เมื่อเธอคิดถึงเรื่องนี้ หลิง ลั่วอิน ก็รู้สึกตื่นเต้นมากขึ้น ๆทันใดนั้น นิ้วของเธอก็ไปรูดเข้ากับอะไรบางอย่างอย่างหนัก เธอมองไปที่มันและเห็นว่ามันเป็นสร้อยข้อมือสีเงินที่เขามักจะสวมใส่อยู่เสมอสร้อยข้อมือนั้น… หลิง ลั่วอิน จ้องไปที่สร้อยข้อมือเงินที่อยู่บนหน้าอกของเขา มันเป็นเพียงสร้อยข้อมือธรรมดา ทำไมเขาถึงใส่มันอยู่บ่อย ๆ? เขาปฏิบัติกับมัน ราวกับว่ามันเป็นสมบัติล้ำค่าบางอย่างหลิง ลั่วอิน หยิบสร้อยข้อมือขึ้นมาดูใกล้ ๆในวินาทีต่อมา มีมือคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ เธอรู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงที่ข้อมือของเธอ เธอไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากปล่อยสร้อยข้อมือหลิง ลั่วอิน คร่ำครวญด้วยความเจ็บปวด ดวงตาของเธอสบเข้ากับดวงตาใสคู่หนึ่งเขาเมา ในขณะนี้ดวงตาของเขากลับไม่ได้ขุ่นมัวจากความมึนเมา แต่กลับสว่างและชัดเจนจนเขาดูน่ากลัว“คุณไม่สามารถแตะต้องสิ่งนี้ได้” น้ำเสียงของเขาเยือกเย็นจนเสียดแทงถึงกระดูก“ฉัน… ฉันจะไม่ทำอีก ฉันแค่อยากช่วยคุณเปลี่ยนเสื้อผ้า เพื่อให้คุณสบายตัวขึ้น ฉะ-ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะแตะต้อง ลี่เฉิน ได้โปรด… ได้โปรด ปล่อย…” หลิง ลั่วอิน รู้สึกเจ็บปวดมากจนเหงื่อออกบนหน้าผากของเธอ เธ
ในขณะนั้น หลิง ลั่วอิน จ้องไปที่ภาพวาดตรงหน้าเธอ ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อก่อนหน้านี้ เมื่อตอนเธอเดินผ่านห้องสตูดิโอนี้และอยากแวะดู เธอกลับถูกกู้ ลี่เฉิน หยุดไว้เป็นอีกครั้งที่เธอไม่สามารถควบคุมความอยากรู้อยากเห็นของเธอได้ เธอผลักประตูและเดินเข้าไปเธอไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เห็นภาพวาดของหลิง อี้หรานไม่ใช่หลิง อี้หราน ตอนเป็นผู้ใหญ่ แต่เป็นตอนที่เธอยังเป็นเด็กในภาพวาดมีเด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนหนึ่งแบกเด็กชายตัวน้อยไว้บนหลังของเธอ เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ คนนั้นคือหลิง อี้หราน เมื่อเธอยังเด็กชุดลายดอกไม้ที่เด็กหญิงตัวเล็กสวมใส่... หลิง ลั่วอิน จำได้ว่าเธอเคยเห็นชุดเดียวกันในอัลบั้มรูปของหลิง อี้หราน‘เกิดอะไรขึ้น? ทำไมถึงมีรูปวาดของหลิง อี้หราน ในห้องสตูดิโอของลี่เฉิน? ความสัมพันธ์ระหว่างลี่เฉินและหลิง อี้หราน คืออะไร?’มีคำถามมากมายในหัวของหลิง ลั่วอิน ความตื่นตระหนกผุดขึ้นในใจของเธอ ความรู้สึกนี้รุนแรงยิ่งกว่าเดิมหลิง อี้หราน กำลังจะฉกฉวยทุกสิ่งที่เธอพยายามอย่างหนักเพื่อให้ได้มาไม่! ไม่มีทาง!เธอจะไม่ปล่อยให้มันเกิดขึ้นไม่ว่าหลิง อี้หราน จะมีความสัมพันธ์แบบไหนกับกู้ ลี่เ
หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้ยินเสียงเขาถอนหายใจ จากนั้นเขาก็ยืดตัวตรง แววตาที่น่าหลงใหลของเขามองไปที่เธอด้วยความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย “มีแค่เพียงพี่เท่านั้น” มีเพียงเธอเท่านั้น เธอเป็นคนเดียวที่เขาต้องการที่จะมี แค่เพียงเธอ เธอเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาทำอะไรไม่ถูกหลังจากถูกปฏิเสธ ราวกับว่าเขารู้สึกเสียความเป็นตัวเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ “ช่วยเช็ดผมให้ผมหน่อย” เขากล่าว จากนั้นเขาก็ยื่นผ้าขนหนูที่เขาตั้งใจไว้เช็ดผมที่เปียกของเขาให้กับเธอ เธอมองไปที่เขาด้วยความแปลกใจ ขณะที่เขาก้มหัวลงให้กับเธอ “เป็นอะไรไป ตอนที่เราเคยอยู่บ้านเช่าพี่ไม่ได้เช็ดผมให้ผมทักครั้งหรอกเหรอ?” เขาถามขณะที่เขายักคิ้วขึ้น อะไร ๆ มันเปลี่ยนไปจากจากเดิมมาก หลิง อี้หราน เม้มริมฝีปากของเธอ จนในที่สุดเธอก็เริ่มเช็ดผมให้เขา เนื่องจากผ้าขนหนูปิดหน้าเขาอยู่จึงทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เขาเป็นเหมือนลูกหมาน้อยที่เชื่อฟังซึ่งปล่อยให้เธอเป่าผมให้แห้ง ในขณะที่หลิง อี้หราน มีความรู้สึกแปลก ๆ ราวกับว่าเธอเป็นผู้ปกครองของเขา และเขาก็ก้มลงมาหาเธอ เธอไม่สามารถหยุดที่จะขำในใจได้ พระเจ้า! ทำไมเธอถึงคิดแบบนี้? ต่อหน้าอี้ จิ่นห
”ผมจะเชื่อฟังพี่ เพราะฉะนั้นพี่จะชอบผมไหม?” เมื่อเขาพูดแบบนั้นเธอก็เริ่มรู้สึกสับสนเล็กน้อย ถ้า... ถ้าเขาไม่ใช่ อี้ จิ่นหลี บางที... เธออาจจะชอบเขาก็ได้ อย่างไรก็ตาม เขาก็คือ อี้ จิ่นหลี ระยะเวลาสามปีในคุก ความชัดเจนของเขาเป็นเหมือนดังฝันร้ายสำหรับเธอ เขาเป็นคนที่เธอกลัวที่สุดในใจ ... หลิง อี้หราน รู้สึกว่าเธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับอี้ จิ่นหลี อีก เธอกลัวเขามาก เธอหวาดกลัวเขามาก ๆ แต่บางครั้งเธอก็ไม่สามารถห้ามตัวเองไม่ให้เป็นห่วงเขาได้ เมื่อเขามองเธอด้วยสีหน้าที่ดูจริงจังและคำพูดที่น่าประทับใจเธอก็ต้องยอมอีกครั้ง เขาทำกับเธอเหมือนว่ากำลังเล่นเกมอยู่จริง ๆ หรือว่าเขาจริงจังกันแน่? แล้วตัวเธอล่ะ? เธอรู้สึกอะไรกับเขาหรือเปล่า? เธอทำได้เพียงแค่ปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินไปอย่างช้า ๆ ราวกับว่าเธอจมลงไปในหนองน้ำ เธออยากจะออกมาจากตรงนั่นแต่เธอกลับจมลึกลงไปเรื่อย ๆ เธอส่งออเดอร์ทั้งหมดจนเสร็จ หลิง อี้หราน เดินทางกลับไปที่ร้านอาหารถึงกับตะลึง มีคนนั่งอยู่ในร้านอาหาร เป็นเพราะคนคนนี้ -กู้ ลี่เฉิน- ซึ่งไม่มีทางที่เขาจะปรากฏตัวในร้านอาหารเล็ก ๆ แบบนี้ เขาใส่ชุดร
