อย่างไรก็ตามรอเขาได้รับสัญญาในตอนเย็นแล้ว หลินหว่านชิงอยากที่จะไม่เชื่อเขาก็คงจะไม่ได้แล้ว และเขาเองก็ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนทำเรื่องนี้พอคิดเช่นนี้ ในใจของฉินหมิงก็ร่าเริงขึ้นมาทันที แล้วพูดอย่างมีชั้นเชิงว่า “โดยรวมแล้ว ผมคิดว่าบริษัทของเราควรที่จะพยายามร่วมมือกับโจวกรุ๊ป นี่เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของเราในตอนนี้! ”“เหลวไหล! นี่มันไม่เป็นจริงตั้งแต่แรกอยู่แล้ว! ”ตู้เซียวใช้มือตบที่โต๊ะพร้อมกับยืนขึ้นมา ฉินหมิงเพิ่งจะทำขายหน้าพอแล้ว เขาเองก็ขี้เกียจที่จะเยาะเย้ยฉินหมิงอีกต่อไป และเริ่มพูดถึงมุมมองของเขาว่า “ประธานหลินครับ ผมเป็นผู้อำนวยการฝ่ายขายของบริษัท ผมจะรับผิดชอบปัญหาการขายอย่างแน่นอน! ”“ผมคิดว่าบริษัทของพวกเราควรที่จะดำเนินการการร่วมมือกับโอวเจียกรุ๊ปต่อ ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการเจรจาทางธุรกิจก่อน จากนั้นจะพยายามลดอัตรากำไรให้เหลือประมาณห้าเปอร์เซนต์”“ในทางกลับกัน เราสามารถเริ่มต้นจากเส้นทางการขายที่สอง และเพิ่มความร่วมมือกับผู้จัดจำหน่ายและตัวแทนจำหน่ายขนาดเล็กและขนาดกลางบางราย ทั้งนี้ก็เพื่อแสวงหาผลประโยชน์เพิ่มเติมเพื่อชดเชยการสูญเสียอัตรากำไรห้าเปอร์เซนต์นี้…”ตู้เซียวย
“ซีซี เธอ…เธอเป็นแฟนของฉินหมิงเหรอ? ”“เป็นเรื่องจริงเหรอ? ”หลินหว่านชิงตกใจจนพูดไม่ออก เธอจำได้ชัดเจนว่า เมื่อวันก่อนหานซียังทำตัวเย็นชากับฉินหมิงอยู่เลย ถึงขนาดยังต่อว่าฉินหมิงเป็นสาวประเภทสองอยู่เลยแต่ไม่เคยคิดเลยว่าเวลาเพียงแค่ไม่กี่วัน หานซีและฉินหมิงจะเข้ากันได้จริง ๆ ความสัมพันธ์นี้จะพัฒนาเร็วเกินไปหรือไม่! “ใครเป็นแฟนเขากัน…”หานซีจ้องมองหลินหว่านชิงด้วยความโกรธ ในใจคิดว่า ‘ไม่ใช่เพราะเธอไล่เหยียนซ่งไท่ออกไปเหรอ มันเลยทำให้ฉันต้องแบกรับความลำบากแทนเธอ!’“ไม่ ไม่ใช่…”“หว่าน…ประธานหลินครับ เธอไม่ใช่แฟนของผม ผมกับเธอเราไม่มีความสัมพันธ์อะไรกัน คุณได้โปรดเชื่อผมเถอะ! ”ฉินหมิงประสานมือแล้วพูดออกไป ท่าทางของเขาจริงใจมาก เขาไม่ต้องการให้หลินหว่านชิงเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหานซีผิด!“นาย…”จมูกของหานซีบิดเบี้ยวด้วยความโกรธ ท่าทางแบบนี้ของฉินหมิงหมายความว่าอย่างไร ความกระตือรือร้นที่จะอธิบายความสัมพันธ์ของเขากับเธอต่อหน้าทุกคน ราวกับว่าเธอกังวลที่จะพึ่งพาเขา!เธอทำผิดอะไรเหรอ?ฉินหมิงไปเอามั่นใจมาจากไหน!หานซีกัดฟันกรอด เธอยับยั้งชั่งใจอย่างมากที่จะไม่โกรธจนระเบ
