ปัจจุบัน(ภูเก็ต)
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะทำให้สองคนนี้อยู่ในแก๊งเดียวกันมาเกือบจะสามสิบปีแล้ว มหัศจรรย์เนอะ” อารตีเอ่ยขึ้นหลังจากทุกคนตกอยู่ในภวังค์ของอดีต คิดแล้วก็คิดถึงสมัยเด็ก ๆ ที่ได้เจอหน้ากันทุกวัน และคุยกันทุกวันแตกต่างจากปัจจุบันที่กว่าจะเจอกันทีไม่ใช่ง่าย ๆ
“นั่นสินะไม่คิดว่าฉันกับไอ้แมวปีศาจนี่จะอยู่แก๊งเดียวกันมาได้รู้สึกมหัศจรรย์จริง ๆ” อริสาเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าแค่เรื่องแสนอับอายครั้งนั้นจะทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าคนที่ครั้งนึงเคยเล่นด้วยกันได้ขนาดนี้
“มหัศจรรย์เหรอ ใช่มันมหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาลเลย ฉันโคตรทึ่งพวกนายเลย” ศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะมองเวลา “ไปที่เกาะเลยมั้ย หรือจะเที่ยวในตัวเมืองก่อน”
“ไปเที่ยวกันก่อนแล้วกัน อาทิตย์หน้าค่อยเข้าไปที่เกาะ ไปหาโรงแรมพักกันก่อนใครเป็นเจ้าของโรงแรมนำทางค๊า” ปริมาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปบอกเตชินทร์
“เชิญครับคุณลูกค้า” เตชินทร์เอ่ยบอกก่อนจะนำทุกคนไปที่รถตู้ของโรงแรมที่เขาสั่งให้มารอ รอบนี้เตชินทร์จัดให้อริสาและศารทูลนั่งห่างกันที่สุดเพื่อป้องกันสงครามน้ำลายระหว่างทางการเดินทางแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นสงครามน้ำลายข้ามหัวเพื่อน ๆ ก็ยังคงมีขึ้นเป็นระยะ
เชื่อเขาเลย คู่นี้นี่เหมือนลิ้นกับฟันจริง ๆ ยังไงก็ต้องมีกระทบกระทั่งกัน
ตลอดทั้งสัปดาห์ต่อให้ปริมาจะจัดโปรแกรมแน่นสักแค่ไหนศารทูลและอริสาก็มีโอกาสได้จิกกัดกันปละปลายให้เพื่อน ๆ ได้เอือมระอาเล่นแต่ก็ไม่ใช่ว่าทริปนี้ผ่านไปด้วยดีเพราะตามที่ปริมาวางแผนไว้จะต้องไปปิดท้ายทริปที่เกาะรักษ์ เกาะส่วนตัวของศารทูลและสีหราชที่ได้รับมาจากคุณตาอภิมหาเศรษฐีตลอดหลายวันที่เกาะศาลทูลและอริสาคงจะมีเวลาเปิดฉากทะเลาะกันจริงจังอย่างแน่นอน
ตามที่ตกลงไว้ตอนแรกคือพักที่โรงแรมของเตชินทร์หนึ่งสัปดาห์และอีกหนึ่งสัปดาห์อยู่ที่เกาะรักษ์แต่กำหนดการถูกเปลี่ยนอย่างกะทันหันเมื่อปุริมปรัชญ์นำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่ปริมาตกหล่นไปมาสี่ถึงห้าแห่ง กำหนดเดินทางมาเกาะรักษ์จึงเป็น3วันสุดท้ายของทริป
“ลูกน้องคุณตาสองแฝดนี่อย่างกับมาเฟียแหนะพวกแก” แพนธีรากระซิบก่อนจะหัวเราะคิกคักกับเพื่อน ๆ หลังจากที่เดินทางมาถึงเกาะส่วนตัวของเพื่อนและได้พบกับการ์ดหนุ่มหน้าตาดีหลากหลายคน“แต่ก็หล่อเนอะ”
