ย้อนกลับไปยี่สิบสี่ปีก่อน
โรงเรียนอนุบาลxxx
“เอาล่ะค่ะเด็กๆ คุณครูจะให้หนู ๆ จับกลุ่มนะคะกลุ่มล่ะกี่คนก็ได้ จับกลุ่มได้แล้วต้องอยู่กับเพื่อนกลุ่มนั้นจนขึ้นประถมเลยนะคะใครทำผิดผิดทั้งกลุ่มใครทำดีได้ดีทั้งกลุ่มนะ เอาล่ะคุณครูให้เวลาจับกลุ่มหนึ่งอาทิตย์นะคะวันจันทร์หน้าทุกคนต้องมีกลุ่มแล้วในวันจันทร์ต้องออกมาแนะนำกลุ่มหน้าชั้นด้วยนะ” เสียงของคุณครูแสนสวยเอ่ยบอกนักเรียนชั้นอนุบาลสามที่เธอสองอยู่ในวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่งก่อนจะปล่อยให้เด็ก ๆ หากลุ่มของตัวเอง
“นี่มะยุกะเลาม้าย เราจื่อแพน” เด็กหญิงแพนธีราหรือน้องแพนในวัย5ขวบเอ่ยบอกหลังจากสะกิดหลังของเด็กหญิงปริมาหรือน้องปริมที่กำลังยืนเคว้งมองหาว่าจะจับกลุ่มกับใครดี
“เราจื่อปริม”
“ไปหาคงอื่นกานเตอะ” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ยชวน เด็กหญิงปริมาพยักหน้าก่อนะจะชี้ไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่งไม่ยอมไปหากลุ่ม เด็กหญิงทั้งสองคิดกันว่าจะหาแต่คนที่ไม่เข้ากับเด็กคนอื่นและในที่สุดก็หาได้ถึงแปดคนซึ่งประกอบด้วย น้องปริม น้องแพน น้องโจที่นั่งอยู่คนเดียว น้องแฝดอุ้มแอ้มและน้องป๊อปที่ตกลงว่าจะหากลุ่มด้วยกัน น้องแบงค์ที่ติดจะพูดไม่ชัดตามอากงที่เป็นชายไทยเชื้อสายจีน และน้องเต้ยหนุ่มน้อยที่พูดออกสำเนียงทองแดงจนไม่มีใครอยากจะรับเข้ากลุ่ม
“มีแปดคงแย้ว หาอีกม้าย” เด็กหญิงปริมาเอ่ยถามทุกคนพยักหน้าก่อนจะเดินหาคนที่มาอยู่กลุ่มด้วย ตามประสาเด็ก ๆ ก็อยากจะมีกลุ่มใหญ่ ๆ ทุกคนจึงไม่หยุดแค่แปดคน
อีกฟากหนึ่ง
“เตอร้องไห้จำไม” เด็กหญิงอริสาหรือหนูอลินเอ่ยถามหลังจากเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ที่ม้านั่งก่อนจะยื่นอมยิ้มให้
“จอบจุนน๊า มะมีใครห้ายเยายุด้วย ฮึก เปราะเยามะมีป้อ” เด็กหญิงนลินญาหรือน้องคะนิ้งเอ่ยบอกพลางเช็ดน้ำตา
“มะเปงไย มะต้องย้อง มาเปงเพือนกับเยาจิ เยาก็ไม่มีกุ่ม เราชื่ออลินนะ เตอชื่อไยเหยอ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก
“เยาจื่อคานี้ง” เด็กหญิงนลินญาเช็ดน้ำตาก่อนจะยิ้มให้เพื่อนใหม่ของเธอ
“แม่คานี้ง น้ำค้างแข็งจั่ยมั้ย”
“แมะก้อบอกเยาอย่างน้าน”
“หนูอาลินอยู่นี่เอง มาอยู่กลุ่มกับเราไหม” เด็กชายสีหราชหรือน้องสิงห์ที่ดูจะพูดชัดถ้อยชัดคำกว่าเพื่อน ๆ เอ่ยถามลูกสาวของเพื่อนพ่อที่รู้จักกันมาต้องแต่อ้อนแต่ออกแถมยังเกิดวันเดียวกันด้วย
“จิ่ง นี่คานี้งเพื่อนอาลิน คานี้งนี่จิ่ง”
“สิงห์ เราไม่อยู่กลุ่มเดียวกับยัยอลินนะ” เสียงของเด็กชายศารทูลหรือน้องเสือดังขึ้น บ่งบอกว่าไม่ค่อยจะชอบใจหนูน้อยอริสาเท่าไหร่นัก
“จิ ค้าวม่ายยุกาบตัวหยอก เชอะไม่ง้อ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยขึ้นก่อนจะจูงมือเด็กหญิงนลินญาออกไปจากคนที่ทำให้เธอต้องอับอายเมื่อหนึ่งปีก่อน
2ปีก่อน
“น้าหวา อาลีนอยากกีนอันน้าน” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอกวาณิชาหรือน้าหวา น้าสาววัยยี่สิบสี่ปีของเด็กหญิง วาณิชาที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวแสนสวยยิ้มให้หลานสาวก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขัน
“ยังกินไม่ได้ลูก น้าหวากับอาวินต้องตัดก่อนยังไม่ถึงเวลานะคะ” วาณิชาเอ่ยบอกหลานสาว ใจจริงเธอไม่อยากขัดใจแม่หลานสาวตัวจิ๋วหรอกแต่ไอ้สิ่งที่แม่หนูอยากจะทานนะมันเค้กแต่งงานของเธอกับเจ้าบ่าวนี่นา
“กะดะ น้องอาลีนม้ายกีนกดะ ไปหาเจื้อกาบจิ่งดีกว่า” เด็กน้อยเอ่ยบอกก่อนจะวิ่งไปหาเพื่อนวัยเดียวกันอย่างเด็กชายศารทูลและเด็กชายสีหราช
“หนูอาลีนได้เค้กมาม่าย” เด็กชายสีหราชเอ่ยถาม หนูน้อยอริสาส่ายหน้าไปมาก่อนจะเบะปากร้องไห้ออกมาสองเด็กชายจึงต้องช่วยกันปลอบ
“เงียบน๊า เดี๋ยวเจื้อปายอาวไห้” เด็กชายศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะวิ่งไปหาอาหนุ่มนอกสายเลือดซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในวันนี้ก่อนจะกระซิบบางอย่างจนอาหนุ่มหน้าซีดลงแล้วหาเค้กช็อตโกแลตก้อนใหม่มาให้แทนเค้กแต่งงานเด็กชายศารทูลรับถาดเค้กก่อนจะวิ่งออกมา นาวินหรืออาวินน้องชายบุญธรรมของบิดาเด็กชายฝาแฝดถึงกับส่ายหน้ากับความเจ้าเล่ห์ฉลาดเกินวัยของหลานชายที่หยิบยกเรื่องความเจ้าชู้ของเขาก่อนแต่งงานมาขู่ว่าจะบอกวาณิชาเพื่อแลกกับเค้ก ‘แสบจริงไอ้หลานคนนี้’
เด็กชายศารทูลถือถาดเค้กวิ่งมาหาน้องชายฝาแฝดและเด็กหญิงขี้แยแต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
โครม!
