Share

บทที่5 เดอะแก็ง

ย้อนกลับไปยี่สิบสี่ปีก่อน      

โรงเรียนอนุบาลxxx     

“เอาล่ะค่ะเด็กๆ คุณครูจะให้หนู ๆ จับกลุ่มนะคะกลุ่มล่ะกี่คนก็ได้ จับกลุ่มได้แล้วต้องอยู่กับเพื่อนกลุ่มนั้นจนขึ้นประถมเลยนะคะใครทำผิดผิดทั้งกลุ่มใครทำดีได้ดีทั้งกลุ่มนะ เอาล่ะคุณครูให้เวลาจับกลุ่มหนึ่งอาทิตย์นะคะวันจันทร์หน้าทุกคนต้องมีกลุ่มแล้วในวันจันทร์ต้องออกมาแนะนำกลุ่มหน้าชั้นด้วยนะ” เสียงของคุณครูแสนสวยเอ่ยบอกนักเรียนชั้นอนุบาลสามที่เธอสองอยู่ในวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่งก่อนจะปล่อยให้เด็ก ๆ หากลุ่มของตัวเอง   

“นี่มะยุกะเลาม้าย เราจื่อแพน” เด็กหญิงแพนธีราหรือน้องแพนในวัย5ขวบเอ่ยบอกหลังจากสะกิดหลังของเด็กหญิงปริมาหรือน้องปริมที่กำลังยืนเคว้งมองหาว่าจะจับกลุ่มกับใครดี  

 “เราจื่อปริม”

“ไปหาคงอื่นกานเตอะ” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ยชวน เด็กหญิงปริมาพยักหน้าก่อนะจะชี้ไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่งไม่ยอมไปหากลุ่ม เด็กหญิงทั้งสองคิดกันว่าจะหาแต่คนที่ไม่เข้ากับเด็กคนอื่นและในที่สุดก็หาได้ถึงแปดคนซึ่งประกอบด้วย น้องปริม น้องแพน น้องโจที่นั่งอยู่คนเดียว น้องแฝดอุ้มแอ้มและน้องป๊อปที่ตกลงว่าจะหากลุ่มด้วยกัน น้องแบงค์ที่ติดจะพูดไม่ชัดตามอากงที่เป็นชายไทยเชื้อสายจีน และน้องเต้ยหนุ่มน้อยที่พูดออกสำเนียงทองแดงจนไม่มีใครอยากจะรับเข้ากลุ่ม

“มีแปดคงแย้ว หาอีกม้าย” เด็กหญิงปริมาเอ่ยถามทุกคนพยักหน้าก่อนจะเดินหาคนที่มาอยู่กลุ่มด้วย ตามประสาเด็ก ๆ ก็อยากจะมีกลุ่มใหญ่ ๆ ทุกคนจึงไม่หยุดแค่แปดคน

อีกฟากหนึ่ง

“เตอร้องไห้จำไม” เด็กหญิงอริสาหรือหนูอลินเอ่ยถามหลังจากเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ที่ม้านั่งก่อนจะยื่นอมยิ้มให้

“จอบจุนน๊า มะมีใครห้ายเยายุด้วย ฮึก เปราะเยามะมีป้อ” เด็กหญิงนลินญาหรือน้องคะนิ้งเอ่ยบอกพลางเช็ดน้ำตา

“มะเปงไย มะต้องย้อง มาเปงเพือนกับเยาจิ เยาก็ไม่มีกุ่ม เราชื่ออลินนะ เตอชื่อไยเหยอ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก  

“เยาจื่อคานี้ง” เด็กหญิงนลินญาเช็ดน้ำตาก่อนจะยิ้มให้เพื่อนใหม่ของเธอ  

“แม่คานี้ง น้ำค้างแข็งจั่ยมั้ย”

“แมะก้อบอกเยาอย่างน้าน”

“หนูอาลินอยู่นี่เอง มาอยู่กลุ่มกับเราไหม” เด็กชายสีหราชหรือน้องสิงห์ที่ดูจะพูดชัดถ้อยชัดคำกว่าเพื่อน ๆ เอ่ยถามลูกสาวของเพื่อนพ่อที่รู้จักกันมาต้องแต่อ้อนแต่ออกแถมยังเกิดวันเดียวกันด้วย

