นี่มันไม่สมจริงสักนิด!“ฉันพูดความจริงนะคะ…”หลี่เจียฮุ่ยกำลังจะเล่าเหตุการณ์ในวันนั้น แต่ก็ถูกฉินหมิงขัดจังหวะก่อนที่เธอจะทันได้พูดจบ“เจียฮุ่ย คุณไม่ต้องพูดอีกแล้ว ตอนนี้ผมออกจากตระกูลหลินแล้ว…”ฉินหมิงรู้สึกเจ็บปวดในหัวใจ ภาพของหลินหว่านชิงผุดขึ้นมาในใจของเขาอย่างอดไม่ได้ จากนั้นความปรารถนาและความคิดถึงทั้งหมดก็หลั่งไหลเข้ามาในหัวใจของเขาราวกับน้ำพุการตั้งคำถามของหยางจิงเมื่อสักครู่นี้ ทำให้เขารู้สึกอึดอัดใจมากพอแล้ว ตอนนี้เมื่อหลี่เจียฮุ่ยเอ่ยถึงหลินหว่านชิง ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันได้เหยียบลงบนแผลเก่าของเขาอย่างจัง ทำให้เขายิ่งรู้สึกแย่ไปอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเขานึกถึงหลินหว่านชิง ความรู้สึกคิดถึงเธอมันทำให้เขาเจ็บจนแทบทนไม่ไหววินาทีนี้ เขาตระหนักได้ชัดเจนยิ่งกว่าทุกครั้งว่าเขาไม่สามารถปล่อยความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงไปได้!“ฉินหมิง นาย...นายเป็นอะไรไป?”หลี่เจียฮุ่ยดูตกตะลึง เธอไม่เข้าใจว่าฉินหมิงหมายความว่าอะไร“ไม่มีอะไร…”“ผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำก่อน”ฉินหมิงอดทนต่อความเจ็บปวดในใจ ลุกขึ้นยืนและรีบออกจากห้องส่วนตัวมองดูแผ่นหลังของฉินหมิงที่จากไปอย่างเร่งรีบ หล
“รองประธานหลี่ ในที่สุดคุณก็มาสักที!”หยางจิงยิ้มอย่างฝืน ๆ ลุกขึ้นยืนและเดินขึ้นไปทักทายเขา“ประธานหยาง ผมค่อนข้างมีธุระรัดตัว เพราะงั้นเลยปลีกตัวมาไม่ได้เลย คุณก็อย่าได้โกรธไปเลยนะ…”รองประธานหลี่หัวเราะ ทว่าในใจกลับรู้สึกไม่แยแสสักนิดอีกฝ่ายต้องการบางอย่างจากเขา รอเขานานสักหน่อยก็สมควรแล้วไม่ใช่เหรอ?“รองประธานหลี่ เชิญนั่งค่ะ”หยางจิงรู้สึกไม่พอใจ แต่เธอก็ไม่สามารถแสดงมันออกมาได้ ดังนั้นเธอจึงทำได้เพียงกลืนความขมขื่นนั้นลงท้องไปเท่านั้นหลังจากนั้นทั้งสองฝ่ายก็ทยอยกันนั่งลง หยางจิงเรียกพนักงานเสิร์ฟของโรงแรมแล้วให้พวกเขาออกไปเตรียมไวน์และอาหาร“ประธานหยาง ไม่รู้ว่าสาวสวยที่อยู่ข้าง ๆ คุณนี้คือใครเหรอ เธอชื่ออะไร”รองประธานหลี่มองหลี่เจียฮุ่ยที่สวยเสียจนจับใจเขา ดวงตาของเขาก็สว่างวาบขึ้นเล็กน้อย เขาเกิดความรู้สึกประหลาดใจขึ้นมาทันที“รองประธานหลี่ ฉันขอแนะนำให้รู้จัก นี่คือหลี่เจียฮุ่ย ผู้จัดการฝ่ายขายของบริษัทเรา ส่วนคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ เธอนี้ เขาคือฉินหมิง”หยางจิงแนะนำทั้งสองฝ่ายโดยย่อ“ผู้จัดการหลี่ เพิ่งได้พบหน้ากันเป็นครั้งแรก ยินดีที่ได้รู้จัก”รองประธานหลี่ยื่น