ร่างเล็กของเด็กชายสะดุดล้มในขณะที่เค้กก้อนโตลอยละลิ่วมาตกใส่ศีรษะของเด็กหญิงอริสาอย่างจัง เด็กชายศารทูลลุกขึ้นก่อนจะวิ่งมาดูตอนแรกก็อยากจะขอโทษแต่พอเห็นก็รู้สึกขำขึ้นมาจนหัวเราะเด็กหญิงตัวน้อยเสียอย่างนั้น คนถูกหัวเราะใส่มองอย่างเจ็บแค้นและอับอายสายตาแขกในงานที่มองอย่างขบขันก่อนจะหยิบเศษเค้กที่เหลือมาปาใส่เด็กชายศารทูล เด็กชายก็หายอมไม่หยิบเค้กมาป้ายแก้มขาวของเด็กหญิงอย่างโมโหเช่นกันพอเค้กที่เอามาหมดก็พากันวิ่งไปหาเค้กแต่งงานทันที กลายเป็นว่าเต้กแต่งงานของวาณิชาและนาวินก็ไม่พ้นมือทั้งคู่ กลายเป็นอาวุธที่ทำเอาเละไปทั้งคู่ก่อนที่งานจะเละไปกว่านี้พ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายก็มาแยกออกก่อน
“ต่อปายค้าวจาม้ายคุยกาบตัวแย้ว โป้ง!” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก
“เชอะม้ายง้อหรอกก อาลีนนิสายม่ายดี” เด็กชายศารทูลเองก็ไม่ยอมอ่อนให้นับจากนั้นมาทั้งสองก็ไม่เคยคุยกันดี ๆเลยสักครั้ง
ปัจจุบัน(สมัยเด็ก)
“นี่ ๆ มายุกลุ่วพกเยามั้ย” เด็กหญิงปริมาเอ่ยขึ้น เรียกสายตาจากเด็กชายศารทูลและเด็กหญิงอริสาที่จ้องกับราวจะกินเลือดกินเนื้อให้หันไปมอง
“มีเยาต้องไม่มีเจื่อ”
“มีเราต้องไม่มีอลินเหมือนกัน” ทั้งสองเอ่ยบอกพร้อมกันก่อนที่จะเดินออกไปคนละทาง
“เราอยู่ด้วยได้เปล่า” เด็กชายสีหราชและเด็กหญิงนลินญาเอ่ยประสานเสียงกัน
“ได้สิ แต่เยาอยากได้จ่องคงน้านด้วยจัง” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ย
“งั้นเราจะทำให้สองคนนั้นมาอยู่กลุ่มนี้เอง” สีหราชเอ่ยบอก ก่อนที่จะล้อมวงวางแผนกันตามแบบเด็กๆ
“ทำไมเราต้องอยู่ บอกแล้วไงมีเราต้องไม่มีอลิน” เด็กชายศารทูลเอ่ยบอกน้องชาย
“ถ้าเสือไม่อยู่กลุ่มนี้เราจะฟ้องพ่อว่าเสือรังแกเรา” แฝดน้องเอ่ยบอก แฝดพี่มองอย่างชั่งใจก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมแพ้
“เยาไม่อยู่ คานิ้งอย่าบังคับ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยเสียงแข็ง เด็กหญิงนลินญาเบะปากก่อนจะร้องไห้ออกมา
“เยาไม่มีเพื่อน อาลีนเป็นเพื่อนคงแรก อยู่กับเยานะฮือๆๆๆๆ”
“ก็ได้ๆๆอย่าร้องน๊า เราจาอยู่กับคานิ้ง” เด็กหญิงอริสาที่เห็นน้ำตาของเพื่อนใหม่จำต้องยอมเพื่อเห็นแก่เพื่อน
“อยู่กลุ่มเดียวกันแต่เยาต่างคนต่างอยู่” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก ก่อนจะทำสัญญากับอดีตเพื่อนที่แสนจะไม่กินเส้นเพื่อเห็นแก่หนูน้อยคะนิ้งที่ไม่มีเพื่อน
นับจากนั้นมาอริสาและศารทูลก็อยู่กลุ่มเดียวกันแต่ก็ยังทะเลาะกันและตีกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แกล้งกันไปแกล้งกันมา ปะทะคารมกันมาตลอดจนกระทั้งจบมัธยมต้น ศารทูลและเจตรินแยกออกมาเรียนโรงเรียนนายร้อยและโรงเรียนนายเรืออากาศแต่กลุ่มแก๊งก็ยังนัดเจอกันเสมอและยังสนิทชิดเชื้อกันเหมือนเดิมและก่อนที่คนอื่น ๆจะจบมัธยมปลายทั้งหมดก็รวมตัวกันและคิดชื่อแก๊งใหม่จากแก๊งเพื่อนตัวจิ๋ว มาเป็น Devil Dark ปีศาจแห่งความมืดจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน(ภูเก็ต)“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะทำให้สองคนนี้อยู่ในแก๊งเดียวกันมาเกือบจะสามสิบปีแล้ว มหัศจรรย์เนอะ” อารตีเอ่ยขึ้นหลังจากทุกคนตกอยู่ในภวังค์ของอดีต คิดแล้วก็คิดถึงสมัยเด็ก