อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ทั้งชนิดแบบจุ่ม และแบบหยดที่ใช้แล้วมากกว่าห้าชิ้นที่บ่งบอกไปในทิศทางเดียวกันถูกวางไว้บนโต๊ะโดยไม่มีวี่แววว่าคนที่ใช้มันจะหยิบขึ้นมาดูอีกครั้งดวงตาที่เคยเปล่งประกายความสงบและคมเฉียบหม่นลงทุกขณะเมื่อมองขีดสีแดงที่ปรากฏเด่นชัดสองขีดในชุดตรวจการตั้งครรภ์ทุกชิ้นที่ซื้อมาทดสอบมีบางชิ้นที่เป็นขีดจาง ๆ แต่ก็เป็นสองขีดอยู่ดีจะบ้าตาย เธออยากให้ชุดทดสอบพวกนี้มันเสียทั้งหมด จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่สองขีดเสียเหลือเกิน แต่...“นี่ฉันท้องเหรอเนี่ย?” เธอได้แต่ถามตัวเองพร้อมกับมือที่เผลอลูบหน้าท้องของตัวเอง มันเป็นไปได้หรือที่แค่พลาดไปคืนเดียวเธอจะได้ของขวัญติดท้องมาแบบนี้...นี่ล่ะนะเขาถึงว่าเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้กับชีวิต เฮ้อ“เอาไงต่อล่ะเนี่ย ขืนปะป๊ารู้บ้านแตกแน่” คิดเรื่องความเอาแน่เอานอนของชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ก็มีอีกเรื่องมากวนใจ นั่นคือปัญหาที่ใหญ่กว่าเธอท้องคือ...ถ้าพ่อกับแม่เธอรู้เข้ามีหวังบ้านแตกแค่รู้ว่าเธอท้องก็คงสร้างความสะท้านสะเทือนไปทั่วได้ยิ่งถ้ารู้ว่าใครคือพ่อของลูกในท้องมีหวังบ้านแตก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีหวังสะท้านสะเทือนอริสารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นม
ขณะที่ลูกเมียกำลังกังวลกลัวจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นกับประมุขของบ้านทว่าคนที่ถูกเป็นห่วงกลับกำลังนั่งมองผู้ใต้บังคับบัญชาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“เรียกผมมานั่งมองเนี่ยนะครับ” ศารทูลถามไปด้วยความรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ปกติเขาก็กริ่งเกรงคนจริงอย่างท่านอาทิตย์อยู่แล้วแต่เดี๋ยวนี้เขากลัวอีกฝ่ายหนักกว่าเดิมอีกขืนอีกฝ่ายที่ขึ้นชื่อว่าหวงลูกสาวถึงขนาดคอยให้คนแอบจับตาดูความเคลื่อนไหวตลอดเวลาอย่างท่านอาทิตย์รู้ว่าเขาเจาะไข่แดงลูกสาวสุดรักสุดหวงไปล่ะก็...มีหวังเขาถูกอาละวาดบ้านแตกแน่ถึงยัยผู้หญิงไร้ความรับผิดชอบจะเป็นคนเริ่มก็เถอะ“อามีงานนอกให้ทำ” ท่านอาทิตย์ผู้น่าเกรงกลัวของผู้ใต้บังคับบัญชาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเป็นกันเอง “และหวังว่าเสือจะทำสำเร็จโดยไม่กระทบคดีที่ทำอยู่”“งานอะไรเหรอครับ?”ท่านอาทิตย์ไม่อธิบายในทันทีแต่ยื่นรูปถ่ายใบนึงให้ เป็นรูปของผู้ชายคนนึงที่ศารทูลรู้สึกคุ้น ๆ แต่ก็จำไม่ได้ว่าเคยเจอหรือไม่“ใครครับเนี่ย?”“แฟนเก่าของอลิน” ท่านอาทิตย์เอ่ยพร้อมกับกำหมัดแน่น “อาเพิ่งรู้ว่าไอ้หมอนี่เข้าหาอลินเพราะมีจุดประสงค์ร้าย”ภายในห้องทำงานของผบช.ปส. เคร่งเครียดและเต็มไปด้วยความน่ากลัว ทว่าภายนอกกลับ
