เธอไม่พูดอะไร ไม่ว่าคำพูดของเขาตอนนี้จะรุนแรงแค่ไหน แต่ก็ไม่สามารถทำร้ายเธอได้อีกแล้ว เวลาที่เหลือของเธอจะมีไว้เพื่อแม่และอาหยันน้อยเท่านั้น“โอเค ฉันจะเอาข้อตกลงมาให้คุณเดี๋ยวนี้แหละ” เธอพูดและชำเลืองมองแขนตัวเองซึ่งยังถูกเขาจับกุมไว้ “คุณเย่ ช่วยปล่อยฉันได้ไหมคะ?” เย่เหวินหมิงคลายมือของเขาด้วยใบหน้าเย็นชาโจวเชียนหยุนเดินนำไปในขณะที่เย่เหวินหมิงมองไปยังแผ่นหลังของเธอ ในทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงความอ้างว้างในฝ่ามือของเขา... มันน่ากลัวเห็นได้ชัดว่าเธอยินยอมทำตามคำขอของเขา แต่ทำไมเขาถึงรู้สึกไม่สบายใจขนาดนี้?โจวเชียนหยุนและเย่เหวินหมิงมาถึงบ้านเช่าของเธอไม่มีใครอยู่ที่บ้านคุณนายโจวเองก็ออกไปข้างนอกเช่นกัน โจวเชียนหยุนเข้าไปในห้อง หยิบกระดาษและปากกาออกมาก่อนจะถามเย่เหวินหมิง “คุณอยากให้ฉันเขียนอะไร?”เขามองเธอและพูดว่า “เขียนว่าเธอจะยอมแพ้เรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูและเธอจะส่งอาหยันน้อยให้ฉันในสามเดือน นับจากนั้น เธอจะไม่โผล่หน้าออกมาให้เขาเห็น หรือติดต่อกับเขาส่วนตัวอีก อย่าพยายามเล่นแง่อะไร ถ้าเธอพยายามลอง ฉันจะทำให้เธอลำบากกว่าที่เจอในคุกแน่”“ไม่ต้องห่วง ฉันไม่เล่นแง่อะไรหรอ
โจวเชียนหยุนพยายามจะสลัดมือออกจากการเกาะกุมของเขา แต่นิ้วของเขาไม่ต่างอะไรจากลูกกรงเหล็ก ยิ่งเธอพยายามก็ยิ่งเจ็บตัว“บอกมาสิ เธอเองไม่ใช่เหรอที่เอาเศษแก้วแทงท้องตัวเอง? แล้วก็บอกว่าไม่อยากมีลูกอีก?” เย่เหวินหมิงถามเสียงเข้มโจวเชียนหยุนหยุดดิ้นและเงยหน้ามองชายตรงหน้า ไม่ว่าเธอจะเคยรักเขาแค่ไหน แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้หมดเกลี้ยงไปแล้ว“ถ้าเขาเป็นคนที่ฉันชอบ แล้วไงถ้าฉันเต็มใจจะมีลูกกับเขา? เย่เหวินหมิง ฉันจะไม่ยอมมีลูกอีกคนกับคุณตราบเท่าที่ฉันยังมีชีวิตอยู่!” เธอตอบกลับ เสียงนิ่ง ๆ ของเธอดูเหมือนจะไม่ได้มีอารมณ์ร่วมใดเจือปนในทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นมา “จริงเหรอ? ผู้ชายที่เธอชอบ? ผู้ชายคนก่อนหน้านี้น่ะเหรอ? อย่าลืมล่ะว่าเธอเคยบอกว่าชอบฉัน เธอแก้ผ้าและปีนขึ้นเตียงฉันด้วยซ้ำ” “เป็นความผิดพลาดของฉันเอง” เธอกล่าวอย่างเย็นชา‘ความผิดพลาด...’ คำนั้นดูเหมือนจะปั่นป่วนเขา เขาก้มหน้าลงจูบเธออย่างรุนแรงในทันที ราวกับว่าเขาอยากจะพิสูจน์บางอย่างด้วยการทำให้เธอเงียบลงโจวเชียนหยุนพยายามต่อต้านในทันทีที่เธอรู้สึกตัว แต่ดูเหมือนเธอจะพ่ายแพ้ในการต่อต้านและตอบรับจูบของเขาไปชั่วขณะหนึ่ง