ๆ ที่ได้เจอหน้ากันทุกวัน และคุยกันทุกวันแตกต่างจากปัจจุบันที่กว่าจะเจอกันทีไม่ใช่ง่าย ๆ“นั่นสินะไม่คิดว่าฉันกับไอ้แมวปีศาจนี่จะอยู่แก๊งเดียวกันมาได้รู้สึกมหัศจรรย์จริง ๆ” อริสาเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าแค่เรื่องแสนอับอายครั้งนั้นจะทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าคนที่ครั้งนึงเคยเล่นด้วยกันได้ขนาดนี้“มหัศจรรย์เหรอ ใช่มันมหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาลเลย ฉันโคตรทึ่งพวกนายเลย” ศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะมองเวลา “ไปที่เกาะเลยมั้ย หรือจะเที่ยวในตัวเมืองก่อน”“ไปเที่ยวกันก่อนแล้วกัน อาทิตย์หน้าค่อยเข้าไปที่เกาะ ไปหาโรงแรมพักกันก่อนใครเป็นเจ้าของโรงแรมนำทางค๊า” ปริมาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปบอกเตชินทร์“เชิญครับคุณลูกค้า” เตชินทร์เอ่ยบอกก่อนจะนำทุกคนไปที่รถตู้ของโรงแรมที่เขาสั่งให้มารอ รอบนี้เตชินทร์จัดให้อริสาและศารทูลนั่งห่างกันที่สุดเพื่อป้องกันสงครามน้ำลายระหว่างทางการเดินทางแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นสงครามน้ำลายข้ามหัวเพื่อน ๆ ก็ยังคงมีขึ้นเ
“อ้าว มายืนทำอะไรตรงนี้ แล้วนั่นเป็นอะไรทำไมยืนตัวงอแบบนั้น” เสียงของอริสาดังขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาเห็นเพื่อนสาวระหว่างทางที่จะกลับห้อง อริสาไม่รู้สักนิดว่านลินญาได้ยินอะไรเข้าไปบ้าง แต่คำว่ายืนตัวงอของอริสาทำให้นลินญานึกขึ้นมาได้ถึงสาเหตุที่เดินลงมาจากห้อง“ฉันปวดท้องวันนั้นอีกแล้วอะแก ลืมเอายามาด้วยแกพกมาบ้างมั้ย” เพราะเธอเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาปวดท้องเวลาเป็นวันนั้นของเดือนแถมประจำเดือนยังมาไม่เป็นเวลาทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะประสบปัญหานี้ตอนไหน ทำให้บางครั้งก็ลืมเรื่องยาแก้ปวดไป และในบรรดาเพื่อนก็มีแค่อริสาที่มีปัญหาแบบนี้เหมือนกันเมื่อไปหาที่ห้องไม่เจอจึงต้องลงมาตามหาข้างล่าง ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมาได้ยินอะไรแบบนี้เข้านี่เธอโชคดีหรือโชคร้ายกันเนี่ย?“รู้สึกว่าจะไม่ได้เอามาอะแก เพราะก่อนมาเที่ยวมันมาแล้วฉันเลยสบายใจไม่คิดพกมาอะ” อริสาตอบเสียงเศร้าก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ “แต่แกไม่ต้องวิตก มีคนนึงที่ต้องช่วยได้ เดี๋ยวฉันมาแกนั่งรอนี่นะ”พูดจบอริสาก็หายไปทางห้องครัวทันทีนลินญารู้ได้ไม่ยากเลยว่าอีกฝ่ายจะไปตามใครมาช่วย คนปวดท้องเพราะเป็นวันนั้นหน้าร้อนขึ้นชั่วขณะเมื่อนึกไ
ผู้ชายอย่างอีตาหมอสิงห์นี่ทำให้เธอปวดหัวจริง ๆ คอยดูนะทริปนี้เธอจะเล่นงานตาคนนี้ให้หนักเลย ยัยเพื่อนผู้รู้แต่ไม่ยอมบอกอย่างอริสาด้วย รู้แล้วยังปกปิดมันต้องโดนนลินญาคิดแผนร้ายเงียบ ๆ โดยที่อริสาไม่รู้สักนิด ความจริงแล้วเธอก็ร้ายไม่แพ้เพื่อนคนไหนหรอก Devil Dark น่ะแปลว่าปีศาจมืด แก็ง Devil Dark ก็แปลว่าเป็นกลุ่มที่รวมตัวปีศาจมืดนั่นล่ะ ถ้าเธอแสนดีเธอจะอยู่กลุ่มนี้มาได้เป็นสามสิบปีรึไงกันเล่าความจริงแล้วสมัยม.ปลายเธอก็หลงรักเข้าเต็มเปาเลยล่ะ หลงรักตาหมอสีหราชนั่นน่ะ แต่ตอนนั้นตาคนนั้นไม่มีทีท่าอะไรเลยแถมยังปั่นปึ่งเย็นชาใส่เสียอีก อุตส่าห์ตามไปเรียนม.