......กลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปหลังจากที่หลินหว่านชิงรู้เรื่องการขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปจากหานซีแล้ว เธอก็รีบออกจากคฤหาสน์ตระกูลหลินเพื่อไปที่บริษัทโดยเร็วที่สุด และวางแผนที่จะจัดการเรื่องที่เกี่ยวกับการโอนหุ้นกับผู้ซื้อด้วยตนเองซึ่งนี่เป็นขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการขายกิจการ!เมื่อมาถึงห้องทำงานของผู้ช่วยประธาน หลินหว่านชิงก็พบกับหานซีอย่างรวดเร็ว“ซีซี เอ้าเฟิงล่ะ”“ก่อนหน้านี้เขาโทรหาฉันบอกว่าได้ติดต่อกับผู้ซื้อแล้วและทั้งสองฝ่ายก็พร้อมที่จะเซ็นสัญญาแล้ว ทำไมจู่ ๆ เรื่องนี้ถึงมาตกอยู่ในมือของเธอ”หลินหว่านชิงถามอย่างรู้สึกแปลก ๆ“เอ่อ...พอดีผู้ซื้อที่รองประธานเอ้าติดต่อไว้เสนอราคาต่ำเกินไปน่ะ!”“ส่วนผู้ซื้อของฉันยินดีที่จะจ่ายเงินหกพันล้านเพื่อซื้อต่อกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป ดังนั้นรองประธานเอ้าจึงมอบอำนาจให้ฉันรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างเต็มที่!”หานซีพูดอย่างใจเย็น เธอไม่ได้บอกอีกฝ่ายว่าเธอและฉินหมิงแย่งเอาเรื่องนี้มาจากมือของเอ้าเฟิงแน่นอนว่าตอนนี้เอ้าเฟิงได้ทรยศหลินหว่านชิงและไปสวามิภักดิ์กับลี่หย่งเจี๋ยแล้ว สุดท้ายก็ถูกคนของลี่หย่งเจี๋ยหักขาทั้งสองข้าง เธอจึงไม่
“สถานการณ์ในปัจจุบันของหลินกรุ๊ปวิกฤติมาก ฉันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ป”หลินหว่านชิงถอนหายใจ และรู้สึกอับจนหนทาง“เอ่อ...ก็ได้”เมื่อเห็นว่าหลินหว่านชิงตัดสินใจแล้ว หานซีก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะพูดมากกว่านี้ จากนั้นเธอก็นึกถึงคำเตือนของฉินหมิงขึ้นมา "หว่านชิง ฉันมีบางอย่างที่จะเตือนเธอ เรื่องที่หลินกรุ๊ปตกอยู่ในวิกฤต เป็นไปได้ว่ามีความเกี่ยวข้องกับตระกูลลี่ ต่อไปตระกูลหลินของเธอต้องระวังตระกูลลี่ให้ดีนะ!”“ซีซี เธอเข้าใจอะไรผิดหรือเปล่า?”“เท่าที่ฉันรู้ ตระกูลลี่ไม่เคยยื่นมือเข้ามากดดันหลินกรุ๊ปเลยตั้งแต่เกิดเรื่องขึ้น แล้วมันจะเกี่ยวข้องกับตระกูลลี่ได้อย่างไร?”หลินหว่านชิงทั้งประหลาดใจและสับสน เธอสงสัยมากว่าทำไมหานซีถึงพูดแบบนี้“ฉันไม่ได้เข้าใจผิด โดยส่วนตัวแล้วฉันคิดว่าตระกูลลี่ไม่ใช่คนดีอะไร ไม่มีทางที่พวกเขาจะละทิ้งโอกาสที่ดีเช่นนี้ไป!”“เมื่อมีจุดที่ผิดปกติก็ย่อมต้องมีแผนการร้ายบางอย่าง ในเบื้องหน้าพวกเขาไม่ได้เขาร่วมกดดันหลินกรุ๊ปจริง ๆ แต่ใครจะไปรู้ล่ะว่าแท้จริงแล้วพวกเขากำลังทำอะไรอยู่เบื้องหลังอย่างลับ ๆ!”“สรุปก็คือเธอควรระวังไว้
