร็จก็เดินทางอีกครั้งและมินตราก็หลับอีกครั้งโดยมีหมอนหนุนเป็นแบบพิเศษนั่นคือตักของภวิช ภวิชหยุดห้วงความคิดที่เพิ่งไปทานข้าวกับเธอพร้อมมองปัจจุบันคือเวลานี้ที่รถจอดสนิทหน้าบ้านมินตรา เกือบยี่สิบนาทีแล้วที่เขานั่งนิ่งๆ แบบนี้ ทัชมองเจ้านายหนุ่มที่เอาแต่มองออกนอกกระจกไปยังตัวบ้านของคนที่เขามาส่ง ไม่มีทีท่าว่าจะปลุกหล่อนขึ้นมา ภวิชถอนหายใจอย่างหนัก ที่มาถึงบ้านหล่อนแล้ว เขาไม่อยากป

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 4 การเปลี่ยนแปลง

    เช้ามืดวันต่อมาที่หล่อนค่อยๆปรือตารู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูกเมื่อทำท่าจะลุกจากที่นอนก็รู้สึกถึงมีบางอย่างทับอยู่ที่หน้าท้องของเธอพร้อมเสียงลมหายใจเธอจึงค่อยๆหันมามอง “ เปี้ยะ นี่คุณ! ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ ” มินตราลุกขึ้นเขย่าตัวเขาแรงๆ เจ้าเล่ห์จริงๆมานอนกอดหล่อนได้ยังไง “ อะอืม เช้ามืดอยู่นะคุณจะปลุกผมทำไมเนี่ย ” เขาทำน้ำเสียงหงุดหงิดทั้งๆที่ยังไม่ลืมตาพลางควานหานาฬิกาแล้วหลี่ตาขึ้นมอง ตีห้า โอ้ย แม่คุณจะรีบรู้สึกตัวทำไมเนี่ย เขาเข่นเขี้ยวในใจ มือเขาถูกเจ้าหล่อนผลักออกจากตัว “ ทำไมคุณทำแบบนี้ไหนบอกจะนอนที่โซฟาแล้วมานอนที่เตียงได้ยังไง ” หล่อนโวยวายพร้อมดึงเขาให้ลุกขึ้นนั่ง ร่างสูงนั่งสัปหงกตามแรงดึงที่ทำให้เขาลุกขึ้นนั่งแต่ยังไม่ลืมตา ผมที่ตั้งๆชี้โด่วชี้เด่ เพราะนอนพลิกตัวตั้งนานไม่หลับสักทีเมื่อคืนกว่าจะหลับก็ตีสี่ซึ่งเขาเพิ่งจะได้นอนเองก็เพราะแอบชำเลืองมองร่างบางจนเห็นว่าหล่อนหลับสนิทนั่นแหล่ะเขาถึงย่องมา ซุกหัวที่เตียงอย่างเคยเพราะเมื่อยตัวที่ต้องนอนบนโซฟามันจะสู้นอนเตียงได้อย่างไร “ ผมก็นอนแล้วไง! แต่มันปวดตัวนี่ อีกอย่างเตียงออกจะกว้างอย่า งกนักเลยน่า พอๆเลย ไม่ต้องบ่นแล

