น้ำตาลเธอค่อยๆเอื้อมมือมาลูบคลำไปตามแผงอกของผมแล้วเริ่มปลดกระดุมออกทีละเม็ดๆด้วยความเชี่ยวชาญ มือเรียวถูไถไปตามหัวนมสีน้ำตาลอ่อนที่เริ่มแข็งถูวนไปมาอยู่แบบนั้นแล้วค่อยๆขยับก้มใบหน้าลงมาใช้ปลายลิ้นปาดเลียที่หัวนมของมิวนิคที่มองการกระทำของเธออยู่
“อ่าส์~” มิวนิคส่งเสียงครางกระเส่าออกมาเมื่อโดนลิ้นร้ายเล่นงานไม่หยุดพลางใช้มือลูบศีรษะทุยของหญิงสาวอย่างเบามือ มือเรียวค่อยๆปลดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตัวเองไปด้วยแล้วเลิกชุดชั้นในให้ขึ้นมามองบนเนินอก บีบขยำหน้าอกอวบของตัวเองอย่างมันส์มือ ปากยังคงดูดเลียหัวนมหวานของชายหนุ่มไม่หยุดยั้งเพื่อหวังจะปรนเปรอเขาอย่างเต็มที่
สายตาหวานหยาดเยิ้มทอดมองไปยังชายหนุ่มแล้วจึงค่อยๆเลื่อนใบหน้าขึ้นไปเพื่อหวังที่จะจูบเขาแต่เธอก็ต้องชะงักเมื่อมิวนิคผละใบหน้าหนีห่างออกไป
“ทำไมคะ?” เธอเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่าทำไมเขาถึงได้ถอยหนีรสจูบของเธอ
“ฉันไม่ชอบจูบกับคนอื่น!”
“น้ำตาลเป็นคนอื่นเหรอคะ?” หญิงสาวถามออกไปด้วยความน้อยใจที่ถูกมองว่าเป็นคนอื่นทั้งๆที่กำลังจะเอากันอยู่ร่อมร่อ
“จะทำมั้ย?” มิวนิคเสียงแข็งถามไปยังร่างบอบบางของน้ำตาลที่ทำท่าทางเหมือนจะน้อยใจเขา ซึ่งเขาไม่คิดที่ต้องแคร์เธออยู่แล้วถ้าเธอบอกไม่เอาก็จบแล้วแยกย้าย แต่ถ้ายังอยากจะเอา เอาจบก็แยกอยู่ดี
“ทะ..ทำค่ะ” เสียงดุดันของมิวนิคทำให้เธอชะงักไปเล็กน้อยและเริ่มที่จะขยับตัวเข้าไปปรนเปรอให้กับเขาอีกครั้ง
มือเรียวเลื่อนมือไปกุมเข้าที่เป้ากางเกงของมิวนิคแล้วรูดซิปลงอย่างเชื่องช้า ควักเจ้าลูกชายตัวโตของเขาให้ออกมาดูโลกภายนอก น้ำตาลมองไปที่ท่อนลำที่กำลังแข็งชี้หน้าเธออยู่แล้วจึงขยับก้มใบหน้าลงไปใช้ปลายเลียวนไปที่ส่วนหัวแล้วดูดกลืนท่อนลำยักษ์ใหญ่ให้หายเข้าไปในโพรงปากนุ่มละมุนของเธอ
“อ่าส์~” มิวนิคครางเสียงกระเส่าออกมาเมื่อโดนน้ำตาลครอบครองแก่นกายของตัวเอง ยัยคนนี้เป็นงานดีมากดูดขยับขึ้นลงจนทำให้เขาเผลอเกร็งด้วยความเสียวซ่านจนเกินคำบรรยายและยังดีที่ตอนนี้รถติดมากจึงทำให้เขาสามารถปล่อยตัวปล่อยใจได้อย่างเต็มที่
อ๊อก! อ๊อก! อ๊อก!
น้ำตาลขยับใบหน้าขึ้นลงพลางใช้ปลายลิ้นถูไถไปตามท่อนลำ มือเรียวของเธอขยับชักรูดขึ้นลงไปพร้อมๆกับปลายลิ้นที่กำลังดูดดุนท่อนอวบแข็ง
มิวนิคขยับมือเลื่อนเข้ามาจับที่ศีรษะทุยของเธอแล้วเริ่มบังคับกดศีรษะเธอกดเข้าหาตัวตนของเขาด้วยความเสียดเสียว ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้นพร้อมกับหลับตาพริ้มใกล้แล้ว เขาใกล้จะแตกเต็มที่แล้ว มันเกร็งไปหมดกับสิ่งที่เธอกำลังปรนเปรอให้กับเขา
“ซี๊ด~ เสียวฉิบหายเลย..น้ำตาล” จนเขาเผลอครางเรียกชื่อเธอออกมาอย่างลืมตัว ปลายลิ้นร้อนยังคงลากไล่ไปตามท่อนเนื้อแข็ง ปากดูดกลืนเข้าออกลึกจนท่อนเอ็นแทบจะเข้าไปถึงคอหอยและไม่นานมิวนิคก็ได้ไปถึงยังสรวงสวรรค์เสร็จคาปากของน้ำตาลเพื่อนเรียนร่วมคลาส
“อ่าส์~” ชายหนุ่มกระตุกเกร็งปลดปล่อยน้ำคาวสีขุ่นเข้าไปในโพรงปากนุ่มของเธอจนหมดและเผลอเหยียบคันเร่งอย่างลืมตัว
ปึง!
