ย้อนกลับไปยี่สิบสี่ปีก่อน
โรงเรียนอนุบาลxxx
“เอาล่ะค่ะเด็กๆ คุณครูจะให้หนู ๆ จับกลุ่มนะคะกลุ่มล่ะกี่คนก็ได้ จับกลุ่มได้แล้วต้องอยู่กับเพื่อนกลุ่มนั้นจนขึ้นประถมเลยนะคะใครทำผิดผิดทั้งกลุ่มใครทำดีได้ดีทั้งกลุ่มนะ เอาล่ะคุณครูให้เวลาจับกลุ่มหนึ่งอาทิตย์นะคะวันจันทร์หน้าทุกคนต้องมีกลุ่มแล้วในวันจันทร์ต้องออกมาแนะนำกลุ่มหน้าชั้นด้วยนะ” เสียงของคุณครูแสนสวยเอ่ยบอกนักเรียนชั้นอนุบาลสามที่เธอสองอยู่ในวันแรกของภาคเรียนที่หนึ่งก่อนจะปล่อยให้เด็ก ๆ หากลุ่มของตัวเอง
“นี่มะยุกะเลาม้าย เราจื่อแพน” เด็กหญิงแพนธีราหรือน้องแพนในวัย5ขวบเอ่ยบอกหลังจากสะกิดหลังของเด็กหญิงปริมาหรือน้องปริมที่กำลังยืนเคว้งมองหาว่าจะจับกลุ่มกับใครดี
“เราจื่อปริม”
“ไปหาคงอื่นกานเตอะ” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ยชวน เด็กหญิงปริมาพยักหน้าก่อนะจะชี้ไปที่เด็กผู้ชายคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนม้านั่งไม่ยอมไปหากลุ่ม เด็กหญิงทั้งสองคิดกันว่าจะหาแต่คนที่ไม่เข้ากับเด็กคนอื่นและในที่สุดก็หาได้ถึงแปดคนซึ่งประกอบด้วย น้องปริม น้องแพน น้องโจที่นั่งอยู่คนเดียว น้องแฝดอุ้มแอ้มและน้องป๊อปที่ตกลงว่าจะหากลุ่มด้วยกัน น้องแบงค์ที่ติดจะพูดไม่ชัดตามอากงที่เป็นชายไทยเชื้อสายจีน และน้องเต้ยหนุ่มน้อยที่พูดออกสำเนียงทองแดงจนไม่มีใครอยากจะรับเข้ากลุ่ม
“มีแปดคงแย้ว หาอีกม้าย” เด็กหญิงปริมาเอ่ยถามทุกคนพยักหน้าก่อนจะเดินหาคนที่มาอยู่กลุ่มด้วย ตามประสาเด็ก ๆ ก็อยากจะมีกลุ่มใหญ่ ๆ ทุกคนจึงไม่หยุดแค่แปดคน
อีกฟากหนึ่ง
“เตอร้องไห้จำไม” เด็กหญิงอริสาหรือหนูอลินเอ่ยถามหลังจากเห็นเด็กหญิงคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ที่ม้านั่งก่อนจะยื่นอมยิ้มให้
“จอบจุนน๊า มะมีใครห้ายเยายุด้วย ฮึก เปราะเยามะมีป้อ” เด็กหญิงนลินญาหรือน้องคะนิ้งเอ่ยบอกพลางเช็ดน้ำตา
“มะเปงไย มะต้องย้อง มาเปงเพือนกับเยาจิ เยาก็ไม่มีกุ่ม เราชื่ออลินนะ เตอชื่อไยเหยอ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก
“เยาจื่อคานี้ง” เด็กหญิงนลินญาเช็ดน้ำตาก่อนจะยิ้มให้เพื่อนใหม่ของเธอ
“แม่คานี้ง น้ำค้างแข็งจั่ยมั้ย”
“แมะก้อบอกเยาอย่างน้าน”
