“ค่ะ เข้าใจแล้วค่ะ” หลิง อี้หรานตอบ“ต้องส่งเอกสารนี้ในวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้นวันนี้ต้องได้รายเซ็นมานะ” ทนายความกู้เร่งก่อนที่จะให้รายละเอียดการติดต่อแก่หลิง อี้หรานแต่เมื่อหลิง อี้หรานโทรไปกลับเป็นเลขาของเขาที่รับสายแทน พวกเขาบอกหลิง อี้หรานว่าลูกค้ากำลังปาร์ตี้อยู่ที่คลับแมกนิฟิเซนต์ ถ้าเธอต้องการเอาเอกสารไปใหเขา เธอสามารถไปที่คลับแมกนิฟิเซนต์ได้ แล้วเขาจะให้หมายเลขห้องจัดเลี้ยงแก่เธอ คลับแมกนิฟิเซนต์เป็นไนท์คลับที่มีชื่อเสียงในเมืองเฉินเมื่อหลิง อี้หรานมาถึง เธอพบว่มีผู้ชายและผู้หญิงจำนวนมากรวมตัวกันที่ห้องจัดเลี้ยงนี้ พวกเขากำลังปาร์ตี้กัน และเธอก็รู้สึกสับสนอยู่ครู่หนึ่งว่าเธอกำลังมองหาใครเธอต้องโทรหาเลขาอีกครั้งก่อนจะไปพบลูกค้าที่โต๊ะพูลเขาเป็นลูกชายที่มาจากตระกูลที่ร่ำรวยและมีชื่อเสียงค่อนข้างแย่ เขาถูกฟ้องในข้อหาใช้ความรุนแรงระหว่างคบหากับผู้หญิงที่เรียกร้องขอค่าชดเชยทนายกู้รับเอาคดีมาแก้ต่างให้เขาหลิง อี้หรานได้อ่านรูปคดีแล้ว และเห็นได้ชัดว่าชายคนนี้ทำร้ายร่างกายผู้หญิงคนนั้นอย่างรุนแรง หลิง อี้หรานไม่ชอบผู้ชายแบบนี้ แต่เธอก็ต้องทำเพราะมันคืองาน... เว้นแต่ว่าเธอ
‘เขา... อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?’เธอไม่คิดว่าจะเธอจะได้เจอเขาอีก ดูเหมือนโลกใบนี้จะแคบกว่าที่เธอคิดไว้หลิง อี้หรานเงยหน้าขึ้นและมองเห็นร่างหนึ่งกู้ ลี่เฉินสวมชุดลำลองสีขาวล้วนที่เป็นทางการน้อยกว่าชุดปกติและดูสบาย ๆ มากกว่าภายใต้แสงไฟ ใบหน้าที่หล่อเหลาเผยให้เห็นถึงความเฉยเมยและความเหินห่าง แม้ว่าเขาจะถูกรายล้อมไปด้วยฝูงชน แต่เขากลับดูไม่ใส่ใจกับความโกลาหลรอบตัวเขา ราวกับมีบางอย่างที่มองไม่เห็นกั้นเขาไว้เหมือนเขาได้สร้างเกราะกำบังขึ้นมาในโลกของเขาและจะไม่ยอมให้ใครเข้ามาคนที่... ที่สามารถทะลุผ่านเกราะกำบังนี้ได้ มีเพียงเด็กหญิงตัวเล็กที่ผ่านร้อยผ่านหนาวไปกับเขาเท่านั้น... เด็กหญิงที่เธอเคยเป็น!ทว่า... ดวงตาของหลิง อี้หรานจับจ้องไปที่ผู้หญิงที่เดินเข้าไปในห้องขณะที่ควงแขนของกู้ ลี่เฉินไว้เป็นน้องลี่ฟางที่เข้ามาแทนที่เธอ ตอนนี้ลี่ฟางยืนอยู่ข้างกู้ ลี่เฉินพร้อมกับแสดงรอยยิ้มยิ้มแย้มแจ่มใสบนใบหน้าของเธอเมื่อมองดูหวา ลี่ฟางและกู้ ลี่เฉินยืนเคียงข้างกัน หลิง อี้หรานก็มีความรู้สึกถึงบางอย่างซึ่งยากที่จะอธิบายได้จากนั้นเธอก็บอกกับตัวเองว่าไม่มีอะไรต้องกังวล เธอคือคนที่ตัดสินใจทิ้งค
