บทที่8 ล้อมวง

ผู้ชายอย่างอีตาหมอสิงห์นี่ทำให้เธอปวดหัวจริง ๆ  คอยดูนะทริปนี้เธอจะเล่นงานตาคนนี้ให้หนักเลย ยัยเพื่อนผู้รู้แต่ไม่ยอมบอกอย่างอริสาด้วย รู้แล้วยังปกปิดมันต้องโดน

นลินญาคิดแผนร้ายเงียบ ๆ โดยที่อริสาไม่รู้สักนิด ความจริงแล้วเธอก็ร้ายไม่แพ้เพื่อนคนไหนหรอก  Devil Dark น่ะแปลว่าปีศาจมืด แก็ง Devil Dark ก็แปลว่าเป็นกลุ่มที่รวมตัวปีศาจมืดนั่นล่ะ ถ้าเธอแสนดีเธอจะอยู่กลุ่มนี้มาได้เป็นสามสิบปีรึไงกันเล่า

ความจริงแล้วสมัยม.ปลายเธอก็หลงรักเข้าเต็มเปาเลยล่ะ หลงรักตาหมอสีหราชนั่นน่ะ แต่ตอนนั้นตาคนนั้นไม่มีทีท่าอะไรเลยแถมยังปั่นปึ่งเย็นชาใส่เสียอีก อุตส่าห์ตามไปเรียนม.เดียวกันก็ยังไม่มีปฏิกิริยาพอเรียนจบก็เลยแยกย้ายกันไปเธอถึงได้เลิกสนใจ พยายามตัดใจจากเขา จนมาเจอลูกเลี้ยงของพ่อที่บุคลิกคล้ายกันนั่นล่ะเธอจึงหันเหไปที่คนนั้นเพื่อจะให้เขาเป็นตัวแทนของสีหราช ใครจะไปคิดล่ะพอเปิดใจให้คนโน่นเธอเพิ่งจะมาค้นพบความลับของคนนี้น่ะ

หงุดหงิดจริง ๆ ที่อริสารู้แล้วไม่บอก ถ้าบอกล่ะก็เธอกับตาหมอสีหราชได้คบกันไปนานแล้วมั้ง ไม่ต้องนั่งอยู่บนคานมาจนจะอายุสามสิบบวกให้ญาติฝั่งพ่อกระแนะกระแหนว่าขายไม่ออกแบบนี้หรอก ถ้ารู้ว่าสีหราชชอบเธอเหมือนกันล่ะก็เธอเผด็จศึกไปแล้ว

เพราะงั้นเธอต้องเล่นงานสองคนนี้ไงล่ะ ให้สมกับที่ทำให้เธอนั่งอยู่บนคานมาจนป่านนี้ โอ๊ะ ยังมีอีกคนนี่ ตาศาลาวัดศารทูลนั่นอีกคน  รู้ก็ไม่บอกกันบ้าง

คิด ๆ แล้วบ้าบอสิ้นดี อริสาตีสนิทสีหราชเพื่อล้วงความลับศารทูล ศารทูลก็เข้ามาตีสนิทเธอเพื่อล้วงความลับอริสา แต่ตาศารทูลนั่นกลับไม่บอกเรื่องสำคัญแบบนี้กับเธอทั้งที่รู้ว่าเธอชอบสีหราชเหมือนกัน ตาคนนี้ล่ะต้องโดนหนัก หึ้ย

วางยาถ่ายมันทั้ง3คนเลยดีมั้ย !!!

“พักนะแก ฉันขอไปนอนก่อนล่ะกินยาแล้วง่วงเลย ถ้าแกปวดอีกก็โทรบอกหมอสิงห์นะ” อริสาที่พาคนเจ้าแผนการมาที่ห้องเอ่ยบอก นลินญาพยักหน้าก่อนจะทิ้งตัวลงนอน อริสาออกจากห้องไปโดยไม่สงสัยแม้แต่น้อย

ทันทีที่อริสาออกจากห้องไปคนปวดท้องประจำเดือนก็ลุกขึ้นค้นหาบางอย่างในกระเป๋า มันคือผงยาถ่ายที่ก่อนหน้านี้เธอให้เพื่อนร่วมงานหาให้เพื่อที่จะแกล้งเพื่อนร่วมงานที่ฉกลูกเลี้ยงของพ่อไป สาวแว่นท่าทางเรียบร้อยแต่แอบซุกซนถอนใจเสียดาย

อุตส่าห์ซื้อมาตั้งหลายบาทแทนที่จะได้แกล้งคนที่หมั่นไส้ดันต้องเอามาแกล้งเพื่อนเสียนี่ เสียดายเงินจริง ๆ

“จุ๊ด ๆ สักวันแล้วกันนะอีตาหมอ แล้วหลังจากนั้นฉันจะดูแลแกเอง” สาวแว่นแอบแสบอมยิ้มคนเดียวแล้วก็คิดไปถึงผลที่ตามมา

ก่อนอื่นเธอก็วางยาให้สีหราชท้องเสียจุ๊ด ๆ พอเขาอ่อนแรงก็เข้าไปดูแล จากนั้นก็...