เดียวกันก็ยังไม่มีปฏิกิริยาพอเรียนจบก็เลยแยกย้ายกันไปเธอถึงได้เลิกสนใจ พยายามตัดใจจากเขา จนมาเจอลูกเลี้ยงของพ่อที่บุคลิกคล้ายกันนั่นล่ะเธอจึงหันเหไปที่คนนั้นเพื่อจะให้เขาเป็นตัวแทนของสีหราช ใครจะไปคิดล่ะพอเปิดใจให้คนโน่นเธอเพิ่งจะมาค้นพบความลับของคนนี้น่ะหงุดหงิดจริง ๆ ที่อริสารู้แล้วไม่บอก ถ้าบอกล่ะก็เธอกับตาหมอสีหราชได้คบกันไปนานแล้วมั้ง ไม่ต้องนั่งอยู่บนคานมาจนจะอายุสามสิบบวกให้ญาติฝั่งพ่อกระแนะกระแหนว่าขายไม่ออกแบบนี้หรอก ถ้ารู้ว่าส
การพูดคุยเฮฮาระหว่างเพื่อนยังคงดังเป็นระยะทว่าอริสาไม่ได้สนใจจะเฮฮากับเพื่อน หญิงสาวเอาแต่ซัดเครื่องดื่มลงคอ เธอเปลี่ยนจากน้ำสีหวานมาเป็นน้ำสีอำพัน ความจริงแล้วเธอค่อนข้างจะคออ่อน และดื่มไม่ค่อยเก่งแต่เพราะมีคู่อริเป็นคอทองแดงเธอจึงคออ่อนไม่ได้เสียชีพไม่ยอมเสียฟอร์ม และแพ้ไม่เป็นนี่คือเธอล่ะ...ยิ่งดื่มมากก็ยิ่งเมา คนเมาแล้วถ้าไม่เงียบไปเลยก็พูดมากพล่ามไปเรื่อย อริสาเป็นอย่างหลังในบรรดาเพื่อนฝูงรู้กัน คนเมาสุดเริ่มจะระบายออกมาเสียอ้อแอ้จนเพื่อน ๆ ต้องเงียบฟัง“ยัยเด็กผีนั้นตอนแรก ๆ ก็เข้ามาออเซาะ ออดอ้อน ทำตัวน่ารักจนฉันหลงไว้ใจคิดว่าใสซื่อ แต่สุดท้ายมันซื่อยังไงของมันถึงได้ไปท้องป่องกับแฟนฉันได้ ฮึก พวกแกคิดดูคนที่พวกแกบอกว่าฉลาดรอบรู้อย่างฉันเจ็บแค่ไหนตอนรู้ว่าตัวเองเป็นยัยโง่ที่ถูกสวมเขา ฮึก ผู้ชายมันเชื่อไม่ได้ ผู้หญิงใสซื่อไม่มีจริง ฮึก”“นี่ พอได้แล้ว ดื่มเยอะไปแล้วนะแก” ปริมาร้องห้ามเช่นเดียวกับเพื่อน ๆ คนอื่น ๆ ที่พากันห้ามแต่อริสาหาได้ฟังไม่ หญิงสาวยังคงดื่มเข้าไปอีกถึงสองแก้ว“ฉานผิดตรงหนาย ทามมายทามกาบฉานแบบเน้”“ไม่เอาแล้วอลิน แกเมาแล้วนะ” แพนธีราปราบพร้อมกับพยายามแย่งแก้
จากหาดหน้าบ้านเข้ามาภายในตัวบ้านไม่ไกลมากนักแต่ศารทูลก็นึกสงสัยขึ้นมา ยาถ่ายประเภทที่น่าจะเอาไว้แกล้งคนนี่น่าจะออกฤทธิ์ไม่ช้ากว่าสองถึงสามชั่วโมงหลังจากกินนะ เขาก็เคยโดยยัยคนที่เขาเก็บมาแอบใส่ในขนมให้กินอยู่หลายครั้งเหมือนกัน อย่างเร็วสุดหลังจากกินเข้าไปก็จะมีอาการปวดท้องทันที อย่างช้าสุดก็ยี่สิบชั่วโมง แต่ดูเหมือนอริสาจะไม่รู้สึกปวดท้องเลยแต่กลับมีอาการแปลก ๆ“อย่ามาไซ้ซอกคอฉันนะยัยขี้เมา” ใช่...ยัยขี้เมาไม่มีอาการปวดท้องแต่กลับมีอาการแปลก ๆ อยู่ ๆ ก็มาไซ้ซอกคอเขา มือไม้ก็ลูบไล้หน้าอกเขาเสียอย่างนั้นไม่น่าใช่ยาถ่ายแล้วล่ะ คงไม่ใช่ว่ายัยนลินญาถูกหลอกให้ซื้อยาแปลก ๆ มาหรอกนะ ?...“นิ่ง ๆ ได้มั้ยเนี่ย” ชายหนุ่มเอ่ยปรามคนเมาอีกรอบขณะเปิดประตูห้องของหญิงสาว“เสือจายร้ายดุอาลินทามมาย” คนเมาอ้อแอ้ตัดพ้อ คำพูดคำจาของหญิงสาวทำให้ศารทูลคิดถึงตอนเด็ก ๆ สมัยที่ยังไม่ทะเลาะกับอริสา สมัยนั้นเขาและสีหราชสนิทกับอริสามาก ตัวติดกันเป็นตังเมจนผู้ใหญ่แซวว่าเป็นแฝด3 แต่นั่นมันก็นานแล้วและก็ไม่มีอีกแล้วด้วยก็อริสาอยากจะไม่มีเหตุผลและนิสัยไม่ดีปาเค้กใส่เขาทำไมล่ะ ขาดแล้วขาดเลย ทุกวันนี้หรือแม้แต่ตอนนี้ที