เสียงรถของเขาที่ขับเคลื่อนไปชนท้ายกับรถของใครก็ไม่รู้
“เวรแล้วกู!” มิวนิคเอามือกุบขมับไว้แน่นเพราะความเสียวของเขาแท้ๆจึงทำให้เผลอไปเหยียบคันเร่งเสียได้
“เกิดอะไรขึ้นคะ” น้ำตาลที่พึ่งจะกลืนกินน้ำกามของมิวนิคจนหมดก็ได้เงยหน้าขึ้นถามเพราะเมื่อกี้เธอก็รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนจากทางด้านหน้าของรถ
“เธอรีบแต่งตัวให้เรียบร้อย ฉันขับรถชนท้ายรถคนอื่น” เขาบอกเธอเพียงแค่นั้นและรีบติดกระดุมเสื้อนักศึกษาของตนเองรูดซิปกางเกงและเปิดประตูรถโดยที่ไม่ลืมที่จะหยิบร่มแล้วลงไปจากรถ เขาไม่สนใจแล้วว่าน้ำตาลนั้นจะแต่งตัวเสร็จแล้วหรือไม่ยังไงคงต้องรีบลงไปเคลียร์กับทางเจ้าของรถคันนั้นก่อน
-ทางด้านมายู-
วันนี้เป็นวันที่เธอไปเที่ยวดูหนังกับกลุ่มเพื่อนสาว ขากลับบนท้องถนนวันนี้รถค่อนข้างติดเป็นอย่างมากแล้วฝนก็ยังจะตกลงมาอีก
“รถก็ติดฝนก็ยังจะตกมาอีกนะ เฮ้อ~ แล้วฉันจะถึงห้องกี่โมงเนี่ย” เสียงหวานของมายูบ่นพึมพำออกมาด้วยความเบื่อหน่อย เธอเอื้อมมือไปกดเปิดเพลงเพื่อที่จะได้คลายความตึงเครียดในช่วงเวลารถติดฝนตกแบบนี้
ปึง!
แต่แล้วจู่ๆรถของเธอก็เหมือนโดนอะไรไม่รู้กระแทกชนเข้าอย่างแรง ส่งผลให้แรงสั่นสะเทือนไปทั่วทั้งคันรถรวมไปถึงตัวเธอด้วยที่สั่นไปหมด
ร่างเล็กหันไปมองทางด้านหลังของรถก็พบกับรถคันหนึ่งที่กำลังจ่อชนท้ายรถของเธออยู่
“ไอ้บ้า! ขับรถยังไงเนี่ยมาชนลูกรักของฉันแบบนี้ได้ยังไงกัน” ใบหน้าสวยหวานเริ่มแปรเปลี่ยนเป็นใบหน้าบึ้งตึงทันทีนางยักษ์กำลังจะออกมาโชว์ตัวอีกครั้ง กล้ามากที่มาชนท้ายรถลูกรักคันโปรดของเธอแบบนี้แม่จะด่าให้ไฟแล่บเลย
ไม่นานนักชายหนุ่มดูดีแต่งตัวด้วยชุดนักศึกษาชายเสื้อหลุดลุ่ยที่คาดการว่าน่าจะเป็นเจ้าของรถซึ่งคงเป็นคู่กรณีของเธอก็ได้เดินลงมาจากรถพร้อมกับถือร่มแล้วเดินมาเคาะประตูกระจกรถของเธอ
มายูไม่รอช้ากดเลื่อนเปิดกระจกเลื่อนมันลงเพียงนิด ปรายตามองไปยังชายหนุ่มดูดีที่อยู่ด้านนอกรถ เขา เขา เขาหล่อมาก กรี๊ด~
จากที่จะด่าในตอนแรกกลับกลายเป็นพูดไม่ออกเลยสักคำ โรคแพ้คนหล่อกำเริบอีกแล้ว
“นี่เธอเป็นอะไรมั้ย?” นิวนิคที่เห็นว่าเธอนิ่งไปก็ถามเธอพร้อมกับก้มใบหน้าลงมาให้อยู่ตรงกับใบหน้าสวยหวานของมายู เขาพยายามมองเข้ามาภายในรถเหมือนอยากจะสำรวจหาอะไรสักอย่าง
สักพักก็มีหญิงสาวหน้าสะสวยสุดเซ็กซี่เดินลงมาจากรถของเขาพร้อมกับใช้มือเรียวติดกระดุมเสื้อของตัวเองไปด้วย เธอเดินมายืนอยู่ข้างๆกันกับเขาผู้ชายคนนั้น คนที่ฉันคิดว่าใบหน้าของเขาหล่อเบ้าหน้าฟ้าประทานมากๆและฉันมองก็รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้นภายในรถคันนั้นคงจะทำเรื่องอย่างว่ากันในรถสินะถึงทำให้เกิดอุบัติเหตุแบบนี้กับรถของฉันได้ ฮือ~
“ถอยไปหน่อยค่ะ ฉันจะลงจากรถ” ฉันเอ่ยบอกสองผัวเมียคู่นี้ที่ยืนชิดรถของฉันอยู่ในขณะนี้และที่ฉันอยากจะลงจากรถก็เพราะว่าตอนนี้ฝนได้หยุดตกแล้วจึงเหมาะแก่การที่จะรีบคุยรีบเคลียร์ให้จบเป็นไหนๆ
“ว่าไงเป็นอะไรหรือเปล่า? เดี๋ยวฉันเรียกประกันแปบ” มิวนิคถามไปยังมายูอีกครั้งและหยิบโทรศัพท์มือถือเครื่องหรูของตัวเองขึ้นมาแล้วกดโทรออกไปหาประกันในทันที
เมื่อเห็นทางฝั่งนั้นโทรเรียกประกัน มายูก็ไม่รอช้ารีบกดโทรศัพท์โทรออกไปหาประกันฝั่งเธอเช่นกัน
“มิวคะเสร็จหรือยังคะ น้ำตาลอยากกลับแล้ว” หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างกายชายหนุ่มหน้าตาดีคู่กรณีของฉัน เธอพูดขึ้นพร้อมกับเอามือกอดอกแล้วมองใช้หางตามองมาที่ฉันอีกด้วย
