เธอไม่รู้แล้วว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปดี“ได้ยินแล้วสินะ ยังไม่รีบไสหัวออกไปจากที่นี่อีก!”ฉินหมิงแค่นเสียงเหอะอย่างเย็นชา“ครับ ครับ…”ราวกับได้รับการนิรโทษกรรม รองประธานหลี่ก็ลุกขึ้นและคลานออกจากห้องส่วนตัวอย่างรวดเร็วทันทีที่เขาเดินออกจากห้องส่วนตัว เขาก็มองย้อนกลับไปที่ฉินหมิงและอีกสองคนในห้องส่วนตัว ในดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชังเมื่อคิดว่าตัวเองที่เป็นถึงรองประธานของกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป เขาบุคคลที่สำคัญของบริษัทต้องมาได้รับความอับอายและอัปยศอดสูแบบนี้!เขาก็ลอบสาบานในใจว่าเขาจะฆ่าฉินหมิงในภายหลังอย่างแน่นอน เอาคืนสิ่งที่เขาได้รับจากฉินหมิงเมื่อสักครู่นี้เป็นสิบเท่า!นอกจากนี้ ยังมีผู้หญิงสองคนนั่นอีก หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเขาจะเล่นกับพวกเธอให้หนำใจ ไม่อย่างนั้นคงไม่อาจขจัดความแค้นและเกลียดชังในใจของเขาไปได้!หลังจากที่แผ่นหลังของรองประธานหลี่หายไปจากห้อง่สวนตัว ในที่สุดหยางจิงก็ได้สติกลับมาอีกครั้ง“ฉินหมิง คุณทำได้ดีมาก!”“คุณกำลังคิดที่จะฆ่าเจียฮุ่ยกับฉันอยู่ใช่ไหมอัปยศอดสู”หยางจิงตบโต๊ะและเกือบจะระเบิดความโกรธของเธอออกมาแม้ว่ารองประธานหลี่จะเป็นคนผิดก่อนแ
“ฮัลโหล คุณฉิน มีธุระอะไรกับผมหรือเปล่าครับ?”หลังจากเชื่อมต่อสายแล้ว เสียงที่กระจ่างชัดของโจวเจี้ยนก็ดังขึ้นอย่างรวดเร็ว“พี่โจว ผมมีเรื่องที่อยากจะขอความช่วยเหลือจากคุณหน่อย…”ฉินหมิงอธิบายสถานการณ์โดยย่อ จากนั้นถึงระบุที่อยู่ของโรงแรมและหมายเลขห้องส่วนตัวให้โจวเจี้ยนทราบ“คุณฉิน ช่างบังเอิญมากจริง ๆ!”หลังจากฟังแล้ว โจวเจี้ยนก็หัวเราะ“บังเอิญอะไรเหรอ?”ฉินหมิงสับสน เขาไม่เข้าใจว่าทำไมโจวเจี้ยนถึงพูดแบบนี้“คุณฉิน ไม่ขอปิดบัง ตอนนี้ผมเองก็อยู่ที่ชั้นบนของโรงแรมนี้เหมือนกัน กำลังจัดงานเลี้ยงมื้อค่ำกับเพื่อนหลายคนในแวดวงของผม…”“รอเดี๋ยวนะครับ ผมรับประกันว่าจะไปปรากฏตัวต่อหน้าคุณภายในเวลาหนึ่งนาที!”โจวเจี้ยนอธิบายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็วางสายโทรศัพท์“นี่เป็นเรื่องที่บังเอิญมากจริง ๆ!”ฉินหมิงหัวเราะอย่างโง่เขลา เขาไม่คิดเลยว่าตอนนี้โจวเจี้ยนเองก็จะอยู่ที่นี่ด้วยเมื่อเห็นฉินหมิงวางสายโทรศัพท์ด้วยท่าทางผ่อนคลาย ราวกับเขารู้จักกับโจวเจี้ยนจริง ๆ หยางจิงก็ดูถูกเหยียดหยามเขามาก“เสแสร้งแกล้งทำ!”“ฉันจะรอดูว่าคุณจะใช้ลูกไม้อะไรได้อีก!”หยางจิงกอดอก ใบหน้าของเธอแสดงรอยยิ้
“สวัสดีค่ะคุณโจว”หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยรู้สึกประหม่าเล็กน้อยในสายตาของพวกเธอทั้งสองคน โจวเจี้ยนเป็นบุคคลระดับสูง ตอนนี้พวกเธอได้พูดคุยกับอีกฝ่ายอย่างใกล้ชิดเป็นครั้งแรก ทั้งคู่ย่อมรู้สึกกดดันและทำตัวไม่ถูกหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายทักทายกันเล็กน้อยแล้ว“คุณฉิน ที่คุณบอกว่ามีเรื่องอยากจะขอความช่วยเหลือจากผม เรื่องอะไรเหรอ?”โจวเจี้ยนถาม“เรื่องมันเป็นแบบนี้ ผมเพิ่งทำลายความร่วมมือระหว่างบริษัทคังกรุ๊ปและกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ป ดังนั้นเพื่อเป็นการชดเชยความเสียหายที่เกิดขึ้น ผมเลยต้องช่วยหาบริษัทใหม่เพื่อมาทำสัญญาร่วมมือกับบริษัทคังกรุ๊ปแทน แล้วผมก็เลือกโจวกรุ๊ปของพวกคุณ…”ฉินหมิงอธิบายสถานการณ์โดยย่อ“ได้สิ ไม่มีปัญหา!”โจวเจี้ยนพยักหน้าและตอบตกลงอย่างง่ายดายด้วยความสัมพันธ์ระหว่างฉินหมิงและตระกูลโจว มันเป็นไปไม่ได้ที่เขาจะปฏิเสธฉินหมิงเพราะเรื่องเล็กน้อยแบบนี้“นี่...โอเคจริง ๆ เหรอคะ แค่นี้ก็จบเรื่องแล้ว?”หยางจิงตกตะลึง เธอยังไม่อยากจะเชื่อหูและสายตาของเธอเองแต่ตอนนี้แม้ว่าเธอจะโง่สักแค่ไหน เธอก็รู้ชัดแล้วว่าฉินหมิงและโจวเจี้ยนนั้นมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมากทว่าปัญหาคือ
โจวเจี้ยนเพราะเห็นแก่หน้าของฉินหมิงถึงได้ตอบตกลงที่จะร่วมมือกับบริษัทคังกรุ๊ป!“ฉินหมิง ขอบคุณนะ…”หยางจิงยิ้มอย่างรู้สึกผิด ไม่กล้าที่จะสบตากับฉินหมิงก่อนที่รองประธานหลี่จะมาถึง ฉินหมิงเคยบอกเธอแล้วว่าเขาสามารถช่วยบริษัทคังกรุ๊ปให้เซ็นสัญญากับโจวกรุ๊ปได้แต่ในตอนนั้น เธอคิดว่าฉินหมิงกำลังคุยโม้อยู่จึงไม่ได้มีสีหน้าที่ดีให้กับฉินหมิงเลยจนกระทั่งตอนนี้เธอถึงเพิ่งตระหนักได้ว่าสิ่งที่ฉินหมิงพูดนั้นเป็นเรื่องจริงทั้งหมด!เธอประเมินฉินหมิงต่ำเกินไป!“ไม่ต้องขอบคุณ ตราบเท่าที่คุณไม่กล่าวโทษผมที่ทำลายความร่วมมือระหว่างบริษัทของคุณกับกลุ่มธุรกิจโอลการกรุ๊ปแค่นั้นก็พอแล้ว…”ฉินหมิงพูดด้วยรอยยิ้มล้อเลียนเล็กน้อย“ฉัน...ฉันจะไปรู้ได้ยังไงว่าคุณจะมีความสามารถมากขนาดนี้!”“สรุปก็คือ เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้ล้วนเป็นความผิดของฉันทั้งหมด คุณอยากจะช่วยฉันและเจียฮุ่ยด้วยเจตนาดี ฉันไม่ควรตั้งคำถามและดูถูกคุณ ฉันขอโทษค่ะ…”หยางจิงหน้าแดงและเอ่ยขอโทษฉินหมิงอย่างจริงใจถ้าเธอเชื่อฉินหมิงก่อนหน้านี้ เธอและหลี่เจียฮุ่ยคงไม่ต้องมาทุกข์ทนกับความต่ำช้าของรองประธานหลี่ และฉินหมิงก็คงจะไม่เกิ
