ไม่มีใครรู้ว่าตำรวจจะสอบสวนคดีนี้อีกครั้งหรือไม่“ผมจะตรวจสอบเรื่องนี้กับทางตำรวจอีกครั้ง” ทนายกู้พูดขึ้นขณะมองดูใต้ตาดำคล้ำของหลิง อี้หราน “คุณคงทำงานหนักกับคดีนี้มากสินะ ไม่ค่อยได้นอนสิท่า วันนี้ผมจะให้คุณหยุดแล้วกัน กลับบ้านไปพักผ่อนเถอะ”หลิง อี้หรานรู้ว่าทนายกู้เข้าใจเธอผิด แม้ว่าเธอไม่ได้นอนหลับสบาย แต่มันก็ไม่ใช่เพราะคดีนี้ เป็นเพราะอี้ จิ่นหลีต่างหากเธอโล่งใจที่การทำงานร่วมกับทนายกู้ง่ายกว่าที่คิดหลังจากได้รับวันหยุด หลิง อี้หรานจึงวางแผนที่จะไปเยี่ยมพี่โจวกับอาหยันน้อยก่อนที่พวกเขาจะออกจากเมืองเฉินทว่า เมื่อเธอไปถึงชั้นล่างของตึกสำนักงาน เธอกลับไม่คิดว่าจะได้เห็นรถยนต์คันหรูจอดอยู่ที่หน้าทางเข้า ผู้หญิงคนหนึ่งสวมชุดที่ออกแบบในระดับไฮเอนด์ก้าวลงจากรถเธอคือหวา ลี่ฟาง!หลิง อี้หรานค่อนข้างแปลกใจที่ได้เจอหวา ลี่ฟาง “อี้หราน บังเอิญจัง! ฉันแค่จะแวะมาหาเธอและในที่สุดฉันก็เจอเธอ!”หวา ลี่ฟางรู้ว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอทำงานเป็นผู้ช่วยทนายความอยู่ที่นี่จากหยู ข่ายฮ่าว ผู้ชายที่เธอเจอที่คลับครั้งล่าสุด ‘เธอเคยเป็นทนายความหน้าใหม่ที่มีอนาคตสดใสแล้วยังไงล่ะ? ตอนนี้เธอก็เป็นได้
จากนั้นหวา ลี่ฟางก็เริ่มบทสนทนา “เพราะลี่เฉินเคยเข้าใจผิดว่าเธอเป็นคนที่เขาตามหา ดังนั้นฉันหวังว่าเธอจะสามารถรักษาระยะห่างจากลี่เฉินได้ คนอื่นจะได้ไม่เข้าใจผิดเรื่องไร้สาระระหว่างเรา ไหน ๆ เราก็เป็นญาติกัน”หลิง อี้หรานหัวเราะออกมาทันที “เข้าใจผิดเรื่องไร้สาระ? คนอื่นจะเข้าใจผิดเรื่องอะไร?”“คราวที่แล้วเธออยู่กับลี่เฉินในสตูดิโอถ่ายภาพยนตร์ คนอื่นจะเข้าใจผิดได้ง่าย ๆ” หวา ลี่ฟางพูด จากนั้นเธอก็พูดเสริมอย่างเขินอาย “ตอนนี้ฉันก็อยู่กับลี่เฉินและเรายังไม่ได้ประกาศอะไรอย่างเป็นทางการ แต่เร็ว ๆ นี้…”หวา ลี่ฟางพูดอย่างครุมเครือโดยเจตนา ปล่อยให้คนฟังจินตนาการไปต่าง ๆ นานา“ฉันกับกู้ ลี่เฉินไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน ไม่ต้องกังวล” หลิง อี้หรานพูด“ถ้าเธอหลีกเลี่ยงที่จะปรากฏตัวต่อหน้าเขา มันจะดีกว่าไหม? หรือ… ฉันช่วยเหลือเธอให้พัฒนาอาชีพอื่นได้นะ เธอจะไปเปิดร้านค้าหรืออะไรก็ได้ จะได้มีชีวิตง่าย ๆ กว่านี้ไง เราเป็นพี่น้องกัน ตอนนี้ฉันมีเงินมากพอ ให้ฉันเอาเงินให้เธอสักสองล้านดอลล่าร์ก่อนไหม?” หวา ลี่ฟางพูด‘สองล้านดอลลาร์’ หลิง อี้หรานรู้สึกตลก ‘สองล้านดอลลาร์นั้นน่าจะเป็นเงินของกู้ ลี่เฉิน คน