เพียงแต่ไม่มีใครรู้ว่า เป็นใครที่อยู่เบื้องหลังบริษัทร่วมลงทุนนี้!ในทางกลับกันหลินเถิงฮุ่ยสามารถรักษาเสถียรภาพของหลินกรุ๊ปได้อย่างยากลำบาก แต่ภายในไม่กี่วัน สถานการณ์ที่ดีของบริษัทก็พังทลายลง!เขาโกรธมากอยู่พักหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเขาโกรธเกินไปหรือป่วยจากการทำงานหนักเกินไป เขากระอักเลือดอยู่ในออฟฟิศแล้วหมดสติไปในช่วงเวลาที่สำคัญที่สุดของสงครามธุรกิจแบบนี้ หลินเถิงฮุ่ยที่เป็นประธานบริษัทกลับล้มป่วยลงอย่างกะทันหัน นี่ได้สร้างความตื่นตระหนกครั้งใหญ่ให้กับตระกูลหลิน!ท้องฟ้าเหนือตระกูลหลินทั้งหมดดูเหมือนจะถูกปกคลุมไปด้วยเมฆดำทะมึนและมืดครึ้ม!คฤหาสน์ตระกูลหลินหลังจากที่หลินเถิงฮุ่ยกระอักเลือดและหมดสติไป เขาก็ถูกลูกน้องหามตัวกลับมาที่คฤหาสน์หลังจากนั้นไม่นานนัก ไป่จิ้งและผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินก็พาคุณฉี ปรมาจารย์ด้านการแพทย์แผนจีนมาวินิจฉัยและรักษาให้กับหลินเถิงฮุ่ยภายในห้องหลินเถิงฮุ่ยนอนอยู่บนเตียง คุณฉีตรวจชีพจรของเขา จากนั้นก็ใช้เครื่องมือทางการแพทย์ตรวจร่างกายของเขาอย่างละเอียดข้าง ๆ หลินหว่านชิงและผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินมองสภาพร่างกายของหลินเถิงฮุ่ย
นี่ตรงกับใจของเธอพอดี ช่วยประหยัดแรงไม้ให้เธอและลี่ตั๋วไห่ต้องลงมือจัดการกับหลินเถิงฮุ่ย!ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมงหลังจากที่หลินเถิงฮุ่ยกินยาของคุณฉี เขาก็ค่อย ๆ ฟื้นจากการหมดสติเมื่อเขาทราบอาการป่วยของตัวเองจากปากของหลินหว่านชิง หลินเถิงฮุ่ยก็เหมือนกับโดนฟ้าผ่าลงกลางใจ สภาพจิตใจของเขาเริ่มพังทลายลง!“ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้…”ใบหน้าของหลินเถิงฮุ่ยซีดเซียว จิตใจของเขายิ่งหดหู่มากขึ้นหลินกรุ๊ปถือเป็นรากฐานของตระกูลหลิน เพื่อแก้ไขวิกฤติทางการเงินของหลินกรุ๊ปเขาไม่ลังเลเลยที่จะบังคับให้หลินหว่านชิงขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปทิ้งไป!แต่สุดท้ายทุกอย่างก็ไร้ผล แถมเขายังมาล้มป่วยลงในช่วงเวลาวิกฤติที่สุดอีกใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความเจ็บปวดในใจของเขาได้!“เถิงฮุ่ย สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลร่างกายตัวเอง ในช่วงนี้คุณควรอยู่บ้านและพักผ่อนอย่างสงบ พยายามฟื้นตัวให้เร็วที่สุด…”“สำหรับเรื่องบริษัท ฉันคิดว่าปล่อยให้เป็นหน้าที่ของจิ่นหัวไปก่อน!”ผู้อาวุโสคนหนึ่งของตระกูลหลินพูดปลอบใจเขาจิ่นหัวที่เขาพูดถึงนั้นก็คือพ่อของหลินหราน หลินจิ่นหัวเป็นลูกชายสายตรงคนโตของบ้านรองของตระกูลหล