“รอประกันมาก่อน ไปรอในรถไป!!!” มิวนิคบอกให้น้ำตาลกลับเข้าไปนั่งรอเขาในรถจะมายืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมาดีแต่บ่นนั่นบ่นนี่อยู่ได้และมันจะยิ่งทำให้เขาหงุดหงิดอารมณ์เสียเข้าไปอีก
อิพี่จำคำพูดตัวเองเอาไว้ให้ดีนะคะ ว่าจะไม่จูบใครน่ะ กิกิ
“ค่ะ…” น้ำตาลมองค้อนชายหนุ่มอย่างคนที่ทำอะไรไม่ได้ เธอทำได้เพียงเดินกลับเข้าไปนั่งรอในรถตามที่มิวนิคได้บอกเอาไว้“มัวแต่ทำอะไรกันอยู่คะ? ถึงได้มาชนรถของคนอื่นเขาแบบนี้” มายูที่กำลังฉุนก็พูดขึ้นเมื่อเธอได้เดินไปดูท้ายรถ ประโยคความคิดในหัวสั่งการให้เธอถามเขาออกไปอย่างคนที่ไม่เกรงกลัวอะไรเลย“ฉันจะรับผิดชอบทุกอย่างเอง เธอไม่ต้องกังวลไปหรอกนะ แล้วนี่..อยู่มหาลัยเดียวกันกับฉันเลยนี่” มิวนิคมองหน้าของเธอคนนี้ยอมรับว่าสวยมองไปมองหน้าก็ได้เห็นเข้ากับเข็มกลัดนักศึกษาที่เหมือนกันกับเขาก็แสดงว่าเธอคนนี้ก็น่าจะอยู่มหาลัยเดียวกันกับเขาสินะแต่แม่งพูดตรงมาก พูดตรงจนเกินไป เขาทำได้เพียงบอกแค่ว่าจะรับผิดชอบกับทุกอย่างที่เกิดขึ้นเพราะเขาทำอย่างที่เธอพูดนั่นแหละ“อันนั้นมันก็หน้าที่ของคนที่ผิดต้องจ่ายอยู่แล้ว แต่ทีหลังรบกวนอย่าทำอะไรกันบนรถนะคะ เสียเวลาคนอื่นเขา รู้ไว้ด้วย” มายูเธอดูหัวเสียเป็นอย่างมากจึงได้พูดออกไปตามความคิดของเธออีกครั้งแบบที่ไม่สนใจใครหน้าไหนทั้งนั้น“นี่เธอ...” มิวนิคยืนนิ่งอย่างไม่เชื่อว่าผู้หญิงคนนี้จะพูดเรื่องแบบนั้นออกมาได้อย่างชัดเจนขนาดนี้“ทำไมคะ?” เธอเชิดใบหน้าสวยขึ้นพร้อมทั
“เดี๋ยวก่อนนะครับ แล้วทำไมถึงเป็นผม พี่แมทธิวละครับ” คิ้วหน้าขมวดขึ้นอย่างลืมตัวเมื่ออยู่ดีๆก็ได้รับรู้เรื่องสัญญาของคุณปู่ของเขาที่จะให้หมั้นกับหลานสาวของเพื่อนท่าน“ตอนนั้นในตอนที่ทำสัญญากัน ลูกเกิดตอนนั้นพอดี สัญญานั้นจึงหมายถึงลูกจ้ะ” แม่อธิบายให้มิวนิคได้ฟังอย่างละเอียดว่าการหมั้นในครั้งนี้มันต้องเป็นลูกแต่เพียงเท่านั้น“สมัยนี้มันยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอครับ ผมไม่หมั้น!” เสียงเข้มของมิวนิคดังขึ้นเขาไม่ยินยอมที่จะหมั้นกับผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ หน้าตาก็ยังไม่ได้เห็น นิสัยใจคอเป็นอย่างไรก็ยังไม่รู้เลยแล้วจะหมั้นจะแต่งกันไปได้ยังไง“ทางนั้นเขาไม่รู้หรอกครับว่าหลานชายคนไหนคือคนที่จะได้หมั้น ให้พี่แมทธิวไปหมั้นแทนผม” แล้วอยู่ดีๆมิวนิคก็คิดแผนการณ์ร้ายขึ้นมาได้ซึ่งนั่นก็คือส่งพี่ชายของเขาไปหมั้นแทนเขา“มันคงไม่เหมาะสักเท่าไหร่ ทำไมไม่ลองไปดูตัวเธอก่อน อาจจะถูกใจนายก็ได้นะ” แมทธิวที่เดินเข้ามาได้ยินคำพูดของน้องชายเข้าก็รีบทักท้วงขึ้น น้องชายของเขาคนนี้นิสัยดื้อรั้นเอาแต่ใจเพราะถูกเลี้ยงดูมาแบบเอาใจ เขาเป็นลูกคนเล็กอยากได้อะไรก็ต้องได้ ไม่ชอบอะไรก็จะรีบผลักไสออกไปให้กับคนอื่น“ผมไม่ชอบ
“ยัยนั่นอมให้กู กูเสียวมากไปหน่อ ยก็เลยเผลอเหยียบคันเร่ง” มิวนิคหัวเราะขบขันเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์ที่พึ่งจะเกิดขึ้นเมื่อวานสดๆร้อนๆในตอนนั้นมันเสียวมากๆเสียวจนเกร็งไปทั่วทั้งร่าง“ไอ้เวร ความเงี่xxเป็นเหตุนี่เอง” อาร์มส่ายหน้าทันทีที่ได้รู้ถึงสาเหตุของอุบัติเหตุว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร“เออกูยอมรับ!” มิวนิคยืดอกยอมรับอย่างแมนๆว่าตัวเขานั่นแหละคือต้นเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้“แล้วคู่กรณีมึงเจ็บหรือเปล่า” เสือถามไปถึงคู่กรณีที่มิวนิคได้ขับรถไปชนรถของเขา“ดูแล้วก็ไม่นะแต่หยิ่งฉิบหายเลยด้วย ปากก็ดีอีกและที่สำคัญยัยนั่นอยู่มหาลัยเดียวกันกับพวกเรา” มิวนิคยกยิ้มมุมปากขึ้น ในยามที่นึกไปถึงใบหน้าสวยหวานของเธอคนนั้นซึ่งเป็นเจ้าของรถคันที่เขาขับรถไปชนท้าย“โลกกลมฉิบหาย เธอด่ามึงยับเลยมั้ย?” อาร์มที่นั่งฟังอยู่ก็พูดแทรกถามถึงเธอคนนั้นพร้อมทั้งเปรยตามองเพื่อนอย่างจับผิด“ก็ไม่ถึงกับด่าอะไรขนาดนั้นแต่แม่งโคตรจะพูดตรง มีการมาบอกกูว่าอย่าเอากันในรถอีกนะ”“ฮ่าๆ กูนี่อยากเห็นหน้าเธอเลยครับ แล้วหน้าตาเป็นไง สวยมั้ยเด็ดหรือเปล่า” เตโชหัวเราะออกมาดังลั่น ถูกใจเธอยิ่งนักที่พูดตรงแบบนั้นกับเพื่อนของเขา“พ