“น้อย ๆ หน่อยยัยแพน เดี๋ยวฉันจะฟ้องบอสว่าแกนะมองผู้จนน้ำลายหก” อริสาแทรกขึ้นก่อนจะหันไปยิ้มให้การ์ดหนุ่มในชุดดำที่ยื่นมือมารับพวกเธอขึ้นจากเรือ เพราะครอบครัวของเธอสนิทกับครอบครัวของศารทูลและสีหราชมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตาทวดเธอจึงรู้จักมักคุ้นการ์ดเหล่านี้ดี และก็รู้ภูมิหลังของครอบครัวนี้ดี
จริง ๆ แล้วศารทูลและสีหราชเป็นลูกเสี้ยว คุณตาของทั้งคู่เป็นอภิมหาเศรษฐีชาวสเปนมาพบรักกับคุณยายชาวไทยเชื้อสายจีนและอาศัยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทย ขณะที่ฝั่งคุณปู่เป็นครอบครัวข้าราชการมารุ่นสู่รุ่น ส่วนฝั่งคุณย่านั้นมีเชื้อมีสายมาจากในรั้วในวัง ทางฝั่งพ่อของสองแฝดมักอยู่กันอย่างเรียบง่ายแต่ฝั่งคุณตาที่ออกแนวมาเฟียหน่อย ๆ กลับไม่ชอบทำอะไรเรียบง่ายสักนิด เวลาที่สองแฝดจะมาพักที่บ้านพักตากอากาศหรือเกาะส่วนตัวก็มักจะส่งบอดี้การ์ดและแม่บ้านมาคอยอำนวยความสะดวกอย่างที่เห็น
สมัยเด็ก ๆ ตอนที่ยังไม่เกลียดกันเธอนี่แทบจะถูกคุณตาของสองแฝดโอ๋อย่างกับหลานอีกคน พี่บอดี้การ์ดนี่ตามประกบดูแลอย่างกับเป็นหลานเจ้านายจริง ๆ เชียวล่ะ
“ถ้าต้องการอะไรเรียกใช้พวกเราได้นะครับ” การ์ดหนุ่มเอ่ยเป็นภาษาไทยเสียงชัดแจ๋วอย่างกับเจ้าของภาษาทั้งที่เป็นหนุ่มสเปนนิชแท้ ๆ ไม่มีเจือปนก่อนจะส่งยิ้มพิมพ์ใจให้กับอริสา
เป็นรอยยิ้มที่ชวนให้หลายคนใจละลายได้แต่อริสาเพียงยิ้มตอบกลับไม่ได้รู้สึกพิเศษอะไร เธอเข็ดแล้วจริง ๆ กับการรักผู้ชายยิ้มเก่ง ตฤณกันต์ก็ยิ้มเก่ง และอัชฌาสัยดีแล้วสุดท้ายเป็นอย่างไรล่ะ
คนเราหน้าเนื้อใจเสือ เธอไม่อยากไว้ใจใครอื่นอีกแล้ว มีแค่เพื่อนที่คบกันมานานกับครอบครัวที่อยู่เคียงข้างกันมาเท่านั้นล่ะที่เธอจะวางใจได้
“ไอ้คุณฟรานเชสครับ เรียนให้จบก่อนเถอะค่อยมาหว่านเสน่ห์ป้า ๆ แก เดี๋ยวเพื่อนฉันก็ติดคุกฐานพรากผู้เยาว์กันพอดี” เสียงของศารทูลแทรกขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามาแทรกระหว่างอริสาและฟรานเชส การ์ดหนุ่มวัยยี่สิบที่พอจับแต่งตัวหน่อยก็ดูเหมือนหนุ่มวัยยี่สิบสี่ยี่สิบห้า
“นี่ป้า เด็กมันเพิ่งยี่สิบ แก่ ๆ อย่างป้าน่ะมันไม่เอาหรอก อย่ามาล่อลวงเด็กมันไปเป็นเด็กในสังกัดเชียวนะ แจ้งจับนะเว้ย” แน่นอนว่าคำพูดเจ็บ ๆ นี้เขาเอ่ยกับอริสาอย่างแน่นอน พูดจบหนุ่มเจ้าของเกาะก็เดินเข้าบ้านพักตากอากาศบนเกาะทันที
“นี่แกเรียกใครว่าป้าฮะไอ้บ้า?”