และแล้วก็ถึงวันที่อริสาต้องไปหาสีหราชเป็นเพื่อนนลินญา แม้อยากจะบ่ายเบี่ยงทว่าก็ทำไม่ได้ ท่าทีจริงจังของสาวแว่นสะกดให้เธอพูดอะไรไม่ออก แม้จะไม่บ่ายเบี่ยงแต่ลึก ๆ ในใจอริสากลัวไม่น้อยว่าสีหราชจะรู้ว่าเธอท้อง อยากจะภาวนาให้ชายหนุ่มยุ่งขึ้นมากะทันหันจนมาเจอไม่ได้แต่ทว่าภาวนาก็ไม่ได้ช่วยอะไร...ช่วงนี้รู้สึกเธอจะดวงไม่ดีครั้งที่แล้วไม่อยากเจอสีหราชก็ดันเจอ ครั้งนี้ยิ่งไม่อยากเจอยิ่งเจอ...แถมไม่เจอคนเดียวด้วย เจอแม่ของอีกฝ่ายเข้าให้อีกพระศุกร์จะเข้าพระเสาร์จะแทรกอะไรขนาดนี้นะ“นี่แม่ไม่เจอหนูสองคนนานแล้วนะ เที่ยงนี้ไปทานข้าวกันมั้ยจ๊ะ แม่คิดถึงหนูสองคนอยากจะเม้าท์ด้วย ว่าไงจ๊ะ ตกลงมั้ย?” คุณหมอกานต์รวีถามสองสาวสวยที่เดินเข้ามาในห้องตรวจของลูกชายหลังจากที่ทักทายสอบถามกันไปพอสมควร“ตกลงค่ะ” นลินญาเป็นฝ่ายตอบ “แต่คุณแม่ต้องเลี้ยงพวกเรานะคะ”“แน่นอนจ้ะ อยากกินอะไรสั่งได้ไม่อั้นเลย หมอสิงห์พร้อมเปย์”“อ้าว ทำไมกลายเป็นผมพร้อมเปย์ล่ะครับแม่?” คนถูกพาดพิงถามเสียงหลง เขารึก็นั่งเงียบอยู่ตั้งนานนึกว่าคนเป็นแม่จะลืมเขาไปแล้วเสียอีก ทำไมอยู่ ๆ ก็หวยมาออกที่เขาล่ะ“ก็สิงห์ต้องไปด้วยไง แล้วสิงห์ก็เป็น
สามวันผ่านไปบางครั้งยิ่งไม่อยากเจอก็ยิ่งได้เจอ อริสารู้ซึ้งถึงข้อนี้เป็นอย่างดี ขณะที่เธอภาวนาให้ตัวเองอย่าเจอะเจอศารทูลกลับต้องมานั่งประจัญหน้ากันเสียได้...แถมไม่ได้เจอแค่เขาแต่ยังเจอครบทีม ทั้งพ่อ ทั้งแม่ ทั้งสีหราช และสิรินทรา บางทีหญิงสาวก็รู้สึกว่าตัวเองทำเวรทำกรรมไว้มากเหลือเกินถึงได้เลี่ยงอะไรไม่เคยได้เลย“นี่กานต์รวี ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอน่ะพามาเปิดตัวใช่มั้ย?” คุณตันหยงส่งเสียงขึ้นพร้อมกับแสดงสีหน้าใคร่รู้เมื่อข้างกายของคุณหมอกานต์รวีไม่ใช่ลูกชายลูกสาวแต่เป็นสาวแว่นที่เป็นเพื่อนสนิทของทั้งลูกสาวเธอและลูกชายอีกฝ่าย “คนไหนล่ะ ตาเสือล่ะสิ?”“เปล่า คนนี้ของหมอสิงห์” คุณหมอกานต์รวีตอบพร้อมกับฉีกยิ้มหน้าบาน “วันก่อนนี่พ่อคุณเพิ่งจะมาบอกว่าคบหากันอยู่ ฉันล่ะตกใจแทบแย่แหน่ะเธอ คิดว่าจะตกล่องปล่องชิ้นกับตาเสือเสียแล้วที่ไหนได้ หมอมาม้ามืดมาก”“แหม่ หน้าระรื่นเชียวนะเธอ ลูกชายมีแฟนกับเขาสักที แล้วตาเสือล่ะลูก น้องก็เปิดตัวไปแล้วเราไม่มีบ้างเหรอ?” คุณตันหยงแซวภรรยาเพื่อนสามีที่คบหาเป็นเพื่อนสนิทชิดเชื้อกันมาหลายสิบปีก่อนจะหันไปถามคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามลูกสาวของเธอแต่ตั้งแต่มาจนถึงตอนนี้ย