“หนูอาลินอยู่นี่เอง มาอยู่กลุ่มกับเราไหม” เด็กชายสีหราชหรือน้องสิงห์ที่ดูจะพูดชัดถ้อยชัดคำกว่าเพื่อน ๆ เอ่ยถามลูกสาวของเพื่อนพ่อที่รู้จักกันมาต้องแต่อ้อนแต่ออกแถมยังเกิดวันเดียวกันด้วย
“จิ่ง นี่คานี้งเพื่อนอาลิน คานี้งนี่จิ่ง”
“สิงห์ เราไม่อยู่กลุ่มเดียวกับยัยอลินนะ” เสียงของเด็กชายศารทูลหรือน้องเสือดังขึ้น บ่งบอกว่าไม่ค่อยจะชอบใจหนูน้อยอริสาเท่าไหร่นัก
“จิ ค้าวม่ายยุกาบตัวหยอก เชอะไม่ง้อ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยขึ้นก่อนจะจูงมือเด็กหญิงนลินญาออกไปจากคนที่ทำให้เธอต้องอับอายเมื่อหนึ่งปีก่อน
2ปีก่อน
“น้าหวา อาลีนอยากกีนอันน้าน” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอกวาณิชาหรือน้าหวา น้าสาววัยยี่สิบสี่ปีของเด็กหญิง วาณิชาที่อยู่ในชุดแต่งงานสีขาวแสนสวยยิ้มให้หลานสาวก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างขบขัน
“ยังกินไม่ได้ลูก น้าหวากับอาวินต้องตัดก่อนยังไม่ถึงเวลานะคะ” วาณิชาเอ่ยบอกหลานสาว ใจจริงเธอไม่อยากขัดใจแม่หลานสาวตัวจิ๋วหรอกแต่ไอ้สิ่งที่แม่หนูอยากจะทานนะมันเค้กแต่งงานของเธอกับเจ้าบ่าวนี่นา
“กะดะ น้องอาลีนม้ายกีนกดะ ไปหาเจื้อกาบจิ่งดีกว่า” เด็กน้อยเอ่ยบอกก่อนจะวิ่งไปหาเพื่อนวัยเดียวกันอย่างเด็กชายศารทูลและเด็กชายสีหราช
“หนูอาลีนได้เค้กมาม่าย” เด็กชายสีหราชเอ่ยถาม หนูน้อยอริสาส่ายหน้าไปมาก่อนจะเบะปากร้องไห้ออกมาสองเด็กชายจึงต้องช่วยกันปลอบ
“เงียบน๊า เดี๋ยวเจื้อปายอาวไห้” เด็กชายศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะวิ่งไปหาอาหนุ่มนอกสายเลือดซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในวันนี้ก่อนจะกระซิบบางอย่างจนอาหนุ่มหน้าซีดลงแล้วหาเค้กช็อตโกแลตก้อนใหม่มาให้แทนเค้กแต่งงานเด็กชายศารทูลรับถาดเค้กก่อนจะวิ่งออกมา นาวินหรืออาวินน้องชายบุญธรรมของบิดาเด็กชายฝาแฝดถึงกับส่ายหน้ากับความเจ้าเล่ห์ฉลาดเกินวัยของหลานชายที่หยิบยกเรื่องความเจ้าชู้ของเขาก่อนแต่งงานมาขู่ว่าจะบอกวาณิชาเพื่อแลกกับเค้ก ‘แสบจริงไอ้หลานคนนี้’
เด็กชายศารทูลถือถาดเค้กวิ่งมาหาน้องชายฝาแฝดและเด็กหญิงขี้แยแต่แล้วเรื่องไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น
โครม!