อริสาก้มลงจูบคนใต้ร่างอีกครั้งอย่างหนักหน่วง แท้จริงแล้วหญิงสาวไม่ประสีประสาเรื่องอย่างนี้แม้แต่น้อยแต่เพราะฤทธิ์ของยาทำให้หญิงสาวทำสิ่งต่าง ๆ ไปโดยธรรมชาติ บวกกับสมองมีภาพของตฤณกันต์และนภิตราที่เธอได้พบเห็นล่องลอยหลอกหลอนอยู่ทำให้ร่างกายแสดงออกมาเหมือนกับที่เห็นมาในตอนนี้สมองของเธอบอกว่าอยากรู้เหลือเกินว่าที่นภิตราและตฤณกันต์ทำลับหลังเธอมันสนุกนักหรือใบหน้าของคนทั้งคู่ในตอนนั้นจึงได้ดูมีความสุขนัก และอะไรหลาย ๆ อย่างบอกเธอว่าถ้าอยากรู้ก็แค่ทำเหมือนกับที่สองคนนั้นทำเธอก็จะได้รู้สมองสั่งมาอย่างนี้โดยไม่ได้สนใจว่าคนที่อยู่ใต้ร่างเป็นคนที่เธอเคยเพียรบอกตัวเองและคนอื่น ๆ ว่าชาตินี้ทั้งชาติต่อให้เหลืออยู่เพียงคนเดียวในโลกเธอก็จะไม่เอามาทำพันธุ์หญิงสาวซุกไซ้ลำคอแข็งแรง หยอกล้อลูกกระเดือกของคนไม่สามารถขัดขืนได้ มือบางพลางลูบไล้ไปตามแผงอกแข็งแรง อกแกร่งของศารทูลเต็มไปด้วยมัดกล้ามอันเนื่องมาจากชายหนุ่มชื่นชอบการออกกำลังกายและเคยผ่านการฝึกหลักสูตรพิเศษมาไม่น้อยทำให้แลดูล่ำสัน แข็งแรงน่าจับเสียไม่หยอกศารทูลดูจะไร้ความสามารถไปชั่วขณะ เขาไม่อาจจะขัดขืนหญิงสาวได้แม้แต่น้อย ให้ตายเถอะความจริงมัน
แม้จะบอกนลินญาว่าว่างวันพฤหัสบดีและวันศุกร์หน้าแต่จริง ๆ แล้วบ่ายวันต่อมาก็เป็นวันว่างของอริสาเช่นกันแต่หญิงสาวกลับไม่บอกนลินญาเพราะอยากใช้วันว่างนี้ไปหาหมอ...ที่ไม่ใช่สีหราชด้วยอาการที่ฟ้องให้กังวลและอริสาเป็นคนไม่อยากจะรู้สึกค้างคาหรือกังวลหญิงสาวจึงอยากจะตรวจให้รู้ชัดไปเลยว่าท้องหรือไม่...จากนั้นเธอจะเอายังไงค่อยคิดอีกทีในตอนเช้าอริสามาทำงานปกติโดยไม่ได้บอกกับชริมาหรือแม้แต่แพนธีราว่าจะไปหาหมอ แน่นอนว่าเรื่องในคืนนั้นนอกจากเธอกับคู่ปรับแล้วไม่มีเพื่อนคนไหนรับรู้ เช่นเดียวกับเรื่องยาในชาที่รู้กันแค่4คนเท่านั้น แม้จะเป็นเพื่อนแต่เธอก็ไม่อยากให้มันเป็นเรื่องใหญ่จึงไม่ได้เล่าให้แพนธีราฟัง และเดาได้ว่าอีกสามคนก็ไม่ต่างกัน“ช่วงบ่ายพี่ไม่เข้ามาใช่มั้ยคะ?” ชริมาสอบถามเมื่อเห็นว่ารุ่นพี่สาวกำลังเตรียมตัวออกจากห้องด้วยท่าทีที่คล้ายกับว่าจะไม่กลับเข้ามาแล้วในวันนี้“ใช่ พอดีมีธุระน่ะ ว่าแต่...สองคนนั้นออกไปแล้วใช่มั้ย?” อริสาตอบและถามกลับถึงบุคคลสองคนที่เธอไม่อยากเจอที่สุด ที่ผ่านมาเพราะไม่อยากจะมีปัญหาและไม่อยากเสวนาเธอจึงหลบเลี่ยงคนทั้งคู่อยู่บ่อยครั้ง ก่อนเวลาพักจะต้องให้ชริมาไปดูให้เสม
อุปกรณ์ตรวจการตั้งครรภ์ทั้งชนิดแบบจุ่ม และแบบหยดที่ใช้แล้วมากกว่าห้าชิ้นที่บ่งบอกไปในทิศทางเดียวกันถูกวางไว้บนโต๊ะโดยไม่มีวี่แววว่าคนที่ใช้มันจะหยิบขึ้นมาดูอีกครั้งดวงตาที่เคยเปล่งประกายความสงบและคมเฉียบหม่นลงทุกขณะเมื่อมองขีดสีแดงที่ปรากฏเด่นชัดสองขีดในชุดตรวจการตั้งครรภ์ทุกชิ้นที่ซื้อมาทดสอบมีบางชิ้นที่เป็นขีดจาง ๆ แต่ก็เป็นสองขีดอยู่ดีจะบ้าตาย เธออยากให้ชุดทดสอบพวกนี้มันเสียทั้งหมด จริง ๆ แล้วมันไม่ใช่สองขีดเสียเหลือเกิน แต่...“นี่ฉันท้องเหรอเนี่ย?” เธอได้แต่ถามตัวเองพร้อมกับมือที่เผลอลูบหน้าท้องของตัวเอง มันเป็นไปได้หรือที่แค่พลาดไปคืนเดียวเธอจะได้ของขวัญติดท้องมาแบบนี้...นี่ล่ะนะเขาถึงว่าเอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้กับชีวิต เฮ้อ“เอาไงต่อล่ะเนี่ย ขืนปะป๊ารู้บ้านแตกแน่” คิดเรื่องความเอาแน่เอานอนของชีวิตได้ไม่เท่าไหร่ก็มีอีกเรื่องมากวนใจ นั่นคือปัญหาที่ใหญ่กว่าเธอท้องคือ...ถ้าพ่อกับแม่เธอรู้เข้ามีหวังบ้านแตกแค่รู้ว่าเธอท้องก็คงสร้างความสะท้านสะเทือนไปทั่วได้ยิ่งถ้ารู้ว่าใครคือพ่อของลูกในท้องมีหวังบ้านแตก กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติดมีหวังสะท้านสะเทือนอริสารู้สึกปวดหัวจี๊ดขึ้นม
