‘ในที่สุดเธอก็เป็น... ของฉัน เธอเป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายของฉัน!’แม้ว่าเขาไม่ได้สนใจเรื่องใบสมรสอะไรนั่นเลย แต่มันก็ช่วยผูกมัดเธอไว้กับเขาได้แม้ว่าเธอจะอยู่กับเขาเพียงเพื่อชินเหลียนอีและเด็กในท้อง แต่ก็ไม่เป็นไรตราบใดที่เธอยังอยู่ข้างกายเขาและไม่ไปไหน!“อี้หราน ถ้าเธออยากไปจากฉันอีก ฉันจะไม่ ‘อ่อนโยน’ เหมือนครั้งล่าสุดแล้วนะ ฉันจะไม่ลังเลที่จะหักปีกเธอไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหนก็ตาม ถึงเธอจะเกลียดฉัน หรือคุกเข่าให้ ฉันก็จะไม่ปล่อยเธอไป” เขาพึมพำเสียงเบาจนมีแค่เขาที่ได้ยินเขามองเธอด้วยความรู้สึกหลงใหลอันไม่มีที่สิ้นสุดในดวงตาของเขา‘ไม่เคยคิดเลยว่าจะหลงใหลผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนี้‘แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะทำร้ายฉันให้เจ็บปวดสุด ๆ แต่ฉันก็ไม่สามารถทนทำร้ายเธอได้ และอยากให้เธออยู่เคียงข้างฉันมากที่สุด‘ฉันรักเธอมากขนาดไหนกันนะ? เหมือนกับที่พ่อฉันรักแม่ฉันไหม?‘แต่ฉันไม่ใช่พ่อ และจะไม่ยอมเป็นเหมือนเขา...’ในทันใดนั้นเองที่รถซึ่งขับมาโดยสวัสดิภาพจู่ ๆ ก็เปลี่ยนทิศทางไป และคนขับก็เหยียบเบรกกะทันหันหลิงอี้หรานตื่นขึ้นมางง ๆ เพราะรถที่หยุดลงกะทันหัน เธอได้ยินเสียงของอี้จิ่นหลีถามว่า “เกิด
‘เธอใส่ชุดเดียวกันกับในรูปถ่าย และอี้จิ่นหลี...’ กู้ลี่เฉินมองผ่านหลิงอี้หรานไปและเห็นอี้จิ่นหลีซึ่งนั่งอยู่ในรถประตูยังไม่ปิดลง ดังนั้นเขาจึงสามารถมองเห็นชุดสูทสีชาวของอี้จิ่นหลีที่เหมือนกับในรูปหลิงอี้หรานเดินเข้ามาหาหลิงอี้หรานทีละก้าว ทีละก้าวจนเธอหยุดยืนห่างจากเขาไปเพียงสองก้าวเท่านั้น“คุณขวางรถไว้เพื่อเจอฉันเหรอ?” เธอถาม“วันนี้คุณ... กับอี้จิ่นหลีจดทะเบียนสมรสกันแล้วเหรอ?” กู้ลี่เฉินถามเสียงแหบแห้ง“ค่ะ” หลิงอี้หรานตอบ“ทำไมล่ะ?” คำพูดเหล่านั้นราวกับพยายามเล็ดลอดออกมาจากหันของเขา“ฉันกำลังตั้งท้องลูกของอี้จิ่นหลี” เมื่อเปรียบเทียบกับกู้ลี่เฉินที่กำลังร้อนใจแล้ว หลิงอี้หรานดูสงบกว่ามากใบหน้าของกู้ลี่เฉินเปลี่ยนเป็นซีดเซียว และดวงตาของเขาก็มองไปยังท้องของเธออย่างไม่อยากจะเชื่อ ‘เธอท้องจริงเหรอ?’ เขาคิดว่าจิ่นหลีพูดแบบนั้นก็เพื่อทำให้เขาขุ่นเคือง แต่ไม่คิดเลยว่าความจริงตอนนี้จะกระแทกเขาเข้าอย่างจังผู้หญิงที่เขารักสุดหัวใจตอนนี้แต่งงานกับผู้ชายคนอื่น และเธอก็กำลังตั้งท้องลูกของชายคนนั้น“ถ้าเขาเอาเด็กมาข่มขู่คุณ ผม...”ทว่าก่อนที่เขาจะพูดจบประโยค เธอก็พูดแทรกขึ้นว่า