“น้องสาว ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอไม่ควรพูดคำพวกนี้ออกมาต่อหน้าฉัน เพราะเธอก็เป็นหลานสาวคนหนึ่งของคุณยาย ฉันอยากจะเตือนเธอไว้ก่อนว่ากู้ ลี่เฉินไม่ได้หลอกง่ายอย่างที่คิด ถ้าเธอโลภเกินไป เธออาจจะสูญเสียทุกอย่างได้”เมื่อหลิง อี้หรานพูดจบ เธอก็ลุกขึ้น ชำระค่ากาแฟของตัวเองและออกจากร้านกาแฟหวา ลี่ฟางยังคงนั่งอยู่ที่เดิมและพยายามสงบสติอารมณ์ด้วยกาแฟ แต่ร่างกายของเธอสั่นมากจนยกแก้วกาแฟไม่ขึ้น‘ฉันควรทำยังไงดี? หลิง อี้หรานจำทุกอย่างได้แล้ว! ถ้าหลิงอี้หรานไปบอกลี่เฉิน...’‘ไม่ ไม่มีวัน! ฉันต้องหาทางออก ต่อให้หลิง อี้หรานบอกเขา ลี่เฉินก็ต้องไม่เชื่อเธอ!’‘ฉันต้อง... คิดอะไรบางอย่าง!’...หลังจากที่หลิง อี้หรานออกจากร้านกาแฟ เธอก็ขึ้นรถบัสไปยังบ้านเช่าของคุณนายโจวและอาหยันน้อย เธอพบว่าโจว เชียนหยุนอยู่ที่นั่นและพวกเขากำลังเก็บของกันทันทีที่อาหยันน้อยเห็นหลิง อี้หราน เขาก็กระโดดเข้าไปในอ้อมแขนของเธออย่างมีความสุขและบอก หลิง อี้หรานว่าเขาจะได้ไปโรงเรียนอนุบาลแล้วหลังจากฤดูร้อนสิ้นสุดลง!“พี่เจอโรงเรียนอนุบาลที่เหมาะกับเขาแล้วเหรอคะ?” หลิง อี้หรานถามขณะมองไปที่โจว เชียนหยุน“ใช่ ฉันหาเจอท
“น้ากวอให้ผมขี่ไหล่แล้วก็พาผมเล่นสนุก!” เด็กน้อยเริ่มนับกิจกรรมสนุก ๆ ด้วยนิ้วของเขาและส่วนใหญ่มักเป็นกีฬาโปรดที่พ่อและลูกชายมักเล่นด้วยกันเมื่อโจว เชียนหยุนได้ยินดังนั้น ดวงตาของเธอก็ดูโศกเศร้าขึ้นไม่ว่าเธอจะพยายามสวมบทบาทพ่อมากแค่ไหนก็ตาม แต่มันก็ยังคงเป็นความจริงที่ว่าอาหยันน้อยไม่มีพ่อ เธอเห็นความอิจฉาริษยาในดวงตาของลูกชายทุกครั้งที่เห็นลูกคนอื่นอยู่กับพ่อ‘แต่... เย่ เหวินหมิงไม่ใช่พ่อที่ดี สำหรับความต้องการของเย่ เหวินหมิง… คืออาหยันน้อยไม่ควรมีตัวตนอยู่จริง’หลิง อี้หรานเห็นดวงตาโศกเศร้าของโจว เชียนหยุน เธอจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็ว ขณะที่เธอกำลังจะจากไป เธอมองดูโจว เชียนหยุนและถามว่า “อาการบาดเจ็บของพี่เป็นยังไงบ้างคะ?”“ไม่มีอะไรร้ายแรงแล้วล่ะ ฉันไม่เจ็บมากแล้ว” โจว เชียนหยุนพูดพร้อมกับยกยิ้ม“เย่ เหวินหมิงได้มาหาพี่อีกหรือเปล่า?” หลิง อี้หรานถามอีกครั้งโจว เชียนหยุนส่ายหัว ตั้งแต่วันที่เธอทำร้ายตัวเองต่อหน้าเขา เขาก็ไม่เคยมาปรากฏตัวต่อหน้าเธออีกเลย“ถ้ามีอะไรที่ฉันพอช่วยพี่ได้ ก็บอกฉันได้ตลอดนะคะ ตอนนี้ฉันอาจจะทำอะไรได้ไม่มาก แต่... ถ้าเราช่วยกัน งานหนักจะได้กลาย