ถ้าหลินเถิงฮุ่ยยืนกรานที่จะกระทำการตามอำเภอใจโดยพลการ ต่อให้หลินเถิงฮุ่ยเข้ามารับตำแหน่งผู้นำตระกูลแล้ว พวกเขาก็มีอำนาจมากพอที่จะถอดถอนหลินเถิงฮุ่ยออกจากตำแหน่งผู้นำตระกูลหลิน!“ผม...”เมื่อเผชิญกับคำถามจากผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลิน สีหน้าของหลินเถิงฮุ่ยก็ดูไม่น่ามองอย่างมากในช่วงเวลาวิกฤติ เขามองไปที่หลินหว่านชิงซึ่งอยู่ข้าง ๆ และทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในใจของเขา คิดอะไรดี ๆ ออกแล้ว“คุณลุงทั้งหลาย อย่าเพิ่งใจร้อนไป!”“เอาแบบนี้เป็นไง ผมสามารถมอบอำนาจของบริษัทให้กับหว่านชิง และให้เธอทำหน้าที่เป็นประธานบริษัทชั่วคราวได้”“ด้วยทักษะทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมของเธอ อาจจะสามารถแก้ไขวิกฤติของบริษัทเราได้นะ!”หลินเถิงฮุ่ยพูดอย่างรวดเร็วหลินหว่านชิงเป็นลูกสาวของเขา เขามอบอำนาจของบริษัทให้กับหลินหว่านชิงยังดีกว่ามอบให้กับหลินจิ่นหัวหลายร้อยเท่า!นอกจากนี้ ขอแค่หลินหว่านชิงสามารถแก้ไขวิกฤติของหลินกรุ๊ปได้ เครดิตก็จะตกเป็นของผู้เป็นพ่ออย่างตัวเขาแน่นอน และจากนั้นเขาก็จะสามารถขึ้นมาเป็นผู้นำตระกูลได้โดยธรรมชาติ!นี่เท่ากับยิงปืนนัดเดียวได้นกสองตัว!“นี่ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว!
แน่นอนว่า หลินโย่วเป็นลูกชายของเขาและหลินหว่านชิงก็เป็นลูกสาวของเขา สำหรับเขาแล้วไม่ว่าใครในสองคนนี้จะมาเป็นผู้ดูแลบริษัทก็เหมือนกันขอแค่อำนาจไม่ตกไปอยู่ในมือของทายาทสายตรงบ้านรองก็พอ!“ไป่จิ้ง เธอล้อเล่นอะไรเนี่ย?”“แม้ว่าสิ่งที่เธอพูดจะสมเหตุสมผล แต่โยว่เอ๋อยังเด็กเกินไปและยังเรียนไม่จบระดับปริญญาด้วยซ้ำ เขาจะเข้ามาดูแลบริษัทได้อย่างไร”......ผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลินพูดด้วยสีหน้าไม่พอใจ“ใช่ ลูกโย่วไม่เคยมีประสบการณ์ในการจัดการบริษัทมาก่อนและความสามารถทางธุรกิจของเขาอาจไม่เพียงพอ!”“แต่ก็ยังมีฉันกับเถิงฮุ่ยไม่ใช่เหรอคะ?”“เมื่อตอนหลินหว่านชิงเพิ่งเรียนจบจากมหาวิทยาลัย นายท่านก็มอบกลุ่มธุรกิจอานิวสทรีกรุ๊ปให้กับเธอบริหาร”“ตอนนี้ลูกโย่วกำลังจะเรียนจบมหาวิทยาลัยแล้วอีกไม่นานก็กำลังจะไปฝึกงาน แค่มอบหลินกรุ๊ปให้เขาเป็นผู้บริหาร และมีเถิงฮุ่ยกับฉันคอยแนะนำเขาอยู่เบื้องหลัง มันจะไม่มีปัญหาใด ๆ อย่างแน่นอน!"ไป่จิ้งพูดอย่างใจเย็น“อะไรนะ? ทำแบบนี้ได้ยังไง!”“ไป่จิ้ง ตอนนี้บริษัทกำลังประสบปัญหา และต้องการคนที่มีความสามารถทางธุรกิจที่ยอดเยี่ยมมารับผิดชอบสถานการณ์โดยรวมอย่างด่ว
