“อ้าว มายืนทำอะไรตรงนี้ แล้วนั่นเป็นอะไรทำไมยืนตัวงอแบบนั้น” เสียงของอริสาดังขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาเห็นเพื่อนสาวระหว่างทางที่จะกลับห้อง อริสาไม่รู้สักนิดว่านลินญาได้ยินอะไรเข้าไปบ้าง แต่คำว่ายืนตัวงอของอริสาทำให้นลินญานึกขึ้นมาได้ถึงสาเหตุที่เดินลงมาจากห้อง
“ฉันปวดท้องวันนั้นอีกแล้วอะแก ลืมเอายามาด้วยแกพกมาบ้างมั้ย” เพราะเธอเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาปวดท้องเวลาเป็นวันนั้นของเดือนแถมประจำเดือนยังมาไม่เป็นเวลาทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะประสบปัญหานี้ตอนไหน ทำให้บางครั้งก็ลืมเรื่องยาแก้ปวดไป และในบรรดาเพื่อนก็มีแค่อริสาที่มีปัญหาแบบนี้เหมือนกันเมื่อไปหาที่ห้องไม่เจอจึงต้องลงมาตามหาข้างล่าง ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมาได้ยินอะไรแบบนี้เข้า
นี่เธอโชคดีหรือโชคร้ายกันเนี่ย?
“รู้สึกว่าจะไม่ได้เอามาอะแก เพราะก่อนมาเที่ยวมันมาแล้วฉันเลยสบายใจไม่คิดพกมาอะ” อริสาตอบเสียงเศร้าก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ “แต่แกไม่ต้องวิตก มีคนนึงที่ต้องช่วยได้ เดี๋ยวฉันมาแกนั่งรอนี่นะ”
พูดจบอริสาก็หายไปทางห้องครัวทันทีนลินญารู้ได้ไม่ยากเลยว่าอีกฝ่ายจะไปตามใครมาช่วย คนปวดท้องเพราะเป็นวันนั้นหน้าร้อนขึ้นชั่วขณะเมื่อนึกไปถึงสิ่งที่ได้ยินก่อนหน้านี้ เธอควรทำหน้ายังไงดีล่ะเนี่ยถ้าต้องพบกับสีหราช
ไม่ปล่อยให้นลินญาได้เวลาคิดอริสาก็เดินกลับมาพร้อมกับสีหราช ในมือหนามีกระเป๋าน้ำร้อนกับผ้าขนหนูมาด้วย
“เดี๋ยวแกเอากระเป๋าน้ำร้อนประคบให้คะนิ้งไปก่อนนะอลิน ฉันขึ้นไปเอายาบนห้องแป๊บนึง”
“พกยาแบบนี้ด้วย?” อริสาค่อนข้างแปลกใจ ไม่คิดว่าเพื่อนจะเตรียมพร้อมขนาดนี้
“ฉันมียาทุกอย่างที่รักษาคนได้ ตั้งแต่พาราไปจนถึงแก้ไมเกรน แก้อักเสบและยานอนหลับ กะอีแค่ยาของผู้หญิงซึ่งไม่ได้ห่างไกลอาชีพของฉันแบบนี้ฉันจะไม่มีได้ยังไง” สีหราชชี้แจงก่อนจะรีบไปหยิบยากลับลงมาพร้อมกับขวดน้ำดื่ม
ชายหนุ่มยื่นเม็ดยาให้หญิงสาวที่ตนชอบพร้อมกับน้ำก่อนจะยกมือกอดอก “กินเข้าไป อย่าลีลา”
“รู้แล้วน่า” คนรับยามาเอ่ยบอกเสียงเบาก่อนจะมองเจ้ายาที่จะต้องกินตาปริบ ๆ ก็เธอไม่ชอบยานี่น่าจะให้ทำยังไง
“รู้แล้วก็กิน มองจนเจ็บตามันก็ไม่ทำให้หายปวดนะ มันต้องกิน” ชายหนุ่มกำชับอีกรอบก่อนจะบ่น “ให้ตายเถอะเหมือนอลินไม่มีผิด”
“อ้าวอย่ามาพาดพิงฉันสิแก” คนถูกพาดพิงถึงร้องโวยแต่ก็ต้องยอมรับว่าเรื่องไม่ชอบยาและโรงพยาบาลนี่เธอกับนลินญาพอกันเลยล่ะ ถึงได้คบกันได้ซี้ปึกไงล่ะ
สีหราชส่ายหน้าเอือมระอาพร้อมบ่นออกมาอีกรอบ “เป็นก็ไม่ใช่น้อยไม่รู้จักไปหาหมอ ไม่ไหวจริง ๆ สาว ๆ สมัยนี้ ขอสั่งเลยนะกลับทริปนี้ไปพวกแกสองคนต้องไปหาฉันที่โรงพยาบาล ไม่อย่างนั้นจะตามถึงบ้านเลย”
“ก็เคยไปแล้วก็ไม่เห็นหาย คุณหมอมัวแต่ติดคนไข้อื่น” นลินญาบ่น ใช่ว่าเธอและอริสาจะไม่เคยไปหาหมอ เคยไปแล้วและก็ไปหาตาหมอคนนี้ล่ะ แต่ตาหมอคนนี้น่ะคิวทองเชียวล่ะมีคนไข้เข้าแถวตรวจยาวเหยียด ใครจะไปรอได้เล่าคนมีการมีงานต้องทำทั้งนั้น
“เฮ้อ หมออื่นก็มี พวกแกมันกลัวหมอขึ้นสมองก็พูดมาเถอะไม่ต้องมาโยนความผิดให้ฉัน” หมอหนุ่มว่าให้อีกครั้ง ก่อนจะยื่นแผงยาให้คนเจ็บจนตัวงอ “ปวดก็กิน แต่ถ้าไม่หายก็บอกฉัน อย่าเงียบ ไอ้ปวดท้องประจำเดือนนี่ไม่ใช่เรื่องขี้ปะติ้วเลยนะ”
“โอ๊ยบ่นอยู่นั่นแหละคุณพ่อ ขี้เกียจฟังแล้วเนี่ย” อริสาที่เงียบมาสักพักบอกก่อนที่สะกิดแขนชายหนุ่ม “ว่าแต่คุณหมอพอรู้วิธีที่ทำให้ไม่ต้องปวดโดยไม่ต้องหาหมอกินยามั้ยอ่ะ?”
