เกาฉงหมิงกล่าวปกป้องตัวเองเล็กน้อยและหาทางออกให้อี้จิ่นหลีออกจากสถานการณ์น่าอึดอัดใจนี้อี้จิ่นหลีถูหน้าผากของตนเอง ใช่ เมื่อวานเขายุ่งมากเสียจนไม่มีเวลาตรวจดูอีเมล เขาคิดว่าในเมื่อวันนี้ก็มาตรวจอยู่แล้วอ่านหรือไม่อ่านผลวินิจฉัยอย่างไรก็คงไม่ต่างกัน ไม่คิดเลยว่าเธอจะกำลังอุ้มท้องแฝดสามอยู่ดวงตาที่กำลังตกตะลึงของอี้จิ่นหลีมองไปยังท้องของหลิงอี้หราน ‘มีเด็กสามคน... อยู่ในท้องฟีบ ๆ นั่นเหรอ?’‘เรากำลังจะ... มีลูกสามคนไม่ใช่คนเดียวเหรอ?’หลิงอี้หรานเองก็มองท้องของตัวเองด้วยความตะลึงไปเช่นกัน เธอไม่อยากจะเชื่อ... เลยสักนิด!‘แฝดสาม?’แค่เด็กคนเดียวเธอก็รู้สึกว่าเป็นของขวัญล้ำค่าจากพระเจ้าแล้วตอนนี้ พระเจ้ากำลังมอบของขวัญล้ำค่าให้เธอถึงสามคนเลยเหรอ?น้ำตาของเธอเอ่อคลอเมื่อนึกถึงความจริงอันคาดไม่ถึงนี้“เธอร้องไห้ทำไม?” อี้จิ่นหลีขมวดคิ้วขณะมองน้ำตาในดวงตาของอี้หราน“ฉัน... ฉันแค่ดีใจมาก... ฉันกำลังจะมีลูกสามคนใช่ไหมคะ?” เธอร้องไห้“เราจะมีลูกสามคน” เขาย้ำความถูกต้องขณะที่รับทิชชู่มาจากเกาฉงหมิงแล้วเช็ดน้ำตาบนหน้าให้เธออย่างแผ่วเบา “เอาล่ะ หยุดร้องดีกว่า ร้องไห้มากไปก็ไม่ดีกับลูก
“มันจะเป็นอันตรายต่อแม่หรือเปล่า?” มีความตึงเครียดปรากฏในน้ำเสียงของอี้จิ่นหลี“ไม่น่าจะมีอันตรายถึงชีวิต แต่โอกาสเสียเลือด ติดเชื้อในมดลูก อวัยวะภายในได้รับความเสียหาย หรืออาการแทรกซ้อนอื่น ๆ ก็ยังสามารถเกิดได้ในการผ่าตัดลดการตั้งครรภ์... และด้วยสุขภาพร่างกายของคุณนายอี้ในตอนนี้ หากเกิดการแท้งไปมีโอกาสน้อยมากที่ในอนาคตจะตั้งครรภ์ได้อีกครั้ง” หมอให้คำแนะนำทุกความเป็นไปได้ที่อาจเกิดขึ้นใบหน้าของอี้จิ่นหลีจริงจัง การมีลูกสามคนในท้องหมายถึงความเสี่ยงที่สูงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้พวกเขาเลือกไม่ได้ถึงอย่างนั้นสำหรับเขาแล้วมันไม่ใช่ตัวเลือกที่ยากเลย เพราะเขาเป็นห่วงเธอมากกว่าเด็กทั้งสาม!เขารู้ว่ามันยากแค่ไหนสำหรับเธอที่จะตั้งท้องในตอนที่เขาตกหลุมรักเธอ และดูเหมือนพวกเขาจะไม่มีวันมีลูกด้วยกันได้ ตอนนั้นเขาไม่สนใจ แต่ตอนนี้เขาเสียใจเล็กน้อย ถึงอย่างไรเขาก็รู้ดีว่าเขาห่วงสิ่งไหนมากที่สุด“งั้นก็ทำหัตถการลดการตั้งครรภ์อะไรนั่นเถอะ” อี้จิ่นหลีกล่าวหลิงอี้หรานรีบค้านทันที “ไม่นะคะ! ฉันไม่อยากทำ!”อี้จิ่นหลีขมวดคิ้วและมองหลิงอี้หราน “รู้ไหมว่าถ้าเธอไม่ทำมันจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง?”“ฉันรู้ค่ะ!” เธ