หลินหว่านชิงตกใจเมื่อได้ยินสิ่งนี้ เธอลุกขึ้นยืนทันที ดวงตาที่สวยงามของเธอจ้องมองแล้วพูดว่า "ไป่จิ้ง คุณหมายความว่ายังไง?"“ตอนแรกฉันได้ขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไปแล้ว ตามที่คุณบอกก่อนหน้านี้และตอนนี้คุณข้ามแม่น้ำได้แล้ว กลับมาทำลายสะพานทิ้ง และต้องการให้ฉันแต่งงานกับลี่หย่งเจี๋ย คุณต้องการอะไรกันแน่”หลินหว่านชิงยิ่งพูดก็ยิ่งโกรธเหตุผลที่เธอขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปอย่างไม่เต็มใจ ก็เพราะเธอไม่ต้องการที่จะยอมรับการแต่งงานทางการเมืองครั้งนี้แต่สิ่งที่เธอไม่คิดไม่ฝันก็คือ แม้ว่าเธอจะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไปแล้ว แต่ไป่จิ้งกลับได้คืบจะเอาศอก ยังคงไม่ปล่อยเธอไป!ใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความโกรธแค้นในใจเธอได้!“เมื่อก่อนคือเมื่อก่อน ตอนนี้คือตอนนี้!”“เมื่อก่อนฉันแนะนำให้เธอแต่งงานกับตระกูลลี่ แต่เธอไม่เต็มใจและยืนกรานที่จะขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปไปเอง แล้วเธอจะมาตำหนิฉันได้อย่างไร”"มันพิสูจน์แล้วว่าการที่เธอขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปทิ้งไป ไม่มีผลใด ๆ มีเพียงการแต่งงานของเธอกับตระกูลลี่เท่านั้น ที่จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ในคราวเดียว!"ไป่จิ้งพูดเสียงเข้มด้วย
หากหลินเถิงฮุ่ยและไป่จิ้งสามารถโน้มน้าวให้หลินหว่านชิงเห็นด้วยกับเรื่องนี้ได้ พวกเขาก็ยินดีที่จะเห็นมันเกิดขึ้นเช่นกัน!"ทำไมถึงได้เป็นแบบนี้..."ใบหน้าที่สวยงามของหลินหว่านชิงซีดลง เธอหมดแรงที่จะยืนอย่างมั่นคงได้ จนเกือบจะล้มลงกับพื้นในตอนแรกเธอเลิกกับฉินหมิงเพื่อประโยชน์ของตระกูลของเธออย่างไม่เสียดายใด ๆ ตอนนี้เธอตัดสินใจขายกลุ่มธุรกิจอานิวสทรี กรุ๊ปอย่างเด็ดเดี่ยวเพื่อตระกูลของเธอ!เธอเสียสละมากมายเพื่อตระกูลของเธอ แต่เธอไม่เคยคาดเลยว่าจะได้รับผลลัพธ์แบบนี้ตอบแทนกลับมา!ไม่ว่าจะเป็นพ่อของเธอ หรือพวกผู้อาวุโสหลายคนของตระกูลหลิน ต่างก็ต้องการใช้การแต่งงานของเธอเพื่อหากำไร!ในเวลานี้ เธอรู้สึกเหน็บหนาวอยู่ในใจ และผิดหวังอย่างมากกับหลินเถิงฮุ่ยและสมาชิกอาวุโสหลายคนของตระกูลหลิน!“หว่านชิง ชายหนุ่มต้องแต่งภรรยา หญิงสาวต้องออกเรือน ไม่ช้าก็เร็วเธอก็ต้องแต่งงาน เราทุกคนทำเพื่อประโยชน์ของเธอเองนะ…”หลินเถิงฮุ่ยพูดแล้วหัวเราะแห้ง ๆ ในใจรู้สึกผิดอยู่บ้าง“ฉันไม่จำเป็นต้องให้พวกคุณมาทำเพื่อฉัน!”“สรุปก็คือ ฉันจะไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้อย่างแน่นอน พวกคุณควรล้มเลิกความคิดนี้โด