เด็กในวัยอาหยันชอบฟองสบู่ โดยเฉพาะของเล่นที่มีรูปร่างเหมือนปืนไม่นานนักฟองสบู่ก็ปรากฏอยู่เต็มบ้านเมื่อมองดูฟองอากาศภายในบ้าน กวอ ซิ่นหลี่ก็รู้สึกเขินอายเล็กน้อย “ผม... เอ่อ... บางทีผมควรจะพาอาหยันน้อยออกไปเล่นข้างนอกสักพัก แล้วผมจะพาเขากลับมานะครับ”“ได้จ้า ขอบใจนะ” โจว เชียนหยุนพูดด้วยรอยยิ้ม“ไม่เป็นไรครับ ผมชอบเล่นกับอาหยันน้อย” กวอ ซิ่นหลี่พูดอาหยันน้อยตื่นเต้นที่จะได้เล่นกับฟองสบู่ข้างนอก ดังนั้นเขาจึงออกไปกับกวอ ซิ่นหลี่อย่างมีความสุขจากนั้น โจว เชียนหยุนจึงถามหลิง อี้หรานว่า “ทำไมวันนี้เธอถึงมากับเขาได้?”“ฉันไปเจอเขาเรื่องงาน แล้วเขาก็อยากเอาของขวัญมาให้อาหยันน้แยพอดี เราเลยมาด้วยกันน่ะค่ะ” หลิง อี้หรานเล่า จากนั้นเธอก็เหลือบมองที่กระเป๋าเดินทาง “แล้วพี่ล่ะ? พี่จะไปเมืองจีเมื่อไหร่?”“อีกสามวัน เราเพิ่งหาบริษัทขนย้ายเฟอร์นิเจอร์บางส่วนได้ ส่วนฉันจะขึ้นรถไฟความเร็วสูงไปกับแม่และอาหยัน” โจว เชียนหยุนพูด“รถไฟออกกี่โมงคะ? ฉันจะได้ไปหาพี่” หลิง อี้หรานถาม“ไม่เป็นไรหรอก ขอบใจนะ อีกอย่างมันไม่ใช่วันหยุด เธอต้องทำงาน ยังไงก็ขอบใจ ไว้ฉันจะบอกเธอทันทีที่เราไปถึงเมืองจี นอ
เย่ เหวินหมิงรู้สึกหายใจไม่ออกอีกครั้งเมื่อนึกถึงโจว เชียนหยุน“ไม่!” เขาปฏิเสธโดยไม่คิด “การแต่งงานควรเป็นงานที่มีความสุข เพชรที่ดูเหมือนหยดน้ำตาฟังดูเป็นลางไม่ดี!”เมื่อได้ยินเช่นนั้น คง จื่ออินก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก เธอเพียงพูดว่า “เอ่อ... ไปดูอย่างอื่นดีกว่าคะ เหวินหมิง คุณชอบแหวนแต่งงานแบบไหนคะ?”“เดี๋ยวก็รู้ ทำไมเราไม่เลือกแหวนหลังจากประกาศวันแต่งงานแล้วล่ะ?” เย่ เหวินหมิงพูดเมื่อได้ยินเช่นนั้น ดวงตาของคง จื่ออินก็เต็มไปด้วยความผิดหวัง แต่เธอก็ยังสามารถยิ้มอย่างเข้าใจได้ เธอพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นเราจะเลือกแหวนหลังจากประกาศวันแต่งงานกันนะคะ”คง จื่ออินหยิบต่างหูเพชรอีกคู่หนึ่งออกมาก่อนออกจากร้านขายเครื่องประดับกับเย่ เหวินหมิง“ผมขอให้คนขับรถไปส่งคุณแล้ว” เย่ เหวินหมิงบอก“แล้วคุณล่ะคะ?” คง จื่ออินรู้สึกประหลาดใจ“ผมมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย ไว้ผมจะโทรหาคุณทีหลัง” เย่ เหวินหมิงพูดคง จื่ออินทำได้เพียงพยักหน้า แต่เมื่อเธอก้าวเข้าไปในรถ เธอก็ถามอย่างประหม่าว่า “เหวินหมิง เรากำลังจะกำหนดวันแต่งงานของเราในวันนั้น... จริง ๆ ใช่ไหมคะ?”“มีอะไรอีก? คุณไม่ได้บอกว่ามันเป็นวันมง