แม้จะถอยทัพกลับแต่คณะของบ้านบดินทร์นุกูลก็ยังไม่ได้แยกย้ายกันไป ทุกคนในบ้านรวมตัวกันอยู่ภายในห้องนั่งเล่นด้วยความตึงเครียด เพราะคุณหมอกานต์รวีและสิรินทรายังไม่เข้าใจชัดเจนสองแม่ลูกจึงทำการคาดคั้นซักฟอกพ่อตัวดีทันทีว่าทำไมถึงไปทำคู่ปรับท้องได้ศารทูลที่ถูกคาดคั้นบอกกับแม่และน้องสาวไม่ต่างจากที่พูดกับพ่อและเพื่อนพ่อขณะที่สีหราชนั้นรู้สึกขัดใจไม่น้อยแต่ก็ไม่โต้แย้งอะไร“ทำไมเพิ่งมาพูด แม่สอนปากจะฉีกถึงหูให้ลูกเป็นสุภาพบุรุษ แต่นี่อะไรปล่อยเรื่องมาจนท้องจนไส้ แม่ผิดหวังในตัวเสือจริง ๆ” คุณหมอกานต์รวีอดไม่ได้ที่จะเอ่ยตำหนิเมื่อได้ฟังเรื่องราว สิ่งเดียวที่เธอไม่พอใจก็คือการที่ลูกชายของเธอไม่กระตือรือร้นจะรับผิดชอบกันตั้งแต่เรื่องเกิดใหม่ ๆ แต่ปล่อยเลยมาจนอริสาท้องไส้แบบนี้“ก็เขาหลบหน้าผมนี่ครับแม่ วันนี้เพิ่งเป็นวันแรกที่ผมได้เจอเขาเลย”“แต่ก็เจอพ่อเขาทุกวันนี่”“โธ่แม่” ชายหนุ่มได้แต่ถอนใจ ไม่รู้จะบอกยังไง จะให้พูดถึงงานที่เขาทุ่มเทเวลาไปกับการกวาดล้างไอ้ยานรกนั่นก็กลัวจะถูกสงสัยจนเป็นเหตุให้เรื่องราวที่เขาไม่ได้พูดถูกเปิดเผยออกมา“เอาเถอะกานต์ ยังไงมันก็ผ่านมาแล้ว เราอย่าพูดถึงเรื่องที่ผ
บนโต๊ะอาหารที่ไร้เสียงสนทนาอริสามองเมนูอาหารที่ถูกนำมาเสิร์ฟแล้วยกมือปิดจมูกจนคุณตันหยงที่สังเกตอยู่ต้องถามไถ่“เหม็นเหรอลูก?”“ค่ะ เหม็นหมดเลย อลินอยากทานก๋วยจั๊บค่ะ ไม่อยากทานอย่างอื่นเลย” เช้านี้ดูเหมือนตัวป่วนในท้องจะงอแงและเอาแต่ใจกว่าวันไหน ๆ อริสาแทบจะหมดแรงเพราะเจ้าตัวป่วน ไม่รู้ว่านึกคึกอะไรถึงได้ทำให้เธออาเจียนหมดไส้หมดพุงตั้งแต่เช้ามืด พอมานั่งที่โต๊ะอาหารก็เหม็นไปหมดจนอยากจะอาเจียนออกมาอีก อาหารบนโต๊ะมีเยอะแยะไปหมดก็ไม่ถูกใจสักอย่างแล้วยังอยากจะทานของที่ไม่มีบนโต๊ะเสียอีก เพิ่งรู้ซึ้งวันนี้เองว่าการท้องนี่มันไม่ง่ายเลยคุณตันหยงซ่อนรอยยิ้มไว้มิดชิดก่อนจะส่งสายตาให้สาวใช้ไปนำก๋วยจั๊บสูตรพิเศษมาเสิร์ฟ ไม่รู้ว่าย่าหลานเขาใจสื่อถึงกันหรือยังไงคุณหมอกานต์รวีถึงได้นึกครึ้มตื่นมาทำก๋วยจั๊บตั้งแต่เช้ามืดและให้เด็กในบ้านนำมาฝากไว้ให้อริสา ตอนแรกเธอสั่งไม่ให้นำมาเสิร์ฟก่อนเพราะอยากจะถามเจ้าตัวเสียก่อนว่าอยากจะทานหรือไม่ ใครจะคิดว่าคุณย่าจะใจตรงกับคุณหลานในท้องได้ขนาดนี้“อ้าว ก็มีนี่คะทำไมไม่เอามาเสิร์ฟแต่แรก”“กานต์รวีเขาให้เด็กที่บ้านเอามาฝากไว้ให้เราน่ะ ดูเหมือนคุณย่ากับคุณหลานเข