ตู้เซียวยืนกรานความคิดตัวเอง เขาไม่อยากตั้งตัวเป็นศัตรูกับหานซีแต่เขาต้องการจะเป็นศัตรูกับฉินหมิง!“ไอเดียดีนี่!”“แต่รีบเร่งจะมีแต่ผลเสียซะเปล่า พวกเราควรรักษาความมั่นคงก่อนแล้วค่อยแสวงหาความก้าวหน้าดีกว่า…”…ผู้นำอาวุโสหัวเก่าจำนวนหนึ่งแสดงการสนับสนุน“ไม่ได้ ไม่มีประโยชน์ที่จะเสียเวลาเป็นปี ๆ !“อีกอย่างถ้าครั้งนี้บริษัทเราทำกำไรได้ ความคิดริเริ่มนี้ก็คงตกไปอยู่ในมือของกลุ่มธุรกิจโอลกากรุ๊ป อีกหน่อยถ้าเราเติบโตขึ้นไปกว่านี้เราคงขยับตัวทำอะไรได้ลำบาก”หานซีพูดคัดค้านเพราะว่าความคิดระหว่างเธอกับตู้เซียวไม่ตรงกัน พวกแนวคิดใหม่และพวกหัวเก่าต่างก็โต้เถียงกัน ทั้งสองฝ่ายต่างไม่ยอมกัน“พอได้แล้ว ทุกคนเงียบได้แล้ว!”หลินหว่านชิงตบโต๊ะไปหนึ่งฉาด ทำให้ทุกคนเงียบทันที“ในเมื่อความเห็นสองฝ่ายไม่ตรงกัน อย่างนั้นเรามาแยกกันทำดีกว่า หน้าที่ของผู้อำนวยการตู้คือคุณต้องไปเจรจากับกลุ่มธรุกิจโอลกากรุ๊ปให้เขาอ่อนข้อให้ ส่วนผู้ช่วยหานคุณมีหน้าที่ไปเจรจาร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ป!“พวกคุณมีเวลาเริ่มพร้อมกัน ภายในสองวันจะต้องให้คำตอบฉัน!”หลินหว่านชิงได้ทำการตัดสินใจ สายตามองไปที่ตู้เ
“ไร้สาระกันจริง ๆ !”หลินหว่านชิงจ้องฉินหมิงอย่างไม่สบอารมณ์ เธอเองก็ไม่คิดว่าฉินหมิงจะเจรจาให้กลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปมาร่วมมือกับทางบริษัทได้ หรือว่าจะต้องถีงคราวไล่ฉินหมิงออกจากบริษัทจริง ๆ แล้วหรือ?“สรุปได้ว่าตอนนี้เหลือเวลาไม่มากแล้ว ผู้ช่วยหานและฉินหมิงทั้งสองคนมีหน้าที่ไปเจรจาให้กลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปมาร่วมมือ ถ้าภายในสองวันนี้พวกคุณไม่สำเร็จล่ะก็ ถึงเวลานั้นก็จะทำตามวิธีของผู้อำนวยการตู้ละกัน!”หลินหว่านชิงได้ทำการตัดสินออกมาเพราะเธอรู้ว่าการเจรจาให้กลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปมาร่วมมือนั้นเป็นเรื่องที่ยากมาก เธอไม่ได้คาดหวังว่าฉินหมิงจะทำได้ เธอฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ตัวหานซีมากกว่า!“เลขาฉิน นายเตรียมออกจากบริษัทได้เลย!”ตู้เซียวยิ้มอย่างโอ้อวด เหมือนกับว่าตัวเองได้เห็นภาพฉินหมิงก้าวออกจากบริษัทแล้วกลุ่มผู้บริหารของบริษัทส่ายหัวและมองดูฉินหมิงด้วยความดูถูก ใครก็ไม่คิดว่าฉินหมิงจะสามารถชนะได้“เลิกประชุม!”หลังจากนั่นทุกคนก็ได้แยกย้ายออกไปจากห้องประชุม“ฉินหมิง คุณตามฉันมาที่ห้องสำนักงานด่วน!”หานซีพูดด้วยเสียงเย็นชาข้างฉินหมิงฉินหมิงยกมือปัดจมูก จากนั้นก็ได้ตามหา