“จะไปขอโทษทำไมมันเรื่องจริงมั้ยเล่า!” มายูเบือนหน้าหนีไปทางอื่นแต่ปากยังคงบ่นงึมงำๆไม่หยุด“นั่งกันก่อนสิครับน้องๆ” เตโชที่มองรุ่นน้องสาวกับเพื่อนสนิทของเขาก็เอ่ยชวนรุ่นน้องให้นั่งลงกันเสียก่อน“ขอบคุณค่ะ” ชะเอมเป็นคนแรกที่นั่งและไม่ลืมที่จะเอ่ยคำขอบคุณไปยังพวกรุ่นพี่ มายูโดนผลักดันให้นั่งลงข้างๆกับมิวนิค เธออยากจะลุกแต่ก็เห็นแกหน้าของเพื่อนและรุ่นพี่ทั้งสามจึงทำให้เธอยอมนั่งข้างเขาด้วยความสงบ“มึงรู้จักกับน้องคนนี้เหรอ?” เตโชที่นั่งอยู่ข้างๆมิวนิคก็ขยับเข้าไปใกล้เพื่อนพร้อมกับกระซิบถาม ดูยังไงไอ้เพื่อนตัวดีนี่ต้องรู้จักกับน้องเขาแน่ๆไม่งั้นจะพูดจากินเลือดกินเนื้อกันอย่างที่เห็นได้ยังไง“นี่แหละคนสวยที่พวกมึงอยากเห็นหนักหนาไง อยู่ตรงหน้าพวกมึงแล้ว เห็นชัดยัง” มิวนิคกระซิบกระซาบบอกกับพวกเพื่อนเขาว่าคนที่พวกมันต้องการเห็น ตอนนี้ได้มาอยู่ตรงหน้าพวกมันแล้วนี่ไง“สวย อย่างที่มึงบอกเอาไว้เลยว่ะ” อาร์มที่มองๆน้องมายูอยู่ก็เอ่ยชมความสวยของน้องเขา สวยจริงๆอะไรจริง ความผิวขาวอมชมพูใบหน้าได้รูป ใครได้เป็นแฟนนี่คงโชคดีสุดๆ“พวกน้องเรียนกันหนักมั้ยครับเนี่ยมีอะไรไม่เข้าใจถามพวกพี่ได้เลยนะ” เสือยิ้
“แอพอะไร” มายูแสร้งถามเขาอีกครั้งทำเป็นทำหน้างุนงงสงสัย“แอพสีแดง!” มิวนิคมองเธอด้วยใบหน้าที่ไม่ยิ้มตั้งตามองอย่างคนที่ใจจดใจจ่อรอคำตอบ“พึ่งเล่นพี่จะถามทำไม” เธอโดนสายตาเขาจับจ้องมองอยู่จึงทำให้เธอต้องยอมพูดมันออกมาเพื่อที่จะตัดปัญหาความรำคาญเธอเลยเลือกที่จะบอกให้มันจบๆไปก็แล้วกัน“ก็เปล่า..ก็แค่ถามดู” มิวนิคยักไหล่เล็กน้อยจากนั้นก็ไม่ได้ถามอะไรเธอต่อ“งั้นขอตัวค่ะหลบหน่อยซิคะ” มือเรียวเริ่มผลักดันเขาเพราะพูดไปแล้วเขาก็ยังนิ่งไม่ยอมปล่อยให้เธอได้เดินออกไปและในระหว่างที่เธอกำลังผลักไสเขาอยู่แบบนั้น มิวนิคก็ถือโอกาสนี้ดันตัวเองแนบชิดร่างกายของเธอ เขาได้กลิ่นหอมออกมาจากตัวเธอจนทำให้เขาเผลอปากพูดชมเธอ“ตัวหอมจัง!!”“จิ๊ นี่พี่น่าเกลียด ถ้าจะขยับเข้ามาใกล้ขนาดนี้เดินเข้ามากอดเลยก็ได้นะคะ” มายูอ้าปากค้างตกใจไปกับสิ่งที่ได้ยิน มาใกล้คนอื่นเขาแบบนี้แล้วยังจะมาพูดคำพูดอะไรๆที่มันน่าเกลียดอีก ด้วยความหมั่นไส้จึงทำให้เธอพูดจาประชดประชันเขาออกไปเธอแค่เพียงพูดเล่นออกไปเท่านั้นและไม่คิดว่าเขาจะใจกล้าทำจริง“ได้เหรองั้นดีเลย” เขารีบโอบกอดเธอเอาไว้แน่น“ปะ..ปล่อยนะ นี่บอกให้ออกไปไง!” ดวงตากลมโตเบิกก
“เรียบร้อยแล้วค่ะ ไปก่อนนะคะ” ทั้งหมดลุกขึ้นยืนขอตัวแล้วเดินออกไป“ไงมึงยังรู้สึกชอบน้องพราวอยู่ป่ะ ถามจริง” เสือมองไปยังมิวนิคที่กำลังนั่งเล่นเกมส์อย่างสนุกสนาน“ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับไปยังเสือทันทีอย่างไม่ต้องคิดเพราะในตอนนี้เขาไม่ได้มีความรู้สึกชอบในตัวน้องพราวอีกแล้ว“ก็ดีแล้ว..เออแล้วแอพนั่นเป็นไงบ้างเจอสาวที่ถูกใจบ้างหรือยัง?” เสือพยักหน้ารับรู้และถามถึงเรื่องแอพแชทอีกครั้งไม่รู้ว่าไอ้เพื่อนนี่มันจะหาสาวที่ถูกใจได้หรือยัง“ก็..