“เดี๋ยวก่อน” เขาคว้าแขนเธอทันที “คุณจะบ้าเหรอ? ที่ผมพูดเมื่อกี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจะดูถูกงานของคุณ” เธอมองเขาอย่างแปลกใจ “ฉันไม่ได้บ้า” ถ้าเธอโกรธเรื่องนี้ เธอคงตายเพราะความโกรธไปนานแล้ว “ถ้าคุณต้องการ ผมจะหางานที่ดีกว่านี้ให้คุณ” กู้ ลี่เฉิน กล่าว “คุณกู้ ฉันไม่คิดว่าเราจะสนิทกันขนาดนั้น คุณไม่จำเป็นต้องช่วยฉันหางานอื่นก็ได้ค่ะ ฉันมีความสุขดีแล้วกับสิ่งที่ฉันทำอยู่ตอนนี้แล้ว” หลิง อี้หราน พูดและมองไปที่มือที่เขาจับเธอไว้ “ปล่อยฉันได้ไหมคะ? ฉันจำเป็นต้องไปส่งของพวกนี้” แววตาคู่สีเข้มจ้องมองมาที่เธอ หลังจากนั้นไม่นานในที่สุดเขาก็ปล่อยมือเธอ ไม่สนิทเหรอ? อย่างไรก็ตามเขารู้จักเธอดีกว่าที่เธอรู้จักตัวเองอีก เขารู้เกี่ยวกับอดีของเธอจากการพูดคุยกับหลิง ลั่วอิน เขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเธอตั้งแต่ยังเป็นเด็กจนเป็นผู้ใหญ่... “คุณมีความสุขกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ไหม?” เขาหัวเราะเบา ๆ “อดีตทนายความ มีความสุขกับการส่งอาหารจริงเหรอ?” ดวงตาของหลิง อี้หราน มืดลง ทนายความ... ตอนนี้มันฟังดูห่างไกลจากเธอเหลือเกิน หลังจากที่เธอขึ้นจักรยานไฟฟ้าแล้วเธอก็ได้ยินเสียงของกู้ ลี่เฉิน พูดอีกครั้งว่า “มัน
”เขาแค่ถามฉันว่าเธออยู่ที่ไหนและฉันก็บอกว่าเธออยู่ในครัวเขาก็เลยเหลือบมองไปที่ห้องครัวแค่นั้น” คุณนายโจวถามอย่างสงสัย “คนนั้นเขาคือใครเหรอ เธอรู้จักเขาไหม?” หลังจากที่ลูกสาวของเธอเห็นเขา เธอก็รีบหนีไปทันที ใบหน้าของ โจว เชียนหยุน มีลักษณ์ที่สับสน “นั่นคือ กู้ ลี่เฉิน เขาคือเจ้าชายแห่งวงการบันเทิง ตอนที่ฉันอยู่กับ… คน ๆ นั้น ฉันเห็นเขาสองสามครั้งน่าจะได้” “เขาจำเธอได้ไหม?” คุณนายโจวถามอย่างกังวลใจ โจว เชียนหยุน ถอนหายใจ “ฉันก็กลัวว่าเขาจะจำได้” ถึงแม้ว่ารูปลักษณ์ของเธอจะดูแตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างสิ้นเชิง แต่หากกู้ ลี่เฉิน จำเธอไม่ ได้เขาคงไม่ถามถึงเธอก่อนที่จะออกไป คุณนายโจวก้มหน้าลง “ถ้าอย่างนั้น… เราจะทำอย่างไรกันดี? เขาจะบอกเรื่องนี้กับคนนั้นไหม? ฉันคิดว่าเขารู้จักอี้หราน ทำไมเราไม่ให้อี้หรานช่วยพูดกับเขาแทนเราล่ะ?” โจว เชียนหยุน กัดริมฝีปากของเธอ ตอนนี้เธอก็งงเหมือนกัน เธอคิดว่า กู้ ลี่เฉิน บังเอิญหลงเข้ามาในร้านของเธอโดยไม่ตั้งใจ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าเขากำลังรออี้หรานอยู่ อย่างไรก็ตาม... เจ้าชายแห่งวงการบันเทิงกับคนส่งอาหารในร้านเล็ก ๆ มันมีความแตกต่างกันมากเกินไป เม