“ยังไม่ไปอีก!”หานซีจ้องมองด้วยความโกรธ กำมือแน่นด้วยโทสะ ความโกรธของเธอกำลังจะระเบิดออกมาแล้ว“ผม…”ฉินหมิงสัมผัสได้ถึงสายตาอาฆาตของหานซีและเห็นหานซีกำมือแน่น ฉินหมิงอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ เหมือนน้ำท่วมปากสัญชาตญาณบอกเขาว่าหากเขากล้าปฏิเสธอีกครั้ง หานซีอาจจะทุบตีเขาทันทีเขาไม่อยากโดนตีหรอกนะ!“ผมไปครับ ผมไป…”ฉินหมิงยิ้มแห้งเมื่อตกที่นั่งลำบาก ไหน ๆ เขาก็ได้คุยเรื่องร่วมมือไว้เรียบร้อยแล้ว หานซีคิดอยากจะทำอะไรก็ตามสบายเลยละกัน!เขาแค่ออกไปกับเธอก็เท่านั้น ไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่อะไร“อย่างน้อยก็รู้กาลเทศะ!”หานซีพูดอย่างเย็นชา ก่อนลากฉินหมิงซึ่งมีสีหน้าไม่เต็มใจไปที่ห้องสำนักงานผู้จัดการทั่วไป และให้เฉินถิงถิงปริ้นเอกสารสัญญาระหว่างกลุ่มธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปฉินหมิงที่ต้องการสัญญาพอดี เขาได้ให้เฉินถิงถิงปริ้นมาสองชุด เพื่อในกรณีที่จำเป็นบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปหานซีขับรถบีเอ็มดับบลิวของเธอพาฉินหมิงมาจอดรถที่ข้างนอกบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ป“ฉินหมิง ครั้งนี้ถือว่าโชคนายยังดี ฉันจะไม่เอาความนาย!หานซีตะคอกอย่างเย็นชาและด่าฉินหมิง“หมายความยังไงที่ว่าไม่เอาความผม?”ฉินหมิงรู้สึกงงง
เลขานุการก็แค่เป็นงานเบ็ดเตล็ด ไม่ได้มีความสามารถอะไรมากมาย และแนวโน้มการเติบโตก็ไม่มากนักอีกทั้งกลุ่มธุรกิจอานิสทรีกรุ๊ปก็เป็นแค่เพียงอุตสาหกรรมเล็ก ๆ ของกลุ่มธุรกิจหลินชื่อกรุ๊ป ไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันกับบริษัทธุรกิจโจวชื่อกรุ๊ปตำแหน่งของฮวาเหวินเลี่ยงเป็นถึงผู้จัดการประชาสัมพันธ์ ห่างจากผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเพียงเส้นบาง ๆ แน่นอนว่าตัวเขาไม่มาสนใจตำแหน่งต่ำต้อยอย่างฉินหมิงหรอก“นี่เลขาฉิน ผมก้บน้องหานซีจะคุยเรื่องร่วมมือกัน คุณเป็นแค่เลขาก็คงไม่มีประโยชน์เปล่า ๆ คุณไปรอข้างนอกเถอะไป”ฮวาเหวินเลี่ยงพูดอย่างเย็นชา“ก็ได้ครับ”เดิมทีตัวเขาก็ไม่ต้องมานั่งเจรจาร่วมมืออะไร ตัวเขาที่กำลังจะออกไป จู่ ๆ มือก็ถูกหานซีดีงไว้“รุ่นพี่ฮวาคะ พูดตามตรงนะคะ ประธานหลินได้จัดให้ฉันและเขามารับผิดชอบเรื่องนี้ด้วยกัน เขาเองก็เป็นู้ผู้รับผิดชอบคนหนึ่ง ฉันรู้สึกว่าให้เขาอยู่ที่นี้น่าจะเหมาะสมกว่านะคะ…”หานซียิ้มตอบอย่างเก้ ๆ กัง ๆฮวาเหวินเคยเป็นคนที่เคยตามจีบเธอ เมื่อก่อนเธอได้ปฏิเสธเขาไม่รู้จักเท่าไรพอมาถึงตอนนี้ที่เธอจะต้องมาขอร้องเขา เดิมที่เธอเองก็ประหม่าอยู่แล้วยังจะให้ฉินหมิงออ