ดวงตาคมค่อนไปทางหวานมากกว่าดุดันต่างจากพี่ชายฝาแฝดมองแผ่นเอกสารที่อยู่ตรงหน้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสองสาวที่มองเขาตาแป้ว“มีอะไรผิดปกติเหรอหมอสิงห์ ทำไมทำหน้าเหมือนต้องคิดหนักแบบนั้นล่ะ?” นลินญาเป็นฝ่ายถามออกไปเมื่อชายหนุ่มผู้ตอนนี้เลื่อนสถานะมาเป็นแฟนเงยหน้าขึ้นมา“ไม่มีอะไรผิดปกติหรอก เพียงแต่สงสัยอะไรนิดหน่อยน่ะ”“สงสัยอะไร?” คราวนี้สองสาวถามพร้อมกันโดยไม่มีการนัดแนะไว้ก่อน“คือ...”ก๊อก ๆ ๆไม่ทันจะได้อธิบายเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นพร้อมกับการเข้ามาของพยาบาลสาวสวยคนหนึ่ง “คือคุณหมอกานต์กับสารวัตรเสืออยู่ข้างนอกค่ะ ให้เข้ามามั้ยคะ?”“ครับ ให้คุณแม่กับนายเสือเข้ามาได้ แต่ห้ามคนอื่นนะ”“ค่ะ” นางพยาบาลสาวตอบรับก่อนที่จะออกจากห้องไปไม่นานร่างสูงของศารทูลก็เดินเข้ามาภายในห้องพร้อมกับคนเป็นแม่ สภาพชายหนุ่มดูไม่จืดเลยสักนิด นอกจากรอยช้ำที่มุมปากที่เกิดจากหมัดของท่านอาทิตย์เมื่อคืนแล้วก็ยังมีรอยช้ำเพิ่มมาอีกสองสามรอย“สภาพแกนี่
ตะวันจวนเจียนจะตกดินเต็มทีแล้วคนนอนหลับไปถึงรู้สึกตัวขึ้นศารทูลรู้สึกตัวก่อนแต่ยังอิดออดไม่ยอมลุกขึ้นจากเตียง จะว่าไปแล้วตั้งแต่กลับจากไปเที่ยวภูเก็ตนี่เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกว่าได้พักเต็มอิ่ม รู้สึกกระปรี้กระเปร่าและสดชื่นทั้งที่ใช้เวลานอนไปไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นหรือเพราะเตียงที่เต็มไปด้วยตุ๊กตาของยัยว่าที่คุณแม่มันนุ่มกว่าเตียงที่บ้านเขาถึงหลับสบายเต็มอิ่มขนาดนี้นัยน์ตาคมมองคนที่ยังคงหลับอยู่ด้วยความรู้สึกแปลก ๆ ...ทำไมเขาหมั่นเขี้ยวอยากจะยื่นมือไปเขี่ยจมูกยัยว่าที่คุณแม่เล่นขึ้นมาได้นะความคิดไม่ได้เป็นแค่ความคิดเมื่อนิ้วมือหยาบกระด้างยื่นไปเขี่ยจมูกคนหลับเล่นโดยไม่ลังเล มุมปากของคนหลับยกยิ้มราวกับกำลังฝันดีศารทูลยิ่งได้ใจแตะ ๆ เขี่ย ๆ อย่างต้องการแกล้งแต่แล้วเสียงหวานก็ดังขึ้น“ตาหนูอย่าดื้อสิ ขอหม่าม้านอนนะครับ”“บ๊องเอ้ย ฉันใช่ตาหนูของเธอที่ไหนเล่า”“ตาหนู...เอ๊ะ นาย” ดวงตาหวานเบิกกว้างขึ้นทันทีหลังจากที่เริ่มลืมตาและคนที่เขี่ยจมูกเธอเล่นไม่ใช่ตาหนูที่เธอฝันถึงแต่เป็นไอ้แมวโอหังที่มายึดที่นอนเธออยู่นานสองนาน“ฉันไม่ใช่ตาหนูสักหน่อยยัยเอเลี่ยน ฉันเป็นพ่อของตาหนูต่างหาก” ชายหนุ่