แม้ว่าคนอื่นในแวดวงนี้จะร่ำรวยหรือมีอำนาจ แต่ทุกคนล้วนมีอันดับของตัวเองหยู ข่าวฮ่าวรู้สึกประหลาดใจเมื่อกู้ ลี่เฉินตอบตกลง “ได้”หยู ข่ายฮ่าวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง เขารู้สึกราวกับว่าเขาเพิ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่หนึ่ง ถ้าเขาสามารถตีสนิทกับกู้ ลี่เฉินได้ สถานะของเขาในแวดวงสังคมชั้นสูงก็จะเปลี่ยนไปหลิง อี้หรานยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อเห็นหยู ข่าวฮ่าวนำกู้ ลี่เฉินและหวา ลี่ฟางไปที่โต๊ะพูล เธอรู้สึกเป็นกังวลหลิง อี้หรานสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก้าวไปข้างหน้าและพูดกับหยู ข่าวฮ่าวว่า “คุณหยูคะ คุณช่วยเซ็นเอกสารนี้ก่อนได้ไหมคะ?”“รอก่อน อย่าเพิ่งรบกวนเรา!” หยู ข่ายฮ่าวพูดออกมาอย่างไม่อดทน เขากลัวว่ามันจะขัดจังหวะการเล่นเกมของเขากับกู้ ลี่เฉิน และส่งผลกระทบต่อการตีสนิทของเขาหลิง อี้หรานก้มหน้าลงและกัดริมฝีปากของเธอเล็กน้อย เธอสัมผัสได้ถึงสายตาของกู้ ลี่เฉินที่มองผ่านไปมาแต่... เขาก็แค่มองผ่านไป“ลี่ฟาง คุณเคยเล่นพูลไหม?” เสียงของกู้ ลี่เฉินดังขึ้น“อา... ไม่ค่ะ” หวา ลี่ฟางตอบอย่างรวดเร็ว“ผมจะสอนคุณ” กู้ ลี่เฉินพูดหวา ลี่ฟางประหลาดใจและตอบตกลงเขาทันทีกู้ ลี่เฉินอธิบายกฎสั้น ๆ ให้กับหว
“ฉันชอบมันมาก ไม่คิดว่าการเล่นพูลจะน่าสนใจขนาดนี้” หวา ลี่ฟางพูดด้วยรอยยิ้มในทางกลับกัน หยู ข่ายฮ่าวกำลังยุ่งอยู่กับตีสนิทกู้ ลี่เฉินและหวา ลี่ฟาง เขาเอ่ยปากชมว่ากู้ ลี่เฉินเป็นโค้ชที่ดีและหวา ลี่ฟางก็มีความสามารถดูเหมือนพวกเขาจะลืมหลิง อี้หรานที่ยืนอยู่ใกล้ ๆหลิง อี้หรานพบว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอแสดงได้เก่งเมื่อฟังหวา ลี่ฟางพูด เธอไม่เคยคิดว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอจะโกหกได้ดีขนาดนี้กู้ ลี่เฉินอาจจะเชื่อว่าลูกพี่ลูกน้องของเธอเป็นเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นจริง ๆแม้ว่าเธอจะบอกความจริงกับกู้ ลี่เฉิน เขาก็คงคิดว่ามันเป็นเรื่องตลกในขณะที่ความเจ็บปวดที่หัวเข่าของเธอรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆหลิง อี้หรานขมวดคิ้ว นิ่วหน้าเล็กน้อยพร้อมกับกดริมฝีปากแน่น เธอพยายามเพิกเฉยต่อความเจ็บปวดที่เข่าของเธอและยืนอย่างมั่นคงเธอทำได้เพียงรอจนกว่าพวกเขาจะเล่นพูลเสร็จและให้หยู ข่ายฮ่าวเซ็นเอกสารตอนที่หลิง อี้หรานก้มหน้า เธอไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครบางคนกำลังจ้องมองเธอจากหางตากู้ ลี่เฉินรู้ว่าเขาไม่ควรสนใจหลิง อี้หราน เพราะพวกเขาได้คุยกันเรียบร้อยแล้วบนภูเขาในวันนั้นเธอไม่ใช่คนที่เขาตามหา และทุกสิ่งในอดีตเ
