ถ้าเธอพึ่งพาเขามากเกินไป มันอาจจะค่อย ๆ กลายเป็นนิสัย...เขาก้มลงมาหอมแก้มของเธอที่ยังคงบวมอยู่ จูบนั้นนุ่มนวลราวกับขนนก “ถ้าอย่างนั้นก็ขึ้นอยู่กับผม นั่นคือสิ่งที่ผมต้องการ”เขาต้องการให้เธอพึ่งพาเขาจนเธอไม่สามารถทิ้งเขาได้…ประมาณครึ่งชั่วโมงต่อมา แพทย์ประจำตระกูลมาที่คฤหาสน์อี้ เขามองดูแก้มที่บวมของหลิง อี้หรานและสั่งยาเพื่อลดอาการบวมหลังจากที่แพทย์จากไปแล้ว หลิง อี้หรานกำลังจะทายา แต่อี้ จิ่นหลีกลับดึงมันมาจากเธอ “ผมจะทาให้พี่เอง”“อืม” เธอตอบเขาใช้นิ้วเรียวยาวจุ่มครีมและค่อย ๆ เกลี่ยเนื้อครีมให้ทั่วแก้มของเธอ ท่าทางของเขาอ่อนโยนมาก ความเย็นของเนื้อครีม ทำให้แก้มของเธอไม่บวมแดงอีกต่อไป“พี่คอยทำให้ผมกังวลและชอบเจ็บตัวอยู่เสมอเลยนะ” เขากระซิบและยังคงทาครีมให้เธอหลิง อี้หรานพบว่าตัวเองไม่สามารถแก้ต่างกับคำพูดของเขาได้ ดูเหมือนว่าเธอจะได้รับบาดเจ็บเล็ก ๆ น้อย ๆ ทุกประเภทตั้งแต่เจอกับเขา“ผมหวังว่าผมจะซ่อนพี่ไว้ที่บ้านได้ เพื่อไม่ให้ใครมาทำร้ายพี่ ผมไม่อยากให้พี่ได้รับบาดเจ็บอยู่ตลอดเวลา” เขากล่าว ทุกครั้งที่เขาเห็นบาดแผลบนร่างกายของเธอ มันทำให้เขารู้สึกราวกับว่าหัวใจของเขา
“ไม่... ไม่มีอะไร ฉันแค่เพิ่งนึกขึ้นได้ว่าพรุ่งนี้ฉันจะไปเยี่ยมคุณยาย แต่ยังไม่ได้ซื้ออะไรเลย” หลิง อี้หรานกล่าว อันที่จริงแล้วเธอซื้อของมาสองสามอย่าง แต่ตระกูลห่าว โยนมันทิ้งลงในถังขยะ“ถ้าเรื่องนั้น ผมซื้อมาให้พี่แล้ว อยู่บนโต๊ะกาแฟ” อี้ จิ่นหลีกล่าวหลิง อี้หรานมองไปที่โต๊ะกาแฟในห้องของเธอและเห็นลักษณะถุงที่คุ้นเคย มันคือ... ถุงแบบเดียวกับที่เธอซื้อขนมอบที่ห้างในวันนี้ เขา... ซื้อมาแบบเดียวกันหรือเปล่า?“เป็นแบบเดียวกับที่ฉันซื้อวันนี้หรือเปล่า?” หลิง อี้หรานถามอย่างโล่งอก“ใช่ ผมซื้อมาเพิ่มอีกสองสามอันด้วย” อี้ จิ่นหลีกล่าว“คุณรู้ได้ยังไงว่า... เอ่อ ฉันซื้ออะไรมา?” หลิง อี้หรานถามอย่างสงสัย ถึงอี้ จิ่นหลีจะได้ดูวิดีโอแล้ว แต่สิ่งที่เขาเห็นก็แค่ถุงอย่างเดียว“ผมตรวจสอบประวัติใบแจ้งยอดซื้อ เลยรู้ว่าพี่ซื้ออะไรบ้าง” อี้ จิ่นหลีตอบหลิง อี้หรานเข้าใจดีว่าการทำแบบนี้อาจไม่ง่ายสำหรับคนอื่น ๆ แต่มันกลับเป็นเรื่องง่ายสำหรับเขา“เดี๋ยวนะ ฉันเผลอร้องออกมากะทันหัน ฉันรบกวนคุณหรือเปล่า?” หลิง อี้หรานถาม“พี่ไม่มีอะไรรบกวนผมหรอก” อี้ จิ่นหลีหมอบลงข้างเตียงของเธอ “ไม่ว่ายังไงก็ตาม พี่ก
