”ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมหลินหว่านชิงตอนแรกทำไมถึงได้ชมว่าฉินหมิงนั้นหล่อในตอนนี้เธอก็คิดว่าในสิ่งที่หลินหว่านชิงพูดนั้นไม่ผิด รูปร่างที่สูงตระหง่านของฉินหมิงนั้นหล่อเหลาอย่างยิ่ง!“เร็ว…รีบเรียกตำรวจมา…”ฮวาเหวินเลี่ยงหายใจเข้าลึก ดวงตาที่ดุร้ายกลับกลายเป็นความหวาดกลัวเขาไม่เข้าใจจริง ๆ ฉินหมิงเป็นเลขานุการตัวเล็ก ๆ ทำไมวิชาต่อสู้ถึงได้เก่งกล้าขนาดนี้!ถ้าหากเขาไม่เห็นกับตา ให้ตายเขาก็ไม่มีทางเชื่อ!“หยุดเดี๋ยวนี้!”“นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น!“เสียงตะโกนอย่างมีโทสะดังมาจากด้านหลัง ชายหนุ่มและผู้บริหารของบริษัทหลายคนเดินเข้ามาอย่างรวดเร็วจากที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลชานหนุ่มคนนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นคือโจวเจี้ยนนั่นเองเขาได้ยินว่ามีการต่อสู้ที่นี่“ประธานโจว…”พนักงานทุกคนต่างตกใจโจวเจี้ยนคือคุณชายใหญ่ของตระกูล และเขาก็เป็นประธานของกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ป พวกเขาไม่กล้าที่จะละเลย ต่างก็รีบหลีกทางให้โจวเจี้ยนและคนอื่น ๆ ได้เดิน“ประธานโจวครับ คุณมาพอดีเลย มีคนมาก่อความวุ่นวายในบริษัทของพวกเราครับ อีกทั้งยังทำร้ายผม คุณต้องเป็นคนตัดสินแทนผมนะครับ…“ฮวาเหวินเลี่ยงดีใจมาก ร
โจวเจี้ยนไม่ได้สนท่าทีสงสัยของพนักงาน เขารีบสาวเก้ามาตรงหน้าฉินหมิง ยิ้มอย่างเคารพแล้วกล่าวว่า “พี่ฉินหมิง ทำไมพี่ถึงมาที่บริษัทผมล่ะครับ?””อ้อ ผมมาเจรจาขอความร่วมมือกับบริษัทคุณน่ะ“ฉินหมิงตอบด้วยรอยยิ้ม“เจรจาขอความร่วมมือเหรอครับ?”“เรื่องที่เกี่ยวกับกลุ่มธุรกิจโอลกากรุ๊ปของพวกพี่กับบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปของพวกผม เมื่อกี้คุณปู่ได้โทรมาบอกผมแล้ว ท่านพูดว่านัดพี่ไว้เรียบร้อยแล้ว พี่สามารถเซ็นสัญญาขณะทานอาหารเย็นวันนี้ได้นี่ครับ”“แต่…ทำไมพี่ถึงมาก่อนเวลาล่ะครับ?”โจวเจี้ยนประหลาดใจมากเขารับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อธุรกิจช่องทางการขายของกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ป เมื่อกี้นายท่านโจวได้โทรหาเขาโดยเฉพาะเพื่อถามเกี่ยวกับเรื่องนี้“คือว่าอย่างนี้ คนนี้คือผู้ช่วยหานในบริษัทของผม ผมบอกกับเธอไปแล้วว่าได้คุยไว้เรียบร้อยแล้ว แต่เธอไม่เชื่อน่ะ ผมก็เลยถูกเธอลากมา เลยมาก่อนเวลา…“ฉินหมิงยิ้มอย่างช่วยไม่ได้และเล่าสั้น ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น รวมถึงพฤติกรรมไร้ยางอายของฮวาเหวินเลี่ยงในสำนักงาน“ฉินหมิง ที่แท้นายก็ได้คุยกับประธานโจวไว้เรียบร้อยแล้ว…”หานซีนี่โง่เง่าจริง ๆ เธอคิดไม่ถึงว่าที่ฉินหมิงพู