เพราะอย่างนั้นเขาจึงห้ามไม่ให้หวาลี่ฟางเรียกเขาว่าเฉินเฉินอีก ชื่อนั้นปิดผนึกอยู่ในความทรงจำของเขาราวกับเป็นสิ่งต้องห้าม แต่หลิงอี้หรานเรียกเขาว่าเฉินเฉินอีกครั้ง เธอ...อยู่ ๆ เขาก็จำขึ้นมาได้ว่าครั้งล่าสุดที่พวกเขาเจอกันในโรงพยาบาล เธอเรียกเขาว่าเฉินเฉินและบอกว่าเธอคือเด็กผู้หญิงคนนั้นที่เจอกับเขาเมื่อตอนเด็ก! ตอนนั้นเขาคิดเพียงว่าเธอพูดเพื่อช่วยกวอซินหลี่ก็เท่านั้น! ‘เป็นไปได้ไหมว่า... เป็นไปได้ไหม...’ในตอนนั้นเองที่เขาไม่กล้าคิดอะไรเรื่องนี้อีกเสียงของหลิงอี้หรานยังคงพูดต่อไปว่า “คุณช่วยชีวิตฉันไว้มากกว่าครั้งหนึ่ง และฉันก็รู้สึกขอบคุณมาก ฉันเข้าใจความรู้สึกที่คุณมีให้ฉัน แต่ฉันตอบรับมันไม่ได้ ความรู้สึกของฉันที่มีต่อคุณไม่เคยเป็นความรัก หยุดรักฉันเถอะค่ะ และไม่ต้องมาเสียเวลามอบความรู้สึกให้ฉันอีกต่อไปแล้ว เรื่องที่คุณช่วยฉัน ฉันจะต้องตอบแทนคุณแน่เมื่อมีโอกาส”“สิ่งที่ผมต้องการจากคุณไม่ใช่การตอบแทน!” กู้ลี่เฉินกล่าว เขามองเธออย่างพินิจพิจารณา และพูดด้วยเสียงสั่นเครือ “บอกผมหน่อยว่าคุณเป็น... เด็กผู้หญิงที่ผมตามหาจริงเหรอ?”“ฉันเป็นใครมันสำคัญด้วยเหรอคะ?” หลิงอี้หรานพูดด้
อี้จิ่นหลีแค่นเสียงอย่างเย็นชาและกำลังจะต่อยหน้ากู้ลี่เฉิน แต่ทันใดนั้นหลิงอี้หรานก็จับมือของอี้จิ่นหลีไว้“ทำไม? ทนไม่ได้หรือไง?” อี้จิ่นหลีพูดขณะที่เลิกคิ้ว ดวงตาดอกท้อของเขาเย็นเยียบ “เขาช่วยฉันกับลูกไว้นะคะ!” หลิงอี้หรานกล่าวดวงตาของอี้จิ่นหลีเป็นประกายก่อนจะปล่อยมือของอีกฝ่ายไป หลิงอี้หรานพูดอย่างจริงจังกับกู้ลี่เฉิน “ถ้าฉันตอบว่าใช่ คุณจะไม่เชื่อฉันเหมือนคราวที่แล้ว หรือจะเชื่อฉันล่ะคะ?”กู้ลี่เฉินรู้สึกตัวสั่นในทันที “งั้น คุณคือเธอจริง ๆ เหรอ?”“ครั้งหนึ่งเด็กหญิงเจอกับเด็กชายคนหนึ่งซึ่งหลบหนีมาหลังจากโดนลักพาตัว เด็กหญิงอยากพาเด็กชายคนนั้นไปยังที่ปลอดภัย พวกเขาจึงอยู่ในป่าเป็นเวลาหนึ่งวันหนึ่งคืนทั้งยังฝ่าฟันอันตรายมากมายไปด้วยกัน สุดท้ายแล้วพวกเขาก็ออกมาจากป่าพร้อมกันโดยไม่ได้ทิ้งอีกฝ่ายไว้ข้างหลัง”หลิงอี้หรานไม่ได้ตอบเขาตรง ๆ แต่เลือกที่จะพูดราวว่ากำลังเล่าเรื่องเรื่องหนึ่งอยู่กู้ลี่เฉินฟังเรื่องพร้อมกับใบหน้าที่ซีดขาวแม้แต่เสียงข้างในเขายังพูดว่า ‘หยุดนะ... หยุดเถอะ...’ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืนอยู่ที่เดิม รับฟังทุกคำพูดของเธอเข้ามาในหูและหัวใจของเขา“เด็กขายคนนั