“จิ่ง นี่คานี้งเพื่อนอาลิน คานี้งนี่จิ่ง”

“สิงห์ เราไม่อยู่กลุ่มเดียวกับยัยอลินนะ” เสียงของเด็กชายศารทูลหรือน้องเสือดังขึ้น บ่งบอกว่าไม่ค่อยจะชอบใจหนูน้อยอริสาเท่าไหร่นัก

“จิ ค้าวม่ายยุกาบตัวหยอก เชอะไม่ง้อ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยขึ้นก่อนจะจูงมือเด็กหญิงนลินญาออกไปจากคนที่ทำให้เธอต้องอับอายเมื่อหนึ่งปีก่อน

2ปีก่อน

“น้าหวา อาลีนอยากกีนอันน้าน” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอกวาณิชาหรือน้าหวา น้าสาววัยยี่สิบสี่ปีของเด็กหญิง วาณิชาที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวแสนสวยยิ้มให้หลานสาวก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขัน

“ยังกินไม่ได้ลูก น้าหวากับอาวินต้องตัดก่อนยังไม่ถึงเวลานะคะ” วาณิชาเอ่ยบอกหลานสาว ใจจริงเธอไม่อยากขัดใจแม่หลานสาวตัวจิ๋วหรอกแต่ไอ้สิ่งที่แม่หนูอยากจะทานนะมันเค้กแต่งงานของเธอกับเจ้าบ่าวนี่นา

“กะดะ น้องอาลีนม้ายกีนกดะ ไปหาเจื้อกาบจิ่งดีกว่า” เด็กน้อยเอ่ยบอกก่อนจะวิ่งไปหาเพื่อนวัยเดียวกันอย่างเด็กชายศารทูลและเด็กชายสีหราช

“หนูอาลีนได้เค้กมาม่าย” เด็กชายสีหราชเอ่ยถาม หนูน้อยอริสาส่ายหน้าไปมาก่อนจะเบะปากร้องไห้ออกมาสองเด็กชายจึงต้องช่วยกันปลอบ

“เงียบน๊า เดี๋ยวเจื้อปายอาวไห้” เด็กชายศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะวิ่งไปหาอาหนุ่มนอกสายเลือดซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในวันนี้ก่อนจะกระซิบบางอย่างจนอาหนุ่มหน้าซีดลงแล้วหาเค้กช็อตโกแลตก้อนใหม่มาให้แทนเค้กแต่งงานเด็กชายศารทูลรับถาดเค้กก่อนจะวิ่งออกมา นาวินหรืออาวินน้องชายบุญธรรมของบิดาเด็กชายฝาแฝดถึงกับส่ายหน้ากับความเจ้าเล่ห์ฉลาดเกินวัยของหลานชายที่หยิบยกเรื่องความเจ้าชู้ของเขาก่อนแต่งงานมาขู่ว่าจะบอกวาณิชาเพื่อแลกกับเค้ก ‘แสบจริงไอ้หลานคนนี้’

เด็กชายศารทูลถือถาดเค้กวิ่งมาหาน้องชายฝาแฝดและเด็กหญิงขี้แยแต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น

โครม!

ร่างเล็กของเด็กชายสะดุดล้มในขณะที่เค้กก้อนโตลอยละลิ่วมาตกใส่ศีรษะของเด็กหญิงอริสาอย่างจัง เด็กชายศารทูลลุกขึ้นก่อนจะวิ่งมาดูตอนแรกก็อยากจะขอโทษแต่พอเห็นก็รู้สึกขำขึ้นมาจนหัวเราะเด็กหญิงตัวน้อยเสียอย่างนั้น คนถูกหัวเราะใส่มองอย่างเจ็บแค้นและอับอายสายตาแขกในงานที่มองอย่างขบขันก่อนจะหยิบเศษเค้กที่เหลือมาปาใส่เด็กชายศารทูล เด็กชายก็หายอมไม่หยิบเค้กมาป้ายแก้มขาวของเด็กหญิงอย่างโมโหเช่นกันพอเค้กที่เอามาหมดก็พากันวิ่งไปหาเค้กแต่งงานทันที กลายเป็นว่าเต้กแต่งงานของวาณิชาและนาวินก็ไม่พ้นมือทั้งคู่ กลายเป็นอาวุธที่ทำเอาเละไปทั้งคู่ก่อนที่งานจะเละไปกว่านี้พ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายก็มาแยกออกก่อน