รองประธานหลี่พูดอย่างถ่อมตัว แต่สีหน้าของเขากลับเต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ“8% ยังสูงเกินไป…”“รองประธานหลี่ ผลกำไรของบริษัทเรานั้นน้อยมาก เราสามารถให้สัมปทานผลกำไรได้มากสุดเพียง 3% เท่านั้น โปรดผ่อนปรนให้กับทางเราด้วย!”“ขอแค่การตกลงครั้งนี้บรรลุผลสำเร็จ บริษัทเราจะตอบแทนคุณอย่างงามแน่นอน!”หยางจิงพูดอย่างจริงใจ“3% เป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน!”“ผลกำไรขั้นต่ำสุดที่กลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ปของเราต้องการนั้นก็คือ 8%!”“ประธานหยาง ผมไม่สามารถตอบตกลงด้วยอัตรากำไรที่ต่ำเช่นนี้ได้ ถ้ายังไงพวกเราทั้งส่องฝ่ายกลับไปขอคำแนะนำจากบริษัทกันก่อนดีไหม แล้วค่อยนัดหารือกันอีกครั้งในวันอื่น!”รองประธานหลี่พูดจบ ก็ลุกขึ้นแล้วทำท่าทางจะกล่าวคำอำลา พร้อมจากไปทุกเมื่อไอ้จิ้งจอกเฒ่า!จนถึงตอนนี้ยังไม่มีคำพูดจริงออกมาจากปากเขาแม้แต่ประโยคเดียว เขารับมือได้ยากมากจริง ๆ!หยางจิงสาปแช่งในใจ เธอรู้ว่ารองประธานหลี่เสแสร้งแกล้งทำ และก็รู้ด้วยว่าอัตรากำไร 8% นั้น ไม่ใช่ขั้นต่ำสุดที่อีกฝ่ายสามารถรับได้!เพียงแต่อาศัยอยู่ใต้ชายคาผู้อื่นไม่อาจไม่ก้มหัว ครั้งนี้รองประธานหลี่ไม่เพียงแต่เจตนามาสายถึงหนึ่งชั่วโมงกว่าเ
“ขอแค่คุณตกลงที่จะไปทานมื้อเย็นกับผมสองต่อสอง เห็นแก่หน้าของคุณ ผมสามารถตอบตกลงให้อัตรากำไรของบริษัทลดเหลือเพียง 5% ได้!”รองประธานหลี่ใช้ประโยชน์จากสถานการณ์นี้และระบุเงื่อนไขของเขาเช่นเดียวกับที่หยางจิงเดาไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจากฉินหมิงที่เป็นผู้ชายนั่งอยู่ตรงนี้ด้วย ดังนั้นเขาจึงไม่ทำกับหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเกินเลยไปนักและเพราะเขาไม่สามารถที่จะล่วงเกินสาวสวยสองคนที่อยู่ตรงหน้านี้ได้ ดังนั้นจึงเลือกพูดออกมาอย่างชัดเจน!"อะไรนะ?"“นี่เป็นไปไม่ได้!”ใบหน้าที่สวยงามของหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนไป ทั้งคู่ลุกขึ้นยืนทันทีพวกเธอทั้งสองคนไม่ใช่เด็กใหม่ในที่ทำงาน ดังนั้นย่อมเข้าใจถึงเจตนาเบื้องลึกของรองประธานหลี่ว่านั่นไม่ใช่แค่การทานมื้อเย็นง่าย ๆ อย่างแน่นอน!“ผู้จัดการหลี่ คุณอย่าเพิ่งรีบปฏิเสธไป ต้องคิดให้รอบคอบล่ะ!”“แม้ว่าความแตกต่างระหว่างอัตรากำไร 8% และ 5% นั้นจะเป็นเพียงตัวเลขเล็ก ๆ แค่ 3% แต่มูลค่าต่อปีของมันนั้นอาจจะสูงกว่าหลายร้อยล้านเลยทีเดียว!”“ถ้าคุณสามารถช่วยบริษัทประหยัดเงินไปได้กว่าหลายร้อยล้านในทุกปี ไม่ต้องพูดถึงการเลื่อนตำแหน่งและการเพิ่มเงินเดือน บริษั
เขาคิดอยู่เสมอว่าฉินหมิงเป็นเพียงลูกน้องของหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ย ตอนนี้ฉินหมิงหักแขนของเขาข้างหนึ่ง เขาจะร่วมมือกับอีกฝ่ายต่อไปได้อย่างไร!แม้ว่าบริษัทคังกรุ๊ปตอนนี้จะเปลี่ยนใจและให้ผลกำไร 10% มันก็ไม่มีประโยชน์แล้ว!