“เรื่องอะไรต้องง้อ” อริสาบอกพร้อมกับทำท่างุนงง ศารทูลหัน ขวับมามองก่อนจะส่งเสียงชิชะขัดใจในลำคอ“ไม่ง้อก็ไม่ง้อ อยากไปหอมแก้มให้รางวัลหรือจะไปจูบหน้าผากให้รางวัลไอ้กล้าก็ไปเลย”“จูบแน่” อริสาตอบกลับก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากชายหนุ่มที่ยังคงมึนงง มือบางยกขึ้นคล้องคอชายหนุ่มไว้ด้วยและจูบอย่างชำนาญ...ขึ้นมาหน่อยศารทูลทั้งงุนงงและใบ้กินไปชั่วขณะแต่ก็จูบตอบในเวลาต่อมา“ที่บอกจะหอมแก้มสักฟอดหรือดีมาก ๆ เลยนะหมายถึงนายต่างหากเล่าตาทึ่มเอ้ย” หญิงสาวเอ่ยหลังจากที่ผละจูบ “เป็นแมวบ้าสมองสล็อตยังไม่พอยังทึ่มอีก”“ทึ่ม?”“ก็ทึ่มสิ ที่ฉันยิ้มมาตลอดน่ะเพราะนายหึงฉันต่างหากเล่า ตัวเองเคยแกล้งเค้าแบบนี้เหมือนกันจำไม่ได้เหรอ?”“นี่...”“เอาคืนนิดหน่อยเอง”“ยัยเอเลี่ยน ร้ายนักนะ” คนที่ถูกแกล้งให้งอนให้หึงว่าให้เมื่อรู้ความจริงทุกอย่างจากจะงอนให้ง้อตอนนี้เริ่มชักจะงอนจริง ๆ แล้วนะ“ยัยผู้หญิงขี้แกล้ง”
การได้มาดูนักชกขวัญใจทำให้อริสาเอาแต่สนใจบนเวทีตั้งแต่นักมวยหนุ่มยังคงไหว้ครูจนศารทูลได้กลิ่นเน่าของหัวตัวเอง รู้สึกหัวเน่ายังไงไม่รู้สิ ไม่น่าปั้นไอ้เจ้าต้นกล้านี่ให้เก่งเล้ย“ไม่คิดว่าวันนี้เจ้าของค่ายจะมาดูด้วยนะ” น้ำเสียงคล้ายทักทายกันดังขึ้นทำให้ศารทูลต้องละสายตามามองคนทัก“ผมก็มาดูต้นกล้ากับเด็กในค่ายบ่อย เสี่ยไม่เคยเห็นเหรอ?” ชายหนุ่มตอบกลับในเชิงกวนประสาทอีกฝ่ายก่อนจะหันไปดูบนเวที คู่สนทนาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเจ้าของค่ายมวยของคู่ชกที่ต้นกล้าต้องชกด้วยในวันนี้นั่นเอง“ก็เห็น แต่ระวังวันนี้ต้นกล้าจะถูกกระชากเข็มขัดแชมป์ล่ะเพราะวันนี้เด็กของอั๊วเตรียมตัวมาดี”“ผมมาดูมวยไม่ได้มาฟังใครวิเคราะห์มวย ผลออกมาค่อยว่ากันดีกว่านะเสี่ย”“หึ อวดดี”ศารทูลไม่ว่าอะไรทำเพียงยักไหล่ยิ่งทำให้ถูกมองอย่างไม่ชอบใจ แต่ถามว่าเขาแคร์มั้ย บอกเลยว่าไม่ ไอ้คนชอบเล่นนอกกติกาแบบนี้ทำไมเขาต้องแคร์หลายครั้งที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายเล่นตุกติกจนนักชกในค่ายชนะมาแล้วหลายสนามแค่ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ไม่อยาก
“ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว” ในที่สุดสิรานนท์ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าอย่างคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้ “ผมขอโทษพวกคุณด้วยที่ผมคิดจะทำร้ายชื่อเสียงพวกคุณ ผมเชื่อทุกหลักฐานในวันนี้นอกจากขอโทษแล้วยังขอบคุณด้วยที่ทำให้ผมได้รู้ความจริง”“มันสบายใจขึ้นนะ โล่งมาก ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้เลยตั้งแต่เริ่มสะสมความโกรธแค้นชิงชัง ผมไม่รู้จะพูดยังไงจริง ๆ” เขาพูดต่อก่อนจะยกมือไหว้ท่านอาทิตย์ “ผมขอโทษครับ ที่ผ่านมาผมคิดร้ายกับท่านมาโดยตลอด