ศารทูลไม่ตอบกลับขณะที่คนโดนหาว่าเป็นป้าคิดจะจับฟรานเชสเป็นเด็กเจ้ก็ได้แต่ค้อนลมค้อนแล้ง พอถึงถิ่นเข้าหน่อยล่ะหาเรื่องเธอทันทีเชียว มันน่านัก
“เข้าบ้านกันเถอะทุกคน” สีหราชเอ่ยขัดขึ้นก่อนจะกอดคอกับเตชินทร์เข้าไปภายในบ้าน อริสามองสำรวจรอบ ๆก่อนที่จะยกยิ้ม มันต้องมีสักอย่างล่ะที่เธอจะนำมาเอาคืนศารทูลได้ และตอนนี้เธอก็เจอแล้ว
“เดี๋ยวแกเจอ”
“นี่อลิน รีบมาสิ มัวยืนทำอะไรอยู่” แพนธีราส่งเสียงเรียกคนยืนยิ้มอยู่ก่อนที่อริสาจะรีบเดินไปหาเพื่อนโดยไม่หลุดปฏิกิริยาใด ๆ
แต่ไม่มีใครรู้หรอกว่าหญิงสาวได้แอบทำอะไรบางอย่างขณะที่เพื่อนทุกคนเผลอก่อนที่จะแยกย้ายกันไปพักที่ห้อง
การมาที่เกาะรักษ์เป็นการมาพักผ่อนโดยแท้จริง โดยเฉพาะเจ้าของเกาะที่พอยกหน้าที่จัดแจงห้องหับให้น้องชายฝาแฝดเรียบร้อยก็ตรงดิ่งขึ้นห้องเข้าเฝ้าพระอินทร์ทันที
เพราะหน้าที่การงานของแต่ละคนแทบจะไม่มีเวลาให้หายใจหายคอเวลาพักจึงน้อยหลังจากที่เที่ยวกันจนเต็มที่แล้วก็ถึงเวลานอนชาร์จแบตให้เต็มอิ่มก่อนที่จะกลับไปเผชิญหน้ากับกองงานของตัวเองอีกครั้ง นอกจากศารทูลแล้วคนอื่น ๆ ก็เข้าห้องชาร์จแบตกันหมดเหลือเพียงนลินญาและอริสาที่ไม่ได้นอนพักผ่อนเหมือนคนอื่น ๆ
หนึ่งคนนอนไม่หลับเพราะยังคงทำใจไม่ได้ที่คนที่แอบชอบหมั้นกับคนอื่น ในขณะที่อีกคนยังเสียใจไม่หายที่ถูกแฟนที่คบกันมานานนอกใจ อริสาเลือกที่จะออกมานั่งรับลมแทนที่จะขลุกอยู่ภายในห้องไม่นานคนที่เธอคิดว่าหลับไปเหมือนคนอื่น ๆ ก็ออกมานั่งข้าง ๆ
ไม่ใช่นลินญาแต่เป็นสีหราช คุณหมอหนุ่มคนนี้ไม่ได้พักเหมือนคนอื่น ๆ เพราะต้องรอแม่ครัวที่ยังมาไม่ถึงเพื่อกำชับไม่ให้แม่ครัวใส่อะไรที่เพื่อนคนไหนแพ้ลงไป
“นอนไม่หลับเหรอ?”