“รองประธานหลี่ ได้โปรดใจเย็น ๆ ก่อน เรื่องราวไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะคะ โปรดฟังคำอธิบายของฉันสักนิด…”หยางจิงพูดอย่างร้อนใจความร่วมมือในครั้งนี้มีความสำคัญกับบริษัทคังกรุ๊ปของพวกเธอเป็นอย่างมาก ถ้าความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายตลอดหลายปีมานี้สิ้นสุดลงทั้งแบบนี้จริง ๆ เธอจะมีหน้ากลับไปอธิบายให้ท่านประธานฟังได้อย่างไร?“ผมไม่อยากฟังคำอธิบายของคุณ!”“นอกจากนี้ เรื่องนี้จะไม่จบแค่นี้แน่ พวกคุณทั้งสามคนรอไปก่อนเถอะ ผมจะไม่ปล่อยพวกคุณไปง่าย ๆ แน่!”หลังจากที่รองประธานหลี่ทิ้งคำพูดที่รุนแรงเอาไว้ เขาก็เตรียมที่จะจากไปด้วยสภาพอเน็จอนาถ“คิดไป?”“ฉันปล่อยแกไปแล้วหรือยัง?”ฉินหมิงเยาะเย้ยและเตะรองประธานหลี่ให้ล้มไปกับพื้นอีกครั้ง“ฉินหมิง คุณเลิกสร้างปัญหาสักทีจะได้ไหม?”หยางจิงถลึงตาจ้องเขาด้วยความโกรธเดิมทีเรื่องนี้ก็ปกติดี อย่างน้อย ๆ ก็ยังอยู่ในขอบเขตที่ควบคุมได้ แต
เธอไม่รู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี“ได้ยินแล้วสินะ ยังไม่รีบไสหัวออกไปจากที่นี่อีก!”ฉินหมิงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา“ครับ ครับ…”ราวกับได้รับการนิรโทษกรรม รองประธานหลี่ก็ลุกขึ้นและคลานออกจากห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาเดินออกจากห้องส่วนตัว เขาก็มองย้อนกลับไปที่ฉินหมิงและอีกสองคนในห้องส่วนตัว ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อคิดว่าตัวเองที่เป็นถึงรองประธานของกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป เขาบุคคลที่สำคัญของบริษัทต้องมาได้รับความอับอายและอัปยศอดสูแบบนี้!เขาก็ลอบสาบานในใจว่าเขาจะฆ่าฉินหมิงในภายหลังอย่างแน่นอน เอาคืนสิ่งที่เขาได้รับจากฉินหมิงเมื่อสักครู่นี้เป็นสิบเท่า!นอกจากนี้ ยังมีผู้หญิงสองคนนั่นอีก หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเขาจะเล่นกับพวกเธอให้หนำใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่อาจขจัดความแค้นและเกลียดชังในใจของเขาไปได้!หลังจากที่แผ่นหลังของรองประธานหลี่หายไปจากห้อง่สวนตัว ในที่สุดหยางจิงก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง“ฉินหมิง คุณทำได้ดีมาก!”“คุณกำลังคิดที่จะฆ่าเจียฮุ่ยกับฉันอยู่ใช่ไหมอัปยศอดสู”หยางจิงตบโต๊ะและเกือบจะระเบิดความโกรธของเธอออกมาแม้ว่ารองประธานหลี่จะเป็นคนผิดก่อนแ
“ฮัลโหล คุณฉิน มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?”หลังจากเชื่อมต่อสายแล้ว เสียงที่กระจ่างชัดของโจวเจี้ยนก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว“พี่โจว ผมมีเรื่องที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณหน่อย…”ฉินหมิงอธิบายสถานการณ์โดยย่อ จากนั้นถึงระบุที่อยู่ของโรงแรมและหมายเลขห้องส่วนตัวให้โจวเจี้ยนทราบ“คุณฉิน ช่างบังเอิญมากจริง ๆ!”หลังจากฟังแล้ว โจวเจี้ยนก็หัวเราะ“บังเอิญอะไรเหรอ?”