เย่ฉงเว่ยพูดด้วยรอยยิ้มกว้าง “ไม่ นายไม่บอกฉันเลยว่าได้รับบาดเจ็บจนฉันต้องรู้จากคนอื่น ทำไมล่ะ? นายกลัวฉันจะไปขวางโอกาสที่นายจะได้ใกล้ชิดกับเธอเหรอ? คราวนี้นายคงจะไม่ได้พยายามเอาชนะใจเธอด้วยการช่วยชีวิตเธอใช่ไหม?”กู้ลี่เฉินลดสายตาลงเล็กน้อย และนึกถึงภาพร่างบางของเธอที่พุ่งเข้ามาหยุดรถตอนที่เขาออกจากคฤหาสน์เมื่อเช้าวันนั้น‘เธอหน้าซูบซีดและซีดเซียว แต่เธอก็ยังพยายามฝืนตัวเองเพื่อมาหาฉัน! ถึงอย่างนั้นที่เธอมาหาฉันก็เพื่อกวอซินหลี่เท่านั้น!‘ฉันตายเพื่อเธอได้ แต่เธอดูเหมือนจะเต็มใจเสี่ยงชีวิตตัวเองเพื่อกวอซินหลี่‘เพียงแค่คำพูดของเขา เธอก็สามารถเชื่อใจกวอซินหลี่ได้โดยไม่มีหลักฐาน กวอซินหลี่มีดีอะไรเธอถึงเชื่อใจขนาดนั้น?’เป็นอีกครั้งที่กู้ลี่เฉินรู้สึกไม่พอใจและอิจฉาเขาจะทำให้เธอรู้ว่ากวอซินหลี่อะไรนั่นสมควรได้รับโทษและเธอไม่ควรจะเชื่อใจเขาอีกต่อไป!“ทำไม? ดูหน้านายสิ... อย่าบอกนะว่าหลิงอี้หรานไม่ตกหลุมรักนายเลย? เป็นไปได้ไหมว่าเธอจะยังรักจิ่นหลีอยู่ ?” เย่ฉงเว่ยกล่าวใบหน้าของกู้ลี่เฉินบึ้งตึงในทันทีเมื่อได้ยินอย่างนั้นเย่ฉงเว่ยรู้ว่าเขาพูดผิดไปแล้วจึงรีบหัวเราะแห้งกลบเกลื่อน
สีหน้าเย่ฉงเว่ยเครียดขึ้นมาในทันที นั่นเป็นเรื่องจริง ถ้าเขาไม่บอกตอนนี้ ในไม่ช้าวันหนึ่งลี่เฉินก็คงรู้เองอยู่ดีอย่างไรเสียเรื่องแบบนั้นก็ซ่อนไว้ไม่ได้อยู่แล้ว!“แต่นายต้องทำใจดี ๆ ไว้นะ อีกอย่างฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า” เย่ฉงเว่ยกล่าวกู้ลี่เฉินเลิกคิ้วเล็กน้อย ไม่รู้ทำไมเขารู้สึกสังหรณ์ใจแปลก ๆ ราวกับว่าเรื่องที่เย่ฉงเว่ยกำลังจะบอกเป็นสิ่งสุดท้ายที่เขาอยากได้ยิน!เมื่อเย่ฉงเว่ยส่งโทรศัพท์มือถือให้กู้ลี่เฉิน รูม่านตาของดวงตารูปนกฟินิกซ์ก็หดตัวลงในทันทีที่เห็นรูปในโทรศัพท์ เขาจับมือถือไว้และมองภาพบนหน้าจอ เลือดในกายของเขาราวกับโดนแช่แข็ง แม้แต่ลมหายใจก็หยุดลงมีชายหญิง... อยู่ในรูป ทั้งคู่แต่งกายด้วยชุดสีขาวเข้าคู่กันเหมือนคู่รัก พวกเขานั่งอยู่บนเก้าอี้สำหรับรอคิว รูปนั้นเป็นภาพถ่ายหน้าจอมือถือซึ่งมีแคปชั่นว่า : [ลองเดาดูซิว่าใครมาแต่งงานที่ที่ว่าการอำเภอวันนี้? ใครทายถูกมีรางวัลให้!]เมื่อเพื่อนของเย้ฉงเว่ยส่งภาพนั้นมา เขาก็ถามว่า : [มีคนส่งรูปนี้มาให้ฉัน คนนี้จิ่นหลีไม่ใช่เหรอ? เขาแต่งงานแล้วเหรอ? ไม่จริงน่า!]‘นั่นอี้จิ่นหลีเหรอ...’ ถ้าถามกู้ลี่เฉิน เขาก็จะ