“มันไม่หลับอะ เหมือนมีภาพหลอนคอยวนเวียนกวนใจอะ แกไม่เข้าใจหรอก แกไม่เคยเปิดประตูเข้าไปเห็นฉากสิบแปดบวกแบบจัง ๆ” อริสาเอ่ยแล้วก็ทอดถอนใจ ความจริงแล้วเธอมีโอกาสได้เห็นจัง ๆ กับตาว่านภิตราและตฤณกันต์ไปถึงขึ้นไหนกัน ภาพนั้นมันยังติดตาเธอไม่หาย คล้ายเป็นภาพหลอนติดตาไปเสียแล้ว
“ไปปรึกษาจิตแพทย์มั้ย ฉันรู้จักพี่หมอคนนึงเขาเก่งมากแล้วก็รับปรึกษาปัญหาทั่วไป”
“ไม่เอาอะ ขืนไปหาหมอแล้วพวกนั่นรู้เข้ามีหวังหาว่าฉันเป็นบ้ากันพอดี” หญิงสาวปฏิเสธทันควันก่อนจะถามชายหนุ่มบ้าง “ว่าแต่แกล่ะ ทริปนี้มีโอกาสบ้างยัง หรือว่ายังป๊อดอยู่อีก”
“บางทีการแอบรักมันก็ดีกว่าการบอกออกไป”
“นี่รู้มั้ย จีบผู้หญิงช่วงเขาอกหักเนี่ยโอกาสจีบติดสูงมาก นิ้งกำลังเสียใจลองแกเข้าไปปลอบ เข้าไปจีบจริงจังดูสิ ถ้านิ้งยังใจแข็งอยู่อีกเดี๋ยวท่านอลินคนนี้จะจัดการให้” บก.สาวพูดพร้อมกับตบไหล่ให้กำลังใจ “ลุยได้แล้วนะสิงห์ ถ้าแกพลาดโอกาสนี้แกอาจไม่มีโอกาสแล้วก็ได้ อาจจะมีคนชิงตัดหน้าได้นะเว้ย”
“แต่...”
“ไม่ต้องแต่แล้วสิงห์ ปอดแหกแบบนี้สักวันคงได้ทำคลอดลูกของคะนิ้งกับผู้ชายคนอื่นแหง หรือแกต้องการแบบนั้น”
“ใครจะไปต้องการเล่า” คนเป็นหมอสูติฯตอบกลับฉับพลัน เขาอยากให้นลินญาเป็นแม่ของลูก อยากเป็นคนทำคลอดให้เธอแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าอยากทำคลอดลูกเธอกับคนอื่นเสียหน่อย
“ถ้าอย่างนั้นก็ต้องลุย บอกไปเลยว่า นิ้งสิงห์ชอบนิ้งนะ”
“เอาก็เอา ฉันจะหาโอกาสบอกคะนิ้ง” สีหราชตอบรับในที่สุดก่อนจะขอตัวไปดูในห้องครัวอีกครั้ง ด้วยกลัวว่าแม่ครัวจะใส่อะไรที่เพื่อน ๆ โดยเฉพาะนลินญาแพ้เข้าไปในอาหารทว่าชายหนุ่มไม่รู้เลยว่าระหว่างที่คุยกับอริสาอยู่นั้นมีใครอีกคนมาได้ยินพอดี
ใครคนนั้นก็คือคนที่ไม่รู้อะไรเลยมาตลอดสิบกว่าปีอย่างนลินญานั่นเอง สาวแว่นมองตามแผ่นหลังคนเป็นหมอไปอย่างสับสน นี่เธอบังเอิญเข้ามาได้ยินอะไรเนี่ย
สีหราชน่ะเหรอชอบเธอ?
นายคนที่ชอบนิ่งใส่เธอนั่นน่ะเหรอ?