“คิ๊ก ๆ  บ้าบอจริง ๆ คะนิ้งเอ้ย แค่จะกลับมาลุยกับผู้ชายที่ชอบจริง ๆ อีกสักครั้งทำไมต้องทำให้วุ่นวายด้วย”

สีหราชน่ะเธอวางยาถ่ายเพื่อแกล้งหาทางเข้าใกล้ แต่อีกสองคนนั่นน่ะอยากแกล้งล้วน ๆ ก็อยากรู้แต่ไม่บอกทำไมเล่า โดยเฉพาะศารทูลเลยเชียว

อีกอย่างให้ท้องเสียไปสักวันคงจะสบายหูไม่น้อยเลยล่ะ

“แต่ก่อนจะถึงตอนนั้นให้หายปวดท้องก่อนแล้วกัน” คนมีอาการปวดท้องช่วงมีประจำเดือนเอ่ยกับตัวเองก่อนจะเก็บซองยากลับไว้ในกระเป๋าและเดินไปนอนบนเตียง จริง ๆ แล้วอาการปวดท้องของเธอก็จะปวดแค่สองวันแรกของช่วงมีประจำเดือนเท่านั้นล่ะเย็นพรุ่งนี้เธอก็เริ่มแผนได้แล้วล่ะ

เย็นวันต่อมา

“เออนี่ทุกคน ฉันมีอะไรมาให้ลองชิมด้วยล่ะ เป็นธุรกิจของที่บ้านพ่อฉันน่ะ พวกแกเอาไปลองดูนะ” นลินญาเอ่ยขึ้นหลังจากทานอาหารเสร็จ “มันเป็นชาน่ะ เพิ่งคิดค้นได้ เป็นชาที่ช่วยให้สร่างเมาอ่ะ”

“เดี๋ยวนี้ขายของเก่งนะแก พอดีเลยพรุ่งนี้เราก็กลับกันแล้วคืนนี้ฉลองกันให้เต็มที่ไปเลย ฉลองเสร็จจะได้ทดลองชาของคะนิ้งด้วยเลย ดีมั้ย”เจตรินเสนอความคิดออกมาพร้อมกับมองซองชาเยื้อกระดาษที่นลินญาแจกจ่ายให้เพื่อน ๆ คนละชิ้น “มันจะดีจริงเหรอ ไอ้ชานี่น่ะ”

“อย่ารีบตัดสินสิ ของแบบนี้ต้องลอง” นลินญาบอกก่อนจะลอบยิ้ม ความจริงชานี่เธอตั้งใจเอามาให้ลองกันจริง ๆ นั่นล่ะ แต่ของอริสา ศารทูล และสีหราชน่ะเธอได้แก้ใส่บางอย่างเข้าไปด้วย คราวนี้ล่ะสนุกแน่

“งั้นเดี๋ยวฉันไปบอกฟรานเชสให้ไปซื้ออาหารทะเลมาย่างกินเป็นกับแกล้มแล้วกัน” ศารทูลที่ยังคงมีไข้อ่อน ๆ บอกก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน ตลอดสองวันมานี้เขาขลุกตัวอยู่แต่ในห้องเพราะพิษไข้ทำให้นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ออกจากบ้านทว่าทันทีที่ชายหนุ่มหยิบรองเท้าที่อยู่บนชั้นหน้าบ้านมาใส่ถึงกับต้องกำหมัดแน่น

“ยัยแม่มด!!!” มันเป็นของที่อริสาทำไว้เมื่อวานนี้นั่นเอง เป็นหมากฝรั่งที่หญิงสาวเคี้ยวมาตั้งแต่อยู่บนเรือ

“ฮะฮะฮ่า คิดว่าแกจะรอดซะแล้ว สุดท้ายก็โดนจนได้” เพราะอีกฝ่ายโดนพิษไข้เล่นงานตั้งแต่เมื่อวานอริสาจึงคิดว่าแผนคราวนี้คงล้มเหลว ใครจะคิดล่ะว่าสุดท้ายนายคนนี้ก็ติดกับก่อนที่มดจะมาขนหมากฝรั่งไปหมด