แต่หลิง อี้หรานไม่คาดคิดว่าอี้ จิ่นหลีจะขอให้คนขับนำรถยนต์ส่วนตัวมาด้วย ซึ่งมันมีราคาเพียงสามแสนดอลลาร์เท่านั้นหลิง อี้หรานรู้สึกตกใจ“พี่ไม่ได้บอกว่าพี่อยากให้มันดูธรรมดามากกว่านี้เหรอ?” อี้ จินหลีถาม“ฉันอยากให้มันดูธรรมดาเพราะฉันไม่อยากดูโดดเด่นในเป็นเมืองเล็ก ๆ ที่มีแต่เรื่องซุบซิบเกิดขึ้น ฉันกลัวว่าเรื่องแบบนั้นจะไปรบกวนคุณยาย แต่คุณจะขับรถคนนี้ไปจริง ๆ ใช่ไหม?" หลิง อี้หราน กล่าว“คิดว่าผมพูดเล่นเหรอ?” อี้ จิ่นหลียิ้ม “ก็ได้ ขึ้นรถกันเถอะ”เมื่อหลิง อี้หรานขึ้นรถ เธอก็พบว่าไม่มีคนรับรถรออยู่ อี้ จิ่นหลีเป็นคนขับแทน“คุณจะขับเหรอ?” เธอถาม“ใช่ มันไม่ไกลมาก พี่จะงีบหลับก็ได้ถ้าง่วงนอน ผมรู้ทางไปที่นั่น” อี้ จิ่นหลีกล่าวขณะที่เขาสตาร์ทรถหลิง อี้หรานเม้มริมฝีปากของตัวเองขณะเฝ้าดูอี้ จิ่นหลีขับรถ ใช้เวลามากกว่าสองชั่วโมงกว่าจะถึงตัวเมืองอี้ จิ่นหลีคงรู้สึกเหนื่อยในการขับรถมากกว่าสองชั่วโมง แต่หลิง อี้หรานไม่สามารถยื่นมือไปช่วยเขาขับรถได้เพราะใบขับขี่ของเธอถูกระงับและ... เธอไม่สามารถขับรถได้อีกต่อไปโดนสั่งห้ามขับรถตลอดชีวิต!หากว่า... วันหนึ่งเธอสามารถแก้ไขคดีความและพิสู
เธอมองเขาด้วยสีหน้าที่งุนงง “มีอะไรเหรอ?”“พี่คิดว่าจะแนะนำตัวผมยังไง?” อี้ จิ่นหลีถามหลิง อี้หรานตกตะลึง แต่ก็ตอบกลับอย่างรวดเร็วว่า “แน่นอน ฉันจะแนะนำคุณให้รู้จักในฐานะแฟนของฉันไง”อี้ จิ่นหลียิ้ม “ก็ได้ ไปกันเถอะ”หลังจากลงจากรถแล้ว หลิง อี้หรานก็เข้ามาและเคาะประตู ไม่นานก็มีคนมาเปิดประตูให้เธอ นั่นคือน้าคนเล็กของเธอเมื่อน้าคนเล็กเห็นหลิง อี้หราน สีหน้าของเธอก็เปลี่ยนเป็นเยาะเย้ยทันที “เธอนั่นเอง อี้หราน ครั้งนี้เธอพาผู้ชายมาด้วยเหรอเนี่ย!”น้าคนเล็กเหลือบมองออกไปนอกประตูขณะที่เธอพูดและสังเกตเห็นรถยนต์คันธรรมดาที่จอดอยู่หน้าบ้าน แล้วเธอจึงมองไปที่หลิง อี้หรานอย่างเยาะเย้ยพวกเขาทั้งหมดคิดว่าหลานสาวของเธอกำลังคบหากับเศรษฐีคนหนึ่ง ชายคนนั้นได้ช่วยเธอออกมาจากบ้านเช่าโง่ ๆ หลังนั้นมองดูรถที่จอดอยู่ข้างนอก ดูไม่เหมือนรถหรูเสียเลย นอกจากนี้ น้ายังมีความสามรถในการจดจำรถยนต์หรูหราได้อีกด้วยผู้ชายข้าง ๆ หลานสาวของเธอดูดีมาก จุดเด่นมีแค่ภาพลักษณ์ที่หล่อเหลาอย่างนั้นเหรอ? ถ้าอย่างนั้นเขาเป็นได้แค่ไม้ประดับเท่านั้นแหละ!นอกจากนี้ ผู้ชายคนนี้คงไม่รู้ว่าหลานสาวของเธอเคยติดคุกมาก่อน!