คิดจะทำร้ายลูกสาวท่านเพื่อให้ท่านเสียใจผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ”“มันไม่สายไปหรอกนะที่จะเริ่มต้นใหม่และเป็นมิตรต่อกัน” ท่านอาทิตย์บอกก่อนจะเดินมาตบไหล่ “ฉันไม่โกรธหรอก เพราะนายยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด โชคดีแล้วล่ะที่ยังไม่ได้ทำอะไร แต่คนที่ทำก็ต้องได้รับโทษของการกระทำ”ท่านอาทิตย์หมายถึงวิภาวีที่ตอนนี้นอกจากจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทและทำให้เสียชื่อเสียงแล้วยังมีคดีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคดีเพราะชาวเน็ตช่วยกันขุดคุ้นคนที่ทำร้ายคนอื่นก็ต้องรับกรรมไป ทั้งโดนประณามในโลกออนไลน์และมีคดีความ นอกจากนี
อริสาปล่อยให้นักสืบโซเชียลตามสืบกันเอง เรื่องราวต่อจากนั้นเป็นยังไงอริสาขอไม่รับรู้ขอปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรมของแต่ละคนแม้ดูเหมือนเรื่องจะจบด้วยดีแต่ก็ยังมีเรื่องที่อริสาต้องจบอีกเรื่องนั่นก็คือเรื่องของสิรานนท์และตฤณกันต์เธออยากให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดีไม่อยากให้ผูกใจแค้นกันต่อไป ถ้าฝั่งเธอผิดเธอก็จะเป็นฝ่ายขอโทษแทนผู้เป็นพ่อแต่ถ้าไม่ใช่เธอก็จะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ทุกอย่างจบลง“เหลือเรื่องสิรานนท์กับตฤณกันต์ เรื่องตรวจDNAยังจะตรวจมั้ย?” สีหราชเอ่ยถามหลังจากที่ดูเหตุการณ์ในโลกโซเชียลว่าควบคุมเรื่องราวได้แล้ว“ไม่ต้องแล้วมั้ง เหมือนสองคนนั้นจะถอดใจแล้วนี่” นลินญาแสดงความคิดเห็น“ได้ไง สิงห์อุตส่าห์เสี่ยงไปเอาเส้นผมนายสิรานนท์มาอย่างยากลำบาก”“คือมันก็ไม่ยากมั้ย ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแกเข้าถึงตัวสิรานนท์ได้แบบง่ายมากอะ” อริสาท้วงพ่อคนบอกว่าเสี่ยงอย่างลำบาก ทั้งที่จริง ๆ ทุกอย่างได้มีการวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น ตั้งแต่นัดเจอโดยมีศารทูล นลินญาและสีหราชซุ่มดูอยู่ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคนใดคนนึงจะได้โผล่มา
อริสารอศารทูลอยู่ที่รถไม่ได้เข้าไปเยี่ยมลูกน้องของชายหนุ่มด้วยเพราะไม่อยากให้มีคนถ่ายรูป คงจะมีคนให้พิกัดโรงพยาบาลที่นภิตรารักษาตัวอยู่แล้วต้องมีคนมาจับตาดูแน่ เธอไม่อยากจะเข้าไปให้เป็นเป้าสายตาหรอกนะ รอให้เธอได้เรื่องคนปล่อยข่าวก่อนเถอะ เธอไปโชว์ตัวแน่อริสาไม่คิดจะเช็คสถานการณ์ในโลกออนไลน์แต่เธอก็พอเดาได้ว่าคนอย่างนภิตราไม่มีทางพูดให้ตัวเองดูแย่ มีแต่จะบอกว่าตัวเองถูกกระทำเท่านั้นล่ะ และอาจจะพูดว่าเธอท้องกับตฤณกันต์ด้วยแต่ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ เธอไม่ได้เป็นอย่างที่นภิตราป่าวประกาศ ยังไงซะเธอก็ย่อมคงอยู่ไม่ถูกทำลายง่าย ๆ หรอกศารทูลไปเข้าไปเยี่ยมพิมพ์นาราไม่นานก็กลับออกมาด้วยใบหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “ข้อเสียของโลกออนไลน์คือเมื่อมีหนึ่งข่าวโผล่ขึ้นมามันจะต้องมีคนเกาะกระแสสร้างข่าวปลอมขึ้นมา และก็จะมีคนพวกนึงที่ไม่กรองก่อนเชื่อทุกข่าวที่เห็น บางคนอ่านแค่พาดหัวด้วยซ้ำ มันน่ากลัวโลกออนไลน์เนี่ย”“แต่ยังไงทองแท้ก็ยังเป็นทองแท้ หรือนายคิดว่าฉันเป็นทองปลอม?”“ม้าของป๊านาะของแท้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ &ldq
แม้เช้าวันใหม่บรรยากาศในโลกโซเชียลจะยิ่งรุนแรงแต่อริสาก็ยังคงยิ้มแย้มและตอบรับการทานอาการเช้ากับครอบครัวของนลินญาด้วยใบหน้าที่ไร้วี่แววความเศร้าหรือเครียด“คุณแม่คะ พี่นนท์ล่ะคะ?” นปภาเอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกันเกือบจะครบแล้ว ความจริงเธออยากจะถามอริสาเรื่องที่เกิดขึ้นแต่พอเห็นอริสายังคงยิ้มแย้มก็พูดไม่ออกจึงต้องเปลี่ยนไปถามเรื่องพี่ชายที่เธอไม่เห็นตั้งแต่เมื่อวาน“เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง เห็นว่าจะไปทำธุระที่ภูเก็ตสักพักน่ะ” คุณแสงรวีตอบ แม้ว่าตัวเธอพอจะรู้ว่าเป็นธุระอะไรแต่ก็ไม่อยากจะพูดออกมา เธอไม่อยากให้พี่น้องต้องระแวงสงสัยกันเพียงเพราะพี่ชายไปเกี่ยวพันกับพ่อค้ายาเสพติด และไม่อยากจะพูดเรื่องนี้“ผมรู้มาว่านายหัวธีระมาที่นี่ในฐานะแขกของคุณสิรานนท์ บางทีอาจจะต้องสอบถามคุณแสงรวี คุณอาอนาคินทร์และตัวคุณสิรานนท์สักหน่อย หวังว่าจะให้ความร่วมมือนะครับ” ราวกับศารทูลรู้ความคิดคนชรากว่าจึงเอ่ยดักขึ้น คนที่พอจะให้ข้อมูลดี ๆ ได้คงมีแต่คุณแสงรวีนี่ล่ะ“เราให้ความร่วมมืออยู่แล้ว” คุณอนาคินทร์
กว่าสองชั่วโมงผ่านไปร่างมีน้ำมีนวลทรุดนั่งลงบนเตียงด้วยอาการเหม่อลอย เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนและไม่เคยรู้สึกกลัวเท่านี้มาก่อนของเหลวสีแดงยังคงติดตาการได้เห็นนภิตราตกเลือดต่อหน้าต่อตาพาให้เธอกลัวขึ้นมาจับใจ ยิ่งได้รู้ว่าไม่อาจจะรักษาชีวิตของลูกในท้องนภิตราไว้ได้เธอยิ่งกลัว...กลัวเหลือเกินว่าเธอจะเป็นแบบนั้นบ้างกลัวว่าตัวป่วนของเธอจะ...ศารทูลมองร่างเหม่อลอยก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ มือหนายื่นไปโอบไหล่ก่อนจะลูบไหล่อย่างปลอบโยน “อย่าเก็บมาคิด เรามีหมอสิงห์คอยดูแลอยู่ตลอด หมอสิงห์ไม่ปล่อยให้ตัวป่วนของเราเป็นเหมือนลูกของตฤณกันต์หรอก”“แต่ฉันกลัว”“ป๊าอยู่ตรงนี้ อย่ากลัวไปเลย ป๊าอยู่ข้างม้ากับตัวป่วนเสมอ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอด ชายหนุ่มปวดใจไม่น้อยที่เห็นอริสาหวาดกลัวแบบนี้ แต่ตัวเขาเองแม้จิตใจจะหนักแน่นแค่ไหนก็ยังรู้สึกกลัว...กลัวเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นกับอริสาและลูก“ป๊าจะอยู่ข้าง ๆ ม้า ม้าอย่ากังวลเลยนะ”“จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ทิ้