รอยยิ้มที่มีเลศนัยปรากฏขึ้นที่มุมปากของฮวาเหวินเลี่ยง“ไปโรงแรมตอนเย็นเหรอคะ?”ใบหน้าสวยของหานซีเปลี่ยนสีหน้า เธอไม่ใช่เด็กมือใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงาน เธอรู้ความหมายที่ฮวาเหวินเลี่ยงจะสื่อ คิดว่าฮวาเหวินเลี่ยงจะไม่หยุดแค่กินข้าวน่ะสิ!“เอ่อ รุ่นพี่ฮวาคะ พวกเราสองคนเป็นผู้หญิงผู้ชายไปกินข้าวที่โรงแรมสองต่อสอง คงไม่เหมาะเท่าไรมั้งคะ”“เอาอย่างนี้ดีกว่าไหมคะ พี่ช่วยฉันเรื่องนี้ก่อน ขอแค่ให้สำเร็จ หลังจากเรื่องนี้เสร็จฉันและประธานหลินจะเชิญพี่เลี้ยงข้าวเพื่อขอบคุณพี่นะคะ”หานซีปั้นหน้ายิ้ม ในใจแอบปลอบใจตัวเอง ว่าฝ่ายตรงข้ามเธอเป็นรุ่นพี่ อาจจะแค่อยากกินข้าวด้วยกันสักมื้อก็ได้ ไม่มีเจตนาอะไรแอบแฝงหรอก”นี่น้องหานซี น้องคงจะไม่เข้าใจความหมายล่ะสิ น้องก็รู้ว่าพี่ชอบเธอมาตลอด คำพูดนี้พี่คิดว่าพี่พูดตรงละนะ!“”ขอแค่เธอมาเป็นแฟนพี่ พี่จะพยายามช่วยเธอเซ็นสัญญาให้ได้เอง!“ฮวาเหวินเลี่ยงแสดงออกมาอย่างมีไหวพริบ“อะไรนะคะ!”“แบบนี้ไม่ได้นะคะ!”“รุ่นพี่ฮวาคะ ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดี ๆ มากนะคะ แต่ว่าฉันเคารพพี่ในฐานะรุ่นพี่ หวังว่าพี่จะไม่ล้ำเส้นเกินไปนะคะ!”ใบหน้าของหานซีเต็มไปด้วยความไม่พอ
เพี๊ยะ!เสียงกังวานดังขึ้น ฮวาเหวินเลี่ยงตกตะลึงด้วยเสียงที่ดังก้องในหู เขาก้มศีรษะและฟาดหน้าผากเข้ากับมุมโต๊ะทำให้เลือดออกทันทีฮวาเหวินเลี่ยงร้องด้วยความเจ็บปวด เขายกมือคลำไปที่หน้าผาก ทั้งมือเต็มไปด้วยเลือด“ฉันจะฆ่าแก!”ฮวาเหวินเลี่ยงโกรธจนเลือกขึ้นหน้า ความโทสะเต็มหัวใจของเขาและเขาก็รีบวิ่งไปหาฉินหมิงราวกับกำลังบ้าคลั่งฉินหมิงกระโดดขึ้นและเตะฮวาเหวินเลี่ยงที่ท้องส่วนล่าง ทำให้ฮวาเหวินเลี่ยงกระเด็นออกไปหลายเมตร ร่างของฮวาเหวินเลี่ยงกลิ้งไปมาบนพื้นหลายตลบและกระแทกเข้ากับเชิงกำแพงด้านหลังเสียงดังกึกก้อง “ฉินหมิงพอเถอะ พวกเรารีบออกไปกัน”หลังจากที่หานซีหลุดจากภวังค์ เธอก็รีบก้าวไปข้างหน้าและคว้าแขนของฉินหมิงในเรื่องมันมาถึงขนาดนี้ เรื่องเจรจาก็คงจบเห่แล้ว เธอไม่มีหวังแล้วตอนนี้เธอคิดได้แค่ว่าต้องออกจากตรงนี้ให้เร็ว ไม่อย่างนั้นเรื่องจะใหญ่กว่านี้ฉินหมิงพยักหน้าและรีบออกไปข้างนอกกับหานซี“จับพวกมันไว้ อย่าให้พวกมันหนีไปได้…”ฮวาเหวินเลี่ยงใช้แรงพยุงตัวขึ้นมา เขาออกคำสั่งด้วยความโกรธเวลานี้ความวุ่นวายในสำนักงานได้ทำให้พนักงานด้านนอกรู้แล้ว มีคนโทรหารปภ.เรียบร้อยฉินห