หมายความว่า นายน้อยอี้ต้องการเป็นที่ชื่นชอบของคุณหลิงใช่ไหม? เกา ฉงหมิง รู้คำตอบแล้ว แต่เขาก็ยังไม่สามารถซ่อนความแปลกใจไว้ได้ ตั้งแต่เมื่อไรกันที่นายน้อยอี้สนใจว่าผู้หญิงจะชอบเขาหรือไม่? “คุณหลิง... ก่อนหน้านี้ทรมานมาก ผมกลัวว่าเธอจะมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ชัดเจนกว่าใคร ๆ ยิ่งไปกว่านั้น ถ้านายน้อยคบกับผู้หญิงแบบเธอ เธออาจจะฟังนายน้อยในตามสถานการณ์แต่เธออาจจะทำตัวห่างเหินจากนายน้อย” เกา ฉงหมิง วิเคราะห์สถานการณ์ของอี้ จิ่นหลี “จากสิ่งที่ผมเห็น คุณหลิงเป็นคนที่ชอบวิธีที่นุ่มนาล ทำไมนายน้อยไม่ลองถ่อมตัวต่อหน้าเธอล่ะครับ? บางทีมันอาจจะทำให้กำแพงของเธอพังก็ได้นะครับ” “ถ้าอย่างนั้นเธออาจจะชอบฉันก็ต่อเมื่อฉันหลอกเธองั้นเหรอ?” อี้ จิ่นหลี พึมพำ เกา ฉงหมิง กระพริบตาดูตกใจ เขา... เขาแค่แนะนำว่าเจ้านายควรจะอ่อนน้อม เขาไม่ได้บอกให้ประจบเธอ อืม... ถ้านายน้อยอี้ต้องการจะประจบผู้หญิงคนนี้แล้วผู้หญิงจะเป็นแบบไหน... “แล้วฉันจะประจบเธอได้โดยวิธีไหน?” อี้ จิ่นหลี กล่าว เกา ฉงหมิง รู้สึกเหมือนมีอะไรติดอยู่ในลำคอพูดอะไรไม่ออก จากน้ำเสียงของเขา เขาต้องการที่จะประจบหลิง อี้หรานจริง ๆ ใช่ไหม? โทรศั
ผู้ชายคนนี้ใส่สูทโดยเน้นคุณลักษณะที่สมบูรณ์แบบของเขา เขาดูเหมือนเจ้าชายจากมังงะ ผู้คนอาจจะไม่เชื่อว่าคนแบบนี้จะเป็นแฟนของเธอ ชิน เหลียนอี อยากถอนหายใจไปจนถึงสวรรค์ เธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในสองสามวันนี้และคิดว่าเธอเป็นเรื่องที่น่าสังเวชอย่างมาก ทุกอย่างเริ่มขึ้นจากการนัดดูตัวครั้งนั้น เธอคิดว่าเนื่องจากทุกอย่างได้ไปสู่จุดจบแล้วนั่นจะเป็นจุดจบของมัน ด้วยความประหลาดใจของเธอ เธอถูกแม่ดุด้วยความโกรธเมื่อกลับถึงบ้านหลังจากนัดดูตัว แม่ถามเธอว่าทำไมเธอไม่บอกเขาว่าเธอมีแฟนแล้ว คนที่แนะนำเธอให้ไปนัดดูตัวถึงกับโทรหาพ่อแม่ของเธอและดุด่าพวกเขา พวกเขาบอกว่าเธอทำให้ทั้งครอบครัวอับอาย จากนั้นพ่อแม่ของเธอก็เริ่มถามเธอว่าแฟนของเธอเป็นใคร เมื่อสิ่งนี้เกิดขึ้น ชิน เหลียนอี ต้องปฏิเสธแน่นอน เธอจะบอกว่าเขาเป็นแค่เพื่อนที่เดินผ่านไป เขารู้ว่าเธอไม่อยากไปนัดดูตัวเขาจึงพยายามช่วยเธอ ในตอนท้ายพ่อแม่ของเธอถามเธอว่าเป็นเพื่อนคนไหน เธอจึงพูดชื่อผู้ชายที่ค่อนข้างสนิทกับเธอ เธอตัดสินใจที่จะวางแผนที่จะบอกเรื่องราวของพวกเขาหลังจากนี้ ในท้ายที่สุด ก่อนที่พวกเขาจะทำเช่นนั้น ไป๋ ทิงชิน ก็โทรมาหาเธอ ก่อนท