แม้เธอจะอยากหลบเลี่ยงการทำร้ายเขามากแค่ไหน แต่สุดท้ายก็กลายเป็นแบบนี้อยู่ดี!“ขอโทษเหรอ...” กู้ลี่เฉินกล่าวเย้ย “ทั้งหมดที่ผมพยายามมาตลอดหลายปีได้แค่คำว่าขอโทษเหรอ! เฮอะ ๆ ... เฮอะ ๆ ...”เขาหัวเราะ แต่มีน้ำตาร่วงหล่นออกมาจากดวงตาของเขา หลิงอี้หรานมองน้ำตาของกู้ลี่เฉินด้วยความว่างเปล่า จนกระทั่งดวงตาของเธอถูกปิดบังด้วยมือคู่หนึ่ง “หยุดดูได้แล้ว สิ่งที่ต้องพูดเธอก็ได้พูดไปแล้ว กลับขึ้นรถเถอะ”นี่เป็น... เสียงของอี้จิ่นหลี!หลิงอี้หรานซึ่งโดนปิดตาไว้เดินตามอี้จิ่นหลีกลับขึ้นรถไปรถสีดำค่อย ๆ เคลื่อนตัวจากไปจากนั้นเย่ฉงเว่ยก็กลับมาได้สติอีกครั้งเขาประหลาดใจกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นในวันนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องที่อี้จิ่นหลีแต่งงานกับหลิงอี้หรานเท่านั้น แต่เขายังประหลาดใจกับเรื่องที่หลิงอี้หรานกลายเป็นเด็กผู้หญิงคนนั้นที่ลี่เฉินตามหามาตลอดฟังดูบ้าบอ แต่ก็เป็นเรื่องจริงเมื่อเห็นสภาพกู้ลี่เฉินในตอนนี้ เย่ฉงเว่ยก็ถอนหายใจอยู่ในใจ ตั้งแต่โตมาด้วยกันน้อยมากที่เขาจะเห็นลี่เฉินร้องไห้ แต่ตอนนี้หลิงอี้หรานทำให้ลี่เฉินร้องไห้ดูเหมือนจะเป็นเรื่องจริงที่ว่าผู้หญิงสวยมีอันตรายถึงชีวิต“ลี่เฉิ
ครั้งหนึ่งหลิงอี้หรานรู้สึกว่าพ่อตาของเธอไม่ควรทิ้งลูกที่ยังเล็กไว้ตามลำพัง เขาเลือกที่จะตายเพราะไม่สามารถทนกับการสูญเสียคนรักไปได้แต่ว่า... เขาต้องรักลูกของเขาสุดหัวใจแน่ ไม่อย่างนั้น จินคงไม่คิดถึงพ่อของเขามาขนาดนี้แม้จะผ่านไปหลายปีแล้วก็ตาม“หนูจะพยายามอย่างหนักเพื่อเป็นภรรยาและแม่ที่ดี หนูจะดูแลชีวิตคู่ให้ดี” เธอพูดอย่างจริงจังและคิดเช่นนั้นจริง ๆ ในเมื่อเธอเลือกเดินทางนี้แล้ว เธอก็อยากทำให้มันเป็นทางเลือกที่ดี แม้ว่าสิ่งที่ผูกเธอไว้กับอี้จิ่นหลีจะเป็นพวกเด็ก ๆ แต่เธอก็ยังหวังว่าอย่างน้อยลูก ๆ ของพวกเขาจะอยู่ในครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียว ไม่มีความขัดแย้งและความขุ่นข้องหมองใจกันเมื่อพูดจบ เธอก็หันไปพบว่าอี้จิ่นหลีกำลังมองเธออยู่ ดวงตาสีน้ำหมึกของเขาราวกับปกคลุมไปด้วยสีเหลืองเรืองรอง“ทั้งหมดที่พูด... เป็นเรื่องจริงนะ” เธอพูดและรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อยกับสายตาของเขา“สาบานได้ไหม?” เขาพูดช้า ๆ น้ำเสียงเย็นชาของเขาฟังดูจริงจังอย่างบอกไม่ถูกในห้องไว้ทุกข์ให้บรรพชนนี้“สาบาน?” เธอตะลึงไป“ใช่ สาบาน สาบานต่อหน้าป้ายจารึกของพ่อฉันว่าเธอจะไม่ทิ้งฉันไปอีก และจะอยู่ข้าง ๆ ฉันจนกว่าเ
