“good morning ครับที่รักของพี่เสือ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์เดินออกมาจากห้องนอนหมอหนุ่มเดินเข้าไปกอดและจุ๊บแก้มเนียนเป็นอย่างแรก
“ฉวยโอกาส ใครอนุญาตคะ” แพรวารินทร์แกล้งดุแต่พงศ์พยัคฆ์หาได้กลัวไม่
“ไม่มีใครอนุญาตครับอนุญาตตัวเอง”
“พอเลย ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะเราจะได้กลับเรือนแสนรักซะทีน้องแพรจะไปจัดการสถานหนักกับคนเจ้าแผนการ” แพรวารินทร์เอ่ยบอกแม้จะขะเขินกับคำว่าน้องแพรบ้างแต่เพราะหมอหนุ่มขอให้แทนแบบนี้เธอก็เลยขัดไม่ได้
“หนูแพรครับ ยัยตัวแสบแค่อยากให้เราเข้าใจกันเท่านั้นแหละ”พงศ์พยัคฆ์แก้ตัวให้น้องสาวผู้แสนดี แต่ถูกแพรวารินทร์มองด้วยสายตาเอาเรื่องจนต้องหงอ
“แล้วแต่หนูแพรจะจัดการเลยครับ พี่เสือไม่ยุ่ง” ‘ตัวใครตัวมันนะน้องรัก พี่เสือไม่ยุ่ง’ พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกหากแต่ประโยคท้ายเขากลับเอ่ยมันในใจส่งกระแสจิตไปบอกน้องสาว
“ดีค่ะไม่ยุ่งน่ะดีแล้ว ไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวน้องแพรชงกาแฟกับปิ้งขนมปังไว้ให้”
“K
ผ้าม่านหนาเปิดออกก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาแพรวารินทร์อยู่ในชุดราตรีความยาวคุมเข่าสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ดูสวยงามใบหน้าถูกแต่งแต้มสวยงามเรือนผมถูกปล่อยปิดแผ่นหลังเนียนพงศ์พยัคฆ์ยืนมองภรรยาสาวดั่งต้องมนตร์หมอหนุ่มอยู่ในชุด เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีดำสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเทาดำ กางเกงสแลคทุกองค์ประกอบดูหล่อเท่ห์สมาร์ท“เริด คู่สร้างคู่สมของแท้” แชมมี่เอ่ยขึ้น หลังจากดูผลงานการเลือกชุดของตน หลังจากสองสามีภรรยาเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้ากันจนเที่ยงทั้งสองก็เดินทางกลับไปทานราดหน้าทะเลของพิมพ์พิชชาก่อนจะเดินทางมาที่ห้องเสื้อของแชมมี่เพื่อเตรียมชุดสำหรับงานเลี้ยงรุ่นในช่วงเย็น หลังจากเดินเข้ามาในห้องเสื้อแชมมี่ก็ลากทั้งสองลองชุดต่าง ๆราวกับตุ๊กตาจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ17.00น.เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังก็ยังเลือกชุดให้ทั้งสองไม่ได้โดยที่เหตุผลของแชมมี่เอ่ยบอกคือเลือกไม่ถูกเพราะทั้งสองใส่ชุดไหนก็หล่อสวยไปหมด“ชุดนี้เริด เรียบสง่าและมีเสน่ห์ โอเคผ่านแล้ว” แชมมี่เอ่ยบอกพร้อมยิ้มปลื้มปริ่มกับความสง่าเหมาะสมของทั้งคู่“กว่าจะพอใจนายนะชัยจะห
มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าเรียบของแพรวารินทร์ที่ยังหลับอยู่อย่างแสนรักก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิษที่หน้าผากมน แล้วเลื่อนลงมาที่หอมแก้มเนียนอย่างบางเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับอยู่ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเรียกร้องจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางเธอควรได้พักผ่อนเพราะถูกตอหนวดแหลมๆที่เพิ่งขึ้นของพงศ์พยัคฆ์ทิ่มลงที่แก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น