“มี” ชายหนุ่มตอบสั้น ๆ
“จริงอะ ทำไงอะ”
“หาผัวแล้วก็มีลูกสิ รับรองเลยว่าไม่ต้องปวดท้องไปเกือบปีเชียวล่ะ” หมอหนุ่มตอบแล้วก็หัวเราะออกมา “แต่ดูจากนิสัยและสภาพนี้แล้ว พวกแกคงต้องปวดไปอีกนาน ฮะฮะฮะ”
“ไอ้บ้านี่” สองสาวพูดออกมาพร้อมกันก่อนจะโยนหมอนหนุนหลังใส่คนที่เจตนาจะบอกพวกเธอว่าพวกเธอคงไม่มีปัญญาหาสามีไปอีกนาน
“ปากอย่างแกกับพี่ชายแกก็คงหาเมียไม่ได้เหมือนกันล่ะ” อริสาว่าให้แต่คุณหมอหนุ่มดูจะไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย
“แกไม่รู้อะไรที่บ้านน่ะมีสาว ๆมาต่อแถวขอสมัครเป็นสะใภ้แม่ให้เพียบเลย ไอ้เรื่องหาไม่ได้น่ะไม่มีทางมีแต่ไม่อยากหาเท่านั้นล่ะ” สีหราชยักไหล่บอกก่อนที่จะยื่นยาอีกแผงให้กับอริสา
“อันนี้ยานอนหลับ เผื่อแกจำเป็นต้องใช้ แต่ฉันว่าเอาพาราไปด้วยก็ดี ดูเหมือนจะมีไข้อ่อน ๆ นะ”
“เห้ย แกรู้ได้ไง?” อริสาถามอย่างประหลาดใจ จะว่าไปเธอก็รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวจริง ๆ นั่นล่ะ
“นี่ใคร ท่านสิงห์นะเว้ย กระผมคือหมอผู้เก่งกาจมองแว่บเดียวก็รู้แล้ว รู้สึกว่าไอ้เสือก็เหมือนกัน พอถึงบ้านถึงได้รีบเข้าห้องไปเลย พวกแกก็ดูแลกันไปนะ ฉันแวะเอายาไปให้ไอ้เสือก่อน” เพราะสีหราชเป็นคนช่างสังเกตและคอยสังเกตเพื่อน ๆ อยู่เสมอจึงได้รู้ว่าใครเป็นยังไงเพียงแค่ยังหาโอกาสรักษาไม่ได้เท่านั้น นอกจากอริสาที่มีไข้อ่อน ๆ แล้วเขาก็รู้ว่าพี่ชายฝาแฝดของเขาก็เช่นกัน ศารทูลนั้นป่วยยากแต่ถ้าป่วยเมื่อไหร่อาการจะแปลก ๆ ถ้าเป็นไข้หวัดนานปีจะเป็นสักครั้งแต่เมื่อเป็นแล้วก็จะง่วงตลอดเวลา คนที่พลังงานเยอะอย่างศารทูลมีเหตุผลเดียวล่ะที่ขอตัวไปนอนทั้งที่ปกติถ้ามาที่เกาะจะต้องเดินดูรอบ ๆ เสมอ นั่นก็คือกำลังมีไข้ยังไงล่ะ
“ให้นอนซมไปเลยดีกว่ามั้งสิงห์ เผื่ออากาศที่เกาะจะได้ดีขึ้นบ้าง” อริสาเอ่ยท้วง
“ทำแบบนั้นได้ที่ไหนเล่า” สีหราชเอ่ยก่อนจะเดินจากไป อริสาหันกลับมาสนใจนลินญาก่อนจะชวนหญิงสาวไปพักที่ห้องโดยไม่รู้เลยว่านลินญากำลังอยู่ในอาการสงสัยและสับสน
ลองนึกทบทวนที่ผ่านมาแล้วนลินญาก็รู้สึกว่าตัวเองโง่มากแถมยังซื่อบื้อมาตลอดด้วย อาจจะเพราะเธอมักจะตัวติดกับอริสาจึงได้สนิทกับสีหราชไปด้วยทำให้เธอมองข้ามอะไรไป สีหราชพูดกับเธอเหมือนกับพูดกับเพื่อนคนอื่น ๆ ก็จริงแต่ในบางครั้งก็จริงจัง และเข้มงวดกับเธอมากกว่าใคร แต่ถ้าลองสังเกตดี ๆ แล้วความห่วงใยที่สีหราชมีให้มันต่างกับเพื่อนคนอื่น
ชายหนุ่มห่วงใยอริสาเหมือนกับเพื่อนสนิทคนนึงแต่กับเธอมันดูต่างออกไป ทำไมเธอไม่คิดให้ได้เร็วกว่านี้นะทำไมไม่คิดถึงความห่วงใยที่แตกต่างนี้ให้ได้ก่อนหน้านี้กันนะ
ผู้ชายอย่างอีตาหมอสิงห์นี่ทำให้เธอปวดหัวจริง ๆ คอยดูนะทริปนี้เธอจะเล่นงานตาคนนี้ให้หนักเลย ยัยเพื่อนผู้รู้แต่ไม่ยอมบอกอย่างอริสาด้วย รู้แล้วยังปกปิดมันต้องโดนนลินญาคิดแผนร้ายเงียบ ๆ โดยที่อริสาไม่รู้สักนิด ความจริงแล้วเธอก็ร้ายไม่แพ้เพื่อนคนไหนหรอก Devil Dark น่ะแปลว่าปีศาจมืด แก็ง Devil Dark ก็แปลว่าเป็นกลุ่มที่รวมตัวปีศาจมืดนั่นล่ะ ถ้าเธอแสนดีเธอจะอยู่กลุ่มนี้มาได้เป็นสามสิบปีรึไงกันเล่าความจริงแล้วสมัยม.ปลายเธอก็หลงรักเข้าเต็มเปาเลยล่ะ หลงรักตาหมอสีหราชนั่นน่ะ แต่ตอนนั้นตาคนนั้นไม่มีทีท่าอะไรเลยแถมยังปั่นปึ่งเย็นชาใส่เสียอีก อุตส่าห์ตามไปเรียนม.เดียวกันก็ยังไม่มีปฏิกิริยาพอเรียนจบก็เลยแยกย้ายกันไปเธอถึงได้เลิกสนใจ พยายามตัดใจจากเขา จนมาเจอลูกเลี้ยงของพ่อที่บุคลิกคล้ายกันนั่นล่ะเธอจึงหันเหไปที่คนนั้นเพื่อจะให้เขาเป็นตัวแทนของสีหราช ใครจะไปคิดล่ะพอเปิดใจให้คนโน่นเธอเพิ่งจะมาค้นพบความลับของคนนี้น่ะหงุดหงิดจริง ๆ ที่อริสารู้แล้วไม่บอก ถ้าบอกล่ะก็เธอกับตาหมอสีหราชได้คบกันไปนานแล้วมั้ง ไม่ต้องนั่งอยู่บนคานมาจนจะอายุสามสิบบวกให้ญาติฝั่งพ่อกระแนะกระแหนว่าขายไม่ออกแบบนี้หรอก ถ้ารู้ว่าส