ขณะที่อริสาและศารทูลกำลังนอนหลับพักผ่อนนลินญาและสีหราชก็มุ่งตรงมาหาคุณอนาคินทร์อย่างไม่รอช้า คนที่จะบอกเล่าที่มาของสิรานนท์ได้มีแค่ผู้เป็นพ่อของเธอกับแม่ของสิรานนท์เองเท่านั้น แต่ด้วยความสัมพันธ์แม่ลูกคุณแสงรวีคงไม่บอกอะไรเกี่ยวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้เธอรู้อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วคนที่พอจะให้ข้อมูลได้ก็มีเพียงคุณอนาคินทร์เท่านั้นนับว่าโชคดีที่วันนี้คุณแสงรวีและลูกออกไปในเมืองส่วนสิรานนท์ก็ยังคงเฝ้าดูอาการนายหัวธีระอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคู่จึงสอบถามคุณอนาคินทร์ได้อย่างสะดวก“นนท์เหรอ?”“ค่ะ คือว่าคะนิ้งสงสัยน่ะค่ะว่าครอบครัวทางพ่อของคุณนนท์ไม่มีเหรอคุณนนท์ถึงได้มาอยู่กับคุณน้ารวีแล้วก็คุณพ่อ คะนิ้งได้ยินจากน้ำค้างว่าไม่ได้อยู่กับคุณนนท์มาตั้งแต่เด็ก”“ตอนแรกเขาก็อยู่กับพ่อเขา พ่อก็ไม่รู้หรอกนะว่าพ่อเขาเป็นใครทำงานอะไร รู้แค่ว่าตอนแรกเขาอยู่กับพ่อเขา และพ่อเขาเสียคุณรวีก็เลยขอพามาอยู่ด้วย”“ตอนนั้นคุณนนท์อายุเท่าไหร่เหรอคะ?”“น่าจะเก้านะ” คุณอนาคินทร์ตอบอย่างไม่ปิดบัง เนื่องจากสีหราชใ
ขณะที่ศารทูลและอริสาออกไปหาข้าวเช้าทานสิรานนท์ก็มาหยุดหน้าห้องฉุกเฉินด้วยความรู้สึกหลากหลายอะไรกัน นายหัวธีระน่ะเหรอค้ายา?ไม่จริง เขาบอกให้อีกฝ่ายอย่ากลับไปยุ่งกับยาเสพติดแล้วนี่ ทำไมกัน?“พี่นนท์ อาธีเป็นยังไงบ้าง” เสียงของใครอีกคนที่ไม่ควรจะมาถึงไวขนาดนี้เอ่ยขึ้นพร้อมกับการเดินเข้ามาใกล้“ตำรวจบอกว่าหมอให้เผื่อใจไว้” สิรานนท์ตอบก่อนจะพาตัวเองไปนั่งเก้าอี้ ตฤณกันต์ตามไปด้วยใบหน้าสลดก่อนจะต้องเปลี่ยนเป็นซีดเมื่อสิรานนท์ถามออกมา “แกมาได้ยังไง ฉันเพิ่งโทรไปไม่กี่นาทีเองนี่”“ผะ ผมเพิ่งลงเครื่องเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว”“มาทำไม?”“ระ เรื่องของผมน่าพี่” ตฤณกันต์ตอบพร้อมกับผินหน้าหนี เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขามาเพราะอริสา เพราะรูปที่อริสาโพสต์ลงในโซเชียลมิเดียทั้งก่อนหน้านี้และที่ไร่อารดา“แกมาเพราะอริสา แกหลงรักยัยนั่นใช่มั้ย?”“ผม...”“หึ แกไม่เคยปิดฉันได้หรอกตฤณ พฤติกรรมแกมันฟ้อง” สำหรับตฤณกันต์แล้วสิ