แต่ในตอนนี้ หลังจากที่เธอเห็นว่าท่าทีของโจวเจี้ยนที่มีต่อฉินหมิงนั้นดูเหมือนจะเป็นฝ่ายที่ต่ำศักดิ์กว่าโดยสมบูรณ์ ในใจก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าเธอก็ลอบคาดเดาว่าบางทีโจวเจี้ยน อาจจะเป็นคนที่ค่อนข้างถ่อมตัวก็เป็นได้!เพราะนอกจากนี้ เธอก็ไม่สามารถคิดหาเหตุผลอื่นได้อีกแล้ว“ฉินหมิง ตอนนี้สัญญาก็เซ็นแล้ว เรากลับกันเถอะ”หลี่เจียฮุ่ยพูด“ไม่ต้องรีบ เมื่อกี้นี้พวกคุณเอาแต่คุยเรื่องงานยังไม่ได้กินข้าวเลย”“รอกินอะไรให้อิ่มท้องก่อนค่อยกลับไปก็ยังไม่สาย”ฉินหมิงยิ้มและพูด เขาเคยชินกับการใช้ชีวิตที่ประหยัดมาก่อน เมื่อมีอาหารมื้อหรูบนโต๊ะตรงหน้าเขาก็ไม่อยากจะทิ้งมันไปให้เสียเปล่า“อย่ากินจะดีกว่านะ!”“ฉินหมิง คุณไม่รู้อะไร รองประธานหลี่เป็นคนใจแคบและเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก คุณทำให้เขาได้รับบาดเจ็บ ฉันไม่คิดว่าเขาจะยอมปล่อยมันไปง่าย ๆ !”“ในความคิดของฉัน เราควรออกไปก่อนจะดีกว่า ไม่อย่างนั้นขืนคนพวกนั้นตามมาแก้แค้น คงได้เป็นปัญหาใหญ่แล้ว!”หยางจิงพูดอย่างรวดเร็ว“แก้แค้นเหรอ?”“ผมแค่กลัวว่าเขาจะไม่มีความกล้านั้น!”“ตราบเท่าที่เขากล้ามา ผมรับประกันได้เลยว่าเขาจะทำให้เขามาได้แต่กลับไปไม่ไ
"คุณ..."หยางจิงโกรธมากเธอไม่เข้าใจจริง ๆ ว่าฉินหมิงไปเอาความกล้ามากมายขนาดนี้มาจากไหน หรือฉินหมิงคิดว่าเขาโชคดีปีนขึ้นไปเกาะคุณชายใหญ่ของตระกูลโจวได้ทั้งเมืองเจียงเฉิงแห่งนี้ตัวเองก็ไร้เทียมทานแล้ว?หรือบางที ฉินหมิงแค่อยากจะพูดคุยกับคนตระกูลโอวด้วยเหตุผลจริง ๆ?นี่ไม่ใช่เรื่องตลกหรอกเหรอ!แกร็ก!ในขณะนี้เอง จู่ ๆ ประตูห้องส่วนตัวก็ถูกผลักเปิดออก ชายวัยกลางคนในวัยห้าสิบปีมีท่าทางดุร้ายก็เดินเข้ามาจากข้างนอกพร้อมกับบอดี้การ์ดสองคนในชุดสูทและรองเท้าหนังสีดำสนิทคงไม่ใช่ว่าเป็นรองประธานหลี่ที่พาคนของตระกูลโอวมาแก้แค้นแล้วหรอกนะ?หัวใจของหยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยเต้นผิดจังหวะ พวกเธอรีบหันหน้ามองไปที่ประตูพร้อมกันหลังจากเห็นรูปร่างหน้าตาของชายที่เดินเข้ามา พวกเธอทั้งสองคนก็จำได้แล้วรู้สึกสบายใจขึ้นที่แท้อีกฝ่ายก็ไม่ใช่รองประธานหลี่ แต่เป็นประธานบริษัทคังกรุ๊ป!“ประธานคัง คุณมาที่นี่ได้ยังไงกัน?”หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยดูมีความสุขมาก ทั้งคู่รีบลุกขึ้นและปรี่ขึ้นไปทักทายเขาอย่างรวดเร็วโดยเฉพาะอย่างยิ่งหยางจิง เธอเป็นบุคคลหลักที่รับผิดชอบในการเจรจาความร่วมมือครั้งนี้ ตอนนี้เธอได้ช่ว