ฉินหมิงสับสน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมโจวเจี้ยนถึงพูดแบบนี้“คุณฉิน ไม่ขอปิดบัง ตอนนี้ผมเองก็อยู่ที่ชั้นบนของโรงแรมนี้เหมือนกัน กำลังจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำกับเพื่อนหลายคนในแวดวงของผม…”“รอเดี๋ยวนะครับ ผมรับประกันว่าจะไปปรากฏตัวต่อหน้าคุณภายในเวลาหนึ่งนาที!”โจวเจี้ยนอธิบายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์“นี่เป็นเรื่องที่บังเอิญมากจริง ๆ!”ฉินหมิงหัวเราะอย่างโง่เขลา เขาไม่คิดเลยว่าตอนนี้โจวเจี้ยนเองก็จะอยู่ที่นี่ด้วยเมื่อเห็นฉินหมิงวางสายโทรศัพท์ด้วยท่าทางผ่อนคลาย ราวกับเขารู้จักกับโจวเจี้ยนจริง ๆ หยางจิงก็ดูถูกเหยียดหยามเขามาก“เสแสร้งแกล้งทำ!”“ฉันจะรอดูว่าคุณจะใช้ลูกไม้อะไรได้อีก!”หยางจิงกอดอก ใบหน้าของเธอแสดงรอยยิ้
“สวัสดีค่ะคุณโจว”หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในสายตาของพวกเธอทั้งสองคน โจวเจี้ยนเป็นบุคคลระดับสูง ตอนนี้พวกเธอได้พูดคุยกับอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ย่อมรู้สึกกดดันและทำตัวไม่ถูกหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายทักทายกันเล็กน้อยแล้ว“คุณฉิน ที่คุณบอกว่ามีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากผม เรื่องอะไรเหรอ?”โจวเจี้ยนถาม“เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมเพิ่งทำลายความร่วมมือระหว่างบริษัทคังกรุ๊ปและกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป ดังนั้นเพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ผมเลยต้องช่วยหาบริษัทใหม่เพื่อมาทำสัญญาร่วมมือกับบริษัทคังกรุ๊ปแทน แล้วผมก็เลือกโจวกรุ๊ปของพวกคุณ…”ฉินหมิงอธิบายสถานการณ์โดยย่อ“ได้สิ ไม่มีปัญหา!”โจวเจี้ยนพยักหน้าและตอบตกลงอย่างง่ายดายด้วยความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและตระกูลโจว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปฏิเสธฉินหมิงเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้“นี่...โอเคจริง ๆ เหรอคะ แค่นี้ก็จบเรื่องแล้ว?”หยางจิงตกตะลึง เธอยังไม่อยากจะเชื่อหูและสายตาของเธอเองแต่ตอนนี้แม้ว่าเธอจะโง่สักแค่ไหน เธอก็รู้ชัดแล้วว่าฉินหมิงและโจวเจี้ยนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากทว่าปัญหาคือ
บรรพบุรุษตระกูลฉินทิ้งความรู้ไว้ให้เขาอย่างกว้างขวางมาก แถมยังรวมถึงสูตรลับบางอย่างในการกระตุ้นศักยภาพของร่างกายมนุษย์ด้วย สูตรลับเหล่านี้เกี่ยวข้องกับทักษะทางการแพทย์และได้รับการบันทึกอย่างละเอียดสำหรับยาปราณแท้ ปัจจุบันเขามีสำรองอยู่อีกหลายเม็ดตอนนี้ทั้งสองอย่างล้วนพร้อมแล้ว เขาต้องการช่วยเฝิงเจิ้นฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธไปให้ได้ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย!“ลุงเฝิง ผมบอกความจริงกับคุณก็แล้วกัน แม้ว่าผมจะไม่แน่ใจว่าสามารถช่วยคุณทะลวงไปสู่ระดับราชาแห่งสงครามได้หรือไม่ แต่ผมจะพยายามลองอย่างเต็มที่ โอกาสที่จะประสบความสำเร็จน่าจะสูงมาก ... "ฉินหมิงพูดอย่างจริงใจ“ลองดู?”“การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ เรื่องแบบนี้จะลองสุ่มสี่สุ่มห้าได้อย่างไร หากมีสิ่งที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น ผลที่ตามมาอาจเป็นหายนะ!”เฝิงเจิ้นตกใจยิ่งกว่าเดิมในที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า ฉินหมิงกำลังพูดเรื่องไร้สาระและต้องการใช้เขาเป็นหนูทดลองหากเป็นเรื่องอื่นก็เอาเถอะ เขาคงสามารถให้ความร่วมมือกับฉินหมิงได้ แต่การฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธเป็นสิ่งสำคัญ หากไม่ระวังอาจกลายเป็นบ้าได้ง่าย ๆ หรือแม้แต่สูญเสียทักษ
เดิมทีระดับการบ่มเพาะของลี่ตั๋วไห่นั้นทัดเทียมกับเขา ทั้งสองอยู่ในระดับของครึ่งก้าวราชาสงคราม ต่างคนต่างไม่สามารถทำอะไรกับอีกฝ่ายได้แต่ตอนนี้ความแข็งแกร่งของลี่ตั๋วไห่แซงหน้าเขาไปแล้ว ต่อไปนี้มันยากมากสำหรับเขาที่จะสู้กับลี่ตั๋วไห่ได้!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกถึงวิกฤตที่รุนแรงมาก แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้“บางทีลี่ตั๋วไห่อาจโชคดีมากกว่า...”ฉินหมิงฉุกคิดได้ และดูเหมือนเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างอย่างคลุมเครือเขาเคยสงสัยมาก่อนตอนที่อยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ว่าลี่ตั๋วไห่สามารถฝ่าฟันปัญหาคอขวดของวรยุทธ์ได้อย่างง่ายดาย นี่อาจมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับการปล้นเจิ้งอวี่ มิฉะนั้นลี่ตั๋วไห่จะไม่สร้างศัตรูที่แข็งแกร่งอย่างตระกูลเจิ้งเพียงเพื่อยาปราณแท้แค่สามเม็ดแน่ตอนนี้เขาคิดเชื่อมโยงกันเล็กน้อย ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักได้ว่าลี่ตั๋วไห่อาจจะสามารถทะลวงเข้าไปในระดับของราชาสงครามได้โดยใช้ยาปราณแท้สามเม็ดนี้!นี่ไม่ใช่ประเด็น ประเด็นก็คือในฐานะคนหลอมยาปราณแท้ เขาเข้าใจคุณสมบัติของยาปราณแท้มากกว่าใคร ๆ ในเมื่อแม้แต่ลี่ตั๋วไห่ก็มีสิทธิ์พึ่งพายาปราณแท้เพื่อกลายเป็นยอดฝีมือที่แข็งแกร่งในระดับราชาสงคราม ถ้าอย่
ตอนนี้เขาสะบักสะบอมมาก มันเจ็บไปทั้งหัวใจ และเขาคิดอยากลบความรู้สึกที่มีต่อหลินหว่านชิงออกไปให้หมดสิ้น แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกครั้ง!เขาจะกลับไปคบหลินหว่านชิงอีกครั้งได้อย่างไร!“ฉินหมิง คุณใจร้ายกับฉันได้ขนาดนี้เลยเหรอ?”หลินหว่านชิงกัดริมฝีปากแล้วมองฉินหมิงด้วยใบหน้าเศร้า เธอพยายามกลั้นน้ำตาไว้ไม่ให้ไหลลงมา“ไม่ได้ใจร้าย เพียงแต่ว่าโชคชะตาระหว่างเราสองคนจบลงแล้ว!”