‘มันเป็นเพียงความพยายามครั้งสุดท้ายของเธอที่ต้องการใช้ประโยชน์จากความรักที่เหลืออยู่ของฉัน’‘แต่เธอคิดผิด ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอทั้งนั้น!’‘ใช่ ฉันไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอ!’เย่ เหวินหมิงพูดกับตัวเองอีกครั้งว่า ‘แต่ทำไม... วันที่เธอทำร้ายตัวเองยังคงติดอยู่ในใจของฉันจนถึงทุกวันนี้?’‘ราวกับว่าเธอปฏิเสธที่จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับฉัน’‘ในที่สุดฉันก็หาเธอเจอแล้ว แล้วถ้าเธอหายไปอีกล่ะก็...’เย่ เหวินหมิงรู้สึกว่าหัวใจของเขาเต้นแรงด้วยความเจ็บปวดอีกครั้งในขณะที่เขาคิดถึงเรื่องนี้ ‘ฉันยังแก้แค้นไม่สาสม ติดคุกแค่ไม่กี่ปีมันไม่พอ!’เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรออก “ฉันเอง ให้คนในเมืองเฉินจับตาดูเธอ ถ้ามีอะไรผิดปกติให้บอกฉันทันที”‘ฉันจะไม่ยอมให้เธอหายไปจากสายตาของฉันอีก ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม’‘เธอหวังว่าเราจะไม่ได้พบอีกแม้แต่ในนรก แต่ว่าฉันจะไม่ปล่อยให้เธอได้ในสิ่งที่เธอต้องการ!’…หลังจากออกจากบ้านของโจว เชียนหยุนแล้ว กวอ วิ่นหลี่ก็ขับรถไปส่งหลิง อี้หรานที่บ้านเช่าระหว่างทาง กวอ ซิ่นหลี่ถามว่า “อาหยันน้อยและครอบครัวจะย้ายไปเมืองจีจริง ๆ เหรอ?”“ใช่” หลิง อี้หรานตอบ“ผมคิดว่าผมจ
กวอ ซิ่นหลี่ลังเลและจับมือหลิง อี้หรานไว้ “ทำไมไม่ให้ผมไปกับคุณล่ะ? ถ้า...”“ไม่เป็นไรค่ะ” เธอยิ้มให้เขาและตบหลังมือของเขาเบา ๆ “ฉันรู้จักเขา”กวอ ซิ่นหลี่ปล่อยมือของเธออย่างไม่เต็มใจหลิง อี้หรานลงจากรถและตามคนขับไปที่เบนท์ลีย์คันสีดำคนขับเปิดประตูเบาะหลัง จากนั้นหลิง อี้หรานก็เข้าไปข้างใน กวอ ซิ่นหลี่มองเห็นเพียงชายชุดสูทนั่งอยู่ที่นั่งเบาะหลังแต่มองไม่เห็นใบหน้าของเขาปึง!ประตูรถยนต์ปิดลงและเบนท์ลีย์ก็เร่งเครื่องออกไปกวอ ซิ่นหลี่นั่งอยู่ในรถคนเดียวและคาดคิดสิ่งต่าง ๆ มากมายในใจ‘ใครกัน... ผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังนั่น? เขาเกี่ยวข้องกับหลิง อี้หรานยังไง?’...หลิง อี้หรานมองดูอี้ จิ่นหลีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอ รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏอยู่บนใบหน้าของเขา แต่ดวงตาของเขากลับดูเย็นชา“เป็นอะไร? เธอชอบผู้ชายที่ชื่อกวอคนนี้เหรอ? อยู่กับเขาแล้วสนุกมากหรือไง?” เขาจะพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ คำพูดเหล่านั้นเป็นราวกับค้อนทุบที่หัวใจของเธอ“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” หลิง อี้หรานพูด“จริงเหรอ? กวอเป็นหัวหน้าตัวแทนบริษัทจำหน่ายรถยนต์เล็ก ๆ แห่งหนึ่ง ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์แบบนี้ กิจการคงไปไม่ได้ไกลนักห