ร่างเล็กของเด็กชายสะดุดล้มในขณะที่เค้กก้อนโตลอยละลิ่วมาตกใส่ศีรษะของเด็กหญิงอริสาอย่างจัง เด็กชายศารทูลลุกขึ้นก่อนจะวิ่งมาดูตอนแรกก็อยากจะขอโทษแต่พอเห็นก็รู้สึกขำขึ้นมาจนหัวเราะเด็กหญิงตัวน้อยเสียอย่างนั้น คนถูกหัวเราะใส่มองอย่างเจ็บแค้นและอับอายสายตาแขกในงานที่มองอย่างขบขันก่อนจะหยิบเศษเค้กที่เหลือมาปาใส่เด็กชายศารทูล เด็กชายก็หายอมไม่หยิบเค้กมาป้ายแก้มขาวของเด็กหญิงอย่างโมโหเช่นกันพอเค้กที่เอามาหมดก็พากันวิ่งไปหาเค้กแต่งงานทันที กลายเป็นว่าเต้กแต่งงานของวาณิชาและนาวินก็ไม่พ้นมือทั้งคู่ กลายเป็นอาวุธที่ทำเอาเละไปทั้งคู่ก่อนที่งานจะเละไปกว่านี้พ่อและแม่ของทั้งสองฝ่ายก็มาแยกออกก่อน
“ต่อปายค้าวจาม้ายคุยกาบตัวแย้ว โป้ง!” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก
“เชอะม้ายง้อหรอกก อาลีนนิสายม่ายดี” เด็กชายศารทูลเองก็ไม่ยอมอ่อนให้นับจากนั้นมาทั้งสองก็ไม่เคยคุยกันดี ๆเลยสักครั้ง
ปัจจุบัน(สมัยเด็ก)
“นี่ ๆ มายุกลุ่วพกเยามั้ย” เด็กหญิงปริมาเอ่ยขึ้น เรียกสายตาจากเด็กชายศารทูลและเด็กหญิงอริสาที่จ้องกับราวจะกินเลือดกินเนื้อให้หันไปมอง
“มีเยาต้องไม่มีเจื่อ”
“มีเราต้องไม่มีอลินเหมือนกัน” ทั้งสองเอ่ยบอกพร้อมกันก่อนที่จะเดินออกไปคนละทาง
“เราอยู่ด้วยได้เปล่า” เด็กชายสีหราชและเด็กหญิงนลินญาเอ่ยประสานเสียงกัน
“ได้สิ แต่เยาอยากได้จ่องคงน้านด้วยจัง” เด็กหญิงแพนธีราเอ่ย
“งั้นเราจะทำให้สองคนนั้นมาอยู่กลุ่มนี้เอง” สีหราชเอ่ยบอก ก่อนที่จะล้อมวงวางแผนกันตามแบบเด็กๆ
“ทำไมเราต้องอยู่ บอกแล้วไงมีเราต้องไม่มีอลิน” เด็กชายศารทูลเอ่ยบอกน้องชาย
“ถ้าเสือไม่อยู่กลุ่มนี้เราจะฟ้องพ่อว่าเสือรังแกเรา” แฝดน้องเอ่ยบอก แฝดพี่มองอย่างชั่งใจก่อนจะพยักหน้าอย่างยอมแพ้
“เยาไม่อยู่ คานิ้งอย่าบังคับ” เด็กหญิงอริสาเอ่ยเสียงแข็ง เด็กหญิงนลินญาเบะปากก่อนจะร้องไห้ออกมา
“เยาไม่มีเพื่อน อาลีนเป็นเพื่อนคงแรก อยู่กับเยานะฮือๆๆๆๆ”
“ก็ได้ๆๆอย่าร้องน๊า เราจาอยู่กับคานิ้ง” เด็กหญิงอริสาที่เห็นน้ำตาของเพื่อนใหม่จำต้องยอมเพื่อเห็นแก่เพื่อน
“อยู่กลุ่มเดียวกันแต่เยาต่างคนต่างอยู่” เด็กหญิงอริสาเอ่ยบอก ก่อนจะทำสัญญากับอดีตเพื่อนที่แสนจะไม่กินเส้นเพื่อเห็นแก่หนูน้อยคะนิ้งที่ไม่มีเพื่อน