ยัง” มิวนิคนึกอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงตอบไอ้เสือ เขานึกไปถึงเอ็มสองแต่จะไปถูกใจได้ยังไงในเมื่อหน้าตายังไม่เคยได้เห็นกันเลยด้วยซ้ำ“นั่นไง! น้องคนนั้นแอบมองมึงอยู่” เตโชที่นั่งฟังอยู่และแอบเห็นว่ามีสาวคนหนึ่งกำลังแอบมองมิวนิคอยู่ จึงได้ชี้ไปที่เธอและบอกให้มิวนิคได้รับรู้“หึ! ก็พอแก้ขัดได้” เขามองไปตามมือของเตโชก็พบว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังส่งยิ้มให้กับเขา ชายหนุ่มลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นทันทีทางด้านมายูที่เดินกลับไปยังคณะก่อนหน้าเพื่อนๆก็ได้เดินไปนั่งที่โต๊ะม้านั่งตัวเดิมที่พวกเธอชอบนั่งกันบ่อยๆ“เป็นไรแก..ดูทำหน้าเข้า” เสียงหวานใสขอ
“3เดือนได้แล้วมั้งเนี่ย” หญิงสาวพึมพำขึ้นเมื่อลองย้อนไปดูบทสนทนาแรกตั้งแต่ตอนนั้นจนถึงตอนนี้ผ่านมาสามเดือนแล้วเหรอเนี่ย ไม่รอช้าเธอจึงพิมพ์ตอบข้อความกลับไปหาเอ็มหนึ่งMA : ถามทำไมคะ อยากมาหาเหรอไงMN : อืม ก็ถ้าใกล้ก็อยากนัดเจออยู่นะ ได้หรือเปล่าMA : เอ็มสองอยู่มหาลัย CH ค่ะMN : เฮ้ย จะบอกว่าที่เดียวกันครับ พี่เองก็เรียนที่นี่เหมือนกันMA : จริงเหรอคะเนี่ย? (โลกจะกลมอะไรขนาดนั้นนน)MN : ถ้าสะดวก วันหลังพวกเรามานัดเจอกันนะ แต่ไม่รู้เอ็มสองจะรับหน้าตาพี่ได้มั้ย?MA : ทำไมเหรอคะ? (ทำไมพี่เขาต้องพูดไปถึงเรื่องหน้าตาด้วยนะนี่พวกเรากำลังคุยกันแบบพี่น้องอยู่นะ พี่เขาเข้าใจอะไรผิดไปหรือเปล่า)MN : พี่อาจไม่หล่อในสายตาของเอ็มสองก็ได้MA : พี่เอ็มหนึ่งคะ เอ็มสองไม่ได้แชทคุยกับพี่เอ็มหนึ่งแบบคนรักนะ พวกเราคุยกันแบบพี่น้อง แล้วจะต้องมากังวลเรื่องหน้าตาทำไมMN : ครับ พี่คงกังวลเกินไปMA : ถ้าได้เจอกันเดี๋ยวเอ็มสองเลี้ยงข้าวพี่เอ็มหนึ่งเองค่ะMN : งั้นพรุ่งนี้เอ็มสองว่างมั้ย? พี่อยากเจอเธอแล้ว“พรุ่งนี้เหรอ” ก็ได้อยู่มั้งพรุ่งนี้ก็จะว่างช่วงเย็น กินอิ่มและยังได้เจอพี่เอ็มหนึ่งด้วยMA : พรุ่งนี้มี
“จะรีบหนีกลับไปไหน ไหนใครบอกว่าจะเลี้ยงข้าวเย็น?” มิวนิคยิ้มร้ายรีบทวงถามสัญญาของใครบางคนขึ้นมาทันที“ไม่มีอารมณ์จะกินแล้ว!” มายูพูดแล้วก็ถอนหายใจออกมาพร้อมกับเบือนหน้าหันหนีไปทางอื่น ใครจะไปนึกว่าพี่เอ็มหนึ่งของเธอก็คือ..อิตาบ้าโรคจิตมิวนิคคนนี้“แล้วอยากมีอารมณ์ทำอย่างอื่นมั้ย?” ชายหนุ่มจงใจใช้คำพูดยั่วโมโหอารมณ์ทำให้มายูโกรธ เขารู้สึกสนุกไปกับการที่ได้แกล้งเธอคนนี้ยัยเด็กแสบ“ทะลึ่ง!” เสียงหวานของมายูตะคอกเขากลับไป“ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลย เธอคิดไปเองทั้งนั้น หมกหมุ่นมากเลยสินะ” มิวนิคยิ้มร้ายพูดสวนกลับไปยังรุ่นน้องสาวคนสวย“ชะเอมกลับ!”“อยู่เลี้ยงข้าวกันก่อน จะผิดคำพูดกับพี่หรือไง” มิวนิคลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปคว้าแขนมายูเอาไว้“ก็ได้ๆ ปล่อยแขนได้แล้วค่ะ” มายูรีบสะบัดแขนพยายามแกะมือชายหนุ่มให้หลุดออก“นั่งลง..แล้วอย่าคิดหนีให้พี่จ่าย” มิวนิคปล่อยแขนมายูพร้อมกับออกคำสั่งให้เธอนั่งลง ส่วนเขาเดินกลับไปนั่งยังที่เดิม“กินข้าวกันเถอะ ฉันเองก็หิวแล้วเหมือนกัน กินเสร็จค่อยกลับนะ” เมื่อมายูนั่งลงแล้ว ชะเอมก็ได้ชักชวนเพื่อนให้กินข้าวกันก่อน กินเสร็จค่อยกลับก็ยังได้“อืม ก็ได้” พยักหน้ารัวๆ
“ขอกินนมรสสตอร์เบอรี่หน่อยสิ~” สายตาที่จ้องมองมาอย่างจาบจ้วงทำเอาใบหน้าสวยร้อนผะผ่าวคงไม่ต้องบอกว่าเขาหมายถึงอะไรร่างบางส่ายหน้าพร้อมทั้งเขยิบถอยไปข้างหลังแต่แล้วเธอกลับโดนมือแกร่งรวบเข้าที่เอวเล็ก ออกแรงยกเธอให้ขึ้นมานั่งอยู่บนตักแกร่งของตัวเอง“อะ~ พี่มิวอย่าแกล้ง!! หยุดมองหน้าอกของมายูสักที เขินนะ!” มายูรีบส่งเสียงตะโกนบอกให้เขาเลิกจ้องหน้าอกของตัวเองสักที โดนมองนานๆแบบนี้เป็นใครบ้างที่จะไม่เขิน แล้วก็นะถึงจะอยู่ด้วยกันมานานหลายปีเธอก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะชินได้เลย“อืม