เขามองไปที่มือของเธออย่างแน่วแน่ ตอนนี้มือของเธอจับเขาราวกับว่ามือคู่นั้นกำลังแสดงความดีใจเขาเงยหน้าขึ้นมองและเห็นรอยยิ้มที่มีความสุขของเธอ ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกอิจฉาเล็กน้อยเพราะรอยยิ้มของเธอไม่ใช่เพราะเขา แต่เป็นเพราะหลิง อี้หรานเห็นได้ชัดว่าหลิง อี้หราน มีความสำคัญกับเธอมากกว่าเขามาก!...กู้ ลี่เฉิน เอนหลังพิงเบาะและลูบขมับเบา ๆ อยู่ภายในรถเลขาของเขาซึ่งอยู่ในรถด้วยกล่าวกับ กู้ ลี่เฉิน หลังจากได้รับโทรศัพท์ว่า “คุณกู้คะ ชุดเครื่องประดับที่คุณหลิงเลือกที่ร้านขายเครื่องประดับ มีมูลค่ายี่สิบล้านดอลลาร์ คุณต้องการให้คุณหลิงเอาไปเลยไหมคะ?”ยี่สิบล้านดอลลาร์มีราคาค่อนข้างแพง เจ้าของร้านขายเครื่องประดับจึงโทรมาสอบถามเรื่องนี้กู้ ลี่เฉิน กล่าวด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา “เมื่อเธอเลือกแล้ว ก็ให้เธอเอาไป”“ได้ค่ะ” เลขาตอบ จากนั้นเขาจึงตอบกลับเจ้าของร้านขายเครื่องประดับตามคำสั่งเจ้านาย อย่างไรก็ตาม เขาแอบรู้สึกว่าคุณหลิงเป็นคนคิดตื้น ๆ เกินไป พวกเขาเพิ่งจะออกเดทในช่วงเวลาสั้น ๆ และเธอแทบรอไม่ไหวที่จะเข้าร่วมสังคมชั้นสูง เมื่อไม่นานมานี้ เธอไปร้านอัญมณีและร้านค้าหรูหรา ดูเหมือนว่าเธอจะพยาย
มาลองคิดดู เขาเคยคิดว่าหลิง ลั่วอิน เป็นตัวแทนของเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่เขาพบเมื่อตอนที่เขายังเป็นเด็ก ริมฝีปากของเธอเหมือนกับริมฝีปากของเด็กหญิงที่เขาจำได้แต่มีบางสิ่งเปลี่ยนไปอย่างช้า ๆ บางครั้งเมื่อเขาอารมณ์เสีย ราวกับว่าเขาสามารถสงบสติอารมณ์ได้ เพียงแค่ฟังเรื่องที่หลิง ลั่วอิน พูดถึงหลิง อี้หรานเห็นได้ชัดว่าหลิง อี้หราน ไม่ใช่เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่ช่วยชีวิตเขาในตอนนั้นอาจเป็นเพราะหลิง อี้หราน ดูคล้ายกับเด็กผู้หญิงคนนั้น นั่นคือเหตุผลที่เขาปฏิบัติกับเธอแตกต่างไป เมื่อเขาเห็นเธอ เขาอดไม่ได้ที่จะอยากอยู่ใกล้เธออย่างไรก็ตาม... จิ่นหลีต้องการผู้หญิงคนนั้น และไม่มีความจำเป็นที่เขาจะต้องทำให้จิ่นหลีขุ่นเคืองกับผู้หญิงคนนั้น ท้ายที่สุดแล้ว… เธอคงไม่ใช่คนที่เขาตามหาขณะที่รถแล่นข้ามถนน กู้ ลี่เฉิน อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปที่ถนน เขามองไปที่ผู้คนในเครื่องแบบพนักงานบริการสุขาภิบาลโดยไม่รู้ตัวหลิง อี้หราน รับผิดชอบในการกวาดถนนนี้!แต่เขากลับไม่เห็นหลิง อี้หราน แม้ว่ารถจะขับออกจากบริเวณนั้นไปแล้วมีแววของความผิดหวังในดวงตาฟีนิกซ์ของเขาเป็นวันหยุดของเธอหรือเปล่า? หรือมีอะไรเกิดขึ้น เธ