นับจากนั้นมาอริสาและศารทูลก็อยู่กลุ่มเดียวกันแต่ก็ยังทะเลาะกันและตีกันอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน แกล้งกันไปแกล้งกันมา ปะทะคารมกันมาตลอดจนกระทั้งจบมัธยมต้น ศารทูลและเจตรินแยกออกมาเรียนโรงเรียนนายร้อยและโรงเรียนนายเรืออากาศแต่กลุ่มแก๊งก็ยังนัดเจอกันเสมอและยังสนิทชิดเชื้อกันเหมือนเดิมและก่อนที่คนอื่น ๆจะจบมัธยมปลายทั้งหมดก็รวมตัวกันและคิดชื่อแก๊งใหม่จากแก๊งเพื่อนตัวจิ๋ว มาเป็น Devil Dark ปีศาจแห่งความมืดจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน(ภูเก็ต)“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะทำให้สองคนนี้อยู่ในแก๊งเดียวกันมาเกือบจะสามสิบปีแล้ว มหัศจรรย์เนอะ” อารตีเอ่ยขึ้นหลังจากทุกคนตกอยู่ในภวังค์ของอดีต คิดแล้วก็คิดถึงสมัยเด็ก ๆ ที่ได้เจอหน้ากันทุกวัน และคุยกันทุกวันแตกต่างจากปัจจุบันที่กว่าจะเจอกันทีไม่ใช่ง่าย ๆ“นั่นสินะไม่คิดว่าฉันกับไอ้แมวปีศาจนี่จะอยู่แก๊งเดียวกันมาได้รู้สึกมหัศจรรย์จริง ๆ” อริสาเอ่ยขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อว่าแค่เรื่องแสนอับอายครั้งนั้นจะทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าคนที่ครั้งนึงเคยเล่นด้วยกันได้ขนาดนี้“มหัศจรรย์เหรอ ใช่มันมหัศจรรย์ที่สุดในจักรวาลเลย ฉันโคตรทึ่งพวกนายเลย” ศารทูลเอ่ยบอกก่อนจะมองเวลา “ไปที่เกาะเลยมั้ย หรือจะเที่ยวในตัวเมืองก่อน”“ไปเที่ยวกันก่อนแล้วกัน อาทิตย์หน้าค่อยเข้าไปที่เกาะ ไปหาโรงแรมพักกันก่อนใครเป็นเจ้าของโรงแรมนำทางค๊า” ปริมาเอ่ยบอกก่อนจะหันไปบอกเตชินทร์“เชิญครับคุณลูกค้า” เตชินทร์เอ่ยบอกก่อนจะนำทุกคนไปที่รถตู้ของโรงแรมที่เขาสั่งให้มารอ รอบนี้เตชินทร์จัดให้อริสาและศารทูลนั่งห่างกันที่สุดเพื่อป้องกันสงครามน้ำลายระหว่างทางการเดินทางแต่ถึงจะเป็นอย่างนั้นสงครามน้ำลายข้ามหัวเพื่อน ๆ ก็ยังคงมีขึ้นเ
“อ้าว มายืนทำอะไรตรงนี้ แล้วนั่นเป็นอะไรทำไมยืนตัวงอแบบนั้น” เสียงของอริสาดังขึ้นหลังจากที่เดินเข้ามาเห็นเพื่อนสาวระหว่างทางที่จะกลับห้อง อริสาไม่รู้สักนิดว่านลินญาได้ยินอะไรเข้าไปบ้าง แต่คำว่ายืนตัวงอของอริสาทำให้นลินญานึกขึ้นมาได้ถึงสาเหตุที่เดินลงมาจากห้อง“ฉันปวดท้องวันนั้นอีกแล้วอะแก ลืมเอายามาด้วยแกพกมาบ้างมั้ย” เพราะเธอเป็นหนึ่งคนที่มีปัญหาปวดท้องเวลาเป็นวันนั้นของเดือนแถมประจำเดือนยังมาไม่เป็นเวลาทำให้ไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะประสบปัญหานี้ตอนไหน ทำให้บางครั้งก็ลืมเรื่องยาแก้ปวดไป และในบรรดาเพื่อนก็มีแค่อริสาที่มีปัญหาแบบนี้เหมือนกันเมื่อไปหาที่ห้องไม่เจอจึงต้องลงมาตามหาข้างล่าง ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมาได้ยินอะไรแบบนี้เข้านี่เธอโชคดีหรือโชคร้ายกันเนี่ย?“รู้สึกว่าจะไม่ได้เอามาอะแก เพราะก่อนมาเที่ยวมันมาแล้วฉันเลยสบายใจไม่คิดพกมาอะ” อริสาตอบเสียงเศร้าก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อคิดอะไรขึ้นมาได้ “แต่แกไม่ต้องวิตก มีคนนึงที่ต้องช่วยได้ เดี๋ยวฉันมาแกนั่งรอนี่นะ”พูดจบอริสาก็หายไปทางห้องครัวทันทีนลินญารู้ได้ไม่ยากเลยว่าอีกฝ่ายจะไปตามใครมาช่วย คนปวดท้องเพราะเป็นวันนั้นหน้าร้อนขึ้นชั่วขณะเมื่อนึกไ