“แกล้งกันเป็นเด็ก ๆ ไปได้สองคนนี้เนี่ย” คุณแม่ประจำกลุ่มบ่นอุบก่อนจะส่ายหน้าทว่าก็แอบยิ้มโล่งใจ ทริปนี้ดูเหมือนสิ่งที่ทำให้อริสาหัวเราะได้และยิ้มออกมากที่สุดก็คงจะเป็นการกลั่นแกล้งศารทูลนี่ล่ะ ถึงจะดูติ๊งต๊องไปบ้างแต่ก็ทำให้อริสาดีขึ้นล่ะนะ งานนี้ต้องยกความดีความชอบให้ศารทูลเขาล่ะ

ค่ำวันนั้นการฉลองก็เริ่มขึ้น จะให้พูดจริง ๆ ก็คือการล้อมวงดื่มกันนั่นล่ะ และตามธรรมเนียมที่ตั้งกันขึ้นมาสำหรับแก้วแรกของการสังสรรค์จะเป็นการสุ่มชนิดของเครื่องดื่ม ซึ่งครั้งนี้ศารทูลนึกสนุกจัดแจงชนิดของเครื่องดื่มด้วยตัวเอง

“วันนี้มีเครื่องดื่มเบิกฤกษ์อยู่หกชนิด ชนิดละสองแก้ว มีน้ำเปล่า น้ำส้ม น้ำมะนาว โซดา เบียร์ และVodka and Red Bull สุ่มแบบหยิบฉลากมันไม่ลุ้น เอาแบบนี้ดีกว่า” ศารทูลเอ่ยขึ้นพร้อมกับเรียกหาขวดแก้วและนำแก้วเครื่องดื่มทั้งหกชนิดมาตั้งเรียกเป็นวงกลม

ขวดแก้วถูกวางลงตรงกลาง เพียงเท่านั้นเพื่อน ๆ ก็รู้เจตนาของเจ้าของบ้านทันที

“ใครจะเริ่มคนแรก”

“ฉันเริ่มก่อน” นลินญาแทรกขึ้นหลังจากที่ใครก็ดูจะไม่อยากเป็นคนประเดิมคนแรกในบรรดาเครื่องดื่มทั้งหกชนิดนี้ที่ทุกคนไม่อยากได้ที่สุดก็คือเจ้า Vodka and Red Bull หรือก็คือวอดก้าผสมกระทิงแดงนั่นล่ะ แต่เธอเชื่อว่าเธอไม่โดนหรอก เพราะเธอเซียนเรื่องหมุนขวดแก้ว

“หมุนล่ะนะ” สาวแว่นบอกก่อนจะเริ่มหมุน และตัวเปิดอย่างนลินญาก็ได้น้ำเปล่าไปครองตามที่หญิงสาวคาดเดาไว้ อันเนื่องมาจากสมัยมัธยมสาวแว่นมักจะซวยเพราะหมุนขวดอยู่บ่อยครั้งทำให้เธอมั่นฝึกฝนจนจับไต๋ได้ว่าใช้แรงเท่าไร่ขวดจะหยุดตรงไหนหลังเข้ามหาวิทยาลัยเธอก็ไม่เคยซวยอีกเลย

“เฮ้อ ฉันขอน้ำเปล่าแบบคะนิ้งบ้างสิ ไม่อยากซวยตั้งแต่แก้วแรก” อริสาพูดก่อนจะเข้ามาหมุนเป็นคนที่สองทว่าดูเหมือนโชคจะไม่เข้าข้างเมื่อสิ่งที่ทุกคนเกรงกลัวคือสิ่งที่ปลายขวดแก้วหมุนไปหยุด

“ไม่นะ โอ๊ยตายล่ะ”

“สมน้ำหน้า” ศารทูลเอ่ยก่อนจะเข้ามาหมุนบ้างชายหนุ่มกอดอกมองขวดแก้วพลางยิ้มเยาะใส่คนโชคร้ายได้เครื่องดื่มที่แรงสุดในวันนี้แต่ก็ยิ้มได้ครู่เดียวเท่านั้นเมื่อเขาเองก็ได้ Vodka and Red Bullเช่นกัน