‘ไม่ใช่กวอซินหลี่เหรอที่อี้หรานสนใจ? ทำไมเธอถึงแต่งงานกับจิ่นหลี? เพื่อเด็กในท้องงั้นเหรอ?‘ไม่ได้การ ฉันต้องรู้เรื่องนี้ให้ได้!’ทันทีที่วางสายกู้ลี่เฉินก็ลุกพรวดขึ้นและหยิบกุญแจรถก่อนจะตรงไปทางประตูทางออก“เฮ้ย เดี๋ยวก่อน! นายจะไปไหนเนี่ย?” เย่ฉงเว่ยถามขณะที่รีบมาขวางเขาไว้“ฉันจะไปหาอี้หราน จะได้รู้สักทีว่ามันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น ฉันอยากรู้ว่ามันมีเรื่องอะไรมากกว่านี้อีกไหม!” กู้ลี่เฉินกล่าวด้วยความร้อนรนบนใบหน้าภาพของเธอที่หยุดรถเขาในเช้าวันนั้นยังคงวนซ้ำอยู่ในหัวเขา เมื่อเขาเลือกที่จะหลับตาลงเพราะความหึงและเมินเฉยต่อเธอ สีหน้าเดียวที่เขาเห็นก็มีเพียงความสิ้นหวัง‘ฉันพลาดอะไรไปงั้นเหรอ?’ หัวใจของเขาฉีกขาดเมื่อคิดถึงเรื่องนั้น“นายยังไม่หายดีเลยนะ! ทำไมนาย... ไม่ให้ฉันขับรถให้ล่ะ? ฉันจะไปกับนายเอง” เย่ฉงเว่ยกล่าว อย่างไรเสียเขาก็เป็นคนเอารูปให้ลี่เฉินดู เพราะอย่างนั้นเขาเองก็มีส่วนผิดเช่นกันนอกจากนั้นเขายังรู้จักลี่เฉินและจิ่นหลีมาหลายปี เขากลัวว่าทั้งสองคนจะตีกันเรื่องหลิงอี้หรานอีกเย่ฉงเว่ยไม่เคยลืมเลยว่าจิ่นหลีถึงกับบีบคอลี่เฉินเพราะเรื่องหลิงอี้หรานกู้ลี่เฉินไม่ได
‘ในที่สุดเธอก็เป็น... ของฉัน เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉัน!’แม้ว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องใบสมรสอะไรนั่นเลย แต่มันก็ช่วยผูกมัดเธอไว้กับเขาได้แม้ว่าเธอจะอยู่กับเขาเพียงเพื่อชินเหลียนอีและเด็กในท้อง แต่ก็ไม่เป็นไรตราบใดที่เธอยังอยู่ข้างกายเขาและไม่ไปไหน!“อี้หราน ถ้าเธออยากไปจากฉันอีก ฉันจะไม่ ‘อ่อนโยน’ เหมือนครั้งล่าสุดแล้วนะ ฉันจะไม่ลังเลที่จะหักปีกเธอไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม ถึงเธอจะเกลียดฉัน หรือคุกเข่าให้ ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไป” เขาพึมพำเสียงเบาจนมีแค่เขาที่ได้ยินเขามองเธอด้วยความรู้สึกหลงใหลอันไม่มีที่สิ้นสุดในดวงตาของเขา‘ไม่เคยคิดเลยว่าจะหลงใหลผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนี้‘แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำร้ายฉันให้เจ็บปวดสุด ๆ แต่ฉันก็ไม่สามารถทนทำร้ายเธอได้ และอยากให้เธออยู่เคียงข้างฉันมากที่สุด‘ฉันรักเธอมากขนาดไหนกันนะ? เหมือนกับที่พ่อฉันรักแม่ฉันไหม?‘แต่ฉันไม่ใช่พ่อ และจะไม่ยอมเป็นเหมือนเขา...’ในทันใดนั้นเองที่รถซึ่งขับมาโดยสวัสดิภาพจู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางไป และคนขับก็เหยียบเบรกกะทันหันหลิงอี้หรานตื่นขึ้นมางง ๆ เพราะรถที่หยุดลงกะทันหัน เธอได้ยินเสียงของอี้จิ่นหลีถามว่า “เกิด