“ต่อปายค้าวจาม้ายคุยกาบตัวแย้ว โป้ง!” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก

“เชอะม้ายง้อหรอกก อาลีนนิสายม่ายดี” เด็กชายศารทูลเองก็ไม่ยอมอ่อนให้นับจากนั้นมาทั้งสองก็ไม่เคยคุยกันดี ๆเลยสักครั้ง

ปัจจุบัน(สมัยเด็ก)

“นี่ ๆ มายุกลุ่วพกเยามั้ย” เด็กหญิงปริมาเอ่ยขึ้น เรียกสายตาจากเด็กชายศารทูลและเด็กหญิงอริสาที่จ้องกับราวจะกินเลือดกินเนื้อให้หันไปมอง

“มีเยาต้องไม่มีเจื่อ”

“มีเราต้องไม่มีอลินเหมือนกัน” ทั้งสองเอ่ยบอกพร้อมกันก่อนที่จะเดินออกไปคนละทาง 

“เราอยู่ด้วยได้เปล่า” เด็กชายสีหราชและเด็กหญิงนลินญาเอ่ยประสานเสียงกัน

“ได้สิ แต่เยาอยากได้จ่องคงน้านด้วยจัง” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ย

“งั้นเราจะทำให้สองคนนั้นมาอยู่กลุ่มนี้เอง” สีหราชเอ่ยบอก ก่อนที่จะล้อมวงวางแผนกันตามแบบเด็กๆ

“ทำไมเราต้องอยู่ บอกแล้วไงมีเราต้องไม่มีอลิน” เด็กชายศารทูลเอ่ยบอกน้องชาย

“ถ้าเสือไม่อยู่กลุ่มนี้เราจะฟ้องพ่อว่าเสือรังแกเรา” แฝดน้องเอ่ยบอก แฝดพี่มองอย่างชั่งใจก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมแพ้

“เยาไม่อยู่ คานิ้งอย่าบังคับ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยเสียงแข็ง เด็กหญิงนลินญาเบะปากก่อนจะร้องไห้ออกมา

“เยาไม่มีเพื่อน อาลีนเป็นเพื่อนคงแรก อยู่กับเยานะฮือๆๆๆๆ”

“ก็ได้ๆๆอย่าร้องน๊า เราจาอยู่กับคานิ้ง” เด็กหญิงอริสาที่เห็นน้ำตาของเพื่อนใหม่จำต้องยอมเพื่อเห็นแก่เพื่อน

“อยู่กลุ่มเดียวกันแต่เยาต่างคนต่างอยู่” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก ก่อนจะทำสัญญากับอดีตเพื่อนที่แสนจะไม่กินเส้นเพื่อเห็นแก่หนูน้อยคะนิ้งที่ไม่มีเพื่อน

นับจากนั้นมาอริสาและศารทูลก็อยู่กลุ่มเดียวกันแต่ก็ยังทะเลาะกันและตีกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แกล้งกันไปแกล้งกันมา ปะทะคารมกันมาตลอดจนกระทั้งจบมัธยมต้น ศารทูลและเจตรินแยกออกมาเรียนโรงเรียนนายร้อยและโรงเรียนนายเรืออากาศแต่กลุ่มแก๊งก็ยังนัดเจอกันเสมอและยังสนิทชิดเชื้อกันเหมือนเดิมและก่อนที่คนอื่น ๆจะจบมัธยมปลายทั้งหมดก็รวมตัวกันและคิดชื่อแก๊งใหม่จากแก๊งเพื่อนตัวจิ๋ว มาเป็น Devil Dark ปีศาจแห่งความมืดจนถึงปัจจุบัน

Related chapter

Latest chapter

DMCA.com Protection Status