“ถ้าคุณเต็มใจ เราก็ยังเป็นเพื่อนกันต่อไปได้ แต่เรื่องความรู้สึกให้มันจบลงเพียงเท่านี้เถอะ!”ฉินหมิงพูดอย่างใจเย็น“ได้ คุณพูดแบบนี้เอง คุณอย่าเสียใจภายหลังก็แล้วกัน!”หลินหว่านชิงรู้สึกเหมือนคนอกหัก เมื่อต้องเผชิญกับความไร้เยื่อใยและความเมินเฉยของฉินหมิง เธอไม่มีความกล้าพอที่จะอยู่ตรงนี้อีกต่อไป เธอจึงหันหลังกลับและวิ่งหนีไปทันทีที่เธอหันหลังมา หยดน้ำตาก็ไหลลงอาบแก้มของเธออย่างเงียบ ๆ “ฉินหมิง ไอ้สารเลว!”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยโกรธมาก เธอจ้องมองไปที่ฉินหมิงด้วยสายตาเกลียดชัง จากนั้นก็วิ่งตามไปยังทิศทางของหลินหว่านชิง“ฉินหมิง คุณดูแลตัวเองให้ดี ๆ เถอะ!”หานซีเหลือบมองฉินหมิงด้วยสีหน้าซับซ้อน จากนั้นเธอและไล่ตามเซี
ฉินหมิงตกใจ ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ“แน่นอนว่านายไม่รู้!”“ครั้งที่แล้ว พี่ไปที่หมิงเหยากรุ๊ปเพื่อไปง้อนาย แต่เธอถูกซูซินเหยาหลอกให้คิดว่านายกับซูซินเหยาคบกันแล้ว…”“ผู้กระทำผิดทั้งหมดนี้ก็คือซูซินเหยา ถ้าเธอไม่เข้ามาขวางทาง พี่คงไม่ได้รับข้อมูลผิด ๆ จากเธอและไม่ทำร้ายนายครั้งแล้วครั้งเล่า…”เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดด้วยความโกรธ และเธอก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคร่าว ๆหลังจากฟังแล้ว ฉินหมิงมีสีหน้าประหลาดใจและไม่แน่ใจ จากนั้นเขาก็มองซูซินเหยาด้วยดวงตาที่ลุกเป็นไฟและถามว่า "ซินเหยา สิ่งที่เสี่ยวเตี๋ยพูดเป็นความจริงหรือเปล่า?"“ฉัน...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาเปลี่ยนเป็นสีแดง เธออ้าปากพูด แต่ก็พูดไม่ออกท้ายที่สุดแล้ว เรื่องนี้เป็นความผิดของเธอจริง ๆ เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยไม่ได้กล่าวหาเธอ และเธอก็ไม่รู้ว่าจะพูดอะไร“ทำไมต้องโกหกผม?”สีหน้าของฉินหมิงมืดลงไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาที่จะเดาจากปฏิกิริยาของซูซินเหยาว่า สิ่งที่เซี่ยเสี่ยวเตี๋ยพูดนั้นเป็นเรื่องจริง!“ฉินหมิง ฉันขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจจะโกหกคุณ…”“ฉันก็แค่ชอบคุณมาก และไม่อยากเสียคุณไป ฉันจึงตัดสินใจทำมันลงไป...”ดวงตาขอ
ในขณะนี้ เขายังสงบสติอารมณ์ไม่ได้ และความตั้งใจอันแน่วแน่ดั้งเดิมของเขาก็อดไม่ได้ที่จะสั่นคลอนเล็กน้อย“ฉินหมิง คุณอย่าตอบตกลงเธอนะ...”ใบหน้าที่สวยงามของซูซินเหยาซีดลง เธอมองไปที่ฉินหมิงด้วยความกังวลเธอรับรู้ความรู้สึกของฉินหมิงที่มีต่อหลินหว่านชิง และเธอก็เห็นว่าฉินหมิงหวั่นไหว หากไม่ผิดคาด ฉินหมิงน่าจะทิ้งเธอไปแล้วกลับไปหาหลินหว่านชิงเมื่อคิดถึงเรื่องนี้ เธอรู้สึกเศร้ามาก และใจของเธอก็ค่อย ๆ จมลงสู่ก้นบึ้งเมื่อเห็นสีหน้าเศร้าสร้อยของซูซินเหยา ฉินหมิงก็ตื่นขึ้นมาทันทีราวกับว่าถูกสาดหน้าด้วยน้ำเย็นหากเป็นเมื่อก่อน เขาอาจจะตกลงที่จะกลับไปคืนดีกับหลินหว่านชิงแต่ตอนนี้ เขาได้ตกลงที่จะหมั้นกับซูซินเหยาแล้ว และเมื่อสักครู่นี้ยังให้สัญญากับซูซินเหยาอีกด้วย!