‘เธอใส่ชุดเดียวกันกับในรูปถ่าย และอี้จิ่นหลี...’ กู้ลี่เฉินมองผ่านหลิงอี้หรานไปและเห็นอี้จิ่นหลีซึ่งนั่งอยู่ในรถประตูยังไม่ปิดลง ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นชุดสูทสีชาวของอี้จิ่นหลีที่เหมือนกับในรูปหลิงอี้หรานเดินเข้ามาหาหลิงอี้หรานทีละก้าว ทีละก้าวจนเธอหยุดยืนห่างจากเขาไปเพียงสองก้าวเท่านั้น“คุณขวางรถไว้เพื่อเจอฉันเหรอ?” เธอถาม“วันนี้คุณ... กับอี้จิ่นหลีจดทะเบียนสมรสกันแล้วเหรอ?” กู้ลี่เฉินถามเสียงแหบแห้ง“ค่ะ” หลิงอี้หรานตอบ“ทำไมล่ะ?” คำพูดเหล่านั้นราวกับพยายามเล็ดลอดออกมาจากหันของเขา“ฉันกำลังตั้งท้องลูกของอี้จิ่นหลี” เมื่อเปรียบเทียบกับกู้ลี่เฉินที่กำลังร้อนใจแล้ว หลิงอี้หรานดูสงบกว่ามากใบหน้าของกู้ลี่เฉินเปลี่ยนเป็นซีดเซียว และดวงตาของเขาก็มองไปยังท้องของเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ ‘เธอท้องจริงเหรอ?’ เขาคิดว่าจิ่นหลีพูดแบบนั้นก็เพื่อทำให้เขาขุ่นเคือง แต่ไม่คิดเลยว่าความจริงตอนนี้จะกระแทกเขาเข้าอย่างจังผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจตอนนี้แต่งงานกับผู้ชายคนอื่น และเธอก็กำลังตั้งท้องลูกของชายคนนั้น“ถ้าเขาเอาเด็กมาข่มขู่คุณ ผม...”ทว่าก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เธอก็พูดแทรกขึ้นว่า
เพราะอย่างนั้นเขาจึงห้ามไม่ให้หวาลี่ฟางเรียกเขาว่าเฉินเฉินอีก ชื่อนั้นปิดผนึกอยู่ในความทรงจำของเขาราวกับเป็นสิ่งต้องห้าม แต่หลิงอี้หรานเรียกเขาว่าเฉินเฉินอีกครั้ง เธอ...อยู่ ๆ เขาก็จำขึ้นมาได้ว่าครั้งล่าสุดที่พวกเขาเจอกันในโรงพยาบาล เธอเรียกเขาว่าเฉินเฉินและบอกว่าเธอคือเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เจอกับเขาเมื่อตอนเด็ก! ตอนนั้นเขาคิดเพียงว่าเธอพูดเพื่อช่วยกวอซินหลี่ก็เท่านั้น! ‘เป็นไปได้ไหมว่า... เป็นไปได้ไหม...’ในตอนนั้นเองที่เขาไม่กล้าคิดอะไรเรื่องนี้อีกเสียงของหลิงอี้หรานยังคงพูดต่อไปว่า “คุณช่วยชีวิตฉันไว้มากกว่าครั้งหนึ่ง และฉันก็รู้สึกขอบคุณมาก ฉันเข้าใจความรู้สึกที่คุณมีให้ฉัน แต่ฉันตอบรับมันไม่ได้ ความรู้สึกของฉันที่มีต่อคุณไม่เคยเป็นความรัก หยุดรักฉันเถอะค่ะ และไม่ต้องมาเสียเวลามอบความรู้สึกให้ฉันอีกต่อไปแล้ว เรื่องที่คุณช่วยฉัน ฉันจะต้องตอบแทนคุณแน่เมื่อมีโอกาส”“สิ่งที่ผมต้องการจากคุณไม่ใช่การตอบแทน!” กู้ลี่เฉินกล่าว เขามองเธออย่างพินิจพิจารณา และพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “บอกผมหน่อยว่าคุณเป็น... เด็กผู้หญิงที่ผมตามหาจริงเหรอ?”“ฉันเป็นใครมันสำคัญด้วยเหรอคะ?” หลิงอี้หรานพูดด้