“เย้ Vodka and Red Bullครบสองแก้วแล้วต่อไปก็เหลือแต่ของเบา ๆ” แพนธีราที่ไม่อยากจะดื่มเครื่องดื่มแลกอฮอร์แรง ๆ เป็นแก้วแรกร้องออกมาหลังจากที่เครื่องดื่มที่แรงสุดในบรรดาหกชนิดได้ผู้ดื่มครบแล้ว จากนี้ไปขอแค่เธอไม่ได้เบียร์ก็ถือว่าแจ่ม

เวลาต่อมา

“เอาล่ะได้เครื่องดื่มแก้วแรกกันหมดแล้ว เรามาดื่มกันดีกว่า” เจตรินพูดขึ้น ในมือของชายหนุ่มเป็นเบียร์ เช่นเดียวกับสีหราชที่ได้เบียร์เช่นกัน ผลการสุ่มออกมาเป็น...เจตรินกับสีหราชได้เบียร์ ปุริมปรัชญ์และเตชินทร์ได้โซดาแพนธีราและอารตีได้น้ำมะนาว อาริตาและบรมรัตน์ได้น้ำส้ม นลินญาและปริมาได้น้ำเปล่า ส่วนคู่ปรับตลอดกาลอย่างศารทูลและอริสาได้เครื่องดื่มที่แรงที่สุด Vodka and Red Bull

“คนแถวนี้จะกล้าเหรอ” ศารทูลส่งเสียงขึ้นหลังจากที่เห็นท่าทีลังเลของอริสา

“แกนั่นแหละกล้าเหรอ มาดื่มพร้อมกันมั้ยล่ะ”

“ก็เอาดิ ใครดื่มหมดก่อนคนนั้นชนะพรุ่งนี้คนแพ้ต้องถือกระเป๋าให้คนชนะ ใจเปล่า” ชายหนุ่มท้าทาย

“ใจอยู่แล้วเว้ย” อริสาตอบรับก่อนที่ทั้งสองจะดื่มพร้อมกันท่ามกลางความรู้สึกขนลุกของเพื่อน อาจจะเพราะศารทูลเป็นผู้ชายร่างกายจึงรับได้มากกว่าชายหนุ่มจึงดื่มหมดก่อนอริสาหญิงสาวจึงพ่ายแพ้ไป

แค่แก้วแรกสองหนุ่มสาวก็ถึงกับมึนไปชั่วขณะ อริสาพยายามทำตัวให้นิ่งที่สุดทั้งที่สมองกำลังมึน ๆ  สมกับเป็นเครื่องดื่มล้มช้างติดสิบอันดับโลก นี่ขนาดว่าเจ้าวอดก้าผสมกระทิงแดงนี่จะอยู่ในอันดับที่สิบของสิบอันดับเธอยังรู้สึกมึนได้ขนาดนี้

“มา ๆ เรามาลุยกันต่อดีกว่า” แพนธีราเอ่ยพร้อมกับเลือกเครื่องดื่มเป็นน้ำโคล่า และยื่นน้ำหวานให้อริสา

“ไม่เอา ฉันจะดื่มค็อกเทล” อริสาปฏิเสธน้ำหวานพร้อมกับยื่นมือไปหยิบค็อกเทลหลังจากที่ซัดวอดก้าผสมกระทิงแดงเข้าไปอารมณ์เฮิร์ทก็พุ่งเข้าเล่นงานจนหญิงสาวอยากจะดื่มให้มันลืม ๆ ภาพหลอนนั่นไปเสีย

“งั้นฉันดื่มเป็นเพื่อนอลินล่ะกัน” นลินญาเอ่ยพร้อมกับยื่นมือไปหมายจะหยิบค็อกเทลมาดื่มเป็นเพื่อนอริสาทว่าก็ถูกสีหราชตีมือเข้าให้

“อยากตายรึไงยัยแว่น แกยังเป็นวันนั้นอยู่ห้ามแกจับเครื่องดื่มแอลกอฮอร์เด็ดขาด”

“หมอก็เคร่งครัดเกิ๊น” สาวแว่นบ่นและก็ได้แค่บ่นเพราะเพื่อน ๆ คนอื่นเหมือนจะเห็นด้วยกับอีตาหมอไปเสียหมดเครื่องดื่มของเธอเลยเป็นน้ำผลไม้ที่ผ่านการอนุมัติจากสีหราช

“เฮ้! ลูกพี่ จัดซักซ็อตมั้ย” เตชินทร์ส่งเสียงขึ้นพร้อมกับยื่นแก้วค็อกเทลสูตรเด็ดให้สีหราชและศารทูล สองหนุ่มแม้จะไม่อยากดื่มเท่าไหร่แต่ก็ไม่อาจขัดศรัทธาเพื่อนได้จึงดื่มไปพอประมาณ