โอ๊ย เธอเข้ามาได้ยินเรื่องบ้าอะไรกัน ตอนเธอชอบอิตานั่นกลับกลับทำนิ่ง พอใจเธอไปชอบคนอื่นกลับมารู้ว่าเขาชอบเนี่ยนะ บ้าบอจริง ๆ
“อ้าว มายืนทำอะไรตรงนี้ แล้วนั่นเป็นอะไรทำไมยืนตัวงอแบบนั้น” เสียงของอริสาดังขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาเห็นเพื่อนสาวระหว่างทางที่จะกลับห้อง อริสาไม่รู้สักนิดว่านลินญาได้ยินอะไรเข้าไปบ้าง แต่คำว่ายืนตัวงอของอริสาทำให้นลินญานึกขึ้นมาได้ถึงสาเหตุที่เดินลงมาจากห้อง“ฉันปวดท้องวันนั้นอีกแล้วอะแก ลืมเอายามาด้วยแกพกมาบ้างมั้ย” เพราะเธอเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาปวดท้องเวลาเป็นวันนั้นของเดือนแถมประจำเดือนยังมาไม่เป็นเวลาทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะประสบปัญหานี้ตอนไหน ทำให้บางครั้งก็ลืมเรื่องยาแก้ปวดไป และในบรรดาเพื่อนก็มีแค่อริสาที่มีปัญหาแบบนี้เหมือนกันเมื่อไปหาที่ห้องไม่เจอจึงต้องลงมาตามหาข้างล่าง ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมาได้ยินอะไรแบบนี้เข้านี่เธอโชคดีหรือโชคร้ายกันเนี่ย?“รู้สึกว่าจะไม่ได้เอามาอะแก เพราะก่อนมาเที่ยวมันมาแล้วฉันเลยสบายใจไม่คิดพกมาอะ” อริสาตอบเสียงเศร้าก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ “แต่แกไม่ต้องวิตก มีคนนึงที่ต้องช่วยได้ เดี๋ยวฉันมาแกนั่งรอนี่นะ”พูดจบอริสาก็หายไปทางห้องครัวทันทีนลินญารู้ได้ไม่ยากเลยว่าอีกฝ่ายจะไปตามใครมาช่วย คนปวดท้องเพราะเป็นวันนั้นหน้าร้อนขึ้นชั่วขณะเมื่อนึกไ
“พี่อลินอยู่นี่เอง” น้ำเสียงทักดังขึ้นพร้อมกับที่หญิงสาวร่างมีน้ำมีนวลในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์จะตรงปรี่มาพร้อมกับเจ้าบ่าวในชุดที่เข้าคู่กันทำเอาอริสา หรืออลิน บรรณาธิการสาววัยเฉียดสามสิบของนิตยสารท่องเที่ยวขึ้นชื่อผู้ถูกเรียกต้องกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย‘เมื่อไหร่สองคนนี้จะเลิกซ้ำเติมกันสักที แอบมีอะไรกันลับหลังจนฝ่ายหญิงท้องยังทำให้ฉันเจ็บไม่พอเหรอถึงได้ตามราวีกันไม่เลิก’หญิงสาวลอบพ้นลมหายใจเบา ๆ ก่อนหันหน้ามามองเจ้าของน้ำเสียงใสซื่อไร้เดียงสา หึ...ร้ายเดียงสาสิไม่ว่าอริสาไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่ดูใสซื่อไร้เดียงสาจนเธอเอ็นดูจะทำร้ายเธอได้ขนาดนี้ หญิงสาวตรงหน้าทำลายความรู้สึกรักใคร่เอ็นดูของเธอลงโดยไม่แม้แต่จะรู้สึกผิดเลยสักนิดมิหนำซ้ำยังเคยถามเธอว่าผิดอะไรอีกด้วยการที่นอนกับแฟนของเธอลับหลังยังไม่ผิดอีกหรือ การที่มีอะไรกับแฟนของคนอื่นจนท้องผู้หญิงคนนี้ยังบอกว่าไม่ผิดงั้นเหรอ อริสาเพิ่งเข้าใจวันนี้เองว่าไอ้ความใสซื่ออ่อนหวานของผู้หญิงคนนี้มันเป็นแค่การเสแสร้ง...ตัวตนที่แท้จริงนั้นแสนจะร้ายกาจ“พี่อลินคะ อวยพรให้น้ำหวานกับพี่ตฤณหน่อยสิคะ”“เธอจะให้อวยพรอะไรเหรอนภิตรา