หลิง อี้หรานรู้สึกอ่อนแรงและไม่สามารถทรงตัวได้อีกต่อไป เธอกำลังจะล้มลงทันใดนั้น แขนแกร่งก็คว้าเอวเธอเอาไว้และช่วยไม่ให้เธอล้มลง“ขาคุณเป็นอะไร?” กู้ ลี่เฉินถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา และนึกขึ้นได้ว่าเขาเห็นเธอเดินกะเผลกก่อนหน้านี้“อาการเดิม ๆ น่ะ” หลิง อี้หรานพูดก่อนจะขอบคุณเขาสำหรับความช่วยเหลือเขากดริมฝีปากบางของเขาเข้าหากันและดึงมือออกในขณะที่จ้องมองไปที่ขาของเธอ ‘อาการเดิม ๆ ? เธอมีอาการแบบนี้มาก่อนด้วยเหรอ?’“อี้หราน เธอเป็นอะไรไหม?” หวา ลี่ฟางรีบแสดงความรักต่อพี่สาวของเธอ “ถ้าเธอเจ็บขา เธอนั่งพักก่อนก็ได้นะ”หลิง อี้หรานเหลือบมองลูกพี่ลูกน้องของเธออย่างเย็นชา ถ้าลูกพี่ลูกน้องของเธอห่วงใยเธอจริง ๆ เธอคงไม่เล่นพูลอย่างมีความสุขแล้วปล่อยให้เธอยืนอยู่ตรงนั้นหยู ข่ายฮ่าวตกตะลึงและพูดด้วยสีหน้าตกใจว่า “พวกคุณรู้จัก... กันเหรอครับ?”“ค่ะ อี้หรานเป็นลูกพี่ลูกน้องของฉัน” หวา ลี่ฟางพูดด้วยรอยยิ้มหยู ข่ายฮ่าวมีท่าทีตกใจมากยิ่งขึ้น จากนั้นเขาก็หันไปหาหลิง อี้หรานและพูดว่า “เอ้า ทำไมคุณไม่บอกผมก่อนหน้านี้ ถ้าคุณบอกผมก่อน ผมจะได้เซ็นมันให้เสร็จ ๆ ไป”“งั้นเซ็นตอนนี้เลยได้ไหมคะ?” หลิง
‘ไม่! ไม่มีทาง!’‘สักวันฉันจะแทนที่หลิง อี้หรานให้ได้ ฉันจะเป็นคนที่ยืนข้างเขาและประสำความสำเร็จ!’…หลิง อี้หรานขึ้นรถบัสและกลับไปที่บ้านเช่าของเธอ ขาของเธอเจ็บมากจนยกขึ้นแทบไม่ได้ เธอหยิบผ้าพันแผลสองชิ้นจากชุดปฐมพยาบาลและพันมันบนเข่าของเธอเธอถอนหายใจด้วยความโล่งอกเมื่อรู้สึกถึงความร้อนที่หัวเข่าและความเจ็บปวดที่ค่อย ๆ เบาบางลงคืนนี้เป็นเหมือนสนามรบของเธอ เธอรู้สึกเหน็ดเหนื่อยและแผ่นหลังของเธอก็เต็มไปด้วยเหงื่อที่เย็นชุ่มแม้ว่าตอนนี้จะเป็นฤดูร้อน แต่ข้อต่อของเธอก็ยังไม่สามารถทนต่อเครื่องปรับอากาศได้เป็นเวลานานการเผชิญหน้ากับกู้ ลี่เฉินและหวา ลี่ฟางในเย็นวันนี้เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจ ตอนที่กู้ ลี่เฉินคว้าแขนเธอและถามเกี่ยวกับอี้ จิ่นหลี มันทำให้เธอรู้สึกปวดใจอีกครั้ง‘ถ้าย้อนกลับไปแต่ก่อน แล้วฉันต้องไปสถานที่อย่างไนท์คลับ จินคงจะไปกับฉันด้วยแน่ ๆ’หยู ข่ายฮ่าวคงไม่กล้าให้ยื้อเวลาเธอไว้นานแบบนี้‘ถ้าฉันเจ็บเข่า จินคงจะกอดฉันไว้อย่างระมัดระวังและลูบเข่าของฉัน’‘ก็แค่... ทั้งหมดนี้ไม่มีอีกแล้ว!’ยิ่งพวกเขาเคยมีความรู้สึกดีต่อกันและผูกพันกันมากเท่าไหร่ มันก็ยิ่งจะขมขื่นมา