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 3 ความห่วงใย

    “ คุณอาการเป็นอย่างไงบ้าง นี่ก็ค่ำแล้ว ทานอะไรรึยัง ” เขาถามเสียงเรียบแต่แฝงความห่วงใย “ ค่ะ ยังไงฉันก็ต้องขอบคุณจริงๆ ” รอยยิ้มนั้นทำให้เขาเหมือนโดนมนต์สะกด ก่อนที่เขาจะเสียศูนย์ไปมากกว่านี้เขาต้องเปลี่ยนสถานการณ์ด่วน “ ป้าแก้วคงเตรียมกับข้าวแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ ” เขาพูดเสียงขรึมคิ้วขมวดทำให้ร่างบางไม่เข้าใจเท่าไหร่กับอารมณ์แปรปรวนของชายร่างสง่างามตรงหน้า ก่อนที่เขาจะเดินนำหล่อนไป แต่เมื่อก้าวพ้นประตูชายหนุ่มเอามือข้างขวาจับหัวใจด้านซ้ายที่มันเต้นแรงเมื่อเดินนำห่างจากหล่อนจนคิดว่าหล่อนไม่เห็นแล้ว “ เฮ้อ ” เขาถอนหายใจหนักๆกับตนเองก่อนจะทิ้งระยะห่างจากสาวเจ้า ร่างบางที่ก้าวออกจากห้องครั้งแรกมองรอบๆตัว บันไดสีน้ำตาลลายไม้ศักดิ์ที่เป็นเกลียวตั้งอยู่กลางตัวบ้าน....บันไดขนาดที่ยาวไม่มากแต่มีสองฝั่งและสองชั้นคือถ้าเดินขึ้นมาชั้นแรกประตูที่เห็นคือห้องทำงานแต่ถ้าอีกชั้นที่อยู่สูงขึ้นไปอีกนิดที่มีบันไดเพียงห้าขั้นซึ่งสถานที่นั้นคือที่ส่วนตัวของภวิช นั่นคือห้องนอนนั่นเองมันเป็นการออกแบบของเขาในการสร้างพื้นที่ส่วนตัว ป้าแก้วคือผู้หญิงคนแรกที่เขาให้เข้าได้เพราะต้องทำความสะอาด ส่วนบุคคลอื

  • พิศวาสรักมาเฟียร้าย (ดวงใจมาเฟีย)   ตอนที่ 2 จอมวางแผน

    ในห้องพักสำหรับผู้บริหารภวิชต้องพยายามควบคุมอารมณ์อย่างมากเพื่อจะเคลียเรื่องวุ่นวายที่กำลังเกิดขึ้น เขากำลังประเมินชาวต่างชาติสองคนข้างหน้าว่าที่มาก่อกวนต้องการอะไรกันแน่ “ คุณว่าคนของผมไม่มีมารยาท และโรงแรมผมไม่มีความปลอดภัยในการดูแลทรัพย์สินใช่ไหม ” เขาพูดในขณะที่หันหลังให้ฝรั่งทั้งสองคนที่ยืนมองพฤติกรรมของเขา “ ก็ใช่หน่ะสิเครื่องเพรชชุดใหญ่ของฉันหายไปถ้าไม่อยากตกเป็นข่าวก็จ่ายค่าเสียหายมาซะ ” หึๆภวิชหัวเราะในลำคอที่มันกล้าต่อรองกับเขาไม่ต้องกลัวความเสียหายแล้วมั้งในเมื่อไอ้ฝรั่งสองคนนี้สร้างไว้ให้เขาแล้วเมื่อครู่....แต่เขาจะไม่ให้เสียชื่อเขาแน่นอน “ ถ้างั้นผมมีข้อเสนอ ขอผมตรวจสอบได้ไหมถ้าคุณยืนยันอย่างนั้น ” เขาพูดใจเย็นทั้งๆที่ใจร้อนระอุ ชาวต่างชาติหันมองหน้ากันเพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าคนเบื้องหน้ามาแบบไหนแต่ฟังจากน้ำเสียงคงไม่มีอะไร “ ได้ ” คำตอบนี่ทำให้ภวิชยิ้มร้ายที่มุมปากน้ำเสียงที่ฟังดูใจเย็นนั่นเป็นอีกวิธีเพื่อดูท่าทางอีกฝ่ายก็เท่านั้น “ อีกอย่างที่ผมจะบอก ” เขาหันหน้ามาประชัน ก่อนจะพูดต่อว่า “ คนที่ทำความผิดที่นี่ย่อมมีโทษ ถ้าขโมย โทษคือตัดมือ! ” คำพูดตอนจบ

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status