ตึ่ง!เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสนทนายอดฮิตส่งเสียงขึ้นเรียกให้อริสาต้องละสายตาจากงานตรงหน้าหันมามอง “Devil Dark” คือชื่อไลน์กลุ่มที่ปรากฏอยู่หน้าจอ กลุ่มไลน์นี้ตั้งขึ้นตามชื่อกลุ่มเดอะแก็งที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม อริสามองงานอย่างชั่งใจว่าจะทำต่อหรือเปิดอ่านข้อความจากเพื่อน ๆ ดีแต่ในที่สุดหญิงสาวก็ต้องวางงานลงและหันไปสนใจการสนทนาในกลุ่มไลน์บทสนทนาPlim : ทุกคน...Plim : ไปเที่ยวกันเถอะPlim : ทริปวันหยุดรวมกลุ่มปีนี้ฉันได้สถานที่แล้วPanteera : ที่ไหนไอ้ปริม บอกมาด่วน ๆPop : คงสมุยอีกดิ เหมือนปีก่อนBang : แกติดใจอะไรสมุยวะป๊อป หรือติดใจสาวสมุยJojo : นั่นดิวะป๊อปPop : ติดใจบ้าอะไรเบื่อต่างหากTechin : แล้วตกลงจะไปไหนวะปริมPlim : ทริปภูเก็ต ตามที่คิดไว้ก็พักที่โรงแรมท่านเต้ยอาทิตย์นึง แล้วที่เหลืออาทิตย์นึงไปที่เกาะรักษ์ของท่านเสือท่านสิงห์Techin : จะพักที่โรงแรมพี่ ถามกันยังน้องLion : นั่นดิถามผมยังครับคุณปลิงทะเลPlim : แหม่ ๆ พวกนายอนุญาตอยู่แล้วไม่ต้องขอหรอก เอาล่ะขอทราบรายชื่อด้วยคร่าใครไปคอนเฟิร์มด่วน ๆ สุดสัปดาห์จะได้จัดเต็มทั้งคนโสดไม่ซิง คนเพิ่งโสด คนอกหัก ค
บ้านบดินทร์นุกูลและแล้วก็ถึงวันออกเดินทางตามนัดหมายที่ได้นัดกันเอาไว้ นายแพทย์สีหราชหรือหมอสิงห์สูตินารีแพทย์หนุ่มที่อายุอานามจะสามสิบอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่มีทีท่าจะพาแฟนสาวมาแน่นำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ได้รู้จักดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เขาตื่นขึ้นมาแต่เช้าและรีบรุดมาที่หน้าห้องของพี่ชายฝาแฝดด้วยใบหน้าที่พร้อมจะกินเลือดกินเนื้อถ้ามีคนเบี้ยวนัดในวันนี้“นี่แกกลัวฉันเบี้ยวนัดขนาดนั้นเลยเหรอ” ศารทูลหรือเสือนายตำรวจหนุ่มปราบปรามยาเสพติดที่มักจะเบี้ยวนัดการพบปะรวมรุ่นอยู่เป็นประจำเอ่ยถามแฝดผู้น้องที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องนอนหลังจากที่เคาะประตูปึงปังปลุกจนเขาต้องตื่นมาเปิดให้ทันทีที่เขาเปิดประตูออกจากห้อง หึ...คงกลัวเขาเบี้ยวทริปไปเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้เหมือนที่เขาเคยบอกว่าจะไปร่วมทริปกับเดอะแก็งแต่เบี้ยวนัดทุกครั้งละสินะ“แหง่ละ แกเบี้ยวมาสี่ห้าครั้งแล้วยังไงครั้งนี้ฉันต้องเอาแกไปด้วยให้ได้ ให้เวลาอาบน้ำครึ่งชั่วโมงเร็วๆ” นายแพทย์สีหราชเอ่ยบอก ให้ตายเถอะไอ้พี่ชายคนนี้เข้าไม่ถึงความตื่นเต้นที่จะได้เจอใครบางคนของเขาไม่ได้หรือไง ถึงได้ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเอาซะเลย“ที่อยากให้รีบเนี่ยเพราะจะได้ไปหายัยคะ