“เรื่องอะไรต้องง้อ” อริสาบอกพร้อมกับทำท่างุนงง ศารทูลหัน ขวับมามองก่อนจะส่งเสียงชิชะขัดใจในลำคอ“ไม่ง้อก็ไม่ง้อ อยากไปหอมแก้มให้รางวัลหรือจะไปจูบหน้าผากให้รางวัลไอ้กล้าก็ไปเลย”“จูบแน่” อริสาตอบกลับก่อนจะยืดตัวขึ้นจูบริมฝีปากชายหนุ่มที่ยังคงมึนงง มือบางยกขึ้นคล้องคอชายหนุ่มไว้ด้วยและจูบอย่างชำนาญ...ขึ้นมาหน่อยศารทูลทั้งงุนงงและใบ้กินไปชั่วขณะแต่ก็จูบตอบในเวลาต่อมา“ที่บอกจะหอมแก้มสักฟอดหรือดีมาก ๆ เลยนะหมายถึงนายต่างหากเล่าตาทึ่มเอ้ย” หญิงสาวเอ่ยหลังจากที่ผละจูบ “เป็นแมวบ้าสมองสล็อตยังไม่พอยังทึ่มอีก”“ทึ่ม?”“ก็ทึ่มสิ ที่ฉันยิ้มมาตลอดน่ะเพราะนายหึงฉันต่างหากเล่า ตัวเองเคยแกล้งเค้าแบบนี้เหมือนกันจำไม่ได้เหรอ?”“นี่...”“เอาคืนนิดหน่อยเอง”“ยัยเอเลี่ยน ร้ายนักนะ” คนที่ถูกแกล้งให้งอนให้หึงว่าให้เมื่อรู้ความจริงทุกอย่างจากจะงอนให้ง้อตอนนี้เริ่มชักจะงอนจริง ๆ แล้วนะ“ยัยผู้หญิงขี้แกล้ง”
การได้มาดูนักชกขวัญใจทำให้อริสาเอาแต่สนใจบนเวทีตั้งแต่นักมวยหนุ่มยังคงไหว้ครูจนศารทูลได้กลิ่นเน่าของหัวตัวเอง รู้สึกหัวเน่ายังไงไม่รู้สิ ไม่น่าปั้นไอ้เจ้าต้นกล้านี่ให้เก่งเล้ย“ไม่คิดว่าวันนี้เจ้าของค่ายจะมาดูด้วยนะ” น้ำเสียงคล้ายทักทายกันดังขึ้นทำให้ศารทูลต้องละสายตามามองคนทัก“ผมก็มาดูต้นกล้ากับเด็กในค่ายบ่อย เสี่ยไม่เคยเห็นเหรอ?” ชายหนุ่มตอบกลับในเชิงกวนประสาทอีกฝ่ายก่อนจะหันไปดูบนเวที คู่สนทนาไม่ใช่ใครที่ไหนเป็นเจ้าของค่ายมวยของคู่ชกที่ต้นกล้าต้องชกด้วยในวันนี้นั่นเอง“ก็เห็น แต่ระวังวันนี้ต้นกล้าจะถูกกระชากเข็มขัดแชมป์ล่ะเพราะวันนี้เด็กของอั๊วเตรียมตัวมาดี”“ผมมาดูมวยไม่ได้มาฟังใครวิเคราะห์มวย ผลออกมาค่อยว่ากันดีกว่านะเสี่ย”“หึ อวดดี”ศารทูลไม่ว่าอะไรทำเพียงยักไหล่ยิ่งทำให้ถูกมองอย่างไม่ชอบใจ แต่ถามว่าเขาแคร์มั้ย บอกเลยว่าไม่ ไอ้คนชอบเล่นนอกกติกาแบบนี้ทำไมเขาต้องแคร์หลายครั้งที่ได้ยินว่าอีกฝ่ายเล่นตุกติกจนนักชกในค่ายชนะมาแล้วหลายสนามแค่ได้ยินอย่างนั้นเขาก็ไม่อยาก
“ผมเข้าใจทุกอย่างแล้ว” ในที่สุดสิรานนท์ก็เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าอย่างคนตัดสินใจอย่างเด็ดขาดได้ “ผมขอโทษพวกคุณด้วยที่ผมคิดจะทำร้ายชื่อเสียงพวกคุณ ผมเชื่อทุกหลักฐานในวันนี้นอกจากขอโทษแล้วยังขอบคุณด้วยที่ทำให้ผมได้รู้ความจริง”“มันสบายใจขึ้นนะ โล่งมาก ผมไม่ได้รู้สึกแบบนี้เลยตั้งแต่เริ่มสะสมความโกรธแค้นชิงชัง ผมไม่รู้จะพูดยังไงจริง ๆ” เขาพูดต่อก่อนจะยกมือไหว้ท่านอาทิตย์ “ผมขอโทษครับ ที่ผ่านมาผมคิดร้ายกับท่านมาโดยตลอด คิดจะทำร้ายลูกสาวท่านเพื่อให้ท่านเสียใจผมขอโทษ ขอโทษจริง ๆ”“มันไม่สายไปหรอกนะที่จะเริ่มต้นใหม่และเป็นมิตรต่อกัน” ท่านอาทิตย์บอกก่อนจะเดินมาตบไหล่ “ฉันไม่โกรธหรอก เพราะนายยังไม่ได้ทำอะไรเลยสักนิด โชคดีแล้วล่ะที่ยังไม่ได้ทำอะไร แต่คนที่ทำก็ต้องได้รับโทษของการกระทำ”ท่านอาทิตย์หมายถึงวิภาวีที่ตอนนี้นอกจากจะโดนข้อหาหมิ่นประมาทและทำให้เสียชื่อเสียงแล้วยังมีคดีเพิ่มขึ้นมาอีกหลายคดีเพราะชาวเน็ตช่วยกันขุดคุ้นคนที่ทำร้ายคนอื่นก็ต้องรับกรรมไป ทั้งโดนประณามในโลกออนไลน์และมีคดีความ นอกจากนี