‘อี้ จิ่นหลีเลิกกับหลิง อี้หรานเหรอ? เป็นไปได้ยังไง? ผู้ชายที่ไม่ยอมให้แม้แต่คนอื่นคิดเกี่ยวกับเธอกลับบอกเลิกเธอเหรอ?’กู้ ลี่เฉินรู้จักอี้ จิ่นหลีมาหลายปีแล้ว ดังนั้นเขาจึงรู้ว่าจิ่นหลีเป็นคนเย็นชาและไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย ยกเว้นหลิง อี้หรานเพียงคนเดียวคนอย่างจิ่นหลี ถ้าได้ตกหลุมรักแล้ว เขาจะรักและยึดติดกับมันตลอดไปแต่ตอนนี้ไม่มีคำว่าตลอดไป เพราะเขาเลิกกับเธอแล้ว!“ทำไมคุณถึงเลิกกัน?” เขาถามขณะเดินเข้าไปใกล้เธอ“มันเป็นเรื่องส่วนตัว และฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณค่ะ คุณกู้” เธอถอยห่างจากเขาสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่างระหว่างพวกเขา “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันอยากเข้าบ้านไปพักผ่อน”เธอพูดขณะหยิบกุญแจออกมาเปิดประตูบ้านเช่า และเดินตรงเข้าไปก่อนจะปิดประตูเหลือเพียงกู้ ลี่เฉินถูกทิ้งให้ยืนอยู่ในภวังค์นอกบ้านกู้ ลี่เฉินจ้องมองประตูที่ปิดสนิท ท่าทางนิ่งสงบของเธอตอนที่เธอบอกเขาเกี่ยวกับการเลิกรากับอี้ จิ่นหลี ทำให้หัวใจของเขาเจ็บปวดเล็กน้อยเธอดูสงบนิ่งเพื่อระงับความเจ็บปวดเอาไว้ในใจ‘ฉัน... ไม่ควรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเธอ แต่ทำไม... ฉันถึงทำแบบนี้?’กู้ ลี่เฉินยกมือขึ้นและกดลงที่หัวใจของเขาช
เรียวนิ้วของอี้ จิ่นหลีจับเข้าที่คอของกู้ ลี่เฉิน ราวกับว่าเขากำลังจะหักคอของคนตรงหน้าเย่ ฉงเว่ยวางแก้วในมือลงอย่างรวดเร็วและคว้ามือของอี้ จิ่นหลีเอาไว้ เขาพยายามดึงมือของจิ่นหลีออกจากคอของกู้ ลี่เฉิน “จิ่นหลี นายเป็นบ้าอะไร? ลี่เฉินก็แค่ถาม ทำไม… นายต้องทำรุนแรง...”เย่ ฉงเว่ยกลัวแทบตาย แต่กู้ ลี่เฉินที่ถูกบีบคอเอาไว้กลับไม่แสดงแม้แต่อาการหวาดกลัวบนใบหน้าของเขา เขาถามว่า “เป็น... เพราะฉันเหรอ?”เมื่อพูดจบ เรียวนิ้วของจิ่นหลีรัดรอบคอของเขาแน่นขึ้นจนกู้ ลี่เฉินเริ่มสำลักและใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีแดงเย่ ฉงเว่ยรู้สึกประหม่า “จิ่นหลี ปล่อย! ปล่อย! นายจะบีบคอลี่เฉินจริง ๆ เหรอ?”‘เกิดบ้าอะไรขึ้นวะเนี่ย? ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนายน้อยผู้ยิ่งใหญ่สองคนในบ้านของฉัน ชีวิตของฉันคงจะจบลงแน่ ๆ !’เย่ ฉงเว่ยพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อดึงมือของอี้ จิ่นหลีออกไป‘เป็นเพราะ... กู้ ลี่เฉิน?’ ดวงตาของอี้ จิ่นหลีจ้องไปที่คนตรงหน้าเขาไม่ ไม่ใช่เพราะกู้ ลี่เฉิน มันเป็นเพราะเขากลัวจะถูกหักหลังเข้าสักวันหนึ่ง เขาไม่อยากร้อนรนใจอีกต่อไปเพราะอี้หรานมีกู้ ลี่เฉินอยู่ในใจของเธอ!เขาไม่อยากซ้ำรอยพ่อของ