“ไปดูคุณยายเสร็จแล้วเหรอ?” อี้ จินหลี่ถาม“คุณยายยังหลับอยู่ ฉันไม่อยากปลุกเธอ เลยออกมาก่อนน่ะ” หลิง อี้หรานตอบขณะที่หลิง อี่หรานกำลังพูด หวา ลี่ฟางลูกพี่ลูกน้องของเธอก็ออกมาพร้อมกับชาสองถ้วยและวางมันไว้ข้างหน้าเธอกับอี้ จิ่นหลี “มาดื่มชากันสิ อี้หราน”ดวงตาของหลิง อี้หรานเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ลูกพี่ลูกน้องของเธอไม่เคยเสิร์ฟชาให้เธอมาก่อน“นี่ อี้หราน เธอจะไม่แนะนำสุภาพบุรุษที่เธอพามาที่นี่หน่อยเหรอ?” น้าคนเล็กถาม น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความริษยา“เขาเป็นแฟนฉัน จิน” หลิง อี้หรานตอบ เธอไม่ได้พูดชื่อเต็มของอี้ จิ่นหลีโดยเจตนา เพื่อที่ญาติของเธอจะไม่แตกตื่นถ้าพวกเขาพบว่า จิน คือ อี้ จิ่นหลีทั้งหมดที่หลิง อี้หรานต้องการก็คือให้คุณยายของเธอใช้เวลาที่เหลืออย่างสงบสุข“แฟนเหรอ? เป็นไปไม่ได้!” หวา ลี่ฟางอุทานดูเหมือนว่าหลิง อี้หรานกำลังเล่าเรื่องตลกอยู่อี้ จิ่นหลีเหล่ตาและจ้องมองที่หวา ลี่ฟางอย่างเย็นชาทันใดนั้น หวา ลี่ฟางก็รู้สึกราวกับว่าเธอตกลงไปในถ้ำน้ำแข็ง มันเหน็บหนาวมากจนเธอสัมผัสได้ถึงความเย็นจากส่วนลึกของหัวใจ“ทำไมมันจะเป็นไปไม่ได้?” อี้ จิ่นหลีถามอย่างเฉื่อยชาหวา
ราวกับว่าชายคนนี้ไม่ยอมให้ใครก็ตามที่พูดไม่ดีเกี่ยวกับหลิง อี้หรานหวา ลี่ฟางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกอิจฉาริษยาภายในใจ หวา ลี่ฟางรู้สึกอิจฉาที่หลิง อี้หราน สามารถหาแฟนหนุ่มที่หล่อเหลาและไม่สนใจเรื่องที่เธอเคยติดคุกมาก่อนได้ แต่เธอกลับแต่งงานกับช่างตีเหล็กเมื่อเธอยังเป็นสาวหวา ลี่ฟางคิดว่าช่างตีเหล็กที่เธอแต่งงานมีฝีมือที่ไม่ดีมาก แต่เขาก็จ่ายค่าสินสอดเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา หวา ลี่ฟางเริ่มรู้สึกเศร้าโศกมากขึ้นเรื่อย ๆเพื่อนที่เธอเคยไปเที่ยวด้วย ตอนนี้ต่างก็มีชีวิตที่ดีในเมืองหลวง พวกเขาแต่งงานกับคนที่ทำงานในสำนักงาน ข้าราชการ, ผู้บริหารและอาชีพอื่นที่คล้ายคลึงกัน พวกเขาดูมีระดับมากจน หวา ลี่ฟาง รู้สึกอายที่สามีของเธอเป็นเพียงช่างตีเหล็กในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเธอเคยสงสัยอยู่เสมอว่าถ้าเธอไม่รีบแต่งงานเร็วขนาดนี้ เธอจะแต่งงานและได้ย้ายไปอยู่ในเมืองไหม? แต่อย่างน้อยเธอก็อาจจะได้แต่งงานกับคนที่ทำงานในสำนักงาน!“นี่ แฟนของอี้หรานน่ะ” น้าคนเล็กกล่าวพร้อมกับแสดงความกังวลออกมา “เธอต้องดูแลรักเขานะ ไหนบอกฉันทีว่าคนรวยและมีอำนาจคนก่อนหน้านี้เห็นอะไรดีในตัวเธอ? เขาคิดว