โจวเจี้ยนยิ้ม เขาดูนาฬิกาข้อมือแล้วพูดว่า “พี่ฉินหมิงครับ ตอนนี้ก็ใกล้จะสี่โมงแล้ว ในเมื่อพี่มาแล้วก็ไม่ต้องกลับแล้วล่ะครับ“”ผมว่า ตอนนี้ผมโทรหาคุณปู่ดีกว่า พวกเราไปทานข้าวกันที่โรงแรมกันก่อน พี่คิดว่าดีไหมครับ?“อืม…ได้สิ”ฉินหมิงพยักหน้า เขามองไปที่หานซีข้าง ๆ และลังเลที่จะพูดไม่นานโจวเจี้ยนก็เข้าใจความหมายของฉินหมิง เขาถามหานซีด้วยรอยยิ้ม “คุณหานครับ คุณก็เป็นเพื่อนของพี่ฉินหมิง หากคุณสะดวกล่ะก็ไปกับพวกเราไหมครับ?”“อย่างนั้น…ฉันรบกวนคุณด้วยละกันนะคะ“หานซีรู้ว่าตัวเองอาศัยบารมีของฉินหมิง เธอสงสัยมากว่าความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและนายท่านโจวเป็นอย่างไรกัน หลังจากครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งในที่สุดเธอก็ตกลงตามคำเชิญของโจวเจี้ยน…โรงแรมแกรนด์โนเบิล ในห้องวีไอพีที่ตกแต่งอย่างหรูหราโจวคังไท่และโจวเจี้ยนสองคนและฉินหมิงกันหานซีสองคน ต่างพากันนั่งลงเมื่อโจวคังไท่ส่งสัญญาณ พนักงานเสิร์ฟก็เริ่มเสิร์ฟไวน์และอาหารทีละคน หอยเป๋าฮื้อน้ำแดง อาหารชั้นเลิศทั้งหมดเป็นอาหารอันโอชะ“นี่น้องฉินหมิง เรื่องครั้งที่แล้วต้องขอบคุณคุณมาก ๆ เพื่อการขอบคุณ ฉันจะดื่มให้นายซักแก้ว“ใบหน้าโจวคังไท่เต็ม
จู่ ๆ หัวใจของหานซีก็แทบจะกระดอนออกจากปาก ในที่สุดฉินหมิงก็ช่วยให้บริษัทได้รับโอกาสในการร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปในครั้งนี้ ถ้ามันพังเพราะปัญหาเรื่องราคา มันก็จะน่าเสียดายเกินไป“ประธานโจวคะ ถ้าหากราคานี้คุณไม่พอใจล่ะก็ บริษัทของพวกเราก็ยอมลดให้อีกนิดได้นะคะ“”แต่ว่าเราสามารถลดได้มากที่สุดเพียงห้าเปอร์เซ็นต์เท่านั้น นี่คือขีดต่ำสุดของบริษัทของเราแล้วค่ะ“หานซีพูดอย่างจริงใจและเพื่อแสดงความจริงใจที่ยิ่งใหญ่ที่สุด เธอจึงงัดไพ่ใบสุดท้ายออกมา“ไม่ใช่ครับ พวกคุณเข้าใจความหมายของผมผิดไปแล้ว ผมไม่ได้บอกว่าราคาสูง แต่ผมกลับรู้สึกว่าราคาค่อนข้างต่ำน่ะ”โจวคังไท่หัวเราะและส่ายหัว“ราคาต่ำหรือคะ?”หานซีตะลึง ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเองเธอเข้าทำงานมาก็นานหลายปี เธอได้คุยเกี่ยวกับความร่วมมือมาไม่รู้จักกี่ครั้ง แต่ลูกค้าก็มักจะบอกว่าราคาสูงและพยายามทุกวิถีทางเพื่อลดราคาแต่ลูกค้าที่บอกว่าราคาต่ำ เธอเพิ่งเคยเจอเป็นครั้งแรก“ถูกต้องครับ!”“นี่ฉินหมิง งั้นเอาอย่างนี้ กลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปของพวกเรายอมให้กำไรบริษัทของพวกนายสิบเปอร์เซ็นต์ นายคิดว่าอย่างไร?”โจวคังไท่ยิ้มถาม“จริงเหรอคร