หากเขายกเลิกงานหมั้นในเวลานี้ ไม่ต้องคิดเลยว่าจะทำให้ซูซินเหยาเสียใจมากแค่ไหน!ไม่ชอบสิ่งใด ก็อย่าได้ทำสิ่งนั้นกับคนอื่นตอนที่เขากับหลินหว่านชิงเลิกกัน เขาได้สัมผัสรสชาติความเจ็บปวดด้วยตัวเอง มันเป็นความเจ็บปวดที่จดจำไว้ในใจไม่ลืมเลือน เจ็บจนเจียนตายในเมื่อแม้แต่ตัวเขาเองก็ไม่ชอบความเจ็บปวดแบบนี้ เขาจะใจร้ายทำร้ายซูซินเห
“ผมไม่เป็นไร แค่บาดเจ็บนิดหน่อย...”ฉินหมิงยิ้มเบา ๆแม้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหลินหว่านชิงจะทะเลาะกันจนค่อนข้างไม่มีความสุข แต่หานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยทั้งสองมีความสัมพันธ์ที่ดีกับเขามาก เขาถือว่าหานซีและเซี่ยเสี่ยวเตี๋ยเป็นเพื่อนที่ดีมาโดยตลอดเขารู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมากเมื่อเห็นเพื่อนทั้งสองแสดงความเป็นห่วงเขา“ฉินหมิง ฉันขอโทษ เป็นฉันเองที่ทำร้ายคุณ”หลินหว่านชิงพูดด้วยท่าทางรู้สึกผิด“ไม่เป็นไร ทั้งหมดเป็นความสมัครใจของผมเอง...”ฉินหมิงแสร้งทำเป็นฝืนยิ้มความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เขาเสียสละมากมายเพื่อหลินหว่านชิงอย่างเต็มใจ ไม่สามารถโทษผู้อื่นได้“คุณหนูใหญ่หลิน คุณมาหาผมมีธุระอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงประเด็น แม้แต่ชื่อน่ารัก ๆ ที่เขาใช้เรียกหลินหว่านชิงก็ได้เปลี่ยนไปแล้วในเมื่อตอนนี้เขาตัดใจจากหลินหว่านชิงแล้ว และกำลังจะหมั้นกับซูซินเหยา เขาควรขีดเส้นความสัมพันธ์ให้ชัดเจนกับหลินหว่านชิงและพยายามรักษาระยะห่าง นี่เป็นหน้าที่อย่างหนึ่งที่สมควรทำเมื่อได้ยินชื่อเรียกที่ไม่คุ้นเคยออกมาจากปากฉินหมิง หลินหว่านชิงก็รู้สึกเจ็บแปลบในใจแต่เธอรู้ว่าทั้งหมดน
ฉินหมิงเป็นคู่แข่งทางความรักที่ใหญ่ที่สุดของเขา ขอแค่ฉินหมิงและหลินหว่านชิงคืนดีกันไม่สำเร็จในครั้งนี้ เขาก็สามารถใช้โอกาสจากเรื่องนี้เข้าไปอยู่ในหัวใจของหลินหว่านชิงได้ง่ายขึ้น!แค่ได้คิดก็มีความสุขมาก!......คฤหาสน์ตระกูลซูแขนข้างหนึ่งของฉินหมิงถูกพันด้วยผ้าพันแผล เขานอนอยู่บนเตียงเพื่อพักฟื้นอยู่ในห้องเพราะเขากินยามังกรซ่อนไปหนึ่งเม็ดตอนอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลหลิน ตอนนี้เขาจึงอยู่ในระยะอ่อนแอ ร่างกายไร้เรี่ยวแรงข้างเตียงซูซินเหยาดูแลฉินหมิงอย่างดี ในมือถือชามยาบำรุงพลังร่างกาย เธอป้อนยาให้ฉินหมิงด้วยรอยยิ้มที่มีความสุขบนใบหน้าอันงดงามของเธอคนเราจะมีความสุขเมื่อได้อยู่กับคนที่เรารัก เธอรอคอยฉินหมิงมาเป็นเวลานาน ในที่สุดวันที่ยากลำบากผ่านพ้นไป วันที่หวานชื่นก็มาถึง ได้กลับมาอยู่ด้วยกันกับฉินหมิงสมใจปรารถนาใครก็ยากที่จะจินตนาการถึงความสุขในใจของเธอได้!หลังจากกลับมาจากคฤหาสน์ตระกูลหลิน ใบหน้าที่สวยงามของเธอก็ไม่เคยหยุดยิ้มได้เลย…ในขณะนี้ มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของตระกูลซูนายหนึ่งเดินเข้ามาจากด้านนอกอย่างรวดเร็ว“คุณหนูใหญ่ ข้างนอกมีผู้หญิงคนหนึ่