ดวงตาฟีนิกซ์จ้องมองชุดที่อยู่ในมือของหวา ลี่ฟาง ท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปทันที “เธอกำลังทำอะไร? วางชุดนั้นลงซะ!”น้ำเสียงของเขาเย็นชาจนหวา ลี่ฟางตกใจ“คุณ… คุณไม่ได้จะให้ชุดนี้กับฉันเหรอ?”ทันทีที่เธอพูดแบบนั้น สีหน้าของกู้ ลี่เฉินก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง ‘ใช่ แต่ตอนนี้ไม่ให้’เขาคิดที่จะมอบชุดเดรสนี้ให้กับเด็กหญิงตัวเล็กที่ชีวิตช่วยเขา เพราะเขาเคยสัญญากับเธอว่าเขาจะมอบชุดเดรสสีม่วงที่ประดับด้วยดอกไม้เล็ก ๆ ให้เธอทว่า เมื่อเขาได้พบเธอ เขาไม่สามารถมองเห็นลี่ฟางเป็นเด็กหญิงคนนั้นได้เด็กหญิงที่เขาเคยวาดฝันไว้กลับดูแตกต่างออกไปเมื่อเธอมาอยู่ตรงหน้าเขา“ถ้าเธออยากได้ชุดแบบนี้ ฉันจะหาอีกชุดหนึ่งมาให้ทีหลัง” เขาพูดขึ้นขณะคว้าชุดนั้นกลับจากมือของเธอสีหน้าของหวา ลี่ฟางนิ่งเรียบในทันที แต่แล้วเธอก็พูดแสร้งทำเป็นไม่สนใจว่า “ไม่เป็นไร ขอบคุณนะลี่เฉิน วันนี้ฉันใช้เงินในบัตรที่คุณให้มาแล้ว ไม่เป็นไรใช่ไหมคะ?”“ฉันให้เธอแล้ว เธอจะใช้มันยังไงก็ได้” กู้ ลี่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา“ฉันไม่ได้ใช้มันเองหรอกค่ะ ฉันแค่อยากจะเอาเงินให้อี้หราน เพราะเธอเลิกกับอี้ จิ่นหลีแล้ว เธออาจจะไม่มีเงินใช้อย่างเห
“มันเป็นสถานที่แบบไหน?” คำพูดของเธอกระตุ้นต่อมความอยากรู้ของหลิง อี้หราน“เดี๋ยวเธอก็รู้เอง” ชิน เหลียนอีปิดปากและยิ้มหลิง อี้หรานรู้สึกได้ทันทีว่ารอยยิ้มของเพื่อนสนิทดูเหมือนกับตัวละครตัวร้ายในละครโทรทัศน์หลิง อี้หรานพูดไม่ออกเมื่อเธอเห็น ‘สถานที่ดี ๆ’ ของชิน เหลียนอี มันเป็นบาร์ใต้ดิน ส่วนใหญ่คนที่มาที่นี่เป็นนักเรียนมัธยมปลายอายุ 17 หรือ 18 ปี บางคนอายุแค่ 20 ต้น ๆ ด้วยซ้ำเนื่องจากอายุต่างกัน พวกเขาดูแปลกไปเล็กน้อยเมื่อยืนอยู่ตรงนั้น“มีอะไรดีขนาดนั้นเหรอ?” หลิง อี้หรานสงสัย“เดี๋ยวก็รู้เอง!” ชิน เหลียนอีขยิบตาเมื่อเป็นเวลาสองทุ่ม จู่ ๆ บรรยากาศในบาร์ก็ดังขึ้นและชายห้าคนก็ขึ้นมาบนเวทีหลิง อี้หรานเห็นเพียงวงดนตรีที่มีผู้ชายห้าคน เธอไม่เห็นมีอะไรพิเศษเกี่ยวกับเรื่องนี้ทว่า ดวงตาของชิน เหลียนอีกลับเป็นประกาย “นี่ นี่ พวกเขาอยู่นี่แล้ว!”“วันนี้เธอพาฉันมาที่นี่เพื่อดูพวกเขางั้นเหรอ?” หลิง อี้หรานถาม“ใช่ พวกเขากำลังมาแรงเมื่อเร็ว ๆ นี้ เพราะทั้งห้าคนหน้าตาดีและมีรูปร่างดี แถมยังเต้นเก่งด้วย!” ชิน เหลียนอีรู้สึกตื่นเต้นมากขึ้นเมื่อเธอพูดถึงพวกเขา เธออยากจะแนะนำเพื่อนสนิท