พี่ไม่มองก็ได้~” ชายหนุ่มพยักหน้าตอบรับอย่างเข้าใจพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาหน้าอกของแฟนสาวในเมื่อไม่ให้มองถ้าแบบนั้นก็คงต้องทำอย่างอื่น เช่น ดูดๆเลียๆผสมๆกันไป“อะ พี่มิว อะ อื้อ~ อย่าเลีย! อื้อ อึก สะ เสียว อ๊า~” ในทันทีที่โดนลิ้นสากแตะลงบนยอดอก ร่างบางก็สะดุ้งขึ้นมาทันที ความเอาแต่ใจของพี่มิวนิคนี่เธอคงต้องขอยอมแพ้ พี่เขาเป็นพวกอยากได้หรืออยากทำอะไรเขาต้องได้ต้องทำเดี๋ยวนั้นเลยปลายลิ้นเลียวนรอบฐานอกสีหวานสายตาเจ้าเล่ห์แหงนหน้ามองแฟนสาว มือหนาทั้งสองจับเข้าที่สะโพกสวยออกแรงยกขึ้นเพียงเล็กน้อย เขาค่อยๆกดจุดหวงแหนของคนต
ทันทีที่เข้ามาในห้องพัก ภาพตรงหน้าทำให้มายูเบิกตากว้างยิ้มเล็กๆเริ่มกลับกลายเป็นยิ้มกว้างขึ้นจนสุด เธอกวาดตามองไปรอบๆห้องอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าความฝันของตัวเองในวัยเด็กจะเป็นจริงขึ้นมาในวันนี้“หูย ในห้องวิวก็ยังสวย~” ร่างบางเดินเข้ามาในห้องพักเดินไปยืนหยุดอยู่ตรงจุดชมวิวที่มีอ่างอาบน้ำจากุชชี่ขนาดใหญ่ตั้งอยู่และไม่รอช้าหญิงสาวรีบหยิบโทรศัพท์มือถือนำขึ้นมากดถ่ายรูปบรรยากาศของที่นี่มิวนิคเดินเงียบๆเข้ามาหยุดยืนอยู่ทางด้านหลังแฟนสาวคนสวย มือแกร่งโอบกอดเอวบางของมายูเอาไว้ทำเอาร่างบางสะดุ้งเฮือกด้วยความตกใจเพราะเธอมัวแต่ให้ความสนใจไปกับความถ่ายรูปวิวทิวทัศน์“อะ พี่~”“สวยมากๆเลยใช่มั้ย? ถูกใจเราเลยสิท่า วิวก็ดีแบบนี้เหมาะที่จะ..” เสียงทุ้มแหบพร่าพูดขึ้นริมข้างหูแต่ชายหนุ่มสุดเจ้าเล่ห์ไม่เพียงแค่พูดเพียงอย่างเดียวแต่เขายังพูดไปพลางก็เป่าลมใส่หูของเธอไปด้วยนี่น่ะสิ“จะอะไรเหรอคะ..นี่ยังกลางวันอยู่เลยนะพี่มิว” ดวงตากลมโตเบิกกว้างขึ้นสิ่งที่เขาพูดออกมา เธอเข้าใจได้เป็นอย่างดีว่าแฟนหนุ่มสุดหล่อนั้นหมายถึงอะไร แต่นี่มันยังตอนกลางวันอยู่เลยนะ“ก็ไม่มีใครเห็นสักหน่อย ได้มั้ยครับ” เสียงอ้อนดังขึ
2ปีต่อมาวันรับปริญญาของมายูและผองเพื่อนชายหนุ่มใบหน้าหล่อเหลาเดินยิ้มถือช่อดอกไม้เดินฝ่าฝูงชนเข้ามาหาหญิงสาวผู้เป็นที่รัก เขายื่นช่อดอกไม้นั้นให้กับเธอพร้อมกับหอมแก้มขาวเนียนที่ตอนนี้ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง“ดอกไม้สำหรับแฟนสาวคนสวยของพี่ครับ”“ขอบคุณนะคะ พี่มิวน่ารักที่สุดเลย รู้ใจไปหมดทุกอย่างว่ามายูชอบดอกไม้ดอกนี้” มายูรับช่อดอกไม้จากมือแฟนหนุ่มด้วยใบหน้าที่ยิ้มกว้างอย่างสดใส วันนี้เป็นที่ดีของเธอเป็นวันที่เธอได้รับปริญญา หลังจากที่ตั้งใจศึกษาเล่าเรียนมาตลอดทั้ง 4 ปี“เมียทั้งคนจะไม่รู้ได้ไง จริงมั้ย?” มิวนิคฉีกยิ้มหวานจนบรรดาผู้หญิงสาวรอบข้างต่างพากันยืนอิจฉามายูกันทั้งนั้นที่ได้แฟนหล่อๆแบบนี้ ร่างบางแนบชิดเอ่ยพูดด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัดพอประมาณ เธอต้องการให้พวกผู้หญิงที่อยู่รอบๆกายเธอได้ยินไปกับประโยคที่เธอพูดออกมา“ยังไม่ได้แต่งยังไม่ต้องเรียกเมียก็ได้นะคะ” ร่างบางฉีกยิ้มกว้างพร้อมกับเอนศีรษะอิงซบไหล่กว้างของมิวนิค เหลือบสายตามองไปทางกลุ่มหญิงสาวที่กำลังมองตาหวานเยิ้มมองจ้องแฟนหนุ่มของเธออยู่ เหล่าผู้หญิงพวกนั้นพอได้ยินสิ่งที่มายูได้พูดออกมาก็รีบหันหน้าหนีเลือกที่จะเ