“แกนี่มันไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้แมวปากเสีย” อริสาเอ่ยตะคอกใส่ศารทูลด้วยความโมโห คำว่าถูกทิ้งที่ได้ยินจากใครต่อใครไม่เจ็บเลยสักนิดแต่เมื่อเป็นไอ้บ้านี่พูดเธอรู้สึกจี๊ดไปทั้งทรวง“เธอก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกันนั่นแหละยัยเอเลี่ยน” ศารทูลที่เป็นประเภทแรงมาแรงไปสวนกลับทันที“ไอ้ปีศาจ”“ยัยแม่มด”ทั้งสองต่างมองหน้ากันราวจะกินเลือดกินเนื้อแต่ก่อนที่ “ไอ้ปีศาจอย่างศารทูล” กับ “ยัยแม่มดอย่างอริสา” จะเปิดฉากทะเลาะกันกลางสนามบินให้ได้อายปริมาก็รีบห้ามทัพกันท่าไว้ก่อน เธอกลัวจะไปไม่ถึงภูเก็ตน่ะสิ“พอแล้ว ๆ พวกแกเห็นป่ะเนี่ย...นี่มันกลางสนามบินนะ แกแยกเลยยัยคะนิ้ง หมอสิงห์ ก่อนที่ทริปภูเก็ตฉันจะเป็นหม้าย”“ยัยแว่นเอายัยอลินไปทางโน่นเลย” สีหราชเอ่ยบอกหญิงสาวในดวงใจด้วยน้ำเสียงเฉยชาที่เขาเป็นกับเธอแค่คนเดียวพร้อมกับดึงแฝดผู้พี่มามายืนข้างเจตริน ด้านนลินญาเธอส่งค้อนวงใหญ่ให้หมอหนุ่มก่อนจะดึงอริสามายืนข้างอารตี เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาโกรธเกลียดอะไรเธอถึงได้เฉยชานักทั้งที่พูดดีและกระล่อนกับทุกคนแต่กับเธอสีหราชมักพูดจริงจังและชอบเรียกเธอว่ายัยแว่น...แว่นแล้วผิดตรงไหน!!!“ใจเย็นไว้อลิน โกรธคือโง่โมโหคือบ้า
ย้อนกลับไปยี่สิบสี่ปีก่อน โรงเรียนอนุบาลxxx “เอาล่ะค่ะเด็กๆ คุณครูจะให้หนู ๆ จับกลุ่มนะคะกลุ่มล่ะกี่คนก็ได้ จับกลุ่มได้แล้วต้องอยู่กับเพื่อนกลุ่มนั้นจนขึ้นประถมเลยนะคะใครทำผิดผิดทั้งกลุ่มใครทำดีได้ดีทั้งกลุ่มนะ เอาล่ะคุณครูให้เวลาจับกลุ่มหนึ่งอาทิตย์นะคะวันจันทร์หน้าทุกคนต้องมีกลุ่มแล้วในวันจันทร์ต้องออกมาแนะนำกลุ่มหน้าชั้นด้วยนะ” เสียงของคุณครูแสนสวยเอ่ยบอกนักเรียนชั้นอนุบาลสามที่เธอสองอยู่ในวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่งก่อนจะปล่อยให้เด็ก ๆ หากลุ่มของตัวเอง “นี่มะยุกะเลาม้าย เราจื่อแพน” เด็กหญิงแพนธีราหรือน้องแพนในวัย5ขวบเอ่ยบอกหลังจากสะกิดหลังของเด็กหญิงปริมาหรือน้องปริมที่กำลังยืนเคว้งมองหาว่าจะจับกลุ่มกับใครดี “เราจื่อปริม” “ไปหาคงอื่นกานเตอะ” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ยชวน เด็กหญิงปริมาพยักหน้าก่อนะจะชี้ไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่งไม่ยอมไปหากลุ่ม เด็กหญิงทั้งสองคิดกันว่าจะหาแต่คนที่ไม่เข้ากับเด็กคนอื่นและในที่สุดก็หาได้ถึงแปดคนซึ่งประกอบด้วย น้องปริม น้องแพน น้องโจที่นั่งอยู่คนเดียว น้องแฝดอุ้มแอ้มและน้องป๊อปที่ตกลงว่าจะหากลุ่มด้วยกัน น้องแบงค์ที่ติดจะพูดไม