ในตอนนี้จู่ ๆ ความรู้สึกตื่นตระหนกก็เข้ามาเกาะกุมหัวใจของเขา ...“เหวินหมิง ทำไมอยู่ ๆ คุณถึงถอนฟ้องล่ะคะ? คุณไม่ต้องการสิทธิ์เลี้ยงดูลูกแล้วเหรอ?” คงจื่ออินเดินทางมาที่เมืองเฉินโดยเฉพาะและถามคำถามนั้นในทันทีที่เจอหน้าเย่เหวินหมิงเธอร้อนใจมาตลอดตั้งแต่ที่เขามาเมืองเฉิน ราวกับรู้ว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นแม้ตอนนี้โจวเชียนหยุนจะตกต่ำถึงขีดสุด แต่เธอก็ยังมีลูกกับเย่เหวินหมิง สายสัมพันธ์ของพวกเขา อย่างไรแล้วก็ตัดไม่ขาด!เธอไม่มีวันสบายใจได้ตราบเท่าที่ยังไม่ได้เป็นคุณนายตัวจริงของบ้านตระกูลเย่!“ผมทำข้อตกลงกับเธอไปแล้ว เธอจะส่งอาหยันน้อยให้ผมในอีกสามเดินและจะไม่โผล่หน้ามาให้อาหยันน้อยเห็นหลังจากนั้นอีก” เย่เหวินหมิงกล่าวเสียงเบาคงจื่ออินประหลาดใจและถามว่า “เธอ... ไม่ได้คิดจะทำอะไรใช่ไหมคะ? ทำไมอยู่ ๆ เธอถึงได้ยอมแพ้สิทธิ์การเลี้ยงดูได้ง่าย ๆ ขนาดนี้?”‘คิดจะทำอะไร...’ ภาพของโจวเชียนหยุนและผู้ชายที่ดูซื่อสัตย์คนนั้นมองกันอย่างอบอุ่นผุดขึ้นในหัวของเขา และเขาก็รู้สึกอึดอัดในอกทันที “พอแล้ว เธอจะไปคิดทำอะไรได้? เธอเป็นใครจะมาสู้กับผม?” มีความโกรธซ่อนอยู่ในน้ำเสียงของเย่เหวินหมิงคงจื่
โจวเชียนหยุนไม่คิดว่าคงจื่ออินจะโผล่หน้ามาให้เธอเห็นอีกครั้งคงจื่ออินในชุดออกแบบจากแบรนด์เสื้อผ้าชื่อดังดูสง่างามและเยือกเย็น เธอดูเหมือนคุณผู้หญิงรวย ๆ คนหนึ่ง ทั้งยังมีรอยยิ้มแห่งชัยชนะอยู่บนใบหน้าละเอียดอ่อนช้อยของเธออีกด้วย“โจวเชียนหยุน เจอกันอีกแล้วนะ พูดไปแล้วฉันนึกว่าเธอจะสู้กับเหวินหมิงจนหมดหน้าตักซะอีก แต่ไม่คิดเลยนะว่าเธอจะยอมแพ้ในสิทธิ์การเลี้ยงลูกก่อนคดีจะถึงศาล ทำไมล่ะ? เธอพยายามจะเรียกร้องผลประโยชน์มากกว่านี้จากการยอมแพ้เรื่องสิทธิ์การเลี้ยงดูเหรอ?” คงจื่ออินยืนอยู่ตรงหน้าแผงขายอาหารและมองโจวเชียนหยุนอย่างดูถูก ราวกับว่ากำลังมองคนขี้แพ้โจวเชียนหยุนค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น “มาถึงนี่เพื่อบอกฉันแค่นี้ใช่ไหม?”“ไม่จ้ะ ฉันมาเพื่อบอกเธอว่า เหวินหมิงกับฉันจะแต่งงานกันในอีกสามเดือน พอเธอส่งเด็กมาให้เย่เหวินหมิงในอีกสามเดือนแล้ว ฉันจะเป็นคนดูแลเขาเป็น ‘อย่างดี’ เอง” คงจื่ออินกล่าวเน้นคำว่า ‘อย่างดี’ แต่คนฟังสามารถรู้สึกได้ถึงความข่มขู่ผ่านสิ่งนี้ทันทีโจวเชียนหยุนหรี่ตามองเธออย่างเย็นชาคงจื่ออินกล่าวด้วยรอยยิ้มมุมปาก “แม้ว่าเธอจะทำให้ฉันแท้ง แต่ยังไงลูกก็ยังเป็นลูกของเหวินหมิง