การพูดคุยเฮฮาระหว่างเพื่อนยังคงดังเป็นระยะทว่าอริสาไม่ได้สนใจจะเฮฮากับเพื่อน หญิงสาวเอาแต่ซัดเครื่องดื่มลงคอ เธอเปลี่ยนจากน้ำสีหวานมาเป็นน้ำสีอำพัน ความจริงแล้วเธอค่อนข้างจะคออ่อน และดื่มไม่ค่อยเก่งแต่เพราะมีคู่อริเป็นคอทองแดงเธอจึงคออ่อนไม่ได้เสียชีพไม่ยอมเสียฟอร์ม และแพ้ไม่เป็นนี่คือเธอล่ะ...ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งเมา คนเมาแล้วถ้าไม่เงียบไปเลยก็พูดมากพล่ามไปเรื่อย อริสาเป็นอย่างหลังในบรรดาเพื่อนฝูงรู้กัน คนเมาสุดเริ่มจะระบายออกมาเสียอ้อแอ้จนเพื่อน ๆ ต้องเงียบฟัง“ยัยเด็กผีนั้นตอนแรก ๆ ก็เข้ามาออเซาะ ออดอ้อน ทำตัวน่ารักจนฉันหลงไว้ใจคิดว่าใสซื่อ แต่สุดท้ายมันซื่อยังไงของมันถึงได้ไปท้องป่องกับแฟนฉันได้ ฮึก พวกแกคิดดูคนที่พวกแกบอกว่าฉลาดรอบรู้อย่างฉันเจ็บแค่ไหนตอนรู้ว่าตัวเองเป็นยัยโง่ที่ถูกสวมเขา ฮึก ผู้ชายมันเชื่อไม่ได้ ผู้หญิงใสซื่อไม่มีจริง ฮึก”“นี่ พอได้แล้ว ดื่มเยอะไปแล้วนะแก” ปริมาร้องห้ามเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่พากันห้ามแต่อริสาหาได้ฟังไม่ หญิงสาวยังคงดื่มเข้าไปอีกถึงสองแก้ว“ฉานผิดตรงหนาย ทามมายทามกาบฉานแบบเน้”“ไม่เอาแล้วอลิน แกเมาแล้วนะ” แพนธีราปราบพร้อมกับพยายามแย่งแก้
จากหาดหน้าบ้านเข้ามาภายในตัวบ้านไม่ไกลมากนักแต่ศารทูลก็นึกสงสัยขึ้นมา ยาถ่ายประเภทที่น่าจะเอาไว้แกล้งคนนี่น่าจะออกฤทธิ์ไม่ช้ากว่าสองถึงสามชั่วโมงหลังจากกินนะ เขาก็เคยโดยยัยคนที่เขาเก็บมาแอบใส่ในขนมให้กินอยู่หลายครั้งเหมือนกัน อย่างเร็วสุดหลังจากกินเข้าไปก็จะมีอาการปวดท้องทันที อย่างช้าสุดก็ยี่สิบชั่วโมง แต่ดูเหมือนอริสาจะไม่รู้สึกปวดท้องเลยแต่กลับมีอาการแปลก ๆ“อย่ามาไซ้ซอกคอฉันนะยัยขี้เมา” ใช่...ยัยขี้เมาไม่มีอาการปวดท้องแต่กลับมีอาการแปลก ๆ อยู่ ๆ ก็มาไซ้ซอกคอเขา มือไม้ก็ลูบไล้หน้าอกเขาเสียอย่างนั้นไม่น่าใช่ยาถ่ายแล้วล่ะ คงไม่ใช่ว่ายัยนลินญาถูกหลอกให้ซื้อยาแปลก ๆ มาหรอกนะ ?...“นิ่ง ๆ ได้มั้ยเนี่ย” ชายหนุ่มเอ่ยปรามคนเมาอีกรอบขณะเปิดประตูห้องของหญิงสาว“เสือจายร้ายดุอาลินทามมาย” คนเมาอ้อแอ้ตัดพ้อ คำพูดคำจาของหญิงสาวทำให้ศารทูลคิดถึงตอนเด็ก ๆ สมัยที่ยังไม่ทะเลาะกับอริสา สมัยนั้นเขาและสีหราชสนิทกับอริสามาก ตัวติดกันเป็นตังเมจนผู้ใหญ่แซวว่าเป็นแฝด3 แต่นั่นมันก็นานแล้วและก็ไม่มีอีกแล้วด้วยก็อริสาอยากจะไม่มีเหตุผลและนิสัยไม่ดีปาเค้กใส่เขาทำไมล่ะ ขาดแล้วขาดเลย ทุกวันนี้หรือแม้แต่ตอนนี้ที