แพรวารินทร์ลืมตาขึ้นอย่างก่อนจะหลบสายตาอย่างขัดเขินกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอีกระดับของเธอกับเขาเธอเป็นภรรยาของหมอหนุ่มทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้ว“อรุณสวัสดิ์ครับน้องแพร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางก่อนจะถอนออกมายิ้มให้“อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่เสือ เริ่มมีหนวดขึ้นมาแล้วนะคะโกนออกดีกว่า เดี๋ยวน้องแพรโกนให้” แพรวารินทร์เอ่ยบอกหาเรื่องคุยแก้เขินจนมาสะดุดตรงไรหนวดเล็กๆบนใบหน้าของเขา“ก็ได้ครับ จริงสิคุณพีร์บอกว่าวันนี้นายนั้นต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในแบบให้ไปพบสิบเอ็ดโมงนะครับ” พงศ์พ
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ
ภายในเรือนไม้สีขาวหลังใหญ่ที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่า ‘เรือนแสนรัก’ นั้นเต็มไปด้วยความเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่ภายในมีคนอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า10คน ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้ราวแล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันภายในเรือนหลังนี้และ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนร่วมห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้จะพูดให้ถูกก็คือคนเป็นคุณผู้ชายของบ้านนั้นแทบจะไม่อยู่บ้านเลยก็ว่าได้ ในบ้านหลังนี้คล้ายกับว่ามีแค่คุณผู้หญิงเท่านั้นที่อาศัยอยู่‘ทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้กันนะ’ แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพร มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่มุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบต้น ๆ ในชุดสูทสีขาวครีมสำหรับพิธีแต่งงาน ใบหน้าเงียบขรึมติดจะ
โรงพยาบาลรักษ์บดินทร์บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ตในชุดสำหรับผ่าตัดจะก้าวเดินออกมา สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายแต่มีความขรึมอยู่ในท่าที ร่างนั้นเดินตรงไปหาญาติของคนไข้ด้วยท่าทีเป็นมิตรก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย“การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น”“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ” หญิงสาววัยกลางคนกล่าวขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามีด้วยความตื้นตันใจนายแพทย์พงศ์พยัคฆ์ สัตยบดินทร์หรือ หมอเสือ ศัลยแพทย์หนุ่มมือหนึ่งของประเทศที่เชี่ยวชาญทั้งการผ่าตัดระบบประสาท ทรวงอกและหัวใจ และการผ่าตัดทั่วไปจนสามารถเข้าผ่าตัดได้แทนได้ทุกเคสผ่าตัดยิ้มให้ญาติคนไข้เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ “มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”พูดจบชายหนุ่มก็โน้มศีรษะลงทำความเคารพผู้สูงวัยกว่าก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้กล่าวชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอกันอย่างยินดีการได้เห็นรอยยิ้มโล่งใจไร้กังวลของญาติผู้ป่วยคือความสุข