คงจื่ออินตัวสั่นด้วยความโกรธ และความโกรธของเธอก็เกินควบคุม “โจวเชียนหยุน ดีนี่ คอยดูได้เลย!”เธอกดโทรออกพลางพูด จากนั้นไม่นานก็มีอันธพาลเข้ามาและเริ่มไล่ลูกค้าไป พวกเขาสร้างปัญหาด้วยการคว่ำโต๊ะร้านของโจวเชียนหยุน ในขณะที่คงจื่ออินแค่นั่งมองอยู่ข้าง ๆ ด้วยรอยยิ้มโต๊ะเดียวที่อันธพาลไม่ยุ่งคือโต๊ะที่คงจื่ออินนั่งอยู่ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาเป็นคนที่คงจื่ออินเรียกมาหนึ่งในอันธพาลตรงเข้าไปเตะและต่อยโจวเชียนหยุน แม้ว่าเธอพยายามปัดป้อง แต่ก็ไม่สำเร็จในไม่ช้าโจวเชียนหยุนก็ล้มลงไปกองกับพื้นอันธพาลเตะโจวเชียนหยุนด้วยเท้าและพ่นคำสบถ “แกตาบอดเหรอ? ไม่รู้หรือไงว่าใครหาเรื่องได้ไม่ได้? วันนี้เราจะสอนบทเรียนให้แกเอง คราวหน้าคราวหลังจะได้มองเห็นชัด ๆ ไง!"โจวเชียนหยุนกัดฟันแน่น ถึงอย่างนั้นเธอก็ยังไม่ร้องขอความเมตตา นี่เป็นการกระทำสุดท้ายที่เธอจะยังเหลือศักดิ์ศรีได้อยู่ในทันใดนั้นเองแรงที่กำลังทุบตีเธออยู่ก็หายไป เธอได้ยินเสียงร้องของอันธพาลคนนั้นและเสียงกรี้ดของคงจื่ออิน‘เกิดอะไรขึ้น?’โจวเชียนหยุนตะลึงไป จากนั้นเธอก็ได้ยินเสียงคุ้นเคย “พี่โจวไม่เป็นไรใช่ไหมคะ? เจ็บตรงไหนหรือเปล่า?”โจวเช
อี้จิ่นหลีเป็นคนแรกที่รู้ตัวและพูดราวกับว่าเข้าใจบางอย่าง “เกิดอะไรขึ้น? คุณมาที่นี่เพื่อรับคู่หมั้นเหรอ ประธานเย่?”“คุณล่ะ นายน้อยอี้? มารับใครที่นี่ด้วยเหรอ?” เย่เหวินหมิงถามกลับแทนที่จะตอบคำถาม“ฉันมาที่นี่เพื่อรับภรรยาและเพื่อนของเธอ” อี้จิ่นหลียิ้มจาง ๆ เย่เหวินหมิงขมวดคิ้ว เมื่อกี้คงจื่ออินไม่ได้พูดอะไรมาก เธอแค่บอกว่ามีเรื่องเกิดขึ้นและอยู่ที่สถานีตำรวจ ทั้งเธอยังสะอื้นเล็กน้อย เพราะอย่างนั้นเขาเลยไม่ได้ถามอะไรเพิ่มและรีบมุ่งหน้ามาถึงอย่างนั้นเมื่อได้ยินสิ่งที่อี้จิ่นหลีกล่าว เย่เหวินหมิงก็รู้สึกได้ถึงหัวใจที่เต้นรัวของตนเอง ใบหน้าของโจวเชียนหยุนปรากฏขึ้นในความคิดของเขา‘โจวเชียนหยุน... อยู่ที่สถานีตำรวจด้วยเหรอ?’ในตอนที่เย่เหวินหมิงกำลังจะเดินเข้าไปข้างใน จู่ ๆ อี้จิ่นหลีก็กล่าวขึ้นมาว่า “ได้ยินมาว่าโจวเชียนหยุนมอบสิทธิ์การเลี้ยงดูให้คุณแล้วเหรอประธานเย่ คุณสงสัยไหมว่าทำไม?”‘ทำไม...’ เย่เหวินหมิงคิดถึงเรื่องที่โจวเชียนหยุนพูดเรื่องเริ่มต้นชีวิตใหม่ และได้แต่งงานมีลูกกับผู้ชายคนอื่น เขาพบว่าฟันของตัวเองขบกันแน่น “ไม่คิดเลยนะว่านายน้อยอี้จะชอบเรื่องซุบซิบกับเขาด้วย”