“พี่อลินอยู่นี่เอง” น้ำเสียงทักดังขึ้นพร้อมกับที่หญิงสาวร่างมีน้ำมีนวลในชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์จะตรงปรี่มาพร้อมกับเจ้าบ่าวในชุดที่เข้าคู่กันทำเอาอริสา หรืออลิน บรรณาธิการสาววัยเฉียดสามสิบของนิตยสารท่องเที่ยวขึ้นชื่อผู้ถูกเรียกต้องกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย‘เมื่อไหร่สองคนนี้จะเลิกซ้ำเติมกันสักที แอบมีอะไรกันลับหลังจนฝ่ายหญิงท้องยังทำให้ฉันเจ็บไม่พอเหรอถึงได้ตามราวีกันไม่เลิก’หญิงสาวลอบพ้นลมหายใจเบา ๆ ก่อนหันหน้ามามองเจ้าของน้ำเสียงใสซื่อไร้เดียงสา หึ...ร้ายเดียงสาสิไม่ว่าอริสาไม่เคยคิดเลยว่าผู้หญิงที่ยืนอยู่ตรงหน้าที่ดูใสซื่อไร้เดียงสาจนเธอเอ็นดูจะทำร้ายเธอได้ขนาดนี้ หญิงสาวตรงหน้าทำลายความรู้สึกรักใคร่เอ็นดูของเธอลงโดยไม่แม้แต่จะรู้สึกผิดเลยสักนิดมิหนำซ้ำยังเคยถามเธอว่าผิดอะไรอีกด้วยการที่นอนกับแฟนของเธอลับหลังยังไม่ผิดอีกหรือ การที่มีอะไรกับแฟนของคนอื่นจนท้องผู้หญิงคนนี้ยังบอกว่าไม่ผิดงั้นเหรอ อริสาเพิ่งเข้าใจวันนี้เองว่าไอ้ความใสซื่ออ่อนหวานของผู้หญิงคนนี้มันเป็นแค่การเสแสร้ง...ตัวตนที่แท้จริงนั้นแสนจะร้ายกาจ“พี่อลินคะ อวยพรให้น้ำหวานกับพี่ตฤณหน่อยสิคะ”“เธอจะให้อวยพรอะไรเหรอนภิตรา
ตึ่ง!เสียงแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสนทนายอดฮิตส่งเสียงขึ้นเรียกให้อริสาต้องละสายตาจากงานตรงหน้าหันมามอง “Devil Dark” คือชื่อไลน์กลุ่มที่ปรากฏอยู่หน้าจอ กลุ่มไลน์นี้ตั้งขึ้นตามชื่อกลุ่มเดอะแก็งที่คบหากันมาตั้งแต่สมัยเรียนประถม อริสามองงานอย่างชั่งใจว่าจะทำต่อหรือเปิดอ่านข้อความจากเพื่อน ๆ ดีแต่ในที่สุดหญิงสาวก็ต้องวางงานลงและหันไปสนใจการสนทนาในกลุ่มไลน์บทสนทนาPlim : ทุกคน...Plim : ไปเที่ยวกันเถอะPlim : ทริปวันหยุดรวมกลุ่มปีนี้ฉันได้สถานที่แล้วPanteera : ที่ไหนไอ้ปริม บอกมาด่วน ๆPop : คงสมุยอีกดิ เหมือนปีก่อนBang : แกติดใจอะไรสมุยวะป๊อป หรือติดใจสาวสมุยJojo : นั่นดิวะป๊อปPop : ติดใจบ้าอะไรเบื่อต่างหากTechin : แล้วตกลงจะไปไหนวะปริมPlim : ทริปภูเก็ต ตามที่คิดไว้ก็พักที่โรงแรมท่านเต้ยอาทิตย์นึง แล้วที่เหลืออาทิตย์นึงไปที่เกาะรักษ์ของท่านเสือท่านสิงห์Techin : จะพักที่โรงแรมพี่ ถามกันยังน้องLion : นั่นดิถามผมยังครับคุณปลิงทะเลPlim : แหม่ ๆ พวกนายอนุญาตอยู่แล้วไม่ต้องขอหรอก เอาล่ะขอทราบรายชื่อด้วยคร่าใครไปคอนเฟิร์มด่วน ๆ สุดสัปดาห์จะได้จัดเต็มทั้งคนโสดไม่ซิง คนเพิ่งโสด คนอกหัก ค