เวลาต่อมาห้องผ่าตัดหลังจากรถพยาบาลพาคนเจ็บมาถึงโรงพยาบาลหญิงสาวก็ถูกนำตัวเข้าทำMRIทันทีและผลก็ออกมาว่ามีเลือดคั่งอยู่ในสมองบริเวณจุดสำคัญพอดีจึงถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดทันทีโดยมีพงศ์พยัคฆ์เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด โชคดีที่ไม่มีเนื้องอกอย่างที่พงศ์พยัคฆ์กังวลแต่คนเจ็บก็มีเลือดคั่งมาก่อนหน้านี้แล้ว“การผ่าตัดครั้งนี้อันตรายมากเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษขอให้ทุกคนอย่าประมาท เอาล่ะก่อนอื่นเราจะเปิดกะโหลกเพื่อระบายเลือดที่คั่งออกทุกคนพร้อม” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นทุกคนพยักหน้าก่อนที่การผ่าตัดจะเริ่มขึ้นอย่างระมัดระวังจนกระทั่งสิ้นสุดการผ่าตัด ร่างอันเหนื่อยล้าก้าวออกจากห้องผ้าตัดก่อนที่จะพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยล้าและโล่งใจ“เป็นไงบ้างวะเสือ ปลอดภัยแล้วใช่มั้ย” ปัญจวัตรเอ่ยถามเพื่อนรักหลังจากให้การกับตำรวจเท่าที่เห็นและพาเด็กน้อยที่ดูท่าจะหิวไปทานข้าวเพราะตนกับกุมารแพทย์สาวก็ทานไปได้ไม่ถึงสามคำก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อนจากนั้นชายหนุ่มจึงขับรถกลับมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับฟ้ารดาและเด็กหญิงตัวน้อยที่หยุดร้องไห้แล้วหมอหนุ่มพยักหน้าก่อนที่จะสอบถามถึงการติดต่อญาติคนไข้ “ปลอดภัยแล้วการผ่าตัดผ่านไปได
วันต่อมา...บริษัทตกแต่งภายในเกตรัตนากรณ์ภายในห้องประชุมที่ถูกออกแบบอย่างสวยงามละลานตาการประชุมอันเคร่งเครียดกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นก่อนที่จะหยุดลงเมื่อใบหน้าของบุคคลที่นั่งอยู่หัวโต๊ะดูเคร่งเครียดผิดปกติ“เอาล่ะผมขอปิดการประชุมเพียงเท่านี้” รณพีร์ เกตรัตนากรณ์หรือบอสพีร์ประธานหนุ่มของบริษัทรับออกแบบและตกแต่งภายในชื่อดังแห่งนี้เอ่ยปิดการประชุมอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเมื่อเห็นอาการผิดปกติของหญิงสาวที่ตนแอบชอบ“พิมพ์พิชชาคุณเป็นอะไรรึเปล่า ไม่สบายตรงไหน?” รณพีร์เอ่ยด้วยความเป็นห่วงหลังจากที่คนอื่น ๆ ในห้องประชุมออกไปแล้วเหลือเพียงคนที่เขาถามไถ่และเพื่อนสนิทของเธอ ชายหนุ่มสังเกตเห็นหญิงสาวเป็นแบบนี้มาพักใหญ่ ๆ แล้วจนอดเป็นห่วงไม่ได้“นั่นสิทราย แกเป็นไรรึเปล่าปวดหัวเหรอ” แพรวารินทร์ที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เพื่อนสาวเอ่ยถามทันทีสภาพที่หญิงสาวได้เห็นคือพิมพ์พิชชาเพื่อนรักผู้พ่วงตำแหน่งน้องสาวสามีที่ยกมือนวดคลึงขมับอยู่ด้วยสีหน้าไม่ค่อยดี“ไม่เป็นไรหรอก แค่ปวดหัวนิดหน่อยเอง” พิมพ์พิชชาเอ่ยพร้อมยิ้มส่งให้เพื่อนรักทั้งที่อาการปวดหัวอย่างหนักกำลังเล่นงานเธออยู่ “เลิกประชุมแล้ว งั้นเราไปหาลูกค้ากันเถอะแ