...หลิง ลั่วอิน ดูมีความสุขมาก เมื่อกำลังสวมสร้อยคอราคายี่สิบล้านดอลลาร์ เธอรู้สึกว่าเธอมีค่าพอ ๆ กับเครื่องประดับราคายี่สิบล้านดอลลาร์ เธอไม่คิดว่าตัวเองเป็นคนธรรมดาอีกต่อไปตอนนี้เธออยู่ในกองทีมงานภาพยนตร์เรื่องใหม่ที่เธอแสดงเป็นนักแสดงนำหญิง แม้ว่าทีมงานฝ่ายผลิตและผู้กำกับจะมีความสามารถไม่มากเท่าคนก่อน ๆ แต่โดยรวมแล้วมันก็ไม่ได้แย่ และเธอยังเป็นนักแสดงนำหญิงด้วย ดังนั้นหลิง ลั่วอิน จึงพอใจมากกับบทการแสดงที่กู้ ลี่เฉิน มอบให้เธอตราบใดที่เธอยังจับลี่เฉินได้ เธอก็ไม่ต้องกลัวว่าจะได้รับบทแสดงแย่ ๆ ในอนาคตแต่เธอรู้สึกไม่พอใจ เมื่อใดก็ตามที่ลี่เฉินถามเธอ เขาจะขอให้เธอพูดถึงหลิง อี้หราน อยู่เรื่อย เธอเพิ่งเล่าเรื่องเกี่ยวกับหลิง อี้หราน ให้เขาฟังบางครั้งเธอรู้สึกราวกับว่าลี่เฉินเพียงแค่ปล่อยให้เธอยึดติดกับตำแหน่งแฟนสาวของเขา เพียงเพื่อฟังเรื่องราวเกี่ยวกับหลิง อี้หราน สิ่งนี้ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจตั้งแต่หลิง อี้หราน ตัวติดกับอี้ จิ่นหลี ลี่เฉินก็ไม่น่าจะมีอะไรเกี่ยวข้องกับหลิง อี้หราน อีกเธอเคยได้ยินเรื่องนี้มาก่อน ลี่เฉินเป็นคนที่พิถีพิถันในการเลือกคบกับแฟนสาว ผู้หญิงจะต้องไ
ผู้หญิงเหล่านั้นที่พยายามดึงดูดความสนใจของกู้ ลี่เฉิน ก็มองไปที่สร้อยคอที่คอของหลิง ลั่วอิน หลังจากที่พวกเธอได้ยินสิ่งที่เธอพูด ดวงตาของพวกเขาก็เป็นประกายด้วยความหึงหวงและอิจฉา จากนั้นพวกเธอก็เดินจากไปอย่างไม่สบอารมณ์หลิง ลั่วอิน ยิ้ม เธอรู้ว่าเธอบรรลุเป้าหมายแล้วหลิง ลั่วอิน พูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา หลังจากที่ทุกคนจากไป “ลี่เฉิน คุณจะต่อว่าฉันไหมที่อยากได้สร้อยคอราคาแพงขนาดนี้?” เธอดูเหมือนผู้หญิงบอบบางและอ่อนแอ เธอกัดริมฝีปากล่างเพื่อให้ตัวเองดูน่าสงสารและตัวเล็กในฐานะนักแสดง เธอรู้วิธีทำให้ตัวเองดูน่าสงสารมากขึ้นด้วยการแสดงออกทางสีหน้าของเธอ “ฉันแค่อยากจะเหมาะกับคุณมากกว่านี้ ฉันไม่อยากทำให้คุณอับอายเมื่อฉันยืนอยู่ข้าง ๆ คุณ”กู้ ลี่เฉิน มองไปที่ผู้หญิงอย่างเฉื่อยชา เหมาะสมเหรอ? เธอคิดว่าเธอจะเหมาะกับเขามากขึ้นด้วยการประดับประดาตัวเองด้วยเครื่องประดับและสินค้าที่มีราคาแพงอย่างนั้นเหรอ?ถ้าเป็นอย่างนั้นก็คงมีผู้หญิงอีกหลายล้านคนที่เหมาะสมกับเขานอกเหนือจากริมฝีปากของเธอแล้ว ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเธอที่ทำให้เขานึกถึงเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ในความทรงจำของเขาได้เลย“คุณซื้อมาแล้ว อย่าโทษต
เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ หลิง ลั่วอิน ก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น ๆทันใดนั้น นิ้วของเธอก็ไปรูดเข้ากับอะไรบางอย่างอย่างหนัก เธอมองไปที่มันและเห็นว่ามันเป็นสร้อยข้อมือสีเงินที่เขามักจะสวมใส่อยู่เสมอสร้อยข้อมือนั้น… หลิง ลั่วอิน จ้องไปที่สร้อยข้อมือเงินที่อยู่บนหน้าอกของเขา มันเป็นเพียงสร้อยข้อมือธรรมดา ทำไมเขาถึงใส่มันอยู่บ่อย ๆ? เขาปฏิบัติกับมัน ราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าบางอย่างหลิง ลั่วอิน หยิบสร้อยข้อมือขึ้นมาดูใกล้ ๆในวินาทีต่อมา มีมือคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ข้อมือของเธอ เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากปล่อยสร้อยข้อมือหลิง ลั่วอิน คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเธอสบเข้ากับดวงตาใสคู่หนึ่งเขาเมา ในขณะนี้ดวงตาของเขากลับไม่ได้ขุ่นมัวจากความมึนเมา แต่กลับสว่างและชัดเจนจนเขาดูน่ากลัว“คุณไม่สามารถแตะต้องสิ่งนี้ได้” น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นจนเสียดแทงถึงกระดูก“ฉัน… ฉันจะไม่ทำอีก ฉันแค่อยากช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อให้คุณสบายตัวขึ้น ฉะ-ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะแตะต้อง ลี่เฉิน ได้โปรด… ได้โปรด ปล่อย…” หลิง ลั่วอิน รู้สึกเจ็บปวดมากจนเหงื่อออกบนหน้าผากของเธอ เธ
ในขณะนั้น หลิง ลั่วอิน จ้องไปที่ภาพวาดตรงหน้าเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อก่อนหน้านี้ เมื่อตอนเธอเดินผ่านห้องสตูดิโอนี้และอยากแวะดู เธอกลับถูกกู้ ลี่เฉิน หยุดไว้เป็นอีกครั้งที่เธอไม่สามารถควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของเธอได้ เธอผลักประตูและเดินเข้าไปเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นภาพวาดของหลิง อี้หรานไม่ใช่หลิง อี้หราน ตอนเป็นผู้ใหญ่ แต่เป็นตอนที่เธอยังเป็นเด็กในภาพวาดมีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งแบกเด็กชายตัวน้อยไว้บนหลังของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นคือหลิง อี้หราน เมื่อเธอยังเด็กชุดลายดอกไม้ที่เด็กหญิงตัวเล็กสวมใส่... หลิง ลั่วอิน จำได้ว่าเธอเคยเห็นชุดเดียวกันในอัลบั้มรูปของหลิง อี้หราน‘เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีรูปวาดของหลิง อี้หราน ในห้องสตูดิโอของลี่เฉิน? ความสัมพันธ์ระหว่างลี่เฉินและหลิง อี้หราน คืออะไร?’มีคำถามมากมายในหัวของหลิง ลั่วอิน ความตื่นตระหนกผุดขึ้นในใจของเธอ ความรู้สึกนี้รุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลิง อี้หราน กำลังจะฉกฉวยทุกสิ่งที่เธอพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มาไม่! ไม่มีทาง!เธอจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ว่าหลิง อี้หราน จะมีความสัมพันธ์แบบไหนกับกู้ ลี่เ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ยืดตัวตรง แววตาที่น่าหลงใหลของเขามองไปที่เธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย “มีแค่เพียงพี่เท่านั้น” มีเพียงเธอเท่านั้น เธอเป็นคนเดียวที่เขาต้องการที่จะมี แค่เพียงเธอ เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกหลังจากถูกปฏิเสธ ราวกับว่าเขารู้สึกเสียความเป็นตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ “ช่วยเช็ดผมให้ผมหน่อย” เขากล่าว จากนั้นเขาก็ยื่นผ้าขนหนูที่เขาตั้งใจไว้เช็ดผมที่เปียกของเขาให้กับเธอ เธอมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ ขณะที่เขาก้มหัวลงให้กับเธอ “เป็นอะไรไป ตอนที่เราเคยอยู่บ้านเช่าพี่ไม่ได้เช็ดผมให้ผมทักครั้งหรอกเหรอ?” เขาถามขณะที่เขายักคิ้วขึ้น อะไร ๆ มันเปลี่ยนไปจากจากเดิมมาก หลิง อี้หราน เม้มริมฝีปากของเธอ จนในที่สุดเธอก็เริ่มเช็ดผมให้เขา เนื่องจากผ้าขนหนูปิดหน้าเขาอยู่จึงทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขาเป็นเหมือนลูกหมาน้อยที่เชื่อฟังซึ่งปล่อยให้เธอเป่าผมให้แห้ง ในขณะที่หลิง อี้หราน มีความรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่าเธอเป็นผู้ปกครองของเขา และเขาก็ก้มลงมาหาเธอ เธอไม่สามารถหยุดที่จะขำในใจได้ พระเจ้า! ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้? ต่อหน้าอี้ จิ่นห
”ผมจะเชื่อฟังพี่ เพราะฉะนั้นพี่จะชอบผมไหม?” เมื่อเขาพูดแบบนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย ถ้า... ถ้าเขาไม่ใช่ อี้ จิ่นหลี บางที... เธออาจจะชอบเขาก็ได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็คือ อี้ จิ่นหลี ระยะเวลาสามปีในคุก ความชัดเจนของเขาเป็นเหมือนดังฝันร้ายสำหรับเธอ เขาเป็นคนที่เธอกลัวที่สุดในใจ ... หลิง อี้หราน รู้สึกว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับอี้ จิ่นหลี อีก เธอกลัวเขามาก เธอหวาดกลัวเขามาก ๆ แต่บางครั้งเธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้เป็นห่วงเขาได้ เมื่อเขามองเธอด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังและคำพูดที่น่าประทับใจเธอก็ต้องยอมอีกครั้ง เขาทำกับเธอเหมือนว่ากำลังเล่นเกมอยู่จริง ๆ หรือว่าเขาจริงจังกันแน่? แล้วตัวเธอล่ะ? เธอรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่า? เธอทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไปอย่างช้า ๆ ราวกับว่าเธอจมลงไปในหนองน้ำ เธออยากจะออกมาจากตรงนั่นแต่เธอกลับจมลึกลงไปเรื่อย ๆ เธอส่งออเดอร์ทั้งหมดจนเสร็จ หลิง อี้หราน เดินทางกลับไปที่ร้านอาหารถึงกับตะลึง มีคนนั่งอยู่ในร้านอาหาร เป็นเพราะคนคนนี้ -กู้ ลี่เฉิน- ซึ่งไม่มีทางที่เขาจะปรากฏตัวในร้านอาหารเล็ก ๆ แบบนี้ เขาใส่ชุดร