อริสาก้มลงจูบคนใต้ร่างอีกครั้งอย่างหนักหน่วง แท้จริงแล้วหญิงสาวไม่ประสีประสาเรื่องอย่างนี้แม้แต่น้อยแต่เพราะฤทธิ์ของยาทำให้หญิงสาวทำสิ่งต่าง ๆ ไปโดยธรรมชาติ บวกกับสมองมีภาพของตฤณกันต์และนภิตราที่เธอได้พบเห็นล่องลอยหลอกหลอนอยู่ทำให้ร่างกายแสดงออกมาเหมือนกับที่เห็นมาในตอนนี้สมองของเธอบอกว่าอยากรู้เหลือเกินว่าที่นภิตราและตฤณกันต์ทำลับหลังเธอมันสนุกนักหรือใบหน้าของคนทั้งคู่ในตอนนั้นจึงได้ดูมีความสุขนัก และอะไรหลาย ๆ อย่างบอกเธอว่าถ้าอยากรู้ก็แค่ทำเหมือนกับที่สองคนนั้นทำเธอก็จะได้รู้สมองสั่งมาอย่างนี้โดยไม่ได้สนใจว่าคนที่อยู่ใต้ร่างเป็นคนที่เธอเคยเพียรบอกตัวเองและคนอื่น ๆ ว่าชาตินี้ทั้งชาติต่อให้เหลืออยู่เพียงคนเดียวในโลกเธอก็จะไม่เอามาทำพันธุ์หญิงสาวซุกไซ้ลำคอแข็งแรง หยอกล้อลูกกระเดือกของคนไม่สามารถขัดขืนได้ มือบางพลางลูบไล้ไปตามแผงอกแข็งแรง อกแกร่งของศารทูลเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันเนื่องมาจากชายหนุ่มชื่นชอบการออกกำลังกายและเคยผ่านการฝึกหลักสูตรพิเศษมาไม่น้อยทำให้แลดูล่ำสัน แข็งแรงน่าจับเสียไม่หยอกศารทูลดูจะไร้ความสามารถไปชั่วขณะ เขาไม่อาจจะขัดขืนหญิงสาวได้แม้แต่น้อย ให้ตายเถอะความจริงมัน
แม้จะบอกนลินญาว่าว่างวันพฤหัสบดีและวันศุกร์หน้าแต่จริง ๆ แล้วบ่ายวันต่อมาก็เป็นวันว่างของอริสาเช่นกันแต่หญิงสาวกลับไม่บอกนลินญาเพราะอยากใช้วันว่างนี้ไปหาหมอ...ที่ไม่ใช่สีหราชด้วยอาการที่ฟ้องให้กังวลและอริสาเป็นคนไม่อยากจะรู้สึกค้างคาหรือกังวลหญิงสาวจึงอยากจะตรวจให้รู้ชัดไปเลยว่าท้องหรือไม่...จากนั้นเธอจะเอายังไงค่อยคิดอีกทีในตอนเช้าอริสามาทำงานปกติโดยไม่ได้บอกกับชริมาหรือแม้แต่แพนธีราว่าจะไปหาหมอ แน่นอนว่าเรื่องในคืนนั้นนอกจากเธอกับคู่ปรับแล้วไม่มีเพื่อนคนไหนรับรู้ เช่นเดียวกับเรื่องยาในชาที่รู้กันแค่4คนเท่านั้น แม้จะเป็นเพื่อนแต่เธอก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่จึงไม่ได้เล่าให้แพนธีราฟัง และเดาได้ว่าอีกสามคนก็ไม่ต่างกัน“ช่วงบ่ายพี่ไม่เข้ามาใช่มั้ยคะ?” ชริมาสอบถามเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สาวกำลังเตรียมตัวออกจากห้องด้วยท่าทีที่คล้ายกับว่าจะไม่กลับเข้ามาแล้วในวันนี้“ใช่ พอดีมีธุระน่ะ ว่าแต่...สองคนนั้นออกไปแล้วใช่มั้ย?” อริสาตอบและถามกลับถึงบุคคลสองคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุด ที่ผ่านมาเพราะไม่อยากจะมีปัญหาและไม่อยากเสวนาเธอจึงหลบเลี่ยงคนทั้งคู่อยู่บ่อยครั้ง ก่อนเวลาพักจะต้องให้ชริมาไปดูให้เสม
อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ทั้งชนิดแบบจุ่ม และแบบหยดที่ใช้แล้วมากกว่าห้าชิ้นที่บ่งบอกไปในทิศทางเดียวกันถูกวางไว้บนโต๊ะโดยไม่มีวี่แววว่าคนที่ใช้มันจะหยิบขึ้นมาดูอีกครั้งดวงตาที่เคยเปล่งประกายความสงบและคมเฉียบหม่นลงทุกขณะเมื่อมองขีดสีแดงที่ปรากฏเด่นชัดสองขีดในชุดตรวจการตั้งครรภ์ทุกชิ้นที่ซื้อมาทดสอบมีบางชิ้นที่เป็นขีดจาง ๆ แต่ก็เป็นสองขีดอยู่ดีจะบ้าตาย เธออยากให้ชุดทดสอบพวกนี้มันเสียทั้งหมด จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่สองขีดเสียเหลือเกิน แต่...“นี่ฉันท้องเหรอเนี่ย?” เธอได้แต่ถามตัวเองพร้อมกับมือที่เผลอลูบหน้าท้องของตัวเอง มันเป็นไปได้หรือที่แค่พลาดไปคืนเดียวเธอจะได้ของขวัญติดท้องมาแบบนี้...นี่ล่ะนะเขาถึงว่าเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้กับชีวิต เฮ้อ“เอาไงต่อล่ะเนี่ย ขืนปะป๊ารู้บ้านแตกแน่” คิดเรื่องความเอาแน่เอานอนของชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ก็มีอีกเรื่องมากวนใจ นั่นคือปัญหาที่ใหญ่กว่าเธอท้องคือ...ถ้าพ่อกับแม่เธอรู้เข้ามีหวังบ้านแตกแค่รู้ว่าเธอท้องก็คงสร้างความสะท้านสะเทือนไปทั่วได้ยิ่งถ้ารู้ว่าใครคือพ่อของลูกในท้องมีหวังบ้านแตก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีหวังสะท้านสะเทือนอริสารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นม