“อะ พี่มิว..” มายูสะดุ้งเฮือกหันมองไปทางด้านหลัง มือหนาโอบกอดร่างกายของเธอไว้แน่นพลางเอ่ยถามไปยังคู่หมั้นสาวที่กำลังเหม่อลอยอยู่ ถึงขนาดที่ว่าเขาเดินเข้ามาเธอยังไม่รู้สึกตัวเลยด้วยซ้ำ“กำลังคิดอะไรอยู่เหรอพี่เดินเข้ามาถึงได้ไม่รู้ตัว” เสียงทุ้มแหบพร่าดังขึ้นข้างใบหูอยากรู้นักว่าเธอกำลังใจลอยคิดอะไรอยู่ มายูพลิกหมุนร่างกายหันหน้ามาเผชิญหน้าแฟนหนุ่มพลางส่งยิ้มหวานละมุน“มายูกำลังคิดว่าวันนี้มายูมีความสุขมาก คิดไปถึงเรื่องที่พวกเราเล่นแอพหาคู่แล้วเจอกันค่ะ ไม่น่าเชื่อเลยนะคะว่าแอพนั่นจะทำให้พวกเราได้คุยกัน โลกกลมจริงๆ” เธอพูดไปพร้อมกับรอยยิ้มที่ฉายชัดขึ้นบนใบหน้าอย่างเห็นได้ชัด“พี่รู้สึกชอบเราตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกันเลย แต่เราดูเหมือนไม่ชอบขี้หน้าพี่แถมครั้งแรกที่พวกเราได้เจอกัน พี่ยังอยู่ในสภาพนั้นแล้วอยู่กับผู้หญิงคนอื่นด้วยอีก ถ้าย้อนเวลากลับไปแก้ไขได้พี่จะไม่ทำตัวเจ้าชู้เป็นเสือผู้หญิงแบบที่แล้วมา ขอโทษสำหรับเรื่องที่มันได้ผ่านไปแล้วด้วยนะ”“พี่มิวไม่ต้องขอโทษแล้วนะคะ เรื่องพวกนั้นมันได้ผ่านไปแล้ว ยังไงตอนนี้พวกเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้วนะคะ” มายูส่ายหน้าไปมาเรื่องที่ผ่านไปแล้วก็ขอใ
“ยินดีด้วยนะจ้ะน้องมายู ยินดีตอนรับสู่ครอบครัวของเราน้า” มาร์กี้ที่เดินเข้ามาจากทางด้านหลังก็ส่งเสียงทักทายมายังเจ้าของงานในวันนี้ มายูและมิวนิครีบหันหลังจากไปมองและก็เป็นมายูที่เดินเข้าไปโอบกอดร่างบางของพี่สาวคนโตของพี่มิวนิค“ขอบคุณค่ะพี่สาว หนูก็ดีใจที่จะมีพี่สาวเพิ่มอีกคน”และเมื่อทั้งคู่กอดกันเสร็จแล้ว มายูก็ผละตัวออกเธอเห็นกลุ่มเพื่อนสนิทของตัวเองยืนอยู่ตรงมุมหนึ่งของงานไม่รอช้าเธอจึงขออนุญาตเพื่อที่จะเข้าไปพวกเขา“งั้นมายูขอตัวเดินเข้าไปหาเพื่อนก่อนนะคะ พี่มิวเดี๋ยวมายูมานะคะ” ร่างบางไม่ลืมที่จะหันหน้าไปมองคู่หมั้นหนุ่มก่อนที่จะเดินออกไปจากตรงนั้น มายูเดินเข้ามาหากลุ่มเพื่อนสาวที่ต่างก็กำลังยืนอยู่กับแฟนหนุ่มของตัวเองยกเว้นก็แต่ชะเอม..ที่ยังไม่พามาเปิดตัวสักที“ไงจ้ะคนสวยเหนื่อยมั้ยเนี่ย” พราวพูดขึ้นทันทีที่เห็นมายูเดินเข้ามาใกล้“นิดหน่อยแต่มีความสุขมาก” มายูยิ้มกว้างตอบกลับเพื่อนกลับไปถึงวันนี้จะเหนื่อยแต่ก็มีความสุขมากเช่นกัน เธอคิดว่าความสุขที่ได้รับในวันนี้คงมากกว่าความเหนื่อยอย่างแน่นอน“พี่ยินดีด้วยนะ” ธาวินแฟนหนุ่มของพราวพูดขึ้นหลังจากที่แฟนสาวของตัวเองได้พูดแสดงความยิน
“วันนี้มายูของเราสวยมาก รักแกที่สุด~” พราวพูดขึ้นทันทีหลังจากที่เดินเข้ามาภายในห้องที่ใช้สำหรับแต่งตัว เธอมองไปยังชุดที่มายูได้สวมใส่ ชุดเดรสยาวสีชมพูสวยหวานบวกกับใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางสีสันสดใส ผมที่ถูกรวบขึ้นวันนี้เพื่อนสนิทของเธอสวยหวานสะดุดตาเป็นอย่างมากถึงมากที่สุดวันนี้มันคือวันของเธอและถ้าพี่มิวนิคได้เห็นเธอในลุคนี้มีหวังคลั่งรักหนักไปกว่าเดิมอย่างแน่นอน!!!“มายูของพวกเราสวยมากเลย~” อลิสยิ้มกว้างพร้อมกับเดินเข้าไปโอบกอดร่างบอบบางที่ลุกขึ้นยืนเตรียมอ้าแขนรอรับอ้อมกอดจากเธออยู่ ทั้งสองกอดกันแน่นโดยที่มีพราวเดินเข้าไปสวมกอดด้วยอีกหนึ่งคนชะเอมยืนมองภาพนั้นด้วยความรู้สึกดีใจอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่มายูได้หมั้นมีคนที่ดูแลเธอได้อย่างใกล้ชิด“นี่พวกฉันไม่ได้อวยแกเลยนะ แต่วันนี้แกสวยมากจริงๆ พี่มิวนิคไปไหนไม่รอดแน่” ชะเอมพูดขึ้นหลังจากที่ยืนมองทั้งสามสาวกอดกันจนแยกออกจากกันเป็นที่เรียบร้อย มายูยิ้มรับคำพูดของชะเอมด้วยความเขินอายไม่ต้องบอกก็รู้ว่าพี่มิวนิคต้องเป็นอย่างที่ชะเอมพูดอย่างแน่นอนเพราะขนาดยังไม่ได้จัดพิธีหมั้นเขาก็ทำตัวติดเธอแจไม่ยอมให้ห่างไปไหนยกเว้นก็แค่ตอนไปเรียนท