อริสาปล่อยให้นักสืบโซเชียลตามสืบกันเอง เรื่องราวต่อจากนั้นเป็นยังไงอริสาขอไม่รับรู้ขอปล่อยให้เป็นไปตามเวรกรรมของแต่ละคนแม้ดูเหมือนเรื่องจะจบด้วยดีแต่ก็ยังมีเรื่องที่อริสาต้องจบอีกเรื่องนั่นก็คือเรื่องของสิรานนท์และตฤณกันต์เธออยากให้เลิกแล้วต่อกันด้วยดีไม่อยากให้ผูกใจแค้นกันต่อไป ถ้าฝั่งเธอผิดเธอก็จะเป็นฝ่ายขอโทษแทนผู้เป็นพ่อแต่ถ้าไม่ใช่เธอก็จะแก้ไขความเข้าใจผิดให้ทุกอย่างจบลง“เหลือเรื่องสิรานนท์กับตฤณกันต์ เรื่องตรวจDNAยังจะตรวจมั้ย?” สีหราชเอ่ยถามหลังจากที่ดูเหตุการณ์ในโลกโซเชียลว่าควบคุมเรื่องราวได้แล้ว“ไม่ต้องแล้วมั้ง เหมือนสองคนนั้นจะถอดใจแล้วนี่” นลินญาแสดงความคิดเห็น“ได้ไง สิงห์อุตส่าห์เสี่ยงไปเอาเส้นผมนายสิรานนท์มาอย่างยากลำบาก”“คือมันก็ไม่ยากมั้ย ทุกอย่างเป็นไปตามแผนแกเข้าถึงตัวสิรานนท์ได้แบบง่ายมากอะ” อริสาท้วงพ่อคนบอกว่าเสี่ยงอย่างลำบาก ทั้งที่จริง ๆ ทุกอย่างได้มีการวางแผนไว้แล้วตั้งแต่ต้น ตั้งแต่นัดเจอโดยมีศารทูล นลินญาและสีหราชซุ่มดูอยู่ เผื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดคนใดคนนึงจะได้โผล่มา
อริสารอศารทูลอยู่ที่รถไม่ได้เข้าไปเยี่ยมลูกน้องของชายหนุ่มด้วยเพราะไม่อยากให้มีคนถ่ายรูป คงจะมีคนให้พิกัดโรงพยาบาลที่นภิตรารักษาตัวอยู่แล้วต้องมีคนมาจับตาดูแน่ เธอไม่อยากจะเข้าไปให้เป็นเป้าสายตาหรอกนะ รอให้เธอได้เรื่องคนปล่อยข่าวก่อนเถอะ เธอไปโชว์ตัวแน่อริสาไม่คิดจะเช็คสถานการณ์ในโลกออนไลน์แต่เธอก็พอเดาได้ว่าคนอย่างนภิตราไม่มีทางพูดให้ตัวเองดูแย่ มีแต่จะบอกว่าตัวเองถูกกระทำเท่านั้นล่ะ และอาจจะพูดว่าเธอท้องกับตฤณกันต์ด้วยแต่ทองแท้ย่อมไม่แพ้ไฟ เธอไม่ได้เป็นอย่างที่นภิตราป่าวประกาศ ยังไงซะเธอก็ย่อมคงอยู่ไม่ถูกทำลายง่าย ๆ หรอกศารทูลไปเข้าไปเยี่ยมพิมพ์นาราไม่นานก็กลับออกมาด้วยใบหน้าอ่อนอกอ่อนใจ “ข้อเสียของโลกออนไลน์คือเมื่อมีหนึ่งข่าวโผล่ขึ้นมามันจะต้องมีคนเกาะกระแสสร้างข่าวปลอมขึ้นมา และก็จะมีคนพวกนึงที่ไม่กรองก่อนเชื่อทุกข่าวที่เห็น บางคนอ่านแค่พาดหัวด้วยซ้ำ มันน่ากลัวโลกออนไลน์เนี่ย”“แต่ยังไงทองแท้ก็ยังเป็นทองแท้ หรือนายคิดว่าฉันเป็นทองปลอม?”“ม้าของป๊านาะของแท้อยู่แล้ว” ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์ &ldq
แม้เช้าวันใหม่บรรยากาศในโลกโซเชียลจะยิ่งรุนแรงแต่อริสาก็ยังคงยิ้มแย้มและตอบรับการทานอาการเช้ากับครอบครัวของนลินญาด้วยใบหน้าที่ไร้วี่แววความเศร้าหรือเครียด“คุณแม่คะ พี่นนท์ล่ะคะ?” นปภาเอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารกันเกือบจะครบแล้ว ความจริงเธออยากจะถามอริสาเรื่องที่เกิดขึ้นแต่พอเห็นอริสายังคงยิ้มแย้มก็พูดไม่ออกจึงต้องเปลี่ยนไปถามเรื่องพี่ชายที่เธอไม่เห็นตั้งแต่เมื่อวาน“เพิ่งออกไปเมื่อครู่นี้เอง เห็นว่าจะไปทำธุระที่ภูเก็ตสักพักน่ะ” คุณแสงรวีตอบ แม้ว่าตัวเธอพอจะรู้ว่าเป็นธุระอะไรแต่ก็ไม่อยากจะพูดออกมา เธอไม่อยากให้พี่น้องต้องระแวงสงสัยกันเพียงเพราะพี่ชายไปเกี่ยวพันกับพ่อค้ายาเสพติด และไม่อยากจะพูดเรื่องนี้“ผมรู้มาว่านายหัวธีระมาที่นี่ในฐานะแขกของคุณสิรานนท์ บางทีอาจจะต้องสอบถามคุณแสงรวี คุณอาอนาคินทร์และตัวคุณสิรานนท์สักหน่อย หวังว่าจะให้ความร่วมมือนะครับ” ราวกับศารทูลรู้ความคิดคนชรากว่าจึงเอ่ยดักขึ้น คนที่พอจะให้ข้อมูลดี ๆ ได้คงมีแต่คุณแสงรวีนี่ล่ะ“เราให้ความร่วมมืออยู่แล้ว” คุณอนาคินทร์