ร่างของพิมพ์พิชชาถูกพาไปที่ห้องพักโดยมีแพรวารินทร์นั่งอยู่ข้างเตียง คุณหญิงพราวกะรัตและคุณสิงหานั่งมองร่างไร้สติของลูกสาวอยู่ที่โซฟา ส่วนรณพีร์นั้นขอตัวไปกลับก่อนเพราะมีนัดกับลูกค้า พงศ์พยัคฆ์ยืนกอดอกมองน้องสาวอยู่ที่ปลายเตียงก่อนจะนึกบางอย่างขึ้นได้“บ่ายโมงกว่าแล้ว แม่ทานข้าวรึยังครับ” ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยถามผู้ให้กำเนิดอย่างเป็นห่วง“เรากำลังจะตั้งโต๊ะแต่แพรโทรมาซะก่อน อะ แล้วแพรทานข้าวรึยังลูก” ผู้เป็นแม่เอ่ยบอกบุตรชายก่อนจะหันไปถามลูกสะใภ้แต่เหมือนหญิงชราจะไม่ได้คำตอบมีแต่ความเงียบตอบกลับมาเท่านั้น“ให้เวลาหนูแพรสักนิดเถอะคุณหญิง อย่างที่อาพยัคฆ์เคยบอกหนูแพรกลัวการสูญเสียที่สุดสภาพของหนูทรายก่อนหน้านี้มันคงทำให้หนูแพรกลัว” คุณสิงหาเอ่ยบอกแก่คู่ชีวิตพร้อมโอบไหล่ไว้ ตนและภรรยารู้ดีว่าหญิงสาวคงสะเทือนใจไม่น้อยเลย เพราะนอกจากคุณตาแล้วพิมพ์พิชชานี่ล่ะคือคนสำคัญของแพรวารินทร์“ผมว่าแม่กับพ่อไปทานข้าวดีกว่าครับหนูทรายคงไม่ฟื้นตอนนี้หรอกอีกสองสามชั่วโมงยาสลบถึงจะหมดฤทธิ์”“ก็ดี ไปเถอะคุณกลับมาลูกคงฟื้นพอดี” คุณสิงหาเอ่ยขึ้นก่อนจะประคองภรรยาลุกขึ้นแต่ร่างของคุณหญิงพราวกะรัตกลับเดินไปห
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ
มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าเรียบของแพรวารินทร์ที่ยังหลับอยู่อย่างแสนรักก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิษที่หน้าผากมน แล้วเลื่อนลงมาที่หอมแก้มเนียนอย่างบางเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับอยู่ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเรียกร้องจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางเธอควรได้พักผ่อนเพราะถูกตอหนวดแหลมๆที่เพิ่งขึ้นของพงศ์พยัคฆ์ทิ่มลงที่แก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น แพรวารินทร์ลืมตาขึ้นอย่างก่อนจะหลบสายตาอย่างขัดเขินกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอีกระดับของเธอกับเขาเธอเป็นภรรยาของหมอหนุ่มทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้ว“อรุณสวัสดิ์ครับน้องแพร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางก่อนจะถอนออกมายิ้มให้“อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่เสือ เริ่มมีหนวดขึ้นมาแล้วนะคะโกนออกดีกว่า เดี๋ยวน้องแพรโกนให้” แพรวารินทร์เอ่ยบอกหาเรื่องคุยแก้เขินจนมาสะดุดตรงไรหนวดเล็กๆบนใบหน้าของเขา“ก็ได้ครับ จริงสิคุณพีร์บอกว่าวันนี้นายนั้นต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในแบบให้ไปพบสิบเอ็ดโมงนะครับ” พงศ์พ
ผ้าม่านหนาเปิดออกก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาแพรวารินทร์อยู่ในชุดราตรีความยาวคุมเข่าสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ดูสวยงามใบหน้าถูกแต่งแต้มสวยงามเรือนผมถูกปล่อยปิดแผ่นหลังเนียนพงศ์พยัคฆ์ยืนมองภรรยาสาวดั่งต้องมนตร์หมอหนุ่มอยู่ในชุด เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีดำสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเทาดำ กางเกงสแลคทุกองค์ประกอบดูหล่อเท่ห์สมาร์ท“เริด คู่สร้างคู่สมของแท้” แชมมี่เอ่ยขึ้น หลังจากดูผลงานการเลือกชุดของตน หลังจากสองสามีภรรยาเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้ากันจนเที่ยงทั้งสองก็เดินทางกลับไปทานราดหน้าทะเลของพิมพ์พิชชาก่อนจะเดินทางมาที่ห้องเสื้อของแชมมี่เพื่อเตรียมชุดสำหรับงานเลี้ยงรุ่นในช่วงเย็น หลังจากเดินเข้ามาในห้องเสื้อแชมมี่ก็ลากทั้งสองลองชุดต่าง ๆราวกับตุ๊กตาจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ17.00น.เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังก็ยังเลือกชุดให้ทั้งสองไม่ได้โดยที่เหตุผลของแชมมี่เอ่ยบอกคือเลือกไม่ถูกเพราะทั้งสองใส่ชุดไหนก็หล่อสวยไปหมด“ชุดนี้เริด เรียบสง่าและมีเสน่ห์ โอเคผ่านแล้ว” แชมมี่เอ่ยบอกพร้อมยิ้มปลื้มปริ่มกับความสง่าเหมาะสมของทั้งคู่“กว่าจะพอใจนายนะชัยจะห
“good morning ครับที่รักของพี่เสือ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์เดินออกมาจากห้องนอนหมอหนุ่มเดินเข้าไปกอดและจุ๊บแก้มเนียนเป็นอย่างแรก“ฉวยโอกาส ใครอนุญาตคะ” แพรวารินทร์แกล้งดุแต่พงศ์พยัคฆ์หาได้กลัวไม่“ไม่มีใครอนุญาตครับอนุญาตตัวเอง”“พอเลย ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะเราจะได้กลับเรือนแสนรักซะทีน้องแพรจะไปจัดการสถานหนักกับคนเจ้าแผนการ” แพรวารินทร์เอ่ยบอกแม้จะขะเขินกับคำว่าน้องแพรบ้างแต่เพราะหมอหนุ่มขอให้แทนแบบนี้เธอก็เลยขัดไม่ได้“หนูแพรครับ ยัยตัวแสบแค่อยากให้เราเข้าใจกันเท่านั้นแหละ”พงศ์พยัคฆ์แก้ตัวให้น้องสาวผู้แสนดี แต่ถูกแพรวารินทร์มองด้วยสายตาเอาเรื่องจนต้องหงอ“แล้วแต่หนูแพรจะจัดการเลยครับ พี่เสือไม่ยุ่ง” ‘ตัวใครตัวมันนะน้องรัก พี่เสือไม่ยุ่ง’ พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกหากแต่ประโยคท้ายเขากลับเอ่ยมันในใจส่งกระแสจิตไปบอกน้องสาว“ดีค่ะไม่ยุ่งน่ะดีแล้ว ไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวน้องแพรชงกาแฟกับปิ้งขนมปังไว้ให้”“K
“จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r
เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ
ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย
รุ่งอรุณแห่งวันเริ่มต้นการทำงานได้เริ่มขึ้นอย่างอึมครึมแต่ที่อึมครึมหาใช่สภาพอากาศไม่แต่หากเป็นความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์หลังจากกลับจากไร่พยัคฆาเมื่อเช้าวานซืนรณพีร์ก็โทรศัพท์มาบอกว่าทัศนะต้องการจะดูแบบและคุยรายละเอียดกับแพรวารินทร์เพียงแค่หมอหนุ่มทราบเท่านั้นแหละถึงกับหน้าบึ้งตึงไปเฉยๆ“ไม่ไปไม่ได้เหรอครับ หนูแพร” คือถ้อยคำที่พงศ์พยัคฆ์เอ่ยถามเมื่อช่วงเช้าวานที่ผ่านมาหากแต่แพรวารินทร์กลับบอกว่าเมื่อรับงานมาแล้วก็ต้องทำจะปฏิเสธไม่ได้เพราะเคยรับปากรณพีร์ไว้แล้วแค่เพียงได้ยินเช่นนั้นหมอหนุ่มที่เคยยิ้มแย้มเอาอกเอาใจก็เงียบลงทันตาแถมพูดถามคำตอบคำจนแพรวารินทร์ได้แต่สงสัยพอเอ่ยถามหมอหนุ่มกลับบอกว่าไม่เป็นไรแต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะกลับจางหายไปตลอดหนึ่งวันมานี้ยิ่งรุ่งเช้าที่ผ่านมาหมอหนุ่มก็รีบออกไปทำงานแต่เช้าตรู่“พี่เสือหึงแกอยู่น่ะสิยัยแพร”พิมพ์พิชชาเอ่ยบอกขณะที่เดินมาส่งแพรวารินทร์ที่รถเพื่อไปทำงานเนื่องจากรณพีร์เกรงว่าเธอจะเป็นอะไรไปอีกชายหนุ่มจึงให้พักอีกหนึ่งอาทิตย์พิมพ์พิชชาจึงได้พักยาวๆจนถึงสิ้นเดือนนี้“พูดไปนั่นยัยทร