“ใช่ค่ะแม่ พี่มารินกับมายูไปเดินเล่นกับพี่มิวนิคมาค่ะแล้วนี่พ่อกับแม่ได้อะไรมาบ้างคะเนี่ย” มายูยิ้มกว้างปรับเปลี่ยนอารมณ์ใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นยิ้มร่าเริงสดใสแต่ภายในใจลึกๆก็แอบรู้สึกผิดไปกับสิ่งที่พูดโกหกพ่อและแม่ออกไปแบบนั้นอยู่เหมือนกัน เธอรีบอาศัยจังหวะนี้ชวนแม่เปลี่ยนเรื่องคุยไปเป็นเรื่องอื่นในทันที“ได้เยอะเลย มีทั้งกุ้ง ปลาหมึก แม่ซื้อเนื้อหมูมาทำบาร์บีคิวด้วยนะ” แม่ยิ้มและชูถุงอาหารทะเลขึ้นให้ลูกสาวได้เห็นเต็มๆตาถึงความตัวใหญ่และเนื้อเยอะของกุ้งและอาหารทะเลที่เธอซื้อมา ทำเอาสองสาวตาลุกวาวด้วยความอยากกิน“ว้าว~ พูดขึ้นมาแล้วหิวเลยครับว่าแต่มีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับคุณแม่” มิวนิครีบลุกขึ้นแล้วเดินมาหาคุณแม่ของเธอทั้งสอง เขาอาสาทำด้วยความเต็มใจแต่ก็แอบหวังลึกๆที่อยากจะเป็นลูกเขยคนโปรดของพ่อแม่เธอ“งั้นมิวนิคเตรียมก่อไฟย่างบาร์บีคิวให้แม่แล้วกันนะส่วนสาวๆมาช่วยแม่ล้างกุ้ง ปลาหมึกพวกนี้กันดีกว่า” ผู้เป็นแม่หันไปพูดกับลูกสาวทั้งสองก่อนที่จะเดินนำเข้าไปในห้องครัว มายูกับมารินรีบเดินตามแม่ของเธอเข้าไปในครัว1 ชั่วโมงต่อมาพ่อแม่รวมไปถึงมายู มาริน นั่งกันอยู่ที่ยังโต๊ะม้านั่งหน้าบ้านในตอนน
แอ๊ด~เสียงประตูห้องพักของแมทธิวเปิดออกกว้างและก็เป็นพี่แมทธิวที่เดินนำออกมาก่อนตามหลังด้วยพี่มาริน ทั้งคู่หยุดชะงักเมื่อออกมาจากห้องแล้วเจอเข้ากับพวกเราทั้งสอง พี่แมทธิวพูดขึ้นหลังจากที่เขาเห็นสายตาของพวกเราทั้งคู่ที่มองไปยังเขาสลับกับพี่มาริน“พ่อกับแม่ของน้องมายูพากันออกไปซื้ออาหารทะเลมาปิ้งกินกันที่บ้านน่ะ” แมทธิวพูดขึ้นในสิ่งที่คุณแม่ของพวกเธอได้ฝากบอกกับเขาเอาไว้ก่อนที่พ่อและแม่จะพากันออกไปยังด้านนอก“อ๋อค่ะ” มายูพยักหน้าอย่างเข้าใจที่แท้ที่แม่ของเธอมาเรียกก็เพราะแค่จะบอกกับพวกเธอว่าท่านจะออกไปซื้อของมาทำกินกันก็เท่านั้น มือเล็กยกมือขึ้นเกาหัวแกรกแอบเขินอายตัวเองอยู่เหมือนกันที่ไม่ยอมออกมาคุยกับแม่แต่ส่วนหนึ่งก็เป็นเพราะผู้ชายข้างกายคนนี้ด้วยใบหน้าสวยหันขวับจ้องมองหน้าพี่มิวนิคด้วยสายตาคาดโทษอีกครั้ง ทั้งหมดเป็นเพราะเขาเลยที่ทำให้เธอต้องรู้สึกผิด ใบหน้าของมายูแดงขึ้นเมื่อเจอเข้ากับสายตาของพี่แมทธิวที่มองมาที่เธอสลับกับพี่มิวนิคไม่รู้ว่าเมื่อครู่เธอส่งเสียงดังเกินไปหรือเปล่า น่าอายชะมัดเป็นเพราะพี่มิวนิคคนเดียวเลย“พี่ขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ” มารินที่ยืนอยู่ทางด้านหลังข
“พี่ทำโทษเราเสร็จแล้วครับ” มิวนิคยิ้มกว้างด้วยความอารมณ์ดี เขาเขยิบตัวเข้าไปจูบซับเม็ดเหงื่อบนใบหน้าแฟนสาวคนสวย เขารู้สึกรักและหวงแหนเธอมากมายเหลือเกินไม่ว่ามองมุมไหนก็หวงจนไม่อยากให้ไอ้ผู้ชายหน้าไหนได้มองเธอ“คนบ้าลุกออกไปเลยนะ!!” เสียงเล็กพึมพำขึ้นพร้อมออกแรงยกมือขึ้นมาทุบตีอกแกร่งของแฟนหนุ่มตัวร้ายที่นานวันจะยิ่งได้ใจทำตัวร้ายกาจมากขึ้นเรื่อยๆ“ไปอาบน้ำใช่มั้ย เดี๋ยวพี่อาบน้ำให้นะครับ” มิวนิคยิ้มร้ายหยัดกายลุกขึ้นแล้วโอบอุ้มร่างบางขึ้นไว้ในท่าเจ้าสาวพาเธอลงจากเตียงนอนจุดมุ่งหมายก็คือห้องน้ำ มายูเริ่มดีดดิ้นคิดดีไม่ได้เลยกับการที่พี่เขาอาสาพาเธอเข้าไปอาบน้ำให้แบบนี้“ไม่เอาค่ะ นี่ปล่อยมายูลงไปนะ กรี๊ด~”มิวนิคพาแฟนสาวเข้ามาในห้องน้ำวางเธอไว้ใต้ฝักบัวโดยที่มีเขายืนอยู่ทางด้านหลัง มือหนาลูบไล้ไปตามผิวขาวๆโน้มใบหน้าสูดดมความหอมของผิวกายเธอ ทำร่างบางสะดุ้งมวนท้องน้อยอย่างไม่รู้สาเหตุ เธอรีบดันร่างแกร่งให้ห่างออกแต่มีหรือที่ผู้ชายเจ้าเล่ห์อย่างมิวนิคจะยอมปล่อยให้โอกาสแบบนี้หลุดลอยหายไป“อีกรอบนะ!”“มะ ไม่ อื้อ~”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะได้ปฏิเสธมือหนาของมิวนิคได้จับปลายคางของเธอให้หันหน้าเข