ปกติแล้วเธอมักจะไม่ทำตัวเด่น แต่ครั้งนี้เธอต้องออกหน้าเพื่อพี่โจว ไม่อย่างนั้นคงจื่ออินก็จะยิ่งรังแกพี่โจวมากไปกว่านี้แน่!ดวงตาของคงจื่ออินเปล่งประกายเล็กน้อย แต่เธอก็ยังคงดื้อรั้นด้วยการพูดว่า “ได้สิ ฉันเองก็อยากรู้ความจริงเหมือนกัน!”หลิงอี้หรานเมินคงจื่ออิน และมองไปที่โจวเชียนหยุน “พี่โจว ลุกไหวไหมคะ?”“ไหวจ้ะ” โจวเชียนหยุนฝืนยิ้มและซวนเซลุกขึ้นเดินหลิงอี้หรานกำลังจะเข้าไปช่วยพยุงโจวเชียนหยุน แต่อี้จิ่นหลีกล่าวว่า “ฉันทำเอง” พูดจบเขาก็จับแขนของโจวเชียนหยุน แล้วพวกเขาทั้งสามก็พากันออกไปที่ทางออกของสถานีตำรวจดวงตาของเย่เหวินหมิงหรี่ลงเล็กน้อย เขารู้ว่าอี้จิ่นหลีและโจวเชียนหยุนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกัน เป็นเพราะหลิงอี้หรานชายหนุ่มจึงเต็มใจจะช่วยเหลือโจวเชียนหยุนถึงอย่างนั้นเย่เหวินหมิงก็ยังคงพบว่าภาพนั้นบาดตาเขาเป็นพิเศษโจวเชียนหยุนไม่ได้ชายตามองเย่เหวินหมิงแม้แต่นิดเดียวในตอนที่เธอเดินผ่านเขา เธอไม่สนใจเขาเลยสักนิดริมฝีปากของเย่เหวินหมิงเม้มเข้าหากันจนเกือบเป็นเส้นตรง เขามองร่างของโจวเชียนหยุนที่กำลังเดินจากไปคงจื่ออินหัวเสียขึ้นมาขณะมองเย่เหวินหมิง เขาเอาแต่จ้องแผ่นหลังข
‘โจวเชียนหยุน พอฉันได้เป็นนายหญิงบ้านตระกูลเย่แล้ว ฉันจะไม่ปล่อยเธอและลูกนอกคอกของเธอไปแน่! ฉันจะเลี้ยงเด็กนั่นให้เป็นคนหัวทึบไร้ประโยชน์ และไม่มีที่ว่างให้เธอได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงอะไร! ...หลิงอี้หรานและอี้จิ่นหลีไปโรงพยาบาลเป็นเพื่อนโจวเชียนหยุนเพื่อตรวจเช็กบาดแผลตามตัว โชคดีที่โจวเชียนหยุนมีรอยแผลแค่ผิวหนังภายนอกเท่านั้น ไม่ได้ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือกระดูกของเธอหลังจากไปส่งโจวเชียนหยุนที่บ้าน หลิงอี้หรานก็ยังคงหงุดหงิดกับการกระทำอันน่ารังเกียจของคงจื่ออิน“คุณว่า พี่โจวจะเชื่อใจว่าเย่เหวินหมิงจะดูแลอาหยันน้อยได้จริงไหมคะ? พอเย่เหวินหมิงกับคงจื่ออินแต่งงานกันแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็จะกลายเป็นแม่เลี้ยงของอาหยันน้อยนะ!” หลิงอี้หรานกล่าวอี้จิ่นหลีกล่าวว่า “เธอก็คงมีเหตุผลของเธอ เอาเถอะ ๆ ใจเย็นก่อนนะ ผู้หญิงท้องโกรธมันไม่ดีกับลูกนะ”หลิงอี้หรานตอบว่า “ฉันแค่รู้สึกว่าไมยุติธรรมกับพี่โจวเลย เย่เหวินหมิงไม่เห็นเหรอว่าคงจื่ออินเสแสร้งแค่ไหน?”“บางทีเขาอาจจะเห็นนะ แต่ปล่อยผ่าน เท่าที่ฉันรู้ เย่เหวินหมิงคบกับคงจื่ออินเพราะเขาเคยเป็นโรคที่ต้องการปลูกถ่ายไขกระดูกในตอนที่ตระกูลเย่กำล