“คนอย่างคุณคงไม่รู้สึกแบบนั้น แต่ฉันรู้สึก เราต่างก็เป็นมนุษย์ แต่บางคนก็เหนือกว่าคนอื่นและสามารถควบคุมพวกเขาได้อย่างง่ายดาย บางคนเป็นคนธรรมดา พวกเขาเป็นคนที่ด้อยกว่า พวกเขาไม่สามารถแม้แต่จะควบคุมชะตากรรมของพวกเขาได้และจะถูกคนอื่นหลอกอีก”‘ถ้า... ฉันไม่ใช่ลูกสาวที่มาจากครอบครัวธรรมดา แต่เป็นลูกสาวของคนรวยและมีอำนาจ ฉันคงไม่ถูกตำหนิจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้นด้วยซ้ำ’‘คนที่ใส่ร้ายฉันคงไม่กล้าปล่อยให้ฉันต้องรับผิด’ทุกวันในคุก เธอต้องใช้ชีวิตเหมือนร่างกายที่ไร้วิญญาณ แต่ละวันในคุกมันช่างผ่านไปอย่างยากลำบาก ชีวิตของเธอขึ้นอยู่กับการกำหนดความเป็นความตายจากผู้อื่น ในขณะที่คนอื่นสามารถตัดสินใจได้อย่างอิสระว่าเธอจะถูกเฆี่ยนในวันนั้นหรือไม่ทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับคำสั่งจากหัวหน้าของพวกเขาดวงตาสีเข้มมองดูผู้หญิงที่อยู่ข้างหน้าเขา“เธอรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่ได้รู้สึกแบบนั้น?” เขากระซิบ รอยยิ้มเหยเกผุดขึ้นที่ริมฝีปากบาง‘เธอรู้บ้างไหมว่าที่ฉันเลิกกับเธอและที่ฉันอยากจะหยุดรักเธอเป็นเพราะฉันไม่ต้องการให้เธอควบคุมชีวิตและความตายของฉัน?’‘เพราะฉันรักเธอมากเกินไป มากจนปล่อยให้เธอควบคุมทุกสิ่งท
ริมฝีปากบางของเขากำลังให้ความอบอุ่นแก่มือของเธอ ขณะที่เขาพูด “เธอไม่อยากเป็นพี่สาวของฉันแล้วเหรอ? ไหนตอนเมาเธอบอกว่าอยากเป็นพี่สาวฉันไง ถ้าเธอต้องการ เรากลับไปเป็นเหมือนเดิมก็ได้ หรือถ้าเธอไม่อยากย้ายกลับไปคฤหาสน์อี้ ฉันไปอยู่กับเธอที่ห้องเช่าเหมือนเมื่อก่อนก็ได้นะ”หลิง อี้หรานตกตะลึง เงยหน้าขึ้นทันทีและมองที่เขาด้วยความประหลาดใจริมฝีปากบางเซ็กซี่กดลงบนฝ่ามือของเธอ ในขณะที่ลมหายใจอุ่น ๆ ของเขาคอยปลอบประโลมเธอใบหน้าหล่อเหลาราวกับรูปปั้น ดวงตาที่แสนงดงามได้หลอมรวมกันอย่างสมบูรณ์แบบ เผยให้เห็นความบริสุทธิ์และความทะเยอทะยานจนสุดโต่งจนใครก็มิอาจละสายตาจากใบหน้าของเขาได้‘ฉันยังอยากเป็นพี่สาวของเขาไหม? ฉันอยากกลับไปเป็นเหมือนเดิมหรือเปล่า?’ หลิง อี้หรานถามตัวเอง ‘แต่ว่า... นั่นเคยเป็นช่วงเวลาที่แสนอบอุ่นและเป็นชั่วนิรันดร์สำหรับฉัน’‘ในตอนนั้น ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าถ้าฉันมีครอบครัว ฉันจะไม่เหงาอีกต่อไป!’‘ฉันไม่เคยคาดหวังถึงการได้รับความรักจากคนรัก ฉันเพียงต้องการความรักจากครอบครัวเท่านั้น’ครู่ต่อมา ดวงตาของเธอก็ค่อย ๆ ลดต่ำลง ดูสงบและไม่แยแสอีกครั้ง “อี้ จิ่นหลี เราเลิกกันแล้ว ไม่