ฉินหมิงหัวเราะและเล่าแบบคร่าว ๆ“นายมีทักษะการแพทย์เหรอ? จริงเปล่าเนี่ย!”“นี่นายคงไม่หลอกฉันหรอกใช่ไหม!“หานซีประหลาดใจมากขณะที่รอสัญญาณไฟจราจรที่ทางแยก เธอหันมองดูฉินหมิงด้วยสีหน้าสับสน ราวกับว่าเธอเห็นมนุษย์ต่างดาวฉินหมิงยักไหล่ตอบ “จริงสิครับ!”“ผมจะหลอกคุณทำไมกัน?”“มันก็ไม่แน่หรอก!”“ถ้านายมีทักษะการแพทย์จริง ทำไมนายไม่เป็นหมอที่โรงพยาบาลล่ะ มาเป็นเลขานุการที่บริษัทพวกเราทำไมกัน?“หานซีก็ยังคงไม่เชื่อ คิดว่าที่ฉินหมิงพูดมานั้นเป็นเรื่องโกหกฉินหมิงที่ดื่มเหล้าไม่น้อยมาจากโรงแรม ตอนนี้ฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็ได้ทำงานขึ้น ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยและโพล่งพูดออกมา “ถ้าคุณไม่เชื่อว่าผมได้ทักษะการแพทย์ล่ะก็ งั้นผมจะพิสูจน์ให้คุณดู!”“นายจะพิสูจน์อย่างไร?”หานซีรู้สึกงุนงงฉินหมิงไม่ได้ตอบคำถาม เขาเขยิบหน้าของเขาเข้ามาใกล้ขึ้นและจ้องมองไปที่ใบหน้าสวยของหานซีเพื่อมองอย่างละเอียดเธอมองตามการเคลื่อนไหวของฉินหมิง กลิ่นแอลกอฮอล์ผสมกับกลิ่นกายของผู้ชายก็มากระทบใบหน้าของเธอถ้าเป็นเมื่อก่อน หานซีไม่ค่อยชอบกลิ่นแอลกอฮอล์ แต่ตอนนี้ไม่รู้ทำไม กลิ่นแอลกอฮอล์จาง ๆ ผสมกับกลิ่นค
“แต่ว่าคุณไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ ผมจะสั่งยาให้คุณ ขอแค่คุณกินยาจีนแผนโบราณเป็นเวลาสามวันติดต่อกันตามใบสั่งยา ผมรับรองว่าจะรักษาโรคได้…”ฉินหมิงที่เห็นในรถมีปากกาและกระดาษพอดี เขาสะบัดมือและเขียนใบสั่งยาลงบนกระดาษเพียงไม่กี่ขีด“นายนี่มัน…หน้าไม่อาย!“หานซีโกรธมาก เธออายมากจนเธออยากจะตะครุบฉินหมิงและกัดฉินหมิงด้วยซ้ำเนื่องจากสุขภาพที่ดีเยี่ยมของเธอ มีคนตามจีบเธอไม่คาดสาย แต่ฉินหมิงเป็นผู้ชายคนแรกที่กล้าแกล้งเธอ!ปี๊น! ปิ๊น! ปิ๊น!ในเวลานี้ไฟเขียวที่ทางแยกก็เปลี่ยน และรถหลายคันที่อยู่ด้านหลังก็บีบแตรเพื่อไล่หานซีหานซีสงบสติอารมณ์ไม่ได้ เธอได้เหยียบคันเร่งจนเกือบชนท้ายรถคันหน้าในที่สุดก็รอจนผ่านสี่แยก หานซีขับรถไปข้างถนนและรีบจอดรถฉินหมิงที่เพิ่งจะเขียนใบสั่งยาเสร็จ เขาเงยหน้าขึ้นมองออกไปข้างนอกและถามอย่างด้วยความแปลกใจ “นี่ผู้ช่วยหาน คุณขับต่อไปสิครับ จู่ ๆ ก็จอดรถมีอะไรหรือเปล่าครับ?”“ผู้ชายบ้า!”“นายลงจากรถฉันไปเดี๋ยวนี้นะ!”หานซีดุด้วยความอับอายและความโกรธ“ลงจากรถเหรอครับ?”“แต่นี่ยังไม่ถึงบริษัทเลยนี่ครับ จะให้ผมลงจากรถทำไมล่ะครับ?”ฉินหมิงมีอาการสับสน“นายจะล