กว่าสองชั่วโมงผ่านไปร่างมีน้ำมีนวลทรุดนั่งลงบนเตียงด้วยอาการเหม่อลอย เธอไม่เคยเจออะไรแบบนี้มาก่อนและไม่เคยรู้สึกกลัวเท่านี้มาก่อนของเหลวสีแดงยังคงติดตาการได้เห็นนภิตราตกเลือดต่อหน้าต่อตาพาให้เธอกลัวขึ้นมาจับใจ ยิ่งได้รู้ว่าไม่อาจจะรักษาชีวิตของลูกในท้องนภิตราไว้ได้เธอยิ่งกลัว...กลัวเหลือเกินว่าเธอจะเป็นแบบนั้นบ้างกลัวว่าตัวป่วนของเธอจะ...ศารทูลมองร่างเหม่อลอยก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ มือหนายื่นไปโอบไหล่ก่อนจะลูบไหล่อย่างปลอบโยน “อย่าเก็บมาคิด เรามีหมอสิงห์คอยดูแลอยู่ตลอด หมอสิงห์ไม่ปล่อยให้ตัวป่วนของเราเป็นเหมือนลูกของตฤณกันต์หรอก”“แต่ฉันกลัว”“ป๊าอยู่ตรงนี้ อย่ากลัวไปเลย ป๊าอยู่ข้างม้ากับตัวป่วนเสมอ” ชายหนุ่มเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงหนักแน่นก่อนจะดึงร่างบางเข้ามากอด ชายหนุ่มปวดใจไม่น้อยที่เห็นอริสาหวาดกลัวแบบนี้ แต่ตัวเขาเองแม้จิตใจจะหนักแน่นแค่ไหนก็ยังรู้สึกกลัว...กลัวเหตุการณ์นั้นจะเกิดขึ้นกับอริสาและลูก“ป๊าจะอยู่ข้าง ๆ ม้า ม้าอย่ากังวลเลยนะ”“จะอยู่ข้าง ๆ ไม่ทิ้
ขณะที่อริสาและศารทูลกำลังนอนหลับพักผ่อนนลินญาและสีหราชก็มุ่งตรงมาหาคุณอนาคินทร์อย่างไม่รอช้า คนที่จะบอกเล่าที่มาของสิรานนท์ได้มีแค่ผู้เป็นพ่อของเธอกับแม่ของสิรานนท์เองเท่านั้น แต่ด้วยความสัมพันธ์แม่ลูกคุณแสงรวีคงไม่บอกอะไรเกี่ยวกับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนให้เธอรู้อย่างแน่นอนดังนั้นแล้วคนที่พอจะให้ข้อมูลได้ก็มีเพียงคุณอนาคินทร์เท่านั้นนับว่าโชคดีที่วันนี้คุณแสงรวีและลูกออกไปในเมืองส่วนสิรานนท์ก็ยังคงเฝ้าดูอาการนายหัวธีระอยู่ที่โรงพยาบาลทั้งคู่จึงสอบถามคุณอนาคินทร์ได้อย่างสะดวก“นนท์เหรอ?”“ค่ะ คือว่าคะนิ้งสงสัยน่ะค่ะว่าครอบครัวทางพ่อของคุณนนท์ไม่มีเหรอคุณนนท์ถึงได้มาอยู่กับคุณน้ารวีแล้วก็คุณพ่อ คะนิ้งได้ยินจากน้ำค้างว่าไม่ได้อยู่กับคุณนนท์มาตั้งแต่เด็ก”“ตอนแรกเขาก็อยู่กับพ่อเขา พ่อก็ไม่รู้หรอกนะว่าพ่อเขาเป็นใครทำงานอะไร รู้แค่ว่าตอนแรกเขาอยู่กับพ่อเขา และพ่อเขาเสียคุณรวีก็เลยขอพามาอยู่ด้วย”“ตอนนั้นคุณนนท์อายุเท่าไหร่เหรอคะ?”“น่าจะเก้านะ” คุณอนาคินทร์ตอบอย่างไม่ปิดบัง เนื่องจากสีหราชใ
ขณะที่ศารทูลและอริสาออกไปหาข้าวเช้าทานสิรานนท์ก็มาหยุดหน้าห้องฉุกเฉินด้วยความรู้สึกหลากหลายอะไรกัน นายหัวธีระน่ะเหรอค้ายา?ไม่จริง เขาบอกให้อีกฝ่ายอย่ากลับไปยุ่งกับยาเสพติดแล้วนี่ ทำไมกัน?“พี่นนท์ อาธีเป็นยังไงบ้าง” เสียงของใครอีกคนที่ไม่ควรจะมาถึงไวขนาดนี้เอ่ยขึ้นพร้อมกับการเดินเข้ามาใกล้“ตำรวจบอกว่าหมอให้เผื่อใจไว้” สิรานนท์ตอบก่อนจะพาตัวเองไปนั่งเก้าอี้ ตฤณกันต์ตามไปด้วยใบหน้าสลดก่อนจะต้องเปลี่ยนเป็นซีดเมื่อสิรานนท์ถามออกมา “แกมาได้ยังไง ฉันเพิ่งโทรไปไม่กี่นาทีเองนี่”“ผะ ผมเพิ่งลงเครื่องเมื่อสองชั่วโมงที่แล้ว”“มาทำไม?”“ระ เรื่องของผมน่าพี่” ตฤณกันต์ตอบพร้อมกับผินหน้าหนี เขาไม่อยากให้อีกฝ่ายรู้ว่าเขามาเพราะอริสา เพราะรูปที่อริสาโพสต์ลงในโซเชียลมิเดียทั้งก่อนหน้านี้และที่ไร่อารดา“แกมาเพราะอริสา แกหลงรักยัยนั่นใช่มั้ย?”“ผม...”“หึ แกไม่เคยปิดฉันได้หรอกตฤณ พฤติกรรมแกมันฟ้อง” สำหรับตฤณกันต์แล้วสิ