ใบหน้าของหวา ลี่ฟางเต็มไปด้วยความอับอาย สิ่งที่อี้ จิ่นหลีกล่าวกับเธอก็เหมือนกับการตบหน้า!น้าคนเล็กรู้สึกรำคาญอย่างเห็นได้ชัด เธอบ่นกับหลิง อี้หรานว่า “นี่ อี้หราน ลี่ฟางมีเจตนาดีนะ ทำไมแฟนของเธอถึงได้หยิ่งผยองขนาดนี้ เขาเป็นแขกของเราก็จริง แต่เราต้องบูชาเขาเหมือนเขาเป็นเจ้านายเลยเหรอ?”หลิง อี้หรานกล่าวเบา ๆ ว่า “แฟนฉันค่อนข้างขี้อาย เขาเลยรักษาระยะห่างจากคนที่เขาไม่ค่อยรู้จัก”น้าคนเล็กกับหวา ลี่ฟางแทบจะสำลักน้ำลายขี้อาย?!ผู้ชายคนนี้ไม่ได้ดูเขินอายเลยสักนิดผู้ชายคนนี้จ้องมองอย่างเฉื่อยชาอีกครั้ง พวกเขารู้สึกถึงหัวใจที่เริ่มเต้นเร็ว ราวกับว่าพวกเขากลัวการจ้องมองของชายคนนี้น้าคนเล็กเม้มริมฝีปากและไม่กล่าวอะไรอีก ในทางกลับกัน หวา ลี่ฟางกลับไร้สามัญสำนึกและถามอย่างประชดประชัน ว่าหลิง อี้หรานกับอี้ จิ่นหลี พบเจอกันได้อย่างไร ตัวตนที่แท้จริงของอี้ จิ่นหลี คือใคร, เขาทำงานอะไร, ภูมิหลังครอบครัวของเขา และอื่น ๆไม่ต้องสงสัยเลย หลิง อี้หรานสามารถปล่อยคำถามเหล่านั้นให้ครุมเครือต่อไปทำให้หวา ลี่ฟางพบว่าตัวเองถามคำถามที่ดูไร้สาระอยู่ แต่เพราะมีอี้ จิ่นหลีอยู่ที่นี่ด้วย เธอจึงไม่กล
“แม่ว่าไงนะแม่? อี้หรานพาแฟนมาวันนี้ เราจะกลั่นแกล้งเธอได้ยังไง? แถมเรายังต้องเรียกแฟนเธอว่าคุณอีก” น้าคนเล็กฉวยโอกาสเย้าแหย่คุณยายรู้สึกประหลาดใจ “แฟน? อี้หรานมีแฟนแล้วเหรอ? เร็วเข้า ให้ฉันได้พบเขาหน่อยสิ!”“หนูจะไปพาเขามาที่นี่” หลิง อี้หรานกล่าวขณะที่เธอลุกขึ้นและเดินออกจากห้องน้าคนเล็กกล่าวอย่างไม่ค่อยพอใจว่า “แม่จะดีใจอะไรนักหนา? แฟนของอี้หรานดูเหมือนเด็กเล่นของเล่น เขาอาจจะเป็นคนหลอกลวงก็ได้!”จริง ๆ แล้ว เธอไม่ต้องการให้หลานสาวของเธอหาแฟนที่ดีกว่าลูกสาวของเธอ“พอแล้ว อี้หรานเป็นเด็กที่รอบคอบ เธอไม่ใช่คนที่จะหัวเสียได้ง่ายเพราะคำพูดของใครบางคน ฉันจะดูเองว่าเขาเป็นคนหลอกลวงหรือไม่!” คุณยายของหลิง อี้หรานกล่าวน้าคนเล็กเม้มริมฝีปากของเธอ คุณยายมองไปที่อี้ จิ่นหลี ขณะที่หลิง อี้หรานพาเขาเข้าไปในห้อง เธอกล่าวทักด้วยรอยยิ้มว่า “คุณเป็นแฟนของอี้หรานใช่ไหม คุณชื่ออะไรล่ะ?”หลิง อี้หรานกำลังจะช่วยอี้ จิ่นหลี แนะนำตัวเอง แต่คนหลังกลับเปิดปากก่อนและตอบว่า “นามสกุลของผมคือ อี้ คุณเรียกผมว่า จิน ก็ได้ครับคุณยาย”น้ำเสียงของอี้ จิ่นหลีเต็มไปด้วยความอ่อนน้อมถ่อมตน ทำให้หลิง อี้หรานปร