“เกิดอะไรขึ้น?” อี้ จิ่นหลีถามเสียงเรียบ “มัน... เกี่ยวกับคุณหลิง”“อี้หราน?” ท่าทางของอี้ จิ่นหลีเปลี่ยนไป “เกิดอะไรขึ้นกับเธอ?”“เอ่อ… วันนี้ชิน เหลียนอี เพื่อนของคุณหลิงพาเธอที่บาร์ใต้ดินเพื่อดูการแสดง”เมื่อได้ยินเช่นนั้น อี้ จิ่นหลีจึงถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? มีคนหาเรื่องพวกเขาเหรอ?” เขาไม่ได้กังวลว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บ เพราะเขาได้ส่งคนไปปกป้องเธอหากคนของเขาไม่สามารถคุ้มครองเธอได้ พวกเขาก็ไม่มีค่าอะไรมากไปกว่าขยะ“ไม่ได้มีใครมาหาเรื่องพวกเธอครับ แต่วันนี้คิงกำลังแสดงที่บาร์ใต้ดิน”“คิง?” อี้ จิ่นหลีเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย“เป็นวงดนตรีที่กำลังร้อนแรงที่สุดในช่วงนี้ การแสดงของพวกเขา… เอ่อ... พวกเขาเป็นที่นิยมมากในหมู่ผู้หญิง” น้ำเสียงของเกา ฉงหมิงแผ่วเบาขึ้นเรื่อย ๆอี้ จิ่นหลีหรี่ตาลง “พูดต่อ!”“การแสดงของคิง… รวมถึงท่าเต้นต่าง ๆ และท่าเต้นบางส่วน… ทำให้ผู้หญิงคลั่งไคล้ เช่น... ถอด... เสื้อผ้าของพวกเขา…”ยิ่งเกา ฉงหมิงพูดต่อมากเท่าไหร่ ใบหน้าของเจ้านายก็ยิ่งกลัวมากขึ้นเท่านั้น ทันทีที่เขาพูดว่า ‘ถอดเสื้อผ้า’ ใบหน้าของเจ้านายก็เขม่นขึ้น เขารู้ได้ในทันทีว่าปัญหากำลังจะมาเกิดขึ้
อี้ จิ่นหลีลงจากรถ เขาขมวดคิ้วทันทีที่ได้ยินเสียงดังสนั่นและเสียงกรีดร้องออกมาจากด้านใน เกา ฉงหมิงมองใบหน้าของเจ้านายอย่างระมัดระวัง ก่อนที่จะพูดว่า “นายน้อยอี้ ในนั้นมีคนอยู่มากมาย ทำไมไม่ให้ผม... เข้าไปและพาคุณหลิงออกมาดีกว่าครับ?”“ไม่ ฉันจะเข้าไปเอง” อี้ จิ่นหลีพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาทันใดนั้น ปอร์เช่สีเงินอีกคันก็ขับเข้ามาและมาหยุดอยู่ที่หน้าบาร์ ในเวลาต่อมา ร่างผอมบางของใครบางคนออกมาจากรถปอร์เช่เขาตกใจที่เห็นอี้ จิ่นหลีอี้ จิ่นหลีก็ตกใจที่เห็นชายคนนั้นอยู่ที่นี่เช่นกันชายสองคนมองหน้ากัน จ้องเขม็งด้วยสายตาน่ากลัวเกา ฉงหมิงอดหัวเราะไม่ได้เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า น้อยครั้งที่จะได้เห็นเหตุการณ์แบบนี้!“นายมาที่นี่เพราะชิน เหลียนอีใช่ไหม?” อี้ จิ่นหลีพูดทำลายความเงียบดวงตาของไป๋ ทิงซินเป็นประกาย “คุณมาที่นี่เพราะ... หลิง อี้หรานเหรอ?”“ไปพาผู้หญิงของเรากลับบ้านกันเถอะ” อี้ จิ่นหลีพูด‘ดูเหมือนว่าอี้ จิ่นหลีกำลังตามหาหลิง อี้หรานจริง ๆ’ ไป๋ ทิงซินคิดกับตัวเองเขารีบมาที่นี่เพราะชิน เหลียนอีตื่นเต้นมาก เธอถ่ายรูปเวทีและเผลอโพสต์ลงในวีแชตของเธอทันทีที่เขาเห็นรูปภาพนั้