ขณะที่ลูกเมียกำลังกังวลกลัวจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับประมุขของบ้านทว่าคนที่ถูกเป็นห่วงกลับกำลังนั่งมองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“เรียกผมมานั่งมองเนี่ยนะครับ” ศารทูลถามไปด้วยความรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ปกติเขาก็กริ่งเกรงคนจริงอย่างท่านอาทิตย์อยู่แล้วแต่เดี๋ยวนี้เขากลัวอีกฝ่ายหนักกว่าเดิมอีกขืนอีกฝ่ายที่ขึ้นชื่อว่าหวงลูกสาวถึงขนาดคอยให้คนแอบจับตาดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลาอย่างท่านอาทิตย์รู้ว่าเขาเจาะไข่แดงลูกสาวสุดรักสุดหวงไปล่ะก็...มีหวังเขาถูกอาละวาดบ้านแตกแน่ถึงยัยผู้หญิงไร้ความรับผิดชอบจะเป็นคนเริ่มก็เถอะ“อามีงานนอกให้ทำ” ท่านอาทิตย์ผู้น่าเกรงกลัวของผู้ใต้บังคับบัญชาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง “และหวังว่าเสือจะทำสำเร็จโดยไม่กระทบคดีที่ทำอยู่”“งานอะไรเหรอครับ?”ท่านอาทิตย์ไม่อธิบายในทันทีแต่ยื่นรูปถ่ายใบนึงให้ เป็นรูปของผู้ชายคนนึงที่ศารทูลรู้สึกคุ้น ๆ แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอหรือไม่“ใครครับเนี่ย?”“แฟนเก่าของอลิน” ท่านอาทิตย์เอ่ยพร้อมกับกำหมัดแน่น “อาเพิ่งรู้ว่าไอ้หมอนี่เข้าหาอลินเพราะมีจุดประสงค์ร้าย”ภายในห้องทำงานของผบช.ปส. เคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความน่ากลัว ทว่าภายนอกกลับ
และแล้วก็ถึงวันที่อริสาต้องไปหาสีหราชเป็นเพื่อนนลินญา แม้อยากจะบ่ายเบี่ยงทว่าก็ทำไม่ได้ ท่าทีจริงจังของสาวแว่นสะกดให้เธอพูดอะไรไม่ออก แม้จะไม่บ่ายเบี่ยงแต่ลึก ๆ ในใจอริสากลัวไม่น้อยว่าสีหราชจะรู้ว่าเธอท้อง อยากจะภาวนาให้ชายหนุ่มยุ่งขึ้นมากะทันหันจนมาเจอไม่ได้แต่ทว่าภาวนาก็ไม่ได้ช่วยอะไร...ช่วงนี้รู้สึกเธอจะดวงไม่ดีครั้งที่แล้วไม่อยากเจอสีหราชก็ดันเจอ ครั้งนี้ยิ่งไม่อยากเจอยิ่งเจอ...แถมไม่เจอคนเดียวด้วย เจอแม่ของอีกฝ่ายเข้าให้อีกพระศุกร์จะเข้าพระเสาร์จะแทรกอะไรขนาดนี้นะ“นี่แม่ไม่เจอหนูสองคนนานแล้วนะ เที่ยงนี้ไปทานข้าวกันมั้ยจ๊ะ แม่คิดถึงหนูสองคนอยากจะเม้าท์ด้วย ว่าไงจ๊ะ ตกลงมั้ย?” คุณหมอกานต์รวีถามสองสาวสวยที่เดินเข้ามาในห้องตรวจของลูกชายหลังจากที่ทักทายสอบถามกันไปพอสมควร“ตกลงค่ะ” นลินญาเป็นฝ่ายตอบ “แต่คุณแม่ต้องเลี้ยงพวกเรานะคะ”“แน่นอนจ้ะ อยากกินอะไรสั่งได้ไม่อั้นเลย หมอสิงห์พร้อมเปย์”“อ้าว ทำไมกลายเป็นผมพร้อมเปย์ล่ะครับแม่?” คนถูกพาดพิงถามเสียงหลง เขารึก็นั่งเงียบอยู่ตั้งนานนึกว่าคนเป็นแม่จะลืมเขาไปแล้วเสียอีก ทำไมอยู่ ๆ ก็หวยมาออกที่เขาล่ะ“ก็สิงห์ต้องไปด้วยไง แล้วสิงห์ก็เป็น
“เรื่องอะไรต้องง้อ” อริสาบอกพร้อมกับทำท่างุนงง ศารทูลหัน ขวับมามองก่อนจะส่งเสียงชิชะขัดใจในลำคอ“ไม่ง้อก็ไม่ง้อ อยากไปหอมแก้มให้รางวัลหรือจะไปจูบหน้าผากให้รางวัลไอ้กล้าก็ไปเลย”“จูบแน่” อริสาตอบกลับก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากชายหนุ่มที่ยังคงมึนงง มือบางยกขึ้นคล้องคอชายหนุ่มไว้ด้วยและจูบอย่างชำนาญ...ขึ้นมาหน่อยศารทูลทั้งงุนงงและใบ้กินไปชั่วขณะแต่ก็จูบตอบในเวลาต่อมา“ที่บอกจะหอมแก้มสักฟอดหรือดีมาก ๆ เลยนะหมายถึงนายต่างหากเล่าตาทึ่มเอ้ย” หญิงสาวเอ่ยหลังจากที่ผละจูบ “เป็นแมวบ้าสมองสล็อตยังไม่พอยังทึ่มอีก”“ทึ่ม?”“ก็ทึ่มสิ ที่ฉันยิ้มมาตลอดน่ะเพราะนายหึงฉันต่างหากเล่า ตัวเองเคยแกล้งเค้าแบบนี้เหมือนกันจำไม่ได้เหรอ?”“นี่...”“เอาคืนนิดหน่อยเอง”“ยัยเอเลี่ยน ร้ายนักนะ” คนที่ถูกแกล้งให้งอนให้หึงว่าให้เมื่อรู้ความจริงทุกอย่างจากจะงอนให้ง้อตอนนี้เริ่มชักจะงอนจริง ๆ แล้วนะ“ยัยผู้หญิงขี้แกล้ง”