บ้านบดินทร์นุกูลและแล้วก็ถึงวันออกเดินทางตามนัดหมายที่ได้นัดกันเอาไว้ นายแพทย์สีหราชหรือหมอสิงห์สูตินารีแพทย์หนุ่มที่อายุอานามจะสามสิบอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่มีทีท่าจะพาแฟนสาวมาแน่นำให้ผู้เป็นพ่อและแม่ได้รู้จักดูจะตื่นเต้นเป็นพิเศษ เขาตื่นขึ้นมาแต่เช้าและรีบรุดมาที่หน้าห้องของพี่ชายฝาแฝดด้วยใบหน้าที่พร้อมจะกินเลือดกินเนื้อถ้ามีคนเบี้ยวนัดในวันนี้“นี่แกกลัวฉันเบี้ยวนัดขนาดนั้นเลยเหรอ” ศารทูลหรือเสือนายตำรวจหนุ่มปราบปรามยาเสพติดที่มักจะเบี้ยวนัดการพบปะรวมรุ่นอยู่เป็นประจำเอ่ยถามแฝดผู้น้องที่ยืนกอดอกอยู่หน้าห้องนอนหลังจากที่เคาะประตูปึงปังปลุกจนเขาต้องตื่นมาเปิดให้ทันทีที่เขาเปิดประตูออกจากห้อง หึ...คงกลัวเขาเบี้ยวทริปไปเที่ยวภูเก็ตครั้งนี้เหมือนที่เขาเคยบอกว่าจะไปร่วมทริปกับเดอะแก็งแต่เบี้ยวนัดทุกครั้งละสินะ“แหง่ละ แกเบี้ยวมาสี่ห้าครั้งแล้วยังไงครั้งนี้ฉันต้องเอาแกไปด้วยให้ได้ ให้เวลาอาบน้ำครึ่งชั่วโมงเร็วๆ” นายแพทย์สีหราชเอ่ยบอก ให้ตายเถอะไอ้พี่ชายคนนี้เข้าไม่ถึงความตื่นเต้นที่จะได้เจอใครบางคนของเขาไม่ได้หรือไง ถึงได้ไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรเอาซะเลย“ที่อยากให้รีบเนี่ยเพราะจะได้ไปหายัยคะ
“แกนี่มันไม่เปลี่ยนเลยนะไอ้แมวปากเสีย” อริสาเอ่ยตะคอกใส่ศารทูลด้วยความโมโห คำว่าถูกทิ้งที่ได้ยินจากใครต่อใครไม่เจ็บเลยสักนิดแต่เมื่อเป็นไอ้บ้านี่พูดเธอรู้สึกจี๊ดไปทั้งทรวง“เธอก็ไม่เคยเปลี่ยนเหมือนกันนั่นแหละยัยเอเลี่ยน” ศารทูลที่เป็นประเภทแรงมาแรงไปสวนกลับทันที“ไอ้ปีศาจ”“ยัยแม่มด”ทั้งสองต่างมองหน้ากันราวจะกินเลือดกินเนื้อแต่ก่อนที่ “ไอ้ปีศาจอย่างศารทูล” กับ “ยัยแม่มดอย่างอริสา” จะเปิดฉากทะเลาะกันกลางสนามบินให้ได้อายปริมาก็รีบห้ามทัพกันท่าไว้ก่อน เธอกลัวจะไปไม่ถึงภูเก็ตน่ะสิ“พอแล้ว ๆ พวกแกเห็นป่ะเนี่ย...นี่มันกลางสนามบินนะ แกแยกเลยยัยคะนิ้ง หมอสิงห์ ก่อนที่ทริปภูเก็ตฉันจะเป็นหม้าย”“ยัยแว่นเอายัยอลินไปทางโน่นเลย” สีหราชเอ่ยบอกหญิงสาวในดวงใจด้วยน้ำเสียงเฉยชาที่เขาเป็นกับเธอแค่คนเดียวพร้อมกับดึงแฝดผู้พี่มามายืนข้างเจตริน ด้านนลินญาเธอส่งค้อนวงใหญ่ให้หมอหนุ่มก่อนจะดึงอริสามายืนข้างอารตี เธอไม่เข้าใจเหมือนกันว่าเขาโกรธเกลียดอะไรเธอถึงได้เฉยชานักทั้งที่พูดดีและกระล่อนกับทุกคนแต่กับเธอสีหราชมักพูดจริงจังและชอบเรียกเธอว่ายัยแว่น...แว่นแล้วผิดตรงไหน!!!“ใจเย็นไว้อลิน โกรธคือโง่โมโหคือบ้า