"คุณ..."ดวงตาของหลี่เจียฮุ่ยเปลี่ยนเป็นสีแดงเล็กน้อยครั้งนี้เธอและหยางจิงได้รับสิทธิ์ความร่วมมือจากโจวกรุ๊ป แถมยังช่วยให้บริษัทประหยัดกำไรไปได้ 10% เห็นได้ชัดว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีมากแต่ประธานคังกลับไม่สอบถามพวกเธอสักคำ เข้ามาก็ตำหนิแล้วไล่เธอกับหยางจิงออกจากบริษัทสิ่งนี้ทำให้เธอทั้งรู้สึกน้อยใจและเสียใจเมื่อเทียบกับความคับข้องใจของหลี่เจียฮุ่ยแล้ว หยางจิงดูสงบกว่ามากเธอเกิดมาในตระกูลธรรมดา ๆ แม้ว่าตระกูลของเธอจะไม่ได้ร่ำรวยมาก แต่พ่อแม่ของเธอก็รักเธอมาก ไม่เคยที่จะลงไม้ลงมือตบตีเธอแม้สักครั้ง!แต่ตอนนี้ประธานคังที่เป็นเพียงเจ้านายของเธอ เขาไม่ใช่พ่อแม่ของเธอด้วยซ้ำ แต่กลับตบหน้าเธออย่างแรง!นี่สำหรับเธอแล้วนับว่าเป็นความอัปยศอดสูครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิต อย่างไรก็ตามการแสดงออกของเธอช่างดูสงบมากจนน่าประหลาดใจ“ประธานคัง ฉันเข้ามาทำงานในบริษัทนี้จะว่าไปก็เป็นเวลากว่าหกปีแล้ว หลายปีที่ผ่านมาฉันทำงานอย่างขันแข็งและเจรจาสัญญาติดต่อลูกค้าให้กับบริษัทเป็นจำนวนมาก แม้ว่าจะไม่มีผลงาน แต่อย่างน้อยก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าฉันทำเพื่อบริษัทไปเยอะมาก!”“แม้ว่าการหารือเรื่องความร่วมมือกับกับกลุ
“เยี่ยม นี่มันเยี่ยมมาก!!”ประธานคังดีใจแล้วหัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้น“ประธานคัง คุณพูดได้ถูกต้อง ฉันกับเจียฮุ่ยช่วยให้บริษัทได้ทำสัญญากับโจวกรุ๊ปแล้วจริง ๆ!”“แต่ว่าต้องขอโทษด้วย ตอนนี้เราทั้งคู่ถูกไล่ออกจากบริษัทคุณแล้ว!”“เพราะงั้น สัญญานี้ถือว่าเป็นโมฆะ!”หยางจิงยิ้มอย่างเย็นชา คว้าสัญญาออกมจากมือของประธานคังอย่างแรง!หลังจากที่หยางจิงยึดสัญญานี้กลับไป รอยยิ้มบนใบหน้าของประธานคังก็แข็งค้าง จากนั้นเขาถึงเพิ่งจำได้ว่าตัวเองเพิ่งไล่หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยออกจากบริษัท!หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยได้ช่วยให้บริษัทของพวกเขาได้รับความร่วมมือกับโจวกรุ๊ป ซึ่งพวกเธอสมควรจะได้รับความชื่นชมมากที่สุด!แต่สิ่งที่น่าหัวเราะก็คือ เมื่อสักครู่นี้เขาตบหยางจิงโดยไม่ถามอะไรสักคำ แถมยังไล่หยางจิงและหลี่เจียฮุ่ยออกจากบริษัท ไม่ให้โอกาสผู้หญิงทั้งสองได้อธิบายแม้แต่น้อย!นี่มันโง่เขลามาก!ชั่วขณะหนึ่ง เขารู้สึกเสียใจภายหลังจนลำไส้เขียวคล้ำไปหมดแล้ว“ประธานหยาง นี่เป็นเรื่องเข้าใจผิด เป็นฉันที่เข้าใจทั้งสองคนผิดไป…”“ตอนนี้ฉันขอคืนคำสั่งที่ไล่ทั้งสองคนออกจากบริษัท หวังว่าทั้งสองคนจะไม่ถือสาหาความกับฉั