การได้มาดูนักชกขวัญใจทำให้อริสาเอาแต่สนใจบนเวทีตั้งแต่นักมวยหนุ่มยังคงไหว้ครูจนศารทูลได้กลิ่นเน่าของหัวตัวเอง รู้สึกหัวเน่ายังไงไม่รู้สิ ไม่น่าปั้นไอ้เจ้าต้นกล้านี่ให้เก่งเล้ย“ไม่คิดว่าวันนี้เจ้าของค่ายจะมาดูด้วยนะ” น้ำเสียงคล้ายทักทายกันดังขึ้นทำให้ศารทูลต้องละสายตามามองคนทัก“ผมก็มาดูต้นกล้ากับเด็กในค่ายบ่อย เสี่ยไม่เคยเห็นเหรอ?” ชายหนุ่มตอบกลับในเชิงกวนประสาทอีกฝ่ายก่อนจะหันไปดูบนเวที คู่สนทนาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเจ้าของค่ายมวยของคู่ชกที่ต้นกล้าต้องชกด้วยในวันนี้นั่นเอง“ก็เห็น แต่ระวังวันนี้ต้นกล้าจะถูกกระชากเข็มขัดแชมป์ล่ะเพราะวันนี้เด็กของอั๊วเตรียมตัวมาดี”“ผมมาดูมวยไม่ได้มาฟังใครวิเคราะห์มวย ผลออกมาค่อยว่ากันดีกว่านะเสี่ย”“หึ อวดดี”ศารทูลไม่ว่าอะไรทำเพียงยักไหล่ยิ่งทำให้ถูกมองอย่างไม่ชอบใจ แต่ถามว่าเขาแคร์มั้ย บอกเลยว่าไม่ ไอ้คนชอบเล่นนอกกติกาแบบนี้ทำไมเขาต้องแคร์หลายครั้งที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายเล่นตุกติกจนนักชกในค่ายชนะมาแล้วหลายสนามแค่ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ไม่อยาก
“ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว” ในที่สุดสิรานนท์ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าอย่างคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้ “ผมขอโทษพวกคุณด้วยที่ผมคิดจะทำร้ายชื่อเสียงพวกคุณ ผมเชื่อทุกหลักฐานในวันนี้นอกจากขอโทษแล้วยังขอบคุณด้วยที่ทำให้ผมได้รู้ความจริง”“มันสบายใจขึ้นนะ โล่งมาก ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้เลยตั้งแต่เริ่มสะสมความโกรธแค้นชิงชัง ผมไม่รู้จะพูดยังไงจริง ๆ” เขาพูดต่อก่อนจะยกมือไหว้ท่านอาทิตย์ “ผมขอโทษครับ ที่ผ่านมาผมคิดร้ายกับท่านมาโดยตลอด คิดจะทำร้ายลูกสาวท่านเพื่อให้ท่านเสียใจผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ”“มันไม่สายไปหรอกนะที่จะเริ่มต้นใหม่และเป็นมิตรต่อกัน” ท่านอาทิตย์บอกก่อนจะเดินมาตบไหล่ “ฉันไม่โกรธหรอก เพราะนายยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด โชคดีแล้วล่ะที่ยังไม่ได้ทำอะไร แต่คนที่ทำก็ต้องได้รับโทษของการกระทำ”ท่านอาทิตย์หมายถึงวิภาวีที่ตอนนี้นอกจากจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทและทำให้เสียชื่อเสียงแล้วยังมีคดีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคดีเพราะชาวเน็ตช่วยกันขุดคุ้นคนที่ทำร้ายคนอื่นก็ต้องรับกรรมไป ทั้งโดนประณามในโลกออนไลน์และมีคดีความ นอกจากนี