รอยแดงบนข้อมือของเธอนั้นร้อนมากจนดูราวกับว่ามันอาจจะไหม้ได้ในอีกไม่นานทันทีที่เธอหลับตาลง เธอก็เอาแต่นึกถึงตอนที่เขาก้มจูบรอยแดงบนข้อมือของเธอ!…สามวันต่อมา โจว เชียนหยุนตื่นแต่เช้าและมองดูลูกชายของเธอที่ยังคงนอนหลับใหลด้วยสายตาที่อ่อนโยน‘การที่ได้เห็นเขาเติบโตมาเคียงข้างฉันมันทำให้ฉันรู้สึกดีมาก!’เธอดีใจที่เธอไม่ได้ตัดสินใจทำแท้งลูกและอดทนให้กำเนิดเขา ถึงมันจะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากและเจ็บปวดที่สุดสำหรับเธอ แต่… มันก็คุ้มค่า!คุณนายโจวเห็นลูกสาวจ้องมองหลานชายอย่างอ่อนโยน เธอจึงเดินเข้าไปในห้องและกระซิบว่า “หยุน เก็บของทุกอย่างเสร็จแล้วนะ บ่ายนี้เราจะไปขึ้นรถไฟความเร็วสูงกันแล้ว ทำไมลูกไม่นอนพักผ่อนเสียหน่อยล่ะ?”“ฉันนอนไม่หลับหรอกแม่” โจว เชียนหยุนส่ายหัว “บริษัทขนย้ายจะเข้ามาขนของเร็ว ๆ นี้ ฉันต้องเตรียมตัวให้พร้อม”"แม่กังวลเรื่องการเริ่มธุรกิจใหม่ที่เมืองจี!” คุณนายโจวพูดอย่างกังวลใจ เพราะพวกเขาต้องขายร้านอาหารแห่งนี้ทั้งที่มีลูกค้าเข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง คุณนายโจวจึงรู้สึกไม่สบายใจกับเรื่องนี้“ร้านอาหารของเราไปได้ดีในเมืองเฉิน มันก็จะไปได้ดีในเมืองจีเช่นกัน ไม่
“คุณพ่ออยากให้คุณประกาศวันแต่งงานเพื่อแสดงว่าคุณจริงใจกับฉัน” คง จื่ออินพูด“ได้สิ” เย่ เหวินหมิงตอบเขาจะทำทุกอย่างที่เธอต้องการ“ถ้าอย่างนั้นวันนี้เรามาเป็นผู้นำเปิดฟลอร์เต้นรำกันนะคะ” คง จื่ออินพูดเสริม“อืม” เย่ เหวินหมิงตอบ ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและขมวดคิ้วเมื่อเห็นเบอร์ผู้โทรเขา เขาจึงพูดกับคง จื่ออินว่า “ผมต้องรับสายนี้ เดี๋ยวผมมา”จากนั้น เขาจึงเดินไปที่มุมเงียบสงบของห้องจัดเลี้ยงแล้วรับโทรศัพท์เบอร์ที่โทรเข้าเป็นหมายเลขโทรศัพท์ของชายที่เขาส่งไปจับตาดูโจว เชียนหยุนที่เมืองเฉินที่ชายคนนั้นโทรมาในเวลานี้อาจเพราะมีบางอย่างเกิดขึ้นกับโจว เชียนหยุนทันทีที่เขารับสาย สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเย่ เหวินหมิงได้ยินเพียงเขาพูดว่า “ท่านประธานเย่ครับ โจว เชียนหยุนกำลังจะออกจากเมืองเฉิน เธอซื้อตั๋วรถไฟตอน 15.45 น. และ…”“อะไรนะ?”“แต่เธอไม่ได้อยู่คนเดียวครับ” ชายคนนั้นพูดเย่ เหวินหมิงรู้สึกสับสน ‘ไม่ได้อยู่คนเดียว? เขาหมายความว่าอะไร? ฉันจำได้ว่าเธอมีแม่ที่หายตัวไปพร้อมกับเธอทันทีที่เธอออกจากคุก’‘เธออยู่กับแม่ของเธอหรือเปล่า?’“เธอมีลูกชาย” สิ