“สรุปก็คือหนูจะไปหาเขาตอนนี้และอธิบายเรื่องทุกอย่างให้ชัดเจน บางทีนี่อาจจะเอาชนะใจเขากลับมาได้!”หลินหว่านชิงพูดอย่างหนักแน่นพูดจบเธอก็หันหลังแล้วเดินออกไป“ไม่ได้ ลูกจะไปไม่ได้!”“เรื่องของฉินหมิงเป็นเรื่องอดีตไปแล้ว ลูกควรมองไปข้างหน้า ตอนนี้หลานเค่ออั๋งคือตัวเลือกที่ดีที่สุดของลูก!”หลินเถิงฮุ่ยหมุนรถเข็นของเขาและรีบไปหยุดหลินหว่านชิงไว้ในความเป็นจริง เหตุผลที่เขาห้ามหลินหว่านชิงก็เพราะว่าฉินหมิงกำลังจะหมั้นหมายกับซูซินเหยา และเนื่องจากเค่ออั๋งชอบหลินหว่านชิงมากแม้ว่าฉินหมิงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยม แต่ฉินหมิงก็เป็นเพียงเด็กกำพร้าที่ไร้อำนาจบารมี หากฉินหมิงจะเต็มใจที่จะกลับมาคืนดีกับหลินหว่านชิงจริง ๆ มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรเขาในการกลับไปสู่วงศ์ตระกูลแต่เค่ออั๋งนั้นแตกต่างออกไป หากหลินหว่านชิงยอมรับเค่ออั๋งด้วยพลังยุทธและรากฐานของตระกูลเค่อ การช่วยให้เขายึดอำนาจของตระกูลกลับคืนมาคงไม่ใช่เรื่องยากอย่างแน่นอน!“พ่อ ก่อนหน้านี้พ่อทำเพื่อประโยชน์ของตระกูล จึงเข้ามาก้าวก่ายเรื่องระหว่างหนูกับฉินหมิง อย่างไม่ลังเล และท้ายที่สุดหนูก็ทำร้ายฉินหมิงครั้งแล้วครั้งเล่า...”“ตอนนี้พ่
การให้ความช่วยเหลือในเวลาที่ต้องการเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุด ตอนนี้หลินหว่านชิงและพ่อของเธอกำลังประสบปัญหา จุดประสงค์ของการมาที่นี่คือการถือโอกาสแสดงความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าหลินหว่านชิงในตอนที่พวกเขาต้องการความช่วยเหลือมากที่สุด และหวังว่าจะได้รับความโปรดปรานจากเธอ!ข้อเท็จจริงได้พิสูจน์แล้วว่าเขามาทันเวลา เมื่อสักครู่นี้เขาเป็นพระเอกขี่ม้าขาวและช่วยหลินหว่านชิงให้รอดพ้นจากอันตราย ความประทับใจที่ไม่ดีต่อเขาในอดีตก็เปลี่ยนไปมากเช่นกัน“คุณอยากช่วยเราเหรอ?”หลินเถิงฮุ่ยรู้สึกประหลาดใจและตื่นเต้นตระกูลเค่อเป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองเจียงเฉิง ที่มีพลังยุทธและรากฐานที่ทรงพลังมาก หากเขาได้รับความช่วยเหลือจากเค่ออั๋งและตระกูลเค่อได้ มันจะเป็นเรื่องง่ายขึ้นมากสำหรับเขาและหลินหว่านชิงที่จะกลับคืนสู่ตระกูลหรือยึดอำนาจของตระกูลคืนมา!“ใช่แล้ว!”“ลุงหลิน ตราบเท่าที่คุณต้องการความช่วยเหลือจากผม ผมจะพยายามอย่างดีที่สุดและทำอย่างเต็มที่!”เค่ออั๋งพูดเสียงดังฉะฉาน“ดี เยี่ยมมาก!”“หลานเค่ออั๋ง หากคุณสามารถช่วยฉันกับหว่านชิงกลับคืนสู่ตระกูลหลินได้ เราสองพ่อลูกจะขอบคุณอย่างยิ่ง!”หลินเถิงฮ