ฉินหมิงมีสีหน้าไม่พอใจ ราวกับว่าเขาเป็นผู้หญิงขี้โมโห“แล้วใครใช้ให้นายพูดจาปากไม่มีหูรูดอย่างนั้นล่ะ สมน้ำหน้า…”หานซีหัวเราะเบา ๆ และรู้สึกขำกับการแสดงออกที่ไม่พอใจของฉินหมิงเมื่อนึกถึง 'การแกล้ง' ของฉินหมิงเมื่อกี้ ใบหน้าที่สวยงามของเธออดไม่ได้ที่จะรู้สึกร้อนเล็กน้อย“ถือว่าผมโชคร้ายละกัน คงพอใจแล้วใช่ไหมล่ะ!”ฉินหมิงหน้าบูดบึ้งและเดินไปยังบริษัทโดยไม่หันกลับมามองหานซีรู้ดีว่าเรื่องนี้เธอทำไม่ถูกต้อง เธอรีบก้าวตามฉินหมิงและดึงแขนของฉินหมิงเอาไว้ “พอแล้วน่า ฉันรู้ว่าฉันผิด ฉันขอโทษนายด้วยละกัน นายอย่าโกรธฉันเลยโอเคไหม?““ขอโทษผมงั้นเหรอ?”“นี่คุณจริงจังเหรอเนี่ย?“ฉินหมิงประหลาดใจมาก เขาเงยหน้าขึ้นและมองหานซีด้วยสีหน้าสับสน เขาไม่คาดคิดว่าหานซีซึ่งมีนิสัยหยิ่งยโสจะเริ่มขอโทษเขา ราวกับว่าดวงอาทิตย์นั้นกำลังขึ้นทางตะวันตกใบหน้าสวนของหานซีแดงขึ้น “ฉันตั้งใจขอโทษจริง ๆ นะ อีกอย่าง ฉันต้องขอบคุณนายที่ช่วยฉันที่กลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปด้วย…“”ไม่ต้องขอบคุณหรอกครับ พวกเราสองคนเป็นเพื่อนกัน ก็ต้องช่วยเหลือซึ่งกันละกันสิครับ“ฉินหมิงยิ้มออกมา คำขอโทษของหานซีเอ่ยออกมาอย่างจริงใ
“ประธานหลินครับ ภารกิจลุล่วงไปได้ด้วยดีครับ หลังจากการทำงานหนักและความพยายามในส่วนของผม ในที่สุดกลุ่มธุรกิจโอลกากรุ๊ปก็ยอมร่วมมือกับทางเราครับ "“พวกเขาตกลงที่จะลดอัตรากำไรลงเหลือห้าเปอร์เซ็นต์ครับ และผู้จัดการทั่วไปของอีกฝ่ายก็เซ็นชื่อในสัญญาแล้วด้วยครับ“"ขอแค่คุณคุณเซ็นลงนาม สัญญาจะมีผลเมื่อไรก็ได้!"ตู้เซียวยิ้มอย่างภาคภูมิใจและนำเสนอเอกสารในมือของเขาให้หลินหว่านชิงเอกสารฉบับนี้คือสัญญาของกลุ่มธุรกิจโอลกากรุ๊ป“เก่งจริง ๆ !”“คิดไม่ถึงเลยว่าผู้อำนวยการตู้จะเจรจาได้สำเร็จ สมกับเป็นผู้มีความสามารถในการขายแบบมืออาชีพ เป็นเสาหลักของบริษัทในอนาคต!“ใช่แล้ว เพราะว่าผู้อำนวยตู้มีความสามารถ แม้แต่ประธานของกลุ่มธุรกิจโอลกากรุ๊ปยังยอมเซ็นสัญญาลงนามก่อน นี่ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นจะทำได้อย่างง่ายเลยนะ!…ผู้บริหารระดับสูงต่างชมกันไม่หยุดปาก ทุกๆ ต่างยกนิ้วให้กับตู้เซียว“ผู้อำนวยการตู้ เรื่องนี้คุณทำได้ไม่เลวเลย ลำบากคุณเลยนะคะ”หลินหว่านชิงพยักหน้าและชื่นชมความสามารถของตู้เซียว“หลินหว่านชิงคุณชมเกินไปแล้วครับ ผมแค่พยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยบริษัท ที่เรื่องราวราบรื่นขนาดนี้ ไม่ใช่ค
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