อริสาปล่อยให้นักสืบโซเชียลตามสืบกันเอง เรื่องราวต่อจากนั้นเป็นยังไงอริสาขอไม่รับรู้ขอปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรมของแต่ละคนแม้ดูเหมือนเรื่องจะจบด้วยดีแต่ก็ยังมีเรื่องที่อริสาต้องจบอีกเรื่องนั่นก็คือเรื่องของสิรานนท์และตฤณกันต์เธออยากให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดีไม่อยากให้ผูกใจแค้นกันต่อไป ถ้าฝั่งเธอผิดเธอก็จะเป็นฝ่ายขอโทษแทนผู้เป็นพ่อแต่ถ้าไม่ใช่เธอก็จะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ทุกอย่างจบลง“เหลือเรื่องสิรานนท์กับตฤณกันต์ เรื่องตรวจDNAยังจะตรวจมั้ย?” สีหราชเอ่ยถามหลังจากที่ดูเหตุการณ์ในโลกโซเชียลว่าควบคุมเรื่องราวได้แล้ว“ไม่ต้องแล้วมั้ง เหมือนสองคนนั้นจะถอดใจแล้วนี่” นลินญาแสดงความคิดเห็น“ได้ไง สิงห์อุตส่าห์เสี่ยงไปเอาเส้นผมนายสิรานนท์มาอย่างยากลำบาก”“คือมันก็ไม่ยากมั้ย ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแกเข้าถึงตัวสิรานนท์ได้แบบง่ายมากอะ” อริสาท้วงพ่อคนบอกว่าเสี่ยงอย่างลำบาก ทั้งที่จริง ๆ ทุกอย่างได้มีการวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น ตั้งแต่นัดเจอโดยมีศารทูล นลินญาและสีหราชซุ่มดูอยู่ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคนใดคนนึงจะได้โผล่มา
อริสารอศารทูลอยู่ที่รถไม่ได้เข้าไปเยี่ยมลูกน้องของชายหนุ่มด้วยเพราะไม่อยากให้มีคนถ่ายรูป คงจะมีคนให้พิกัดโรงพยาบาลที่นภิตรารักษาตัวอยู่แล้วต้องมีคนมาจับตาดูแน่ เธอไม่อยากจะเข้าไปให้เป็นเป้าสายตาหรอกนะ รอให้เธอได้เรื่องคนปล่อยข่าวก่อนเถอะ เธอไปโชว์ตัวแน่อริสาไม่คิดจะเช็คสถานการณ์ในโลกออนไลน์แต่เธอก็พอเดาได้ว่าคนอย่างนภิตราไม่มีทางพูดให้ตัวเองดูแย่ มีแต่จะบอกว่าตัวเองถูกกระทำเท่านั้นล่ะ และอาจจะพูดว่าเธอท้องกับตฤณกันต์ด้วยแต่ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ เธอไม่ได้เป็นอย่างที่นภิตราป่าวประกาศ ยังไงซะเธอก็ย่อมคงอยู่ไม่ถูกทำลายง่าย ๆ หรอกศารทูลไปเข้าไปเยี่ยมพิมพ์นาราไม่นานก็กลับออกมาด้วยใบหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “ข้อเสียของโลกออนไลน์คือเมื่อมีหนึ่งข่าวโผล่ขึ้นมามันจะต้องมีคนเกาะกระแสสร้างข่าวปลอมขึ้นมา และก็จะมีคนพวกนึงที่ไม่กรองก่อนเชื่อทุกข่าวที่เห็น บางคนอ่านแค่พาดหัวด้วยซ้ำ มันน่ากลัวโลกออนไลน์เนี่ย”“แต่ยังไงทองแท้ก็ยังเป็นทองแท้ หรือนายคิดว่าฉันเป็นทองปลอม?”“ม้าของป๊านาะของแท้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ &ldq
แม้เช้าวันใหม่บรรยากาศในโลกโซเชียลจะยิ่งรุนแรงแต่อริสาก็ยังคงยิ้มแย้มและตอบรับการทานอาการเช้ากับครอบครัวของนลินญาด้วยใบหน้าที่ไร้วี่แววความเศร้าหรือเครียด“คุณแม่คะ พี่นนท์ล่ะคะ?” นปภาเอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกันเกือบจะครบแล้ว ความจริงเธออยากจะถามอริสาเรื่องที่เกิดขึ้นแต่พอเห็นอริสายังคงยิ้มแย้มก็พูดไม่ออกจึงต้องเปลี่ยนไปถามเรื่องพี่ชายที่เธอไม่เห็นตั้งแต่เมื่อวาน“เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง เห็นว่าจะไปทำธุระที่ภูเก็ตสักพักน่ะ” คุณแสงรวีตอบ แม้ว่าตัวเธอพอจะรู้ว่าเป็นธุระอะไรแต่ก็ไม่อยากจะพูดออกมา เธอไม่อยากให้พี่น้องต้องระแวงสงสัยกันเพียงเพราะพี่ชายไปเกี่ยวพันกับพ่อค้ายาเสพติด และไม่อยากจะพูดเรื่องนี้“ผมรู้มาว่านายหัวธีระมาที่นี่ในฐานะแขกของคุณสิรานนท์ บางทีอาจจะต้องสอบถามคุณแสงรวี คุณอาอนาคินทร์และตัวคุณสิรานนท์สักหน่อย หวังว่าจะให้ความร่วมมือนะครับ” ราวกับศารทูลรู้ความคิดคนชรากว่าจึงเอ่ยดักขึ้น คนที่พอจะให้ข้อมูลดี ๆ ได้คงมีแต่คุณแสงรวีนี่ล่ะ“เราให้ความร่วมมืออยู่แล้ว” คุณอนาคินทร์