อี้จิ่นหลี้เม้มปากบางของตัวเองแน่นขณะที่เดินเข้าไปหาหลิงอี้หรานทีละก้าว ดวงตาสีดำสนิทของเขาจ้องมองที่เธอแทนที่จะหลบตาเธอกลับมองสบกลับมาตรง ๆท้ายที่สุดเขาก็ยกมือขึ้นมากอดเธอไว้ในอ้อมแขน “หลิงอี้หราน ฉันจะเชื่อใจเธอครั้งนี้เป็นครั้งสุดท้ายนะ ครั้งนี้ครั้งเดียว”เขาจะเชื่อใจว่าเธอจะทำในสิ่งที่เธอเพิ่งพูดออกมามากกว่าการเชื่อใจเธอ เขาอยากเชื่อในตัวเธอว่าสิ่งที่เธอพูดจะเป็นความจริงหลิงอี้หรานแอบอิงกับอ้อมแขนของอี้จิ่นหลีและสูดดมกลิ่นคุ้นเคยจากเขา เขาเต็มใจจะเชื่อในตัวเธอ นี่หมายความว่าชีวิตแต่งงานของพวกเขาจะราบรื่นดีใช่หรือไม่? ไม่ว่าเขาจะยังมีความเชื่อในตัวเธอแค่ไหน แต่อย่างน้อยตอนนี้เขาก็เต็มใจที่จะเชื่อเธอ และนั่นเป็นเรื่องดี!...เย่ฉงเว่ยพาก็ลี่เฉินกลับไปส่งบ้าน แต่กู้ลี่เฉินกลับไม่อยากเข้าบ้านตัวเองและยืนเหม่ออยู่หน้าประตูทางเข้าบ้านของตัวเองเย่ฉงเว่ยยืนเป็นเพื่อนเขาอย่างช่วยไม่ได้ดวงตาสีดำรูปนกฟินิกซ์ของชายหนุ่มมองไปยังพื้นใต้เท้าของตัวเองซึ่งเป็นที่เดียวกับที่อี้หรานยืนในวันนั้นในตอนนี้เองที่กู้ลี่เฉินรู้สึกได้ถึงความเจ็บปวดที่ไม่สามารถอธิบายได้เขาไม่เคยคิดเลยว่า
“ยืมเงินเหรอ?” กู้ลี่เฉินตะลึงไป“ใช่ครับ เธอมาขวางรถของคุณไว้วันนั้นก็เพราะเธออยากจะยืมเงินจากนายน้อยกู้ครับ ดูเหมือนเธอจะอยากยืมเงินสักสองล้านมั้งครับ” เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่าพลางพยายามนึกสีหน้าของกู้ลี่เฉินเปลี่ยนไปในทันทีที่ได้ยินแบบนั้น‘สองล้านเหรอ? ทำไมอยู่ ๆ อี้หรานถึงอยากจะยืมเงินสองล้านขึ้นมา? มีอะไรเกิดขึ้นงั้นเหรอ?’ ตอนที่เขาหลับตาลง ในความคิดของเขาก็มีใบหน้าสิ้นหวังของเธอเมื่อครั้งนั้นปรากฏขึ้นมา‘ตอนนั้น ฉันน่าจะเป็นความหวังสุดท้ายสำหรับขอยืมเงินของเธอ!‘แต่ฉันทำอะไรลงไป? ฉันทำลายความหวังทั้งหมดของเธอ!‘ด้วยนิสัยของเธอแล้ว เธอไม่มีททางยืมเงินฉัน ยกเว้นว่ามันจำเป็นจริง ๆ‘บางอย่าง... ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นโดยที่ฉันไม่รู้!‘เธอยืนอยู่ทั้งคืน เธอขวางรถฉันไว้ให้จอดอย่างสุดกำลังไม่ใช่เพื่อกวอซินหลี่ แต่เพื่อยืมเงินสองล้าน!‘แต่ฉันเชื่อหวาลี่ฟาง แล้วไม่ยอมลงจากรถ หรือฟังสิ่งที่เธออยากจะพูดเลย ฉันเลือกที่จะจากไป!’ในตอนนั้นเองที่กู้ลี่เฉินอยากจะตบหน้าตัวเอง ‘ทำไมฉันโง่ขนาดนี้? ทำไมฉันไม่ฟังเธอ?’เขาล้วงมือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกง แต่นิ้วของเขาดูเหมือนจะไร้เรี่