กว่าสองชั่วโมงผ่านไปร่างมีน้ำมีนวลทรุดนั่งลงบนเตียงด้วยอาการเหม่อลอย เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนและไม่เคยรู้สึกกลัวเท่านี้มาก่อนของเหลวสีแดงยังคงติดตาการได้เห็นนภิตราตกเลือดต่อหน้าต่อตาพาให้เธอกลัวขึ้นมาจับใจ ยิ่งได้รู้ว่าไม่อาจจะรักษาชีวิตของลูกในท้องนภิตราไว้ได้เธอยิ่งกลัว...กลัวเหลือเกินว่าเธอจะเป็นแบบนั้นบ้างกลัวว่าตัวป่วนของเธอจะ...ศารทูลมองร่างเหม่อลอยก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ มือหนายื่นไปโอบไหล่ก่อนจะลูบไหล่อย่างปลอบโยน “อย่าเก็บมาคิด เรามีหมอสิงห์คอยดูแลอยู่ตลอด หมอสิงห์ไม่ปล่อยให้ตัวป่วนของเราเป็นเหมือนลูกของตฤณกันต์หรอก”“แต่ฉันกลัว”“ป๊าอยู่ตรงนี้ อย่ากลัวไปเลย ป๊าอยู่ข้างม้ากับตัวป่วนเสมอ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอด ชายหนุ่มปวดใจไม่น้อยที่เห็นอริสาหวาดกลัวแบบนี้ แต่ตัวเขาเองแม้จิตใจจะหนักแน่นแค่ไหนก็ยังรู้สึกกลัว...กลัวเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นกับอริสาและลูก“ป๊าจะอยู่ข้าง ๆ ม้า ม้าอย่ากังวลเลยนะ”“จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ทิ้
ขณะที่อริสาและศารทูลกำลังนอนหลับพักผ่อนนลินญาและสีหราชก็มุ่งตรงมาหาคุณอนาคินทร์อย่างไม่รอช้า คนที่จะบอกเล่าที่มาของสิรานนท์ได้มีแค่ผู้เป็นพ่อของเธอกับแม่ของสิรานนท์เองเท่านั้น แต่ด้วยความสัมพันธ์แม่ลูกคุณแสงรวีคงไม่บอกอะไรเกี่ยวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้เธอรู้อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วคนที่พอจะให้ข้อมูลได้ก็มีเพียงคุณอนาคินทร์เท่านั้นนับว่าโชคดีที่วันนี้คุณแสงรวีและลูกออกไปในเมืองส่วนสิรานนท์ก็ยังคงเฝ้าดูอาการนายหัวธีระอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคู่จึงสอบถามคุณอนาคินทร์ได้อย่างสะดวก“นนท์เหรอ?”“ค่ะ คือว่าคะนิ้งสงสัยน่ะค่ะว่าครอบครัวทางพ่อของคุณนนท์ไม่มีเหรอคุณนนท์ถึงได้มาอยู่กับคุณน้ารวีแล้วก็คุณพ่อ คะนิ้งได้ยินจากน้ำค้างว่าไม่ได้อยู่กับคุณนนท์มาตั้งแต่เด็ก”“ตอนแรกเขาก็อยู่กับพ่อเขา พ่อก็ไม่รู้หรอกนะว่าพ่อเขาเป็นใครทำงานอะไร รู้แค่ว่าตอนแรกเขาอยู่กับพ่อเขา และพ่อเขาเสียคุณรวีก็เลยขอพามาอยู่ด้วย”“ตอนนั้นคุณนนท์อายุเท่าไหร่เหรอคะ?”“น่าจะเก้านะ” คุณอนาคินทร์ตอบอย่างไม่ปิดบัง เนื่องจากสีหราชใ
ขณะที่ศารทูลและอริสาออกไปหาข้าวเช้าทานสิรานนท์ก็มาหยุดหน้าห้องฉุกเฉินด้วยความรู้สึกหลากหลายอะไรกัน นายหัวธีระน่ะเหรอค้ายา?ไม่จริง เขาบอกให้อีกฝ่ายอย่ากลับไปยุ่งกับยาเสพติดแล้วนี่ ทำไมกัน?“พี่นนท์ อาธีเป็นยังไงบ้าง” เสียงของใครอีกคนที่ไม่ควรจะมาถึงไวขนาดนี้เอ่ยขึ้นพร้อมกับการเดินเข้ามาใกล้“ตำรวจบอกว่าหมอให้เผื่อใจไว้” สิรานนท์ตอบก่อนจะพาตัวเองไปนั่งเก้าอี้ ตฤณกันต์ตามไปด้วยใบหน้าสลดก่อนจะต้องเปลี่ยนเป็นซีดเมื่อสิรานนท์ถามออกมา “แกมาได้ยังไง ฉันเพิ่งโทรไปไม่กี่นาทีเองนี่”“ผะ ผมเพิ่งลงเครื่องเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว”“มาทำไม?”“ระ เรื่องของผมน่าพี่” ตฤณกันต์ตอบพร้อมกับผินหน้าหนี เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขามาเพราะอริสา เพราะรูปที่อริสาโพสต์ลงในโซเชียลมิเดียทั้งก่อนหน้านี้และที่ไร่อารดา“แกมาเพราะอริสา แกหลงรักยัยนั่นใช่มั้ย?”“ผม...”“หึ แกไม่เคยปิดฉันได้หรอกตฤณ พฤติกรรมแกมันฟ้อง” สำหรับตฤณกันต์แล้วสิ